EP.195 รีวิว คอนโด เดอะ ไลน์ ราชเทวี The Line Ratchathewi
Written by : THAnATH
สวัสดีผู้อ่านชาว Condonayoo ทุกคนครับ วันนี้ผมพามาชมโครงการ The Line ราชเทวี จากการร่วมทุนกันระหว่าง Sansiri และ BTS ตั้งอยู่ติดกับถนนเพชรบุรีตรงปากซอยเพชรบุรี 18 ใกล้ทางด่วนศรีรัช และทางด่วนเฉลิมมหานคร ใกล้ BTS ราชเทวีประมาณ 220 ม. และ BTS พญาไท ที่เป็นจุดเชื่อมต่อกับ Airport Rail Link พญาไท ประมาณ 650 ม. ห่างจากท่าเรือสะพานหัวช้างประมาณ 750 ม. ในอนาคตมีแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่านด้านหน้าโครงการ รายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม สถานศึกษา และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ห่างจากสยามพารากอนประมาณ 700 ม.
เดอะไลน์ ราชเทวี เป็นคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนที่ดิน 1-2-0 ไร่ ห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 231 ยูนิต มีห้องให้เลือกแบบสตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน, ดูเพล็กซ์, เพนท์เฮ้าส์ ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 27.75 – 119.5 ตร.ม. โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในเดือนพฤษภาคม 2561
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีให้ครบครัน ทั้ง โถงต้อนรับ, สวนส่วนกลาง พร้อมพื้นที่สันทนาการ, Smart Locker, Smart Move, สระว่ายน้ำ, Jacuzzi, ฟิตเนส, Steam Room, Outdoor Movie, Library & Co-Working space, Meeting Room, Roof top Garden, Free Wifi บริเวณส่วนกลาง, Auto Parking, EV Charging Station, Access Card Control, กล้องวงจรปิด พร้อม รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้น 8.59 ล้านบาท
| ชื่อโครงการ | เดอะ ไลน์ ราชเทวี The Line Ratchathewi |
| เจ้าของโครงการ | บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง เอท |
| เนื้อที่ทั้งหมด | 1-2-0 ไร่ |
| จำนวนตึก | 1 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 38 ชั้น |
| จำนวนห้อง | 231 ยูนิต |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 67% หรือ 154 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
| จำนวนลิฟต์ |
|
| โซน | เขตราชเทวี |
| ขนส่งสาธารณะ |
|
| รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
| ที่ตั้ง | ปากซอยเพชรบุรี 18 ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. 10400 |
| กำหนดการ | Pre-Sale ต.ค. 2558 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | พ.ค. 2561 |
| ราคา | 1 Bed เริ่มต้น 8.59 ล้านบาท (มิ.ย. 61) |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ราคาเฉลี่ย 256,000 บาท/ตร.ม. |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| จุดเด่นของโครงการ | The Line ราชเทวี คอนโดใหม่พร้อมอยู่จาก แสนสิริ บนศูนย์กลางเทรนด์แห่งการใช้ชีวิต เพียง 220 เมตร จาก BTS ราชเทวี |
ที่ตั้งโครงการ
ปากซอยเพชรบุรี 18 ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กทม. 10400
พิกัด Google โดยประมาณ : 13.752526, 100.533557
ที่ตั้งโครงการ The Line ราชเทวี อยู่ติดกับถนนเพชรบุรี ตรงปากซอยเพชรบุรี 18 ห่างจากแยกราชเทวีประมาณ 180 ม. และห่างจากแยกประตูน้ำประมาณ 850 ม. ตัวถนนเพชรบุรีเป็นเส้นหลักและเส้นสำคัญของย่านนี้เลยก็ว่าได้ ตัวถนนเพชรบุรีเริ่มตั้งแต่บริเวณแยกยมราช มาตัดกับถนนพระรามที่ 6 ตรงแยกอุรุพงษ์ จากนั้นก็มาตัดกับถนนบรรทัดทองตรงแยกเพชรพระราม และมาตัดกับถนนพญาไทบริเวณแยกราชเทวี จากนั้นมาตัดกับถนนราชปรารภและถนนราชดำริบริเวณแยกประตูน้ำ จากนั้นก็ไปตัดกับถนนชิดลม ถนนวิทยุ ถนนนิคมมักกะสันและซอยสุขุมวิท 3 ตัดกับถนนอโศก-ดินแดงและอโศกมนตรี ตัดกับซอยเพชรบุรี 38/1 ตัดกับซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) และไปสิ้นสุดที่แยกคลองตันโดยตัดกับถนนรามคำแหง ถนนพัฒนาการ และสุขุมวิท 71 จะเห็นว่าถนนเพชรบุรีมีจุดเด่นที่เป็นเส้นที่มีจุดเชื่อมต่อไปยังเส้นต่างๆได้หลากหลายไม่ว่าจะเข้าหรือออกนอกเมืองก็ค่อนข้างจะสะดวก มีจุดขึ้นลงทางด่วนใกล้ๆตรงบริเวณแยกยมราช และตรงด่านเพชรบุรี
การเข้าออกโครงการถ้ามาจากฝั่งประตูน้ำก็เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลย ถ้ามาจากฝั่งแยกราชเทวีต้องไปกลับรถตรงแยกประตูน้ำก่อนครับ ถ้ามาจากถนนพญาไทก็ตรงข้ามแยกราชเทวี ผ่าน BTS ราชเทวี และไปเลี้ยวเข้าซอยเพชรบุรี 18 ตรงสะพานหัวช้าง ซึ่งเป็นซอย One way จากนั้นไปออกปากซอยก็เลี้ยวเข้าโครงการได้เลย ถ้าออกจากโครงการบังคับเลี้ยวซ้ายอย่างเดียวครับ แต่ถ้าจะไปทางแยกประตูน้ำก็ไปกลับรถตรงแยกราชเทวีซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากโครงการเลย
จุดเด่นของทำเลโครงการนอกจากเป็นทำเลใจกลางเมืองแล้ว ยังอยู่ใกล้กับซอยกรุงเทพการบัญชี เป็นซอยเชื่อมกับด้านหลังพารากอน ซอยนี้เป็นซอยส่วนบุคคล รถทั่วไปจะวิ่งจากพารากอนมาออกถนนเพชรบุรีได้อย่างเดียว แต่คนเดินเข้าออกได้ทั้งไปและกลับจากพารากอน โดยเวลาเปิดปิดคือ 10.00 น. – 22.00 น. ซอยนี้มี รปภ. เข้มงวดตลอด 24 ชม. ลูกบ้านจากโครงการถ้าใช้รถ หรือเดินมาจากพารากอนถือว่าสะดวกเลย แต่ถ้าเป็นโครงการฝั่งตรงข้าม หรือฝั่งเลขคี่ต้องไปกลับรถครับ เพราะซอยห้ามเลี้ยวขวา
การเดินทางเข้าเมือง ออกจากโครงการมาจะเป็นถนนเพชรบุรี ถ้ามาเข้าถนนพญาไทตรงแยกราชเทวีบังขับเลี้ยวซ้าย กับตรงเท่านั้น เลี้ยวมาจะมุ่งหน้าไปถนนพระราม 1 มาเข้าสยาม เลยไปเข้าถนนเพลินจิต เชื่อมเข้าสุขุมวิทได้เลย และสามารถเชื่อมออกถนนพระรามสี่ได้อีกครับ หรืออีกฝั่งไปเข้าถนนบำรุงเมืองเข้าเขตพระนครได้ หรือตรงตามถนนพญาไทไปออกสามย่าน หัวลำโพงได้ แต่ถ้าจะไปฝั่งอนุสาวรีย์ชัยฯ ต้องกลับรถใต้สะพานหัวช้าง จากนั้นก็มุ่งหน้าผ่านแยกพญาไท และเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ อีกทางจากโครงการมาทางแยกประตูน้ำที่จะตัดกับถนนราชปรารภ และถนนราชดำริ ถนนราชปรารภวิ่งไปรางน้ำ อนุสาวรีย์ชัยฯ ได้อีกทาง และออกดินแดง วิภาวดีได้ ส่วนถนนราชดำริมาออกเพลินจิตได้ หรือตรงไปออกพระรามสี่ และสีลม สาทร สวนลุมได้ ถ้าวิ่งตามเส้นเพชรบุรีจะไปเข้าซอยย่อยสุขุมวิททางท้ายซอยได้
การเดินทางออกนอกเมือง ถ้าจะออกโซนรังสิตใช้เส้นราชปารภไปออกวิภาวดีรังสิตได้ มีทางด่วนโทลเวย์ให้ขึ้น เส้นวิภาวดีตัดเข้าลาดพร้าวได้ตรงห้าแยกลาดพร้าว ถ้าไปโซนปิ่นเกล้า ใช้เส้นเพชรบุรีวิ่งข้ามแยกราชเทวีไปเข้าหลานหลวง ก็ขึ้นสะพานพระราม 8 ได้ จะลงปิ่นเกล้า หรือยิงยาวขึ้นทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีออกพุทธมณฑลสายต่างๆ ไปนครปฐมได้เลย ถ้าไปโซนบางนา จะใส้เส้นสุขุมวิทก็ได้วิ่งตามแนว BTS ไปได้เลย ยาวไปจนถึงสมุทรปราการได้ หรือถ้าใช้เส้นเพชรบุรีวิ่งไปตัดเข้าสุขุมวิท 71 (พระโขนง) ออกสุขุมวิทได้ หรือตรงข้ามไปเข้าถนนพัฒนาการตัดออกศรีนครินทร์ได้ เส้นราชดำริวิ่งมาพระรามสี่ เข้าสาทร วิ่งตรงข้ามสะพานตากสินไปฝั่งธน ยาวออกไปวงเวียนใหญ่ ราชพฤกษ์ กัลปพฤกษ์ ได้เลย
ทางด่วน ที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนศรีรัช ด่านยมราช ห่างจากโครงการประมาณ 1.5 กม. ใช้เส้นเพชรบุรีวิ่งตรงไปทางอุรุพงษ์จะเจอป้ายบอกขึ้นทางด่วน
ทางด่วน อีกเส้นที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านเพชรบุรี ห่างจากโครงการประมาณ 2.1 กม. โดยใช้เส้นเพชรบุรีวิ่งข้ามแยกประตูน้ำมาจะเจอป้ายบอกขึ้นทางด่วนครับ
