EP.183 รีวิว คอนโด Ideo พระราม 9-อโศก ใกล้ MRT พระราม 9 และทางด่วนศรีรัช ราคาเริ่มต้นที่ 2.99 ล้านบาท

โพสโดย : pure | วันที่ : 11 June 2018
หมวดหมู่ : Ananda อนันดา, EP, คอนโด, คอนโด Ananda Development อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์, คอนโด กรุงเทพ, คอนโด ถนนพระราม 9, คอนโด เขตห้วยขวาง, คอนโดติดรถไฟฟ้า MRT, คอนโดใกล้รถไฟฟ้า MRT, รีวิว คอนโด

รีวิว คอนโด ไอดีโอ พระราม 9-อโศก Ideo Rama 9-Asoke

สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว CONDONAYOO ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมไปชมคอนโด IDEO พระราม 9 – อโศก ซึ่งเป็นคอนโด High rise จาก อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย พระรามเก้า ทู กันค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลทองใจกลาง NEW CBD บน ถ.พระรามเก้า แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม.

ใกล้ MRT สถานีพระราม 9 เพียง 450 เมตร เพียง 1 สถานี ถึง Airport Link สถานีมักกะสัน และใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนศรีรัช ลงจากทางด่วนซ้ายผ่านตลอดถึงตัวโครงการได้สะดวก

ไอดีโอ พระราม 9 – อโศก เป็น อาคารชุดพักอาศัย 1 อาคาร จำนวน 1,216 ยูนิต อาคารพาณิชย์ 2 อาคาร และทาวน์ วิลล่า 4 อาคาร มีห้อง 3 แบบหลัก ๆ คือ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedrooms แบ่งออกเป็นแบบ Simplex และ Hybrid ขนาดเริ่มต้นที่ 26.0 ตร.ม. กับแนวคิด “Live Work Play” ซึ่งโครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2565 ค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี อาทิ Lobby, Co-Working Space, Multi-Purpose Area, Playing Area, Social Club, Co-Living Area, Swimming Pool ยาว 40 เมตร, Fitness, Roof Garden, Jogging Track, ลิฟท์โดยสารระบบล็อคชั้น, Access Card Control, CCTV และ รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.99 ล้านบาท (เฉลี่ยเริ่มต้น 117,000 บาท/ตร.ม.) (2561)

ฟังคร่าวๆ ก็ดูน่าสนใจแล้วใช่มั้ยคะ เรามาตามอ่านรายละเอียดอื่นๆ ที่ด้านล่างนี้กันได้เลยค่ะ



ชื่อโครงการ ไอดีโอ พระราม 9-อโศก Ideo Rama 9-Asoke
เจ้าของโครงการ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย พระรามเก้า ทู จำกัด
เนื้อที่ทั้งหมด 5-2-70.60 ไร่
จำนวนตึก
  • อาคารพักอาศัย 1 อาคาร
  • อาคารชุดเพื่อการพาณิชย์ 2 อาคาร
  • อาคารชุดทาวน์ วิลล่า 4 อาคาร
จำนวนชั้น
  • อาคารพักอาศัย 36 ชั้น
  • อาคารชุดเพื่อการพาณิชย์ 2 ชั้น
  • อาคารชุดทาวน์ วิลล่า 4 ชั้น
จำนวนห้อง
  • อาคารพักอาศัย 1,216 ยูนิต
  • อาคารชุดเพื่อการพาณิชย์ 2 ยูนิต
  • อาคารชุดทาวน์ วิลล่า 4 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
  • สตูดิโอ ขนาด 25.50-26.50 ตร.ม.
  • สตูดิโอ เพดานสูง (Hybrid) ขนาด 25.50-26.50 ตร.ม.

  • 1 ห้องนอน ขนาด 31.00-38.50 ตร.ม.
  • 1 ห้องนอน เพดานสูง (Hybrid) ขนาด 31.00-38.50 ตร.ม.

  • 2 ห้องนอน ขนาด 52.00-90.50 ตร.ม.
  • 2 ห้องนอน เพดานสูง (Hybrid) ขนาด 52.00-90.50 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด 42% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
จำนวนลิฟต์
  • ลิฟต์โดยสาร 7 ตัว
  • ลิฟต์บริการ 1 ตัว
โซน เขตห้วยขวาง
ขนส่งสาธารณะ
  • รถไฟฟ้า MRT พระราม 9 450 เมตร
  • ใกล้ Airport Link มักกะสัน
  • ใกล้ทางพิเศษศรีรัช
รถโดยสารที่ผ่าน
  • รถเมล์สาย 74, 137, 168, 179, 517 และ 555
ที่ตั้ง ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม.
กำหนดการ เริ่มก่อสร้าง ประมาณ ต.ค. 2562
ปีที่สร้างเสร็จ คาดว่าแล้วเสร็จ ประมาณ ส.ค.. 2565
ราคา เริ่มต้น 2.99 ล้านบาท* (พ.ค.61)
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม เริ่มต้น ประมาณ 117,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน
  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
  • เงินกองทุน 500 บาท/ตร.ม./ชำระครั้งเดียว
สถานที่สำคัญใกล้เคียง :: โซนแยกพระราม 9 (ถนนรัชดาภิเษก) ::ห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงาน

  • Fortune Town : 450 ม.
  • เซ็นทรัลพระราม 9 : 450 ม.
  • Tesco Lotus Fortune Town : 750 ม.
  • ตลาดละลายทรัพย์รัชดา : 1.1 กม.
  • Show DC : 1.1 กม.
  • ตลาดนัดรถไฟรัชดา : 1.6 กม.
  • Esplanade Cineplex : 1.6 กม.
  • Big C Extra รัชดาภิเษก : 1.9 กม.
  • The Street รัชดา : 2.3 กม.
  • ตลาดห้วยขวาง : 3.4 กม.
  • ตลาดเมืองไทยภัทร : 4.4 กม.
  • Unilever : 100 ม.
  • อาคารชำนาญเพ็ญชาติ 250 ม.
  • The Nine Tower : 300 ม.
  • G Tower : 400 ม.
  • อาคารภคินท์ : 900 ม.
  • MCOT (อ.ส.ม.ท.) : 1.0 กม.
  • True Tower : 1.1 กม.
  • SET : 1.2 กม.
  • RS Tower : 1.7 กม.
  • AIA : 2.0 กม.
  • CW Tower : 2.9 กม.
  • อาคารไทยประกันชีวิต : 3.0 กม.

สถานศึกษา

  • รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ : 3.6 กม.
  • ร.ร.บางกอก ทวิวิทย์ : 3.6 กม.
  • รร.นานาชาติ KIS : 3.9 กม.
  • รร.นานาชาติ The Regent : 4.6 กม.

ศูนย์การแพทย์

  • รพ.พระราม 9 : 600 ม.
  • รพ.ปิยะเวช : 1.9 กม.
  • รพ.กรุงเทพ : 3.9 กม.

ศาสนสถานและอื่นๆ

  • สยามนิรมิต : 3.7 กม.
  • วัดพระราม 9 : 4.4 กม.
  • อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ : 4.9 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ

  • สถานทูตจีน : 1.1 กม.
  • การรถไฟฟ้า : 1.9 กม.
  • ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน : 2.3 กม.
  • ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย : 2.5 กม.
  • กระทรวงแรงงาน : 2.9 กม.
  • สถานทูตลาว : 4.1 กม.
  • สถานทูตกัมพูชา : 4.4 กม.
  • สนามกีฬากองทัพบก : 7.7 กม.

:: โซนแยกอโศก-เพชรบุรี (ถนนอโศกมนตรี) ::

ห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงาน

  • Terminal 21 : 3.1 กม.
  • GMM Tower : 1.6 กม.
  • Thai Summit Tower : 1.9 กม.
  • Sino-Tower : 2.0 กม.
  • OAI Tower : 2.2 กม.
  • ตลาดรวมทรัพย์ : 2.2 กม.
  • Mid Town Asoke : 2.3 กม.
  • ตลาดเพชรอโศก : 2.5 กม.
  • Interchange 21 Tower : 2.5 กม.
  • Shinsen Fish Market : 2.5 กม.

สถานศึกษา

  • วิทยาลัยเทคโนโลยี ดอนบอสโก : 1.4 กม.
  • ร.ร.เซนต์ดอมินิก : 1.4 กม.
  • ร.ร.นานาชาติ NIST. : 1.9 กม.
  • ร.ร.สาธิต มศว.ประสานมิตร : 2.0 กม.
  • มศว.ประสานมิตร : 2.0 กม.
  • ร.ร.วัฒนาวิทยาลัย : 2.7 กม.

ศูนย์การแพทย์

  • รพ.ผิวหนังอโศก : 800 ม.
  • รพ.จักษุ รัตนิน : 1.4 กม.
  • รพ.บำรุงราษฎร์ : 2.5 กม.
  • รพ.สมิติเวช สุขุมวิท : 4.3 กม.
  • รพ.คามิลเลียน : 4.7 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
  • ชั้น G
  • Lobby
  • Co-working Space
  • Conference Room
  • Garden
  • Multi-Purpose Area
  • Playing Area
  • Juristic
  • Parking

  • ชั้น 2-7
  • Parking

  • ชั้น 8
  • Residential
  • Garden

  • ชั้น 9-34
  • Residential

  • ชั้น 35-36
  • Swimming Pool ระบบเกลือ ความยาว 40 เมตร
  • Fitness
  • Social Club (Co-Working Space, Boxing Area)
  • Amphitheater
  • Boxing Zone
  • Co-Living Area

  • ชั้นดาดฟ้า
  • Roof Garden
จุดเด่นของโครงการ “Ideo พระราม 9-อโศก” คอนโดใหม่ บนทำเลศักยภาพย่าน NEW CBD เดินทางสะดวกสบาย เพียง 450 เมตร จาก MRT พระราม 9 ใกล้แยกพระราม 9 และ ทางพิเศษศรีรัช รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า และ อาคารสำนักงานขนาดใหญ่มากมาย






คอนโด MRT พระราม 9
Phra Ram 9 Station (BL19) | สายสีน้ำเงิน MRT Blue Line
ถนนพระราม 9 (แยกพระราม 9) หรือถนนอโศก-ดินแดง
ซอยรัชดาภิเษก 3 หรือซอยข้างสถานทูตจีน ถนนดินแดง-อโศก-พระราม 9

:::: ที่ตั้งโครงการ ::::

ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม.

