
😁 วันนี้เราพามาชมโครงการ ‘SCOPE ทองหล่อ’ คอนโดพร้อมอยู่เป็นส่วนตัว All-Penthouse แห่งแรกในไทย จาก บริษัท สโคป จำกัด
.
📌 โครงการตั้งอยู่บนทำเล Prime Area ใจกลางเมืองทองหล่อติดถนนสุขุมวิท ใกล้ถนนพระราม 4, ถนนเพชรบุรี, ถนนอโศกมนตรี, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนเพลินจิต
.
🚗 ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร, ทางด่วนศรีรัช และทางด่วนฉลองรัช
.
🚝 ติด BTS ทองหล่อ 0 ม.* เพียง 2 สถานี เชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท
.
🛒 ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกทั้ง Emporium, Emquartier, Emsphere, Rain Hill, J Avenue, Marché ทองหล่อ, The Commons, 72 Courtyard, The Taste, 9:53 Art Mall, 49 Terrace, K-Village, Donki Mall นอกจากนี้ยังใกล้กับโรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง
.
🏢 SCOPE ทองหล่อ กับแนวคิด Privacy at Its Best คอนโดระดับ Ultra Luxury ใจกลางทองหล่อพร้อมความเป็นส่วนตัวสูงสุด โดยห้องพักทุกยูนิตจะเป็นรูปแบบ Penthouse ร่วมออกแบบโครงการโดยดีไซน์เนอร์ระดับโลกอย่าง Thomas Juul-Hansen
.
🏣 ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise 1 อาคาร สูง 32 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น พื้นที่โครงการ 1-0-4 ไร่ จำนวนยูนิตทั้งโครงการมีเพียง 18 ยูนิต เป็นรูปแบบ Penthouse ทั้งหมด มีห้องให้เลือกแบบ Simplex, Duplex, Triplex ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 416-756.5 ตร.ม.
.
⭕️ พร้อม Fully Furnished ออกแบบตกแต่งโดย Thomas Juul-Hansen เฟอร์นิเจอร์ Built-in และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวครบทั้งห้อง แบรนด์นำเข้า จาก 7 ประเทศทั่วโลก มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท
.
🎪 สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการออกแบบมาได้สวยน่าใช้งานหลากหลายฟังก์ชัน มี Lobby พื้นที่พักผ่อนและเป็นจุดรับแขก The Stern Lounge พื้นที่นั่งพักผ่อนขนาดใหญ่พร้อมชุดโซฟาและโต๊ะทานอาหาร Meeting Room
.
🌳 สวนรอบโครงการ, Pavilion ไว้นั่งทานอาหาร ทำอาหาร จัดปาร์ตี้ได้ มีชุดเคาน์เตอร์ครัวไว้รองรับ
.
🏋🏼 ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่พร้อมเครื่องออกกำลังกายครบครัน แบรนด์ Technogym ห้อง Running Studio พร้อมลู่วิ่งจาก Woodway
.
⏳ ห้อง Thermal Therapy ที่มีทั้ง Sauna และ Steam, Wellness Suite หรือห้องสปา ให้ Therapist ส่วนตัวมานวดให้ที่คอนโดได้
.
🏊🏻 สระว่ายน้ำหินอ่อนขนาดใหญ่แยกสระเด็ก พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติและระบบ Fresh Water มีพื้นที่พักผ่อนริมสระและ Pool Bar
.
🧘🏽♂️ ห้อง Private Onsen, Studio Room สำหรับเล่น Yoga & Pilates
.
🤹🏼♀️ Kids Quarter ห้องสำหรับเด็ก ๆ พร้อมฟังก์ชันหลากหลาย และ Piano Room
.
🍷 Club Lounge ขนาดใหญ่ มีโซนบาร์เครื่องดื่ม, Business Lounge, Social Club, The Banquet
.
🎭 Dressing Room ห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ที่ให้ฟังก์ชันมาแบบจัดเต็มทั้งโต๊ะแต่งหน้าทำผม เก้าอี้ทำเล็บ เตียงสระผม, Cigar Room
.
🍽️ Thomas Juul-Hansen Lounge พื้นที่พักผ่อนมีโซน Dining และห้องครัว พร้อม Barbecue Terrace ระเบียงแบบ Semi-Outdoor และโซน BBQ ไว้จัดปาร์ตี้ได้
.
🐶 Dog Park พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง Pet Care ห้องบริการอาบน้ำตัดขนและฝากเลี้ยงสัตว์
.
🕋 Private Lift ขึ้นลงแบบ 1 ต่อ 1 ทุกยูนิต
.
🚘 ที่จอดรถเป็นแบบ Auto Parking มีที่จอดสำหรับ EV Charger
.
👩🏻🏭 Concierge ที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชม.
.
🧰 Valet Parking ตลอด 24 ชม. มีเจ้าหน้าที่คอยรับรถและนำรถออกมารอให้ลูกบ้าน, พนักงานช่วยยกกระเป๋าขึ้นลงรถ
.
☕️ บริการกาแฟดื่มฟรีได้ทุกวัน, เชฟทำอาหาร, พนักงาน Salon
.
👩🏻🔧 บริการแม่บ้านทำความสะอาดในห้องพักสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
.
👮🏽♀️ ผ่านเข้าออกด้วยระบบ Face Scan และ Keycard มีรปภ. CCTV พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
.
⭐ ราคาเริ่มต้น 229 ล้านบาท* (ก.ค. 68)
.
📝 ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://url.in.th/MfjAz
.
☎️ สอบถามข้อมูลและโปรโมชันเพิ่มเติมโทร : 02-028-9788
.
📱 Line id : @scopecollection
.
📃 อ่านรีวิวโครงการเพิ่มเติม คลิก : https://www.condonayoo.com/scope-thonglor/
.
__________________
📌 ติดตาม Condonayoo เพิ่มเติมได้ที่
💻 Website ▶ Condonayoo.com
💬 Facebook ▶ facebook.com/condonayoo.fc
🎬 YouTube ▶ Youtube.com/@condonayoo9616
🎶 Tiktok ▶ Tiktok.com/@condonayoo
EP.xxxx รีวิว สโคป ทองหล่อ SCOPE Thonglor คอนโดพร้อมอยู่ All-Penthouse แห่งแรกในไทย เพียง 18 ยูนิต ติด BTS ทองหล่อ เริ่ม 229 ล้านบาท*
Written by : THAnATH
สวัสดีผู้อ่านชาว Condonayoo ทุกคนครับ วันนี้ผมพามาชมโครงการ SCOPE ทองหล่อ จาก บริษัท สโคป จำกัด ตั้งอยู่บนทำเล Prime Area ใจกลางเมือง ติดถนนสุขุมวิทย่านทองหล่อ ใกล้ถนนพระราม 4, ถนนเพชรบุรี, ถนนอโศกมนตรี, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนเพลินจิต
ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร, ทางด่วนศรีรัช และทางด่วนฉลองรัช ตัวโครงการอยู่ติด BTS ทองหล่อ 0 ม.* เพียง 2 สถานี เชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท รายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งโรงพยาบาล, สถานศึกษา, ห้างสรรพสินค้า และสถานบันเทิง
สโคป ทองหล่อ กับแนวคิด Privacy at Its Best คอนโดระดับ Ultra Luxury ใจกลางทองหล่อพร้อมความเป็นส่วนตัวสูงสุด โดยห้องพักทุกยูนิตจะเป็นรูปแบบ Penthouse ร่วมออกแบบโครงการโดยดีไซน์เนอร์ระดับโลกอย่าง Thomas Juul-Hansen
ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise 1 อาคาร สูง 32 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 1-0-4 ไร่ จำนวนยูนิตทั้งโครงการมีเพียง 18 ยูนิต ที่เป็นรูปแบบ Penthouse ทั้งหมด มีห้องให้เลือกแบบ Simplex, Duplex, Triplex ขนาดห้องเริ่มต้นที่ 416-756.5 ตร.ม.
พร้อม Fully Furnished ออกแบบตกแต่งโดย Thomas Juul-Hansen เฟอร์นิเจอร์ Built-in และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวครบทั้งห้อง แบรนด์นำเข้า จาก 7 ประเทศทั่วโลก มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2568
สิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานภายในโครงการครบครัน อาทิ Lobby พื้นที่พักผ่อนและเป็นจุดรับแขก The Stern Lounge พื้นที่นั่งพักผ่อนขนาดใหญ่พร้อมชุดโซฟาและโต๊ะทานอาหาร Meeting Room สวนรอบโครงการ, Pavilion ไว้นั่งทานอาหาร ทำอาหาร จัดปาร์ตี้ได้ มีชุดเคาน์เตอร์ครัวไว้รองรับ
ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่พร้อมเครื่องออกกำลังกายครบครัน แบรนด์ Technogym ห้อง Running Studio พร้อมลู่วิ่งจาก Woodway และห้อง Thermal Therapy ที่มีทั้ง Sauna และ Steam, Wellness Suite หรือห้องสปา ให้ Therapist ส่วนตัวมานวดให้ที่คอนโดได้
สระว่ายน้ำหินอ่อนขนาดใหญ่แยกสระเด็ก พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติและระบบ Fresh Water มีพื้นที่พักผ่อนริมสระและ Pool Bar, ห้อง Private Onsen, Studio Room สำหรับเล่น Yoga & Pilates, Kids Quarter ห้องสำหรับเด็ก ๆ พร้อมฟังก์ชันหลากหลาย และ Piano Room
Club Lounge ขนาดใหญ่ มีโซนบาร์เครื่องดื่ม, Business Lounge, Social Club, The Banquet, Dressing Room ห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ที่ให้ฟังก์ชันมาแบบจัดเต็มทั้งโต๊ะแต่งหน้าทำผม เก้าอี้ทำเล็บ เตียงสระผม, Cigar Room
Thomas Juul-Hansen Lounge พื้นที่พักผ่อนมีโซน Dining และห้องครัว พร้อม Barbecue Terrace ระเบียงแบบ Semi-Outdoor และโซน BBQ ไว้จัดปาร์ตี้ได้, Dog Park พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง Pet Care ห้องบริการอาบน้ำตัดขนและฝากเลี้ยงสัตว์
Private Lift ขึ้นลงแบบ 1 ต่อ 1 ทุกยูนิต ที่จอดรถเป็นแบบ Auto Parking มีที่จอดสำหรับ EV Charger (AC/ DC) ผ่านเข้าออกด้วยระบบ Face Scan และ Keycard มีรปภ. CCTV พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.
