EP.520 รีวิว แชปเตอร์ จุฬา-สามย่าน / Chapter Chula-Samyan คอนโด Freehold แต่งครบพร้อมอยู่ พร้อมส่วนกลาง 24 ชม.* ทำเลใกล้จุฬา และ MRT สามย่าน 1 ห้องนอน เริ่ม 5.59 ล้านบาท*
Writted by : Pure Thitapa
สวัสดี เพื่อน ๆ Condonayoo ทุกคนนะคะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ ‘Chapter จุฬา-สามย่าน‘ คอนโด Freehold แต่งครบพร้อมอยู่ จาก พฤกษา เรียลเอสเตท บนทำเลใจกลางกรุงเทพ ใกล้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตเมืองที่มีความทันสมัยและสนุกสนาน
โดยที่ตั้งของโครงการจะอยู่บนถนนสี่พระยา ที่เข้ามาจากแยกสามย่าน ประมาณ 600 ม.* และอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สามย่าน เพียง 700 ม.* 1 สถานี ถึง MRT สีลม ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับ BTS ศาลาแดง
รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้ห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้าชั้นนำ อย่าง Samyan Mitrtown, Silom Edge, One Bangkok, Siam Square, Siam Paragon, Central World ใกล้สถานศึกษาชั้นนำของไทย อย่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รร.สาธิตจุฬาฯ, รร.เตรียมอุดมศึกษา และมีโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ในระยะอุ่นใจ เข้าถึงได้ง่ายตลอด 24 ชม.
แชปเตอร์ จุฬา-สามย่าน เป็นคอนโด High-Rise สูง 31 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ประมาณ 1 ไร่กว่า พร้อมรับวิวกรุงเทพมหานครที่สวยแปลกตาไม่เหมือนใคร ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนห้องเพียง 179 ยูนิต มีระบบอาคารจอดรถอัตโนมัติ (Automatic Parking) 100 % มีห้องพักให้เลือก 3 Type หลัก ๆ ได้แก่ 1 Bedroom ขนาด 22.82-34.97 ตร.ม., 1 Bedroom Plus 44.27-49.33, ตร.ม. และ 2 Bedroom 50.24-72.74 ตร.ม.
สำหรับแนวคิดการออกแบบโครงการใช้ความโดดเด่นจากทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ระหว่างเมืองใหม่ย่านสยามสแควร์และย่านเมืองเก่าทำเลตลาดน้อย เจริญกรุง มาเป็นแรงบันดาลใจ จนออกมาเป็นคอนโดสไตล์ Modern Eccentric ที่หมายถึงความไม่ธรรมดา ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวทั้งกลิ่นอายความคลาสสิกและโทนสีสดใสสไตล์โมเดิร์น ปัจจุบันโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่
จัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางถึง 5 ชั้น ที่ชั้น 1-2 จะเป็น The Chapter Hall และ The Co-Working Edge บนชั้น 23-25 ประกอบด้วย The Garden Edge, The Fit Edge, The Urban Forest, The Private Deck และ The Blue Edge ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม.* จะกลับบ้านดึกแค่ไหนก็ยังใช้งานได้
มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยสุดพรีเมียม ทั้งระบบ Key Card Access, CCTV ตามจุดสำคัญทั้งโครงการ และเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย 24 ชม. | ราคาขายในปัจจุบัน 1 ห้องนอน เริ่มต้นที่ 5.59 ล้านบาท* (เม.ย. 67)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/3VHP5OT
สำหรับรายละเอียดของโครงการนี้ จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันต่อได้เลยค่ะ
| ชื่อโครงการ | แชปเตอร์ จุฬา-สามย่าน Chapter Chula-Samyan |
| เจ้าของโครงการ | บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท / Pruksa |
| เนื้อที่ทั้งหมด | 1-0-38.62 ไร่ |
| จำนวนตึก | 1 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 31 ชั้น |
| จำนวนห้อง | 179 ยูนิต |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด | Automatic Parking 63% |
| จำนวนลิฟต์ |
|
| โซน | เขตบางรัก |
| เส้นทางคมนาคม |
|
| ที่ตั้ง | ถนนสี่พระยา แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม. 10500 |
| กำหนดการ | – |
| ปีที่สร้างเสร็จ | คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
| ราคา | 1 ห้องนอน เริ่มต้นที่ 5.59 ล้านบาท* (เม.ย. 67) |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ประมาณ 160,000 บาท/ ตร.ม.* (เม.ย. 67) |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| Tel | 1739 |
| Line | https://bit.ly/44hY4be |
| Website | https://bit.ly/3VHP5OT |
คอนโด MRT สามย่าน
Sam Yan Station (BL27) | สายสีน้ำเงิน MRT Blue Line
ที่ตั้งโครงการ
ถนนสี่พระยา แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม. 10500
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/7tWG7dPn8wsJVf4a8
Chapter จุฬา-สามย่าน ไลฟ์สไตล์คอนโดระดับ Hi-end ของ พฤกษา เรียลเอสเตท ที่มี Character ที่แตกต่างอย่างชัดเจน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตเมืองที่มีความทันสมัยและสนุกสนานไปกับทุกกิจกรรมในย่านที่ตนเองอยู่อาศัย
บนทำเลศักยภาพใจกลางกรุงเทพฯ และอยู่บนศูนย์กลางย่านธุรกิจใหญ่ถึง 2 ทำเล ทั้ง จุฬา-สามย่าน และสีลม สำหรับที่ตั้งของโครงการจะอยู่บนถนนสี่พระยา ที่เชื่อมต่อกับถนนนเรศ ถนน One Way ที่ใช้เดินทางไปสุรวงศ์, สีลม และสาทรได้
สำหรับทำเลสามย่าน ถือเป็นหนึ่งในทำเลยอดนิยม เนื่องจากเป็นย่านที่มีการลงทุน Mega Project ขนาดใหญ่มากมาย ทั้ง Office Building, Mixed-Use Project และ Shopping Mall ต่าง ๆ และเป็นทำเลที่เดินทางไปไหนมาไหนได้ง่าย เพราะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้ง MRT สามย่าน และ BTS ศาลาแดง
ทั้งยังใกล้กับสถานศึกษาชั้นนำที่เก่าแก่ของประเทศไทย อย่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รร.สาธิตจุฬาฯ และ รร.เตรียมอุดมศึกษา รวมถึงอยู่ใกล้กับสวนลุมพินี ที่เป็นเสมือนปอดใจกลางเมือง สามารถเชื่อมต่อไปยังสวนเบญจกิติ ที่เป็นสวนแห่งใหม่ บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ ผ่าน Green Bridge ได้ด้วย
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ที่ตั้งโครงการจะอยู่ติดถนนสี่พระยา ก่อนถึงแยกนเรศ และห่างจากแยกสามย่าน ประมาณ 600 ม.* ภาพรวมถือว่าเดินทางได้สะดวกสบาย ถึงแม้ว่าถนนสี่พระยาบางส่วน จะเป็นถนน One Way และถนนรอบ ๆ อย่างเช่น ถนนนเรศ, ถนนสุรวงศ์ และถนนมหาเศรษฐ์ ก็จะเป็นถนน One Way ด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังสามารถเดินทางได้สะดวก เพราะถนนทุกสายจะเชื่อมต่อถึงกันได้ทั้งหมด
จากโครงการยังขับรถไปจุฬาฯ, สยาม, สีลม, สาทร ได้สะดวกมาก ถ้ารถไม่ติดก็ใช้เวลาไม่เกิน 10-15 นาที* และใครที่ทำงานอยู่บนเส้นสีลม วิ่งออกจากโครงการลัดเข้าถนนทรัพย์ เข้าถนนสุรวงศ์ ก็ผ่านเข้าสู่ถนนสีลมได้เลย หรือใครที่ทำงานอยู่ในโซนสาทร ก็สามารถใช้ถนนสุรวงศ์ ตัดเข้าถนนนราธิวาสฯ ตรงไปสาทรได้เลย ใกล้โครงการนิดเดียว
สำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปยังโซนอื่น ๆ ของกรุงเทพฯ ต้องการออกนอกเมือง หรือต้องการเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วน ก็จะจุดขึ้น-ลงทางด่วนใกล้ ๆ ในเวลาเพียง 3-10 นาที* ให้เลือกใช้ถึง 4 จุด ทั้งทางด่วนศรีรัช ด่านสะพานสว่าง, ทางด่วนศรีรัช ด่านสุรวงศ์, ทางด่วนศรีรัช ด่านหัวลำโพง และทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านพระราม 4 ค่ะ
ทางด่วนที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด จะเป็นทางด่วนศรีรัช ด่านสะพานสว่าง (ฝั่งมุ่งหน้าไปบางโคล่, บางนา-ดาวคะนอง) ระยะทางประมาณ 1.0 กม.* หรือขับรถไปใช้งานได้เพียงแค่ 3 นาที*
ถัดมาจะเป็นทางด่วนศรีรัช ด่านสุรวงศ์ ทางออกถนนสีลม ในระยะทางประมาณ 1.3-1.6 กม.* หรือใช้เวลาในการเดินทางราว ๆ 5-10 นาที*
ใกล้ทางด่วนศรีรัช ด่านหัวลำโพง / ทางออก ต.2-10 บนถนนพระราม 4 (สามย่าน-หัวลำโพง) ในระยะทางประมาณ 1.4-1.7 กม.* หรือใช้เวลาขับรถมาประมาณ 5-10 นาที*
สุดท้ายจะเป็นทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านพระราม 4 / ทางออก 6 และทางออก 7 ถนนพระราม 4 (คลองเตย-ลุมพินี) ในระยะทางประมาณ 3.4 กม.* หรือใช้เวลาขับรถราว ๆ 5-10 นาที เช่นกันค่ะ
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ : ตัวโครงการอยู่ห่างจาก MRT สามย่าน ประมาณ 700 ม.* ซึ่งอาจจะเกินระยะเดินสบายไปหน่อย โดยทางโครงการเค้ามี Shuttle Bus รับ-ส่ง และยังมี Application สำหรับเรียกรถไปรับส่งตามจุดต่าง ๆ รอบ ๆ โครงการให้บริการแก่ลูกบ้านด้วย ซึ่งถือว่าสะดวกมากทีเดียว
แต่ถ้าใครอยากเดินออกกำลังกายก็พอได้นะ เพราะทางเดินจากโครงการถึงรถไฟฟ้าจะมีฟุตบาทให้เดินตลอด และระหว่างทางก็มีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้ออยู่เป็นระยะ ๆ หลากหลายประเภทให้สามารถแวะทานได้
และจาก MRT สามย่าน นั่งไปสถานีเดียวถึง MRT สีลม ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ BTS ศาลาแดง ที่สามารถใช้เดินทางไปย่านสำคัญ ๆ ของกรุงเทพฯ ได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นสยาม, ชิดลม, สาทร, อโศก, พร้อมพงษ์, ทองหล่อ, เอกมัย หรือจะนั่งออกไปทางฝั่งห้าแยกลาดพร้าว-พหลโยธิน และตากสิน-บางหว้าก็สะดวกเช่นกัน
ส่วนตัวเลือกอื่น ๆ อย่าง Taxi และมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็สามารถเรียกจากหน้าโครงการได้เลยนะคะ มีรถวิ่งผ่านถี่ ๆ ตลอดทั้งวัน และถ้าจะนั่งรถเมล์ ก็เดินจากหน้าโครงการไปตรงด้านหน้ามิตรแท้ประกันภัย ประมาณ 50 ม.* จะมีป้ายรถเมล์ให้ใช้งาน หากจะใช้นั่งเข้าเมืองก็แค่ข้าทางม้าลายไปอีกฝั่งได้ค่ะ
โครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน ประตู 1 ประมาณ 700 ม.* ใช้เวลานั่งรถไปต่อรถไฟฟ้าได้ไวมาก ๆ แค่ 2 นาที* ส่วนใครอยากเดินออกกำลังกาย ก็จะใช้เวลาเดินราว ๆ 10 นาที* ค่ะ
โครงการอยู่ห่างจาก BTS ศาลาแดง / MRT สีลม ในระยะทางประมาณ 1.5 กม.* หากต้องการใช้ BTS แบบด่วน ๆ จะใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปส่งเลยก็ได้ หรือถ้าไม่รีบก็สามารถใช้ MRT สามย่าน นั่งไปเพียง 1 สถานี เพื่อเปลี่ยนเส้นทางค่ะ
นอกจากรถไฟฟ้าแล้ว ที่นี่ยังอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือข้ามฟากสี่พระยา ในระยะทางประมาณ 1.1 กม.* สามารถนั่งเรือข้ามไปเดินเล่นห้าง ICONSIAM หรือจะข้ามไปฝั่งคลองสาน เพื่อหาของกินอร่อย ๆ ก็ได้เหมือนกันค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่สำคัญรอบ ๆ โครงการ มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก เพราะเป็นโครงการที่อยู่บนทำเลใจกลางเมือง ใกล้ทั้งสามย่าน, บรรทัดทอง, สีลม, พระราม 4, สาทร และพญาไท โดยถนนสี่พระยา, ถนนนเรศ และถนนสุรวงศ์ จะเป็นถนนเก่าแก่ที่มีร้านค้า, ร้านอาหาร รวมถึงคาเฟ่ และอาคารสำนักงานตั้งอยู่เยอะมาก ๆ
ถัดออกไปบริเวณสามย่าน ตอนนี้ก็บูมสุด ๆ เพราะได้รับอานิสงค์มาจาก Samyan Mitrtown โครงการ Mixed-Use ขนาดใหญ่ ที่มีทั้งส่วนของห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร, Co-Working Space, อาคารสำนักงาน และโรงแรม เรียกได้ว่าจบครบในที่เดียว และยังอยู่ใกล้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รร.สาธิตจุฬาฯ และ รร.เตรียมอุดมศึกษา ซึ่งเป็นสถานศึกษาเก่าแก่ของไทย
ทำให้ย่านนี้จะถูกพัฒนาไปสู่ย่านที่มีหลากหลายไลฟ์สไตล์ผสมผสานความเป็นพื้นที่การศึกษา พื้นที่พาณิชย์ พื้นที่อาคารสำนักงาน พื้นที่อยู่อาศัย และพื้นที่ส่วนราชการ เข้าไว้ด้วยกัน จากความร่วมมือของ สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับบริษัทอสังหาฯ ชั้นนำอื่น ๆ
รวมไปถึงย่านสีลมที่กำลังจะมีโครงการ Mixed-Use ขนาดใหญ่ Park Silom ที่เป็น อาคาร Mixed-use สำนักงานและร้านค้าแห่งใหม่ ติดถนนสีลม, Dusit Central Park ที่ประกอบไปด้วยโรงแรม, อาคารที่พักอาศัย, อาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า มีพื้นที่อาคารรวมกันทั้งหมดประมาณ 403,000 ตร.ม. ภายใต้การบริหารของกลุ่มดุสิตธานีและเซ็นทรัล
ใกล้ Silom Edge ที่เป็นต้นแบบโครงการ Re-Development ที่นำอาคารเก่ามาแปลงเป็น Mixed-Use พันธุ์ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์แหวกแนว “The new sandbox community in CBD” ทำให้ที่นี่เป็นย่านที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงาน จึงทำให้มีคนอาศัยอยู่ในย่านนี้เยอะ
ทำให้โครงการ Chapter จุฬา-สามย่าน เป็นอีกหนึ่งคอนโดพร้อมอยู่ ที่จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่มีความพร้อม ในการซื้อเพื่อเก็งกำไร หรือเพื่อปล่อยเช่า เพราะเป็นทำเลที่ให้ความมั่นคงและมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นได้ในระยะยาวนั่นเองค่ะ
พูดถึงภาพรวมของทำเลกันไปแล้ว ทีนี้เราขอพูดถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างศูนย์การค้าที่อยู่ใกล้ ๆ กับโครงการในรัศมีไม่เกิน 4 กม.* กันบ้าง ต้องบอกเลยว่ามีให้เลือกครบทุก Segment ไม่ว่าจะเป็น Samyan Mitrtown, จามจุรีสแควร์ และ Central Silom Complex
ถัดออกไปรอบ ๆ ก็จะมี MBK Center, Robinson บางรัก, Siam Scape, Siam Square One, Siam Paragon, Gaysorn Village, Erawan Bangkok, Gaysorn Amarin, Siam Discovery, Siam Center, Stadium One
Central World, Central Embassy, Central Chidlom และ The PARQ ทุกที่สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปได้ง่าย ๆ หรือถ้าขับรถไปเอง ก็จะใช้เวลาประมาณ 5-20 นาที* แล้วแต่ช่วงจราจรค่ะ
นอกจากศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่แล้ว ด้วยทำเลที่อยู่ในย่านของแหล่งการศึกษา และอาคารสำนักงาน ทำให้รอบ ๆ โครงการยังอัดแน่นไปด้วย Lifestyle Mall, Community Mall, Co-Working Space และคาเฟ่บรรยากาศดี ๆ
เพื่อรองรับการใช้งานของกลุ่มนักเรียน, นักศึกษา และพนักงานออฟฟิศ เช่น Velaa Sindhorn Village, Block 28, The Commons ศาลาแดง, Baan Silom, I’m Park Chula, Dragon Town และ Suan Luang Square เป็นต้น
สำหรับสถานศึกษา เราคงทราบดีกันอยู่แล้วว่าย่านนี้อัดแน่นไปด้วยโรงเรียน, มหาวิทยาลัยชื่อดัง ที่เป็นสถานศึกษาเก่าแก่ของไทยอยู่เยอะมาก ๆ ใกล้สุดจะเป็น รร.ไทยคริสเตียนสะพานเหลือง, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รร.สาธิตจุฬาฯ ในระยะทางไม่เกิน 1 กม.*
ถัดออกไปในละแวกรอบ ๆ ในะระยะทาง 1-4 กม.* ก็จะมี รร.เตรียมอุดมศึกษา, รร.อัสสัมชัญ, รร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย, รร.อัสสัมชัญคอนแวนต์, รร.สตรีวัดมหาพฤฒารามฯ, รร.ไตรมิตรวิทยาลัย, รร.สาธิต มศว.ปทุมวัน, รร.เซนต์โยเซฟคอนเวนต์, รร.เซนต์หลุยส์ศึกษา, รร.เทพศิรินทร์, รร.สายปัญญาฯ และ ม.ราชมงคลกรุงเทพฯ
ทั้งยังมีโรงเรียนนานาชาติใกล้ ๆ ให้เลือกเยอะ เช่น St. Andrews International School Sathorn in Bangkok ในซอยสาทร 4, Siam Singapore International School บนถนนพญาไท และ Shrewsbury International School Bangkok บนถนนเจริญกรุง
จากโครงการยังอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ของรัฐบาล และโรงพยาบาลเอกชนที่มีมาตรฐานระดับสากลอีกหลายที่ ใกล้ที่สุดจะเป็นรพ.จุฬาลงกรณ์ และสถานเสาวภา สภากาชาดไทย และ รพ.กรุงเทพคริสเตียน
ถัดออกไปรอบ ๆ ในระยะไม่เกิน 3 กม.* ก็จะมี รพ.เลิดสิน, รพ.สมิติเวช ไชน่าทาวน์, รพ.เซนต์หลุยส์, รพ.บีเอ็นเอช, รพ.ตำรวจ, รพ.หัวเฉียว, รพ.ธนบุรีบำรุงเมือง, รพ.เมดพาร์ค และ รพ.มิชชั่น ที่นี่จึงค่อนข้างตอบโจทย์การอยู่อาศัยและใช้ชีวิตของกลุ่มบุคคลากรทางการแพทย์ระดับสูง รวมถึงกลุ่มคุณหมอ และพยาบาลได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์
สถานเอกอัครราชทูต
อาคารสำนักงาน CBD สาทร-สีลม และหน่วยงานอื่น ๆ
สวนสาธารณะ และศูนย์การเรียนรู้อื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ภาพประกอบการเดินทาง
พิกัด Google Maps : 13.731475, 100.523499
แยกสะพานเหลือง ⇒ ถนนพระราม 4 ⇒ แยกสามย่าน ⇒ ถนนสี่พระยา ⇒ Chapter จุฬา-สามย่าน
ภาพประกอบการเดินทาง เราจะเริ่มกันที่แยกสะพานเหลือง แยกนี้จะติดกับทางด่วนสะพานสว่าง ตัดเข้าสู่ถนนพระราม 4 มุ่งหน้าไปทางวัดหัวลำโพง
ผ่าน Block 28, ตลาดสามย่าน, I’m Park Chula, Dragon Town และสวนหลวงสแควร์ จากนั้นตรงไปแยกสามย่าน ไม่ต้องขึ้นสะพานไทย-ญี่ปุ่นนะคะ
ขับตรงแล้ว แล้วให้ชิดขวา อยู่เลนขวาสุดเพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าถนนสี่พระยา
เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนสี่พระยา
ตามทางไปเรื่อย ๆ ประมาณ 600 ม.*
ผ่านศูนย์รับสร้างบ้าน ซีคอนบางรัก
ผ่านแยกทรัพย์
พอเราเห็นอาคารมิตรแท้ประกันภัยแล้วให้ชิดซ้ายไว้นะคะ ทางเข้าโครงการจะอยู่ก่อนถึงแยกนเรศ
ถึงโครงการ Chapter จุฬา-สามย่าน ติดกับ Man Fu Lou Chinese Fine Dining
ด้านหน้าโครงการ Chapter จุฬา-สามย่าน ค่ะ
ภาพมุมสูงที่ดินโครงการ Chapter จุฬา-สามย่าน ตั้งอยู่ติดถนนสี่พระยา เข้ามาจากแยกสามย่าน ประมาณ 600 ม.* ที่ดินของโครงการขนาดประมาณ 1 ไร่กว่า โดยจะตั้งอยู่หัวมุม ตรงแยกนเรศ ซึ่งเป็นช่วงที่ถนนสี่พระยา ถูกเปลี่ยนเป็นถนน One Way บังคับเลี้ยวซ้ายไปถนนนเรศพอดีค่ะ
ส่วนบรรยากาศรอบ ๆ โครงการ จะมีความคึกคัก มีความอุดมสมบูรณ์สูง เพราะอยู่ใจกลางเมืองและใจกลางแหล่งชุมชนเก่าแก่ มีความเป็นเมืองใหม่และเมืองเก่าอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ใกล้ ๆ โครงการจะมีทั้งบ้านพักอาศัยดั้งเดิม, ตึกแถวร้านค้า-ร้านอาการ สลับกับคอนโด โรงแรม และอาคารสำนักงานต่าง ๆ ค่ะ
รอบโครงการ
มาเดินดูบรรยากาศรอบ ๆ โครงการกันบ้างนะคะ ปัจจุบันที่นี่เป็นคอนโดพร้อมอยู่ ใครที่สนใจสามารถเข้ามาชมห้องตัวอย่างและบรรยากาศจริงได้ทุกวัน ตั้งแต่ 9.00-18.00 น.
จากหน้าโครงการมองตรงออกมาจะเป็นถนนสี่พระยา ที่ยังเดินรถแบบ 2 เลนปกติอยู่ ทำให้ลูกบ้านที่นี่สะดวกทั้งการเข้า-ออกไปทางฝั่งแยกสามย่าน และถนนพระราม 4 แต่ถ้าหากต้องการไปโซนสีลม-สาทร ก็สามารถใช้ถนนนเรศ วิ่งไปสุรวงศ์เพื่อไปสีลม-สาทรได้ค่ะ
เดินขึ้นมาทางแยกสามย่าน ติดกับโครงการจะเป็นซอยรองเล็ก ๆ ที่เชื่อมตรงเข้าไปสู่ร้านอาหารจีน Man Fu Lou Chinese Fine Dining
ตรงข้ามกันจะเป็นตึกแถงเก่า ที่เปิดเป็นร้านอาหาร ร้านเสริมสวย และมี 7-Eleven ขนาดใหญ่ 3 ห้องเปิดอยู่ใกล้คอนโด สามารถเดินออกมาใช้งานได้สะดวกในระยเดินไม่เกิน 50 ม.*
ถัดมาจะเป็นธนาคารยูโอบี
ติดกับธนาคารยูโอบี จะเป็นอาคารมิตรแท้ประกันภัย
มองไปฝั่งตรงข้ามจะมีร้านข้าวราดแกงเปิดอยู่
จากโครงการเดินไปทางแยกนเรศ
ตรงขึ้นมาจะมีทางม้าลายใช้ข้ามไปฝั่งตรงข้ามได้
ข้ามถนนไปจะเจอกับ Amigo Tower
ด้านหน้าเป็นแยกนเรศ ที่ถูกบังคับเลี้ยวซ้ายไปถนนนเรศ เชื่อมสุรวงศ์ และใช้การเดินรถแบบ One Way
เลี้ยวซ้ายมาจะมีทางเท้ากว้าง ให้เดินใช้งานได้สะดวก เดินตรงขึ้นไปไม่ไกลจะเจอกับสำนักงานเขตบางรัก และ สน.บางรัก
ขวามือตรงข้ามกับโครงการ จะเป็นโรงแรม dusit D2 สามย่านค่ะ
ตัวโครงการ
Chapter จุฬา-สามย่าน เป็นไลฟ์สไตล์คอนโดระดับ Hi-end ของ พฤกษา เรียลเอสเตท ตัวอาคาร สูง 31 ชั้น บนที่ดินประมาณ 1 ไร่กว่า ๆ มีความเป็นส่วนตัวสูง โดยจะมียูนิตพักอาศัยทั้งโครงการ 179 ยูนิต และมียูนิตพักอาศัยต่อชั้นสูงสุดเพียง 11 ยูนิต และน้อยสุดที่ 3 ยูนิตต่อชั้น
โครงการนี้ออกแบบมาในสไตล์ Modern Eccentric ทั้งภายนอกและภายใน หน้าตาการออกแบบของตัวอาคารภายนอกจะมาในสไตล์เรียบ ๆ ใช้โทนสีขาวและสีเทาเข้ม แต่งผนังด้านตรงชั้นจอดรถด้วยหินอ่อนสีดำ-ขาว ดูเรียบ เท่ หรูหรา
และสไตล์ Modern Eccentric นี้จะเห็นชัดในส่วนของห้องพักแบบ “Interlock Function” ด้วย Layout มาแบบแปลกตา ไม่ค่อยมีโครงการไหนทำ แต่ยังคงใช้งานฟังก์ชันในห้องได้อย่างสะดวกสบาย
มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบให้ใช้งานได้มากขึ้น และเก็บของได้เยอะขึ้น ห้องจึงดูกว้างขวางและใช้งานได้อย่างเต็มที่ สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายกิจกรรม ตามความต้องการ
ส่วน Facilities ในโครงการ จัดให้เต็ม ๆ ถึง 5 ชั้น คือ ที่ชั้น 1-2 จะเป็น The Chapter Hall และ The Co-Working Edge และที่ชั้น 23-25 จะเป็น The Private Deck, The Blue Edge, The Fit Edge และ The Urban Forest ซึ่งเชื่อมต่อกันได้หมดทั้ง 3 ชั้น ด้วยบันไดของ The Urban Forest