พิกัด Google : 13°45’20.9″N 100°34’02.5″E

แผนที่จากทางโครงการ

ทำเลที่ตั้ง ตัวโครงการ IDEO พระราม 9 – อโศก ตั้งอยู่ติด ถ.พระราม 9 ระหว่างแยกพระราม 9 และแยก อสมท. โดยอยู่ฝั่งที่มุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 9 เพียง 250 เมตรเท่านั้น ทำเลนี้เป็นย่านที่อยู่อาศัย และเป็นทำเลทองที่กลายเป็น New Central Business District ติดถนนใหญ่จะเป็นอาคารสูง ทั้งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่, คอนโดมิเนียม, แหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ และแหล่งการศึกษา เชื่อมต่อ CBD ชั้นในอย่างอโศกได้สะดวก เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดเข้าสู่อโศก-ดินแดง เชื่อมสู่อโศกมนตรีเพียง 1.1 กม.เท่านั้นค่ะ

นอกจากจะเป็นทำเลที่เป็นศูนย์รวมของอาคารสำนักงานใหญ่แล้ว โครงการยังอยู่ตรงข้ามกับ เมกะโปรเจ็คอย่าง เดอะ แกรนด์ พระราม 9 และทำเลนี้ยังเป็นศูนย์รวมด้านการคมนาคมที่สำคัญของกรุงเทพฯ เพราะมีการเชื่อมต่อถนนสายหลัก ทั้ง เพชรบุรี, สุขุมวิท, ดินแดง, รัชดาภิเษก, วิภาวดี-รังสิต ฯลฯ รวมถึงเป็นจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ Airport Link อีกด้วย จากตัวโครงการสามารถเดินไปถึง MRT สถานีพระราม 9 ได้เลยนะคะ เพียง 450 เมตรเท่านั้นเอง

การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางเส้นหลักๆ จากโครงการต้องเป็น ถ.พระราม 9 แน่นอน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักอื่นๆ ได้ทั้ง รัชดาภิเษก, ดินแดง, อโศก-ดินแดง, เพชรบุรี, อโศกมนตรี, สุขุมวิท, วิภาวดี-รังสิต, พหลโยธิน, ลาดพร้าว, ประดิษฐ์มนูธรรม ฯลฯ ซึ่งแต่ละเส้นที่เชื่อมไปจะเป็นถนนขนาดใหญ่ วิ่งได้สะดวก แต่การจราจรนั้นก็ค่อนข้างจะหนาแน่นอยู่ตลอดเวลานะคะ เพราะตรงนี้เป็นชุดเชื่อมต่อระหว่าง NCBD กับ CBD ชั้นในค่ะ

ขาเข้าเมือง จาก ถ.พระราม 9 เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดที่แยกพระราม 9 ก็เข้าสู่ ถ.อโศก-ดินแดง แล้วค่ะ จะสามารถเชื่อมต่อไปยัง ถ.อโศกมนตรีเพียง 1.1 กม.เท่านั้น และยิงยาวเข้า ถ.สุขุมวิทได้เลยค่ะ และจาก ถ.อโศก-ดินแดง สามารถเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้า ถ.เพชรบุรี เชื่อมไปยังย่านแห่งการสังสรรค์สุดชิคอย่าง ทองหล่อ-เอกมัย ได้ง่ายด้วย

ส่วนขาออกนอกเมือง จากแยกพระราม 9 จะสามารถเชื่อมสู่ ถ.ดินแดง ต่อไปยัง พหลโยธิน, วิภาวดี-รังสิต, ลาดพร้าว หรือกลับรถที่แยกพระราม 9 ไปทาง ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม, รามคำแหง สามารถไปถึง ห้าแยกลาดพร้าว, ประชาชื่น หรือบางกะปิได้ไม่ยาก ซึ่งแต่ละเส้นที่เชื่อมไปจะเป็นถนนขนาดใหญ่ค่ะ วิ่งได้สะดวก

ทางด่วน โชคดีมากที่ตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางพิเศษศรีรัชถึง 2 ด่าน ทำให้การเดินทางสะดวกรวดเร็วมาก ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะอยู่ใจกลางเมืองในช่วงที่รถติดก็ตามที สำหรับจุดลงทางด่วนจากทางพิเศษศรีรัช ฝั่งขาไปชลบุรี (ตรงด่านอโศก 2) สามารถลงที่ ถ.เพชรอุทัย เข้า ถ.พระราม 9 ถึงตัวโครงการในเวลาเพียง 2 นาทีเท่านั้นค่ะ

จากทางพิเศษศรีรัช ฝั่งขาไปอนุสาวรีย์ชัย (ตรงด่านพระราม 9) สามารถลงที่ ถ.พระราม 9 ถึงตัวโครงการในเวลาเพียง 4 นาที

ส่วนจุดขึ้นทางด่วนฝั่งทางตะวันออกคือด่านอโศก 1 ซึ่งจากจุดนี้จะสามารถเชื่อมต่อไปยัง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางยกระดับอุตราภิมุข หรือ ดอนเมืองโทลล์เวย์ ไปได้ทั้งทาง ปากเกร็ด, รังสิต และ โซนพระราม 2 ได้สะดวก

และฝั่งตะวันตกคือด่านพระราม 9 สามารถเชื่อมต่อไปยัง ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์, ทางพิเศษบูรพาวิถี และ มอเตอร์เวย์ (กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่) ไปทางรามอินทรา, บางนา หรือวิ่งออกชลบุรี ได้สะดวกอีกเช่นกันค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของทำเลนี้ก็คือ มีความอุดมสมบูรณ์ที่สามารถรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้ชีวิต, แสงสีเสียง, แหล่งช้อปปิ้ง และอาหารการกิน ก็มีอยู่หลายรูปแบบให้เลือก เนื่องจากต้องคอยรองรับทั้งพนักงานออฟฟิศ, ผู้คนที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม, บ้านส่วนตัว และแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ในละแวกนั้น ซึ่งก็ต่างมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป

ใกล้แยกพระราม 9 ถือเป็น Prime Zone ของย่านนี้เลยค่ะ เพราะจะเป็นที่ตั้งของโรงแรม, ห้างใหญ่ และอาคารสำนักงาน เพราะเป็นย่าน NCBD ที่เชื่อมต่อกับ CBD ชั้นในอย่างอโศกและสุขุมวิท ไม่ว่าจะเป็น Fortune Town, เซ็นทรัลพระราม 9, RS Tower, AIA, SET, True Tower, อาคารไทยประกันชีวิต, สถานฑูตจีน ซึ่งในอนาคตจะมี เมกะโปรเจ็กท์ Bangkok Midtown อยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนนรัชดาภิเษก เชื่อมกันด้วย Sky Walk อยู่ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรม อีกทั้ง G Tower, The Nine Tower, Unilever ซึ่งในอนาคตจะมีเมกะโปรเจ็คท์ The Grand Rama IX เป็นโครงการมิกซ์ยูส Landmark สูงอันดับ 1 ในอาเซียนอีกด้วยค่ะ

มองบนเส้นรัชดาภิเษกก็มีห้างใหญ่ๆ อยู่หลายห้างแล้ว ทั้งแบบที่เป็น Life Style เฉพาะตัวอย่าง The Street ภายในมีร้านค้าที่เปิดตลอด 24 ชม. ข้างๆ กันมี Big C Extra เป็น Hypermarket เหมาะสำหรับซื้อของเข้าบ้าน ตรงข้ามกับ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมมี Esplanade และตลาดนัดรถไฟ อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยสถานบังเทิง และอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาล, สถานศึกษา อีกทั้งศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งอยู่ข้างๆ กันกับ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน รวมถึงวัดพระราม 9 เรียกว่าในทำเลเดียวครอบคลุมครบทุกด้านเลยค่ะ

The Grand Rama 9 เป็นเมกะโปรเจ็คท์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการ ที่จะทำให้ย่านพระราม 9 นี้กลายเป็น New CBD ของกทม.นั่นเองค่ะ โดยจะมีตึกที่สูงที่สุดในประเทศและในอาเซียนหรือ Super Tower อยู่ที่นี่ด้วย เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่มีทั้งอาคารสำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม และคอนโดมิเนียมสำหรับพักอาศัย ซึ่งตอนนี้ก็ได้เริ่มการก่อสร้างกันแล้ว

โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ 73 ไร่ มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 1.2 ล้าน ตารางเมตร ทำให้รองรับคนได้สูงถึง 2-3 แสนคนต่อวัน โดยมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 100,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วยรูปแบบโครงการต่างๆ ได้แก่ ที่พักอาศัย (เบ็ล แกรนด์ พระราม 9), อาคารสำนักงาน (จีแลนด์ ทาวเวอร์ – เดอะ ไนน์ ทาวเวอร์ส – สำนักงานใหญ่ของยูนิลิเวอร์), ศูนย์ประชุมและห้องจัดเลี้ยง, ช็อปปิ้งอาเขต (เซ็นทรัล พลาซ่า แกรนด์ พระราม 9 – เดอะ ช็อปปส์ แกรนด์ พระราม 9) และ โรงแรมหรู โดยจีแลนด์บริหารและพัฒนาโครงการต่างๆ ดังกล่าว จึงทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ จากนั้นจีแลนด์จึงนำเม็ดเงินส่วนนี้มาพัฒนาโครงการ The Super Tower ซึ่งจะกลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของประเทศไทย ที่เป็นทั้งศูนย์กลางธุรกิจชั้นนำและสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกที่ทุกคนจะต้องมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

และในอนาคตอันใกล้นี้ พื้นที่สีเขียวแปลงใหญ่บริเวณ แอร์พอร์ตลิงก์มักกะสัน 497 ไร่ กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เรียกว่าโครงการยักษ์ระดับประเทศที่เคยพับเอาไว้ได้ถูกรื้อกลับมาอีกครั้งกับโครงการ “มักกะสันคอมเพล็กซ์” ที่คราวนี้มาในเวอร์ชั่นของ คสช. (ซึ่งกลุ่มนายทุนมาริน่าเบย์แซนด์ที่ทำคาสิโนยักษ์ที่สิงคโปร์ก็อยากได้ที่ดินตรงนี้เช่นกัน อ่านรายละเอียดเพิ่มได้ ที่นี่ ), ขอบคุณภาพประกอบจาก Realist

โดยจะแบ่งที่ดินมักกะสันเป็น พิพิธภัณฑ์ 30 ไร่ สวนสาธารณะ 150 ไร่ พื้นที่ในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ 140 ไร่ ส่วนที่เหลืออีก 177 ไร่ จะมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในอนาคตนะคะ ก็คือยังไงฝั่งตรงข้ามนี่มีสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ และอาคารเชิงพาณิชย์มากมายแน่นอน ก็ถือว่าเป็นทำเลที่เหมาะจะเก็งกำไรในการขายและอยู่อาศัยเองที่มีศักยภาพและหาได้ยากทีเดียว เพราะที่ดินย่านนี้โดยรอบก็ถูกจับจองเกือบหมดแล้ว และราคาก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ เพราะในอนาคตจะมีสวนสาธารณะมักกะสันซึ่งมีความน่าจะเป็นว่าเป็นแลนด์มาร์คอีกจุดหนึ่งของกรุงเทพฯ ในอนาคตอยู่นั่นเอง โดยที่ดินมักกะสันติดแอร์พอร์ตลิงก์มักกะสันนี้อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 700 เมตรเท่านั้น

อีกจุดนึงติดแยกเพชรบุรี ห่างโครงการไปประมาณ 1.1 กม. จะมีโครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ (Singha Complex) ซึ่งเป็น Community Mall + Office Mix Use ขนาดยักษ์ที่มูลค่าลงทุนกว่า 10,000 ล้าน บาท ภายในประกอบด้วย อาคารสำนักงาน, พื้นที่คอนเสิร์ตฮอลล์, Shopping mall, โรงแรม และ คอนโดมิเนียมภายในตัว โครงการมีแผนจะสร้างเสร็จในอีกประมาณ 1-2 ปีต่อจากนี้ เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็จะเป็นแหล่งทำงานขนาดใหญ่อีกแหล่ง จากตัวโครงการไปก็ง่ายนิดเดียว

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ เนื่องจากทำเลนี้เป็นศูนย์รวมด้านการคมนาคมของกรุงเทพฯ มีการเชื่อมต่อถนนสายหลักหลายเส้น จึงทำให้มีรถสาธารณะหลายสายวิ่งผ่านตลอดทั้งวันเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ Airport Link จากภาพกราฟฟิคจะเห็นว่าโดยรอบทำเลนี้จะมีรถไฟฟ้าอีก 4 สายวิ่งผ่าน ทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วง มีนบุรี-ตลิ่งชัน, รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง ลาดพร้าว-สำโรง, รถไฟฟ้าสายสีเทา ช่วง วัชรพล- ทองหล่อ และ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ที่วิ่งขนานกับ Airport Link ช่วง บางซื่อ-หัวหมาก อีกด้วย

จากตัวโครงการที่ใกล้ที่สุดก็คือ MRT สถานีพระราม 9 ซึ่งนั่งไปเพียงสถานีเดียวก็ถึง Airport Link สถานีมักกะสัน และ 2 สถานีถึง MRT สุขุมวิท Interchange กับ BTS สถานีอโศก

