logo

EP.xxxx รีวิว ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ คอนโดใหม่พร้อมอยู่จาก AP ทำเลอนุสาวรีย์ชัยฯ เชื่อมต่อวิภาวดีรังสิต ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ 17 แห่ง เริ่ม 3.89 ล้าน*

โพสโดย : pure / วันที่ : 11 November 2025

รีวิว แอสปาย วิภา-วิคตอรี่ / ASPIRE Vibha-Victory คอนโดใหม่พร้อมอยู่จาก AP ทำเลอนุสาวรีย์ชัยฯ เชื่อมต่อวิภาวดีรังสิต ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ 17 แห่ง เริ่ม 3.89 ล้าน*

 

Written by : Pure Thitapa

ข้อมูลโครงการ 

ชื่อโครงการ แอสปาย วิภา-วิคตอรี่ / ASPIRE Vibha-Victory
เจ้าของโครงการ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด  / AP Thiland
เนื้อที่ทั้งหมด 2-2-70.7 ไร่
จำนวนตึก 1 อาคาร
จำนวนชั้น 29 ชั้น
จำนวนห้อง
  • ห้องชุดพักอาศัย 593 ยูนิต
  • ร้านค้า 1 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง Simplex ชั้น 8-21

  • 1 Bedroom ขนาด 26.50-33.00 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Extra ขนาด 35.00 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 1 Bath ขนาด 46.00-54.00 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 2 Bath ขนาด 55.50-60.00 ตร.ม.

Vertiplex (ห้อง Double Volume เพดานสูง 4.45 ม.) ชั้น 22-28

  • Type L & M ขนาด 26.00-30.00 ตร.ม.
  • Type N ขนาด 32.50 ตร.ม.
  • Type O & P & Q & R ขนาด 35.00-46.00 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด 240 คัน (ประมาณ 40.5 % รวมจอดซ้อนคัน)
จำนวนลิฟต์
  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ระบบ Face Scan
  • ลิฟต์บริการ 1 ตัว
  • รวมทั้งหมด 4 ตัว
โซน เขตดินแดง
เส้นทางคมนาคม
  • ถนนดินแดง
  • ถนนราชปรารภ
  • ถนนพญาไท
  • ถนนพหลโยธิน
  • ถนนรัชดาภิเษก
  • ถนนพระราม 9
  • BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ
  • Airport Link พญาไท
  • ทางพิเศษศรีรัช
ที่ตั้ง ถนนอโศก-ดินแดง หัวมุมแยกดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400
กำหนดการ เริ่มก่อสร้างไตรมาส 4/66 (EIA Approved)
ปีที่สร้างเสร็จ คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 4/2568
ราคา เริ่มต้น 2.99 ล้านบาท* (ม.ค. 67)
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม เริ่มต้น 98,000 บาท/ตร.ม.*
ค่าส่วนกลางและกองทุน
  • ค่าส่วนกลาง 68 บาท/ตร.ม./ เดือน
  • กองทุน 550 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง ศูนย์การค้า

  • King Power รางน้ำ : 1.2 กม.
  • Century The Movie Plaza : 1.3 กม.
  • Vanit Village Aree : 2.7 กม.
  • พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า, Shibuya ประตูน้ำ : 3 กม.
  • Siam Discovery, Siam Center, Siam Paragon, Siam Square One : 3.2 กม.
  • MBK Center, Siamscape : 3.3 กม.
  • Platinum Mall, City Complex, Paladium Mall : 3.5 กม.
  • Central พระราม 9, Fortune Town : 3.7 กม.
  • Central World : 3.8 กม.
  • Gaysorn Village : 3.9 กม.
  • Singha Complex : 4.0 กม.

ตลาด คอมมูนิตี้ มอลล์ และอื่น ๆ

  • ตลาดศรีวนิช : 180 ม. 
  • Center One : 900 ม.
  • Victory Hub : 1.3 กม.
  • The Season Mall : 1.6 กม.
  • พญาไท พลาซ่า : 2.7 กม.

สถานศึกษา

  • รร.นิธิปริญญา : 0 ม. 
  • รร.ศรีอยุธยา : 1.2 กม.
  • RBIS International School : 1.6 กม.
  • รร.แม่พระฟาติมา : 2.6 กม.
  • St. Andrews Dusit : 2.6 กม.
  • รร.อำนวยศิลป์ : 2.7 กม.
  • Siam Singapore International School (SSIS) : 2.9 กม.
  • รร.เซนต์ดอมินิก : 3.5 กม.
  • Kornkaew International Montessori School (KIMS Ari Campus) : 3.6 กม.
  • จุฬาฯ : 3.6 กม.
  • รร.จิตรลดา : 3.8 กม.
  • รร.สามเสนวิทยาลัย : 3.8 กม.
  • รร.สุรศักดิ์มนตรี : 5.2 กม. 
  • ม.หอการค้าไทย (UTCC) : 5.4 กม.

โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์

  • รพ.ราชวิถี : 1.3 กม.
  • รพ.เด็ก : 1.4 กม.
  • รพ.พระมงกุฎเกล้า : 1.6 กม.
  • รพ.พญาไท 2 : 1.7 กม.
  • รพ.พญาไท : 2 กม.
  • รพ.รามาธิบดี : 2.2 กม.
  • รพ.บำรุงราษฎร์ : 3.6 กม.
  • รพ.วิชัยยุทธ : 3.8 กม.
  • รพ.พระราม 9 : 4.8 กม.

อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ

  • อาคารเพชราวุธ : 10 ม.
  • อาคารประกันภัยไทยวิวัฒน์ สำนักงานใหญ่ : 100 ม.
  • กระทรวงแรงงาน : 400 ม. 
  • สำนักงานเขตดินแดง, ศาลาว่าการกรุงเทพฯ : 1.0 กม.
  • One Origin Phayathai : 1.7 กม.
  • SM Tower : 1.9 กม. 
  • ททบ.5 : 2.0 กม. กม.
  • CP Tower 3 : 2.0 กม.
  • กรมแพทย์ทหารบก : 2.2 กม.
  • Spring Tower : 2.6 กม.
  • PEARL Bangkok, Vanit Place : 2.7 กม.
  • สวนมักกะสัน : 3.3 กม.
  • G Tower, Unilever House, The Ninth Tower : 3.7 กม.
  • Bai Yoke Tower : 4.0 กม.

**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**

สิ่งอำนวยความสะดวก ชั้น Ground

  • The Parlour
  • The Aspire Common : The Co-Op Society, The Work Hub, The Chill Out, The Green Terrace
  • The Breathtaking Scenery : The Stay, The Stage,  The Step
  • The Hop & Bounce Yard : The Strength, The Endurance, The Balance, The Flexibility

ชั้น 8

  • The Aqua
  • The Healthy Space

ชั้น 29

  • The Sky Lounge
  • The Sky Park : The Green Yard, The Pavilion, The Portico, The Patio

ระบบรักษาความปลอดภัย

  • ระบบ KATSAN
  • ระบบ Face Scan
  • ระบบ CCTV
  • รปภ. 24 ชม.
Tel 1623
Line https://line.me/ti/p/~@apthai
Website https://apth.ly/kprf

ที่ตั้งโครงการ  

ถนนอโศก-ดินแดง หัวมุมแยกดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400

พิกัดโครงการ : https://goo.gl/maps/42vDNkmvB1xPc7eg7

ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ คอนโดใหม่สร้างเสร็จพร้อมอยู่จาก AP Thailand ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนเมืองในกลุ่ม Mass Segment อย่างแท้จริง โครงการตั้งอยู่บนถนนอโศก-ดินแดง ฝั่งมุ่งหน้าไปสามเหลี่ยมดินแดงและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งถือเป็นทำเลที่ “หายากมาก” ในปัจจุบัน เพราะในรอบกว่า 6 ปีที่ผ่านมา ย่านนี้แทบไม่มีคอนโดใหม่เปิดตัวเลย ทั้งที่เป็นโซนศักยภาพสูง รายล้อมด้วยแหล่งงาน โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย และศูนย์กลางการคมนาคมครบทุกระบบ

หากมองภาพรวมตลาดคอนโดในย่านนี้ จะเห็นได้ว่ามี Supply ที่เปิดขายอยู่เพียงไม่กี่โครงการ โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 115,000-155,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งกว่า 50% ของโครงการทั้งหมดได้ปิดการขายไปแล้ว 100% ส่วนที่เหลือก็เป็นยูนิตสุดท้ายจากโครงการที่เปิดขายมาตั้งแต่ปี 2017 นั่นหมายความว่าความต้องการอยู่อาศัยในย่านนี้ยังคงมีสูง แต่ทางเลือกกลับมีจำกัด ทำให้ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ กลายเป็น Rare Item ที่ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มอยู่จริงและนักลงทุนได้อย่างลงตัว

สำหรับกลุ่ม Demand หลักของทำเลนี้ประกอบด้วยบุคลากรทางการแพทย์ เช่น แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล รวมถึงนิสิตแพทย์ เนื่องจากพื้นที่รอบ ๆ รายล้อมด้วยโรงพยาบาลชื่อดังมากถึง 17 แห่ง อาทิ รพ.ราชวิถี, รพ.เด็ก, รพ.พระมงกุฎเกล้า, รพ.พญาไท 2 และ รพ.รามาธิบดี อีกทั้งยังมีพนักงานออฟฟิศจากอาคารสำนักงานใกล้เคียง และกลุ่มนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาในย่านนี้ ที่ต้องการคอนโดใกล้ที่ทำงานหรือมหาวิทยาลัย เพื่อประหยัดเวลาเดินทางและมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น


ด้านการเดินทางถือว่าสะดวกมากทั้งรถส่วนตัวและขนส่งสาธารณะ ผู้ที่ใช้รถสามารถเชื่อมต่อเข้า-ออกเมืองได้ง่ายจากหลายเส้นทาง ทั้งอโศก-ดินแดง, วิภาวดีรังสิต, พหลโยธิน และพระราม 9 พร้อมทางด่วนถึง 3 สาย ได้แก่ ทางด่วนศรีรัช, ทางด่วนเฉลิมมหานคร และดอนเมืองโทลล์เวย์ ขับรถจากโครงการไปสนามบินดอนเมืองใช้เวลาเพียงประมาณครึ่งชั่วโมง* เท่านั้น

สำหรับการเดินทางโดยรถไฟฟ้า ก็ทำได้ง่าย เพราะโครงการจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ได้แก่ BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ, MRT พระราม 9 และ Airport Rail Link ราชปรารถ ที่สามารถเดินทางต่อเดียวถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างสะดวก โดยโครงการจะมีบริการ Shuttle Service รับ-ส่งลูกบ้านไป BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ เพิ่มความสะดวกในทุกการเดินทาง และในอนาคตจะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มตัดผ่านหน้าโครงการอีกด้วย ซึ่งถือเป็นตัวเร่งสำคัญที่จะเพิ่มมูลค่าและศักยภาพของทำเลนี้ให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : จาก ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ ถือว่าสะดวกมาก เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนอโศก-ดินแดง บริเวณหัวมุมแยกดินแดงพอดี จึงสามารถเชื่อมต่อเส้นทางหลักได้หลายสาย ทั้งเข้าเมืองและออกเมือง โดยอยู่ห่างจากอนุสาวรีย์ชัยฯ เพียง 950 ม.* เท่านั้น

จากจุดนี้สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งถนนวิภาวดีรังสิต, ถนนราชปรารภ, ถนนราชวิถี, ถนนพญาไท, ถนนพหลโยธิน, ถนนเพชรบุรี, ถนนรัชดาภิเษก และถนนพระราม 9 ทำให้เดินทางไปยังโซนต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ ได้อย่างคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็นโซน CBD อย่างสาทร-พระราม 4 หรือโซนชานเมืองฝั่งเหนืออย่างรังสิตและปทุมธานี

นอกจากนี้ ยังอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนหลายสาย ภายในระยะไม่ถึง 3 กม.* ก็สามารถขึ้นทางด่วนได้เลย ทั้งทางด่วนศรีรัช, ทางด่วนเฉลิมมหานคร และดอนเมืองโทลล์เวย์ โดยจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ด่านพหลโยธิน 1 และ 2 ในระยะทางประมาณ 1.5 กม.*

โดยฝั่งด่านพหลโยธิน 1 จะใช้มุ่งหน้าไปพระราม 9 และเชื่อมต่อกับทางด่วนเฉลิมมหานครไปยัง CBD ได้สะดวก ส่วนฝั่งของด่านพหลโยธิน 2 จะเชื่อมต่อไปได้ทั้งงามวงศ์วาน-แจ้งวัฒนะ ไปกาญจนาภิเษก หรือเส้นบางแค-บางบัวทองได้ใกล้มากขึ้น

สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางออกเมือง สามารถใช้ ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ด่านดินแดง 2 บนถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.9 กม.* วิ่งต่อไปได้ทั้งดอนเมือง (สนามบินดอนเมือง), รังสิต, ปทุมธานี, บางปะอิน และอยุธยาได้อย่างรวดเร็ว