โดยส่วนกลางของโครงการนี้เค้าจะเปิดให้ใช้งานได้ตลอด 24 ชม.* แต่จะยกเว้นสระว่ายน้ำ และ Stream & Sauna ที่จะเปิดให้บริการถึงเที่ยงคืนเท่านั้น ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยของลูกบ้านค่ะ
ภาพมุมสูงโครงการ จะเห็นว่าตัวที่ดินอยู่ติดแยกนเรศ ระหว่างถนนสี่พระยาและถนนนเรศ
ภาพมุมสูงรอบ ๆ ตัวอาคาร โดยตึกสูงใกล้เคียงยังถือว่ามีไม่เยอะ เมื่อเทียบกับทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองแบบนี้ ทำให้ห้องพักส่วนมากจะเทควิวเมืองได้กว้าง
พื้นที่ส่วนกลางเล่นระดับตั้งแต่ชั้น 23-25
ภาพมุมสูงบริเวณ The Urban Forest พร้อม Seating Area ซึ่งเชื่อมต่อกันได้หมดทั้ง 3 ชั้น ด้วยบันไดของ The Urban Forest
มาดูในสวนของแปลนโครงการกันบ้าง เริ่มที่ Master Plan จะมีทางเข้าออกติดถนนสี่พระยา เมื่อเข้ามาแล้วจะมีจุด Drop Off บริเวณหน้า Lobby ส่วนที่จอดรถจะเป็น Automatic Parking ที่ชั้น 3-6 และมีที่จอดรถรองรับที่ชั้น 1 อีกประมาณ 4-6 คัน รองรับ Visitor, EV Charger และรถในส่วนบริการอื่น ๆ รวมที่จอดรถประมาณ 63%
ส่วนอีกฝั่งของตัวอาคารจะเป็น The Garden Edge หรือสวนหย่อม ที่มี Seating Area และจัดพื้นที่สีเขียวมาให้อย่างร่มรื่น เพื่อทำบรรยากาศในโครงการให้ตัดกับความวุ่นวายภายนอกโครงการ เวลามองวิวจากใน Lobby ก็จะได้วิวเป็นต้นไม้เขียวชอุ่มในสวน นอกจากนั้นก็จะมีการจัดทางเดินภายในสวน พร้อมบ่อน้ำติดกับตัวอาคาร
ส่วนฟังก์ชันภายในตัวอาคาร ส่วนแรกจะเป็น The Chapter Hall หรือ Lobby ที่จัดพื้นที่นั่งพักผ่อนและพักคอยมาให้หลายชุด มีมุมนั่งหลายมุม ทั้งชุดโซฟาและเก้าอี้นั่งแบบเป็นส่วนตัว และมีบันไดเชื่อมขึ้นไป The Co-Working Edge บนชั้น 2
ติดกับ Lobby จะเป็นห้อง Laundry จัดเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า มาให้พร้อมใช้งาน ติดกันเป็น Mail Room & Smart Locker และจาก Mail Room จะมีประตูเชื่อมกับโถงลิฟต์ โดยจะมีลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้น 2 ตัว และ Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์โดยสารต่อยูนิตพักอาศัย 1 : 91 สามารถใช้งานได้สบาย ๆ
มาดูภาพบรรยากาศจริงกันต่อค่ะ เริ่มจากทางเข้า-ออก จะใช้งานได้เพียงทางเดียวจากถนนสี่พระยา ตรงเข้ามาจะเจอกับถนนในโครงการ ที่เชื่อมตรงไปยังที่จอดรถ Automatic Parking และ Drop-Off
ขวามือมีช่องจอด EV Charger ให้ 2 ช่อง
ผ่าน EV Charger เข้าไป จะเป็น The Garden Edge พร้อมทางเดินเล่นในสวน มีบ่อน้ำเพิ่มความรื่นรมย์ และยังมี Seating Area สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจจัดเตรียมไว้ให้ใต้จ้นไม้ใหญ่หลายที่นั่ง
ตรงต่อเข้ามาขวามือจะเจอช่องจอดรถ Automatic Parking มีให้ทั้งหมด 2 ช่องจอด รองรับรถยนต์ที่สูงไม่เกิน 1.85 ม. และจุดนี้จะมีพี่ รปภ. คอยอำนวยความสะดวกอยู่ตลอด 24 ชม. ค่ะ
ติดกับ Automatic Parking จะเป็น Drop-Off วนรับ-ส่ง และประตูทางเข้าสู่ภายในอาคารค่ะ
เข้ามาด้านในเราจะเจอกับ The Chapter Hall หรือ Lobby ของโครงการ พื้นที่บริเวณนี้ถูกตกแต่งออกมาในสไตล์ Modern Eccentric ใช้เฟอร์นิเจอร์ในโทนสีเข้ม ๆ ดูเรียบเท่ ให้บรรยากาศผ่อนคลายเหมือนอยู่ในคาเฟ่เก๋ ๆ และยังออกแบบให้เพดานมีความสูงแบบ Double Volume หลายจุด ทำให้ Connect พื้นที่ส่วนกลางชั้น 1 และชั้น 2 ไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว
ภายในมีโซฟารับรองจัดเตรียมไว้ให้หลายกลุ่มเลยนะคะ ใช้เป็นที่นั่งพักคอย นั่งรออาหาร หรือใช้เป็นพื้นที่ต้องรับแขกที่แวะมาหาที่คอนโดก็ได้ ส่วนใครที่อยากได้ Mood ที่ผ่อนคลายสบายตา ก็ขยับเข้าไปใช้โซฟาด้านในสุดได้ ตรงนั้นจะมองออกไปเห็นพื้นที่สีเขียวและบ่อน้ำตรง The Garden Edge ได้ด้วยค่ะ
สำหรับทางเข้าโถงลิฟต์ จะอยู่โซนด้านหน้า ใกล้ ๆ กับเคาน์เตอร์ Reception
เดินตรงเข้ามาซ้ายมือจะเป็น Mail Room
ด้านในจะมี Mailbox แยกยูนิตชัดเจน นอกจากนั้นยังมี Smart Locker เอาใจสายช้อปออนไลน์ เวลาที่มีพัสดุมาส่ง ทางนิติฯ จะแจ้งเตือนผ่าน E-mail แล้วให้เรามารับพัสดุได้เองตลอด 24 ชม.
ตรงข้ามเป็นประตูทางเข้าสู่โถงลิฟต์ โดยการเข้า-ออกจะต้องใช้ Key Card เพื่อความปลอดภัย
ภายในจะมีลิฟต์โดยสารให้ 2 ตัว เป็นลิฟต์แบบล็อกชั้น และมีลิฟต์ขนของให้อีก 1 ตัว ที่ด้านหลังบันไดหนีไฟ
ถัดมาอีกล็อกทางด้านใน จะเป็นห้องน้ำส่วนกลาง แยกห้องชาย-หญิง และพื้นที่ของ Laundry Room
เดินผ่านพื้นที่รับรองมาจนสุด The Chapter Hall จะเจอกับบันไดสี Copper ดีไซน์สวยทันสมัย ที่สามารถใช้เดินขึ้นไปยังพื้นที่ส่วนกลางบนชั้น 2 ได้
แปลนอาคารชั้น 2 จะเป็น The Co-Working Edge แบบเต็มชั้น ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็น Co-Working Space มีจัดเป็นทั้งมุมทำงานและพื้นที่นั่งพักผ่อน ทั้งโต๊ะทำงานตัวยาว, Meeting Room, Napping Pods, Game Zone, Home Theatre
และมี Co-Pantry ตรงกลางชั้น รองรับการจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ หรือใช้เป็นที่นั่งทานอาหารก็ได้ เพราะเค้าจะมีตู้กดเครื่องดื่มของเต่าบิน และตู้กด Snack แบบหยอดเหรียญจัดไว้ให้ โดยชั้น 1 และ 2 จะใช้งานได้ตลอด 24 ชม. รองรับคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันค่ะ
พอขึ้นมาที่ชั้นบน จะเจอกับประตู Key Card ทำให้ลูกบ้านหมดห่วงในเรื่องของความปลอดภัยได้เลย
เข้ามาด้านในจะเจอกับ The Co-Working Edge เต็มชั้น และสามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชม. โดยจะมีการจัดโซนสำหรับทำงาน และพักผ่อนให้หลายจุด
ซ้ายมือเป็นที่ตั้งของห้องนิติบุคคล
ขวามือจะเป็นพื้นที่นั่งทำงานขนาดใหญ่
โซนนี้จะจัดวางโต๊ะทำงานตัวยาว และโต๊ะพักผ่อนแบบกลุ่มไว้ให้หลายที่นั่ง สามารถลงมานั่งทำงาน คิด Project พร้อม ๆ กันกับเพื่อน ๆ ได้
ส่วนใครที่นั่งทำงานจนล้าสายตา หรืออยากจะนอนเล่นเงียบ มุมในสุดเค้าจะมี Napping Pods รองรับอยู่ 4 ช่อง
เชื่อมต่อมาตรงกลางของชั้น 2 จะเป็น Co-Pantry
ตรงเข้ามาจะเจอกับ Pantry และ Island สำหรับนั่งทานข้าว ทานของว่าง จัดปาร์ตี้เล็ก ๆ และยังมีตู้เต่าบินและตู้กดเครื่องดื่ม + Snack ของ True ให้บริการอยู่ด้วย
ต่อเนื่องมาจะเจอกับ Game Zone
บริเวณนี้จะมีโต๊ะโกล์ และโต๊ะพูลให้ลงมาเล่นคลายเครียดได้
ด้านหลังจะเป็นมุมสำหรับเล่นบอร์ดเกม โดยวางชุดโซฟาล้อมโต๊ะไว้ให้กลุ่มละ 6 ที่นั่ง
อีกฝั่งของชั้น 2 จะเป็น Meeting Room และ Home Theatre
Home Theatre ขนาดใหญ่ จัดเตรียมทีวี เครื่องเสียง และโซฟาขนาดใหญ่ สามารถนั่งดูหนังร่วมกันกับเพื่อนหลาย ๆ คนได้เลย
แปลนอาคารชั้น 7-9 เริ่มเป็นส่วนพักอาศัย จัดวางผังห้องพักแบบ Double Corridor ตัวอาคารไม่ใหญ่มาก จึงไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางจากโถงลิฟต์ถึงห้องพักเท่าไหร่ และห้องที่ดูมีความเป็นส่วนตัวที่สุด จะเป็นตำแหน่งแถว ๆ 03, 04, 11 เพราะจะมีคนเดินผ่านหน้าห้องเราน้อยมาก ส่วน 09 กับ 10 อาจจะมีเปิดออกมาเจอกันบ้าง ละชั้นนี้จะมียูนิตต่อชั้นที่ 11 ยูนิตค่ะ