การเดินทางโดยสาธารณะ มีให้เลือกหลากหลายเลย โดยจุดเด่นโครงการคืออยู่ห่างจาก BTS ราชเทวีประมาณ 220 ม. ถึงบันไดเลื่อนขึ้นตัวสถานีได้เลย เป็นระยะที่เดินสบายๆครับ มีทางเท้าเดินสะดวกตั้งแต่หน้าโครงการถึงบันไดเลื่อน ข้อดีของโครงการฝั่งเลขคู่คือไม่ต้องข้ามถนนมาขึ้น BTS เหมือนฝั่งเลขคี่ นอกจากนี้ยังอยู่ห่างจาก BTS พญาไท ประมาณ 650 ม. และเป็นจุดเชื่อมต่อกับ Airport Rail Link พญาไท ระยะเดินก็พอเดินได้มีเหงื่อตกกันบ้าง แต่ถ้าเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิบ่อยๆผมว่าสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะพอสมควรครับ
ตรงปากซอยเพชรบุรี 20 มีป้ายรถเมล์ มีรถวิ่งผ่านไปมาหลายสายเกือบตลอดทั้งคืน มีสะพานลอยเดินข้ามฝั่งได้สะดวก มีวินมอเตอร์ไซค์ด้านหน้าโครงการ และอีกหลายจุดในบริเวณใกล้เคียง หน้าโครงการติดถนนเพชรบุรีก็โบก Taxi ได้เลย ถ้ามาแถวประตูน้ำจะมีรถตู้ให้บริการหลายสายไม่ว่าจะไปรังสิต ดอนเมือง สะพานใหม่ ลาดพร้าว สี่พระยา โบกขึ้นได้เลยครับ นอกจากนี้ยังมีระบบขนส่งทางน้ำเรือโดยสารคลองแสนแสบที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการโดยต้นทางอยู่ที่สะพานผ่านฟ้า ไปสุดที่วัดศรีบุญเรือง ท่าเรือที่ใกล้โครงการคือท่าเรือสะพานหัวช้างระยะเดินจากโครงการมาประมาณ 750 ม. และท่าเรือประตูน้ำประมาณ 900 ม. เผื่อใครเบื่อรถติดจะนั่งเรือไปต่อ MRT ก็เป็นทางเลือกที่ดี
ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่านเส้นเพชรบุรี โดยเป็นแนวรถไฟฟ้าที่เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกมีระยะทางรวม 35.4 กม. ต้นทางอยู่ที่สถานีบางขุนนนท์ที่เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน(ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ) และไปสิ้นสุดที่สถานีสุวินทวงศ์ ส่วนสถานีที่ใกล้โครงการคือสถานีราชเทวี และสถานีประตูน้ำ ต่อไปคงจะสะดวกเพิ่มขึ้นไปอีกครับ
จากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นว่าพื้นที่บริเวณรอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัย ทั้งตึกแถว บ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมที่กระจุกตัวอยู่ใกล้ๆโครงการ ทั้งโครงการเดิมที่สร้างเสร็จและโครงการใหม่ที่กำลังก่อสร้างอยู่ เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่ฮอทในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาครับ ส่วนราคาย่านนี้ก็โดดสูงไปพอสมควร ซึ่ง The Line ราชเทวี ทำราคาออกมาสูงที่สุดในย่านนี้ และปิดการขายได้ในวัน Pre-sale โดยส่วนใหญ่ที่ขายจะเป็นห้อง Resale ตอนนี้ขายกันอยู่ที่ 240,000 – 310,000 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับชั้นและตำแหน่งของห้อง WISH Signature ตัวแรกตอนนี้ขายกันอยู่ที่ 140,000 – 200,000 บาทต่อตารางเมตร WISH Signature ตัวที่สองตอนนี้ขายเริ่มต้นที่ 180,000 บาทต่อตารางเมตร Ideo Q ราชเทวี ตอนนี้ขายกันอยู่ที่ 170,000 – 200,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วน Ideo Q สยาม-ราชเทวี ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 180,000 – 210,000 บาทต่อตารางเมตร
ตัวทำเลด้วยความที่ใกล้กับสยามและสถานที่สำคัญอย่างที่ผมไฮไลท์ให้ดูมีทั้งห้างสรรพสินค้าที่สำคัญของกรุงเทพฯทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอร์รี่ และเซ็นทรัลเวิลด์ มีโรงแรมระดับ 5 ดาวอย่าง Kempinsik ใกล้กันเป็นวังสระปทุม ซึ่งถ้าเรานั่ง BTS จากราชเทวีมาสยามมองลงมาที่วังจะเห็นต้นไม้ปกคลุมหนาแน่น มีการดูแลเป็นอย่างดี เป็นสถานที่อันทรงคุณค่าเป็นอย่างมาก นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงก็ยังรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า สถานศึกษาสำคัญอันดับต้นๆอีกหลายแห่ง
การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนราชดำริ มุ่งหน้าไปทางแยกประตูน้ำ และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรบุรี จากนั้นตรงไปอีกประมาณ 850 ม. พื้นที่โครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ ตรงปากซอยเพชรบุรี 18
สรุปการเดินทาง ถนนราชดำริ > แยกประตูน้ำ > ถนนเพชรบุรี > The Line ราชเทวี
เริ่มจากถนนราชดำริมุ่งหน้าไปทางแยกประตูน้ำ ซ้ายมือเป็น Central World ขวามือเป็น Gaysorn Village
ถ้ดมาขวามือเป็น Arnoma Grand Bangkok ติดกันเป็น Big C ราชดำริ เราจะเห็น Sky Walk ที่เชื่อมตั้งแต่ Gaysorn Village ยาวไปจนถึง Platinum เลย
ถัดมาขวามือเป็น The Market by Platinum กำลังก่อสร้างกันอยู่ ซ้ายมือมองเห็นโรงแรม Novotel
จากนั้นจะเจอแยกประตูน้ำ เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเพชรบุรีครับ ข้างหน้ามองเป็นตึกใบหยก 2 ขวามือเป็น The Palladium World Shopping
จากนั้นเราเลี้ยวซ้ายตรงแยกประตูน้ำครับ
เลี้ยวซ้ายมาจะเจอ Platinum Fashion Mall จากแยกประตูน้ำไปโครงการอีกประมาณ 850 ม.
ถัดมาซ้ายมือเป็น Grand Diamond Plaza ขวามือเป็น Shibuya
เลยมาอีกซ้ายมือเป็นห้างพันธุ์ทิพย์
ติดกันเป็นสถานฑูตอินโดนีเซีย ขวามือจะเห็น Ideo Q สยาม-ราชเทวี
ถัดมาจะเจอซอยกรุงเทพการบัญชี ปากซอยมี 7-11 และห้างเล้งนาฬิกา ซอยนี้เป็นซอยส่วนบุคคลครับ รถวิ่งออกมาจากหลังพารากอนได้ เลี้ยวเข้าไปไม่ได้ แต่เดินไปพารากอนได้นะครับ
ถัดมาอีกจะเป็นกรมการพลังงานทหาร ติดกันข้างหน้าก็ถึงโครงการแล้วครับ
ตัวโครงการอยู่ติดกับปากซอยเพชรบุรี 18 เลย
อีกทางผมจากพาเดินจาก BTS ราชเทวี ไปโครงการระยะทางประมาณ 220 ม. โดยออกทางออก 4 และเดินย้อนขึ้นไปทางแยกราชเทวี และเลี้ยวขวาเดินเลียบถนนเพชรบุรีไปจนถึงโครงการ ทางเดินนี้ค่อนข้างสะดวกมีทางเท้าตั้งแต่ตัวสถานีไปจนถึงหน้าโครงการเลย ข้อดีของพื้นที่โครงการคืออยู่ฝั่งเดียวกับตัวสถานีไม่ต้องรอข้ามถนน
เริ่มจาก BTS ราชเทวี
จากบนสถานีมองไปที่แยกราชเทวี จะเห็นโครงการคอนโดมิเนียมรุ่นก่อนๆหลายโครงการเลย และตรงหัวมุมฝั่งซ้ายแยกนี้ แปลงที่ดินหมายเลข 1 ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จะมีโครงการ Aspiration One โครงการอาคารสำนักงานสูง 30 ชั้น เช่ายาว 30 ปี มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้าง
มองมาทางขวาหน่อย จะเริ่มเห็นโครงการใหม่ๆเปิดตัวตามเส้นเพชรบุรี ตรงที่ดินของตระกูลจุฬางกูรจะทำเป็นโรงแรม และอาคารสำนักงาน
ติดกับตัวสถานีมองลงมาจะเห็น CoCo Walk มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านนั่งชิลล์ให้เลือกหลายร้านครับ
จากสถานี BTS เราจะออกทางออก 4
เดินลงบันไดมาจะเจอ CoCo Walk ซ้ายมือ
ตรงนี้มีวินมอเตอร์ไซค์
อัตราค่าบริการพี่วินมอเตอร์ไซค์ ราคาเริ่มที่ 25 บาท
จากนั้นเราจะเดินย้อนขึ้นไปทางแยกราชเทวีครับ
เดินมาซ้ายมือเป็นบันไดเลื่อนขึ้นสถานี จากโครงการมาถึงตรงนี้ประมาณ 220 ม.
จากนั้นจะเจอแยกราชเทวีตรงหน้า มีวินมอเตอร์ไซค์ตรงนี้ด้วย
อัตราค่าบริการวินสี่แยกราชเทวี
จากนั้นเราเลี้ยวขวาต่อครับ เดินตามทางเท้าริมถนนเพชรบุรีไปจนถึงโครงการได้เลยสะดวกดี
ถัดมาเป็นโครงการบ้านกลางกรุง และโครงการ The Address ปทุมวัน
ถัดมาจะเป็นพื้นที่ว่างเปล่า มีวินมอเตอร์ไซค์ ข้างหน้าติดกันก็เป็นพื้นที่โครงการแล้วครับ
อัตราค่าบริการ
ขวามือจะเป็นพื้นที่โครงการ
ด้านหน้าโครงการจะไม่มีรั้วทึบ แต่ออกแบบเป็นแนวพุ่มไม้ และต้นไม้
พื้นที่โครงการทิศเหนือด้านหน้าโครงการติดกับถนนเพชรบุรีฝั่งมุ่งหน้าไปทางแยกราชเทวี ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นแนวอาคารพาณิชย์ ทิศใต้ด้านหลังโครงการติดกับพื้นที่ว่างเปล่า ถัดออกมาอีกเป็นโครงการ The Addess ปทุมวัน 8 ชั้น ฝั่งทิศตะวันออกติดกับซอยเพชรบุรี 18 ถัดออกมาเป็นกรมการพลังงานทหาร ฝั่งทิศตะวันตกตรงส่วนด้านหนาติดกับพื้นที่ว่างเปล่า ส่วนด้านหลังติดกับโครงการบ้านกลางกรุง 27 ชั้น
ด้านหน้าโครงการติดกับถนนเพชรบุรี
ขอบเขตด้านหน้าโครงการ
ด้านซ้ายติดกับซอยเพชรบุรี 18 ถัดออกมาเป็นกรมการพลังงานทหาร ถัดออกไปอีกเป็นโครงการ The Address สยาม สูง 27 ชั้น