นอกจากนี้บริเวณหน้าโครงการยังอยู่ใกล้กับป้ายรถเมล์และคิววินมอเตอร์ไซค์อีกด้วยนะ

จากตัวโครงการเราสามารถเดินไปยังสถานีพระราม 9 ด้วยระยะเดินเพียง 350 เมตรเท่านั้น ตรงนี้วัดจากบริเวณหน้าทางเข้าโครงการค่ะ ถ้าวัดจากบริเวณหน้าอาคารมาถึงสถานีก็คือ 450 เมตรพอดีๆ ที่ใกล้ที่สุดคือทางออก 3 ซึ่งอยู่ตรงหน้า G Tower ค่ะ ที่หน้าโครงการจะมีทางม้าลาย เป็นจุดที่ข้ามถนนได้ไม่ยากด้วย


:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้ทางทีมงานมีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ IDEO พระราม 9 – อโศก โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก

ทางพิเศษฉลองรัช > ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม > แยกประดิษฐ์มนูธรรม > ถ.พระราม 9 > แยกผังเมือง > แยกอสมท. > IDEO พระราม 9 – อโศก

เราเริ่มต้นการเดินทางจากทางพิเศษฉลองรัชค่ะ เป็นจุดลงทางด่วนอีกทางที่อยู่ใกล้กับตัวโครงการมากๆ นอกเหนือจากจุดขึ้น-ลงทางด่วนที่ได้กล่าวไปแล้ว ให้เรามุ่งหน้าไปทาง ถ.พระราม 9 นะ

เตรียมชิดซ้ายลงสู่ ถ.ประดิษฐ์มนูธรรมค่ะ

ลงสู่ ถ.ประดิษฐ์มนูธรรมค่ะ จริงๆ แล้วถ้าเราวิ่งต่อไปบนทางด่วน ทางพิเศษฉลองรัชจะเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัช เราสามารถลงตรงด่านพระราม 9 ก็ได้ จะเป็นจุดที่ใกล้กับโครงการมากกว่าเล็กน้อย ช่วงเลี่ยงการจราจรบางช่วงได้ แต่ต้องเสียค่าทางด่วนอีก 1 ต่อนะ

จากทางด่วนลงมาสู่ ถ.ประดิษฐ์มนูธรรมค่ะ จุดลงทางด่วนตรงนี้จะติดบ้างเป็นบางเวลา และเป็นบางช่วง ผ่านจุดนี้ไปได้ก็สบายแล้ว

ให้เราสังเกตป้าย ถ.พระราม 9 เอาไว้ค่ะ ทางไปโครงการต้องชิดขวานะ

ให้เราชิดขวาและเลี้ยวขวาเข้า ถ.พระราม 9 ที่แยกประดิษฐ์มนูธรรมได้เลยค่ะ

พอเลี้ยวขวามาแล้วเราจะเห็นสวนพรรณภิรมย์อยู่ทางซ้ายมือ

ให้เราขับตรงไปเรื่อยๆ ค่ะ ไปทางแยก อสมท. และ แยกผังเมือง

เราจะขับผ่านแยกผังเมืองก่อน

ผ่านแยกผังเมืองมา จะเห็นตลาดทรัพย์เจริญอยู่ทางฝั่งซ้ายมือค่ะ เป็นตลาดที่ขายทุกอย่าง ตั้งแต่อาหาร, เสื้อผ้าแฟชั่น ยันเฟอร์นิเจอร์

และผ่านแยก อสมท. ค่ะ

จากแยก อสมท.เพียง 260 เมตร เราก็จะถึงโครงการ IDEO พระราม 9 – อโศก แล้วค่า


สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ

  • แยกพระราม 9 : 250 ม.
  • แยก อสมท. : 260 ม.
  • ถนนอโศก-ดินแดง 280 ม.
  • ถนนดินแดง : 290 ม.
  • ถนนรัชดาภิเษก : 300 ม.
  • แยกอโศก-เพชรบุรี : 1.0 กม.
  • ถนนเพชรบุรี : 1.1 กม.
  • ถนนอโศกมนตรี : 1.1 กม.
  • แยกเทียมร่วมมิตร : 2.0 กม.
  • ถนนประดิษฐ์มนูธรรม : 3.5 กม.
  • ถนนพหลโยธิน : 4.7 กม.
  • ถนนวิภาวดี-รังสิต : 5.8 กม.

สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ

:: โซนแยกพระราม 9 (ถนนรัชดาภิเษก) ::

ห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงาน

  • Fortune Town : 450 ม.
  • เซ็นทรัลพระราม 9 : 450 ม.
  • Tesco Lotus Fortune Town : 750 ม.
  • ตลาดละลายทรัพย์รัชดา : 1.1 กม.
  • Show DC : 1.1 กม.
  • ตลาดนัดรถไฟรัชดา : 1.6 กม.
  • Esplanade Cineplex : 1.6 กม.
  • Big C Extra รัชดาภิเษก : 1.9 กม.
  • The Street รัชดา : 2.3 กม.
  • ตลาดห้วยขวาง : 3.4 กม.
  • ตลาดเมืองไทยภัทร : 4.4 กม.
  • Unilever : 100 ม.
  • อาคารชำนาญเพ็ญชาติ 250 ม.
  • The Nine Tower : 300 ม.
  • G Tower : 400 ม.
  • อาคารภคินท์ : 900 ม.
  • MCOT (อ.ส.ม.ท.) : 1.0 กม.
  • True Tower : 1.1 กม.
  • SET : 1.2 กม.
  • RS Tower : 1.7 กม.
  • AIA : 2.0 กม.
  • CW Tower : 2.9 กม.
  • อาคารไทยประกันชีวิต : 3.0 กม.

สถานศึกษา

  • รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ : 3.6 กม.
  • ร.ร.บางกอก ทวิวิทย์ : 3.6 กม.
  • รร.นานาชาติ KIS : 3.9 กม.
  • รร.นานาชาติ The Regent : 4.6 กม.

ศูนย์การแพทย์

  • รพ.พระราม 9 : 600 ม.
  • รพ.ปิยะเวช : 1.9 กม.
  • รพ.กรุงเทพ : 3.9 กม.

ศาสนสถานและอื่นๆ

  • สยามนิรมิต : 3.7 กม.
  • วัดพระราม 9 : 4.4 กม.
  • อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ : 4.9 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ

  • สถานทูตจีน : 1.1 กม.
  • การรถไฟฟ้า : 1.9 กม.
  • ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน : 2.3 กม.
  • ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย : 2.5 กม.
  • กระทรวงแรงงาน : 2.9 กม.
  • สถานทูตลาว : 4.1 กม.
  • สถานทูตกัมพูชา : 4.4 กม.
  • สนามกีฬากองทัพบก : 7.7 กม.

:: โซนแยกอโศก-เพชรบุรี (ถนนอโศกมนตรี) ::

ห้างสรรพสินค้าและอาคารสำนักงาน

  • Terminal 21 : 3.1 กม.
  • GMM Tower : 1.6 กม.
  • Thai Summit Tower : 1.9 กม.
  • Sino-Tower : 2.0 กม.
  • OAI Tower : 2.2 กม.
  • ตลาดรวมทรัพย์ : 2.2 กม.
  • Mid Town Asoke : 2.3 กม.
  • ตลาดเพชรอโศก : 2.5 กม.
  • Interchange 21 Tower : 2.5 กม.
  • Shinsen Fish Market : 2.5 กม.

สถานศึกษา

  • วิทยาลัยเทคโนโลยี ดอนบอสโก : 1.4 กม.
  • ร.ร.เซนต์ดอมินิก : 1.4 กม.
  • ร.ร.นานาชาติ NIST. : 1.9 กม.
  • ร.ร.สาธิต มศว.ประสานมิตร : 2.0 กม.
  • มศว.ประสานมิตร : 2.0 กม.
  • ร.ร.วัฒนาวิทยาลัย : 2.7 กม.

ศูนย์การแพทย์

  • รพ.ผิวหนังอโศก : 800 ม.
  • รพ.จักษุ รัตนิน : 1.4 กม.
  • รพ.บำรุงราษฎร์ : 2.5 กม.
  • รพ.สมิติเวช สุขุมวิท : 4.3 กม.
  • รพ.คามิลเลียน : 4.7 กม.

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

ที่ดินโครงการ IDEO พระราม 9 – อโศก อยู่ติด ถ.พระราม 9 ระหว่างแยกพระราม 9 และแยก อสมท. โดยโครงการจะอยู่ฝั่งมุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 9 ค่ะ โครงการล้อมรอบด้วย อาคารสูง ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม หรืออาคารสำนักงาน พอเข้าซอยลึกหน่อยก็จะเห็นบ้านพักอาศัยในแนวราบอยู่บ้าง ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ ถ.พระราม 9 ฝั่งตรงข้ามคือ คอนโด CRIX พระราม 9 และ Unilever House เลยไปหน่อยก็จะเห็น G Tower และที่ตั้งของ The Super Tower ค่ะ
  • ทิศใต้ ติดกับ ทางพิเศษศรีรัช
  • ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านพักอาศัยและอาคารพักอาศัย สูง 2-5 ชั้น
  • ทิศตะวันตก ติดกับ คอนโด Aspire พระราม 9, บ้านพักอาศัยและอาคารพักอาศัย สูง 2-5 ชั้น

วันนี้เราจะพาเดินสำรวจทำเลรอบๆ โครงการบนเส้นพระราม 9, แยกพระราม 9 และทำเลบนเส้นอโศกมนตรี CBD ชั้นในด้วยกันค่ะ

::: พระราม 9 :::

เริ่มจากทำเลบนเส้นพระราม 9 บริเวณหน้าโครงการกันค่ะ จะมีทางม้าลายอยู่ข้างหน้า สามารถเดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามได้สะดวกค่ะ

มองไปที่ฝั่งตรงข้ามก็คือคอนโด CRIX พระราม 9 ที่กำลังจะขึ้นเร็วๆ นี้

เดินไปทางฝั่งขวามือ มุ่งไปทางแยก อสมท.

ที่ดินติดถนนที่ติดกับตัวโครงการเป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

เดินเลยไปหน่อยมีปั๊มแก๊ส LPG ค่ะ

จากปั๊มเดินไปอีกหน่อยมีคอนโด PG พระราม 9 ที่เกิดมาก่อนแล้ว 10 ปี

ข้างๆ กันเป็นอาคารพาณิชย์ค่ะ ขายชุดเครื่องนอนของ Hilding และ Slumberland

จากตัวโครงการเดินไปเพียง 260 เมตรก็จะถึงแยก อสมท. แล้วค่ะ มีทางม้าลายสามารถเดินข้ามได้สะดวก

กลับมาที่หน้าตัวโครงการ คราวนี้เราจะเดินมุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 9 กันบ้าง

ที่ดินติดถนนที่ติดกับตัวโครงการเป็นร้านตัดผมชาย Barber Kop

และคอนโด Aspire พระราม 9

เดินเลยไปหน่อยมีปั๊มน้ำมัน ปตท.ค่ะ

มองไปที่ฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่ตั้งของโครงการ The Grand Rama 9

ซึ่งเป็นที่ตั้งของ The Super Tower, Unilever House, The 9th Towers, Belle Condominium, G Tower รวมถึงร้านค้าและร้านอาหาร

Unilever House

และ G Tower ค่ะ

เราเดินเลยไปอีกหน่อย จะเจอคอนโด Lette Midst พระราม 9

ข้างๆ กันนั้นเองคือคอนโด IDEO Mobi พระราม 9 คอนโดรุ่นพี่ที่เกิดมาก่อน

ใต้คอนโดมี Max Value และ Cafe Amazon ที่กำลังจะมาเปิดเร็วๆ นี้

จากหน้าโครงการเดินมาเพียง 250 เมตร ก็จะถึงแยกพระราม 9 แล้ว

ตรงแยกจะมีทางม้าลายสามารถเดินข้ามไปยังฝั่งรัชดาภิเษกได้

ถ้าเราเลี้ยวซ้ายก็จะสามารถเข้าสู่เส้นอโศก-ดินแดง ตรงเข้าเส้นอโศกมนตรีได้ในระยะเพียง 1.1 กม.เท่านั้นค่ะ