แปลนอาคารชั้น 10-20 เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งชั้นเช่นกัน แต่จะมียูนิตพักอาศัยลดลง เหลือชั้นละ 10 ยูนิต มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยตำแหน่งห้องที่หายไปคือ 09 และ 10 ของชั้น 7-9 ก็ยุบรวมกันเป็นห้อง 2 Bedroom ค่ะ
แปลนอาคารชั้น 21 และ 22 จะวางผังห้องพักเหมือนกันเลยนะคะ แต่ที่ชั้น 21 จะพิเศษหน่อย คือมีสวนหย่อมในชั้นของตัวเองเลย ส่วนยูนิตพักอาศัยของ 2 ชั้นนี้ จะอยู่ที่ 8 ยูนิตต่อชั้นค่ะ
The Urban Forest หรือสวนพักผ่อนบนชั้น 21 ที่มีชุดโต๊ะสนามไว้นั่งเล่นพักผ่อน และชมวิวเมืองฝั่งสีลม-สาทรได้
แปลนอาคารชั้น 23 จะเป็นชั้นแรกของส่วนกลางชุดบน โดยชั้นนี้จะมี The Private Deck เป็นห้องพักผ่อนมองเห็นสวนวิว The Urban Forest ซึ่งสวนนี้จะมีงานตกแต่งและบันไดกระจกเชื่อมต่อขึ้นไปถึงชั้น 25 ได้เลยค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 23 ออกจากโถงลิฟต์มาจะเจอกับ The Private Deck ที่ออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับจัดปาร์ตี้ นั่งทำงาน พักผ่อน พร้อมชมวิวใจกลางกรุงเทพฯ ได้
ขวามือจะเป็นเหมือน Co-Kitchen ที่มี Pantry และ Island ไว้รองรับการจัดปาร์ตี้ หากต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถเลื่อนประตูกระจกบานเฟี้ยมมาปิดได้นะคะ
อีกฝั่งของห้องจะมีโต๊ะตัวยาวขนาด 6 ที่นั่ง รองรับการนั่งทานอาหาร เครื่องดื่ม นัดพูดคุยสังสรรค์กับเพื่อน ๆ หรือจะใช้นั่งทำงานก็ได้ ส่วนอีกด้านจะเป็นโซฟาพักผ่อน พร้อมปลั๊กไฟ มีให้ทั้งหมด 4 ช่อง ใช้งานได้เป็นส่วนตัวดี
ออกมาที่ด้านหลังจะมีโซฟารับรองขนาดใหญ่ให้อีก 1 จุด ค่ะ ตรงนี้สามารถใช้เป็นพื้นที่รับแขก รับรองญาติ ๆ กลุ่มใหญ่ได้สบาย ๆ เลย
ออกมาที่ด้านนอกจะเป็น The Urban Forest พื้นที่สวนแบบเปิดโล่ง เชื่อมต่อกัน 3 ชั้น จัดสวนมาในสไตล์ Tropical มีทั้งไม้พุ่ม ต้นไม้ใหญ่ และออกแบบให้ผนังและบันไดเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูโปร่ง หรูหรา และยังมีการเตรียม Seating Area ยื่นออกไปให้ในทุก ๆ ชั้นด้วยนะ
มุมมองที่ได้ก็จะเห็นวิวเมืองกว้าง ๆ ทางฝั่งพระราม 4 และสีลม
แปลนอาคารชั้น 24 ชั้นนี้จะเป็นที่ตั้งของ The Blue Edge เป็นสระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool ระบบเกลือ รูปตัว L แยกสระเด็ก ขนาด 16.4 x 16.9 ม. พร้อมห้องน้ำแยกชาย-หญิง ที่มี Sauna อยู่ที่ด้านใน ส่วนพื้นที่อีกฝั่งจะเป็นสวน The Urban Forest ไว้ออกไปนั่งเล่นรับลมชมวิวเมืองได้
ใช้บันไดจาก The Urban Forest ของชั้น 23 เดินขึ้นมาที่ชั้น 24 ได้
ขึ้นมาที่ชั้น 24 จะเจอกับห้องน้ำส่วนกลาง และโถงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยัง The Blue Edge
ห้องน้ำส่วนกลางแยกห้องน้ำชาย ห้องนำหญิงไว้ให้
ทั้งฝั่งห้องน้ำหญิงและชาย ด้านหน้าจะมีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ และ Smart Locker จัดเตรียมไว้ให้ รองรับการเก็บสัมภาระได้มากถึง 4 ตู้
เข้าไปด้านในจะมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และ Sauna ให้อย่างละ 1 ห้อง
ภายในห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำ ออกแบบให้เป็น Sexy Bath โดยใช้ผนังกระจกโค้ง มองเห็นวิวเมืองขณะใช้งานได้
นอกจากนั้นยังมีม้านั่งพักคอยตั้งอยู่ชิดผนังกระจกโค้งอีกมุมให้ด้วย
ฝั่งห้องน้ำชายได้ฟังก์ชันมาตรฐานมาครบเหมือนกัน
อีกด้านจะเป็นโถงเชื่อมต่อไปยัง The Blue Edge และ Pool Terrace ส่วนโถงขวามือจะเชื่อมต่อไปยังโถงลิฟต์โดยสารค่ะ
เดินมาตามทาง สังเกตด้านขวามือ จะเตรียม Rain Shower ไว้สำหรับล้างตัวก่อนลงสระอยู่ที่ด้านนี้
ตรงมาด้านในสุด จะเจอกับสระว่ายน้ำรูปตัว L ออกแบบให้เป็นสระในร่มและกลางแจ้ง ตัวสระล้อมอยู่รอบนอก ใช้งานไป ชมวิวเมืองไปได้ โดยขนาดของสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 16.4 x 16.9 ม. ลึก 1.2 ม.
ถัดมาจะเจอกับสระน้ำตื้น ที่มี Pool Terrace ไว้นั่งเล่นที่ด้านใน
รูปทรงของสระจะเป็นรูปตัว L ทำให้ว่ายน้ำได้รอบ จากภาพจะเป็นสระโซนกลางแจ้ง
นอกจากนั้นก็จะมีสระว่ายน้ำเด็กแยกออกมาให้ด้วย 1 สระค่ะ
ภาพมุมสูงบริเวณ The Blue Edge บนชั้น 24
แปลนอาคารชั้น 25 จะเป็น The Fit Edge หรือห้องฟิตเนสวิวเมืองรอบด้าน พร้อมอุปกรณ์ครบครัน และมีห้องน้ำรองรับแยกชาย-หญิง และเปลี่ยนฟังก์ชันห้อง Sauna มาเป็นห้อง Steam แทน และทางฝั่งสวน The Urban Forest ก็จะมีพื้นที่นั่งพักผ่อนชมวิวสวนด้านล่าง รวมถึงชมวิวเมืองได้เช่นเดียวกันค่ะ
ระหว่างทางขึ้นไปชั้น 25 ก็จะมี Seating Area ยื่นออกไปให้เหมือนเดิม
ขึ้นมาที่ชั้น 25 จะเจอกับทางเข้า The Fit Edge และห้องน้ำส่วนกลาง แยกห้องน้ำชาย-ห้องน้ำหญิงมาให้ โดยชั้นนี้จะได้ฟังก์ชันมาตรฐานมาเหมือนกันกับห้องน้ำชั้น 24 แต่จะเปลี่ยนจากห้อง Sauna มาเป็นห้อง Steam แทนค่ะ
เข้ามาภายใน The Fit Edge ส่วนแรกจะมี Pantry ให้แบบนี้ เวลาที่ออกกำลังกายเหนื่อย ๆ ก็สามารถมานั่งพักทานเครื่องดื่ม หรือทานอาหารว่างได้ค่ะ
The Fit Edge ขนาดใหญ่เปิดรับเมืองได้รอบด้าน และได้ฟีลเหมือนไป Fitness ในห้างเลย มีการแบ่งโซนออกกำลังกายมาให้ครบทั้ง Cardio และ Weight Training และเตรียมเครื่องออกกำลังกายที่ได้มาตรฐานมาให้หลายชิ้น
อีกด้านจะมีการแยกห้องสำหรับเล่น Yoga ไว้ให้ด้วยค่ะ
แปลนอาคารชั้น 26-27 เป็นชั้นสูงที่มียูนิตพักอาศัยน้อยมาก ๆ แล้วนะคะ โดย 2 ชั้นนี้ จะมีเพียง 4 ยูนิตต่อชั้น เท่านั้นเองค่ะ
แปลนอาคารชั้น 28-31 มียูนิตพักอาศัยน้อยที่สุดคือ 3 ยูนิตต่อชั้น โดยที่ชั้น 28 จะได้พื้นที่สวนภายในชั้นด้วยค่ะ
แบบห้องพัก
โครงการ Chapter จุฬา-สามย่าน ขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Furnished ฝ้าเพดานสูง 2.7 ม. โดยแบบห้องของโครงการจะมีให้เลือกหลัก ๆ 3 แบบ ดังนี้ค่ะ
แปลนห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 22.82-34.97 ตร.ม.
1 Bedroom B1 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 22.68 ตร.ม.
1 Bedroom B2 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 26.81 ตร.ม.
1 Bedroom B3 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 26.56 ตร.ม.
1 Bedroom B4 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 32.54 ตร.ม.
1 Bedroom B5 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 34.74 ตร.ม.
1 Bedroom B6 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 34.80 ตร.ม.
1 Bedroom B5 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 34.81 ตร.ม.
แปลนห้องพักแบบ 1 Bedroom Plus ขนาดเริ่มต้น 44.27-49.33 ตร.ม.