ฝั่งขวาติดกับพื้นที่ว่างเปล่า ถัดออกไปอีกเป็นโครงการบ้านกลางกรุงสูง 27 ชั้น
ฝั่งตรงข้ามด้านหน้าโครงการ เป็นแนวอาคารพาณิชย์ ขวามือเป็นโครงการ Ideo Q ราชเทวีสูง 37 ชั้น
มองไปทางแยกราชเทวี มีสะพานข้ามแยกราชเทวี
มองไปทางฝั่งแยกประตูน้ำ
หน้าโครงการจะอยู่ตรงปากซอยเพชรบุรี 18 พอดี
ซอยเพชรบุรี 18 เป็นซอย One way รถวิ่งออกมาได้อย่างเดียวเลี้ยวเข้ามจากทางนี้ไม่ได้ ซอยนี้จะเชื่อมมาจากถนนพญาไทตรงสะพานหัวช้างครับ ซ้ายมือมีร้าน Cafe Amazon
เดินเข้าซอยมาขวามือเป็นรั้วด้านข้างโครงการ มีประตูด้านข้างไว้เปิดเข้าออกในกรณีฉุกเฉินครับ
เดินมาสุดแนวรั้วโครงการ ด้านหลังจะติดกับพื้นที่ว่างเปล่า
มองไปฝั่งปากซอยเพชรบุรี 18
พื้นที่ว่างเปล่าด้านหลังโครงการ ขนาดพอจะสร้างอาคารได้ แต่ก็สูงไม่เกิน 8 ชั้นครับ ซึ่งไม่มีผลกับวิวชั้นพักอาศัยของโครงการเนื่องจากชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 11
แนวรั้วด้านหลังโครงการ
เงยหน้ามองด้านบน
เดี๋ยวผมพาเดินไปออกถนนพญาไทตรงสะพานหัวช้างต่อครับ
ถัดจากพื้นที่ด้านหลังโครงการก็เดินเข้ามาในซอยต่อ ซ้ายมือมีร้านรถเข็นขายอาหาร
ถัดมาเป็นวินมอเตอร์ไซค์
ถัดเข้ามาในซอยส่วนใหญ่จะเป็นหอพัก อพาร์ทเม้นท์ มีร้านอาหารตามสั่งอยู่ริมสองฝั่งทาง
ซ้ายมือมีร้านขายน้ำ ขนม ส้มตำ
ตรงมาสุดทางเลี้ยวขวาตรงแยก
เลี้ยวมาช่วงนี้จะเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์
มีร้านค้า ร้านโชห่วย ร้านอาหารต่างๆ
ตรงมาสุดจะเจอปากทางที่เชื่อมกับถนนพญาไท ตรงหน้าจะเป็นทางขึ้นสะพานหัวช้างพอดี
มองไปทางขวาจะเห็นทางเบี่ยงจากถนนพญาไท ถ้าจะไปโครงการมาจากถนนพญาไทผ่านแยกราชเทวีมาเข้าซอยนี้ไปออกถนนเพชรบุรีเข้าโครงการได้เลย
มองไปทางซ้าย จะเห็นทางกลับรถใต้สะพานหัวช้าง
เดี๋ยวผมจะพาเดินจากโครงการไปพารากอนระยะทางประมาณ 700 ม. โดยเดินไปเข้าซอยกรุงเทพการบัญชี จะไปเชื่อมเข้าด้านหลังพารากอนได้ครับ
เริ่มตรงหน้าโครงการปากซอยเพชรบุรี 18 เดินตามทางเท้าไปครับ
ผ่านหน้ากรมการพลังงานทหาร
ถัดมาอีกจะเจอโครงการ WISH Signature Midtown Siam
และจะเจอซอยเพชรบุรี 20 ตรงปากซอยเป็นโครงการ WISH Signature II Midtown Siam
ด้านหน้าปากซอยจะเป็นป้ายรถเมล์ มีรถวิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้าและออกเมือง มีสะพานลอยเดินข้ามฝั่งได้สะดวก
ถัดมาเป็นเล้งนาฬิกา
เลยมามีร้านก๋วยเตี๋ยว ถัดไปเป็นซอยกรุงเทพการบัญชี ซึ่งเราจะเดินเข้าซอยนี้ไปครับ
ซอยกรุงเทพการบัญชีนี้เป็นซอยส่วนบุคคลเชื่อมกับซอยด้านหลังพารากอนได้ มี รปภ. คุมเข้มงวดตลอด 24 ชม. รถที่เลี้ยวเข้าจากฝั่งเพชรบุรีได้ต้องมีสติ๊กเกอร์แปะหน้ารถเท่านั้น ถ้าเผลอเลี้ยวเข้าไปจะมี รปภ. คอยตรวจและให้เลี้ยวกลับออกมา รถทั่วไปจะออกมาจากฝั่งพารากอนได้อย่างเดียวครับ ส่วนถ้าเป็นคนเดินก็ได้ทั้งเดินเข้าและออกได้ เวลาเปิด ปิดคือ 10.00 น. – 22.00 น. คือเวลาเปิดปิดห้างนั่นเองครับ
ปากซอยมี 7-11
เดินเข้ามาในซอยขวามือเป็นที่ดินของเล้งนาฬิกา
ถัดเข้ามาจะเป็นที่ดินโครงการ WISH Signature II Midtown Siam
จากนั้นจะเป็นอาคารของโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย
ถัดมาซ้ายมือเป็นโรงเรียนดุสิตธานีการโรงแรม ซึ่งแต่เดิมเป็นโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นให้เช่าที่แทนครับ ขวามือเป็นบ้านพักอาศัย
ถัดมาจะเข้าเขตคุมเข้มซึ่งจะเป็นที่ดินในการดูแลของพารากอน มีป้ายห้ามเสียงดัง ห้ามรถหนักเกิน 2 ตัน ส่วนที่เห็นล้อมรั้วอยู่คือ Chatrium เป็นโรงแรม และสำนักงานครับ
มีป้ายข้อปฏิบัติสำหรับการใช้สะพานบอกไว้ชัดเจน
เงยหน้ามองจะเป็นอาคารที่กำลังก่อสร้างอยู่คือ Chatrium เป็นโรงแรม สำนักงานครับ
จากนั้นจะเห็น รปภ. ก่อนขึ้นสะพานข้ามคลองแสนแสบ ตอนนี้เราเข้าเขตพารากอนแล้วนะครับ
ขึ้นมาบนสะพานข้ามคลองแสนแสบ
จากบนสะพานมองไปฝั่งประตูน้ำ สภาพคลองวันที่ไปถ่ายไม่มีกลิ่นนะครับ ส่วนสีน้ำก็ตามที่เห็น
กลับมาทางเดิม เดินตามทางไปครับ ซ้ายมือจะเป็นโรงแรม Siam Kempinski
ลงสะพานมาขวามือเป็นพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เป็นส่วนหนึ่งในวังสระปทุม ซึ่งไม่ได้เปิดให้เข้าชมตลอดนะครับ เปิดเป็นช่วงๆ จะเห็นต้นไม้ปกคลุมหนาแน่นเลย
กลับออกมาทางเดิม เดินไปอีกหน่อยครับ
จากนั้นซ้ายมือจะเจอทางเข้าโรงแรม Siam Kempinski
Siam Kempinski โรงแรมระดับ 5 ดาว ตัวโรงแรมอยู่ติดกับด้านหลังพารากอนเลย
ผ่านทางเข้าโรงแรมไปอีกจะเจอพารากอนครับ
เดินออกมาจะเห็นด้านหลังพารากอนพอดี ประตูเข้าห้างมีทั้งฝั่งซ้าย และฝั่งขวาครับ เลือกเข้าได้เลย
ผมจะพาเดินจากโครงการไปทางฝั่งแยกประตูน้ำ และไปสิ้นสุดที่ Sky Walk หน้า Central World
กลับมาตรงปากซอยกรุงเทพการบัญชี เดี๋ยวผมพาเดินไปทางแยกประตูน้ำต่อ
ผ่านมาจะเจอร้านสปาแจ่มจันทร์
ติดกันเป็นธนาคารธนชาติ
เลยมาอีกเป็นสถานฑูตอินโดนีเซีย
เลยมาอีกเป็นห้างพันธ์ุทิพย์ ซ้ายมือมีวินมอเตอร์ไซค์
มองไปฝั่งตรงข้ามเป็น Shibuya
ถัดมาเป็นซอยเพชรบุรี 22 มีร้านค้า ร้านอาหาร
ติดกันเป็นธนาคารกรุงศรี
ถัดมาเป็น Grand Diamond Plaza มี Starbucks
เลยมาอีกนิดจะเป็น Platinum Fashion Mall ของขายเพียบ ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้าทั้งปลีกและส่ง
ด้านห้างก็มีร้านค้ายาวตลอดแนว จะเห็นว่าคนคึกคักเกือบทุกวันทั้งชาวไทย และต่างชาติ
Platinum Fashion Mall ตัวอาคารยาวไปถึงแยกประตูน้ำเลย
ร้านค้าด้านหน้าห้างหลายร้านเลย
ตรงนี้มี McDonald เปิด 24 ชม.
ซ้ายมือมีร้านฟู้ดทรัค
ถัดมาอีกหน่อยมี Starbucks
มุมสุดติดกับแยกประตูน้ำ มีโรงแรม Novotel ตรงหน้าจะเห็น Sky Walk
Sky Walk เดินเชื่อมไป Central World ได้
เดินขึ้นมาบน Sky Walk
ขึ้นมาแล้วมองไปที่แยกประตูน้ำ จะเห็น The Palladium ฝั่งซ้ายจะเป็นประตูน้ำ มีเสื้อผ้าของใช้ขายในราคาส่งเป็นย่านฮิตของพ่อค้าแม่ค้า ที่มาเหมาไปขายต่อครับ
ขึ้นมาบน Sky Walk มองไปฝั่งขวาจะไปเข้า Platinum Fashion Mall ได้
มองไปอีกฝั่งไปทางแยกราชประสงค์
เดินตาม Sky Walk ไปครับ
ที่ดินด้านข้างห้าง Central World ฝั่ง Isetan กำลังได้รับการพัฒนาเป็นสวนสาธารณะขนาด 40 ไร่ เพื่อประโยชน์ของสังคมโดยรวม โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีคือ “สวนปทุมวนานุรักษ์”
มองไปอีกฝั่งจะเห็นโครงการ The Market by Platinum อยู่ติดกับ Big C ราชประสงค์
หันกลับมาตามทางเดินต่อ ขวามือเห็นป้าย Central World แล้ว
และจะเจอทางลงไป Central World เดินต่อไปในห้างเชื่อมไปสยามได้ ส่วน Sky Walk มีทางเดินเชื่อมไปอีกจนถึง Gaysorn Village และเดินต่อไป BTS ชิดลมได้
มองไปฝั่งแยกประตูน้ำ
มองไปฝั่งแยกราชประสงค์
ความอุดมสมบูรณ์ย่านนี้รอบๆโครงการมีทั้งอาคารสำนักงาน สถานศึกษาชื่อดัง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และร้านอาหารให้เลือกเยอะพอสมควร ตั้งแต่ริมทางไปจนถึงร้านหรูๆในห้าง ตรงด้านหน้ากรมการพลังงานทหารมี Cafe Amazon ในซอยเพชรบุรี 18 มีร้านอาหารรถเข็น ร้านอาหารตามสั่ง ส้มตำ ร้านโชห่วย หรือเดินมาตรง BTS ราชเทวีก็มีร้านน้ำ ร้านรถเข็น มี CoCo Walk ร้านนั่งชิวหลายร้าน ถ้ามาตรงปากซอยกรุงเทพการบัญชี มี 7-11 หรือเดินเข้าซอยไปผ่านโรงแรมสยามเคมปินสกี้ และเข้าด้านหลังพารากอนในระยะเดินประมาณ 700 ม. พอเรามาถึงพารากอนแล้วก็สบายแล้วครับ คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องความอุดมสมบูรณ์ว่าแถวนี้มีอะไรบ้าง น่าจะทราบดีกันทุกท่าน เลือกทาน เลือกช้อปได้ตามอัธยาศัยเลยครับ หรือจะไป Siam Center, Siam Discovery, Siam Square, Siam Square One, MBK ก็เดินเชื่อมต่อจากพารากอนได้สบายๆ หรือถัดไปอีกหน่อยก็เป็นเซ็นทรัลเวิล์ด เซ็นทรัลชิดลม เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ส่วนแถวประตูน้ำก็ใกล้ๆ มีห้างพันธุ์ทิพย์, Grand Diamond Plaza, Platinum Fashion Mall, พาลาเดียม, ประตูน้ำ, Central World, The Market, Big C ราชดำริ, Gaysorn Village อนาคตมีสไมล์สแควร์อีก ทั้งหมดนี้คือแหล่งช๊อปปิ้งที่สมบูรณ์ที่สุดของกรุงเทพฯแล้ว เลือกได้เลยจะนั่งรถสาธารณะ หรือขับไปเอง หรือจะเดินไปก็ไม่ยากเลย