ในส่วนของเส้นทางเข้า-ออกโครงการ หากมาจากฝั่งในเมือง เช่น ราชปรารภ, ราชวิถี, พญาไท หรือพหลโยธิน สามารถขับผ่านอนุสาวรีย์ชัยฯ เข้าสู่ถนนดินแดง จากนั้นกลับรถที่แยกประชาสงเคราะห์ แล้วตรงข้ามแยกดินแดงมาอีกเพียงเล็กน้อยก็ถึงโครงการ ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือพอดี

ส่วนผู้ที่มาจากฝั่งรัชดาภิเษก, อโศก, พระราม 9 หรือเพชรบุรี ก็สามารถใช้เส้นดินแดงมุ่งหน้าราชวิถีได้เลย โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือเช่นกัน หรือหากต้องการเลี่ยงรถติดช่วงเวลาเร่งด่วน ก็สามารถใช้ถนนดินแดงตัดใหม่ จะมาโผล่ตรงแยกดินแดง แล้วเลี้ยวซ้ายเพียงไม่กี่เมตรก็ถึงหน้าโครงการทันที เรียกได้ว่าไม่ว่าจะมาจากเส้นทางไหน การเข้าถึง ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ ก็เป็นเรื่องง่ายและสะดวกตลอดวัน


ทางด่วน  

โครงการอยู่ใกล้กับทางด่วนศรีรัช ด่านพหลโยธิน 1 ในระยะทางประมาณ 1.5 กม.* ใช้เดินทางไปพระราม 9 / บางนา-ดาวคะนอง เชื่อมทางด่วนเฉลิมมหานคร เพื่อเดินทางไปโซนอื่น ๆ ของกรุงเทพฯ ได้

ใกล้ทางด่วนศรีรัช ด่านพหลโยธิน 2 ฝั่งมุ่งหน้าไปงามวงศ์วาน-แจ้งวัฒนะ / ดาวคะนอง-กาญจนาภิเษก (บางแค-บางบัวทอง) ในระยะทางประมาณ 1.5 กม.* เท่ากันค่ะ

ใกล้กับทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ (ทางยกระดับอุตราภิมุข) ด่านดินแดง 2 บนถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งมุ่งหน้าไปดอนเมือง-บางปะอิน ในระยะทางประมาณ 2.9 กม.* ทางนี้จะใช้มุ่งหน้าออกเมืองไปดอนเมือง ไปสนามบินดอนเมือง เชื่อมต่อรังสิต, ปทุมธานี, บางปะอิน และอยุธยาได้ในระยะเวลาสั้น ๆ

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : ถือว่าสะดวกมาก เพราะอยู่ใกล้ BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในระยะทางประมาณ 1.2 กม.* หรือใช้เวลานั่งรถไปเพียง 3 นาที* โดยโครงการจะมีบริการ Shuttle Service รับ-ส่งลูกบ้านไปยังสถานีรถไฟฟ้าโดยตรง เหมาะสำหรับคนทำงานในเมืองที่ต้องการความสะดวกสบายในทุกเช้าเย็น แต่ถ้าใครเร่งรีบหรืออยากเดินทางเองก็สามารถเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากหน้าโครงการได้เลย ค่าโดยสารอยู่ที่ประมาณ 30-40 บาท* เท่านั้น

จากสถานี BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองเพียงไม่กี่นาที นั่งไปแค่ 3 สถานีก็ถึงสยาม ศูนย์กลางของการช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์ในกรุงเทพฯ ทั้ง Siam Square, Siam Center และ Siam Paragon หรือหากต้องการออกไปฝั่งเหนือของเมือง เพียงนั่งต่ออีกไม่กี่สถานีก็ถึงห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นโซนที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าอย่าง Central ลาดพร้าว และ Union Mall เดินทางง่ายในทุกจุดหมาย

จาก ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้สะดวกค่ะ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ประตูทางออก 4) ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กม.* หรือใช้เวลานั่งรถแค่ราว 3 นาที* เท่านั้น

สำหรับใครที่ชอบเดินออกกำลังกายก็สามารถเดินไปได้สบาย ๆ เพราะทางเท้าตลอดเส้นทางมีความกว้างพอสมควร และรายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ตลอดแนวถนน ทำให้บรรยากาศไม่เปลี่ยว เดินชิล ๆ ได้ทั้งช่วงเช้าและเย็น

นอกจาก BTS แล้ว โครงการยังอยู่ใกล้กับ Airport Rail Link ราชปรารภ ประมาณ 1.3 กม.* สามารถเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากหน้าโครงการไปต่อรถได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานในย่านมักกะสัน รามคำแหง หัวหมาก หรือลาดกระบัง เพราะสามารถนั่งตรงไปได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย

ส่วนใครที่ทำงานในสนามบิน หรือเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ ก็ยิ่งสะดวก เพราะจากสถานีราชปรารภ จะสามารถนั่ง Airport Rail Link ไปสุดสายที่สนามบินสุวรรณภูมิได้โดยตรง ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด และยังประหยัดค่าเดินทางได้มากกว่าอีกด้วย

ที่สำคัญในอนาคต สถานีราชปรารภนี้ยังจะกลายเป็นจุดเชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ส่วนต่อขยายในอนาคต) ที่จะตัดผ่านหน้าโครงการโดยตรง ซึ่งจะช่วยยกระดับศักยภาพการเดินทางของย่านนี้ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทั้งสำหรับการอยู่อาศัยและการลงทุนในระยะยาวค่ะ


สถานที่สำคัญใกล้เคียง   

รอบโครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ เป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ทั้งในระยะเดินและระยะขับรถ ใครที่อยู่อาศัยที่นี่สามารถใช้ชีวิตได้สะดวกแบบไม่ต้องออกไปไกลเลยค่ะ เพราะในระยะเดินเพียงไม่กี่นาทีจากโครงการก็มีทั้ง ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และ ตลาดศรีวนิช ที่อยู่ในซอยศรีวนิช ระยะประมาณ 180 ม.* เท่านั้น เดินออกไปจับจ่ายของกินของใช้ได้ง่าย ๆ ทุกวัน

ขยับออกไปรอบโครงการประมาณ 3-4 กม.* จะเต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้งและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย โดยย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ ถือเป็นศูนย์กลางสำคัญของโซนนี้ เพราะรายล้อมไปด้วยพื้นที่พาณิชยกรรม สำนักงาน ร้านอาหาร และคอมมูนิตี้ต่าง ๆ ที่พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์

1-tile

อีกทั้งยังเป็น Medical Hub ที่รวมโรงพยาบาลชื่อดังของประเทศมากกว่า 17 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น รพ.ราชวิถี, รพ.เด็ก, รพ.พระมงกุฎเกล้า, รพ.พญาไท 2, รพ.รามาธิบดี, รพ.บำรุงราษฎร์, รพ.วิชัยยุทธ และ รพ.พระราม 9 เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงและเชี่ยวชาญเฉพาะทาง


2-tile

ด้านแหล่งช้อปปิ้งใกล้โครงการก็มีให้เลือกครบทุกแนว ทั้งห้างใหญ่และคอมมูนิตี้มอลล์ เช่น King Power รางน้ำ, Century The Movie Plaza, Vanit Village Aree, พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า, Shibuya ประตูน้ำ, Platinum Mall, City Complex และ Palladium Mall

ส่วนใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศไปโซนสยาม-ราชเทวี-พระราม 9 ก็สามารถขับรถหรือขึ้นรถไฟฟ้าไปได้ในไม่กี่นาที เพราะมีศูนย์การค้าระดับ World Class อย่าง Siam Discovery, Siam Center, Siam Paragon, Siam Square One, Gaysorn Village, Singha Complex และ Central พระราม 9 รออยู่


สำหรับครอบครัวที่มีบุตรหลาน โครงการนี้อยู่ใกล้สถานศึกษาหลากหลายระดับมาก ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัย เช่น รร.นิธิปริญญา ที่อยู่ติดโครงการเลย ถัดออกไปก็มี รร.ศรีอยุธยา, รร.แม่พระฟาติมา, รร.อำนวยศิลป์, รร.เซนต์ดอมินิก, รร.จิตรลดา, รร.สามเสนวิทยาลัย และ รร.สุรศักดิ์มนตรี

รวมถึงโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง เช่น RBIS International School, St. Andrews Dusit, Siam Singapore International School และ KIMS Ari Campus ส่วนระดับมหาวิทยาลัยก็อยู่ไม่ไกลจาก จุฬาฯ, ม.หอการค้าไทย, วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก, วิทยาลัยแพทย์พระมงกุฎเกล้า และ ม.มหิดล (บางคณะ) โดยเฉพาะกลุ่มสาขาด้านการแพทย์ เช่น เภสัชศาสตร์ ทันตแพทย์ และสาธารณสุข


นอกจากนี้ ยังแวดล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานและหน่วยงานราชการหลายแห่ง เช่น กระทรวงแรงงาน, สำนักงานเขตดินแดง, ศาลาว่าการกรุงเทพฯ, อาคารเพชราวุธ, อาคารไทยวิวัฒน์, กรมแพทย์ทหารบก, ททบ.5, SM Tower, Spring Tower, PEARL Bangkok, Vanit Place, CP Tower 3, Unilever House, The Ninth Tower, และ G Tower ซึ่งเป็นโซนที่มีทั้งแหล่งงาน แหล่งเรียน และแหล่งไลฟ์สไตล์ครบจบในพื้นที่เดียว

สรุปได้ว่าโครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ ตั้งอยู่ในทำเลที่มีทุกอย่างครบในรัศมีไม่กี่กิโลเมตร ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ แหล่งงาน โรงเรียน โรงพยาบาล หรือห้างช้อปปิ้งใหญ่ เรียกได้ว่า “อยู่ที่เดียวจบ ครบทุกความต้องการของการใช้


การเดินทาง  

xx


ภาพมุมสูงโครงการ 

ภาพมุมสูงที่ดินโครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ เป็นคอนโดพร้อมอยู่ ความสูง 29 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยจำนวน 593 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนดินแดง ติดแยกดินแดง ฝั่งมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใกล้ถนนวิภาวดีรังสิต, รถไฟฟ้า 3 สาย และทางด่วน

สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ที่ดินโครงการ ขออธิบายเป็นทิศหลัก ๆ ให้เข้าใจง่าย ๆ คือ ทิศเหนือ จะอยู่ติดกับถนนดินแดง หรือแยกดินแดง ฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารสำนักงานไทยวิวัฒน์ ความสูง 12 ชั้น และ Mersi Clinic คลินิกเสริมความงาม ทิศใต้ ด้านหลังโครงการ อยู่ติด รร.นิธิปัญญา

ข้างโครงการฝั่งทิศตะวันตก อยู่ติดซอยส่วนบุคคล และเกล้าสยาม คอนโด ความสูง 11 ชั้น ถัดไปอีกหน่อยจะเป็นอาคารเพชราวุธ ความสูง 10 ชั้น ส่วนด้านข้างโครงการ ฝั่งทิศตะวันออก ติดถนนดินแดงตัดใหญ่ และแนวทางด่วนเฉลิมมหานครค่ะ

รอบโครงการ

  • ทิศเหนือ : แยกดินแดง และถนนดินแดง ฝั่งขาเข้า
  • ทิศใต้ : รร.นิธิปัญญาและถนนดินแดงตัดใหม่
  • ทิศตะวันออก : แยกดินแดงและแนวทางด่วน
  • ทิศตะวันตก : ซอยส่วนบุคคลและเกล้าสยาม คอนโด

ตัวโครงการ

โครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ ถือเป็น ‘ASPIRE’ คอนโดในเวอร์ชันใหม่ที่ทาง AP ตั้งใจพัฒนาขึ้น เพื่อให้สอดรับกับดีมานด์และไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายในทำเลนี้โดยเฉพาะ พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Convergence Living as you desire ผ่านความพิเศษ 3 มิติ คือ

  • Flexible as you desire ก้าวข้ามทุกกฎเกณฑ์เดิม กับเลย์เอาต์ใหม่ที่ออกแบบเพื่อทุกการใช้ชีวิตจริง

  • Recharge as you desire เปิดวาร์ปทุกมิติของการพักผ่อน เลือกโหมดได้ดั่งใจเติมไฟให้ชีวิตทุกวัน

  • Moveable as you desire ทะยานสู่ความต้องการได้ดั่งใจ กับทำเลที่ทำให้ทุกจุดมุ่งหมายใกล้แค่เอื้อม

ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2-2-70.7 ไร่ เป็นคอนโด High-Rsie สูง 29 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยจำนวน 593 ยูนิต + ร้านค้าจำนวน 1 ยูนิต ส่วนพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 8-28 โดยชั้น 8-21 เป็นห้องชุดแบบ All New Simplex ขนาด 26.5-60 ตร.ม. และชั้น 22-28 เป็นห้องชุดแบบ All New Vertiplex ขนาด 26-46 ตร.ม.

มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันจัดเต็ม ตามแนวคิด Recharge as you desire กับพื้นที่สีเขียวสุดเงียบสงบเสมือนเป็นโอเอซิสใจกลางกรุงเทพฯ กับพื้นที่สีเขียวทั้งโครงการประมาณ 1.2 ไร่ มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ 3 ชั้น พร้อม Facilities ที่ครบครัน ทันสมัย ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว

แปลนอาคารชั้น 1 ผังที่ดินโครงการจะเป็นรูปตัว L ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 2 ไร่กว่า มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวผ่านถนนดินแดง โดยจะมีระยะ Setback เข้ามาประมาณ 50 ม.* ข้อดี คือ จะช่วยลดความวุ่นวายจากรถยนต์ที่ขับผ่านไปมาบนถนนใหญ่ เข้ามาด้านในจะเดินรถแบบ One Way วนซ้ายไปตามเข็มนาฬิกา โดยด้านหลังอาคารจะเป็นทางขึ้นชั้นจอดรถยนต์ ที่จอดรถได้ตั้งแต่ชั้น 1-7 และมีร้านค้า 1 ยูนิต ก่อนทางรถออก

ด้านหน้าโครงการจะเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ หรือเรียกว่า The Breathtaking Scenery พร้อม The Stay, The Stage และ The Step เป็นทั้งสวนหย่อม พื้นที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งที่รองรับการออกกำลังกาย Outdoor หลากหลายรูปแบบ

นอกจาก The Breathtaking Scenery แล้ว ก็จะมี The Hop & Bounce Yard พื้นที่สีเขียวจุดที่ 2 ที่ตั้งอยู่ปีกด้านหลังโครงการค่ะ ตรงนี้จะประกอบไปด้วย The Strenght, The Endurance, The Balance และ The Flexibility ทั้งหมดจะเป็น Active Zone ไว้สำหรับออกกำลังกาย และมีสนามเด็กเล่นของน้อง ๆ หนู ๆ ในโครงการจัดเตรียมมาให้ด้วยค่ะ


ภายในอาคารจะมี Facilities ในร่ม อื่น ๆ อีกหลายรายการ อย่างเช่น The Aspire Common เป็นพื้นที่ส่วนกลางในร่ม อยู่ติดกับสวนหน้าโครงการ มีการฟังก์ชันออกมาให้อีกหลายรายการ เช่น The Co-Op Society, The Work Hub, The Chill Out และ The Green Terrace ทั้งหมดจะรองรับการทำงานและพักผ่อน แบบเปิดรับวิวสวนได้กว้างเต็มสายตาค่ะ


ถัดมาด้านในจะเป็น The Parlour เป็นเหมือน Common Area หรือ Lobby รับรองเพื่อน ๆ หรือคนที่แวะมาหาที่บ้าน โซนนี้จะมี Shop 1 ยูนิต มีห้องนิติบุคคล, Delivery Station, Mail Room พร้อมลิฟต์โดสารระบบล็อกชั้น จำนวน 3 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว โดยการเข้า-ออกอาคาร, ลิฟต์โดยสาร และชั้นพักอาศัย จะใช้เป็นระบบ Face Scan ทั้งหมด สะดวกดีนะคะ ไม่ต้องพก Key Card หรือกุญแจให้ยุ่งยากเลยค่ะ

โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ดินแดง ฝั่งมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในระยะทางเพียง 950 ม.* และอยู่ห่างจาก BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประตูทางออกที่ 4 เพียง 1.2 กม.*

จากที่ดินมองตรงออกมาจะเห็นถนนดินแดง มองไปฝั่งตรงข้าม จะเป็นถนนวิภาวดีรังสิต และขวามือจะเป็นแยกดินแดง

ถนนทางเข้าโครงการ ใช่ร่วมกันกับ รร.นิธิปัญญา

ด้านข้างมีทางเท้าให้เดินเข้า-ออกโครงการได้สะดวก

ประตูสำหรับคนเดินเท้าใช้เป็นระบบ Face Scan

ถนนภายในโครงการเดินรถแบบ One Way ซ้ายมือเป็นทางรถเข้า เชื่อมกับ Drop-Off และทางขึ้นชั้นจอดรถที่ด้านหลัง ส่วนขวามือเป็นทางรถออก โดยลูกบ้านจะใช้งานผ่านระบบ KATSAN แบบอ่านป้ายทะเบียนรถยนต์ ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรกับพี่ รปภ. เพื่อความปลอดภัยอีกระดับ

เข้ามาด้านในโครงการ แล้วมองไปทางขวาจะเป็นช่องรถออก และร้านค้าจำนวน 1 ยูนิต ตลอดแนวรั้วมีการจัดสวนแนวตั้งให้บรรยากาศที่ร่มรื่นดีมาก ๆ

จากด้านหน้ามองไปทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สีเขียว ที่เรียกว่า The Breathtaking Scenery

เข้ามาดู The Breathtaking Scenery ที่เป็นพื้นที่สีเขียวด้านหน้าโครงการกันก่อนค่ะ บริเวณนี้จะเป็นสวนตอนลึกที่ยาวกว่า 60 ม. ภายในจะมีฟังก์ชันอื่น ๆ แทรกไว้ให้ใช้งาน ทั้ง The Stay, The Stage และ The Step เป็นทั้งสวนหย่อม พื้นที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งที่รองรับการออกกำลังกาย Outdoor หลากหลายรูปแบบ

เข้ามาในสวนแล้วมองไปทางซ้าย จะเจอกับ The Stay ที่เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนในร่ม และข้าง ๆ กันจะเป็นประตูทางเดินเข้า-ออกที่เชื่อมกับทางเท้าด้านหน้าโครงการอีกทีค่ะ

บรรยากาศภายในสวนให้ความรู้สึกร่มรื่นและเขียวขจีตลอดทาง รายล้อมด้วยต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่ช่วยสร้างความผ่อนคลายได้ทันทีที่ก้าวเข้ามา สะท้อนคอนเซ็ปต์ Relax Retreat Recovery ได้อย่างชัดเจน ราวกับเป็นโอเอซิสเล็ก ๆ ท่ามกลางจังหวะชีวิตที่เร่งรีบของเมืองเลยค่ะ
 

ภายในสวนจะมี The Stage และ The Step ที่เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนยกระดับ ไว้ออกมานั่งเล่นรับลมชมวิว หรือใช้เป็นมุมถ่ายรูปเช็กอินสวย ๆ ได้

บริเวณ The Stage จะมีบันไดทางขึ้น-ลงให้ทางฝั่ง พร้อมม้านั่งที่ด้านบน รองรับการนั่งเล่นพร้อม ๆ กันได้สูงสุด 4 คน

ถัดมาจะเป็น The Step มีม้านั่งเล่นระดับที่ด้านข้าง และม้านั่งด้านบนให้เหมือนกัน

เดินวนไปด้านท้ายสวน จะเชื่อมกับถนนภายในโครงการได้แบบนี้

เดินอ้อมมาด้านหลังโครงการ จะเจอกับ EV Station จำนวน 2 Slots ติดกันเป็นที่จอดรถสำหรับรับ-ส่งลูกบ้านไปรถไฟฟ้า

ถัดมาจะเป็นทางขึ้นชั้นจอดรถยนต์ และท้ายสุดจะเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์

มองขึ้นไปจะเห็นโซนอาคารจอดรถที่วางตัวตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 7 โดยทุกชั้นมีการติดตั้งพัดลมระบายอากาศขนาดใหญ่เอาไว้ให้ครบถ้วน ช่วยให้ลานจอดรถภายในอาคารมีอากาศหมุนเวียนต่อเนื่อง ไม่อับชื้น และลดการสะสมของกลิ่นหรือควันจากรถยนต์ได้ดี

กลับมาที่ทางเข้าโครงการ มองตรงไปจะเชื่อมกับ Drop-Off และ The Aspire Common

จาก Drop-Off มองไปทางซ้ายมือ จะเป็นที่ตั้งของ The Aspire Common ที่รองรับการทำงานและการพักผ่อนได้อย่างลงตัว

The Aspire Common มีการออกแบบฟังก์ชันมาค่อนข้างครบและตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่ค่ะ ภายในแบ่งเป็นหลายโซน ทั้ง The Co-Op Society ที่เหมาะกับการทำงานร่วมกันหรือประชุมกลุ่มเล็ก ๆ และ The Work Hub สำหรับการทำงานแบบโฟกัสส่วนตัวมากขึ้น

การเข้าใช้งานแต่ละพื้นที่ก็สะดวกและปลอดภัย เพราะใช้ระบบ Face Scan ในการเข้าออก ช่วยให้สมาชิกโครงการสามารถใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้อย่างคล่องตัว ไม่ต้องพกการ์ดหลายใบ และยังเสริมความปลอดภัยของอาคารได้ดีอีกด้วย

The Aspire Common ถูกออกแบบให้มีบรรยากาศหรูหรากว่าที่เราคุ้นเคยจากแบรนด์ Aspire รุ่นก่อน ๆ อย่างเห็นได้ชัดค่ะ พื้นที่ภายในปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนโทนดำ–ขาว ให้ความรู้สึกพรีเมียมตั้งแต่แรกก้าวเข้าไป ส่วนผนังและฝ้าเพดานตกแต่งด้วยวัสดุเลียนแบบไม้ ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและความมีมิติให้กับห้องได้ดี

ด้านหน้าจะเป็นผนังกระจกบานใหญ่เต็มความสูง เปิดรับวิวสวนและต้นไม้สีเขียวจากด้านหน้าโครงการ ทำให้พื้นที่ดูโปร่งโล่งและเชื่อมต่อกับธรรมชาติได้มากขึ้น ที่นี่ยังจัดโซฟานั่งพักไว้หลายตำแหน่ง เหมาะสำหรับใช้เป็นมุมนั่งคอย นัดพบแขก หรือจะมานั่งพักผ่อนระหว่างวันก็สบายมาก เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ให้ทั้งภาพลักษณ์ดีและใช้งานได้จริงค่ะ

ภายใน The Co-Op Society เป็นห้องประชุมที่เป็นส่วนตัวและนั่งใช้งานได้หลายคน ชวนเพื่อน ๆ มานั่งพูดคุย แชร์ไอเดีย ประชุมงานต่าง ๆ กันได้

ติดกันจะเป็น The Work Hub เป็นห้องทำงานแบบส่วนตัว ที่ถูกกั้นแยกโซนออกมาให้เป็นสัดส่วน ใช้งานได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยยังคงมีหน้าต่างให้มองพื้นที่สีเขียวด้วยเช่นกัน

ภายในมีโต๊ะทำงานแบบเดี่ยว และโต๊ะทำงานแบบเคาน์เตอร์ที่ทำงานไปชมวิวสวนไปได้เพลิน ๆ

มองไปทางขวามือจาก Drop-Off จะเป็นห้องนิติบุคคล และทางเดินเชื่อมต่อกับ Mail Room, Lift Hall และ The Parlour

บรรยากาศภายในตกแต่งพื้นและผนังออกมาได้อย่างสวยงาม ด้านหน้าห้องนิติบุคคลจะมีการจัดวางโซฟารับรองไว้สำหรับนั่งพักคอยให้ด้วย 1 ตัว

ติดกับห้องนิติบุคคลทางด้านซ้ายมือ จะมีห้องน้ำส่วนกลางแยกฟังก์ชันห้องน้ำชาย ห้องน้ำหญิง และห้องน้ำ Disabled มาให้ครบ

ภายในห้องน้ำ Disabled พื้นที่กว้าง รองรับการเคลื่อนย้าย Wheelchair สำหรับผู้สูงอายุได้สะดวก พร้อมติดราวจับช่วยพยุง และสุขภัณฑ์มาตรฐานมาให้ครบค่ะ

ทางฝั่งห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิง ก็มีสุขภัณฑ์มาตรฐานติดตั้งมาให้ครบเช่นเดียวกัน

เดินกลับออกมาจะเจอกับทางเดินในร่ม ที่ใช้เชื่อมกับ Mail Room, Lift Hall และ The Parlour

ตรงเข้ามาทางซ้ายมือจะเป็น Mail Room ขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาอย่างเป็นระเบียบและดูพรีเมียมทีเดียวค่ะ ภายในมีการแยก Mailbox ของแต่ละยูนิตไว้อย่างชัดเจน และยังตกแต่งด้วยโทนวัสดุหรูหราเข้ากับภาพรวมของโครงการ

ก่อนขึ้นห้องเราสามารถแวะรับจดหมายหรือเอกสารต่าง ๆ ได้สะดวกมาก ไม่ต้องเดินอ้อมหรือเสียเวลา เป็นอีกจุดที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้การใช้ชีวิตประจำวันค่ะ

ตรงข้ามกับ Mail Room จะเป็น The Parlour  ที่มีฟังก์ชันเหมือน Co-Working Space และทุกจุดของพื้นที่ส่วนกลางในโครงการนี้ จะใช้การเข้าห้องผ่านระบบ Face Scan เหมือนกันค่ะ

ภายใน The Parlour เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับลูกบ้าน ออกแบบให้เป็นห้องเพดานสูง ใช้ผนังกระจกบานใหญ่เต็มพื้นที่ พร้อมตกแต่งภายในให้ดูอบอุ่น ผ่อนคลาย เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และเส้นสายแบบ Organic Form ที่ดูกลมกลืนไปกับพื้นที่สีเขียวที่ด้านนอก

ภายในจัดเตรียมชุดโซฟารับรองมาให้หลายที่นั่ง ใช้เป็นห้องรับรองแขก, ห้องรับรองญาติพี่น้องที่แวะมาหาที่โครงการ หรือใช้เป็นพื้นที่สำหรับนัดคุยงานอย่างไม่เป็นทางการได้ และไม่ว่าจะนั่งทำงาน นั่งพักผ่อนอยู่จุดไหน ก็สามารถชมวิวสวนสวย ๆ ได้จากทุกจุดในห้องเลยค่ะ