พร้อมบริการพิเศษทั้ง Concierge ที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านตลอด 24 ชม. , Valet Parking ตลอด 24 ชม. มีเจ้าหน้าที่คอยรับรถและนำรถออกมารอให้ลูกบ้าน, พนักงานช่วยยกกระเป๋าขึ้นลงรถ, บริการกาแฟดื่มฟรีได้ทุกวัน, เชฟทำอาหาร, พนักงาน Salon, และบริการแม่บ้านทำความสะอาดในห้องพักสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ราคาเริ่มต้น 229 ล้านบาท* (ก.ค. 68)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://url.in.th/MfjAz
สำหรับรายละเอียดทำเลที่ตั้งโครงการ, ห้องตัวอย่าง และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะมีความน่าสนใจอย่างไรกันบ้าง ติดตามกันต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยครับ
ชื่อโครงการ | สโคป ทองหล่อ / SCOPE Thonglor |
เจ้าของโครงการ | บริษัท สโคป จำกัด |
เนื้อที่ทั้งหมด | 1-0-4 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 32 ชั้น และใต้ดิน 2 ชั้น |
จำนวนห้อง | 18 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | ห้อง Penthouse ทุกยูนิต
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 107 คัน |
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | ทองหล่อ |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง |
ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร |
กำหนดการ | n/a |
ปีที่สร้างเสร็จ | พร้อมอยู่ปี 68 |
ราคา | เริ่มต้น 229 ล้านบาท* (ก.ค. 68) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ประมาณ 550,000 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อและอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน
อื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
Tel | 02-028-9788 |
Line | @scopecollection |
Website | https://url.in.th/MfjAz |
ที่ตั้งโครงการ
พิกัด Google โดยประมาณ : https://maps.app.goo.gl/SRtBgqEruACUhZ439
SCOPE ทองหล่อ ตั้งอยู่บนทำเล Prime Area ของกรุงเทพ ติดถนนสุขุมวิทในย่านทองหล่อ ช่วงระหว่างซอยสุขุมวิท 36 และซอยสุขุมวิท 38 เป็นทำเลที่มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ อยากเข้ามาพักอาศัยในโซนนี้เป็นอันดับต้น ๆ ด้วยตัวทำเลที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และแหล่งไลฟ์สไตล์หลากหลายทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านนั่งชิล คาเฟ่ คอมมูนิตี้มอลล์ รวมไปถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่อยู่ใกล้ ๆ ทั้งฝั่งพร้อมพงษ์ เอกมัย และพระราม 4
การเดินทางก็สะดวกมากเพราะอยู่ใจกลางเมือง เชื่อมต่อไปโซนต่าง ๆ ได้หลากหลาย ใกล้ถนนพระราม 4, ถนนเพชรบุรี, ถนนอโศกมนตรี, ถนนรัชดาภิเษก, ถนนเพลินจิต ใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร, ทางด่วนศรีรัช และทางด่วนฉลองรัช และตัวโครงการยังอยู่ติด BTS ทองหล่อ 0 ม.* เพียง 2 สถานีถึงจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT สุขุมวิท
การเดินทางโดยรถส่วนตัว อยู่ติดถนนสุขุมวิทเดินทางเชื่อมต่อไปได้หลายโซน ออกจากโครงการวิ่งตรงมุ่งหน้าเข้าเมืองอย่างเดียวไป พร้อมพงษ์, อโศก เชื่อมต่อเพลินจิตตรงยาวไปสยามได้เลยสะดวกมาก แต่ช่วงเวลาเร่งด่วนรถก็จะติดพอสมควร
ถ้าจะเข้าไปฝั่งถนนทองหล่อ (สุขุมวิท 55) ต้องไปกลับรถช่วงซอยสุขุมวิท 32 แล้วก็ไปเข้าทองหล่อได้เลย หรือเลยไปเอกมัย ซอยทองหล่อและเอกมัยไปเชื่อมออกถนนเพชรบุรีได้ที่ท้ายซอย เส้นเพชรบุรีวิ่งเข้าไปอโศกมนตรี, นานา, ชิดลม, ประตูน้ำ, ราชเทวี มีซอยเชื่อมไปออกถนนพระราม 9 ได้
ถ้าจะไปโซนพระราม 4 จากโครงการไปเข้าซอยสุขุมวิท 36 และวิ่งไปออกถนนพระราม 4 ได้เลยครับ จากนั้นก็วิ่งไปเข้าสวนลุม, สาทร, สีลม, สามย่าน, หัวลำโพง เชื่อมต่อไปเยาวราชได้เลย
ถ้าจะออกนอกเมืองไปโซนพระโขนง, อ่อนนุช, บางนา ใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งตามแนว BTS ไปได้เลยยาวไปจนถึงสมุทรปราการ ตรงแถว ๆ แยกพระโขนงมีจุดขึ้นทางด่วนฉลองรัชเชื่อมไปโซนรามอินทรา, ลาดพร้าว, เกษตรนวมินทร์ หรือตรงแยกบางนาตัดเข้าถนนบางนาตราด วิ่งออกฉะเชิงเทรา, ชลบุรี มีทางด่วนบูรพาวิถีให้ขึ้นสะดวกดี
ทางด่วน ที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนเฉลิมมหานคร ห่างจากโครงการประมาณ 3.3 กม.* จากโครงการมาเข้าซอยสุขุมวิท 36 ตรงมาออกถนนพระราม 4 และเชื่อมมาเข้าถนนอาจณรงค์ จะเจอจุดขึ้นทางด่วน
ทางด่วน ที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนศรีรัช ห่างจากโครงการประมาณ 3.7 กม.* จากโครงการใช้ถนนสุขุมวิทวิ่งตรงมาทางแยกอโศก ผ่านนานา และจะเจอจุดขึ้นทางด่วนตรงใกล้ ๆ BTS เพลินจิต
ทางด่วน ที่อยู่ใกล้โครงการคือทางด่วนฉลองรัช ห่างจากโครงการประมาณ 4 กม.* จากโครงการใช้ถนนสุขุมวิทกลับรถและวิ่งออกมาทางพระโขนง ขึ้นสะพานข้ามคลองจะเจอทางแยกไปขึ้นทางด่วน
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า จุดเด่นโครงการอยู่ติด BTS ทองหล่อ 0 ม.* ออกมาหน้าโครงการเดินขึ้นบันไดเลื่อนเข้าตัวสถานีได้เลย ใช้นั่งเชื่อมเข้าออกเมืองได้เลยสะดวกมาก
ในอนาคตจะมี รถไฟฟ้าสายสีเทา วิ่งมาจากวัชรพลผ่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม และมาตัดเข้าถนนทองหล่อ มา Interchange ที่ BTS ทองหล่อ ซึ่งจะทำให้ตัวโครงการอยู่ติดรถไฟฟ้าถึง 2 สาย แต่คงต้องรออีกสักพักครับ
จาก BTS ทองหล่อ นั่งเพียง 2 สถานีไปลงอโศก จะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับ MRT สุขุมวิท ต่อจาก MRT ไปอีก 1 สถานีไปลงสถานีเพชรบุรี เชื่อมต่อไปใช้ ARL มักกะสันนั่งไปสนามบินได้
นอกจากนี้หน้าโครงการยังสามารถโบกเรียก Taxi ได้เลย มีป้ายรถเมล์ รถวิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้าและออกเมืองวิ่งเกือบทั้งคืน วินมอเตอร์ไซค์มีตรงปากซอยสุขุมวิท 36 และสุขุมวิท 38 หรือใช้บริการผ่าน Grab, Bolt ก็สะดวกดี
และตรงท้ายซอยทองหล่อยังมีบริการเรือด่วนคลองแสนแสบ ท่าเรือทองหล่อ ใช้นั่งไปชิดลม ประตูน้ำได้ จะเห็นว่าตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างหลากหลายเลือกใช้ได้ตามสะดวก
ความอุดมสมบูรณ์ เป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงและเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่มีเอกลักษณ์ หน้าโครงการมี 7-11 และร้านค้า ร้านอาหารหลากหลาย เดินมาในซอยสุขุมวิท 38 จะมีร้านอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ข้าวขาหมู ร้านขนมหวาน
หรือจะข้ามฝั่งไปเข้าซอยสุขุมวิท 55 จะค่อนข้างครบครันตั้งแต่แผงผลไม้ ร้านอาหารที่มีให้เลือกหลากหลายทั้ง ไทย จีน ฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น เลือกได้ตามความชอบเลย ในโรงแรมก็มีร้านหรู ๆ ใครชอบแนว Rooftop มีให้เลือกเยอะเลยครับ หรือไปเอกมัยก็มีให้เลือกเยอะเช่นกัน และใครมีไลฟ์สไตล์ชอบเที่ยว Hang Out ก็มีทั้งผับ บาร์ ร้านนั่งชิล มีให้เลือกเยอะหลายร้านทั้งฝั่งทองหล่อและเอกมัย
นอกจากนี้แหล่ง Shopping ส่วนใหญ่จะเกาะอยู่บนถนนสุขุมวิทซึ่งเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมายเดินทางไปได้สะดวก ทั้งรถส่วนตัว และรถสาธารณะ ถ้านั่ง BTS ไปลงพร้อมพงษ์เพียง 1 สถานี จะมีทั้ง Emporium, EmQuartier, EmSphere หรือจะนั่ง BTS เลยไปสยาม ก็เพียง 6 สถานีเท่านั่นครับ เลือกกินได้เลย หรือจะ Shopping ก็มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์
ด้วยทำเลใจกลางเมืองทำให้อยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และคอมมูนิตี้มอลล์หลากหลาย ทั้ง Emporium, Emquartier, Emsphere, Rain Hill, J Avenue, Marché ทองหล่อ, The Commons, 72 Courtyard, The Taste, 9:53 Art Mall, 49 Terrace, K-Village, Donki Mall, Terminal 21, Big C เอกมัย, @Ekkamai, Park Lane, Earth Ekamai, Major เอกมัย, Gateway เอกมัย เป็นต้น