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
Floor Plan
Master Plan โครงการ เริ่มจากทางเข้าออกโครงการ ด้านหน้าจะมีสวนหย่อมมีทางเดินเชื่อมเข้ามาทางเข้า Lobby ได้ จากถนนทางเข้าผ่านเข้ามาตรงหน้าจะเป็น Drop Off วนรถจอดหน้า Lobby ได้เลย หรืออีกทางเลี้ยวซ้ายมาด้านข้างอาคารจะมาเจอที่จอดรถแบบ Auto Parking จอดได้ 16 คัน ถัดเข้ามาอีกจะเจอไม้กระดก ผ่านเข้ามาด้านหลังอาคารจะมีที่จอดรถใต้อาคาร วนไปด้านข้างอาคารอีกฝั่งจะเจอทางเข้าที่จอดรถในอาคาร จอดได้ถึงชั้น 10 รวมทั้งโครงการจอดรถได้ประมาณ 67% ไม่รวมซ้อนคัน จาก Drop Off เข้าอาคารมาจะเจอ Lobby ถัดเข้าไปจะเป็น Mail Room จากนั้นจะเป็นโถงลิฟท์ มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว
แปลนชั้น 11 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัย มีห้องพัก 5 ยูนิต แบ่งเป็นห้อง 1 Bed 3 ยูนิต, 2 Bed 2 ยูนิต และที่ชั้นนี้จะมี Facility อยู่ด้วย โดยจะอยู่ตรงโซนด้านหน้าอาคารทั้งหมด มีสระว่ายน้ำขนาด 22 x 5 ม.ลึก 1.2 ม. แบ่งสระเด็ก ปลายสระมีส่วนที่เป็น Jacuzzi ตรงสระว่ายน้ำจะมีจอโปรเจคเตอร์ติดตั้งไว้ให้สามารถดูหนังได้ในตอนกลางคืน ถัดมาเป็นห้องฟิตเนส ห้องน้ำแยกชายหญิงพร้อมห้อง Steam
แปลนชั้น 12-29 เหมือนกันครับ มีห้องพักอาศัยชั้นละ 11 ยูนิต แบ่งเป็น Studio 1 ยูนิต, 1 Bed 6 ยูนิต, 2 Bed 4 ยูนิต วิวฝั่งทิศเหนือและตะวันตกจะได้วิวสระว่ายน้ำ ฝั่งทิศเหนือวิวมองยาวออกไปทางอนุสาวรีย์ชัยฯ ส่วนทิศตะวันตกฝั่งนี้ติดกับโครงการบ้านกลางกรุงสูง 27 ชั้น ในระยะประชิดยูนิตพักอาศัยฝั่งนี้ผนังจะเน้นไปทางผนังทึบมากกว่า แต่ก็เว้นช่องกระจกไว้ให้บ้าง วิวฝั่งตะวันออกระยะประชิดจะโล่งหน่อย ถัดมาประมาณ 70 ม. จะโดนบล็อควิวจากโครงการ The Address สยาม 27 ชั้น ติดกันเป็นโครงการ Wish Signature สูง 45 ชั้น ยูนิตชั้น 28 ขึ้นไปวิวจะโล่งบางส่วน ส่วนวิวที่โล่งอีกฝั่งของโครงการคือฝั่งทิศใต้ มองเห็นวังสระปทุม และด้านหลังพารากอน
แปลนชั้น 30 ยูนิตพักอาศัยจะเหลือเพียง 6 ยูนิต แบ่งเป็น 1 Bed 4 ยูนิต, 2 Bed 2 ยูนิต โซนด้านหน้าอาคารยูนิตจะหายไปเนื่องจากเป็นส่วนของระยะร่นอาคาร
แปลนชั้น 31 มียูนิตพักอาศัย 3 ยูนิต แบ่งเป็น 2 Bed 1 ยูนิต, 3 Bed 1 ยูนิต, Duplex 2 Bed 1 ยูนิต และที่ชั้นนี้จะมีส่วนกลางอยู่ด้วยทางฝั่งทิศตะวันออก มี Library 2 ชั้น มีทางเดินเชื่อมออกมาสวนด้านหน้า
แปลนชั้น 32 มียูนิตพักอาศัย 3 ยูนิต เหมือนชั้น 31 และมีส่วนกลางชั้น 2 ของ Library มีประตูทางเข้าส่วนกลางได้เฉพาะลูกบ้านชั้นนี้เท่านั้น
แปลนชั้น 33, 35 เป็นชั้นพักอาศัยมี 4 ยูนิต แบ่งเป็น 2 Bed 1 ยูนิต, 3 Bed 2 ยูนิต, Duplex 2 Bed 1 ยูนิต
แปลนชั้น 34, 36 จะเหมือชั้น 33 ตรงตำแหน่งห้อง Duplex จะเป็นส่วนของชั้นสอง
แปลนชั้น 37 มียูนิตพักอาศัย 3 ยูนิต แบ่งเป็นฝั่งทิศใต้ 2 Bed 1 ยูนิต, 3 Bed 1 ยูนิต ฝั่งทิศเหนือจะเป็นห้อง Penthouse 3 Bed ขนาดใหญ่สุดของโครงการ
แปลนชั้น 38 เป็นชั้นบนสุด จัดเป็นสวนหย่อมมาให้ทั้งชั้น ลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้นนี้ แบ่งสวนเป็น 2 ฝั่ง
โครงการ
The Line ราชเทวี เป็นโครงการที่ 3 ของแสนสิริที่ใช้แบรนด์ The Line ซึ่ง Pre-salesในวันที่ 31 ตุลาคม และ 1 พฤศจิกายนปี 2558 ที่กรุงเทพฯ และฮ่องกง และปิดการขายได้ในวันเดียว ในราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 6.99 – 30 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท ตัวโครงการถือว่าสร้างเสร็จก่อนกำหนด ตอนนี้พร้อมโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ก็ยังมีห้องหลุดดาวน์มาให้เลือกอยู่ โดยที่โครงการขายอยู่ตอนนี้ ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลจะมีห้อง 1 Bed ขนาด 33.49 ตร.ม. ราคาอยู่ที่ 8.59 ล้านบาท ส่วนราคา Resale เฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 260,000 บาท ใครที่สนใจโครงการนี้ก็ลองแวะเข้าไปเยี่ยมชมกันได้ครับ
รูปแบบโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-2-0 ไร่ ตัวอาคารรูปทรงตัว L เรียบๆวางอาคารตามแนวที่ดิน เล่นลวดลายที่ Facade มีระแนงอลูมิเนียมตกแต่งสี Copper สลับกับไฟ LED ตอนกลางคืนดูสวยดีครับ ซึ่งเส้นสายที่ดูมีชีวิตชีวาบน Facade ถูกดีไซน์ด้วย Parametric Program ที่เจาะจงไล่ความลึกตึ้นไม่เท่ากัน เพื่อให้เกิดมิติที่หลากหลาย เมื่อมองในองศาที่ต่างกัน โดย Parametric Program เป็นนวัตกรรมที่วงการออกแบบระดับแนวหน้าเลือกใช้เพราะมีความละเอียด และแม่นยำสูง สีภายนอกอาคารหลักๆจะใช้โทนเทาเข้ม ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 11-37 ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 1, 11, 31, 38 จอดรถได้ที่ชั้น 1-11
มุมมองจากด้านบนฝั่งด้านหน้าโครงการ
มุมมองจากด้านหลัง
ด้านหน้าทางเข้าออกโครงการ มีประตูรั้วเลื่อน
ด้านซ้ายมีป้อม รปภ. มีป้ายชื่อโครงการติดอยู่ด้านหน้าและตกแต่งสวน
ด้านขวาจะมีทางคนเดินแยกไว้ พร้อมสวนตกแต่งเชื่อมเข้าไปด้านใน
ผ่านเข้ามาจะเป็นถนนในโครงการ ตรงหน้าจะเป็น Drop Off เลี้ยวซ้ายไปที่จอดรถ
มองกลับไปที่ทางเข้าออก ขวามือเป็นศาล
บริเวณสวนด้านหน้าที่เชื่อมจากทางเดิน
เข้ามาด้านในสวน จะมีต้นไม้ใหญ่ และพุ่มไม้
สวนเล่นระดับ ตรงผนังแนวดินกรุด้วยหินแกรนิตสีดำ มีที่นั่งพักผ่อน
ม้านั่งเป็นหิน Fusion Red Marble นำเข้าจาก Brazil
มองเข้าไปด้านใน มีทางเดินเชื่อมไปหน้าทางเข้า Lobby
สองฝั่งทางจะเป็นพุ่มไม้
เงยหน้ามองด้านบนจะเห็นส่วนของอาคาร ระแนงอลูมิเนียมสี Copper วางไล่ความลึกตึ้นไม่เท่ากัน เพื่อให้เกิดมิติที่หลากหลาย
เมื่อมองในองศาที่ต่างกัน แทรกด้วยแนวเส้นไฟ LED เวลากลางคืนแสงจะสะท้อนกับอลูมิเนียมดูสวยไปอีกแบบ นอกจากนี้ที่ผนังยังแปะแผ่นหิน Matrix Granite นำเข้าจากอิตาลี เพื่อความสวยงานอีกด้วย
เดินเข้ามาซ้ายมือจะเป็นทางเดินเชื่อมเข้า Lobby สวนจะยาวเข้าไปอีก
เดินเข้ามาสุด เลี้ยวไปจะเชื่อมกับด้านข้างอาคาร ผนังอาคารซ้ายมือ มีการใช้ลวดสลิงเพื่อให้ไม้เลื้อยตามแนวดิ่ง
มองกลับไปฝั่งด้านหน้า จะเห็นผนังส่วนของ Lobby ขวามือ
กลับออกมาที่ถนน เดินไปดูรอบๆอาคารต่อครับ ซ้ายมือเป็นศาล ตรงหน้าจะเห็นประตูเลื่อนฝั่งด้านข้าง ซึ่งจะไว้สำหรับกรณีจำเป็นเท่านั้นครับ
เดินมาด้านข้างอาคาร เป็นทางรถวิ่งไปเข้าที่จอดรถ ที่รั้วโครงการ มีตกแต่งด้วยอลูมิเนียมสี Copper
เงยหน้ามองตัวอาคาร ฝั่งด้านข้างตรงชั้นจอดรถจะมีแนวไม้เลื้อยปลูกไว้
เดินเข้ามาขวามือจะเป็นที่จอดรถแบบอัตโนมัติจอดได้ 16 คัน เพียงใช้ Key Card แตะ และจะมีพนักงานคอยดูแลให้คำแนะนำตลอด
ถัดเข้ามาจะเจอไม้กระดกแบบระยะไกล เป็นแบบ Easy Pass แบ่งฝั่งเข้าออก มีตัวเลขบอกจำนวนรถที่จอดว่ากี่คัน
ผ่านเข้ามา วนมาด้านหลังโครงการ มีที่จอดรถใต้อาคาร
เดินมาด้านข้างอาคารอีกฝั่ง ขวามือจะเป็นทางเข้าที่จอดรถในอาคาร ซ้ายมือจะมีสวนหย่อม
บริเวณสวนจะคล้ายๆกับด้านหน้าโครงการ มีม้านั่งหิน Fusion Red Marble นำเข้าจาก Brazil
ด้านในสุดตกแต่งเป็นสวนที่เชื่อมมาจากด้านหน้า
ทางเข้าที่จอดรถในอาคาร
ผ่านเข้ามาจะเป็นทางลาดขึ้นไป
ขึ้นมาตรงหน้าจะเจอ EV Charging Station
EV Charging Station มีจำนวน 2 เครื่อง 4 หัวจ่ายไฟฟ้า
และมีทางวนขึ้นไป จอดได้จนถึงชั้น 10
ที่จอดรถจะแบ่งสองฝั่ง ตรงกลางเป็นโถงลิฟท์