ผ่านส่วนนี้ไปจะเจอกับ Lift Hall, Delivery Station และร้านค้า

บริเวณ Delivery Station ถูกจัดสรรมาให้ใช้งานได้สะดวกมากค่ะ มีทั้งเคาน์เตอร์และชั้นวางของสำหรับวางอาหารหรือพัสดุที่ไรเดอร์นำมาส่ง พี่ ๆ ไรเดอร์สามารถขับเข้ามาจอดส่งของได้ง่าย ไม่ต้องวนหาที่จอดให้ยุ่งยาก

ฝั่งลูกบ้านเองก็สะดวกเช่นกัน เพราะจุดนี้อยู่ใกล้ Lift Hall เดินลงมารับอาหารหรือของที่สั่งไว้ได้แบบไม่ต้องออกไปไกล ช่วยทั้งเรื่องความปลอดภัยและความคล่องตัวในชีวิตประจำวัน 

ถัดมาด้านนอกจะเป็นร้านค้า ที่ปัจจุบันใช้เป็นที่ตั้งของ Sales Gallery ไปก่อนค่ะ

เดินกลับมาที่ Lift Hall ที่ด้านใน ลูกบ้านเข้าอาคารพักอาศัย และลิฟต์โดยสารได้สะดวกผ่านระบบ Face Scan

โถงลิฟต์ชั้น 1 ถูกออกแบบมาให้ดูหรูหราและให้ความรู้สึกอบอุ่นทันทีที่เดินเข้ามาค่ะ มีการใช้ไฟตกแต่งที่ช่วยสร้างมิติให้พื้นที่ ดูสว่างกำลังดี ภาพรวมให้บรรยากาศคล้าย Lobby ของโรงแรมเลยทีเดียว

สำหรับการใช้งาน โครงการติดตั้งลิฟต์โดยสารมาให้ทั้งหมด 3 ตัว รองรับจำนวนยูนิตได้ดี ช่วยกระจายการใช้งานช่วงเวลาเร่งด่วน ทำให้ลูกบ้านขึ้นลงชั้นต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัวมากขึ้นค่ะ


แปลนอาคารชั้น 2-7 เป็นชั้นจอดรถยนต์ทั้งหมดเลยค่ะ ลูกบ้านสามารถจอดได้ห้องละ 1 คัน ไม่ระบุช่องจอด โดยที่จอดรถจะคิดเป็น 40.5% หรือประมาณ 240 ไม่รวมจอดซ้อนคัน ทุกชั้นจะใช้ลิฟต์โดยสาร ระบบ Face Scan ออกจากที่จอดรถมา ก็สามารถกดลิฟต์ลงไป Lobby หรือขึ้นไปชั้นพักอาศัยของตัวเองได้เลยค่ะ


แปลนอาคารชั้น 8 เป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัยแบบ Simplex และ Facilities หลักของโครงการ ผังอาคาจะเป็นรูปตัว L  มีทั้งหมด 20 ยูนิต/ ชั้น ห้องพักหันครบทุกทิศ ได้โถงทางเดินแบบ Double Corridor มีโถงลิฟต์อยู่ตรงมุมอาคาร มีบันไดหนีไฟให้ 2 จุด ที่หัว-ท้าย ส่วนลิฟต์บริการสำหรับขนย้ายของ ก็จะอยู่ติดกับโถงลิฟต์โดยสารเลยค่ะ


ส่วนกลางบนชั้น 8 มีทั้งแบบในร่มและกลางแจ้งค่ะ ในร่มจะประกอบไปด้วย The Healthy Space เป็นฟิตเนสหน้ากว้างขนาดใหญ่ ภายในจัดเตรียมเครื่องออกกำลังกายมาตรฐานมาให้ครบค่ะ สามารถออกกำลังกายไป ชมวิวสระว่ายน้ำด้านหน้าไปได้

ถัดออกไปที่กลางแจ้ง จะเป็นสระว่ายระบบน้ำเกลือ เป็นสระแบบ Lap Pool ว่ายน้ำออกกำลังกายได้ ทั้งยังมีการแยกโซน Jacuzzi และสระว่ายน้ำเด็กออกมาให้ด้วย และที่ท้ายวระว่ายน้ำ จะมี Pool Terrace ไว้นั่งพักผ่อน เชื่อมต่อไปจะเป็นห้องย้ำส่วนกลาง โดยห้องน้ำชาย จะมี Sauna มาให้ และฝั่งห้องน้ำจริง จะได้เป็น Steam แทนค่ะ


ขึ้นมาที่ชั้น 8 จะมีทั้งฝั่งของพื้นที่ส่วนกลางและฝั่งของยูนิตพักอาศัย

ออกจากลิฟต์มองไปทางซ้าย จะเป็นฝั่งของยูนิตพักอาศัย มีการกั้นประตูระบบ Face Scan ให้อีกชั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของลูกบ้านชั้นนี้ค่ะ

อีกฝั่งจะมีประตูแยกออกเป็น 2 บาน ตรงข้ามกับลิฟต์จะเป็นทางออกสู่สระว่ายน้ำและห้องน้ำส่วนกลาง ส่วนประตูด้านขวาจะเชื่อมกับ Pool Terrace และ The Healthy Space หรือห้อง Fitness นั่นเองค่ะ

เดินผ่านประตูด้านขวาออกมาก่อนนะคะ ผ่านประตูมาเราจะเจอกับ Pool Terrace ริมสระว่ายน้ำ ก่อนทางเข้าไปยัง Fitness

มุมนี้ถูกจัดให้เป็นพื้นที่พักผ่อนเล็ก ๆ ริมสระที่บรรยากาศดีมาก มีทั้งเก้าอี้นั่งเล่น ชิงช้า และม้านั่งวางไว้เป็น Station ย่อย ๆ ให้เลือกนั่งตามสบาย จะใช้เป็นมุมนั่งชมสระ พักผ่อนหลังว่ายน้ำ หรือจะนั่งพักเหนื่อยหลังออกกำลังกายก็เหมาะทั้งหมด เป็นอีกโซนที่ช่วยเติมความผ่อนคลายให้ส่วนกลางได้ดีเลย

เข้าไปดูฟังก์ชันกาารใช้งานภายใน Fitness กันต่อ

The Healthy Space ที่ชั้น 8 เป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ จัดเตรียมเครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัยมาให้ครบในรูปแบบทั้ง Private และแบบ Group ทั้งยังออกแบบมาเป็นห้องหน้ากว้าง และใช้ผนังเป็นกระจกบานใหญ่ทั้งหมด

มีการแบ่ง Partition แยกไว้เป็นโซน ๆ เพื่อเว้นระยะห่างออกจากกัน และทำให้ออกกำลังกายได้อย่างเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทั้งยังสามารถชมวิวสระว่ายน้ำและวิวสวนสีเขียวที่ด้านนอกได้อย่างผ่อนคลายสบายตาดีมาก ๆ

ริมผนังกระจกวิวสระว่ายน้ำ จัดวาง Treadmill ไว้ให้รวม 5 เครื่อง

มองออกมาเห็นวิวสวนตกแต่งและสระว่ายน้ำด้านนอกแบบนี้ค่ะ

ด้านหลังเป็น Cardio Zone เช่นกัน มีเครื่องออกกำลังกายมาตรฐานจัดไว้ให้ครบ ทั้ง Elliptical และ Exercise Bike

ถัดไปด้านในยังมีฟังก์ชันให้อีกหลากหลาย

ขวามือเป็นเคาน์เตอร์บาร์ และมีตู้กดน้ำดื่มให้บริการกับลูกบ้านด้วย

ซ้ายมือฝั่งวิวสระว่ายน้ำ จะเป็นห้อง Yoga สามารถ Booking เพื่อใช้งานแบบ Private ได้ด้วยค่ะ

บรรยากาศภายในห้อง Yoga สามารถใช้งานพร้อม ๆ กันได้หลายคน

มีอุปกรณ์การเล่น Yoga จัดเตรียมไว้ให้

ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็น Wright Training Zone โซนออกกำลังกายที่เน้นอุปกรณ์บริหารกล้ามเนื้อแบบครบเซตค่ะ ภายในมีเครื่องออกกำลังกายหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน ทั้งสำหรับส่วนบน ส่วนล่าง และการเวทเทรนนิ่งแบบจริงจัง แต่ละเครื่องจัดวางเว้นระยะกว้าง ทำให้เคลื่อนไหวได้สะดวก ไม่รู้สึกอึดอัด แม้จะมีผู้ใช้งานหลายคนพร้อมกันก็ยังดูเป็นระเบียบและเป็นสัดส่วนดี เหมาะกับคนที่ชอบออกกำลังกายแบบเต็มรูปแบบ

มองออกไปเห็นวิวสระ วิวอาคารบ้านเรือนสวย ๆ แบบนี้ด้วยค่ะ

ผ่านประตูตรงข้ามลิฟต์ออกไป จะเจอกับ The Aqua โซนสระว่ายน้ำที่ให้บรรยากาศแบบรีสอร์ตชัดเจน ตั้งแต่ดีไซน์พื้นที่เปิดโล่งไปจนถึงการจัดวางต้นไม้รอบสระ ที่นี่เป็นสระระบบเกลือความยาว 25 ม. แยกโซนสระเด็กและ Jacuzzi สำหรับแช่น้ำผ่อนคลายโดยเฉพาะ บรรยากาศดีมากเพราะมีการแทรกต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มไว้ทั่วบริเวณ ทำให้พื้นที่เย็นสบายและร่มรื่นตลอดวัน

ตัวสระมีทั้งโซนในร่มและโซนนอกชายคา ให้เลือกใช้ได้ตามฟีลของแต่ละวัน จะลงเล่นน้ำ ว่ายออกกำลังกาย หรือแช่น้ำชิล ๆ ก็รู้สึกเหมือนได้มาพักผ่อนที่รีสอร์ตแบบไม่ต้องเดินทางไกลเลยค่ะ

มี Jacuzzi ให้ทั้งหมด 2 จุด

จากสระว่ายน้ำมีทางเดินด้านข้างให้เชื่อมกับทางลงสระ จุดล่างตัว และห้องน้ำส่วนกลางได้ที่ด้านในสุดค่ะ

ทางลงสระว่ายน้ำ และจุดล้างตัว

ติดกันมีเก้าอี้พักผ่อนจัดไว้ให้อีก 2 ตัว

ด้านหลังสระว่ายน้ำตรงนี้จะเป็นโซนห้องน้ำ ซึ่งจัดฟังก์ชันแยกไว้ครบถ้วน ทั้งห้องน้ำ Disabled, ห้องน้ำชาย และห้องน้ำหญิง ให้รองรับการใช้งานได้อย่างเป็นสัดส่วนค่ะ

ห้องน้ำชายมีขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนโทนพรีเมียม ดูหรูหราและสะอาดตา ภายในจัดฟังก์ชันมาตรฐานครบทุกอย่าง ทั้งล็อกเกอร์เก็บของ อ่างล้างมือ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และโถสุขภัณฑ์ชาย พร้อมทั้งมี ห้อง Sauna แยกไว้ให้ใช้งานอีกหนึ่งห้อง

ส่วนห้องน้ำหญิงก็ออกแบบในโทนเดียวกัน เน้นความเรียบหรูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนเช่นกัน ฟังก์ชันมาตรฐานให้ครบทั้งห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ อ่างล้างมือ และพื้นที่จัดเก็บของ โดยห้องนี้จะได้เป็น ห้อง Steam แทน เพิ่มความผ่อนคลายให้ลูกบ้านหลังออกกำลังกายหรือว่ายน้ำค่ะ


แปลนอาคารชั้น 9 เป็นชั้นพักอาศัยแบบเต็มชั้นค่ะ การวางผังห้องพักจะเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ตัวอาคารเป็นรูปตัว L มีโถงทางเดินแบบ Double Corridor พร้อมโถงลิฟต์ตรงมุมอาคาร และบันไดหนีไฟที่หัว-ท้ายรวม 2 จุด

ในส่วนของห้องพักจะเป็นแบบ Simplex ทั้งหมด มีให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด โดยชั้นนี้จะมีทั้งหมด 30 ยูนิต / ชั้น ห้องพักโซนในจะได้วิวสระว่ายน้ำและวิวสวนจากชั้น 8 แบบใกล้ชิด


แปลนอาคารชั้น 10-14 วางผังมาเหมือนกันกับชั้น 9 และมีห้องพักจำนวน 30 ยูนิต/ ชั้น เท่ากันค่ะ


แปลนอาคารชั้น 15 วางผังมาเหมือนกันกับชั้น 9 /10-14 โดยจะมีห้องพักจำนวน 30 ยูนิต/ ชั้น เท่ากัน โดยชั้นสูง ๆ อย่างชั้น 15 ขึ้นไป ห้องพักด้านในจะมองเห็นวิวส่วนกลางชั้น 8 และวิวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนห้องฝั่งอื่น ๆ ก็จะได้เป็นวิวเมืองฝั่งวิภาวดีและฝั่งพระราม 9 ค่ะ