1 Bedroom Plus B8 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 44.05 ตร.ม.
1 Bedroom Plus B9 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 44.24 ตร.ม.
1 Bedroom Plus B10 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 47.96 ตร.ม.
1 Bedroom Plus B11 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 48.36 ตร.ม.
1 Bedroom Plus B12 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 46.10 ตร.ม.
1 Bedroom Plus B13 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 49.13 ตร.ม.
แปลนห้องพักแบบ 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 50.24-72.74 ตร.ม.
2 Bedroom C1 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 49.98 ตร.ม.
2 Bedroom C2 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 51.17 ตร.ม.
2 Bedroom C3 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 52.27 ตร.ม.
2 Bedroom C4 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 58.62 ตร.ม.
2 Bedroom C5 พื้นที่ใช้สอยประมาณ 72.30 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
วันนี้เรามีห้องตัวอย่างที่ยังเหลือขายอยู่มาให้ชมทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่
โครงการขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Furnished มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบให้ใช้งานได้มากขึ้น และเก็บของได้เยอะขึ้น และใช้วัสดุในห้องเกรดพรีเมียม ดีไซน์สวยงาม เข้ากับห้อง Type นั้น ๆ โดยสิ่งที่ลูกค้าจะได้มีดังต่อไปนี้ค่ะ
ห้องตัวอย่างห้องที่ 1
เริ่มกันที่ห้องแรก เป็นห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาดประมาณ 34 ตร.ม. ห้องนี้มีความพิเศษตรงที่วาง Layout ภายในมาแปลกใหม่ ไม่เหมือนคอนโดโครงการทั่วไป โดยฟังก์ชันนี้จะเรียกว่า “Interlock Function” โดดเด่นเรื่องประโยชน์ใช้สอย ขณะเดียวกันก็งดงามด้วยดีไซน์ที่แปลกตา แตกต่าง แต่ยังคงความสวยงาม
ส่วนแรกเป็น Common Area เปิดเข้ามาในห้องพักจะเจอกับ Foyer และตู้เก็บรองเท้า ถัดไปด้านในจะเป็นห้องครัวปิด และมุมทานอาหาร 2 ที่นั่ง ตั้งเข้ามุมไว้ด้านซ้ายมือ และขวามือจะเป็นห้องน้ำ ที่แบ่งส่วนแห้ง แยกส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อยค่ะ
จาก Common Area จะกั้นแยกประตูไม้บานเลื่อน และเชื่อมต่องเข้าสู่ Living Area ที่ด้านใน ภายในเป็นพื้นที่แบบห้าเหลี่ยม โดยจะรวมเตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะทำงาน, โซฟา สำหรับพักผ่อน และมีระเบียงตั้งอยู่ที่ข้างเตียง ชั้นสูงสามารถเทควิวเมืองได้กว้าง
ประตูห้องพักทุกยูนิต จะเป็นประตูไม้บานทึบสีเทา พร้อมกลอน Digital Door Lock ของ Hafele ที่สามารถใช้งานได้ทั้งหมด 3 ระบบ ได้แก่ กดรหัส, แตะ Key Card และไขกุญแจในกรณีถ่านหมด
เปิดประตูเข้ามาด้านในจะเจอกับ Common Area ได้ฝ้าเพดานสูง 2.7 ม. วัสดุปูพื้นเป็นไวนิล สี White Oak ปูลาย Herringbone ได้ความ Homey สวยงาม ทนทน และมีคุณสมบัติที่แข็งแรง มีความ Soft ทนน้ำ ทนปลวกได้ 100%
บริเวณทางเข้าห้องจะมีตู้เก็บของ Built-in มาให้ด้วย โดยจะแบ่งเป็นตู้ที่แบ่งเป็นชั้นสำหรับเก็บรองเท้า, ชั้นวางของตรงกลาง อาจจะเอาไว้วางกุญแจ หรือ Key Card จะได้ไม่ลืมตอนออกจากห้อง ส่วนตู้ด้านบนก็ไว้เก็บของเล็ก ๆ น้อย ๆ และตู้ยาวขวามือก็สามารถใช้เก็บพวกร่ม, ไม้กวาด, ไม้ถูพื้นได้
ชั้นวางของตรงกลางเป็นวัสดุ Solid Surface ลาย Terrazzo วางของใช้จุกจิก หรือของที่ต้องหยิบก่อนเข้า-ออกบ้านบ่อย ๆ ได้พอสมควร ใต้ชั้นด้านบนจะเป็นแม่เหล็ก ที่สามารถนำกุญแจไปติดไว้ได้เลย
ต่อเนื่องมาจะเป็นพื้นที่ส่วนครัว และมุมทานอาหาร โดยจะมีประตูไม้บานเลื่อนกั้นแยกส่วนระหว่าง Common Area และ Living Area ให้แบบนี้
ได้ชุดโต๊ะทานข้าว พร้อมเก้าอี้ 2 ที่นั่ง
มุมครัวจะตั้งอยู่ด้านในแบบนี้นะคะ ได้เคาน์เตอร์ครัว Built-in ครบเซ็ต ด้านหน้ามีพื้นที่เหลือให้วางตู้เย็น 6-8 คิว และยืนทำอาหาร ล้างจานได้สะดวกดี
วัสดุหน้าท็อปครัวเป็น Solid Surface ลาย Terrazzo และได้ Backsplash วัสดุกระจกเงา ทำให้เช็ดทำความสะอาดคราบสกปรกได้ง่าย พร้อมติดไฟ LED เพิ่มแสงสว่างในการใช้งาน
ได้เตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันของ Hafele
ซิงค์ล้างจานของ Mex และก๊อกน้ำทรงโค้งของ Teka ที่คอก๊อกจะเป็นซิลิโคนยืดหยุ่นได้ ทำให้บิด หมุนล้างจาน ล้างของใช้ต่าง ๆ ได้สะดวกมากขึ้น
หน้าท็อปมีพื้นที่เหลือให้เตรียมอาหาร วางเครื่องปรุง และของใช้ในครัวได้เยอะพอสมควร
ด้านล้างจะมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ พร้อมปลั๊กไฟที่ด้านใน ส่วนที่เหลือจะเป็นตู้เก็บของ, ลิ้นชักเก็บของ, ชั้นวางของ และถาดใส่ช้อน-ส้อม
ด้านบนจะได้ตู้เก็บของเข้ามุม พร้อมชั้นลอยที่ด้านในหลายชั้น ทำให้เก็บของใช้ได้เยอะและเป็นระเบียบ
ด้านหน้าวางตู้เย็น 6-8 คิวได้ โดยผนังด้านหลังจะมีปลั๊กไฟติดมาให้พร้อมต่อใช้งานค่ะ
มองกลับมาที่ด้านหน้าห้อง จะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำค่ะ
ห้องน้ำแบบตอนลึก ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนแผ่นใหญ่คุมโทนสีเทาและสีขาว มีการแบ่งส่วนแห้ง กั้นแยกส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์ที่ Custom-made By Rocca โดยใช้ Material ต่าง ๆ ในโทนสี Polished Black ให้ภาพรวมมีความเรียบเท่สวยงาม และมีตัวช่วยในการระบายอากาศเป็นพัดลมฝังฝ้า 1 ตัว ค่ะ
เคาน์เตอร์อ่างดีไซน์สวยหรู พร้อมอ่างทรงเหลี่ยมแบบฝังเคาน์เตอร์ ด้านล่างเป็นตู้เก็บของใช้ และโครงการนี้เค้าจะให้ Smart Mirror ที่สามารถเชื่อมต่อ Internet เปิดดูหนัง ดูซีรีส์ ฟังเพลงผ่าน Youtube ได้
ผนังข้างอ่างติดปลั๊กไฟกันน้ำให้ 1 จุด รอบ ๆ อ่างสามารถวางของใช้ได้อีกพอประมาณ
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชูครบเซ็ต
ด้านในสุดจะเป็นส่วนอาบน้ำ กั้น Shower Screen ประตูบานสวิงไว้ให้ โดยมือจับจะเป็นสแตนเลสรูปตัว C ที่สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ ภายในติดฝักบัว Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ ก๊อกน้ำก้านโยก และชั้นวางของเล็ก ๆ ให้ 1 ชิ้น
ในห้องน้ำจะมีตู้เก็บของ Built-in บานเปิด 2 ตู้ ที่หน้าบานจะใช้เป็นกระจกเงาเต็มบาน สามารถยืนส่องกระจกได้แบบเต็มตัว และกระจกเงาบานใหญ่แบบนี้จะช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างมากขึ้นด้วยค่ะ
ตู้เก็บของเค้าจะแยกไว้ 2 ตู้นะคะ ตู้แรกจะเชื่อมต่อกับตู้เสื้อผ้าในห้องนอน สามารถหยิบเสื้อผ้าใส่ในห้องน้ำได้เลย และอีกตู้จะมีชั้นลอยย่อย ๆ ให้ที่ด้านใน ทำให้เก็บของใช้ในห้องน้ำได้เยอะและเป็นระเบียบดีค่ะ