บริเวณโถงลิฟท์ชั้นจอดรถ วันที่เข้าไปเก็บภาพตัวโครงการยังอยู่ในช่วงเก็บรายละเอียดอยู่นะครับ
ภาพ BMW i3 จากโครงการ The Line จตุจักร-หมอชิต
ส่วนกลางที่นี่จะมีบริการใหม่ของแสนสิริบนแพลตฟอร์ม “Smart Move” บริการยานพาหนะระบบเช่าในโครงการของแสนสิริเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน โดยได้ Haupcar (ฮอปคาร์) ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและให้บริการคาร์แชร์ริ่งเจ้าแรกของไทยเข้ามาเป็นพันธมิตรในการบริหารระบบจัดการ การจองและปล่อยเช่ารถในรูปแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะสำหรับลูกบ้านในโครงการ โดยเปิดตัวให้บริการครั้งแรกที่โครงการ The Line จตุจักร-หมอชิต ด้วยรถยนต์ BMW i3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ รุ่นแรกจาก BMW พร้อมเตรียมให้บริการในอีกหลายโครงการของแสนสิริเอง ซึ่ง The Line ราชเทวี เป็นอีกโครงการที่นำมาใช้ครับ
Smart Move จะอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านด้วยระบบจองรถและปลดล็อครถออนไลน์ได้ ผ่าน Home Service Application ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยัง Haupcar Application โดยจะมีการคิดค่าบริการตามจริงเป็นราย 30 นาที โดยให้บริการรอบแรกเวลา 05.00 น. สิ้นสุดที่เวลา 02.00 น. ในแต่ละวัน เพื่อให้มีเวลาชาร์ตไฟฟ้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อวัน
กลับมาตรงจุด Drop Off ด้านหน้า รถวนขวา ตรงผนังเสาทั้งหมดจะเป็นหิน Matrix Granite นาเข้าจากอิตาลี
เงยหน้ามองด้านบน ฝั่งด้านหน้าอาคาร ตรงระแนง Facade จะเห็นเลยมาเอียงตามองศาที่ต่างกัน
ผ่านเข้ามารถวนทางขวาผ่านหน้า Lobby
ด้านหน้าทางเข้า Lobby
มองกลับไปด้านหน้าจะเห็นแบบนี้ครับ
ด้านหน้าทางเข้า Lobby ผนังเป็นกระจกสูงถึงฝ้าดูแกรนด์ดี
หน้าประตูทางเข้ามีแท่นหินอ่อน Jaguar Pink สำหรับแตะ Key Card ที่นี่จะเรียกว่า The Line Rabbit Card สามารถใช้เข้าออกโครงการ ห้องพักอาศัย การใช้งานส่วนกลางในโครงการ และใช้ขึ้นรถไฟฟ้า BTS รวมถึงชำระค่าสินค้าและบริการ ณ ร้านค้าชั้นนำที่รองรับบัตรแรบบิทได้อีกด้วย และมีกริ่งให้กดสำหรับผู้ที่มาติดต่อ และนิติจะมาเปิดประตูให้
ประตูทางเข้าเป็นกระจกบานเปิด 2 บาน มือจับประตูเป็นหินอ่อน
เดินเข้ามาใน Lobby ฝ้าสูง 4.2 ม. สิ่งที่สะดุดตาและเป็น Signature ของแสนสิริคือหินอ่อนที่จัดเต็มทั้งพื้นและผนัง โดยที่พื้นจะเป็นหินอ่อน Jaguar Pink ที่มีแร่สีชมพูผสมเข้ามาด้วย
ผนังด้านข้างตกแต่งด้วย Statuario Marble แผ่นหินอ่อนต่อลายราคาก็สูงพอสมควร Chandelier ที่นี่ก็สวยเด่นเพิ่มความน่าสนใจให้กับส่วน Lobby ได้ดี
Chandelier เป็นแบรนด์ของ OCHRE เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งในบ้านจากอังกฤษ สำหรับ Chandelier รุ่นที่นำมาใช้ในโครงการนี้เป็นรุ่น Modern Seed Cloud วาง 2 ชุดต่อกันแนวยาว ซึ่งเป็นงานทำมือทั้งหมด ตรงที่เห็นเป็นแสงไฟวัสดุจะเป็นแก้ว ที่เกิดจากการเป่าแก้วทีละชิ้นๆ อย่างประณีตจนออกมางดงาม มูลค่าชิ้นนี้อยู่ที่ประมาณ 7 หลัก
วางชุดโซฟาและเก้าอี้ไว้รองรับลูกบ้านบนพรม
เก้าอี้ตัวนี้ก็ไม่ธรรมดานะครับ ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษ Ron Arad รุ่นที่นำมาใช้คือ MT3 Rocking Chair ที่มีการออกแบบโดยใช้คอนเซปเก้าอี้โยกคุณปู่และใส่ความ Contemporary เข้าไปหรือให้เกิดความร่วมสมัยนั่นเองครับ ราคาต่อตัวก็สูงพอสมควร มีวาง 2 ตัวตรง Lobby ใครอยากจะชมงานศิลป์ เอ้ยย!ใครสนใจโครงการก็แวะเข้ามาเยี่ยมชมกันได้
มองกลับไปอีกฝั่งจะเป็นผนังกระจก มองออกไปเห็นสวนด้านข้าง
มองไปฝั่งประตูทางเข้า
ถัดจาก Lobby เข้ามาจะเป็นโถงทางเดิน ผนังสองฝั่งจะทำเป็น Mail Box
ตำแหน่ง Mail Box ไม่ได้วางเรียงเป็นแถวๆนะครับ วางสลับกันดูมีมิติ พร้อมไฟส่องที่ยื่นออกมา ตัว Mail Box จะใช้ระบบ Key Card ห้องของเราเองแตะแล้วเปิดได้เลยครับ สะดวกดี
ด้านในติดกับ Mail Box จะเป็น Smart Locker เป็นเทคโนโลยีใหม่ของแสนสิริที่จะช่วยให้การรับ-ส่งพัสดุของลูกบ้านง่ายดายยิ่งขึ้น ด้วยระบบการทำงานที่จะดูแลการรับพัสดุของคุณตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อมีพัสดุส่งมาถึงคุณจะเด้งที่มือถือเราผ่าน Home Service Application เราสามารถ Check ได้ว่ามีพัสดุมาส่ง แล้วแจ้งนิติไปว่าให้นำพัสดุไปใส่ไว้ใน Smart Locker ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และจะส่งเป็น QR Code มาให้ เราก็แค่นำ QR Code ไป Scan ที่หน้าจอเพื่อเปิดตู้รับของ ส่วนนี้ผมว่าโครงการคอนโดมิเนียมต่างๆน่าจะนำไปใช้กันเยอะๆนะครับ
ถัดเข้ามาอีกจะเป็นโถงทางเดินเชื่อมเข้าไปโถงลิฟท์ ซ้ายมือไปห้องนิติบุคคล ที่พื้นและผนังเป็นหินอ่อน White Venus
มองไปฝั่งห้องนิติบุคคล
หน้าห้องนิติบุคคลจะมีเครื่อง Scan บัตรจอดรถแบบอัตโนมัติอีกเครื่อง เพื่อเลือกรถลงมาก่อนที่เราจะเดินไปรับรถด้านข้างอาคาร
ติดกับห้องนิติเป็นห้องน้ำ ซึ่งมีห้องเดียวใช้งานร่วมกัน ด้านในแบ่งเป็นห้องน้ำแยกส่วน
บริเวณโถงลิฟท์พื้น และผนังด้านในเป็นหินอ่อน White Venus
ลิฟท์โดยสารมี 3 ตัว
ภายในลิฟท์ พื้นเป็นหินอ่อนเช่นกัน ในลิฟท์มีจอแสดงรายละเอียดต่างๆ
แผงกดลิฟท์ด้านในต้องใช้ Key Card
ขึ้นลิฟท์มาที่ชั้น 11 ที่ผนังโถงลิฟท์ชั้นส่วนกลางจะปิดผิวด้วยลายไม้ ชั้นนี้จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัย และมีส่วนกลางรวมอยู่ด้วย
ตรงโถงลิฟท์ทุกชั้น จะมีช่องแสงสูงถึงฝ้า เป็นกระจกบานกระทุ้ง 2 บาน เปิดระบายอากาศได้
มองกลับเข้าไปด้านใน มีทางเดินเชื่อมไปยังทางเดิน
เดินออกมาตรงหน้าจะเป็นสระว่ายน้ำ ซ้ายและขวาจะเป็นทางเดินเชื่อมไปยังส่วนพักอาศัย
ตรงส่วนพักอาศัยจะมีประตูกั้นแยกส่วนไว้ ต้องใช้ Key Card
บริเวณโถงทางเดินส่วนพักอาศัย ยูนิตที่ชั้น 11 จะมีความพิเศษกว่าชั้นอื่นคือความสูงของฝ้าจะอยู่ที่ 3.15 ม. ถ้าเป็นห้องปกติจะอยู่ที่ 2.75
มองกลับไปอีกฝั่ง ขวามือเป็นทางเข้าส่วนพักอาศัยเช่นกัน ซ้ายมือเป็นทางเดินริมสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำส่วนแรกจะเป็นสระเด็กลึก 50 ซม. ขนาดประมาณ 3.5 x 4.5 ม. ระบบเกลือ
ที่ผนังตกแต่งด้วยหิน Fusion Red Marble จาก Brazil ต่อลาย หินเหมือนที่นั่งตรงสวนชั้นล่างครับ ส่วนที่พื้นจะเป็นหินอ่อน Grey Travertine ทำผิวด้านกันลื่นมาให้เรียบร้อย(Anti-slip finished) มองจากด้านข้างจะเห็นความหนาของหิน
ถัดจากสระเด็กมาจะเป็นส่วนของสระผู้ใหญ่ขนาดประมาณ 22 x 5 ม. ลึก 1.2 ม. ที่พื้นสระจะเป็นกระเบื้องโมเสกหิน พร้อมติดตั้ง Fibre Optic Lighting ด้วยการออกแบบดวงไฟใต้น้ำ จำลองหมู่ดาวในทางช้างเผือก ที่นี่ตอนกลางคืนจะสวยมากครับ แบบเดียวกับที่ The Monument สนามเป้า ริมสระมีแนวต้นไม้ปลูกบังสายตา
ถัดเข้ามาอีกขวามือจะเป็นจุดล้างตัว
ตรงจุดล้างตัวจะเป็น Rain Shower ปรับน้ำได้หลายแบบ มีไฟส่องด้วย ผนังหิน Fusion Red Marble จาก Brazil ต่อลาย เดินเชื่อมไปอีกฝั่งเป็นห้องน้ำ
ออกจากจุดล้างตัวมาตรงริมสระว่ายน้ำ มี Day Bed วางไว้บนผิวน้ำ มีระแนงอลูมิเนียมตกแต่งที่เชื่อมต่อจาก Facade
ด้านในมีที่นั่งและนอนเล่นได้ ที่ฝ้าจะตกแต่ง Lighthing ที่มีสีสันปรับเปลี่ยนได้
โครงการติดตั้งจอโปรเจคเตอร์ตรงผนังระแนงส่วนนี้ ไว้เปิดหนังชมได้ พร้อมระบบเสียงชั้นเยี่ยมจากลำโพง BOSE เหมือนมีโรงหนังส่วนตัว ส่วนรอบฉายหนังนั้นต้องสอบถามทางนิติอีกทีครับ ถือว่าแก้ปัญหาได้ดีครับ เพราะด้านข้างที่ดินโครงการฝั่งนี้จะโดนบล็อควิวจากโครงการบ้านกลางกรุงที่สูง 27 ชั้น แต่ถ้ายกสระว่ายน้ำไปไว้ชั้นสูงกว่านี้ก็จะดีกว่าครับ วิวจะสวยและดูแพงกว่าเยอะเลย
มองไปฝั่งปลายสระ มีราวกันตกเป็นกระจก
มุมปลายสระตรงนี้จะเป็นส่วนของจากุซซี่ นั่งแช่น้ำชิวๆ
จากปลายสระมองเข้าไปด้านใน
มุมมองจากด้านบนชั้น 11