แปลนอาคารชั้น 16-21 มีทั้งหมด 30 ยูนิต/ ชั้น วางผังมาเหมือนกันกับชั้นก่อนหน้าทั้งหมด โดยชั้น 21 จะเป็นชั้นสุดท้ายของห้อง Simplex แล้วนะคะ


แปลนอาคารชั้น 22-28 ตั้งแต่ชั้นนี้ขึ้นไป จะเป็นห้องพักแบบ Simplex เพดานสูง 4.45 ม. มีห้องพักให้เลือกทุกขนาด ตั้งแต่ 26-46 ตร.ม. ส่วนวิวจะได้มุมมองเดียวกันทั้งหมด คือโซนในเป็นวิวเมืองและฝั่งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนด้านอื่น ๆ จะได้วิวเมืองทางฝั่งวิภาวดี และพระราม 9 ค่ะ


แปลนอาคารชั้น 29 เป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบเต็มชั้น มีทั้งโซนกลางแจ้งและในร่ม โดยด้านนอกจะเป็น The Sky Park เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ จัด Landscape มาได้อย่างสวยงาม มีการปลูกต้นไม้ใหญ่โตเต็มวัย สลับกับต้นไม้พุ่ม ไม้ประดับ และไม้ดอกตามแนวทางเดิน ให้บรรยากาศที่ร่มรื่น อากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งในสวนก็จะมีการจัดฟังก์ชันการใช้งานให้หลากหลายเลยค่ะ

ด้านนอกจะมี The Green Tard ที่เปิดรับวิวได้ 360 องศา มาพร้อม The Pavilion, The Portico และ The Patio ให้ขึ้นมานั่งเล่นพักผ่อน รับลมชมวิว วันไหนอากาศดี ๆ ก็สามารถขึ้นมานั่งอ่านหนังสือเล่มกันได้ ตรงกลางสวนจะมี Walkway ให้เดินออกกำลังกายในตอนเช้าหรือตอนเย็นได้เหมือนกันค่ะ

นอกจากกลางแจ้งแล้ว ก็จะมีโซนในร่ม ที่เป็น The Sky Lounge จัดเตรียมไว้ให้ ด้วยที่นี่เป็นคอนโด High-Rise ที่สูงถึง 29 ชั้น ทำให้ใช้ห้องนี้เป็นห้อง Hangout ห้องพักผ่อน วันไหนเบื่อ ๆ ก็สามารถขึ้นมานั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือ นั่งชมวิวเมืองสวย ๆ ได้รอบด้านเลยค่ะ


ขึ้นมาต่อที่ชั้น 29 ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบเต็มชั้น

ส่วนกลางบนชั้น 29 นี้ จะมีทั้งหมด 3 โซนค่ะ ขวามือจะเป็น The Green Yard และซ้ายมือจะเป็น The Sky Lounge และ The Sky Park

ออกประตูบานขวามือไปดูพื้นที่ The Green Yard กันก่อนค่ะ

The Green Yard เป็นลานสนามหญ้าขนาดกว้างที่ให้ฟีลธรรมชาติแบบเต็มพื้นที่ค่ะ ใช้งานได้หลากหลายมาก จะออกมา Warm Up หรือปล่อยให้เด็ก ๆ วิ่งเล่นกันตามสบายก็ได้ทั้งหมด บรรยากาศโปร่งโล่งและลมพัดสบายตลอดวัน

รอบ ๆ ยังมีเก้าอี้นั่งเล่นวางไว้หลายจุด เผื่อใครอยากออกมานั่งพักชมวิว นั่งคุย หรือมานั่งรับลมชิล ๆ ในช่วงเย็น เป็นพื้นที่ที่ช่วยเติมความสดชื่นให้กับโครงการได้ดีเลยค่ะ

เดินต่อไปดู The Sky Park และ The Sky Lounge ที่อยู่อีกฝั่งกันต่อค่ะ

ออกมาชมบรรยากาศของ The Sky Park กันก่อนค่ะ ฝั่งนี้เป็นสวนสีเขียวขนาดใหญ่ที่ออกแบบ Landscape มาได้สวยงามมาก เต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ ทั้งไม้เล็ก ไม้ใหญ่ และต้นไม้โตเต็มวัยที่ช่วยเพิ่มร่มเงา ทำให้พื้นที่ดูสดชื่นตั้งแต่แรกเห็น

ภายในมีทางเดินเล่นทอดยาวให้เดินออกกำลังกายหรือวิ่งเบา ๆ ได้ตามสบาย อีกทั้งยังจัดพื้นที่นั่งพักผ่อนกระจายไว้หลายมุม จะมานั่งอ่านหนังสือ พักสายตา หรือสูดอากาศดี ๆ ก็เหมาะทั้งหมด รวมแล้วพื้นที่สีเขียวโซนนี้มีมากถึง 1.2 ไร่ เปรียบเสมือนโอเอซิสขนาดใหญ่ท่ามกลางความเร่งรีบของเมือง ช่วยเติมความผ่อนคลายให้ลูกบ้านได้อย่างดีเลยค่ะ

ภายในสวนฝั่งนี้จะมีม้านั่ง โต๊ะบาร์สำหรับปิกนิก รวมถึงมีการจัด Water Feature ขนาดเล็ก แทรกไว้ให้ด้วยค่ะ ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ดูมีชีวิตชีวา เวลาออกมานั่งเล่นจะได้ยินเสียงน้ำไหลเบา ๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เหมาะสำหรับมานั่งพักใจ อ่านหนังสือ หรือสูดอากาศดี ๆ ในช่วงเย็น เป็นอีกมุมที่เติมความสบายให้พื้นที่สวนได้อย่างลงตัว 

เดินตรงไปจนทาง จะเจอกับ The Portico จุดชมวิวเมืองที่สวยมาก ๆ บน Rooftop แห่งนี้ค่ะ มุมนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบเมืองได้กว้าง ลูกบ้านสามารถขึ้นมาดูวิวพระอาทิตย์ตก หรือมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศชิล ๆ เป็นอีกไฮไลต์ของโครงการที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ

มองออกไปได้วิวเมืองฝั่งพระราม 9 และวิภาวดีรังสิต

ในอีกมุมของสวนจะมี The Pavilion พื้นที่นั่งพักผ่อนในร่มที่จัดเตรียมไว้ให้อีกหนึ่งจุดค่ะ มุมนี้เหมาะมากสำหรับหลบแดดในวันที่อากาศร้อน หรือจะมานั่งชิลตอนเย็นก็สบาย บรรยากาศเงียบสงบและเชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวรอบ ๆ ทำให้เป็นมุมพักใจเล็ก ๆ ที่หลายคนน่าจะชอบเลยค่ะ

ส่วนสุดท้ายของชั้นนี้ จะเป็นส่วนกลางในร่ม นั่นก็คือ The Sky Lounge ห้องพักผ่อนสุดหรู ฟีลอยู่โรงแรม 5 ดาว ภายในใช้เส้นสาย Futuristic ที่โฉบเฉี่ยว และทันสมัย และยังคงออกแบบ The Sky Lounge ให้เป็นห้องผนังกระจกรอบด้าน ทำให้ชมวิวเมืองสวย ๆ ได้ 180 องศา

ภายในยังมีการจัดเตรียมบาร์น้ำและชุดโซฟารับรองให้หลายที่นั่ง มีให้เลือกเยอะทั้งแบบเดี่ยว, แบบคู่ และแบบกลุ่ม จะขึ้นมานั่งเล่นพักผ่อน นั่งทำงาน นั่ง Hangout หรือขึ้นมาชมวิวเมือง ดูไฟสวย ๆ ในตอนกลางคืนก็ได้เช่นกันค่ะ

วิวสวย ๆ จาก The Sky Lounge ค่ะ


UNIT TYPE

ห้องพักอาศัยในโครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ เป็น Layout รูปแบบใหม่ มีให้เลือกหลากหลายแบบ โดยทาง AP เข้าใจในความต้องการของผู้อยู่อาศัยให้ยุคนี้

ที่ต้องการพื้นที่ที่มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ แม้พื้นที่จำกัดแต่ก็สามารถออกแบบฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ที่สำคัญอยู่สบาย ไม่อึดอัด ด้วยการดีไซน์ผ่าน Layout ใหม่นี้ ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย


โครงการ ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ มีห้องพักให้เลือกมากถึง 18 ดีไซน์ กับห้องชุด 2 แบบ ได้แก่

  • All New Simplex ห้องชุดเพดานปกติ 11 ดีไซน์ ขนาด 26.5-60 ตร.ม. เริ่มต้นที่ชั้น 8-21

  • All New Vertiplex ห้องชุดเพดานสูง 7 ดีไซน์ ขนาด 26-46 ตร.ม. เริ่มต้นที่ชั้น 22-28

ห้องพักแบบ All New Simplex ขนาด 26.5-60 ตร.ม.


ห้องพักแบบ All New Vertiplex ห้องชุดเพดานสูง 7 ดีไซน์ ขนาด 26-46 ตร.ม.


ห้องตัวอย่าง

โครงการ Aspire วิภา-วิคตอรี่ มีห้องตัวอย่างให้ชมทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่

  • Simplex 1 Bedroom ขนาด 32.5 ตร.ม. เพดานสูง 2.5 ม.
  • Vertiplex 1 Bedroom Extra ขนาด 32.5 ตร.ม. เพดานสูง 4.45 ม.

โครงการขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Fitted พร้อมเฟอร์นิเจอร์แบบ Multi-Fitted

สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมีดังต่อไปนี้ค่ะ

  • ชุดครัว Built-in พร้อมตู้เก็บของ และ Hob, Hood, Sink ของ Teka*
  • สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบในห้องน้ำของ Cotto
  • แอร์ Wall Type* (จำนวนแล้วแต่ขนาดห้องพัก)
  • พื้นลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม.
  • ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี
  • โคมไฟ Led Panel ทั้งห้อง
  • Digital Door Lock แบรนด์ Motise

ห้องตัวอย่างแบบที่ 1

แปลนห้องตัวอย่างห้องแรกเป็นยูนิตแบบ 1 Bedroom ขนาด 35.00 ตร.ม. รูปแบบ Simplex เพดานสูง 2.5 ม. ซึ่งจัดว่าเป็น Layout ใหม่ล่าสุดของแบรนด์ ASPIRE เลยค่ะ ตัวห้องมาในทรงลึก แบ่งสัดส่วนได้อย่างลงตัว และมีรายละเอียดที่ค่อนข้างแตกต่างจากโครงการทั่วไป ถือว่าเป็นดีไซน์ที่น่าสนใจมาก

พื้นที่ภายในห้องถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก เริ่มจากโซนแรกด้านหน้าห้องที่เป็นครัวปิดและห้องน้ำ ถัดเข้ามาคือโซนที่ 2 ซึ่งเดิมทีออกแบบให้เป็นห้องนอน ส่วนโซนที่ 3 ด้านในสุดคือห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดหน้าต่างและระเบียง โดยมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถทำเป็นมุมทำงานได้อย่างลงตัว ทุกส่วนมีการกั้นด้วยประตูกระจกเพื่อให้แต่ละฟังก์ชันมีความเป็นส่วนตัว ไม่รบกวนกัน

นอกจากนี้ พื้นที่โซนที่ 2 และ 3 ยังสามารถปรับสลับฟังก์ชันกันได้ด้วยนะคะ เช่น ย้ายห้องนั่งเล่นมาไว้ตรงกลาง แล้วจัดให้ห้องนอนพร้อม Walk-in Closet อยู่ด้านในสุดแบบเดียวกับห้องตัวอย่างที่กำลังจะพาไปชมต่อไปค่ะ


ประตูห้องพักจะได้กลอน Digital Door Lock ของแบรนด์ Motise ใช้งานได้หลัก ๆ ผ่านการกดรหัส, สแกนลายนิ้วมือ, แตะ Keycard และ ไขกุญแจในกรณีถ่านหมดค่ะ

เปิดประตูเข้ามาภายในห้อง จะเจอกับห้องครัวปิดและห้องน้ำเป็นส่วนแรกค่ะ ห้องนี้เป็นแบบ Vertiplex ได้เพดานสูง 2.5 ม. ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟ Led Panel ทั้งห้อง ช่วยประหยัดค่าไฟและพลังงานได้ดี

ห้องครัวเป็นห้องแบบตอนลึก ได้พื้นที่มากว้างกำลังดี โครงการจัดวางชุดครัวชิดผนังไว้ให้ สามารถทำอาหารทานจริงจังได้ ตัวพื้นจะปูกระเบื้องเซรามิกสีเบจ 30 x 30 ซม. มาให้ เหมาะกับการใช้งานหนัก ๆ และช่วยในเรื่องเช็ดถูทำความสะอาดพื้นได้ง่าย

หน้าตาของชุดครัวที่ได้รับ ความกว้างประมาณ 1.2 ม.* ได้ฟังก์ชันมาครบทั้ง Hob, Hood, Sink และตู้เก็บของบน-ล่าง

หน้าท็อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว มีการกรุกระเบื้องทำ Backsplash มาให้ และมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้ 1 จุด รองรับการเสียบต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้เลย