เข้าไปดู Living Area กันต่อค่ะ ภายในจะรวมห้องนอน และมุมนั่งเล่นพักผ่อนไว้ด้วยกัน และได้แอร์ Wall Type มา 1 เครื่อง
ส่วนแรกจะได้โต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้า Built-in
ตู้เสื้อผ้า Built-in แบบบานเปิดกระจกใส ภายในมีลิ้นชักเก็บของ ชั้นวางของ ราวแขวนผ้า พร้อมติดไฟ LED ให้ครบ โดยบานขวาจะเป็นตู้ที่เปิดเชื่อมกับห้องน้ำอีกฝั่งได้
ถัดมาเป็นมุมพักผ่อนชิดหน้าต่าง ได้โซฟาผ้าขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางเล่นระดับ 1 ตัว
ผนังตรงโซฟาและโต๊ะทำงานเป็นพื้นที่โล่ง เราสามารถติดทีวีแขวนผนัง หรือติดชั้นวางของแนวยาวซ้อน ๆ กันขึ้นไปได้ตามต้องการ
อีกฝั่งให้ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต และโต๊ะหัวเตียงด้านข้าง 1 ตัว รอบ ๆ ยังมีพื้นที่เหลือให้เดินเข้า-ออก ลุกขึ้น-ลงเตียงนอน และทำความสะอาดห้องได้ง่าย
ภายในห้องจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่จากหน้าต่างตรงมุมพักผ่อน ช่องแสงบานฟิกซ์ และประตูระเบียง ที่ใช้เป็นประตูบานสวิง บานกรอบสีดำ
ระเบียงปูพื้นกระเบื้องพอร์ชเลนสีเทาแผ่นใหญ่ให้เต็มพื้นที่ สามารถวางราวตากผ้าเล็ก ๆ หรือใช้เป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้กระถางสวย ๆ ก็ได้
จากห้องตัวอย่างมองออกมาได้วิวเมืองแบบนี้ค่ะ
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนอน จะเห็นว่าฝ้าเพดานมีการดรอปฝ้าซ่อนไฟให้บรรยากาศที่อบอุ่นไว้แบบนี้เลยนะคะ
ห้องตัวอย่างห้องที่ 2
ห้องที่ 2 จะเป็นแบบ 1 Bedroom Plus ขนาดประมาณ 44 ตร.ม. ออกแบบเป็นห้องตอนลึก และแบ่งพื้นที่ใช้งานภายในได้เป็นสัดส่วน เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องครัวเปิดและมุมทานอาหารขนาด 3 ที่นั่ง ตรงข้ามกันจะเป็นตู้เก็บของ ตู้เก็บรองเท้า และทางเข้าห้องน้ำ ที่เข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้งจาก Foyer ตรงนี้ และจากภายในห้องนอน
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนั่งเล่น ได้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานมาครบ ส่วนด้านในสุดนั้นจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ที่ตั้งอยู่ชิดริมหน้าต่างขนาดใหญ่ รองรับการทำเป็นห้องทำงาน ห้องนอนรอง หรือห้องแต่งตัวอีกห้องได้
อีกด้านของห้องพักจะเป็นห้องนอนหน้ากว้างขนาดใหญ่ แบ่งพื้นที่ของเตียงนอน และพื้นที่แต่งตัวไว้คนละฝั่ง ในห้องจะมีตู้เสื้อผ้าให้ 2 ฝั่ง เชื่อมตรงเข้าสู่ห้องน้ำได้สะดวกมาก ๆ มาพร้อมระเบียงส่วนตัวที่ด้านในห้องนอน ให้ออกไปนั่งเล่นพักผ่อนชมวิวเมืองแบบส่วนตัวในห้องได้
เปิดเข้ามาในห้องจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ที่รวมห้องครัว ห้องนั่งเล่นไว้ด้วยกัน ในห้องจะได้ฝ้าเพดานสูง 2.7 ม. วัสดุปูพื้นห้องเป็นไวนิลลาย Herringbone สี White Oak ได้เฟอร์นิเจอร์มาจัดเต็มทั้งห้อง พร้อมแอร์ 3 ตัว
ส่วนแรกเป็นห้องครัวเปิด ได้ชุดครัว Built-in พร้อมโต๊ะทานข้าว และเก้าอี้ 3 ตัว เข้าชุดกัน
ชุดครัวได้วัสดุเหมือนกันกับห้องก่อนหน้านี้ แต่ห้องนี้จะมีการเว้นพื้นที่วางตู้เย็นไว้อย่างชัดเจน และด้านหน้าจะมีพื้นที่ให้เรายืนล้างจาน ทำอาหาร และเลื่อนเก้าอี้ทานข้าวเข้า-ออกได้สะดวก
เคาน์เตอร์ครัวท็อป Solid Surface ลาย Terrazzo หน้าท็อปมีพื้นที่ใช้งานกว้างดีค่ะ วางของใช้ต่าง ๆ ในครัวได้เยอะมากขึ้น ผนังมี Backsplash วัสดุกระจกเงา ทำให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
ซิงค์ล้างจานของ Mex และก๊อกน้ำซิลิโคนยืดหยุ่นได้ของ Teka รอบซิงค์มีพื้นที่ให้วางน้ำยาล้างจานและฟองน้ำล้านจานได้พอดี ๆ
เตาไฟฟ้า 2 หัว, เครื่องดูดควันของ Hafele
ซ้ายมือเว้นพื้นที่ให้วางตู้เย็น 6-8 คิวได้ ผนังด้านหลังมีปลั๊กไฟติดมาให้พร้อมใช้งาน
มีตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านล่างให้หลายช่อง ทำให้เก็บของใช้ต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ
ตรงข้ามมุมครัวติดกับประตูห้องพักจะได้ตู้เก็บของด้านบน ตู้เก็บรองเท้าด้านล่าง และชั้นวางของตรงกลาง พร้อมไฟ LED
ถัดมาจะได้ตู้เก็บของ Built-in บานเปิดอีก 3 ตู้ ภายในมีชั้นลอยให้หลายชั้น เรียกว่าจุของใช้ต่าง ๆ ได้แบบจัดเต็ม ทั้งยังมีชั้นวางของปกติ ให้วางของใช้ที่ต้องหยิบบ่อย ๆ ได้ด้วยค่ะ
ตรงกลางจะเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำ
ห้องน้ำแบ่งส่วนแห้ง กั้นแยกส่วนอาบน้ำไว้อย่างชัดเจน ภายในตกแต่งกระเบื้องพื้นและผนังด้วยโทนสีเทาและสีขาว พร้อมใช้สุขภัณฑ์ Custom-made By Rocca และใช้ Material ต่าง ๆ ในโทนสี Polished Black เหมือนเดิมค่ะ
ได้เคาน์เตอร์ พร้อมอ่างล้างมือ Smart Mirror ปลั๊กไฟกันน้ำ และโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush By Rocca ตามเดิม แต่ Type นี้ จะเพิ่มในส่วนของ Low-Wall ด้านหลังสุขภัณฑ์เข้ามาค่ะ
ด้านในจะเป็นส่วนอาบน้ำ ที่กั้น Shower Screen มาให้เรียบร้อย ผนังด้านนอกข้าง ๆ โถสุขภัณฑ์มีการเจาะช่องทำชั้นวางของมาให้ 1 ชั้น และที่เพดานจะติดพัดลมระบายอากาศมาให้ 1 ตัว
ส่วนอาบน้ำได้พื้นที่ใช้งานมาขนาดกำลังพอดี
ด้านในติดตั้งฝักบัว Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ ก๊อกน้ำแบบก้านโยก และชั้นวางของมาให้ 1 ชิ้น
ถัดจากห้องครัวและห้องน้ำมา จะเป็นห้องนั่งเล่น
ห้องนั่งเล่นจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง 2 ระดับ 1 ตัว
ตรงข้ามกันได้เป็นตู้วางทีวี ผนังเป็นพื้นที่โล่ง สามารถติดทีวีจอใหญ่ที่ผนังเข้าไปแทนได้ งานระบบไฟฟ้าต่าง ๆ เตรียมไว้ให้พร้อมใช้งานค่ะ
ถัดไปจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ซึ่งเค้าจะกั้นแยกพื้นที่ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน แบบ Full Height ทำให้ห้องดูโปร่ง กว้าง และยังรับแสงสว่างได้เยอะด้วย
ภายในห้องอเนกประสงค์มีพื้นที่ขนาดกว้างกำลังดี โครงการจัดห้องนี้ให้เป็นห้องทำงานและมุมพักผ่อนอีก 1 โซน และจุดเด่นของห้องนี้คือจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ติดเข้ามุมมาให้ 2 ชุด ทำให้ห้องดูโปร่ง ใช้งานได้ไม่อึดอัด
ได้โซฟา Bed ขนาด 2 ที่นั่ง มา 1 ตัว สามารถดึงที่นอนด้านล่างออกมาทำเป็นห้องนอนแขกได้
ตรงข้ามกันจะได้โต๊ะทำงาน พร้อมตู้เก็บของมา 1 ตัว ข้าง ๆ กันมีพื้นที่เหลือให้วางต้นไม้ฟอกอากาศ ของตกแต่งบ้าน หรือวางชั้นวางของเพิ่มได้
ไปดูห้องนอนที่อยู่อีกฝั่งกันต่อค่ะ โดยส่วนนี้จะกั้นแยกโซนด้วยประตูบานทึบ มือจับก้านโยก
เข้ามาด้านในจะเจอเป็นห้องหน้ากว้าง แบ่งเตียงนอนไว้ด้านซ้าย และ Walk-in Closet ไว้ด้านขวา
ซ้ายมือจะได้ฐานเตียงนอน 5 ฟุต, โต๊ะหัวเตียง และตู้วางทีวีปลายเตียง
สำหรับตู้ปลายเตียงจะมีหน้าตู้ที่ค่อนข้างตื้น ถ้าหากอยากดูทีวีในห้องนอน แนะนำให้ติดทีวีแขวนไว้ที่ผนังจะใช้งานได้สะดวกมากกว่าค่ะ