::: แยกพระราม 9 :::

ตอนนี้เราข้ามทางม้าลายมาที่เส้นรัชดาภิเษก เป็นฝั่งที่มุ่งหน้าไปทางอโศกนะคะ

ที่ฝั่งตรงข้ามกับเราก็คือโรงแรม Grand Mecure และ Fortune Town

ซึ่งจุดที่เรายืนอยู่ก็คือหน้าทางออก 3 ของ MRT สถานีพระราม 9 ซึ่งอยู่ตรงหน้าอาคาร G Tower พอดี จากโครงการเดินมาเพียง 450 เมตรเท่านั้น

จุดนี้เป็นจุดที่มีป้ายรถเมล์ที่มีคิววินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่จอดรออยู่

ติดกับ G Tower ก็คือเซ็นทรัลพระราม 9 แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ของย่านนี้

บริเวณหน้าเซ็นทรัลพระราม 9 ก็จะมีทางออก 2 ของ MRT สถานีพระราม 9 อีก 1 จุดในระยะใกล้ๆ กันเลยค่ะ

::: อโศกมนตรี :::

จาก MRT สถานีพระราม 9 เรานั่งรถไฟฟ้ามาเพียง 1 สถานีก็ถึงสถานีเพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ Airport Link สถานีมักกะสันค่ะ

โดยให้เราออกที่ทางออก 1 นะ

จะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยัง Airport Link สถานีมักกะสันค่ะ

เห็นทางเดินเชื่อมไหมคะ จะขึ้นไปถึงที่ตัวสถานีเลย สะดวกมากๆ

จากสถานีเพชรบุรีทางออก 1 มองไปทางฝั่งแยกอโศก-เพชรบุรี เดี๋ยวเราจะเดินข้ามไปที่ฝั่งอโศกมนตรี ฝั่งมุ่งไปทางสุขุมวิทกัน หรือที่สถานีเพชรบุรีทางออก 2 นั่นเอง

เราข้ามมาที่ฝั่ง ถ.อโศกมนตรีกันแล้วนะ

มองไปที่ฝั่งตรงข้ามเราจะเห็น Singha Complex ที่เราได้กล่าวกันไปข้างต้นว่าเป็น Community Mall + Office Mix Use ที่มี อาคารสำนักงาน, พื้นที่คอนเสิร์ตฮอลล์, Shopping mall, โรงแรม และ คอนโดมิเนียมภายในตัว จะสร้างเสร็จภายใน 1-2 ปีนี้แล้ว จากตัวโครงการมาก็ง่ายมากๆ

ตอนนี้เราเดินมุ่งหน้าไปทางเส้นสุขุมวิท เพื่อสำรวจทำเลย่านอโศกพร้อมๆ กันเลย

จากสถานีเพชรบุรี เดินมาไม่ไกลจะถึงคอสะพานข้ามคลองแสนแสบ จะเป็นจุดที่มีคิววินมอเตอร์ไซค์อยู่ประจำการถึง 3 ทุ่ม และท่าเรืออโศกสำหรับคนที่ชอบเดินทางทางน้ำค่ะ

ถ้าการเดินทางบนถนนจะติดนัก เราสามารถหนีลงมาเดินทางทางน้ำได้นะ เป็นอีก 1 ทางเลือกที่ช่วยให้ประหยัดเวลาในชั่วโมงเร่งด่วนได้เป็นอย่างดี อัตราค่าโดยสารก็ถูกแสนถูกประมาณ 10-20 บาท ให้บริการทุกวัน 5:30-20:30 น. ส่วนวันหยุดสุดสัปดาห์ให้บริการถึง 19:00 น.

ขึ้นมาบนสะพานข้ามคลองแสบแสบ เดินมุ่งหน้าไปทางสุขุมวิทกันต่อ

ลงมาจากสะพานเราจะเห็นเวิ้งร้านอาหาร มีหลายอย่างให้เลือกในนี้เลย ทั้งอาหารเกาหลี, ร้านขนมปังเว้ยเฮ้ย ที่มีรสชาติอร่อยในราคาย่อมเยา, ร้านกาแฟ และ ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น

เดินเลยไปหน่อยจะเจอ 253 Asoke เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าค่ะ

มองไปที่ฝั่งตรงข้ามก็คือ รพ.จักษุรัตนิน

ย่านนี้มีความคึกคักตลอดทั้งเส้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า, ร้านอาหาร, สถาบันเสริมความงาม และร้านสะดวกซื้อ เพื่อรองรับพนักงานออฟฟิศในย่านนี้ทั้งเวลากลางวันและหลังเลิกงาน

นอกจากอาคารสำนักงานแล้ว ก็มีคอนโดขึ้นอยู่ในย่านนี้ค่อนข้างเยอะ อาทิ Sukhumvit Living Town สูง 39 ชั้นค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกำลังจะมีโครงการใหม่ขึ้นค่ะ ชื่อบ้านก้ามปู@อโศก เป็นจุดสำหรับนัดพบ หรือนั่งคุยงานก็ได้ ส่วนรายละเอียดของโครงการต้องไปรอก่อนนะ

เดินมาถึง Asoke Towers แล้วค่ะ ภายในมีทั้งสำนักงานให้เช่า และคอนโดมิเนียม ใต้อาคารมีทั้ง Tops Daily, ร้านอาหาร Kuppadeli, Subway และ Proflex

ฝั่งตรงข้ามเป็น Q House Asoke เป็นอาคารสำนักงานนะไม่ใช่คอนโด ใต้ตึกมีธนาคารอิสลามด้วยค่ะ

ติดๆ กันเลยคือทางเข้า มศว ฝั่งนี้เป็นประตูใหญ่ค่ะ

ในทุกๆ วันอังคารและพฤหัสบดีช่วงเวลาสายๆ จนถึงบ่าย 3 จะมีตลาดนัดนานาชาติมาเปิดที่ลานโล่งนี้ค่ะ ของขายก็มีอย่างหลากหลายให้เราเหล่าชาวพนักงานออฟฟิศได้มาเลือกช็อปปิ้งคลายเครียดกัน

นอกจากส่วนของตลาดนัดนานาชาติแล้ว อาคารในมหาวิทยาลัยก็จะมีร้านอาหารและร้านกาแฟให้เลือกอีกหลากหลาย หรือถ้าจะทำธุรกรรมทางการเงินก็มีธนาคารเปิดให้ใช้บริการ ภายในอาคารนี้ชั้น 3 จะมี มศว คลีนิกเปิดให้บริการวันจันทร์-ศุกร์ด้วยนะคะ

ข้างๆ กับ มศว คือ Supalai Premier Place เห็นสีฟ้าเด่นๆ นี่ใช่เลยค่ะ

เรากลับมาที่ฝั่งเดิม จะเห็นอาคาร Kiatnakin Bank

ที่ฝั่งตรงข้ามจะเห็นอาคารสำนักงาน BB Building ค่ะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์สอบ TOEIC ด้วย

ใกล้ๆ กันนั้นเองจะมีตลาดรวมทรัพย์ค่ะ ภายในเป็นพื้นที่ตลาดขนาดใหญ่ เน้นขายอาหารกลางวันเป็นหลัก เปิดจนถึงช่วงเย็นเลย

ภายในขายอาหาร, ขนม และเครื่องดื่มอย่างหลากหลาย

พื้นที่ตลาดด้านในค่ะ จะเห็นว่ามีพื้นที่ที่กว้างขวางมากๆ ของก็มีขายอย่างหลากหลายให้มาเลือกซื้อกันในราคาที่หยิบจับได้ง่าย

ข้างๆ กับตลาดรวมทรัพย์ก็คืออาคาร Midtown Asoke ภายในเป็นศูนย์การค้า มีร้านอาหารพวก Franchise ให้เลือกหลายร้าน เช่น KFC, Jeffer, Carl’s Junior, Pizza Company นอกจากนี้ก็ยังมีร้าน Office Mate, Tsuruha และด้านหลังจะเชื่อมกับคอนโด Grand Park View Asoke ค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับ Midtown Asoke ก็คือตึก G”MM’ Grammy นั่นเอง

ข้างๆ Midtown Asoke จะมีซอยที่สามารถทะลุกับ รร.วัฒนาวิทยาลัย เป็น รร.ประจำหญิงล้วนแห่งแรกของประเทศไทยนั่นเองค่ะ จะเห็นว่าพื้นที่ข้างๆ ที่กั้นรั้วเอาไว้ก็คือที่ตั้งของ คอนโด THE ESSE Asoke จาก Singha Estate

เดินเลยมาหน่อยจะถึง ถ.สุขุมวิท 21 ซอย 3 อาคาร Ocean Tower 2 สามารถเข้าได้จากทางซอยนี้นะ

ตลอดทางเราจะเห็นว่ามีร้านอาหารคอยรองรับพนักงานออฟฟิศอยู่ตลอดทางเลยค่ะ

เดินไปเรื่อยๆ เราจะเจอ Serm-mit Tower เป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่เช่นกัน

ฝั่งตรงข้ามคืออาคาร PS Tower ค่ะ เป็นอาคารสำนักงานที่รวมด้านการธนาคารและการเงินเอาไว้

ไม่ไกลเราก็เดินมาถึงแยกระหว่าง ถ.สุขุมวิท 21 ซอย 1 ที่แยกจะมีทั้ง ภัตตาคารอาหารจีนที่อยู่มายาวนานหลายสิบปี, ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น มีเหล้าสาเกและเครื่องดื่มอร่อยๆ ให้ดริ๊งค์กันหลังเลิกงาน และร้านอาหารแนว Tapas ให้เลือกกินเป็นของว่าง

มองไปที่ฝั่งตรงข้ามคืออาคาร ชิโน-ไทย ทาวเวอร์นั่นเอง

เลยจากแยกมาไม่ไกลจะเจอสภาวิชาชีพบัญชีค่ะ

ข้างๆ กันนั้นเองคือพิพิธภัณฑ์เรือนคำเที่ยง เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ล้านนา เปิดให้บริการตั้งแต่ 9.00-17.00น.ค่ะ ปิดเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น

ตอนนี้เราเดินจนมาถึง MRT สถานีสุขุมวิทกันแล้วค่ะ ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ BTS สถานีอโศก เราจะเห็นห้าง Terminal 21 อยู่ข้างๆกันนี้เอง

เราตรงไปอีกไม่ไกลก็ถึงแยกอโศกเข้าสู่ ถ.สุขุมวิทแล้วนะคะ ที่ฝั่งซ้ายมือของเราก็คืออาคาร Interchange 21 นั่นเอง

:: Sales Gallery ::

หลังจากเดินชมทำเลในย่านนี้กันอย่างจุใจแล้ว เราเดินเข้าไปดูภายใน Sales Gallery กันต่อค่ะ

และนี่ก็คือ Sales Gallery ของทางโครงการ ซึ่งในอนาคตจะถูกใช้เป็นอาคารพาณิชย์ด้วย

เข้าไปดูภายในกันเลยค่ะ

ภายในจะเป็นอาคารสูง 2 ชั้น ส่วนต้อนรับด้านหน้าเปิดเพดานสูงให้ดูโปร่ง มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยต้อนรับ, ให้ขอมูลเกี่ยวกับตัวโครงการ และพาไปดูห้องตัวอย่างที่ชั้น 2 ค่ะ

มีพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนจัดเอาไว้ให้เยอะเลย

บางส่วนตกแต่งด้วยพื้นกระเบื้องลายหินอ่อนดูหรูหรา และบางส่วนทาสีพื้นและผนังด้วยสีเหลืองให้ดูสนุกสนานตามแนวคิดของโครงการ