ใกล้โรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง ในระยะประมาณ 700 ม.* มีทั้ง Trinity, HEI, Wells (Thong Lo Campus) ถัดออกไปอีกในระยะประมาณ 5 กม.* มีทั้ง ASB, ELC, The Purple Elephant 39, The City School, Ivy Bound, The Purple Elephant 55, The Purple Elephant 49, St Andrews (High School),
The First & Future Steps, Astra Academy, AISB, MISB, Anglo Singapore 31, Adventist Ekkamai, EIS, มศว ประสานมิตร, รร.สาธิตฯ มศว, St Andrews (Primary School), รร.ไทยคริสเตียน, รร.ทอสี, Wells (On Nut Campus), Bangkok Prep, Shrewsbury
ใกล้โรงพยาบาลหลายแห่ง ในระยะไม่เกิน 5 กม.* มีทั้ง รพ.สมิติเวช สุขุมวิท, รพ.วิมุต-เทพธารินทร์, รพ.สุขุมวิท, Bangkok Mediplex, รพ.กล้วยน้ำไท, รพ.คามิลเลียน, รพ.นมะรักษ์, รพ.กรุงเทพ, รพ.เพชรเวช, รพ.พระราม 9, รพ.คลองตัน
ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อและอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน
อื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ภาพประกอบการเดินทาง
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันครับ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ถนนสุขุมวิท > SCOPE ทองหล่อ
เริ่มจากถนนสุขุมวิท ตรงหน้าเป็น BTS พระโขนง ซ้ายมือจะผ่าน Summer Hill ขวามือเป็น Summer Point
ถัดมาซ้ายมือเป็นโรงเรียน St.Andrews
เลยมาอีกซ้ายมือเป็น Gateway เอกมัย และจะผ่าน BTS เอกมัย
ตรงผ่านแยกเอกมัย ขวามือเป็น Major สุขุมวิท
ซ้ายมือจะผ่านศูนย์ส่งเสริมและการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์
จากนั้นจะผ่านอาคาร T-ONE
และจะเจอแยกทองหล่อ ให้เตรียมชิดซ้ายได้เลย ตรงหน้าจะเจอกับ BTS ทองหล่อ ซึ่งอยู่ติดกับตัวโครงการ
ข้ามแยกมาซ้ายมือเป็นซอยสุขุมวิท 38 เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าโครงการข้างหน้าได้เลย
และจะเจอโครงการทางซ้ายมือเลี้ยวเข้าได้เลย
ถึงโครงการ SCOPE ทองหล่อ
ภาพมุมสูงที่ดินโครงการ
ที่ดินโครงการ SCOPE ทองหล่อ โดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ บ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม และโรงแรมต่าง ๆ จุดเด่นอยู่ติด BTS ทองหล่อ 0 ม.* บรรยากาศโดยรอบเหมาะกับการพักอาศัย
รอบโครงการ
หน้าโครงการติดกับถนนสุขุมวิท และ BTS ทองหล่อ มีป้ายรถเมล์หน้าโครงการอีกด้วย
ฝั่งตรงข้ามโครงการจะมีร้านค้า ร้านนวด ร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ หลายร้าน รวมไปถึงโรงแรม
ติดกับโครงการด้านหน้าจะมี 7-11 และบันไดเลื่อนทางขึ้นสถานี BTS ทองหล่อ สะดวกมาก ๆ ครับ
สถานี BTS ทองหล่อจะมี Skywalk เดินข้ามแยกทองหล่อไปเชื่อมเข้าอาคาร T-ONE ได้
ใกล้ ๆ โครงการเป็นซอยสุขุมวิท 38 ช่วงปากซอยมีโครงการคอนโดมิเนียมอย่าง The Residences 38 ฝั่งซ้ายเป็น Curvistan Bangkok ที่มีทั้ง Gallery, Cafe’, Bar และรถ Porsche รุ่นหายาก ภายในซอยก็มีทั้งบ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม ซอยนี้สามารถเชื่อมไปซอยสุขุมวิท 36 และซอยสุขุมวิท 40 ได้ ซึ่งทั้งสองซอยเชื่อมไปออกถนนพระราม 4 ได้
มองไปฝั่งโครงการจะเห็นตัวอาคารสูงเด่นริมถนนสุขุมวิทและติดตัวสถานี BTS ทองหล่อ
ภาพมุมสูงโครงการจะเห็นตัวโครงการตั้งอยู่ติดสถานี BTS ทองหล่อ
จากโครงการมองไปทางเอกมัยจะเห็นแบบนี้
ตัวโครงการ
SCOPE ทองหล่อ กับแนวคิด Privacy at Its Best คอนโดระดับ Ultra Luxury ใจกลางทองหล่อพร้อมความเป็นส่วนตัวสูงสุด โดยห้องพักทุกยูนิตจะเป็นรูปแบบ Penthouse และทั้งโครงการมีเพียง 18 ยูนิต มีห้องตั้งแต่ 1 ชั้นต่อ 1 ยูนิต , 2 ชั้นต่อ 1 ยูนิต และ 3 ชั้นต่อ 1 ยูนิต
โครงการนี้ได้ดีไซน์เนอร์ระดับโลกอย่าง Thomas Juul-Hansen (โทมัส ยูล-ฮันเซน) เป็นดีไซน์เนอร์ ชาวเดนมาร์ก มีชื่อเสียงจากการออกแบบอาคารที่พักอาศัยที่แพงที่สุดในนิวยอร์คชื่อ ONE 57 หรือ The Billionaire Building
ซึ่ง SCOPE ทองหล่อ ถือเป็นโครงการแรกและโครงการเดียวในเอเชีย ที่คุณโทมัสได้มาร่วมเป็นที่ปรึกษาในการออกแบบสถาปัตยกรรมทั้งภายนอกและการตกแต่งภายในต่าง ๆ
Facade ภายนอกอาคารจะเน้นเป็นผนังกระจก ซึ่งเป็นส่วนของช่องแสงและหน้าต่างของห้องพักอาศัยที่เป็น Insulated low-e ทั้งหมด และยังตัดเส้นขอบด้วยหินธรรมชาติทั้งหมด ด้วยขนาดแปลงที่ดินทำให้ตัวอาคารค่อนข้างผอมบาง ดูไม่อึดอัด และทำให้ตัวอาคารดูสวยโดดเด่นอีกด้วย
จุดเด่นของโครงการในเรื่องของการบริการ เทียบเท่าระดับโรงแรม ทั้ง Concierge ที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านตลอด 24 ชม. , Valet Parking ตลอด 24 ชม. มีเจ้าหน้าที่คอยรับรถและนำรถออกมาจาก Auto Parking แจ้งเวลาล่วงหน้าได้ และยังช่วยชาร์จรถให้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย
พนักงานช่วยยกกระเป๋าขึ้นลงรถ, บริการกาแฟดื่มฟรีได้ทุกวัน พร้อมเมล็ดกาแฟเบลนด์พิเศษของ SCOPE โดยพนักงานที่ถูกเทรนด์มาอย่างดี มีเชฟทำอาหารแบบง่าย ๆ คอยให้บริการ มีพนักงาน Salon และบริการแม่บ้านทำความสะอาดสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
และโครงการนี้ยังเป็น Pet Friendly Condominium สามารถเลี้ยงสุนัขและแมวได้โดยไม่จำกัดขนาดสัตว์เลี้ยง มีพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงและบริการ Pet Care อาบน้ำตัดขนและฝากเลี้ยงอีกด้วย
ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise 1 อาคาร สูง 32 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 1-0-4 ไร่ จำนวนยูนิตทั้งโครงการมีเพียง 18 ยูนิต ที่เป็นรูปแบบ Penthouse ทั้งหมด ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 10-31 โดยที่ชั้น 10-23 จะเป็นห้องแบบ Simplex ที่ชั้น 24-25, 29-30 จะเป็นห้องแบบ Duplex และที่ชั้น 26-28 จะเป็นห้องแบบ Triplex
ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และ 32 ที่จอดรถเป็นแบบ Auto Parking มีที่จอดแบบปกติที่ชั้น 1 พร้อมที่จอดรถ EV Charger (AC/ DC) ทั้งโครงการจอดได้ 107 คัน หรือคิดเป็น 594%
แปลนชั้น 1
จากด้านหน้าทางเข้า-ออกโครงการจะติดกับถนนสุขุมวิท มีประตูรั้วเลื่อนอัตโนมัติพร้อมป้อม รปภ. ผ่านเข้ามาจะเจอจุด Drop Off ด้านหน้าทางเข้า Lobby ถนนด้านในจะเป็น Two way ถ้าตรงมาทางฝั่งติดตะวันออกจะมีที่จอดรถใต้อาคาร และที่จอดสำหรับ EV Charger และจะมีทางเชื่อมเข้า Private Lift ขึ้นห้องได้เลย
ถ้าขับวนผ่านหน้าอาคารไปฝั่งทิศตะวันตก จะเป็นที่จอดรถแบบ Auto Parking มี 2 ช่องจอด ทั้งโครงการจอดได้ 107 คัน ใกล้ ๆ กันจะเป็นส่วนของ Service Lift ส่วนพื้นที่ด้านหลังอาคาร จะเป็น Dog Park และ Pavilion ภายในอาคารเข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์พนักงานทีมบริการ และบันไดเลื่อนขึ้นไปยังชั้น Lobby
แปลนชั้น Lobby
ขึ้นบันไดเลื่อนมาจากชั้น 1 จะเจอกับโถง Lobby ขนาดใหญ่ พร้อม Concierge และโถง Private Lift อีกโซนจะเป็น Lobby Lounge และ Meeting Room แยกเป็นสัดส่วน
เริ่มจากด้านหน้าโครงการมีประตูรั้วเลื่อนอัตโนมัติ และแนวกำแพงหินธรรมชาติที่ช่วยบังสายตาจากคนภายนอก
มีประตูแยกสำหรับคนเดินเข้าออก ใช้ระบบ Face Scan
ผ่านเข้ามาจะเจอกับจุด Drop Off รถสามารถตรงเข้าไปจอดใต้อาคาร หรือเลี้ยวเชื่อมไปด้านข้างอาคารอีกฝั่งเพื่อเข้า Auto Parking หรือเราจะใช้บริการ Valet Parking ก็จอดตรง Drop Off และให้เจ้าหน้าที่นำรถไปจอดให้ก็ได้
และถ้าต้องการเรียกรถออกไปข้างนอกก็สามารถแจ้งผ่าน Concierge จะแจ้งล่วงหน้าบอกเวลาไว้ก็ได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะนำรถมาจอดรอไว้ให้ และเราก็ขับออกไปได้เลย มีเจ้าหน้าที่ Valet บริการตลอด 24 ชม. สะดวกมาก
มองไปฝั่งประตูรั้วหน้าโครงการจะเห็นแบบนี้
ติดกับประตูรั้วฝั่งนี้จะเป็นป้อม รปภ.