กลับลงมาที่ชั้น 11
มองเข้าไปด้านในจะเห็นเป็นห้องกระจกซึ่งเป็นห้องฟิตเนสครับ
มองไปฝั่งทางเดินเข้ามาจากโถงลิฟท์ ตรงผนังหิน Fusion Red Marble นี่เด่นจริงๆ
กลับเข้ามาในอาคาร ซ้ายมือจะเป็นห้องฟิตเนส
ห้องฟิตเนสจะเป็นห้องผนังกระจกสูงถึงฝ้า
ภายในห้องขนาดประมาณ 61 ตร.ม. วางเครื่งออกกำลังกายแบรนด์ดังจากอิตาลี Technogym ที่ได้รับการยอมรับจากทีมแข่งรถ F1 อย่าง Ferrari และ McLaren รวมถึงสโมสรฟุตบอลชั้นนำ อาทิ AC Milan, Juventus, Chelsea และ ทีมชาติบราซิล บนฝ้าแปะเหมือนกระจกเงาสะท้อน และเว้นช่องสำหรับซ่อนไฟ LED ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ตามต้องการ เหมือนตรง Pool deck ด้านนอก ตรงไฟจะมีเซ็นเซอร์ให้ เปิดปิดไฟอัตโนมัติด้วยระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว จะมีให้ในห้องพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ส่วนที่พื้นห้องจะเป็นไวนิล จากแบรนด์ Bolon มี Texture คุณสมบัติคงทน ระบายความชื้นได้ดี และทำความสะอาดง่าย
ดัมเบล 1 ชุด
ม้านั่งออกกำลังกาย 2 ตัว
เครื่องปั่นจักรยาน
ลู่วิ่ง 2 เครื่อง
เครื่องเดินแบบล้อหลัง และเครื่องปั่นจักรยานแบบเอนปั่น
เครื่องบริหารกล้ามเนื้อแต่ละส่วน
มองกลับเข้าไปด้านใน
วิวจากห้องฟิตเนส มองออกไปจะเห็นสระว่ายน้ำ และจอโปรเจคเตอร์ตรงระแนงพอดี
ออกจากห้องฟิตเนสมา ฝั่งตรงข้ามจะเป็นทางเดินไปยังห้องน้ำชายและหญิง และเดินไปเข้าส่วนพักอาศัยได้
ภายในห้องน้ำชาย ตรงเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นหินอ่อน Jaguar Pink แบบเดียวกับพื้น Lobby
ฝั่งตรงข้ามเป็นโถปัสสาวะ ถัดเข้าไปด้านในเป็นตู้ Locker และห้อง Steam
ตู้ Locker เป็นระบบ Smart Locker ใช้ The Line Rabbit Card แตะและเปิดปิดได้เลย ระบบเดียวกับ Mail Box ครับ
ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำ และห้องอาบน้ำอย่างละ 1 ห้อง
ภายในห้องอาบน้ำ
ภายในห้องน้ำ
ภายในห้อง Steam
ขึ้นมาที่ชั้น 31 กันต่อ จะมีส่วนกลางที่ชั้นนี้
เดินออกจากโถงลิฟท์ มีตัวหนังสือบอกไป Library, Roof Garden
เดินมาขวามือจะเจอห้อง Laundry
ด้านในจะมีเครื่อง Refun Waste Machine ให้ลูกบ้านสามารถนำขวดน้ำที่ไม่ได้ใช้แล้วมาใส่ตู้นี้เพื่อช่วยในการแยกขยะ เราจะเลือกรับเป็นเงินสดหรือบริจาคให้มูลนิธิก็ได้ มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแบบหยอดเหรียญ เป็นระบบของ Trendy Wash ที่แสนสิริไปร่วม Partner ด้วย สามารถดูสถานะของเครื่องซักผ้าผ่าน Application ได้ว่าว่างใช้งาน หรือมีผู้ใช้งานอยู่ พอซักเสร็จจะแจ้งเตือนที่มือถือของเราด้วย ถ้าไม่พกเหรียญเค้าก็มีระบบ e-wallet ให้ตัดเงินผ่าน App ได้เลยสะดวกดีครับ ระบบและเครื่องทั้งหมดนี้จะนำไปใช้ในทุกโครงการของแสนสิริ ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่โครงการแบรนด์ตระกลู HAUS ครับ
ด้านในห้องมีตู้วางของพร้อมเคาน์เตอร์อ่างล้างมือมาให้ด้วย
ถัด Laundry Room จะเป็น Library & Co-Working Space
ภายในตกแต่งมาได้เรียบหรูตามสไตล์แสนสิริ ห้องนี้มี 2 ชั้นนะครับ
ส่วนแรกจะเป็นโซฟานั่งเล่น และพิเศษ Lounge Chair สีดำ 2 ตัว ออกแบบโดย Alexander Wang ดีไซเนอร์ชื่อดังของอเมริกา ที่ออกแบบให้กับ Poltrona Frau แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนท์ จริงๆชุดนี้เป็น Limited Edition Set of lounge furniture ที่ดีไซเนอร์ออกแบบจะมี Trunk bar เป็นโต๊ะกลางอีกตัว
ฝ้าแบบ double volume สูงถึงชั้น 32 ความสูงอยู่ที่ 5.95 ม. ผนังเป็นกระจกชมวิวด้านนอกได้
มองเข้าไปด้านใน จะมีบันไดยกพื้นขึ้นไปอีก ส่วนที่ชั้นสองจะแบ่งเป็นห้องประชุม
ตรงบันไดยกพื้นขึ้น เป็นที่นั่งได้
ขึ้นมาด้านบนจะจัดชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้ตามมุม
โทนสีที่ใช้เป็น Copper & Black
Sculpture วางไว้มุมใต้บันได
ฝั่งนี้เป็นโวฟายาว พร้อมด้วย Sound Dome สำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว ฟังเพลงเชื่อมต่อ Bluetooth ไม่ลบกวนคนรอบข้าง
ด้านในเป็นบันไดขึ้นชั้นบน
ราวกันตกบันไดเป็นกระจก ไม่บดบังวิว
ตัวบันไดก็ใช้หินอ่อน Dark Emperio
ขึ้นมาชั้นบน หรือชั้น 32 นั่นเอง ขวามือจะแบ่งเป็นห้องประชุม ด้านในจะเป็น Co-Working Space
ตรงส่วนห้องประชุมผนังเป็นกระจกรอบด้าน แบ่งเป็น 2 ห้อง โดยสามารถจองเพื่อใช้งานส่วนตัวได้โดยผ่าน Home Service Application ได้เลย ด้านหน้าห้องจะมีจอแสดงตารางการใช้งานอยู่
ภายในห้องจะมีชุดโต๊ะและเก้าอี้วางไว้ให้
มองไปอีกห้อง ตรงกลางระหว่าง 2 ห้องมีฉากกั้นเป็นกระจกแยกส่วนได้
มองลงมาชั้นล่างจะเห็นแบบนี้
ออกจากห้องประชุมมา ด้านในจะเป็นส่วนของ Co-Working space
วางโต๊ะยาวและเก้าอี้
ด้านข้างจะเป็นโต๊ะแบบเคาน์เตอร์บาร์ พร้อมเก้าอี้ นั่งทำงานชมวิววังสระปทุมไปด้วย
วิวจากส่วนของ Co-working space ที่เห็นต้นไม้เขียวๆนั่นคือวังสระปทุมครับ ซ้ายมือเป็นพารากอน มองไกลออกไปเห็นตึกมหานคร
ฝั่งด้านในมีประตูเปิดเชื่อมออกไปที่ชั้น 32 ได้ครับ ซึ่งเข้าออกได้เฉพาะลูกบ้านชั้นนี้เท่านั้น
มองกลับเข้ามาด้านใน
กลับลงมาชั้นล่าง จะมีประตูเดินเชื่อมออกไปยังสวนด้านนอก
เดินออกมาจะเจอสวนหย่อม มีสนามหญ้าจริง ซ้ายมือมี Pavilion ที่พื้นทางเดินปูด้วยหินแกรนิตสีเทาเข้ม
ราวกันตกเป็นกระจก
วิวฝั่งทิศตะวันออกมองไปทางแยกประตูน้ำ
มองลงมาจะเห็นซอยเพชรบุรี 18 และกรมการพลังงานทหาร
ตรงส่วนของ Pavilion ทำเป็นโครงเหล็ก ตกแต่งด้วยระแนงอลูมิเนียมสี Copper ส่วนนี้จะไฟส่องสว่าง และปลั๊กไฟให้ด้วยไว้นั่งทำงานได้ โดยจะใช้ไฟจาก Solar cell มีแผงติดตั้งไว้ที่ชั้น 38
มีโต๊ะหิน พร้อมเก้าอี้ไม้จริง เป็นมุมที่น่านั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือจริงๆ
ระแนงอลูมิเนียมตกแต่งหันองศาที่ต่างกัน เหมือนตรง Facade อาคาร
วิวฝั่งทิศเหนือด้านหน้าโครงการ มองไปทางอนุสาวรีย์ชัยฯ
วิวฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ
มองกลับเข้าไปด้านใน
จากชั้น 31 มองขึ้นไปส่วนยอดของอาคาร
ขึ้นมาที่ชั้น 38 จะเป็นชั้น Rooftop มีสวนส่วนกลางที่ชั้นนี้
มุมมองจากด้านบน สวนที่ชั้น 38 จะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ที่ดาดฟ้าบนสุดจะเห็นแผง Solar cell ที่เก็บไฟไปใช้ตรงสวนที่ชั้น 31
กลับมาที่ชั้น 38 มีประตูกระจกกั้นจากโถงลิฟท์
สวนจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง
เดินออกมาจะเจอสนามหญ้าโล่งๆ และ Deck พื้นไม้จริงและมีที่สำหรับนั่ง หรือนอนเล่น ตรงหน้าที่หนังตกแต่งเป็น Vertical garden
มีต้นจันผาปลูกด้านข้าง
รอบๆตรงราวกันตกจะเห็นว่าไม่ได้เปิดโล่ง แต่จะทำเป็นช่องๆ เนื่องด้วยอยู่ใกล้กับวังสระปทุม ตัวอาคารต้องมีลักษณะอาคารป็นผนังทึบหรือผนังบล็อกแก้ว และต้องไม่มีช่องเปิดประตู หน้าต่าง ช่องระบายอากาศ หรือช่องแสง หรือระเบียง ไม่มีบันไดหนีไฟยื่นออกนอกอาคารด้านวังสระปทุม และดาดฟ้าของอาคารด้านนั้นต้องทำผนังทึบ ถึงแม้มองอาจจะมีขัดๆตาดูวิวได้ไม่เต็มที่ แต่การออกแบบนี้ช่วยในเรื่องของการบังแสงจากมุมและทิศทางการหักเห ถึงแม้ชั้นนี้จะไม่มีหลังคาแต่ก็ได้ร่มเงา ทำให้สามารถใช้งานพื้นที่กลางแจ้งได้เกือบทั้งวัน
มองไปฝั่งทิศใต้ ซึ่งเป็นฝั่งที่ใกล้กับวังสระปทุม ช่องชั้นล่างทั้งแถวมีกระจกกั้นด้วยนะครับตามข้อบัญญัติ กทม.
มองกลับเข้าไปที่โถงทางเดิน
เดินมาดูสวนอีกฝั่ง ฝั่งนี้พื้นที่จะเล็กกว่า
เดินออกมาจะเห็นต้นจันผา ให้มาเยอะเลย
มีมุมนั่งเล่นใต้ต้นไม้
มองไปอีกฝั่ง
มุมนั่งเล่นอีกฝั่ง
เงยหน้ามองด้านบน
วิวฝั่งทิศเหนือ ด้านหน้าโครงการมองไปทางอนุสาวรีย์ชัยฯ จะเห็นโครงการเพื่อนบ้านอย่าง ideo Q ราชเทวี ซ้ายมือเป็นโครงการ Villa ราชเทวี และเห็นตัวสถานี BTS พญาไท และ ARL พญาไท จากโครงการเดินไปประมาณ 650 ม.