ส่วนบริเวณกลางโถงมีโมเดลจำลองของโครงการ เพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการก่อนสร้างเสร็จกัน


:::: ตัวโครงการ ::::

Ideo Rama 9-Asoke_Hero Shot

มาดูข้อมูลเจาะลึกตัวโครงการกันต่อค่ะ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 36 ชั้น สไตล์โมเดิร์น มี อาคารชุดพักอาศัย 1 อาคาร จำนวน 1,216 ยูนิต, อาคารพาณิชย์ 2 ยูนิต และ ทาวน์ วิลล่า 4 ยูนิต บนเนื้อที่ 5-2-70.60 ไร่ มีห้อง 3 แบบหลักๆ คือ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedrooms แบ่งออกเป็นแบบ Simplex และ Hybrid ขนาดเริ่มต้นที่ 26.0 ตร.ม. กับแนวคิด “Live Work Play” อาคารถูกออกแบบมาให้ดูทันสมัยและสนุกสนาน เล่นเส้นสายในแนวตั้งและแนวราบ เน้นโทนสีเทาเข้ม-เทาอ่อนทั้งอาคาร

มาดูในส่วนของผังอาคารกันค่ะ ทางเข้า-ออกของตัวโครงการจะอยู่ติดกับ ถ.พระราม 9 ที่ดินของตัวโครงการจะถูกเซ็ทเข้ามาอยู่หลังคลองสามเสนในนะคะ พอผ่าน Security ด่านที่ 1 เข้ามาจะเจอ Town Villa และ Commercial Building ที่ในอนาคตจะมี Max Value และ Hubba ที่เป็น Co-working Space มาเปิดก่อน ถัดเข้าไปจะมี Security ด่านที่ 2 จะต้องใช้ Key Card ในการเปิดรั้วไม้กระดก พอผ่านเข้าไปภายในโครงการแล้ว จะเห็นเส้นทางการเดินรถที่จะสามารถวิ่งได้ทางเดียวคือทางฝั่งซ้ายมือเพื่อเข้าสู่อาคารจอดรถ และกลับออกมาโดยใช้เส้นทางเดิมค่ะ

ชั้น G ทางเข้าอาคารจะอยู่ด้านหน้าเลยค่ะเข้าสู่ Lobby ที่เชื่อมต่อกับ Co-Living Space ความพิเศษก็คือ มีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ที่สามารถนำมาต่อกันเป็นโต๊ะนั่งสุมหัวคุยงานขนาดใหญ่ หรือจะแยกออกเป็นชุดเล็กๆ สำหรับการนั่งเดี่ยวหรือ 2-3 คนก็ได้ โดยจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นบล็อกเพื่อความเป็นส่วนตัว และมีการแบ่งพื้นที่ทำเป็นห้องประชุมด้วยค่ะ

ซึ่งจาก Co-working Space มองออกมาจะได้วิวสวนภายนอก ซึ่งจะประกอบไปด้วย Multi-Purpose Area ที่สามารถใช้เป็นสนามบาส หรือ คอร์ทเทนนิสก็ได้ และ Playing Area ที่ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่สำหรับนั่งทำงานแบบ Outdoor และมีที่นั่งแบบอัฒจันทร์

และจาก Co-working Space ก็จะเชื่อมต่อกับโถงลิฟท์ค่ะ ซึ่งที่นี่จะมีโถงลิฟท์ถึง 2 จุด เพื่อกระจายการใช้งานของคนภายในอาคารไม่ให้หนาแน่นจนเกินไป โดยจะมีจุดละ 4 ตัว รวมเป็น 8 ตัว แบ่งเป็นลิฟท์โดยสาร 7 ตัว และลิฟท์บริการอีก 1 ตัว คิดเป็นจำนวนยูนิตพักอาศัยต่อลิฟท์อยู่ที่ 176 : 1 ยังถือว่าหนาแน่นไปหน่อยค่ะ อาจจะต้องรอลิฟท์กันบ้าง

ส่วนที่จอดรถของที่นี่จะมีทั้งบริเวณโดยรอบอาคาร และในอาคารตั้งแต่ชั้น 2-7 คิดเป็น 42% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าให้มาพอสมควรค่ะ เมื่อคิดว่าลูกบ้านจะใช้การเดินทางด้วยระบบขนส่งธารณะร่วมด้วย

ชั้นที่ 8 ตั้งแต่ชั้นที่ 8 ขึ้นไปจะเป็นส่วนของ Residental ทั้งหมดค่ะ

9-12A

ชั้นที่ 9-12A ชั้นนี้จะเป็น Typical Floor Plan ผังอาคารวางเป็นรูปตัว I และจัดผังอาคารแบบ Double Corridor ให้มีช่องแสงที่ปลายโถงทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งปลายโถงทั้ง 2 ฝั่งจะเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms นะคะ มีเพียง 4 ห้อง/ชั้นเท่านั้น

14

แปลนชั้น 14

15-21

แปลนชั้น 15-21

22-29

แปลนชั้น 22-29

30-35

แปลนชั้น 30-35

36

36M

แปลนชั้น 36 และ 36 M ชั้นนี้จะเป็นส่วน Main Facilities ของโครงการค่ะ จะประกอบด้วย Social Club ภายในเป็น Co-working Space ออกแบบพื้นที่ให้เป็น Amphitheater ฝ้าสูงแบบ Double Ceiling ภายในมี Projector สามารถฉายสไลด์ได้ และมีจุดที่เป็นสไลด์เดอร์ สามารถนั่งลื่นลงมาจากจุดบนสุดของห้องได้ นอกจากนี้ภายใน Social Club ก็จะจัด Boxing Area เอาไว้ให้ด้วย

ถัดมาเป็น Co-Living Area เป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor สามารถใช้นั่งเล่นพักผ่อน หรือใช้นั่งทำงานก็ได้ สร้างความเป็นส่วนตัวด้วยพื้นที่แบบเล่นระดับ ทำให้พื้นที่แต่ละส่วนถูกแยกออกจากกัน เหมือนเป็นมุมส่วนตัวมากขึ้น

มาถึงส่วน Hi-light อีกจุดของทางโครงการค่ะ นั่นก็คือสระว่ายน้ำที่มีขนาดยาวถึง 40 เมตร กว้าง 6 เมตร ยาวเกือบเท่าสระโอลิมปิกแล้ว สามารถชมวิวเมืองได้แบบสุดขอบฟ้าเลยค่ะ บริเวณข้าสระก็จัดห้องน้ำแยกชายหญิงให้เรียบร้อย

เห็นพื้นที่ที่ล้อมด้วยเส้นประมั้ยคะ ส่วนนั้นบนชั้น 36M (พื้นที่เหนือห้องน้ำ) จะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ

Roof

Roof FL ขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้า ทางโครงการออกแบบให้เป็น Green Roof หรือพื้นที่สวนสวยที่สามารถชมวิวเมืองได้โดยรอบ มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นมุมๆ ค่ะเพื่อความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังมี Jogging Track สำหรับเหล่านักวิ่ง มีความยาวถึง 120 เมตรเลย

เรามาดูโมเดลของตัวอาคารกันบ้างค่ะ จะได้เห็นภาพรวมว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร

ซูมเข้าไปใกล้ๆ อีกหน่อย

เริ่มจากฝั่งด้านหน้าโครงการฝั่งทิศเหนือค่ะ จะเป็นฝั่งที่ติด ถ.พระราม 9 ได้วิวเมืองและอาคารสำนักงานทั้ง The Super Tower, G Tower และ Unilever ไปเต็มๆ

อาคารฝั่งทิศตะวันตกค่ะ ติดกับ Aspire พระราม 9 ซึ่งสูง 23-25 ชั้น

อาคารฝั่งทิศใต้ จะติดกับทางด่วนศรีรัช แต่ที่ชั้น 2-7 จะเป็นส่วนของที่จอดรถ ส่วน Residential จะอยู่ตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไป ซึ่งความสูงจะพ้นระยะทางด่วนแล้วค่ะ

ฝั่งทิศตะวันออก จะเป็นฝั่งที่อยู่ติดกับบ้านพักอาศัยและอาคารพักอาศัยสูงเพียง 2-5 ชั้น เรียกว่าวิวฝั่งนี้โล่งดีทีเดียวค่ะ เราทำกราฟฟิคแบ่งชั้นให้เห็น Zone ของอาคารตั้งแต่ชั้น G จนไปถึงชั้นดาดฟ้า

มาซูมดูในแต่ละจุดของโมเดลกันบ้าง ทางเข้าโครงการจะอยู่บน ถ.พระราม 9 ค่ะ ส่วนตัวอาคารจะถูกเซ็ทเข้าไปอยู่ด้านใน

จากทางเข้าโครงการจะผ่าน Town Villa และอาคารพาณิชย์ ที่จะมี Max Value และ Hubba มาเปิดให้ใช้บริการ

พอข้ามคลองสามเสนในจะมี Security อีก 1 จุด ลูกบ้านต้องใช้ Key Card ในการเปิดรั้วไม้กระดกค่ะ พอเข้าไปในโครงการแล้วจะเจอ Lobby อยู่ที่ด้านหน้าเลย

จาก Lobby ก็จะเชื่อมสู่พื้นที่ Co-working Space มองออกมาภายนอกเห็นสวน ซึ่งเป็นพื้นที่ Multi-purpose Area และ Play Area

ที่ฝั่งนี้บนชั้น 8 ก็จะมีสวนหย่อมให้อีก 1 จุด

แต่ทางรถจะต้องเลี้ยวเข้าฝั่งซ้ายเพื่อเข้าสู่ที่จอดรถนะคะ

ขึ้นมาดู Facilities ที่บนชั้น 35-36 กันบ้าง ทางฝั่งทิศตะวันตก จะประกอบด้วย Social Club, Swimming Pool ที่ยาวกว่า 40 เมตร, Fitness และ Roof Garden

ส่วนทางฝั่งทิศตะวันออกเราจะเห็นส่วน Co-living Area ค่ะ

ซูมเข้าไปดูใกล้ๆ จะเห็นว่าส่วน Co-living Area มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายระดับ เพื่อความเป็นส่วนตัวในแต่ละจุดค่ะ

GARDEN_GF-01-resize

คราวนี้เรามาดูภาพบรรยากาศจำลองของทางโครงการกันบ้าง เริ่มจากส่วนสวนที่ชั้น G บริเวณ Playing Area ทำพื้นที่นั่งแบบอัฒจันทร์ มีการตกแต่งและใช้สีสันให้ดูสนุกสนานตามแนวคิดของโครงการ

180525_Ideo_R9_theatre_final

ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Social Club ส่วน Amphitheater ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Ceiling ล้อมรอบด้วยผนังกระจก สามารถชมวิวเมืองได้โดยรอบค่ะ

180526_Ideo_R9_multipurpose_c1_final

ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Social Club ส่วน Co-working Space จะเห็นด้านในมีสไลด์เดอร์ลงมาจากพื้นที่ชั้นบนด้วยค่ะ ภายในใช้โทนสีเหลืองที่ดูสนุกสนาน ซึ่งเข้ากันได้ดีกับพื้นกระเบื้องลายหินอ่อน

180526_Ideo_R9_multipurpose_c2_final

ภาพบรรยากาศจำลองภายนอกส่วน Social Club เห็นพื้นที่โดยรวมทั้งหมด

180526_Ideo_R9_swimming pool_final

ภาพบรรยากาศจำลองของสระว่ายน้ำความยาว 40 เมตร เปิดรับวิว The Super Tower และ G Tower ภายในสระมี Aqua Bike ให้ด้วยนะ

ROOFTOP_CLOSEUP-01-resize

ภาพบรรยากาศจำลองในส่วนของ Co-living Area เล่นระดับพื้นที่จนขึ้นไปถึงส่วน Roof Garden

180523_Ideo_R9_34sqm hybrid_final

ภาพบรรยากาศจำลองของห้องพักขนาด 34.00 ตร.ม. แบบ Hybrid ค่ะ


:::: แบบบ้านของโครงการ ::::

ห้องของโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 3 แบบหลักๆ ด้วยกัน คือแบบ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedrooms ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือแบบ Simplex ฝ้าสูง 2.75 เมตร และแบบ Hybrid ฝ้าสูง 4.5 เมตรดังนี้ค่ะ

  • Studio แบบ Simplex ขนาด 25.50-26.50 ตร.ม.
  • Studio แบบ Hybrid ขนาด 25.50-26.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom แบบ Simplex ขนาด 31.00-38.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom แบบ Hybrid ขนาด 31.00-38.50 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms แบบ Simplex ขนาด 52.00-90.50 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms แบบ Hybrid ขนาด 52.00-90.50 ตร.ม.

โดยโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted พร้อมเคาน์เตอร์ครัว, ชุด Built-in และ เครื่องปรับอากาศ ระบบ Inverter แบบ Wall Type เราไปดูผังห้องด้วยกันเลยค่ะ

A1-1(L)

ห้อง Studio TYPE A1-1 ขนาด 26.00 ตร.ม.

B1-1(L)

ห้อง 1 Bedroom TYPE B1-1 ขนาด 31.00 ตร.ม.

B2-1(L)

ห้อง 1 Bedroom TYPE B2-1 ขนาด 34.00 ตร.ม.

C1-1(R)

ห้อง 2 Bedrooms TYPE C1-1 ขนาด 60.50 ตร.ม.

C3-1

ห้อง 2 Bedrooms TYPE C3-1 ขนาด 52.00 ตร.ม.


:::: ห้องตัวอย่าง ::::

วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมห้องตัวอย่างแบบ Studio Hybrid ขนาด 26.00 ตร.ม. และ 2 Bedrooms Simplex ขนาด 52.00 ตร.ม. กันค่ะ ห้องขายแบบ Fully Fitted พร้อมเคาน์เตอร์ครัว, Built-in และ เครื่องปรับอากาศ ระบบ Inverter แบบ Wall Type มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลยค่ะ

::: แบบ Studio Hybrid ขนาด 26.00 ตร.ม. :::

ห้อง Studio Hybrid ขนาด 26.00 ตร.ม. ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1-2 คน ภายในห้องจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 ส่วนด้วยกัน เป็นส่วนห้องครัว, ห้องน้ำ, Living Area, ระเบียง และส่วนห้องนอน โดยครัวที่ได้จะเป็นครัวปิดนะคะ กั้นส่วนออกจาก Living Area ช่วยกันกลิ่นจากการปรุงอาหารได้ดีกว่า และด้วยพื้นที่แบบ Duo Space ฝ้าสูงถึง 4.5 เมตร เพิ่มพื้นที่ใช้สอยในชั้นลอยเป็นห้องนอน เชื่อมต่อพื้นที่ห้องแบบ Vertical Space ทำให้ภายในห้องดูโปร่งโล่งมากๆ

ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 8 มม., พื้นครัว แกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม., ชุดครัวพร้อมอ่างล้างจาน และ Hob&Hood จาก Teka, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์จาก American Standard กับ Charmer และ Built-in ในจุดต่างๆ ของห้อง พร้อมแอร์ระบบ Inverter อีก 2 ตัว ขนาด 18,000 BTU ในส่วนของ Living Area และขนาด 9,000 BTU ในส่วนของชั้นลอย ไปชมห้องด้วยกันเลย

มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้ว จริงๆจะได้ประตูบานทึบนะคะ มือจับประตูเป็นก้านโยกสแตนเลสพร้อม Digital Door Lock

ที่พื้นห้องปูด้วยแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม.

เข้ามาภายในห้องเราจะเจอส่วนของห้องครัวก่อนค่ะ ส่วนฝั่งซ้ายมือคือประตูห้องน้ำ ผนังภายในห้องจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีทั้งหมดค่ะ

บริเวณโถงทางเข้าจะเป็นช่วงที่ฝ้าสูง 2 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้

มาดูรายละเอียดของห้องครัวกันค่ะ และนี่ก็คือชุดเคาน์เตอร์ครัว ได้มากับตัวห้องทั้งชุดแบบนี้เลย

ใต้เคาน์เตอร์ได้ชั้นเก็บของมาแบบนี้ ทั้งลิ้นชักใส่ช้อน-ส้อม, ตู้เก็บของใต้อ่างล้างจาน และช่องสำหรับวางเตาอบหรือเตาไมโครเวฟ หน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนตนะคะ

ปลายบานเปิดเฉือน 45 องศา ทำให้สามารถจับเปิดได้ง่าย

ท็อปครัวที่ได้เป็นหินสังเคราะห์สีขาว ติดตั้ง Hob&Hood และอ่างล้างจานมาให้เรียบร้อย ใช้ของ Teka ทั้งหมด ด้านหลังเคาน์เตอร์ติด Splash Board มาให้เรียบร้อยแล้ว สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

อ่างล้างจานขนาดกระทัดรัด ติดตั้งมาพร้อมกับก๊อกน้ำ ใช้สะดวกนะ หัวสามารถหมุนซ้าย-ขวาได้

Hob ที่ได้เป็นเตาเซรามิค ขนาด 2 หัว

ข้างๆ ยังพอมีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารเหลืออยู่ค่ะ ตรงนี้จะมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าให้ด้วยนะ แต่ต้องใช้แบบฝาหน้าเท่านั้น

พร้อมติดตั้ง Hood ดูดควันมาให้ในตำแหน่งเดียวกัน

ในส่วนของชั้นลอยก็มีตู้เก็บของให้อีก 3 ช่อง หน้าบานจะปิดผิวด้วย High Gloss แทนนะ

หันมาที่อีกฝั่ง จะมีช่องสำหรับวางตู้เย็นให้ด้วย

ข้างบนทำชั้นลอย Built-in เป็นจุดที่ติดตั้ง Load Center ของห้องเอาไว้ ใช้ของ Schneider Electric ค่ะ

เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ

ระหว่างพื้นห้องน้ำและห้องครัวจะกั้นด้วยธรณีประตู เพื่อกันน้ำไหลย้อนออกมา ปูด้วยกระเบื้องสีเทาผิวด้าน ขนาด 60 x 60 ซม.

ส่วนผนังห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องสีเทาผิวเงา ขนาด 60 x 60 ซม. ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียก ใช้สุขภัณฑ์จาก American Standard และ Charmer ทั้งหมด

ที่ฝ้าเพดานเป็นฝ้าฉาบเรียบกันความชื้น ติดดวงโคมดาวน์ไลท์และพัดลมดูดอากาศมาให้

เรามาดูรายละเอียดของสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำกันค่ะ เริ่มจากส่วนอ่างล้างมือ จะติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่แบบนี้มาให้ พร้อมชั้นวางของใต้เคาน์เตอร์

ตัวอ่างทำมาเป็นชิ้นเดียวกับเคาน์เตอร์เลยค่ะ สามารถวางของได้เยอะ ขนาดอ่างก็กำลังดีใช้งานสะดวก ใช้ของ Charmer นะ

พร้อมก๊อกน้ำขนาดกำลังถนัดมือของ American Standard

ต่อด้วยโถสุขภัณฑ์ ใช้ระบบ Dual Flush จาก American Standard ช่วยประหยัดน้ำได้ดีกว่า ระยะการติดตั้งตรงนี้แอบแคบไปหน่อย ถ้าเป็นคนไซส์ชาวตะวันตก อาจจะรู้สึกอึดอัดนิดนึง

ติดตั้งมาพร้อมกับ Accessories ประกอบการใช้งาน ทั้งสายฉีดชำระ และที่ใส่แกนกระดาษชำระ

เหนือโถสุขภัณฑ์ติดตั้งราวแขวนผ้าเช็ดตัวให้ด้วยค่ะ ตำแหน่งอยู่ข้างๆ โซนเปียกพอดี

มาดูโซนเปียกกันต่อ ทางโครงการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำของ Charmer ให้เรียบร้อย เป็นประตูบานสไลด์ 3 ตอน

มือจับประตูเป็นครีบแบบนี้ สามารถเลื่อนเปิดได้ง่ายค่ะ

พื้นที่ยืนอาบน้ำข้างในค่อนข้างกระทัดรัด สำหรับคนไซส์ตะวันตกอาจจะเล็กไปหน่อย

ที่ผนังติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้พร้อมกับจานวางสบู่จาก American Standard อีกเช่นกัน

ขนาดหัวฝักบัวใหญ่ดีนะคะ อาบได้สนุกเลย

ออกมาจากห้องน้ำ เราจะเข้าไปดูภายในส่วน Living Area กันต่อค่ะ โดยจะกั้นส่วนจากห้องครัวด้วย ประตูบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสงมาให้แบบนี้

มือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐานค่ะ

พอเข้าสู่ Living Area จะปูพื้นด้วยลามิเนตหนา 8 มม.ให้แทน เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย ได้สีพื้นมาตรฐานแบบนี้ทุกห้องค่ะ

เข้าสู่ Living Area เราจะเจอส่วนนั่งเล่นก่อน

โดยจุดนี้จะเป็นจุดที่มีฝ้าสูงถึง 4.5 เมตรเลยค่ะ

ฝ้าก็จะเป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์เป็นกล่องแบบนี้เลย

ส่วนแรกเลยเราจะได้ตู้ Built-in สำหรับเก็บรองเท้ามาค่ะ ซึ่งหน้าบานจะเป็นหนาบานทึบและปิดผิวด้วยลามิเนตนะ

ในส่วนของห้องนั่งเล่นเราสามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้อย่างลงตัว พร้อมโต๊ะกาแฟอีกตัวค่ะ

ที่ผนังฝั่งตรงข้าม เราสามารถทำ Built-in เป็นชั้นวางทีวี และชั้นเก็บของได้ทั้งผนังเลย ตรงนี้ทางโครงการทำมาให้ดูเป็นไอเดียนะ ไม่ได้แถมมากับห้องด้วย

ส่วนระยะดูทีวีตรงนี้ก็เหลือพอจะดูทีวีจอสัก 32-42 นิ้วได้

จากส่วนนั่งเล่นเข้าไป ทางโครงการจัดเป็นมุมนั่งทำงานค่ะ

ขนาดพื้นที่พอวางโต๊ะขนาดมาตรฐานได้ หรือเราจะจัดให้มุมนี้เป็นมุมนั่งทานข้าวแทนก็ดีเหมือนกันนะ

เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องที่มีฝ้าสูง เราก็จะได้ช่องแสงมาสูงเกือบถึงฝ้าเพดานเลยเช่นกัน

บริเวณโต๊ะทำงานเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเปิดคู่ค่ะ ใช้กรอบอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสง

ส่วนมือจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน

ส่วนอีกฝั่งนึงเป็นประตูบานเลื่อนค่ะ เหนือประตูติดกระจกบานฟิกซ์ให้อีกบาน ซึ่งตรงนี้ก็คือประตูที่เปิดเชื่อมสู่ระเบียงห้องนั่นเอง

พื้นที่ระเบียงมีขนาดไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ แต่ก็พอใช้ตากผ้าได้พออยู่ พื้นลดระดับลงไป ปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม.