มองจากมุมฝั่งด้านใน ขวามือจะเป็นทางเข้าที่จอด Auto Parking มีสองช่องจอด ทั้งโครงการจอดได้ 107 คัน จอดได้ห้องละประมาณ 5 คัน ถือว่าให้มาเยอะมาก ๆ ครับ
เงยหน้ามองตัวอาคารจะเห็นแบบนี้ ตัว Facade ภายนอกอาคารจะตกแต่งด้วยหิน Silver Sky
มองกลับไปอีกฝั่ง
เดินเชื่อมมาข้างอาคารอีกฝั่งรถวิ่งตรงเข้าไปจอดใต้อาคารได้ ซ้ายมือจะมีสวนตกแต่งดูร่มรื่น
ขวามือจะเป็นที่จอดรถใต้อาคาร ฝั่งซ้ายจะเป็นที่จอดสำหรับ EV Charger มีหัวชาร์จทั้งแบบ DC และ AC ลูกบ้านที่ใช้รถไฟฟ้าสามารถให้เจ้าหน้าที่ Valet นำรถมาชาร์จให้เต็มก่อนนำไปจอดก็ได้ครับสะดวกมาก
ด้านในจะเป็นพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ทีมบริการ และห้องสำหรับคนขับรถของลูกบ้าน ไว้นั่งรอได้
ฝั่งนี้จะมีประตูเชื่อมเข้า Private Lift
ด้านในโถง Private Lift มีพื้นที่ให้นั่งพักคอยสำหรับรอลิฟต์ เราสามารถขึ้นลิฟต์ตรงขึ้นห้องได้เลยไม่ต้องผ่าน Lobby
กลับออกมาด้านนอก ถัดเข้าไปด้านหลังโครงการจะเป็นส่วนของ Dog Park
Dog Park พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง มีรั้วกั้นแยกไว้เป็นสัดส่วน และถ้าน้องจะทำธุระส่วนตัวก็มีถุงไว้ให้เก็บพร้อมถังขยะอีกด้วย
ด้านมีสนามหญ้าโล่ง ๆ ไว้ให้สัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นเดินเล่นได้ โครงการนี้ไม่จำกัดขนาดสัตว์เลี้ยงด้วยนะครับ
และที่ต่างจากโครงการอื่น ๆ เลยคือมีสระว่ายน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยงมาให้อีกด้วยครับ พาน้องหมามาว่ายน้ำเล่นได้เลย
เงยหน้ามองที่ตัวอาคารจากฝั่งด้านหลัง
ถัดไปจะเป็น Pavilion ไว้นั่งพักผ่อน
ด้านใน Pavilion วางชุดโต๊ะยาวขนาด 6 ที่นั่งไว้รองรับ มานั่งทานอาหารในห้องนี้ได้
ด้านในมีทีวีติดที่ผนัง จัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ในห้องนี้ก็ได้
อีกฝั่งด้านในจะเป็น Pantry เตรียมอาหาร
ด้านในออกแบบให้เป็นเหมือนห้องครัว มีเคาน์เตอร์ครัวแบบตัว U พร้อมเตาไฟฟ้า เตาอบ ไมโครเวฟ ตู้เย็น และอ่างล้างจาน ทำอาหารในห้องนี้ได้เลย
กลับออกมาตรง Drop Off ด้านหน้าอาคาร
ประตูทางเข้าเป็นประตูเลื่อนอัตโนมัติพร้อมช่องแสงด้านบน
เข้ามาด้านในจะเจอกับโถงต้อนรับแบบ Double Volume พื้นและผนังตกแต่งด้วยหินอ่อนดูเรียบหรู
ด้านข้างมีเคาน์เตอร์สำหรับทีมบริการ คอยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน
ด้านข้างอีกฝั่งจะเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้แสงส่องเข้ามาด้านใน เพิ่มความโปร่งให้กับโถงต้อนรับ ถัดเข้าไปจะเป็นบันไดเลื่อนขึ้นไปยัง Lobby
จากบนบันไดเลื่อนมองกลับลงไปด้านล่างจะเห็นแบบนี้
ขึ้นมาจะเจอกับโถง Lobby ขนาดใหญ่ มีมุมนั่งพักผ่อนกระจายอยู่รอบ ๆ การตกแต่งจะเน้นความ Quiet Luxury ดูหรูหราแบบไม่ตะโกน เน้นความ Minimal ให้ดูอบอุ่นเหมาะกับการพักผ่อน ซึ่งก็เป็นการออกแบบบในสไตล์ของคุณโทมัส
มุมนั่งพักผ่อนฝั่งนี้วางเป็น Lounge Chair และทำเป็นโซฟาตัวยาวไว้ด้านใน
อีกฝั่งจัด Lounge Chair แบบแยกชุดมาให้ 3 ชุด นั่งแยกส่วนตัวได้
ผนังฝั่งด้านนอกจะเป็นกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าสามารถเปิดม่านดูวิวด้านนอกได้ และยังได้แสงธรรมชาติอีกด้วย
และที่เป็นไฮไลท์ของ Lobby ส่วนนี้คือเคาน์เตอร์ Concierge ขนาดใหญ่ที่ทำจากหินอ่อนวัสดุเดียวกับพื้น และขึ้นรูปทรงให้มีความเชื่อมต่อกันจากพื้น ดูสวยมาก ๆ ครับ
มองกลับไปอีกฝั่ง
ติดกับ Lobby จะมีทางเดินเชื่อมไปยังพื้นที่อีกโซน
ด้านในจะเป็น The Stern Lounge
ส่วนแรกจะเป็นห้อง Pantry ส่วนเตรียมอาหาร พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทำอาหารได้
ถัดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่นั่งพักผ่อนขนาดใหญ่ ไว้เป็นพื้นที่รับแขกส่วนตัวได้เลย
วางชุดโซฟาขนาด 6-8 ที่นั่งไว้รองรับ
เชื่อมต่อกับอีกโซนวางโต๊ะยาวขนาด 10 ที่นั่งมาให้ สามารถนำอาหารเครื่องดื่มมานั่งทานในห้องนี้ได้เลย นัดทานข้าวกับแขกห้องนี้หรือจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ได้เลย
มองกลับไปอีกฝั่งจะเห็นแบบนี้
ฝั่งด้านในจะเป็น Meeting Room จองแยกใช้งานส่วนตัวได้
ภายในวางโต๊ะประชุมขนาด 6 ที่นั่งพร้อมจอทีวี จะนั่งประชุมหรือติวหนังสือก็ได้
มุมด้านในยังวาง Lounge Chair ไว้ให้นั่งเล่นอีกด้วย
กลับออกมาตรง Lobby ถัดเข้าไปอีกจะเป็นโถง Private Lift แบบ 1 ต่อ 1 ทุกยูนิต เวลาเราขึ้นลิฟต์และกดชั้นเรา ลิฟต์จะขึ้นไปส่งเราที่ห้องก่อนและจะลงมารับลูกบ้านที่อยู่ชั้นอื่นต่อ หรือขึ้นได้ครั้งละ 1 ห้องเท่านั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวนั่นเองครับ
Private Lift มีให้ 2 ตัว ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอสำหรับลูกบ้าน 18 ยูนิต และยังมี Service Lift อีก 1 ตัว ไว้ให้ทีม Concierge และทีมบริการต่าง ๆ ได้ใช้งานอีกด้วย
ภายใน Private Lift ตกแต่งมาได้สวยงามทั้งพื้น ผนัง และไฟซ่อน พร้อมที่นั่งอีกด้วย ขึ้นลงใช้ระบบ Face Scan
ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็นชั้นส่วนกลางที่เป็นห้องฟิตเนส ให้เครื่องออกกำกายมาแบบครบครัน แบรนด์ Technogym
โซนแรกมีทั้งเครื่องบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เครื่องยกน้ำหนัก ม้านั่งออกกำลังกาย และชุดดัมเบล
ฝั่งด้านในขวามือเป็นห้อง Thermal Therapy
ภายใน Thermal Therapy จะแบ่งออกเป็น 4 โซน โดยโซนแรกนี้จะเป็นพื้นที่แต่งตัว มีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ วางของ พร้อมชุดไดร์เป่าผม ห้องนี้เราสามารถจองใช้งานส่วนตัวได้เลย
ถัดเขาไปจะเป็นโซน Shower กั้นด้วยกระจกบานเปิด มีทั้ง Rain Shower ขนาดใหญ่ด้านบน และ Hand Shower ไว้อาบน้ำล้างตัว
ถัดเข้ามาอีกโซนจะเป็น Steam Room มีที่นั่งด้านข้าง
ถัดเข้าไปอีกด้านในสุดจะเป็นห้องซาวน่า
กลับออกมาด้านนอก มีทางเดินเชื่อมไปอีกโซนของห้องฟิตเนส
โซนนี้จะเป็นเครื่องเล่นแบบ Cardio
มีลู่วิ่งไฟฟ้า เครื่องเดินออกกำลังกาย เครื่องปั่นจักรยาน เครื่องยืดขา
ด้านในสุดจะเป็น Running Studio มีประตูกั้นแยกส่วน
มีเครื่องวิ่งออกกำลังกายของ Woodway ที่มีความพิเศษด้วยพื้นของลู่วิ่งที่ออกแบบมาเพื่อซัพพอร์ตและลดแรงกระแทก ที่สามารถเกิดกับข้อต่อกล้ามเนื้อต่าง ๆ
ขึ้นมาที่ชั้น 4 ชั้นนี้จะเป็น Pet Care บริการอาบน้ำตัดขนและฝากเลี้ยงสัตว์ โดยจะมีค่าบริการซึ่งสอบถามราคากับพนักงานได้เลย ใครที่มีสัตว์เลี้ยงก็สะดวกเลยครับ ไม่ต้องไปใช้บริการที่อื่น
เข้ามาด้านในจะแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ อย่างห้องแรกนี้จะเป็นพื้นที่อาบน้ำ ตัดขน
ภายในมีเครื่องชั่งน้ำหนัก เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ
ฝั่งนี้เป็นโต๊ะตัดผมพร้อมเครื่องเป่าขน
ด้านในเป็นห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ
ภายในห้องอาบน้ำสัตว์เลี้ยง มีวิวด้านนอกให้มองออกไปได้ด้วย
ถัดมาอีกโซนด้านในจะเป็นพื้นที่รับฝากเลี้ยง
มีห้องฝากเลี้ยงแยกมาให้
วิวจากห้องฝากเลี้ยงมองออกมาเห็นสระว่ายน้ำของเพื่อนบ้านด้วยครับ