ได้ซิงค์ล้างจานสแตนเลสแบบหลุมเดี่ยว พร้อมก๊อกน้ำก้านโยกของ Teka มาให้ในมาตรฐานค่ะ จุดนี้ใช้งานได้ทนทาน ดูแลง่าย และเหมาะกับการใช้งานประจำวัน ส่วนด้านหน้าอ่างยังมีฝาปิดหน้าซิงค์แถมมาให้ด้วย สามารถวางปิดเพื่อเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารให้กว้างขึ้นได้ทันที เหมาะมากเวลาต้องการพื้นที่วางของหรือเตรียมวัตถุดิบหลายอย่างพร้อมกัน ทำให้ครัวดูเป็นระเบียบและใช้งานได้คล่องตัวขึ้นค่ะ

อีกฝั่งจะติดตั้งเตาไฟฟ้า 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส พร้อมเครื่องดูดควัน Slimline ของ Teka ระบบหมุนเวียน ผนังด้านหลังมีราวแขวนผ้า และหมุดแขวนของใช้ติดมาให้ตามนี้

ด้านบนจะได้ตู้เก็บของบานเปิดลายไม้ เปิดออกมาจะมีชั้นลอยให้ 2 ชั้น ทำให้เก็บของชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย หรือใช้เป็นตู้เก็บถ้วยกาแฟ อาหารแห้งก็ดี อีกฝั่งจะเป็นชั้นวางไมโครเวฟ และชั้นวางพวกขวดเครื่องปรุงได้ที่ด้านบนค่ะ

ด้านล่างปิดผิวหน้าบานลายหินอ่อนสีเทา มีให้ทั้งตู้เก็บของบานเปิด และลิ้นชักพร้อมถาดใส่ช้อน-ส้อม

ตู้เก็บของใต้ซิงค์ ภายในจะมีลิ้นชักรางเลื่อน และที่พื้นตู้จะติดแผ่นอะลูมิเนียมกันน้ำ กันชื้นมาให้ ตู้นี้จะเหมาะสำหรับทำเป็นห้อง Stock ของใช้ต่าง ๆ ในบ้าน อย่างเช่น น้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ, แชมพู-ครีมอาบน้ำ, ห่อกระดาษทิชชู รวมถึงใช้เป็นห้องเก็บอุปกรณ์เครื่องมือช่างประจำบ้านก็ยังได้

ถัดจากชุดครัวมาจะมีพื้นที่เหลือประมาณ 90 x 60 ซม. รองรับตู้เย็น 2 ประตู ขนาดตั้งแต่ 6-10 คิว ได้สบาย ๆ เลย ที่ผนังด้านหลังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้พร้อมเสียบต่อใช้งานค่ะ

มองกลับมาทางหน้าห้องพัก ระยะห่างจากชุดครัวไปจนถึงผนังห้องมีความกว้างประมาณ 1.2 ม.* ถือว่าเป็นระยะที่ไม่ใหญ่จนกินพื้นที่ส่วนอื่นจนเกินไป สามารถยืนทำอาหาร, ล้างจาน, เตรียมอาหาร, อุ่นอาหาร, เปิดตู้เย็น รวมถึงเดินเข้า-ออกห้องพักได้สะดวก

ตรงข้ามกับชุดครัวด้าน หรือตรงด้านหน้าห้องน้ำ จะมีพื้นที่กว้างประมาณ 1 ม.* ตรงนี้จะสามารถวางม้านั่งใส่รองเท้า, ชั้นวางรองเท้า หรือตู้เก็บของแบบ Multi Function ขึ้นไปสูงถึงฝ้าเพดานเลยก็ได้ จะช่วยให้เก็บของได้เยอะ และเป็นระเบียบมากขึ้นค่ะ

ห้องน้ำเป็นห้องหน้ากว้าง มีการแบ่งส่วนแห้ง กั้นฉากกั้นอาบน้ำแยกส่วนเปียกไว้คนละฝั่ง ตกแต่งกระเบื้องพื้นและผนังในโทนสีเทาอ่อน ทำให้ห้องดูกว้าง สะอาด น่าใช้งาน สุขภัณฑ์มาตรฐานติดมาให้ตำแหน่งตามภาพ โดยใช้เป็นของ Cotto ทั้งหมดเลยค่ะ

ภาพรวมส่วนแห้งมีระยะใช้งานสบาย ๆ ไม่อึดอัด โดยจะวางอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ไว้ใกล้ ๆ กัน และที่ใต้อ่างจะมีพื้นที่เหลือให้วางตะกร้าใส่ผ้า, ชั้นวางอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำ หรือวางเป็นต้นไม่ฟอกอากาศเข้าไปแทนก็ได้เหมือนกัน

ด้านหลังจะมี Low-Wall แนวยาวเต็มพื้นที่ส่วนแห้ง ทำให้วางของใช้จุกจิกอย่างขวดสบู่ล้างมือ, โฟมล้างหน้า, สกินแคร์ต่าง ๆ, กล่องกระดาษทิชชู รวมถึงน้ำหอมปรับอากาศก็ได้

มีตู้เก็บของบานเปิด หน้าบานกระจกเงาให้ด้วย ภายในจะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ เหมาะเอาไว้เก็บสกินแคร์ น้ำหอม หรือยาประจำบ้านได้ และที่ใต้ตู้จะมีชั้นลอยให้อีก 1 ชั้น ที่เหมาะกับการวางของใช้ที่ต้องหยิบเป็นประจำ

อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยมจอบมน ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก เปิดใช้งานได้สะดวกดี ที่หน้าอ่างจะมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ได้อีกนิดหน่อย ส่วนใต้อ่างจะมีตู้เก็บของบานเปิดลายไม้สีโอ๊คให้อีก 1 ตู้ ใช้เป็นตู้ Stock ของใช้ในห้องน้ำได้เป็นระเบียบดีเลยค่ะ

โถสุขภัณฑ์เป็นแบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบครบเซ็ต ทั้งที่แขวนกระดาษทิชชูและสายฉีดชำระ

ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วนอาบน้ำ ตรงนี้จะกั้นแยกส่วนด้วยฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอนไว้ให้ พร้อมติดฝักบัว Hand Shower พร้อมราวปรับระดับสูง-ต่ำ, ถาดวางสบู่ และได้ก๊อกน้ำแบบก้านโยก เปิด-ปิดใช้งานได้ง่าย

ด้านในมีพื้นที่กว้างกำลังดี ยืนอาบน้ำ ขัดผิวได้ไม่ติดผนังรอบ ๆ

ที่เพดานด้านบนจะติดพัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้ามาให้ 1 เครื่อง ช่วยลดกลิ่น ลดความอับชื้นได้ดี

ต่อเนื่องเข้าไปจะกั้นแยกส่วนครัวและพื้นที่ภายในด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอะลูมิเนียมสีเทา ความสูงจรดฝ้าเพดาน ทำให้ห้องดูโปร่งและกว้าง อยู่สบายไม่อึดอัดค่ะ

เข้ามาตรงกลางห้องพัก ในห้องตัวอย่างจะตกแต่งเป็นห้องนั่งเล่นมาให้ดูเป็นไอเดีย ในส่วนของพื้นห้องพักด้านในทั้งหมดจะปูด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน หนา 8 มม. ที่ให้ผิวสัมผัสที่สบายเท้า และเหมาะกับโซนพักผ่อนมากกว่าค่ะ

ภาพรวมการวาง Layout ของห้องนอนให้ Type นี้ จะเป็นรูปตัว L ที่สร้างความรู้สึกใหม่ได้อย่างน่าสนใจ

ภายในห้องนอนจะรองรับเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุต และมีพื้นที่เหลือด้านข้างให้วางโต๊ะหัวเตียงเล็ก ๆ หรือจะวางของตกแต่งบ้านอื่น ๆ เข้าไปแทนก็ได้

ตรงข้ามกันมีพื้นที่เหลือค่อนข้างกว้างเลยค่ะ เดินเข้า-ออกไปด้านในและด้านนอกได้สะดวกดี ในห้องจริงจะได้เป็นผนังเปล่าโล่ง ๆ เลือก Custom เฟอร์นิเจอร์ได้ตามต้องการเลย จะวางตู้วางทีวีตัวยาว ชั้นวางของแนวสูง

หรือจะปรับให้เป็นมุมทำงานแบบเดี่ยว และติดทีวีแขวนผนังเข้าไปแทนก็ได้นะ งานระบบต่าง ๆ อย่างปลั๊กไฟ, Cable TV และ Lan Internet ทางโครงการเค้าก็เตรียมไว้ให้พร้อมต่อใช้งานได้เลย

ข้างเตียงนอนฝั่งที่อยู่ติดกับประตูครัว จะเป็นพื้นที่แบบ Flexible Area ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ โดยห้องจริงผนังตรงส่วนนี้จะมีการติดตั้งประตูกระจกบานเลื่อนมาให้ด้วย ใช้แยกโซนออกจากกันได้เป็นสัดส่วนดี

ห้องตัวอย่างตกแต่งเป็น Walk-in Closet มาให้ดูระยะใช้งาน พื้นที่ที่ได้มาค่อนข้างกว้าง สามารถแบ่งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดมาตรฐานไว้คนละฝั่งได้ แต่ถ้าใครที่มีเสื้อผ้าเยอะหน่อย จะวางตู้เสื้อผ้าไว้ทั้ง 2 ฝั่ง เลยก็ได้เหมือนกันค่ะ

เอาไอเดียในห้องตัวอย่างมาให้ดูเล็กน้อย ซ้ายมือโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าแบบเปิดความสูงจรดฝ้าเพดานเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บเสื้อผ้าและเก็บของชิ้นใหญ่ที่ด้านบนได้ อีกฝั่ง Built-in โต๊ะเครื่องแป้งตัวยาวพอดีผนัง รองรับการนั่งแต่งหน้า ทำผมพร้อม ๆ กัน 2 คน ได้

จากห้องน้ำมองกลับออกมาที่ Walk-in Closet และห้องนอน

ถัดจากห้องนอนไปจะกั้นแยกส่วนกับห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ความสูงจรดฝ้าเพดานเช่นเดิม

ด้านหลังสุดของห้อง Type นี้ จะจัดฟังก์ชันให้เป็นห้องนั่งเล่น และพื้นที่อเนกประสงค์ติดระเบียงซักล้าง

ห้องนั่งเล่นถูกย้ายมาอยู่ด้านในสุด ชิดกับหน้าต่างกระจก Oversized ทำให้พักผ่อนไป ชมวิวไปได้

ภายในได้พื้นที่มากว้างกำลังดีค่ะ เลือกซื้อโซฟามาวางได้หลายรูปแบบ จะวางเป็นโซฟาตัว I หรือจะวางเป็นโซฟา L-Shape ขนาด 2-3 ที่นั่ง ก็ยังไหว ด้านหน้าก็ยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกาแฟไว้วางของทานเล่นและเครื่องดื่มได้ด้วย

ตรงข้ามกันจะเป็นผนังเปล่าฉาบเรียบ ด้านบนติดแอร์ Wall Type มาให้ 1 เครื่อง ส่วนด้านล่างเราสามารถวางชั้นวางทีวีตัวยาว ติดชั้นวางทีวีหรือแขวนทีวีจอใหญ่ที่ผนังได้ค่ะ ซึ่งงานระบบไฟฟ้า, Cable TV และ Lan Internet ทางโครงการเตรียมไว้ให้พร้อมแล้วค่ะ

บริเวณนี้จะมีหน้าต่างกระจกเขียวตัดแสงบานผสมขนาดใหญ่พิเศษติดมาให้ 1 ชุด โดยจะมีทั้งกระจกบาน Fixed ไว้ชมวิวและรับแสงธรรมชาติ และมีหน้าต่างบานกระทุ้งแยกไว้ให้ 1 บาน ใช้สำหรับเปิดรับลม เปิดระบายอากาศได้ด้วย

ต่อเนื่องไปที่อีกด้านของห้อง จะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ มีความยืดหยุ่นสูง เลือกปรับฟังก์ชันการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาสัยเลย

ในห้องตัวอย่างจะตกแต่งเป็นห้องทำงานที่อยู่ติดกับระเบียงไว้แบบนี้ค่ะ พื้นที่จริงจะสามารถวางโต๊ะทำงานตัวยาว ขนาด 1 ที่นั่งหลวม ๆ หรือจะวางเป็นแบบ 2 ที่นั่ง ก็ยังไหว

ส่วนใครที่มีอาชีพเสริมเป็น Influencer, Tiktoker, Youtuber เราสามารถ Set เป็น Studio ในการถ่ายงาน ตัดต่องาน หรือใครที่ขายของ Online จะใช้มุมนี้นั่ง Live ขายของก็ยังไหวนะคะ

ติดกันจะเป็นประตูทางออกไประเบียงด้านนอกค่ะ กั้นแยกส่วนด้วยประตูกระจกเขียวตัดแสง บานเลื่อน 3 ตอน กรอบอะลูมิเนียมสีเทา ที่แข็งแรง และเก็บเสียงรบกวนได้ดี มีการยกธรณี-วงกบขึ้นมาให้ประมาณ 15 ซม. เพื่อป้องกันน้ำฝนและสิ่งสกปรกไม่ให้พัดเข้าสู่ห้องพักโดยตรงได้

ระเบียงซักล้างได้พื้นที่มากว้างใช้ได้เลยค่ะ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกสีเทา 30 x 30 ซม. ให้เต็มพื้นที่ มีการเตรียมงานระบบน้ำประปา, ระบบไฟฟ้า และท่อระบายน้ำทิ้งมาให้ครบ