ถัดออกไปเป็นระเบียงส่วนตัว กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ที่สามารถชมวิวเมืองจากด้านในห้องนอนได้
ระเบียงปูพื้นกระเบื้องให้เต็มพื้นที่ และได้พื้นที่มาค่อนข้างกว้าง สามารถวางชุดโต๊ะน้ำชา ปลูกต้นไม้ หรือใช้เป็นที่วางราวตากผ้าเล็ก ๆ ได้ค่ะ
จากระเบียงมองออกมาเห็นวิวเมืองฝั่งสีลม-สาทร
มองกลับเข้ามาในห้องนอน อีกฝั่งของห้องจะเป็น Walk-in Closet และห้องน้ำ
ด้านหน้ามีโต๊ะทำงานขนาด 1 ที่นั่ง ให้ 1 ตัว ค่ะ สามารถใช้นั่งทำงาน หรือจะปรับให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้
ถัดมาจะได้ตู้เสื้อผ้า Built-in มา 2 ฝั่ง และอยู่ใกล้กันกับห้องน้ำ ทำให้ใช้งานได้สะดวก อาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาแต่งตัวได้เลย
ตู้เสื้อผ้าที่ได้เป็นตู้กระจกใส พร้อมไฟ LED ที่ด้านใน ดูหรูหรา มองเห็นของใช้ภายในได้ชัดเจน นอกจากนั้นในตู้ยังมีฟังก์ชันมาให้ครบ ทั้งชั้นวางของ ลิ้นชักเก็บของ และราวแขวนเสื้อผ้าค่ะ
ราคา (เม.ย. 67)
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/3VHP5OT
*หมายเหตุ : ข้อมูลราคาและโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*
สรุป
⇒ ทำเลที่ตั้งโครงการ : Chapter จุฬา-สามย่าน ตั้งอยู่ติดถนนสี่พระยา ก่อนถึงแยกนเรศ ตัวทำเลอยู่ในเมืองใกล้แยกสามย่าน และ MRTสามย่าน ในระยะที่พอจะเดินถึงได้ 600 ม.* ซึ่งทำเลตรงนี้เหมาะสำหรับคนที่มองหาคอนโดสำหรับอยู่อาศัยหรือลงทุนปล่อยเช่าในเมือง
อาจจะเป็นผู้ปกครองที่มองหาคอนโดให้ลูกที่เข้ามาเรียน, บุคลากรของจุฬา, เตรียมอุดมฯ ซึ่ง Demand ของนักเรียนนักศึกษาในย่านนี้จะมีมาทุกปีค่ะ หรือคนที่ทำงานย่านสีลม, สาทร ก็เหมาะค่ะ เพราะแถวนี้เดินทางได้สะดวก ใช้เวลา 10-20 นาที* เข้าสีลม, สาทร ได้แล้ว
ส่วนอุดมสมบูรณ์ครบครันเพราะเป็นทำเลในเมือง ยิ่งเป็นสามย่าน ก็ขึ้นชื่อเรื่อง Street Foodอยู่แล้ว และยังใกล้ห้างใหญ่ ๆ หลายแห่งทั้งฝั่งสยาม และสีลม และยังใกล้โซนสถานศึกษาใหญ่อย่างจุฬาฯ และเตรียมอุดมฯ รวมถึงใกล้กับโรงเรียนเอกชนชื่อดังของไทย อย่างอัสสัมชัญ, เซนต์โยเซฟ, กรุงเทพคริสเตียน
และจากโครงการพอจะเดินไปจามจุรีสแควร์ และ Samyan Mitrtown ได้ รวมถึงใช้รถไฟฟ้าหรือขับรถไปเดินห้างใหญ่ทางฝั่งสยาม ชิดลมได้ใกล้ ๆ ด้วย ภาพรวมถือว่ามีความสะดวกสบายรอบด้าน อยู่อาศัยใช้ชีวิตได้ง่ายดีทีเดียวค่ะ
⇒ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : โครงการตั้งอยู่ติดถนนสี่พระยา ใกล้ถนนพระราม 4 ไม่ไกลจากแยกสามย่าน สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง เพราะถนนรอบ ๆ จะเชื่อมต่อกันแทบทั้งหมดค่ะ แต่จะมีถนนสุรวงศ์, ถนนมหาเศรษฐ์ รอบ ๆ ซึ่งเป็นถนนย่อยใกล้เคียงเป็นถนน One Way หรือวิ่งทางเดียวเลยต้องศึกษาก่อนเดินทางกันหน่อย ไม่อย่างนั้นวิ่งไปแล้วจะวนกลับมาที่เดิมได้
ข้อดีคือจากโครงการขับรถออกมาเลี้ยวขวาที่ถนนทรัพย์เข้าถนนสุรวงศ์ ผ่านเข้าถนนสีลมและสาทรได้เลย เรียกว่าใกล้และค่อนข้างสะดวกมาก และถ้าต้องใช้ทางด่วนก็มีทางด่วนศรีรัชและทางด่วนเฉลิมมหานครให้ใช้งาน ใช้เวลาขับไปถึงจุดขึ้น-ลงทางด่วนแค่ประมาณ 5-10 นาที* เท่านั้นเอง
⇒ การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าและรถสาธารณะ : สำหรับคนไม่ใช้รถ ตัวโครงการอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สามย่าน 700 ม.* มี Shuttle Bus รับส่ง สามารถใช้เดินทางไปจุดสำคัญอื่น ๆ ในกรุงเทพได้สะดวกและรวดเร็ว นั่งสถานีเดียวถึง MRT สีลม ที่เป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง ที่สามารถเดินทางไปยังแหล่ง CBD ต่าง ๆ ได้ง่าย ทั้งสยาม ชิดลม สาทร สีลม พร้อมพงษ์ ทองหล่อ
นอกจากนี้ก็ยังมี Application ที่สามารถเรียกรถมารับไปส่งตามจุดต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ได้ด้วย หรือถ้าวันไหนรีบแถวหน้าโครงการก็มีวินมอเตอร์ไซค์ และ Taxi ผ่านให้เห็นกันอยู่ตลอด ส่วนตัวเลือกอื่น ๆ อย่าง รถเมล์เข้าเมืองก็เดินจากหน้าโครงการไปประมาณ 50 ม.* จะมีป้ายรถเมล์ให้ใช้งานทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกเลยค่ะ
⇒ การออกแบบโครงการ, ห้องพักและวัสดุ : การออกแบบโครงการนี้เน้นสไตล์ที่แตกต่างและความเป็นคอนโด High Rise ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ยูนิตน้อย แต่ให้ส่วนกลางมาเยอะ นอกจากนั้นตัวห้องยังมีการดีไซน์ Layout แบบใหม่ที่ดูแปลกตาหน่อย คือใช้การวางผนังเฉียงทำให้แปลนห้องแบบแนวลึก ได้ความรู้สึกเหมือนห้องหน้ากว้างมากขึ้น แต่ห้องแบบนี้ก็มีอยู่ไม่กี่ยูนิต นอกนั้นจะเป็นแปลนปกติค่ะ
ตัวห้องขายแบบ Fully Furnished ได้ทุกอย่างตามที่เห็นในห้องตัวอย่างเลย ยกเว้นของตกแต่ง โดยวัสดุมาตรฐานมี Digital Door Lock ยี่ห้อ Hafele, พื้นปูไวนิล ลาย Herringbone พื้นห้องน้ำกระเบื้องพอร์ซเลนแผ่นใหญ่, ไฟ Downlight ทั้งห้อง
เคาน์เตอร์ครัวท็อป Solid Surface ลาย Terrazzo พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัว, เครื่องดูดควันของ Hafele / ซิงค์ล้างจานของ Mex และก๊อกน้ำซิลิโคนยืดหยุ่นได้ของ Teka / Backsplash วัสดุกระจกเงา ส่วนชุดสุขภัณฑ์ใช้ของ Roca ถือว่าเลือกสเปกวัสดุมาได้ดี ให้เฟอร์นิเจอร์ครบและมีสไตล์เหมาะกับตัวโครงการเลยค่ะ
⇒ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย : โครงการเป็นคอนโดให้ส่วนกลางมาครบครัน เทียบกับจำนวนยูนิตแล้วก็เหลือ ๆ แถมยังเปิดใช้งานได้ 24 ชม.* (ยกเว้นสระว่ายน้ำ เปิดถึงเที่ยงคืน) ส่วนการออกแบบส่วนกลางทั้งหมด จะค่อนข้างมีสไตล์เฉพาะตัว แต่เข้าถึงได้ง่ายอยู่
โดยส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1-2 ประกอบไปด้วย Lobby, Laundry Room, Mail Room, Smart Locker และ The Co-Working Edge และที่ชั้นสูง 23-25 ประกอบไปด้วย The Urban Forest สวน 3 ชั้น ตั้งแต่ 23-25
มี The Private Deck สำหรับจัดเลี้ยงสังสรรค์และพักผ่อน, The Blue Edge สระว่ายน้ำวิวฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและสาทร และ The Fit Edge ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่ เปิดรับวิวได้รอบด้าน และมีพื้นที่สวนชั้นล่างให้อีก 1 จุดค่ะ
ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว แบบล็อกชั้น และลิฟต์บริการ 1 ตัว ที่จอดรถ 63 % ที่ชั้น 3-6 ในรูปแบบ Automatic Parking ระบบรักษาความปลอดภัย เข้า-ออกส่วนกลางและโซนพักอาศัยผ่าน Key Card Access มีกล้อง CCTV ติดให้ทั่วทั้งโครงการ และ รปภ. 24 ชม.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1739
Line : https://bit.ly/44hY4be
Website : https://bit.ly/3VHP5OT
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น