ขึ้นมาที่ชั้น 5 จะเป็น Wellness Suite เดินออกมาจากลิฟต์ก็จะเจอทางเดินเชื่อมไปยังทางเข้าห้อง ตกแต่งให้เป็นเหมือนทางเข้าสปา
ภายใน Wellness Suite มีเตียงสปามาให้ 2 เตียง เราสามารถให้ Therapist มานวดให้ที่นี่ได้เลยครับ มีเคาน์เตอร์สำหรับล้างมือ และวางของต่าง ๆ
ถัดไปจะเป็นทางเดินไปยังห้องน้ำ
เดินขึ้นมาจะมีเคาน์เตอร์ไว้ให้วางของ หรือวางเครื่องดื่มชาได้ ขวามือเป็นห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำ มีเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ และอ่างอาบน้ำแบบ Jacuzzi ทำสปาแช่น้ำนวดตัวได้เลย
อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณฑ์ ด้านในไปโซน Shower มีประตูกั้นแยกส่วน
ด้านในมีทั้ง Rain Shower & Hand Shower ไว้อาบน้ำล้างตัว
ออกมาจากห้องน้ำเดินเชื่อมไปอีกฝั่งจะเป็นพื้นที่แต่งตัว
เข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์แต่งตัว ใช้งานพร้อมกันได้ 2 คน และมีตู้เย็นตู้อบผ้ามาให้ใช้งานอีกด้วย
ด้านในสุดเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ขึ้นมาที่ชั้น 6 จะเป็น Kids Quarter จะเห็นว่าหน้าโถงลิฟต์ของแต่ละชั้นส่วนกลางจะมีการตกแต่งให้เข้ากับพื้นที่ส่วนกลางในชั้นนั้น ๆ ครับ
ภายใน Kids Quarter ห้องสำหรับเด็ก ๆ มีพื้นที่มาให้พอสมควร ตกแต่งมาได้น่ารักเหมาะกับเด็ก ๆ ดีครับ มีเครื่องเล่นต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก
ด้านในเป็น Piano Room แยกห้องไว้ให้
ภายในวาง Piano สีขาว พร้อมจอทีวีและอุปกรณ์ต่าง ๆ เด็ก ๆ มานั่งเรียน Piano กันได้
เดินไปอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำ
หน้าห้องน้ำจะมีตู้เย็นของ Smeg แช่ขนมทั้ง Ice Cream และ Chocolate ไว้ให้ด้วย
ภายในห้องน้ำมีทั้งอ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์ที่เป็น Size ของเด็กโดยเฉพาะ
แปลนชั้น 8
ชั้น 8 จะเป็นชั้นส่วนกลางอีกชั้น จะมี Studio Room ที่มีทั้ง Yoga, Pilates ถัดมาอีกเป็น Private Onsen และสระว่ายน้ำหินอ่อนขนาดใหญ่แยกสระเด็ก พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติและระบบ Fresh Water มีพื้นที่พักผ่อนริมสระและ Pool Bar ไว้ให้อีกด้วย
ขึ้นมาที่ชั้น 8 จะเจอโถง Private Lift มีทางเดินเชื่อมเข้าไป
เดินมาซ้ายมือจะเป็น Studio Room ขวามือเป็นห้องน้ำ
ภายใน Studio Room จะมีเครื่องเล่น Pilates มาให้ และยังมีพื้นที่สำหรับเล่นโยคะ พร้อมเสื่อโยคะและลูกบอลออกกำลังกายอีกด้วย
ติดกันจะเป็นห้องน้ำแยกชายหญิง
ภายในห้องน้ำ
ถัดมาอีกจะเป็นห้อง Private Onsen
เข้ามาด้านใน Private Onsen โซนแรก จะเป็นพื้นที่แต่งตัว เก็บของ มีตู้เสื้อผ้าไว้ให้ พร้อมเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ
อีกฝั่งวางโซฟาไว้ให้นั่งพักผ่อน และมีตู้เย็นพร้อมน้ำดื่ม
ถัดไปด้านในจะเป็นบ่อ Onsen มีฉากกั้นกระจกลอนแก้วกั้นแยกส่วน
ด้านในมีบ่อ Onsen ที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนทั้งหมด เราสามารถจองใช้งานส่วนตัวได้เลยครับ
ติดกันจะเป็นบ่อน้ำเย็น
มุมด้านในจะเป็นพื้นที่อาบน้ำ และห้องสตรีมแยกเป็นสัดส่วน
ถัดไปจะเป็นทางเดินออกไปยังสระว่ายน้ำ
เดินออกมาจะเจอกับพื้นที่ของสระว่ายน้ำในร่มพร้อมพื้นที่พักผ่อนริมสระ
สระว่ายน้ำในร่มแบบ Semi-Outdoor ขนาดใหญ่สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน พื้นสระปูด้วยหินอ่อน พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติและระบบ Fresh Water ที่ช่วยถนอมผิวไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
ปลายสระฝั่งนี้มีส่วน Jacuzzi ไว้นั่งแช่น้ำนวดตัว
มองจากปลายสระอีกฝั่ง
ริมสระด้านนอกจะมีราวกันตกเป็นกระจกไม่บดบังวิว
มุมสระอีกฝั่งจะแยกเป็นสระเด็กไว้ให้
ติดกับสระที่เห็นเป็นกระจกใสบริเวณเสาจะเป็นจุดล้างตัว ดีไซน์เป็นกระจกโค้งรับกับเสาและบดบังบังวิวรอบ ๆ ทำให้พื้นที่ดูเชื่อมต่อกัน
ริมสระมีพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่
วาง Daybed มาให้ 4 ตัว
อีกโซนจะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนวางชุดโซฟามาให้หลายชุด
ชุดโซฟาจาก Tribù แบรนด์เฟอร์นิเจอร์จากเบลเยียม พร้อมพัดลมเพดาน มานั่งเล่นรับลมได้
ที่พื้น ผนัง และบนฝ้าของส่วนนี้จะตกแต่งด้วย Opus White Quartzite มีลวดลายและโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ดูสวยไปอีกแบบ
วิวจากชั้น 8 ฝั่งพื้นที่พักผ่อนมองไปทางแยกทองหล่อ
อีกโซนของสระว่ายน้ำจะเป็น Pool Bar
วาง Lounge Chair ไว้นั่งพักผ่อนจิบเครื่องดื่ม
ด้านในเป็นเคาน์เตอร์บาร์พร้อมโต๊ะนั่ง ไว้รองรับจัด Pool Party ได้เลย
มีเคาน์เตอร์สำหรับทำเครื่องดื่มแบบจริงจัง ให้ Bartender มาชงเครื่องดื่มได้เลย
อีกฝั่งเป็นเคาน์เตอร์แบบ Island มีตู้เย็นด้านล่างไว้ให้อีกด้วย
มองออกไปฝั่งสระว่ายน้ำจะเห็นแบบนี้
วิวอีกฝั่งของชั้นนี้จะมองไปทางพร้อมพงษ์
แปลนชั้น 9
ชั้น 9 จะเป็นชั้นส่วนกลางอีกชั้น ขึ้นลิฟต์มาจะเจอกับ Club Lounge ขนาดใหญ่ มีโซนบาร์เครื่องดื่ม, Business Lounge, Social Club, The Banquet อีกฝั่งจะเป็น Dressing Room ห้องแต่งตัวแบบ Full Option และ Cigar Room
ขึ้นลิฟต์มาจะเจอกับ Club Lounge ขนาดใหญ่ยาวเชื่อมเข้าไปอีก
มีชุดโต๊ะนั่ง โซฟามาให้หลายชุด นั่งแยกเป็นส่วนตัวได้
มองกลับไปฝั่งโถงลิฟต์
มุมนี้จะเป็นเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่ม มีเครื่องชงกาแฟ และเครื่องดื่มไว้บริการลูกบ้าน ซึ่งลูกบ้านที่นี่สามารถลงมานั่งดื่มกาแฟฟรีได้ทุกวันเลยครับ ตัวเมล็ดกาแฟเบลนด์พิเศษของ Scope โดยพนักงานที่นี่จะถูกเทรนด์มาอย่างดี
ภายในเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่มแบบจริงจัง มีทั้งเครื่องชงกาแฟ, เครื่องทำน้ำแข็ง, เครื่องทำน้ำ Sparkling
ถัดเข้ามาอีกโซนจัดไว้เป็น Business Lounge วางชุดโซฟาขนาดใหญ่มา 2 ชุด ไว้นั่งคุยงาน ธุกิจต่าง ๆ และดื่มเครื่องดื่มไปด้วย
มองกลับไปอีกฝั่งจะเห็นแบบนี้ เราจะจองพื้นที่ทำเป็น Private Party ก็ได้ครับ
เชื่อมต่อมาอีกโซนจะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนวางโซฟาขนาดใหญ่พร้อม Lounge Chair และทีวีไว้นั่งดูหนังฟังเพลง
มองกลับไปอีกฝั่ง
โซนนี้จะวางเป็นโต๊ะยาวขนาด 10 ที่นั่ง นำอาหารมานั่งทานได้รองรับการจัดปาร์ตี้ได้เลย มีทีวีฝั่งนี้มาให้อีกด้วย
ถัดไปเป็นห้องเตรียมอาหาร
ภายในมีชุดเคาน์เตอร์ส่วนเตรียมอาหาร ไมโครเวฟ เตาอบ ตู้เย็น อ่างล้าง ไว้รองรับ
อีกโซนของชั้นนี้จะมี Dressing Room และ Cigar Room
ห้องแรกจะเป็น Dressing Room
ภายใน Dressing Room เป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ที่ให้ฟังก์ชันมาแบบจัดเต็ม เหมาะกับลูกบ้านที่ต้องไปออกงานสังคมหรืองานอีเว้นท์บ่อย ๆ สามารถใช้ช่างส่วนตัวมาทำให้ที่นี่ได้เลย และไม่ต้องให้ช่างขึ้นไปที่ห้องส่วนตัวของเราอีกด้วย
หรือถ้าไม่มีช่างส่วนตัว ที่โครงการก็มีพนักงานที่คอยให้บริการอยู่ด้วยครับ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการต่าง ๆ แต่ราคาจะถูกกว่าไปทำร้านข้างนอกครับ