สามารถติดตั้งเครื่องซักผ้าทั้งแบบฝาหน้าและฝาบน ขนาดตั้งแต่ 7-12 กก. ได้สบาย ๆ ด้านหน้ายังมีพื้นที่เหลือให้วางราวตากผ้าเล็ก ๆ หรือใช้เป็นที่ปลูกต้นไม้สวย ๆ เพิ่มความสดชื่นให้กับห้องก็ได้ค่ะ

ส่วนที่เหลือจะติดตั้งราวระแนงเหล็กทาสีเทากันสนิม พร้อมกริลบัง CDU ความสูงจรดฝ้าเพดาน ช่วยให้ภาพรวมของอาคารดูเป็นระเบียบ เมื่อมองจากด้านนอกเข้ามา และที่ผนังจะมีการติดตั้งโคมไฟกิ่งให้แสงสว่างในตอนกลางคืนไว้ด้วยอีก 1 ดวงค่ะ


ห้องตัวอย่างแบบที่ 2

 

แปลนห้องตัวอย่างห้องที่ 2 เป็นห้อง TYPE N2M ขนาด 32.50 ตร.ม. เป็นห้องพักแบบ Vertiplex เพดานสูง 4.45 ม. เอาใจคนที่ชอบอยู่คนโดแต่ได้ฟีลเหมือนอยู่บ้าน โดยห้องนี้จะเป็น Layout ใหม่ พื้นที่มีความยืดหยุ่น ทำให้ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย แม้พื้นที่จำกัดแต่ก็สามารถออกแบบฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว

เข้ามาในห้องชั้นล่างจะเป็นห้องตอนลึก ส่วนแรกเป็นห้องครัวปิด ติดกับห้องน้ำ ที่แบ่งส่วนแห้ง กั้นแยกส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย ผ่านเข้าไปที่ด้านในจะเจอกับ Common Area เพดานสูง 4.45 ม. ที่รวมห้องอเนกประสงค์, มุมนั่งเล่นพักผ่อน และมุมทานอาหารเข้าไว้ด้วยกัน มีระเบียงซักล้างตั้งอยู่ที่มุมห้องด้านหลังสุด

ส่วนชั้น 2 จะเป็นห้องนอนที่ได้พื้นที่มาครึ่งนึงของขนาดนี้ ชั้นบนจะได้ฝ้าสูงราว ๆ 2 ม. นิด ๆ ได้เป็นพ้นที่โล่งกว้าง สามารถวางเตียงนอน 5-6 ฟุต และมีพื้นที่เหลือให้ทำ Walk-in Closet เข้ามุมได้ และความพิเศษของห้อง Vertiplex ในทุกขนาดเลยก็คือ จะมีห้องน้ำ Powder Room ให้บนชั้น 2 ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเดินลงไปเข้าห้องน้ำชั้นล่างเหมือนห้อง Vertiplex ในโครงการก่อน ๆ ที่มีห้องน้ำให้ใช้งานเพียงแค่ห้องเดียวค่ะ

การเข้า-ออกห้องในทุกแบบ ทุกขนาดจะใช้กลอน Digital Door Lock เหมือนกัน ในส่วนของ Spec วัสดุต่าง ๆ ในห้อง จะได้มาเหมือนกันค่ะ คือ พื้นครัวปูกระเบื้อง 30 x 30 ซม., พื้นห้องชุดปูลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม., ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมโคมไฟ Led Panel ทังห้อง

ตรงห้องครัวนี้ทางโครงการจะติดตั้งชุดครัว Built-in พร้อมตู้เก็บของบน-ล่างมาให้เหมือนกันกับห้องก่อนหน้านี้เลยนะคะ ติดกันจะเว้นพื้นที่กว้างประมาณ 90 ซม. ลึก 60 ซม. ให้วางตู้เย็นขนาด 6-10 คิว ได้ ผนังด้านหลังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟติดมาให้เช่นเดิม เสียบต่อใช้งานได้เลย

ชุดครัวลายหินอ่อนและลายไม้ ขนาด 1.2 x 0.60 ม. พร้อมฟังก์ชันมาตรฐานที่ครบครัน

หน้าท็อปจะเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ทนความร้อน ทนน้ำได้ดี เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย ผนังทำ Backsplash และมีปลั๊กไฟติดมาให้ครบ สามารถเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ได้เลย

ได้เตาไฟฟ้า 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส พร้อมเครื่องดูดควันสลิมไลน์ของ Teka

ได้ซิงค์ล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ก๊อกน้ำทรงสูงแบบก้านโยก ทำให้ล้างจาน ล้างของได้ง่าย โดยหน้าซิงค์จะมีบานหินสังเคราะห์ปิดมาให้ด้วย ช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าครัวให้เตรียมอาหาร วางของต่าง ๆ ได้เยอะมากขึ้นค่ะ

ด้านบนเป็นตู้เก็บของลายไม้บานเปิด พร้อมชั้นลอย และชั้นวางไมโครเวฟ

ด้านล่างได้ฟังก์ชันมาครบเหมือนห้องก่อนหน้า คือ มีตู้เก็บของพร้อมชั้นวางของที่เลื่อนเข้า-ออกได้ มีลิ้นชักพร้อมถาดจัดระเบียบช้อม-ส้อม และตู้เก็บของบานเปิด ที่มีชั้นลอยที่ด้านในค่ะ

ตรงข้ามกันจะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำ

ด้านหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่แนวยาวให้วางตู้เก็บของหรือชั้นวางของเข้าไปได้ค่ะ อาจจะวางเป็นตู้รองเท้าแบบเตี้ย แล้วใช้หน้าโต๊ะด้านบนวางของที่ต้องหยิบใช้บ่อย ๆ อย่าง กุญแจบ้าน, กุญแจรถ, หมวก หรือกระเป๋าถือ และถ้ามีพื้นที่ข้าง ๆ เหลืออีกหน่อย ก็ซื้อถังขยะมีฝาปิดมาวางเพิ่มเข้าไปได้เลย จะอยู่ในตำแหน่งที่ทิ้งของใช้ต่าง ๆ ได้ง่ายดีด้วย

ไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ห้องจริงมีประตูปิดมิดชิด และมีการยกธรณีสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกันน้ำไหลย้อนกลับออกมาที่ด้านนอกได้

ห้องน้ำเป็นห้องหน้ากว้างค่ะ แบ่งส่วนแห้ง กั้นแยกส่วนอาบน้ำ และใช้ลวดลายกระเบื้องพื้น-ผนัง รวมถึงสุขภัณฑ์มาตรฐานต่าง ๆ ของ Cotto เหมือนกันกับห้อง Simplex ก่อนหน้านี้ทุกประการเลยค่ะ

ส่วนแห้งจะได้อ่างล้างหน้าทรงเหลี่ยม พร้อมตู้เก็บของลายไม้บานเปิด ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก ผนังได้ตู้เก็บของหน้าบานกระจกมา 1 ตู้ ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบครบเซ็ตค่ะ

ถัดไปจะเป็นส่วนอาบน้ำ ติดฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน แยกส่วนมาให้ พื้นที่ใช้งานด้านในให้มากว้างกำลังดี ยืนอาบน้ำได้ไม่รู้สึกอึดอัด

ภายในติดฝักบัว Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ มีที่วางสบู่ และก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก และที่เพดานจะติดพัดลมระบายอากาศแบบฝังฝ้ามาให้ 1 เครื่อง ช่วยระบายกลิ่น ลดความอับชื้นได้ดีค่ะ

มองกลับออกมาดูภาพรวมทางด้านหน้าห้อง จะเห็นว่ามีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถยืนทำอาหาร เตรียมกับข้าว ล้างจาน เปิดตู้เย็น รวมถึงเดินเข้า-ออกห้องน้ำ และส่วนด้านในของห้องได้สะดวก

จากห้องครัวและห้องน้ำจะถูกกั้นแยกส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เปิดได้จนสุดก็จะยิ่งเดินเข้า-ออกได้สะดวก และเวลาที่เราทำอาหารทานที่บ้าน ก็ไม่ต้องกลัวเลยว่ากลิ่นและควันจะเข้าไปรบกวนส่วนพักผ่อนที่ด้านในค่ะ

ผ่านประตูครัวเข้ามา จะเจอกับส่วนของฝ้าเพดานปกติอยู่นะคะ โดยตรงนี้จะเป็นพื้นโล่ง ๆ ที่ปรับฟังก์ชันได้หลากหลาย และด้านซ้ายมือจะเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์นั่นเองค่ะ

ด้านหน้าห้องอเนกประสงค์และห้องครัวตรงนี้ จะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ สามารถซื้อพวกตู้เก็บของแนวสูง, ชั้นวางของ หรือวางตู้กระจกโชว์งานสะสมต่าง ๆ เข้าไปได้ค่ะ ส่วนใครที่ชอบความ Greenery หน่อย ก็จัดเป็น Pocket Garden เล็ก ๆ ที่มุมห้องตรงนี้ได้เลย

สำหรับห้องอเนกประสงค์ จะกั้นเป็นห้องผนังกระจกเข้ามุม ได้ประตูกระจกบานเลื่อนที่เปิดได้ถึง 2 ฝั่ง ของจริงผนังมุมห้องจะเป็นกระจกใสบานเปลือย ไม่ได้มีการตีเกล็ดทำกระจกฝ้าไว้ให้นะคะ ซึ่งการที่ใช้เป็นห้องผนังกระจกเข้ามุม จะช่วยให้ภายในดูโปร่งและกว้างขึ้น

ภายในตกแต่งเป็นห้องทำงานแบบเป็นส่วนตัวมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ทำงานที่บ้านเป็นหลักดีเลยค่ะ หรือใครทำงาน Online ใน Platform ต่าง ๆ ก็น่าจะถูกใจนะคะ

และในความจริงห้องนี้จะสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้อีกหลายรูปแบบเลย ไม่ว่าจะเป็นห้องดูหนังส่วนตัว, ห้องออกกำลังกาย, Live Studio ห้องแต่งตัว เพราอยู่ใกล้ห้องน้ำ หรือห้องนอนขนาดเล็กก็สามารถทำได้

โดยจะมีห้องเก็บของแยกอย่างเป็นสัดส่วนอยู่ด้านในด้วย ใช้งานพื้นที่ได้คุ้มสุด ๆ เลย

ของจริงจะมีประตูไม้บานทึบปิดมาให้นะคะ ภายในปูลามิเนตลายไม้ต่อเนื่องเข้าไปให้เลย ไม่กักเก็บฝุ่น และทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งด้านในให้พื้นที่มาแบบตอนลึก เก็บของชิ้นเล็กชิ้นน้อย ของที่ไม่ค่อยได้ใช้ หรือจะเก็บของที่มีขนาดใหญ่ อย่าง เครื่องดูดฝุ่น, ถุงกอล์ฟ, จักรยานพับได้, ของเล่นของลูก ๆ หรือกระเป๋าเดินทาง ก็จุได้ตั้งแต่ขนาด 16-28 นิ้ว เลยค่ะ

Highlight อยู่ตรงนี้เลย นี่คือ Living Area เพดานสูงถึง 4.45 ม. เลยค่ะ ได้ทั้งความโปร่ง โล่ง สบาย มองขึ้นไปจะเห็นชั้นลอยที่ด้านบน และที่เพดานเราก็สามารถหา Chandelier สวย ๆ มาติดเพิ่มความ Luxury ให้กับห้องได้ โดยบริเวณนี้จะสามารถรวมห้องนั่งเล่น และมุมทานอาหารเข้าไว้ในพื้นที่เดียวกันได้อย่างลงตัว

มาดูรายละเอียดไปทีละส่วนนะคะ เริ่มกันที่ห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแรกค่ะ

บริเวณห้องนั่งเล่นจะสามารถวางโซฟาตัว I หรือจะวางเป็นโซฟา L-Shape ขนาด 2-3 ที่นั่ง ได้กำลังพอดี ด้านหน้ามีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกาแฟขนาดใหญ่เสริมเข้าไปได้

ตรงข้ามกันติดกับบันไดสามารถวางตู้วางทีวีตัวยาวเข้าไปได้ค่ะ ที่ผนังด้านล่างจะมีการเตรียมงานระบบไฟต่าง ไ มาให้เรียบร้อย พร้อมเสียบต่อใช้งานได้เลยค่ะ

ถัดเข้าไปด้านในสุดของห้อง จัดเป็นมุมทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง มาให้ดูเป็นไอเดีย ผนังด้านหลังจะได้เป็นหน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่แบบ Full Height เปิดรับแสงสว่างเข้ามาในห้องได้อย่างเต็มที่ ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งสว่าง

ติดกันจะเป็นประตูทางออกไประเบียงซักล้าง ตรงนี้จะกั้นแยกส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เช่นเดิม

ระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิกสีเทา 30 x 30 ซม. มาให้เต็มพื้นที่ค่ะ สามารถวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า-ฝาบน ขนาด 7-12 กก. ได้เลย งานระบบน้ำ-ไฟมีมาให้พร้อมต่อใช้งาน