ฝั่งทิศตะวันออกมองไปทางแยกประตูน้ำ ตึกสูงใกล้ๆมีโครงการ The Address สยามสูง 27 ชั้น ถัดไปเป็น WISH Signature Midtown Siam สูง 45 ชั้น ที่เห็นกำลังก่อสร้างอยู่
วิวฝั่งทิศตะวันตก มองไปทางแยกราชเทวี ซ้ายมือเป็นโครงการ Pyne ของแสนสิริ เป็นโครงการที่สร้างชื่อเสียงให้แสนสิริ และสร้างผลตอบแทนให้นักลงทุนเป็นอย่างมาก ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 280,000 บาท ขวามือเป็นโครงการ Condolette Ize
ปิดท้ายด้วยวิวที่สวยที่สุดของโครงการคือทิศใต้ วิวโล่งไปตลอด มองเห็นวังสระปทุม พารากอน ยาวไปเห็นตึกมหานคร
Units Type
โครงการมีห้องให้เลือกแบบหลักๆดังนี้
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้มี 1 แบบ
แบบแรกที่จะพามาชมเป็น 2 Bedroom ขนาด 59.00 ตร.ม. เดินเข้าห้องมาเจอส่วนครัวก่อนได้เป็นครัวเปิด เชื่อมกับส่วนห้องนั่งเล่น ด้านในสุดเป็นระเบียงเป็นแบบ Double skin facade ฝั่งขวาจะมีทางเดินไปห้องน้ำ และห้องนอนทั้ง 2 ห้อง Master Bedroom จะอยู่ด้านในสุดมีห้องน้ำในห้องนอน
เริ่มจากประตูห้องปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ มีป้ายบ้านเลขที่เป็นแผ่นหินตัวอักษรสี Copper พร้อมกริ่ง
ได้ Digital Door Lock ของ Samsung มือจับเป็นแบบผลักและดึง
เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนครัวก่อน ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมกับส่วนรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น ด้านในเป็นระเบียง ขวามือเป็นทางเดินไปห้องน้ำ และห้องนอนทั้ง 2 ห้อง พื้นส่วนครัวจะเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60 ซม. พื้นห้องด้านในเป็น Engineering wood ฝ้าสูง 2.75 ม. ผนังจะได้เป็นแบบฉาบเรียบทาสี
เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูห้อง
ติดกับประตูห้องจะมีตู้เก็บของ และเก็บรองเท้า
ตู้เป็นบานเปิด 2 บาน ด้านบนไว้เก็บของ ด้านล่างไว้เก็บรองเท้าได้
ตรงส่วนครัวจะได้เป็นครัวเปิด ได้ชุดเคาน์เตอร์ครัวตามนี้เลย มีช่องสำหรับวางตู้เย็น เครื่องซักผ้า และไมโครเวฟ
ตู้ตรงช่องวางตู้เย็นเป็นบานเปิด 4 บาน
ตู้ด้านบนตรงเคาน์เตอร์เป็นบานเปิด 4 บาน แบ่งช่องและชั้นมาให้
ตู้ด้านล่างเป็นลิ้นชัก 2 ช่อง และเป็นตู้บานเปิด 2 บาน
ได้อ่างล้างจานทรงสี่เหลี่ยมของ Mex ฝังท็อปเคาน์เตอร์หินแกรนิตสีดำเกร็ดทอง
ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิคแบบ 2 หัวของ Smeg พร้อมเครื่องดูดควัน ส่วนผนังด้านใน เป็นหินแกรนิตสีดำเกร็ดทองแบบเดียวกับท็อปเคาน์เตอร์
ถัดมาเป็นส่วนรับประทานอาหาร วางโต๊ะกลมขนาด 3 ที่นั่งให้ดู
ถัดไปเป็นส่วนห้องนั่งเล่น พื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกัน
วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งให้ดูพร้อมโต๊ะกลาง พื้นที่สามารถวางโซฟาตัว L ได้
ระยะดูทีวีประมาณ 3.94 ม.
ถัดไปเป็นระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อน 3 บาน กระจกเป็น Euro Gray เวลามองออกด้านนอกจะนวลตากว่ากระจกใสเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียมเป็น Powder coat ค่อนข้างหนา ที่ฝ้าจะดรอปไว้ให้สำหรับซ่อนรางม่าน
เปิดออกมาจะเจอระเบียงขนาด 2.48 x 0.97 ม.
ตรงระเบียงห้องยูนิตที่อยู่ฝั่งทิศใต้ทั้งหมดจะเป็น Double skin facade เป็นผนังกระจกอีกชั้น ด้านล่างจะเป็นบาน Fixed ด้านบนจะเป็นบานกระทุ้ง 3 บาน เนื่องฝั่งทิศใต้จะใกล้กับวังสระปทุมซึ่งมีข้อบัญญัติมาตรการควบคุม โดยพื้นที่ที่อยู่ในรัศมี 300-500 เมตร อาคารด้านที่หันเข้าหาวังสระปทุมต้องมีลักษณะอาคารเป็นผนังทึบหรือผนังบล็อกแก้ว และต้องไม่มีช่องเปิดประตู หน้าต่าง ช่องระบายอากาศ หรือช่องแสง หรือระเบียง ไม่มีบันไดหนีไฟยื่นออกนอกอาคารด้านวังสระปทุม
บานกระทุ้งเปิดออกได้ประมาณ 30 องศา
วิวจากห้องตัวอย่างฝั่งทิศใต้ ที่เห็นต้นไม้เขียวๆคือวังสระปทุมครับ ซ้ายมือเป็นพารากอน
ตรงระเบียงด้านข้างจะมีช่องวางคอมเพลสเซอร์แอร์ 3 ตัว มีประตูเปิดปิดได้
ฝั่งตรงข้ามมีปลั๊กไปพร้อมฝาครอบมาให้ด้วย
กลับเข้ามาในห้อง แอร์ตรงส่วนห้องนั่งเล่นจะได้แบบฝังฝ้า
ถัดเข้าไปด้านในจะมีทางเดินไปยังห้องนอน และห้องน้ำ
เดินเข้ามาซ้ายมือเป็นห้องนอนเล็ก ตรงหน้าเป็น Master Bedroom ขวามือเป็นห้องน้ำ
มือจับประตูห้องนอนเป็นแบบคันโยก
ภายในห้องนอนเล็ก ขนาดห้องไม่ได้เล็กมากกำลังดี
วางเตียงเดี่ยวมาให้ดู พื้นที่สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ แต่จะเหลือพื้นที่รอบเตียงน้อยหน่อย
พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 58 ซม.
ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 1.09 ม. วางโต๊ะทำงานมาให้ดู
ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.6 ม. ติดทีวีที่ผนังได้เลย
หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 2 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed สูงถึงฝ้า
ฝั่งด้านในได้ตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิดสูงถึงฝ้าเลย แอร์ได้แบบติดผนัง 1 ตัว
ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิด 6 บาน มีไฟซ่อนในตู้
ออกจากห้องนอนเล็กมา ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำมีพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นและผนังห้องน้ำเป็นหินแกรนิต Misty grey ทั้งหมด ที่พื้นจะเป็นผิวเรียบและด้าน ส่วนที่ผนังผิวจะขรุขระ
อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมฝังเคาน์เตอร์หินแกรนิต Misty grey ก๊อกน้ำเป็นแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Cotto
มีลิ้นชักด้านล่างไว้ให้เก็บของ
ติดกันวางโถสุขภัณฑ์ของ Cotto
ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้แบบานเปิด ซ้ายมือที่ผนังมีช่องไว้ให้วางของได้
ด้านในติดตั้งฝักบัวแบบปรับระดับสูงต่ำได้ มีช่องและแผ่นหินยื่นออกมาสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ
ด้านบนฝ้าติดตั้ง Rain Shower
หน้าตาฝักบัวที่ได้ขนาดพอดีมือของ Cotto ก๊อกน้ำเป็นแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็น
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1 x 0.95 ม.
ภายในห้อง Master Bedroom มีพื้นที่มาให้พอสมควร
วางเตียงขนาด 5 ฟุตให้ดู
พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 74 ซม.
พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.09 ม.
พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 1.98 ม.
ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.74 ม.
หน้าต่างในห้องนอนเป็นบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed ฝ้าดรอปไว้สำหรับซ่อนรางม่าน
วิวจากห้องนอนเหมือนตรงระเบียงห้อง
กระจกจะได้แบบเข้ามุม
ฝั่งด้านในเป็นห้องน้ำ หน้าห้องน้ำจะวางตู้เสื้อผ้ามาให้
ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเปิด 2 บาน และแบ่งช่องสำหรับวางของต่างๆ มีไฟซ่อนให้ด้วย
ด้านข้างตู้ทำเป็นกระจกเงาซ่อน เปิดปิดได้
ภายในห้องน้ำ ฟังก์ชั้่นเหมือนห้องน้ำด้านนอก
เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมลิ้นชัก
โถสุขภัณฑ์ได้แบบอัตโนมัติของ Cotto รุ่น The Tunio ที่สามารถปล่อยแสง UV เพื่อฆ่าเชื้อโรคได้
ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ได้ฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเปิด 1 บาน
ด้านในติดตั้งฝักบัว และ Rain Shower มีที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.45 x 0.95 ม.
ราคา (มิ.ย.61)
ค่าส่วนกลาง 90 บาท/ตร.ม. : ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม
เงินจอง 50,000 บาท และโอนกรรมสิทธิ์ได้เลย
***รายละเอียดอื่นๆโปรดสอบถามทางโครงการครับ
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ – The Line ราชเทวี ตั้งอยู่ติดถนนเพชรบุรี ตรงปากซอยเพชรบุรี 18 ทำเลถือว่าอยู่ใจกลางเมือง ย่านนี้เป็นแหล่งพาณิชยกรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯก็ว่าได้ อยู่ใกล้สถานที่สำคัญๆทั้งห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ อาคารสำนักงานต่างๆ โรงแรม โรงเรียน มหาวิทยาลัย ซึ่งเมื่อใกล้สถานที่สำคัญแบบนี้แล้วเรื่องความอุดมสมบูรณ์คงไม่ต้องพูดถึง ย่านนี้ของกินเพียบครับตั้งแต่ร้านเล็กๆริมทาง ไปจนถึงร้านหรูๆในห้างสรรพสินค้า มี 7-11 ใกล้ๆตรงปากซอยกรุงเทพการบัญชี
และจุดเด่นของทำเลโครงการคือซอยกรุงเทพการบัญชี ซอยนี้เชื่อมกับด้านหลังพารากอนห่างจากโครงการประมาณ 700 ม. ลูกบ้านจากโครงการถ้าใช้รถ หรือเดินมาจากพารากอนถือว่าสะดวกเลย แต่ถ้าเป็นโครงการฝั่งตรงข้าม หรือฝั่งเลขคี่ต้องไปกลับรถครับ เพราะซอยห้ามเลี้ยวขวา นอกจากนี้ถ้าเดินย้อนไปทางแยกประตูน้ำก็จะมีร้านค้าต่างๆตามริมทางเดิน มีห้างสรรพสินค้าให้เลือกช้อปทั้งสองฝั่งเลย
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – เป็นจุดที่สามารถเชื่อมต่อออกไปยังที่ต่างๆได้สะดวกพร้อมทั้งอยู่ใกล้ทางด่วน และมีซอยย่อยที่ลัดเลาะไปได้โดยไม่ต้องใช้เส้นหลัก ตรงแยกราชเทวีเลี้ยวซ้ายไปสยาม เชื่อมเข้าสุขุมวิทได้เลย ขับตามแนว BTS ยาวออกไปบางนาสมุทรปราการได้เลย หรือตรงตามถนนพญาไทไปออกสามย่าน หัวลำโพงได้ ถ้าตรงข้ามแยกราชเทวีไปนางเลิ้ง สามเสน เลยไปขึ้นขึ้นสะพานพระราม 8 ไปลงปิ่นเกล้า หรือยิงยาวขึ้นทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีออกพุทธมณฑลสายต่างๆ ถ้าจะไปฝั่งอนุสาวรีย์ชัยฯ ต้องกลับรถใต้สะพานหัวช้าง จากนั้นก็มุ่งหน้าผ่านแยกพญาไท และเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ ถ้ามาทางแยกประตูน้ำ ถนนราชปรารภวิ่งไปรางน้ำ อนุสาวรีย์ชัยฯ ได้อีกทาง และออกดินแดง วิภาวดีรังสิตได้ ถ้าเลี้ยวเข้าราชดำริมาออกเพลินจิต หรือตรงไปออกพระรามสี่ และสีลม สาทร สวนลุมได้ ถ้าวิ่งตามเส้นเพชรบุรีจะไปเข้าซอยย่อยสุขุมวิททางท้ายซอยได้