ฝั่งนี้เป็นชุดโต๊ะแต่งหน้าทำผม พร้อมกระจกบานใหญ่สำหรับแต่งตัว
อีกฝั่งเป็นเก้าอี้ทำเล็บ 2 ตัว พร้อมอุปกรณ์ครบ ด้านในจะเป็นห้องน้ำ และห้องสระผม
ห้องสระผมวางเตียงสระผมไว้ให้
ส่วนห้องน้ำแบ่งส่วนแห้งโซนเปียก สามารถอาบน้ำแต่งตัวครบจบในห้องนี้ได้เลย
ถัดไปจะเป็นห้องน้ำแยกชายหญิง โซนแรกเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ
ภายในห้องน้ำชายมีทั้งโถปัสสาวะชาย และโถสุขภัณฑ์
ถัดมาอีกจะเป็น Cigar Room กั้นแยกโซนออกมาเป็นสัดส่วน ผนังห้องจะเป็นกระจกดูโปร่ง โล่งไม่อึดอัด
ภายในห้องมีชุด Lounge Chair ไว้ให้นั่งสูบบุหรี่ หรือซิการ์ได้ มีระบบระบายอากาศไว้ให้เรียบร้อย และมีตู้เย็นพร้อมน้ำดื่มไว้ให้อีกด้วย
แปลนชั้น 10-20
ชั้น 10-20 เป็นชั้นพักอาศัยแบบ Simplex ซึ่งแปลนนี้เป็นทั้งแปลนชั้นและแปลนห้องพัก เพราะที่นี่ออกแบบให้ทุกห้องคือ Penthouse นั่นเอง มีชั้นละ 1 ยูนิตเท่านั้น ทำให้ทุกห้องได้ความเป็นส่วนตัวมาก ๆ ขึ้น Private Lift มาก็จะเข้าสู่พื้นที่ของห้องเราเลย มุมฝั่งด้านหลังจะเป็น Service Lift สำหรับทีมบริการต่าง ๆ ในโครงการ ส่วนบันไดหนีไฟก็จะอยู่ในห้องเลยเวลามีเหตุฉุกเฉินก็ใช้งานได้เลยสะดวกมาก จากแปลนจะเห็นว่ารูปทรงอาคารจะไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมเสมอกันทุกด้าน ฝั่งทิศตะวันตกจะโค้งเอียงตามแนวแปลงที่ดิน
แปลนชั้น 21
ชั้น 21 เป็นชั้นพักอาศัยแบบ Simplex ฟังก์ชันภายในจะเหมือนชั้นก่อนหน้า ต่างกันตรงที่ฝั่งทิศเหนือพื้นที่จะกลายเป็นระเบียงห้องแบบ Semi-Outdoor และชั้นนี้จะเริ่มเป็นส่วนระยะร่นของอาคาร
แปลนชั้น 22
ชั้น 22 เป็นชั้นพักอาศัยแบบ Simplex ฟังก์ชันภายในจะคล้ายกับชั้น 21 พื้นที่ตรงระเบียงด้านหน้าจะมีระยะร่นเข้ามาจากชั้น 21
แปลนชั้น 23
ชั้น 23 เป็นชั้นพักอาศัยแบบ Simplex พื้นที่ตรงระเบียงด้านหน้าจะมีระยะร่นเข้ามาจากชั้น 21, 22 อีกพอสมควร
แปลนชั้น 26
เป็นชั้นพักอาศัยแบบ Triplex หรือห้องพักแบบ 3 ชั้นนั่นเอง โดยชั้น 26 จะเป็นส่วนของชั้น 1 ในยูนิตนี้ ฟังก์ชันภายในก็จะแตกต่างจากห้องแบบ Simplex และห้อง Duplex ในห้องมีบันไดเดินเชื่อมขึ้นไปชั้น 2-3 ของห้องได้ หรือจะขึ้นลิฟต์แทนก็ได้ครับ
แปลนชั้น 27
ชั้น 27 เป็นส่วนของชั้น 2 ในยูนิตชั้น 26 จะเน้นเป็นส่วนของห้องนอนและห้องพักผ่อน
แปลนชั้น 28
ชั้น 28 เป็นส่วนของชั้น 3 ในยูนิตชั้น 26 จะเน้นเป็นส่วนของห้องนอนและห้องเก็บของ
แปลนชั้น 32
ชั้น 32 เป็นชั้นบนสุดของอาคารจัดไว้เป็นชั้นส่วนกลางอีกชั้น โดยจะเป็น Thomas Juul-Hansen Lounge พื้นที่พักผ่อนมีโซน Dining และห้องครัว พร้อม Barbecue Terrace ระเบียงแบบ Semi-Outdoor มีโซน BBQ ไว้จัดปาร์ตี้ได้
ขึ้นมาที่ชั้น 32 จะเป็น Thomas Juul-Hansen Lounge พื้นที่นั่งพักผ่อนจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่พร้อม Lounge Chair พื้นห้องชั้นนี้จะปูด้วยหินอ่อนทั้งหมด
ผนังฝั่งนี้เป็นกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเปิดรับวิวด้านนอก
มองกลับไปอีกฝั่งด้านในจะแบ่งเป็น Dining Zone ขวามือเป็นห้องครัว
เดินเข้ามาโซน Dining วางชุดโต๊ะยาวขนาด 10 ที่นั่งไว้ให้
มองกลับไปอีกฝั่ง เราสามารถจัด Private Dining ได้เลยครับ
ทางเดินเชื่อมไปยังห้องครัว
เดินมาจะเจอกับพื้นที่ห้องครัว ด้านหน้าห้องจะมีเคาน์เตอร์ส่วนเตรียมอาหาร
มีประตูกระจกกั้นแยกเป็นสัดส่วน และยังสามารถมองเห็นเชฟทำอาหารได้อีกด้วย
ภายในห้องครัวจัดมาให้แบบ Full Function เหมือนเป็นห้องครัวในร้านอาหาร เราสามารถให้เชฟส่วนตัวมาทำอาหารในห้องนี้ได้เลย และทางโครงการยังมีเชฟที่ทำอาหารแบบง่าย ๆ คอยบริการลูกบ้านอีกด้วย
ถัดไปจะมีประตูเชื่อมออกไปยังระเบียงด้านนอก
ตรงระเบียงได้พื้นที่แบบ Semi-Outdoor วางชุดโต๊ะนั่งขนาด 8 ที่นั่งไว้ให้ จะมานั่งทานอาหารตรงนี้ก็ได้บรรยากาศอีกแบบครับ บริเวณระเบียงส่วนนี้บนฝ้าจะติดแอร์แบบ Outdoor ที่จะทำความเย็นให้ตลอด ทำให้พื้นที่ส่วนนี้ไม่ร้อนถึงแม้จะเป็นพื้นที่เปิดโล่งนั่นเอง
อีกโซนจะเป็นโซฟาขนาดใหญ่ไว้นั่งพักผ่อนชมวิวรอบ ๆ
และยังมีเคาน์เตอร์อ่างล้างจานและเตาบาร์บีคิว ไว้รองรับการจัดเลี้ยงปาร์ตี้ต่าง ๆ ได้เลยครับ
วิวจากระเบียงมองออกไปจะได้เป็นวิวเมืองกลางทองหล่อแบบนี้
ฝั่งนี้มองไปทางเอกมัย
แบบห้องพัก
โครงการมีห้องให้เลือก 3 แบบ โดยจะเป็นห้องแบบ Penthouse ทั้งหมด
ห้องตัวอย่าง
วันนี้เรามีห้องตัวอย่างมาให้ชมเป็นห้องแบบ
โดยทางโครงการจะขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Furnished ออกแบบตกแต่งโดย Thomas Juul-Hansen
ห้องตัวอย่าง แบบ Simplex 4 Bedrooms ขนาด 416 ตร.ม.
ห้องตัวอย่างแบบ Simplex 4 Bedrooms ขนาด 416 ตร.ม. จุดเด่นของห้องนี้ ได้พื้นที่ในห้องขนาดใหญ่ขนาดความยาวของห้องนี้ประมาณ 42 ม.* ซึ่งเป็นห้องที่ใหญ่มาก ๆ และ 1 ชั้น มีเพียง 1 ยูนิตเท่านั้น
ขึ้น Private Lift มาส่วนแรกจะเจอกับ Foyer ก่อน และจะเชื่อมเข้าสู่โถงทางเดินในห้อง มีห้องน้ำแบบ Powder Room ติดกันจะเป็นบันไดหนีไฟ ถัดมาเป็นห้อง Primary Room หรือห้องนอน Master แบ่งฟังก์ชันภายในเป็นโซนห้องนอน วางเตียง King Size, โต๊ะข้างเตียง, ชุดโซฟา หรืออาร์มแชร์ มีส่วน Walk-in closet ขนาดใหญ่ และห้องน้ำในห้องนอนที่ได้อ่างอาบน้ำและ Steam ส่วนตัว
ฝั่งตรงข้ามห้อง Primary Room จะเป็นห้องนอน 2, ห้องนอน 3, ห้องนอน 4 ที่ได้ฟังก์ชันเหมือนกัน มีพื้นที่มาให้กว้างพอสมควร วางเตียง 5-6 ฟุต, โต๊ะข้างเตียง, โต๊ะทำงาน, อาร์มแชร์, ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง
ถัดมาอีกโซนจะเป็นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ สามารถจัดวางฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย ใช้งานร่วมกันทั้งส่วนห้องนั่งเล่น พื้นที่นั่งพักผ่อน และส่วนรับประทานอาหาร ติดกันจะเป็นห้องครัวปิดขนาดใหญ่ มีพื้นที่ทั้งชุดเคาน์เตอร์ครัว วางโต๊ะทานอาหารได้ และมีพื้นที่ Morning Lounge ไว้นั่งจิบชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ ติดกันเป็นระเบียงแบบ Double Balcony ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย
อีกโซนของห้องจะเป็น Maid Quarter เป็นโซนสำหรับแม่บ้าน มีประตูกั้นแยกส่วนตั้งแต่โถง Foyer ซึ่งจะมีทั้งห้องครัว ห้อง Laundry ห้องเก็บของ ห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำแม่บ้าน และยังมีประตูเชื่อมกับ Service Lift ซึ่งทีมแม่บ้าน และทีมบริการต่าง ๆ ของโครงการจะใช้ลิฟต์ส่วนนี้ครับ
เมื่อเราขึ้น Private Lift มาจะเจอกับโถง Foyer ขนาดใหญ่ พร้อมช่องแสง ส่วนนี้จะได้ตู้เก็บของเก็บรองเท้า และติดแอร์แบบฝังฝ้ามาให้เลย พื้นจะปูด้วยหินอ่อน
วิวมองออกมาจาก Foyer จะหันไปทางซอยสุขุมวิท 38
ตู้เก็บของเก็บรองเท้าจะ Built-in มาให้สูงเต็มผนัง มีที่นั่งใส่รองเท้า หรือนั่งรอลิฟต์ได้
ตู้เป็นแบบบานเปิดทั้งหมดพร้อม Soft close และไฟซ่อนในตู้ ด้านในแบ่งช่องแสงชั้นมาเยอะมาก ๆ เก็บรองเท้าได้เป็นร้อยคู่สบาย ๆ ครับ
ถัดเข้าไปจะเป็นโซนพักผ่อนในห้อง