ราวกันตกมีให้เหมือนกัน คือ จะมีทั้งราวระแนงเหล็กแนวตั้งความสูงปกติ และกริลบัง CDU ที่ติดมาให้สูงจรดฝ้าเพดาน และที่ผนังอีกข้างจะมีโคมไฟกิ่งติดมาให้ 1 ดวง

มองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้องพัก

ขึ้นไปที่ชั้นลอยกันต่อค่ะ ในส่วนของบันไดจะเป็นโครงสร้างสำเร็จรูป ราวเหล็กสีดำ มือจับชนิดเดียวกันกับตัวลูกนอนที่เป็นไม้ยางพาราประสาน

ที่ชั้นลอยจะมีราวระแนงกันตกติดมาให้ที่บริเวณส่วนหน้าแบบนี้ด้วยนะคะ

สำหรับชั้นลอยนี้จะเป็นพื้นที่ห้องนอนที่ได้ความเป็นส่วนตัว ขนาดกว้างขวาง โปร่งโล่ง ได้เพดานสูง 2 ม. กว่า ๆ อยู่สบาย ไม่อึดอัดค่ะ ตัวพื้นก็จะปูเป็นลามิเนตลายไม้ ให้ Mood & Tone ที่ Cozy โดยพื้นที่ใช้งานที่ให้มาถือว่ากว้างกำลังพอดีค่ะ วางเตียงนอนและเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานได้ครบทีเดียว

ตรงนี้จะรองรับเตียงนอน 5-6 ฟุต ได้ ซึ่งเมื่อวางเข้าไปแล้วก็ยังมีพื้นที่คงเหลือให้วางเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ได้ตามต้องการ

อย่างที่บอกไปตอนต้น ว่าความพิเศษของห้องแบบใหม่ของ Vertiplex นี้ คือจะได้ห้องน้ำ Powder Room ที่ชั้นลอยเพิ่มเข้ามาด้วย รับรองว่าใช้งานได้สะดวก ทั้งตอนกลางคืนและตอนเช้า ก็สามารถเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวได้ที่ด้านบนนี้ได้เลย ไม่ต้องลงบันไดไปชั้นล่างค่ะ เป็นการออกแบบของ AP ที่เข้าใจ Insight ของผู้อยู่อาศัยอย่างมากเลย

ถัดจากเตียงนอนมา จะมีพื้นที่เหลือค่อนข้างกว้าง สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามุมห้องแบบนี้ได้เลย ด้านหน้าก็ยังมีพื้นที่เหลือให้ยืนเลือกเสื้อผ้า ยืนแต่งตัว นั่งแต่งหน้า และเดินเข้าไปใช้ห้องน้ำได้สะดวกอยู่ค่ะ

ติดกันจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ ได้ฟังก์ชันแบบ Powder Room และใช้เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปเพื่อง่ายต่อการ Maintenance ดีค่ะ

ห้องน้ำขนาด Compact แต่ก็ใช้งานได้ไม่รู้สึกอึดอัดนะ ภายในตกแต่งกระเบื้องพื้นและผนังคุมโทนสีอ่อน ทำให้ห้องดูสว่าง สะอาดดี ติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานมาให้ครบเลย ทั้งโถสุขภัณฑ์, สายฉีดชำระ และอ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง พร้อม Low-Wall และกระจกเงา ที่สำคัญมีพัดลมระบายอากาศติดมาให้ด้วยค่ะ

โถสุขภัณฑ์เป็นแบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู

อ่างล้างหน้าของ Cristina ขนาดกะทัดรัด เหมาะกับขนาดห้อง มีก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก เปิดใช้งานสะดวก พร้อม Low-Wall เอาไว้วางขวดสบู่, แปรงสีฟัน-ยาสีฟัน, โฟมล้างหน้า หรือสกินแคร์ต่าง ๆ ได้

บรรยากาศภาพรวมห้องนอนบนชั้นลอย

จากชั้นลอยมองลงมาที่ด้านล่าง จะเห็น Living Area ทั้งหมดแบบนี้เลยค่ะ


ราคา (ม.ค. 67)

  • 1 Bedroom เริ่ม 2.99 ลบ.*
  • 1 Bed Extra เริ่ม 3.49 ลบ.*
  • ราคาเฉลี่ยประมาณ 98,000 บ./ตร.ม.*

  • ค่าส่วนกลาง 68 บ./ ตร.ม./ ด.
  • กองทุน 550 บ./ ตร.ม./ ชำระครั้งเดียว

ลงทะเทียนรับส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท* คลิก :https://apth.ly/kprf

*หมายเหตุ : ข้อมูลราคาและโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*


สรุป

⇒ ทำเลที่ตั้งโครงการ : ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ เป็นคอนโดใหม่ บนทำเลที่หาที่ดินได้ยากในปัจจุบัน และที่นี่ยังเป็นคอนโดโครงการแรกในรอบ 5 ปี ที่เปิดใหม่ในย่านนี้ โดยจะเหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนในทำเลใกล้อนุสาวรีย์ชัยฯ ติดริมถนนใหญ่ สามารถเชื่อมไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ของกรุงเทพฯชั้นใน, ชั้นนอก และปริมณฑลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

สถานที่สำคัญใกล้โครงการก็ครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า ทั้งห้าง Center One, Victory Hub, The Season Mall, King Power รางน้ำ, Century The Movie Plaza และยังรายล้อมไปด้วยโรงพยาบาลชั้นนำของไทยมากกว่า 17 แห่ง เช่น รพ.ราชวิถี, รพ.พญาไท 2, สถาบันสุขภาพเด็ก, รพ.รามาธิบดี, รพ.พระมงกุฎเกล้า และ รพ.ทหารผ่านศึก รวมถึงใกล้สถานศึกษาชื่อดังทั้งไทยและนานาชาติหลายแห่งมาก ๆ ค่ะ


⇒ การเดินทางโดยรถส่วนตัว : ตอบโจทย์ในเรื่องของการเดินทางมาก เพราะที่ตั้งของโครงการอยู่บนถนนอโศก-ดินแดง ติดแยกถนนดินแดง ตัดกับถนนวิภาวดี- รังสิต สามารถออกไปได้ทั้งถนนวิภาวดี-รังสิต, ราชวิถี, ราชปรารภ, พญาไท , ศรีอยุธยา และเดินทางไป New CBD พระราม 9 ได้ง่าย ใกล้ทางด่วนถึง 3 สาย ทั้งทางด่วนศรีรัช, ทางด่วนเฉลิมมหานคร และดอนเมืองโทลล์เวย์ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในวันเวลาที่เร่งด่วนได้ดีมาก ๆ ค่ะ


⇒ การเดินทางโดยรถสาธารณะและรถไฟฟ้า : อย่างที่รู้ว่าย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มีทั้งรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ, Airport Link สถานีราชปรารถ, MRT พระราม 9 ให้ใช้บริการ โดยโครงการจะมีบริการ Shuttle Service ไปส่งถึง BTS สถานีอนุสาวรีย์ฯ ด้วยนะคะ

ในอนาคตจะมีส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-ตลิ่งชัน ตัดผ่านหน้าโครงการอีกด้วย ส่วนรถเมล์ รถตู้ ก็ไปขึ้นได้เลยที่ Hub ใหญ่ตรงอนุสาวรีย์ฯ เรียกได้ว่าตัวเลือกในการเดินทางหลากหลาย เชื่อมต่อกรุงเทพชั้นใน ชั้นนอกและปริมณฑลได้อย่างสะดวก


⇒ การออกแบบโครงการ, แบบห้องพัก และวัสดุ : ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ เป็นคอนโด High-Rise สไตล์โมเดิร์น ภายนอกใช้โทนสีน้ำเงิน-ฟ้า-ตัดด้วยเส้นสายสีเทา ดูโดดเด่นไม่เหมือนคอนโดในละแวกใกล้เคียง ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2-2-70.7 ไร่ สูง 29 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยจำนวน 593 ยูนิต และร้านค้าจำนวน 1 ยูนิต

ส่วนพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 8-28 โดยชั้น 8-21 เป็นห้องชุดแบบ All New Simplex เพดานสูงปกติที่ 2.5 ม. ขนาด 26.5-60 ตร.ม. และชั้น 22-28 เป็นห้องชุดแบบ All New Vertiplex เพดานสูง 4.45 ม. ขนาด 26-46 ตร.ม. ขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว พร้อม Hob, Hood, Sink By Teka, ฉากกั้นอาบน้ำ และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Cotto และ Digital Door Lock


ในส่วนของห้องชุดพักอาศัยจะมาพร้อมคอนเซ็ปต์ Flexible as you desire ที่มาพร้อมห้องชุดดีไซน์ใหม่ ออกแบบมาให้ใช้งานได้จริง ตาม Insight ของลูกค้าในโครงการที่ผ่านมา โดยจะมีให้เลือกมากถึง 18 ดีไซน์ กับห้องชุด 2 แบบ ได้แก่

1. All New Simplex 11 ดีไซน์ ขนาด 26.5-60 ตร.ม. พิเศษกับผังใหม่ 1 Bedroom Extra 35 ตร.ม. กับ 2 ฟังก์ชันใหม่ Flexible Area ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Living Area หรือ Bedroom ติดอากาศ

รวมถึง ห้อง Extra ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ระหว่าง Working Area หรือ Walk-In Closet สร้างความรู้สึกใหม่ได้อย่างน่าสนใจ ห้องชุดในสไตล์ All New Simplex ประกอบด้วยแบบ 1 Bedroom, 1 Bedroom Extra, 2 Bedroom 1 Bath และ 2 Bedroom 2 Bath ราคาเริ่มต้น 1 Bedroom 2.99 ล้าน*

2. ห้องชุดเพดานสูงแบบ All New Vertiplex 7 ดีไซน์ ขนาด 26-46 ตร.ม. กับพื้นที่แนวตั้งในมิติใหม่ด้วย Double Volume ที่สูงถึง 4.45 ม. เพิ่มพื้นที่มากขึ้นเป็น 2 เท่า ได้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ล่าสุด คือ ห้องชุดในสไตล์ All New Vertiplex โดยเริ่มในชั้น 22-28


⇒ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย : ที่นี่จะมาพร้อมคอนเซ็ปต์ Recharge as you desire เปิดวาร์ปทุกมิติของการพักผ่อน กับพื้นที่สีเขียวสุดเงียบสงบเสมือนเป็นโอเอซิสใจกลางกรุงเทพฯ สัมผัสความโปร่งโล่งสบายสุดส่วนตัว มีพื้นที่ให้พักผ่อน รีชาร์จตัวเอง และฮีลใจได้ในหลาย ๆ มุม

ด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ 3 ชั้น (ชั้น G, ชั้น 8 และชั้น 29) รวมพื้นที่จุก ๆ กว่า 3,500 ตร.ม. โดยไฮไลต์ของพื้นที่ส่วนกลางในโครงการนี้คือ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่โอบล้อมตัวอาคารในส่วนของชั้น G พร้อมสวนตอนลึกที่ยาวกว่า 60 ม. ที่ด้านหลังโครงการ

มี Lobby ที่แยกย่อยฟังก์ชันออกมาเป็นมุมต่าง ๆ ที่ชั้น 1 แบบในร่ม ให้เลือกใช้ได้ทั้งการพักผ่อน ทำงาน และนัดพบคุยงาน คุยธุรกิจต่าง ๆ ได้ ส่วนชั้น 8 จะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พร้อมฟังก์ชัน Aqua Exercise & Jacuzzi และ The Healthy Space  พร้อมอุปกรณ์ฟิตเนสครบครันในรูปแบบทั้ง Private และแบบ Group รวมถึง The Sky Lounge และ The Sky Park พื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 29 พร้อมวิวเมือง 360 องศาแบบไร้ขีดจำกัด

ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยต้องบอกว่าแน่นหนาได้มาตรฐานตามแบบฉบับของ AP มี CCTV ให้รอบโครงการ ส่วนการเข้า-ออกโครงการ ลูกบ้านจะใช้เป็นระบบ Katsan ผ่านการจดจำป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ลงทะเบียนไว้กับทางนิติบุคคล และยังสามารถ Pre Register ให้กับเพื่อน ๆ ผ่านเข้ามาในโครงการได้

ส่วนการเข้า-ออกตัวอาคารพักอาศัย, ชั้นพักอาศัยที่อยู่ร่วมกันกับส่วนกลาง, ห้องส่วนกลางต่าง ๆ รวมไปถึงลิฟต์โดยสาร จะใช้เป็นระบบ Face Scan ในการเข้า-ออก ขึ้น-ลงห้องพักค่ะ เป็นระบบที่ทันสมัย แม่นยำ และช่วยคัดกรองบุคคลภายนอกได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญไม่ต้องพกพวงกุญแจให้ยุ่งยากอีกต่อไป


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 1623

Line :  https://line.me/ti/p/~@apthai

Website :  https://apth.ly/kprf


สนใจลงโฆษณากับทาง CONDONAYOO ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน 086-1290293 
LINE ID : 123456786205 Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " EP.xxxx รีวิว ASPIRE วิภา-วิคตอรี่ คอนโดใหม่พร้อมอยู่จาก AP ทำเลอนุสาวรีย์ชัยฯ เชื่อมต่อวิภาวดีรังสิต ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ 17 แห่ง เริ่ม 3.89 ล้าน* "

Comments are closed.