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – จุดเด่นของโครงการคืออยู่ห่างจาก BTS ราชเทวีประมาณ 220 ม. ถึงบันไดเลื่อนขึ้นตัวสถานีได้เลย เป็นระยะที่เดินสบายๆครับ มีทางเท้าเดินสะดวกตั้งแต่หน้าโครงการถึงบันไดเลื่อน ห่างจาก BTS พญาไทประมาณ 650 ม.ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับ Airport Rail Link พญาไท ถ้าเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิบ่อยๆผมว่าสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะพอสมควรครับ หรือจะมาขึ้นที่ BTS สยามซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสายระหว่างสุขุมวิทและสายสีลม ระยะเดินประมาณ 900 ก็พอเดินได้ครับเข้าพารากอนเดินแอร์เย็นๆไปเชื่อมออกสถานีได้เลย ในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่านเส้นเพชรบุรี โดยเป็นแนวรถไฟฟ้าที่เชื่อมระหว่างกรุงเทพฯฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก สถานีที่ใกล้โครงการคือสถานีราชเทวี และสถานีประตูน้ำแต่คงต้องรออีกสักพัก
นอกจากนี้ด้านหน้าโครงการยังมีวินมอเตอร์ไซค์เรียกใช้ได้เลย ตรงปากซอยเพชรบุรี 20 มีป้ายรถเมล์ มีรถวิ่งผ่านไปมาหลายสายเกือบตลอดทั้งคืน มีสะพานลอยเดินข้ามฝั่งได้สะดวก ใต้สะพานลอยก็มีวินมอเตอร์ไซค์ Taxi โบกเรียกด้านหน้าได้เลย ถ้ามาแถวประตูน้ำจะมีรถตู้ให้บริการหลายสายไม่ว่าจะไปรังสิต ดอนเมือง สะพานใหม่ ลาดพร้าว สี่พระยา โบกขึ้นได้เลยครับ นอกจากนี้ยังมีระบบขนส่งทางน้ำเรือโดยสารคลองแสนแสบ ท่าเรือที่ใกล้โครงการคือท่าเรือสะพานหัวช้างระยะเดินจากโครงการมาประมาณ 750 ม. และท่าเรือประตูน้ำประมาณ 900 ม. เผื่อใครเบื่อรถติดจะนั่งเรือไปต่อ MRT ก็เป็นทางเลือกที่ดี
การออกแบบโครงการและวัสดุ – ตัวอาคารออกแบบมาเรียบหรูสไตล์แสนสิริ สถาปนิกที่ออกแบบโครงการนี้คือสมดุล ออกแบบโครงการสวยๆมาแล้วหลายโครงการ ตัวอาคารรูปทรงตัว L มีลูกเล่นที่ Facade ตกแต่งด้วยระแนงอลูมิเนียมสี Copper ถูกดีไซน์ด้วย Parametric Program ที่เจาะจงไล่ความลึกตึ้นไม่เท่ากัน เพื่อให้เกิดมิติที่หลากหลาย เมื่อมองในองศาที่ต่างกัน สลับกับเส้นไฟ LED เวลากลางคืนแสงสะท้อนกับอลูมิเนียมดูสวยไปอีกแบบ นอกจากนี้ตรง Facade ยังมีแผ่นหินแกรนิต Matrix นำเข้าจากอิตาลีตกแต่งอีกด้วย สีภายนอกอาคารจะออกโทนเทาเข้ม โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ดินขนาด 1-2-0 ไร่ ซึ่งมีการจัดวางผังได้เต็มพื้นที่มีสวนด้านหน้า เชื่อมยาวไปด้านหลังโครงการ ชั้น 1-10 เป็นชั้นจอดรถ ชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 11-37 และจัดพื้นที่ส่วนกลางหลักๆไว้ที่ชั้น 1, 11, 31 และ 38
การออกแบบในห้องพักอาศัยมีให้เลือกแบบหลักๆคือ Studio ขนาด 27.75 ตร.ม. , 1 Bed ขนาด 32-34.75 ตร.ม. , 2 Bed 1 Bath ขนาด 49.25-54.75 ตร.ม. , 2 Bed 2 Bath ขนาด 59-79.5 ตร.ม. , 3 Bed 2 Bath ขนาด 85 ตร.ม. , 3 Bed 3 Bath ขนาด 105 ตร.ม. , Duplex 2 Bed ขนาด 69.75 ตร.ม. , Penthouse 3 Bed 3 Bath ขนาด 119.5 ตร.ม. โดยทางโครงการขายแบบ Fully Fitted ที่ให้ชุด Built-in มาบางส่วน เริ่มจากประตูห้องได้ Digital door lock ของ Samsung ชุดเคาน์เตอร์ครัวได้อ่างล้างจานแบบหลุมเดียวของ Mex ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิคพร้อมเครื่องดูดควันของ Smeg ท็อปเคาน์เตอร์ครัวเป็นหิร Black Galaxy Granite กระจกหน้าต่างและประตูในห้องจะเป็นสี Euro Grey เฟรมอลูมิเนียม ทำสี Powder coated ภายในห้องนอนจะได้ตู้เสื้อผ้า ภายในห้องน้ำสุขภัณฑ์ของ Cotto พร้อมฉากกั้นส่วนเปียก แอร์ตรงส่วนห้องนั่งเล่นจะได้แบบฝังฝ้า ส่วนห้องนอนจะได้แบบติดผนัง พื้นห้องส่วนครัวได้เป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนตรงห้องนั่งเล่นและห้องนอนได้เป็น Engineer Wood ฝ้าสูง 2.75 ม.
สิ่งอำนวยความสะดวก – Facility โครงการนี้ให้มาค่อนข้างดี และดีกว่า The Line ทุกตัวของแสนสิริเอง แต่ก็ต้องแลกกับค่าส่วนกลางที่สูงตามไปด้วย อยู่ที่ 90 บาท/ตารางเมตร ที่นี่ออกแบบมาได้สวยและน่าใช้งานไม่เสียชื่อแสนสิริ หลักๆของโครงการอยู่ที่ชั้น 1, 11, 31, 38 ที่ชั้น 1 ด้านหน้าโครงการมีสวนยาวเชื่อมผ่านเข้ามาถึงด้านหลังโครงการตกแต่งต้นไม้มาได้ร่มรื่น เข้ามาในตัวอาคารจะเป็นส่วนของ Lobby โดยที่พื้นให้หินอ่อน Jaguar Pink ที่ผนังใช้ Statuario Marble แบบต่อลาย วางเก้าอี้รุ่น MT3 Rocking Chair ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษ Ron Arad และโชว์ Chandelier แบรนด์ของ OCHRE ซึ่งเป็นงานทำมือ ตรงส่วนของ Mail Box สามารถใช้ The Line Rabbit Card แตะเพื่อเปิดรับของได้เลย มีส่วนของตู้ Smart Locker เป็นเทคโนโลยีใหม่ของแสนสิริที่จะช่วยให้การรับ-ส่งพัสดุของลูกบ้านง่ายดายยิ่งขึ้น พื้นและผนังตรงส่วนโถงลิฟท์ใช้หินอ่อน White Venus
ที่ชั้น 11 จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 22 x 5 ม. ลึก 1.2 ม. แบ่งสระเด็กขนาด 3.5 x 4.5 ม. ลึก 50 ซม. โดยความพิเศษที่พื้นสระจะซ่อนไฟ จำลองหมู่ดาวในทางช้างเผือก ให้คุณรู้สึกเหมือนแหวกว่ายอยู่ใน Universe แบบเดียวกับที่โครงการ The Monument สนามเป้า นอกจากนี้ยังมี จอโปรเจคเตอร์ไว้เปิดหนังชมได้ พร้อมระบบเสียงชั้นเยี่ยมจากลำโพง BOSE เหมือนมีโรงหนังส่วนตัว ที่พื้นรอบสระว่ายน้ำใช้หินอ่อน Grey Travertine (Anti-slip finished) ที่ผนังเป็นหิน Fusion Red Marble นำเข้าจาก Brazil มีห้องฟิตเนสให้เครื่องออกกำลังกายแบรนด์ Technogym แบรนด์ดังจากอิตาลี ไปชั้นนี้สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ตามต้องการ มีห้องน้ำแยกชายหญิงพร้อมห้อง Steam และตู้ Smart Locker เพียงใช้ Key Card แตะ
ที่ชั้น 31 จะมี Library & Co-working space, Roof Garden ภายในห้อง Library แบ่งเป็น 2 ชั้น แบ่งที่นั่งไว้ตามมุมต่างๆ มีเก้าอี้ Lounge Chair สีดำ 2 ตัว ออกแบบโดย Alexander Wang ดีไซเนอร์ชื่อดังของอเมริกา ที่ออกแบบให้กับ Poltrona Frau แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนท์ มี Sound Dome ไว้ฟังเพลงและไม่รบกวนผู้อื่น ที่ชั้น 2 จะเป็นห้องประชุม และ Co-working space ชั้น 31 จะมีทางเดินเชื่อมออกมาสวนด้านหน้ามี Pavilion พร้อมปลั๊กไฟที่ใช้ไฟจาก Solar cell ห้อง Laundry ก็อยู่ที่ชั้นนี้ด้วย มีเครื่อง Refun Waste Machine มีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแบบหยอดเหรียญ เป็นระบบของ Trendy Wash ที่แสนสิริไปร่วม Partner
ที่ชั้น 38 จะเป็น Roof top garden จะเป็นสวนหย่อมทั้งชั้น มีทั้งไม้ใหญ่ไม้พุ่ม พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนลูกบ้านสามารถขึ้นมารับลมชมวิวกันได้ครับ
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆจากแสนสิริคือระบบ Smart Move บริการเช่ารถส่วนกลาง BMW i3, มี EV Charging Station จำนวน 2 เครื่อง 4 หัวจ่ายไฟฟ้า Key Card ที่นี่จะเรียกว่า The Line Rabbit Card สามารถใช้เข้าออกโครงการ ห้องพักอาศัย การใช้งานส่วนกลางในโครงการ และใช้ขึ้นรถไฟฟ้า BTS รวมถึงชำระค่าสินค้าและบริการ ณ ร้านค้าชั้นนำที่รองรับบัตรแรบบิทได้อีกด้วย Wifi ฟรีที่ชั้นส่วนกลางทั้งหมด ลิฟท์โดยสารมีให้ 3 ตัว และลิฟท์ขนของ 1 ตัว ที่จอดรถจอดได้ที่ชั้น 1-10 และมีที่จอดรถแบบอัตโนมัติจำนวน 16 คัน ทั้งโครงการจอดได้ประมาณ 67% ไม่รวมซ้อนคัน ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV และผ่านเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access
คะแนน
| ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | ทำเลใจกลางเมือง รายล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ |
| การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | เชื่อมออกได้หลายเส้นทาง ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน |
| การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 9.0 | ห่างจาก BTS ราชเทวี ประมาณ 220 ม. ARL พญาไท รถเมล์ เรือ วินมอเตอร์ไซค์ Taxi รถไฟฟ้าสายสีส้ม |
| ห้องและวัสดุ | 8.5 | ออกแบบมาดี วัสดุที่ใช้อยู่ในระดับมาตรฐาน ขายแบบ Fully Fitted มี ชุดเคาน์เตอร์ครัว, Hob & Hood , ตู้เสื้อผ้า , แอร์ , สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | 9.0 | Facility มีให้ครบและหลากหลาย ออกแบบมาได้สวยงามและน่าใช้งานตามสไตล์แสนสิริ มีการเลือกใช้วัสดุบางส่วนที่นำเข้าจากต่างประเทศ ใช้เฟอร์นิเจอร์จากดีไซเนอร์ชื่อดัง แต่สระว่ายน้ำน่าจะไว้ชั้นสูงกว่านี้ |
| ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | รูปแบบโครงการออกแบบมาดี มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง วัสดุในโครงการใช้ของดี แต่ก็มีตัวเลือกอีกหลายที่ในทำเลที่ใกล้เคียงกัน |
| คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.5 | ดี |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1685
Website : https://www.sansiri.com/condominium/theline_ratchathewi/th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
แสดงความคิดเห็น