ตรงเข้ามาส่วนแรกจะเจอห้องน้ำแบบ Powder Room พื้นและผนังรวมถึงเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าตกแต่งด้วยหินอ่อนดูหรูหรา
อ่างล้างหน้าได้ทรงสี่เหลี่ยมของ Duravit ฝังเคาน์เตอร์มาให้ พร้อมก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Axor
ฝั่งนี้วางโถสุขภัณฑ์ Toto แบบ Washlet พร้อมแผง Remote ควบคุม และที่ใส่กระดาษทิชชู่
ถัดไปจะเป็นโถงทางเดินเชื่อมไปยังโซนพักอาศัย ระยะทางจากหน้าห้องน้ำยาวเข้าไปด้านในประมาณ 30 ม. ซึ่งเป็นโถงทานเดินที่ยาวมาก เราสามารถตกแต่งเป็น Art Gallery ได้เลย พื้นห้องตรงทางเดินจะปูด้วยหินอ่อน ผนังได้ฉาบเรียบติดวอลเปเปอร์ ฝ้าเพดานสูง 3.2 ม. ไฟได้แบบ Downlight
ทุกห้องจะได้ระบบ Home Automation
ติดกับห้องน้ำจะเป็นประตูเชื่อมออกบันไดหนีไฟ เวลามีเหุตฉุกเฉินก็ใช้งานได้เลยสะดวกดี
ถัดมาฝั่งขวาจะเป็นห้องนอน 2, ห้องนอน 3, และห้องนอน 4 วางตำแหน่งเรียงแถวกัน
ภายในห้องนอน 2 ให้พื้นที่มาใหญ่พอสมควร และจะได้เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดตามนี้เลยครับ พื้นห้องนอนเป็นไม้ Engineering Wood
ได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต มีพื้นที่เหลือรอบ ๆ
ได้โต๊ะข้างเตียงเป็นลิ้นชักสองชั้นพร้อมไฟหัวเตียง
ฝั่งปลายเตียงได้โต๊ะทำงาน หรือเป็นโต๊ะเครื่องแป้งไปในตัว ที่ผนังเราสามารถติดทีวีเพิ่มได้
ข้างเตียงจะได้ตู้เก็บของแบบบานเปิด ภายในแบ่งชั้นมาให้เยอะดี
ในห้องนอนจะได้ช่องแสงขนาดใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้า ทำให้เปิดรับวิวได้แบบเต็มตา และยังช่วยเพิ่มความโปร่งให้กับห้องอีกด้วย บานกระจกจะได้เป็นกระจก Insulated low-e ช่วยกันเสียง ลดทอนแสงและความร้อนจากภายนอกได้ดีมาก ๆ พร้อมติดตั้ง Roller blind ม่านไฟฟ้ากันแสง ได้สนิทเหมือนเป็นผนังทึบ ควบคุมด้วยรีโมท และยังติดตั้งม่านโปร่งไฟฟ้ามาให้อีกด้วย ทำให้ภาพรวมของทั้งอาคารดูสวยเหมือนกันทั้งหมดทุกห้องเวลามองจากภายนอก
วิวจากห้องนอน 2 มองออกไปทางแยกทองหล่อยาวไปเอกมัย ขวามือจะเห็นวิวสระว่ายน้ำของเพื่อนบ้านโครงการ The Residences 38
มองกลับไปฝั่งด้านในจะเป็นห้องน้ำ หน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าเป็นโซนแต่งตัว ในห้องจะได้แอร์แบบฝังฝ้า Conceal type ระบบ VRV
หน้าห้องน้ำได้ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ สูงจากพื้นถึงฝ้า หน้าบานเปิดสีขาวมี Softclose พร้อมไฟซ่อน ชุดตู้เป็นแบรนด์ของ Lema นำเข้าจากอิตาลี จะได้ตามนี้เลย
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นและผนังตกแต่งด้วยหินอ่อน ได้ชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ มีตู้กระจกบานเปิดและตู้เก็บของใต้อ่าง พร้อมไฟซ่อน
อ่างล้างมือที่ได้ของ Duravit ฝังท็อปเคาน์เตอร์ พร้อมก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Axor
อีกฝั่งวางโถสุขภัณฑ์ของ Toto แบบ Washlet พร้อมแผง Remote ควบคุม และที่ใส่กระดาษทิชชู่
ถัดไปเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำบานเปิดมาให้ ภายในได้ Rain Shower & Hand Shower พร้อมก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Axor
ติดกันจะเป็นห้องนอน 3 ฟังก์ชันภายในห้องเหมือนกันกับห้องนอน 2 ได้เตียงนอน 5 ฟุต
มีโต๊ะข้างเตียงพร้อมไฟหัวเตียงแบบนี้เลย
ฝั่งปลายเตียงจะได้เป็นโต๊ะทำงานพร้อมลิ้นชักเก็บของ ที่ผนังติดตั้งทีวีเพิ่มได้ ในห้องมีช่องแสงขนาดใหญ่มีส่วนที่เปิดระบายอากาศได้ พร้อมติดตั้ง Roller blind ม่านไฟฟ้ากันแสง และติดตั้งม่านโปร่งไฟฟ้ามาให้อีกด้วย
ฝั่งด้านในจะเป็นห้องน้ำ หน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าเป็นโซนแต่งตัว ซ้ายมือเป็นตู้เก็บของ ในห้องจะได้แอร์แบบฝังฝ้า Conceal type ระบบ VRV
ชุดตู้เสื้อผ้าเป็นแบรนด์ของ Lema นำเข้าจากอิตาลี
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นและผนังตกแต่งด้วยหินอ่อน พร้อมสุขภัณฑ์ของ Duravit และ Toto
ถัดไปเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำบานเปิดมาให้ ภายในได้ Rain Shower & Hand Shower พร้อมก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Axor
ถัดมาเป็นห้องนอน 4 ได้ฟังก์ชันเหมือนห้องนอน 2-3 ห้องนี้จะไม่ได้แถมเฟอร์ให้เนื่องจาก เผื่อเราจะปรับเป็นห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์อื่น ๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์
มองกลับไปอีกฝั่ง
วิวจากห้องนอน 4 หันออกมาทางแยกทองหล่อเช่นกัน
ฝั่งด้านในเป็นห้องน้ำ มีตู้เก็บของและตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นและผนังตกแต่งด้วยหินอ่อน พร้อมสุขภัณฑ์ของ Duravit และ Toto ในห้องน้ำจะติดตั้งพัดลมระบายอากาศช่วยให้อากาศไหลเวียน
ถัดมาอีกฝั่งจะเป็นห้อง Master Bedroom หน้าห้องนอนจะมีตู้เก็บของ Built-in มาให้อีกด้วย
ตู้เก็บของเป็นแบบบานเปิดทั้งหมด 5 บาน มี Softclose และไฟซ่อน ภายในแบ่งชั้นเก็บของมาให้เยอะดีครับ
เข้ามาด้านใน Master Bedroom จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน คือโซนห้องนอนมีประตูกั้นแยกส่วน โซน Walk-in closet และโซนห้องน้ำ
หน้าโซนประตูห้องนอนจะมีตู้เสื้อ Built-in มาให้เป็นตู้บานเปิดพร้อมไฟซ่อน
ภายในห้องนอนได้พื้นที่ขนาดใหญ่มาก ๆ ในห้องจะได้เตียง King Size พร้อมโต๊ะข้างเตียงและโคมไฟหัวเตียงตามนี้เลย
ข้างเตียงจะได้เป็นโซฟาเบดไว้นั่งพักผ่อนส่วนตัว จะเห็นว่ามีพื้นที่อีกพอสมควร จะทำตู้เก็บของ หรือวางโต๊ะทำงานเพิ่มอีกก็ได้ครับ ในห้องจะได้แอร์แบบฝังฝ้า Conceal type ระบบ VRV
ฝั่งปลายเตียงจะได้ตู้เก็บของ วางทีวีบนตู้ได้
ในห้องนอนมีช่องแสงขนาดใหญ่สูงจากพื้นถึงฝ้า มีส่วนที่เปิดระบายอากาศได้ และยังช่วยเพิ่มความโปร่งให้กับห้องอีกด้วย พร้อมติดตั้ง Roller blind ม่านไฟฟ้ากันแสง และม่านโปร่งไฟฟ้า
วิวจากห้อง Master จะหันเข้าไปทางพร้อมพงษ์
ถัดมาอีกโซนจะเป็นพื้นที่ Walk-in closet ที่อยู่กลางห้อง ตรงหน้าจะเป็นประตูห้องน้ำ
โซนนี้จะมีชุดตู้เคาน์เตอร์ Built-in ซ่อนตู้เย็นของ Liebherr แบรนด์ดังจากเยอรมัน ไว้แช่น้ำหรือ Skincare ได้ และยังมีพื้นที่ไว้ให้เก็บของต่าง ๆ ได้อีกด้วย
อีกฝั่งจะเป็นทางเข้า Walk-in closet
ภายใน Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ขนาดใหญ่ 3 ฝั่ง พร้อมชุดเคาน์เตอร์โต๊ะเครื่องแป้ง ชุดตู้เป็นแบรนด์ของ Lema นำเข้าจากอิตาลี ได้ตามนี้เลย
หน้าบานเปิดมี Soft close ทุกบานพร้อมไฟซ่อนด้านใน
ถัดไปเป็นห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำขนาดใหญ่ได้แบบ Full Function แบ่งฟังก์ชันการใช้งานเป็นสัดส่วน พื้นและผนังตกแต่งด้วยหินอ่อนธรรมชาติ
โซนแรกเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ มีชุดตู้กระจกเงาบานเปิด และตู้เก็บของใต้อ่างพร้อมไฟซ่อน
อ่างล้างมือได้แบบ His & Her ของ Duravit ฝังท็อปเคาน์เตอร์หินอ่อน พร้อมก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Axor
อีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำ ห้องอาบน้ำกั้นแยกด้วยกระจกบานเปิด