ส่วนพื้นที่ด้านบนใช้เป็นส่วนที่แขวนคอยล์แอร์ ซึ่งจะมีระแนงเหล็กเป็นตัวปิด เพื่อให้รูปด้านของอาคารดูเรียบร้อย

ภาพจากมุมระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาภายในห้อง

คราวนี้เราจะขึ้นไปดูที่ชั้นลอยกันต่อ ซึ่งเป็นส่วนของห้องนอนค่ะ

พื้นบันไดลูกนอนและลูกตั้งใช้ไม้สำเร็จรูป สีเข้ากันกับพื้นห้อง

ส่วนราวจับบันไดใช้ระแนงเหล็กแบบนี้ ยึดที่ข้างบันได

ภาพมองย้อนลงไปจากชั้นลอยค่ะ

ขึ้นมาถึงชั้นลอยซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนนอนกันแล้ว พื้นที่ชั้นบนมีขนาดพอเหมาะสำหรับการเป็นห้องนอนพอดี สามารถวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ได้อย่างลงตัว

ซึ่งจะเหมาะสมกับเตียงนอนขนาด 5 ฟุต

พื้นที่ปลายเตียงก็พอเหลือเดินผ่านได้สะดวก แต่ก็ต้องระวังตกด้วยนะ

พื้นที่ฝั่งขวาสามารถเลื่อนเตียงมาได้อีกนะคะ เพื่อให้เหลือพื้นที่สำหรับการเปิดตู้เสื้อผ้าฝั่งซ้าย

ถ้าขยับเตียงไปทางฝั่งขวาอีกหน่อย ตรงนี้ก็จะมีพื้นที่ที่กำลังพอดี ถ้าใช้พื้นที่เท่านี้จริงๆ จะเปิดตู้หยิบเสื้อผ้าได้ยากค่ะ

และนี่ก็คือตู้เสื้อผ้า Built-in ที่เราได้แถมมากับตัวห้องด้วย แต่จะเป็นบานทึบปิดผิวด้วยลามิเนตเหมือนเดิม ขนาดพอดีสำหรับ 2 คน

ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้า, ลิ้นชักเก็บของ และชั้นวางของให้ค่ะ

ข้างๆ จะยังเหลือพื้นที่สำหรับวางโต๊ะเครื่องแป้งตัวเล็กๆ ได้อีก 1 ตัวด้วยนะ

ภาพจากบนชั้นลอย มองลงไปเห็นภาพรวมของพื้นที่ภายในห้องค่ะ

::: แบบ 2 Bedrooms Simplex ขนาด 52.00 ตร.ม. :::

ห้อง 2 Bedrooms Simplex ขนาด 52.00 ตร.ม. ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 2-3 คน ภายในห้องจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 ส่วนด้วยกัน เป็นส่วนห้องครัว, ห้องน้ำ, Living Area, ห้องนอนใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัว และห้องนอนเล็ก พร้อมระเบียงในห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ห้องนี้จะได้ครัวแบบเปิด ถึงจะเป็นห้องแบบ Simplex ก็มีฝ้าที่สูงถึง 2.75 เมตรเลยค่ะ

ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 8 มม., ชุดครัวพร้อมอ่างล้างจาน และ Hob&Hood จาก Teka, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์จาก American Standard กับ Charmer และ Built-in ในจุดต่างๆ ของห้อง พร้อมแอร์ระบบ Inverter อีก 3 ตัว ขนาด 18,000 BTU ในส่วนของ Living Area และขนาด 9,000 BTU ในส่วนของห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ไปชมห้องด้วยกันเลยค่ะ

เริ่มจากประตูทางเข้าห้อง ได้เป็นประตูบานทึบ มือจับประตูเป็นก้านโยกสแตนเลสพร้อม Digital Door Lock

พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. แต่เฉพาะห้อง 2 Bedrooms เท่านั้นนะคะที่จะได้พื้นห้องเป็นสีนี้

เข้ามาภายในห้องเราจะเจอส่วนของห้องครัวก่อนค่ะ ถัดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่น ส่วนฝั่งขวามือใกล้ประตูทางเข้าคือห้องน้ำ ผนังภายในห้องจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสีทั้งหมดนะ

ฝ้าเพดานสูงถึง 2.75 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์แบบกล่องให้แบบนี้

ที่หน้าประตูทางเข้าฝั่งขวาจะมีชั้น Built-in ทำเป็นตู้เก็บรองเท้าและเก็บของให้แบบนี้ค่ะ หน้าบานปิดผิดด้วยลามิเนตนะ

เราเข้ามาดูในส่วนของห้องครัวกันก่อนค่ะ

เคาน์เตอร์ที่ได้เป็นทรง L Shape นะคะ หน้าบานปิดผิวด้วยลามิเนต ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว หลังเคาน์เตอร์ติด Splash Board มาให้เรียบร้อย ส่วนชั้นลอยเก็บของปิดผิวด้วย High Gloss

ที่ใต้เคาน์เตอร์ก็มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และลิ้นชักสำหรับเก็บของและช้อนส้อม

เตาเซรามิคที่ได้มีขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ เป็นขนาด 4 หัว

ใต้อ่างล้างจานมีช่องให้เก็บของได้เหมือนเดิม ข้างๆ กันมีช่องสามารถวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้ได้

ส่วนอ่างล้างจานใช้ขนาดเท่าเดิมค่ะ ที่เพิ่มขึ้นมาก็คือพื้นที่ในการเตรียมอาหาร

ชั้นลอยก็มีช่องสำหรับเก็บของเพิ่มมากขึ้นเยอะ

ในบริเวณส่วนครัว ทางโครงการได้จัดวางโต๊ะกินข้าวให้ดูเป็นตัวอย่าง

โดยจุดนี้เองก็เป็นตำแหน่งที่เหมาะสมทีเดียว สามารถจัดวางได้ถึง 4 ที่

ซึ่งก็ยังเหลือพื้นที่ทำครัวกว้างพอสมควร ต่อให้มีคนนั่งก็ยังมีระยะเหลือพอสามารถยืนทำอาหารได้ค่ะ

ภาพรวมของห้องครัวอีก 1 รูป

มองไปที่ฝั่งตรงข้ามห้องครัว จะมีช่องสำหรับวางตู้เย็นพร้อมชั้นลอยเก็บของด้านบน ประตูฝั่งขวามือก็คือประตูห้องน้ำนั่นเองค่ะ

เข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ จะเหมือนกับห้องที่แล้วทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นขนาด, การจัดการพื้นที่, วัสดุ และสุขภัณฑ์ก็เหมือนเดิมทั้งหมดค่ะ จะขอข้ามไปเลยนะ

คราวนี้เรามาดูที่ห้องนั่งเล่นกันต่อ

พื้นที่จะพอดีสำหรับโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกาแฟอีก 1 ตัว แล้วแต่การจัดเลยค่ะ

ฝั่งชั้นวางทีวีทางโครงการทำชั้น Built-in มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ระยะดูทีวีเหมาะสำหรับทีวีจอขนาด 32-42 นิ้ว ที่ผนังแนะนำให้ติดกระจกเงาเพิ่มนะ จะทำให้รู้สึกว่าห้องมีขนาดที่กว้างขึ้น

บริเวณห้องนั่งเล่นจะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนและบานฟิกซ์เป็นช่องแสงให้กับโถงกลางทั้งหมด

ภาพมองย้อนกลับไปที่ห้องครัว

ทางฝั่งขวาของห้องโถง เราจะเห็นประตูห้องนอนเล็กอยู่ตรงกลางเลย

เข้าไปดูภายในห้องด้วยกันเลยค่ะ

ที่พื้นห้องนอนก็ปูด้วยลามิเนตต่อเนื่องเข้าไปจากห้องโถง ที่พื้นประตูทำธรณีให้เรียบร้อย

ภายในห้องนอนเล็กมีขนาดกำลังดีค่ะ เหมาะสำหรับเตียงนอนขนาด 3 ฟุต และยังสามารถวางเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ได้อย่างลงตัว

เริ่มจากส่วนหน้าห้อง ทางโครงการให้ตู้เสื้อผ้า Built-in มาด้วย แต่ไม่ได้ให้โต๊ะเครื่องแป้งตัวข้างๆ นะ ตรงนี้เราสามารถทำ Built-in เพิ่มเติมเองได้ไม่ยากค่ะ

ตู้ที่ได้จะเป็นแบบมาตรฐานของโครงการ คือเป็นบานทึบปิดผิวด้วยลามิเนต ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้า 2 ระดับ, ชั้นเก็บของด้านบน และลิ้นชักเก็บของค่ะ

ลิ้นชักเก็บของภายในตู้ค่ะ

ขยับเข้าไปด้านในที่เป็นส่วนของเตียงนอน

วางเตียงนอนขนาด 3 ฟุตแล้วก็จะเห็นว่าพอดีกับพื้นที่ห้องเลยค่ะ ข้างๆ ยังพอวางโต๊ะข้างได้อีกตัวนะ

ซึ่งความยาวของเตียงจะพอดีกับความกว้างของห้องเลย

ภายในห้องนอนเล็กจะมีระเบียงส่วนตัวให้ด้วยค่ะ ซึ่งจะเชื่อมต่อกันผ่านประตูบานเลื่อน 3 ตอน

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาดเท่าเดิม ขนาดระเบียงค่อนข้างกว้างทีเดียวนะ สามารถตากผ้าได้สะดวก หรือจะวางเก้าอี้ออกมานั่งรับลมชมวิวก็ได้ค่ะ

นอกจากนี้ก็เป็นจุดที่ใช้สำหรับแขวนคอยล์แอร์ด้วย

ออกมาจากห้องนอนเล็ก มองไปทางฝั่งตรงข้าม ประตูที่ตรงกันก็คือห้องนอนใหญ่นั่นเอง

อย่ารอช้า เราเข้าไปดูภายในห้องด้วยกันต่อเลยค่ะ

ห้องนอนใหญ่มีขนาดที่กว้างขวางขึ้นมากพอสมควรเลยนะ ภายในจะมีห้องน้ำในตัวแยกให้ต่างหากด้วย

ขนาดของห้องนี้จะเหมาะสมกับเตียงนอนขนาด 5 ฟุตค่ะ

พอวางเตียงนอนแล้ว ก็ยังเหลือพื้นที่สามารถวางโต๊ะข้างได้อีก 1 ตัว

พื้นที่ปลายเตียงเหลือไม่เยอะค่ะ แต่ยังสามารถเดินผ่านได้ ถ้าอยากติดทีวีแบบแขวนผนังก็ทำได้นะ ทางโครงการติดตั้งปลั๊กไฟเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

ภายในห้องจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ภายในห้องสว่างอยู่พอสมควร

ฝั่งทางขวาเป็นหน้าต่างบานเลื่อนค่ะ มุมนี้เราสามารถวางโต๊ะทำงานได้อีก 1 ตัวด้วยนะ

แต่เลือกไซส์ที่เล็กลงมาหน่อย ให้พอดีกับพื้นที่ที่มี

อีกฝั่งเป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอนค่ะ ซึ่งสามารถเปิดเชื่อมกับระเบียงส่วนตัวได้

พื้นที่ระเบียงก็พอๆ กับห้องนอนเล็กเลย

ภาพมองย้อนจากส่วนระเบียงกลับเข้าไปในตัวห้อง

อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็นส่วนแต่งตัวค่ะ

ที่ได้มาก็คือตู้เสื้อผ้าขนาดสำหรับ 2 คนแบบมาตรฐานโครงการ

ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่เหลือ สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ 1 ชุด

ตรงกลางระหว่างตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งคือห้องน้ำในตัวค่ะ

ภายในเราได้วัสดุและสุขภัณฑ์มาเหมือนเดิมทุกประการ แต่มีขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้นค่ะ ตรงกลางห้องวางอ่างล้างมือ

ฝั่งขวาของห้องวางโถสุขภัณฑ์

และที่ฝั่งซ้ายของห้องเป็นโซนเปียก ภายในติดตั้งฝักบัวสายอ่อนพร้อมจานวางสบู่มาให้เหมือนเดิม

พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างดีค่ะ ขนาดนี้กำลังสบายเลย ไม่อึดอัด


:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (มิถุนายน 2561) ::::

วัสดุโดยรวม

  • พื้นห้องครัว : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม.
  • พื้นห้องนั่งเล่น และห้องนอน : ลามิเนต หนา 8 มม.
  • พื้นห้องน้ำ : พื้นกระเบื้องสีเทา ขนาด 60 x 60 ซม.
  • พื้นระเบียง : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 ซม.
  • ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
  • ผนังห้องน้ำ : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม.
  • ประตูภายนอก : ประตูบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง
  • ประตูทางเข้าห้อง : ประตูบานเปิดสำเร็จรูป มือจับก้านโยกสแตนเลส พร้อม Digital Door Lock
  • ประตูภายใน : ประตูบานเปิดสำเร็จรูป มือจับก้านโยกสแตนเลส
  • ประตูภายใน : ประตูบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง
  • หน้าต่างภายนอก : บาน Fixed และ บานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง

ห้องน้ำ และสุขาภิบาล

  • สุขภัณฑ์ และ Accessories : American Standard และ Charmer

งานไฟฟ้า

  • Load Center, สวิตช์ และปลั๊กไฟ : Schneider Electric
  • ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์
  • ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์
  • ไฟภายนอก : ดวงโคมดาวน์ไลท์
  • เครื่องปรับอากาศ : ระบบ Inverter แบบ Wall Type

เฟอร์นิเจอร์

  • เคาน์เตอร์ครัว พร้อม Hob& Hood และ อ่างล้างจาน จาก Teka
  • Built-in ตู้เก็บรองเท้า และ ตู้เสื้อผ้า

***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ


:::: ราคา (มิถุนายน 2561) ::::

– ราคาเริ่มต้นที่ 2.99 ล้านบาท

– ราคาเริ่มต้นเฉลี่ย 117,000 บาท/ตร.ม.

  • ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน
  • เงินกองทุน 500 บาท/ตร.ม./ชำระครั้งเดียว

***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม


 

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ ตัวโครงการ IDEO พระราม 9 – อโศก ตั้งอยู่ติด ถ.พระราม 9 ระหว่างแยกพระราม 9 และแยก อสมท. โดยอยู่ฝั่งที่มุ่งหน้าไปทางแยกพระราม 9 เพียง 250 เมตร ซึ่งเป็นทำเลทองศูนย์รวมอาคารสำนักงาน และห้างขนาดใหญ่ ที่กลายเป็น New Central Business District สามารถเชื่อมต่อ CBD ชั้นในอย่างอโศกและสุขุมวิทได้สะดวก เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดเข้าสู่อโศก-ดินแดง เชื่อมสู่อโศกมนตรีเพียง 1.1 กม.เท่านั้น ย่านนี้ก็มีห้างใหญ่ๆ อยู่ใกล้หลายห้างแล้ว ทั้งแบบที่เป็น Life Style เฉพาะตัวอย่าง The Street หรือห้างขนาดใหญ่อย่างเซ็นทรัลพระราม 9, Fortune Town, Show DC หรือจะเป็น Esplanade ก็อยู่ไม่ไกลค่ะ

ในละแวกนี้เองก็มีเมกะโปรเจ็คอย่าง เดอะ แกรนด์ พระราม 9 ที่จะผลักดันให้ทำเลนี้กลายเป็น NCBD นอกจากนี้ ทำเลนี้ยังเป็นศูนย์รวมด้านการคมนาคมที่สำคัญของกรุงเทพฯ เพราะมีการเชื่อมต่อถนนสายหลัก รวมถึงเป็นจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าทั้ง BTS, MRT และ Airport Link อีกด้วย ซึ่งตัวโครงการอยู่ห่างจาก MRT สถานีพระราม 9 เพียง 450 เมตรเท่านั้นเอง

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ทำเลนี้ถือว่าเดินทางสะดวกมากๆ เพราะจากตัวโครงการเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดก็สามารถเข้าสู่ย่านอโศก-สุขุมวิทได้แล้ว อีกทั้ง ถ.พระราม 9 ยังเชื่อมต่อกับถนนใหญ่อีกหลายสาย จะเดินทางไปทิศทางไหนก็สะดวก เว้นเอาไว้แต่เรื่องรถติดค่ะ แต่โชคดีมากที่ตัวโครงการอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนถึง 2 ด่านด้วยกัน ระยะก็ไม่เกิน 2 กม.กว่าๆ ลงมาจากทางด่วนก็สามารถตรงเข้าสู่โครงการได้เลย และพอขึ้นทางด่วนแล้ว จะไปส่วนไหนของกรุงเทพฯ หรือวิ่งออกต่างจังหวัดก็สะดวกหมด

การเดินทางโดยรถสาธารณะ อย่างที่บอกไปแล้วว่าตัวโครงการอยู่ในจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น BTS, MRT และ Airport Link โดยจากตัวโครงการเดินข้ามทางม้าลาย ก็ไปถึง MRT พระราม 9 ในระยะเพียง 450 เมตรเท่านั้น ซึ่งถ้านั่งจากสถานีนี้ไปเพียง 1 สถานีก็จะถึงสถานีเพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ Airport Link สถานีมักกะสัน หรือนั่งไปอีก 2 สถานีก็จะถึงสถานีสุขุมวิท ซึ่งเป็นสถานี Interchange กับ BTS สถานีอโศกค่ะ ส่วนรถสาธารณะก็มีผ่านหน้าโครงการอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่, รถเมล์ รวมทั้งป้ายรถเมล์ และวินมอเตอร์ไซค์ก็อยู่ใกล้ๆ กับตัวโครงการในระยะไม่เกิน 100 เมตรค่ะ

การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม High rise ภายใต้คอนเซ็ปต์ Live Work Play จึงออกแบบโครงการมาให้ดูสนุกสนาน เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ มีทั้งห้องแบบ Simplex และ Hybrid ให้เลือกตามความชอบ โดยรวมแล้วออกแบบมาได้ลงตัวทีเดียวค่ะ สำหรับห้อง Studio Hybrid พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม. สัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย ส่วนห้องครัวปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ซึ่งจุดนี้เป็นข้อดีทำให้สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายกว่า ซึ่งจะได้ครัวแบบปิดมาด้วย เป็นตัวช่วยกันกลิ่นในการปรุงอาหารได้เป็นอย่างดี พอฝ้าเพดานสูงก็ทำให้รู้สึกว่าพื้นที่ภายในห้องกว้างขวางขึ้นไปอีก ส่วนห้องนอนบนชั้นลอยก็เป็นการแบ่งสัดส่วนห้องได้ดีค่ะ ทำให้รู้สึกมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้กั้นห้องออกจากส่วน Living Area ก็ตาม

ส่วนห้องแบบ 2 Bedrooms Simplex ก็สามารถวางแปลนมาได้ดีนะ แม้ฝ้าจะสูงไม่เท่า Hybrid แต่ก็สูงถึง 2.75 ถือว่าโปร่งแล้วสำหรับการอยู่อาศัยค่ะ ครัวจะได้เป็นครัวเปิดรวมอยู่ในส่วนของ Living Area แต่ห้องนอนจะถูกกั้นออกไปอย่างสิ้นเชิงเพื่อความเป็นส่วนตัว ขนาดห้องนอนเล็กหน้ากว้างแคบไปหน่อย ไม่เหลือทางเดินปลายเตียง เวลาจะออกไปส่วนระเบียงจะต้องเดินข้ามเตียงไปค่ะ ส่วนห้องนอนใหญ่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาเยอะ วางเฟอร์แล้วห้องก็ยังพอเหลือพื้นที่อยู่ค่ะ

โดยโครงการขายทั้งแบบ Fully Fitted ภายในห้องก็จะได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in เป็นเคาน์เตอร์ครัว พร้อม Hob, Hood และ Sink จาก Teka, ตู้เก็บรองเท้า และตู้เสื้อผ้าค่ะ วัสดุและสุขภัณฑ์ที่ใช้ก็เลือกมาเป็นอย่างดี สุขภัณฑ์จาก American Standard และ Charmer ได้ในทั้งเรื่องคุณภาพและความสวยงาม ตอนนี้ราคาของโครงการเริ่มต้นที่ ตร.ม.ละ 117,000 บาทค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ถือว่าได้มาเยอะพอสมควร อาจจะน้อยไปนิดหน่อยเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ ที่ชั้น G จะเป็นส่วนของ Lobby, Co-Working Space, Multi-purpose Area และ Playing Area ชั้นที่ 2-7 จะเป็นอาคารจอดรถค่ะ สามารถจอดได้ 42% (ยังไม่รวมจอดซ้อนคัน) พอขึ้นไปที่ชั้น 8 จะเป็นส่วน Residential ทั้งหมด และจะมี Main Facilities ที่ชั้น 36 & 36M และชั้น Rooftop มีทั้ง Social Club, Co-living Area, สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 40 x 6 เมตร มี Aqua Bike ให้ในสระ, Fitness และ Rooftop Garden , มี Jogging Track ยาว 120 เมตร จาก Facilities ชั้นบนจะสามารถชมวิวเมืองกรุงเทพฯ ได้โดยรอบเลยค่ะ

นอกจากนี้ตัวโครงการมีลิฟท์โดยสารอยู่ 7 ตัว และลิฟท์ขนของอีก 1 ตัว มีอัตราส่วนอยู่ที่ 176 : 1 เกินมาตรฐานไป อาจต้องยืนรอลิฟท์กันบ้าง มีห้องพักอาศัยตกอยู่ที่ 48 ห้อง/ชั้น ก็ค่อนข้างหนาแน่นอยู่ แต่ยังพอรับได้ค่ะ ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วยกล้อง CCTV, Security guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้ง Access card สำหรับเข้าสู่โถงลิฟท์ รวมถึงระบบลิฟท์แบบล็อคชั้น และ Digital Door Lock ถือว่าใช้ได้เลย


:::: คะแนน ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ 8.7 อยู่ใน NCBD สามารถเชื่อมต่อ CBD ชั้นในได้สะดวก อีกทั้งยังเป็นจุดที่เชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าอีกด้วย
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว 8.1 จาก ถ.พระราม 9 สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนสายหลักได้หลายสาย มีทางด่วนศรีรัชเป็นตัวช่วยในการเดินทาง ลงจากทางด่วนมา ซ้ายผ่านตลอดก็ถึงตัวโครงการแล้ว แต่การจราจรในละแวกนั้นก็ค่อนข้างจะหนาแน่นพอตัวค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ 8.7 มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ เป็นจุดเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้า และยังอยู่ใกล้ MRT สถานีพระราม 9 เพียง 450 เมตรอีกด้วย
บ้านและวัสดุ 7.9 ห้องออกแบบมาได้ดีค่ะ อาจจะมีบางจุดที่เล็กไปหน่อยทำให้ไม่ลงตัว วัสดุที่ใช้สวยงามได้มาตรฐาน
สิ่งอำนวยความสะดวก 8.0 สิ่งอำนวยความสะดวกได้มาอย่างหลากหลาย เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ แต่บางจุดเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการแล้วอาจจะน้อยไปหน่อย
ความคุ้มค่ากับราคา 8.0 โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1-3 คน ต้องการหาที่อยู่ในย่านพระราม 9 ทำงานในย่าน NCBD หรือ CBD เดินทางสะดวกทั้งระบบขนส่งสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัว อายุระหว่าง 22-40 ปี
คะแนนรวมเฉลี่ย 8.23 ดีมาก

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 02-316-2222

WEBSITE : https://www.ananda.co.th/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ


สนใจลงโฆษณากับทาง CONDONAYOO ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน 086-1290293 
LINE ID : 123456786205 Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ

แสดงความคิดเห็น

2 ความคิดเห็น

  1. Sunisa
    Sunisa

    มีใบจอง Ideo Rama9-Asoke ส่งต่อค่ะ
    เจ้าของขายเอง
    ห้อง Hybrid Studio และ Hybrid 1-bed
    ห้องราคาโปร ได้ส่วนลดพรีเซลล์ และลูกค้าเก่า (ส่วนลด 150,000- 230,000)
    ติดต่อมาเลยค่ะ บวก 10000 เท่านั้น!! คุยถูกคอลดไปอีก!!
    LineID: nanajany

    ตอบ

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.