ฝั่งนี้เป็นห้องน้ำ ภายในวางโถสุขภัณฑ์ของ Toto แบบ Washlet พร้อมแผง Remote ควบคุม และที่ใส่กระดาษทิชชู่
ถัดไปเป็นพื้นที่ส่วนเปียก มีทั้งโซนยืนอาบน้ำ และอ่างอาบน้ำด้านใน
ด้านในได้ Rain Shower ขนาดใหญ่แบบนี้เลยครับ ของ Axor
และได้ Hand Shower 2 อัน ใช้งานพร้อมกันได้ 2 คน พร้อมก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นเป็นของ Axor ทั้งหมดครับ
ริมด้านในจะวางอ่างอาบน้ำแบบ Stand Alone ของ Duravit พร้อมชุด Hand Shower และก๊อกน้ำของ Axor
วิวจากในห้องน้ำมองออกไปทางพร้อมพงษ์
และที่พิเศษกว่าคือในห้องน้ำ ฝั่งด้านในของพื้นที่ส่วนเปียกจะแยกเป็น Steam Room มาให้อีกด้วย ด้านในมีที่นั่งและเดินระบบน้ำไว้ให้เรียบร้อย ไม่ต้องไปใช้งานที่ส่วนกลางก็ได้ครับ ให้มาดีมากเลย
ชุดฝักบัวและก๊อกน้ำจะเป็นของ Hansgrohe
ถัดจากโซนห้องนอนจะเป็นพื้นที่ Common Area ฝั่งขวาจะเป็นห้องครัว
Common Area จะได้พื้นที่กว้างขนาดใหญ่ สามารถแบ่งฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย โดยจะใช้งานร่วมกันทั้งส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร พื้นจะปูด้วย Engineering Wood
โซนแรกเป็นมุมห้องนั่งเล่น ดูหนังฟังเพลง ได้ชุดโซฟาขนาดใหญ่แบบตัว L พร้อมอาร์มแชร์ และโต๊ะกลางตามนี้เลย เลือกโทนสีมาได้ลงตัวเข้ากันมาก ๆ ครับ
ระยะดูทีวีก็ให้มากว้าง ติดทีวีจอใหญ่ได้สบาย ๆ ตู้วางทีวีก็ให้มาด้วยนะครับ
ถัดไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร
ได้โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 10 ที่นั่ง จะเห็นว่ายังมีพื้นที่เหลือเดินได้รอบโต๊ะ
มุมมองจากอีกฝั่ง
อีกโซนจัดไว้เป็นมุมนั่งพักผ่อนพูดคุย นั่งเล่น หรือเป็นโซนรับแขกก็ได้ มุมนี้ตำแหน่งจะอยู่ตรงช่วง Corner มุมอาคารพอดีทำให้รับวิวได้ 2 ฝั่งเลย
ชุดโซฟาและอาร์มแชร์จะจัดชุดมาเป็นที่นั่งแบบตัว U โซฟาสองตัวนี้เป็นแบรนด์ Tacchini นำเข้าจากอิตาลี
มองกลับไปอีกฝั่งจะเห็นแบบนี้
ฝั่งด้านข้างจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ ช่วยทำให้ห้องดูโปร่ง โล่งมากขึ้น และยังมีส่วนที่เปิดระบายอากาศได้อีกด้วย ตัวกระจกเป็น Insulated low-e ทั้งหมด พร้อมติดตั้ง Roller blind ม่านไฟฟ้ากันแสง และยังติดตั้งม่านโปร่งไฟฟ้ามาให้อีกด้วย
วิวจากห้องนั่งเล่นมองออกมาจะเห็นแนวรถไฟฟ้ายาวไปทางพร้อมพงษ์
ฝั่งด้านในจะเป็นห้องน้ำ มีประตูทางเข้าออก 2 ทาง ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นระเบียง
ห้องครัวได้เป็นครัวปิดขนาดใหญ่ และมีพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร และมุมนั่งพักผ่อนอีกด้วย
มองกลับไปอีกฝั่งจะเห็นพื้นที่ห้องครัวยาวเชื่อมต่อกับระเบียง พื้นห้องครัวจะเป็นหินอ่อน
ส่วนแรกจะเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ Built-in ของ SieMatic ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องครัวระดับพรีเมียมนำเข้าจากเยอรมัน และ Customize พิเศษโดยคุณโทมัส ชุดตตู้มีทั้งส่วนที่เป็นชุดตู้ครัวที่ผนังและเคาน์เตอร์แบบ Island ด้านบนเพดานตรงส่วนครัวจะติดตั้งพัดลมระบายอากาศมาให้อีกด้วย
หน้าบานตู้มีทั้งส่วนที่เป็นบานลายไม้ ส่วนที่เป็นสีขาวเนื้อ Matt และส่วนที่เป็นอลูมิเนียมผิวสัมผัสดีมาก เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายและเป็นรอยยาก
ชุดเคาน์เตอร์ครัว Island จะมีตู้สองฝั่ง ส่วนท็อปด้านบนจะเป็นหินอ่อนธรรมชาติ
ฝั่งด้านหน้าเป็นตู้บานเปิด 4 บาน ภายในแบ่งช่องไว้ให้เก็บของได้เยอะดี
ฝั่งด้านในมีส่วนที่เป็นลิ้นชักพร้อมถังขยะซ่อนด้านใน และตู้บานเปิด 2 บาน ด้านในติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนไว้ให้ ฝั่งซ้ายจะเป็นเครื่องล้างจานอัตโนมัติของ Bosch
อ่างล้างจานได้แบบสองหลุมพร้อมก๊อกน้ำของ Blanco ฝังท็อปเคาน์เตอร์หิน ก๊อกน้ำแบบผสมน้ำร้อนน้ำเย็นของ Axor
ถัดไปด้านในเป็นชุดตู้แบบบานเปิด และลิ้นชักแบ่งพื้นที่เก็บของมาให้เยอะดี ตู้เย็น Built-in จัดมาให้ถึง 3 ตู้ แบ่งสองฝั่ง ของ Sub-Zero ซึ่งใช้เทคโนโลยี NASA ในการถนอมอาหารอย่างการควบคุมอุณหภูมิในตู้เย็น เหมือนกับตู้แช่เย็นในยานอวกาศ เพื่อช่วยให้การถนอมอาหารยาวนานขึ้น
ได้เตาไฟฟ้าหน้าเซรามิกพร้อมเครื่องดูดควันของ Gaggenau แบรนด์นำเข้าจากเยอรมัน
ด้านล่างได้ Oven เตาอบขนาดใหญ่ ใช้อบไก่งวงได้เลย ของ Gaggenau
อีกฝั่งจะเป็นตู้เก็บของและเตาอบ Built-in ของ Gaggenau ฝั่งขวาเป็นตู้แช่ไวน์ขนาดสูงเท่าตู้เย็นของ Sub-Zero
ถัดมามีพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารได้อีก
จะได้เป็นโต๊ะกลมพร้อมชุดเก้าอี้ขนาด 6 ที่นั่ง และโคมไฟตกแต่งดูอบอุ่นน่าใช้งานมาก ๆ
ถัดมาอีกโซนจัดไว้เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนนั่งเล่น จิบชา กาแฟ หรือดื่มไวน์ก็ได้ จะได้ชุดโซฟาพร้อม Lounge Chair 2 ตัว และโต๊ะกลาง
ด้านข้างมีตู้เคาน์เตอร์เก็บของ
แบ่งเป็นลิ้นชักและตู้บานเปิด มีชั้นด้านบนไว้วางขวดเหล้า แก้วไวน์ และพื้นที่วางเครื่องชงต่าง ๆ ได้อีก
ถัดไปเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเชื่อมออกระเบียง
ระเบียงได้พื้นที่ขนาดใหญ่สามารถเข้าออกได้ทั้งจากฝั่งห้องครัว และฝั่งห้องนั่งเล่น
ตรงระเบียงได้ฟังก์ชันแบบ Double Balcony คือมีกระจกบานเลื่อนด้านนอกอีกชั้นทำให้เราสามารถใช้พื้นที่ตรงระเบียงได้ทั้งแบบ Indoor และแบบ Semi-Outdoor และยังติดตั้งพัดลมเพดาน พร้อมระบบแอร์แบบ Outdoor ที่ทำความเย็นได้ตลอด ทำให้พื้นที่ระเบียงส่วนนี้ไม่ร้อนถึงแม้จะเราจะเปิดกระจกด้านนอกออก
ตรงระเบียงจะได้ชุด Lounge Chair 2 ตัวพร้อมโต๊ะกลาง
และยังเตรียมพื้นที่ไว้ให้สามารถวางอ่าง Jacuzzi แบบห้องตัวอย่างได้ ส่วนนี้จะไม่ได้ให้มาครับ หรือเราจะวางเป็นโต๊ะทานอาหารด้านนอกนี้ก็ได้บรรยากาศอีกแบบ
มองไปฝั่งประตูเชื่อมห้องนั่งเล่น
กระจกบานเลื่อนฝั่งด้านนอกสามารถเลื่อนเปิดออกได้กว้าง และจะมีราวกันตกเป็นกระจกกั้นไว้อีกชั้นเพื่อความปลอดภัย และยังติดตั้งม่านไฟฟ้าบังสายตามาให้อีกด้วย จะเป็นม่านแบบมองจากด้านในเห็นด้านนอก แต่ด้านนอกมองเข้ามาไม่เห็นด้านในครับ
วิวจากระเบียงมองไปทางซ้ายหันไปทางพร้อมพงษ์
วิวจากระเบียงมองไปทางขวา หันออกไปทางเอกมัย
กลับเข้ามาในห้องตรงทางเดินที่เชื่อมกับ Foyer เชื่อมไปอีกฝั่ง ซึ่งจะเป็นโซน Maid Quarter มีประตูบานเปิดขนาดใหญ่กั้นแยกเป็นสัดส่วน
เดินเข้ามาขวามือจะเป็นห้องครัว และ Laundry พื้นตรงส่วนนี้ทั้งหมดจะปูด้วยหินอ่อน
ด้านในจะแบ่งเป็นสองฟังก์ชันหลัก ๆ คือเป็นทั้งส่วนครัวไทยให้กับห้อง และเป็นห้องซักอบผ้า แม่บ้านเข้ามาใช้งานได้สะดวก
ฝั่งนี้วางเครื่องซักผ้าอบผ้าได้ พร้อมชุดตู้ Built-in ไว้เก็บของ ติดกันเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างจาน
หน้าบานตู้เป็นแบบบานเปิดมี Soft close ให้ทั้งหมด และมีเครื่องล้างจานด้านล่างติดตั้งมาให้อีกด้วย
ด้านบนมีอ่างล้างจานฝังท็อปเคาน์เตอร์ไว้ให้
อีกฝั่งเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัว เป็นตู้บานเปิดและลิ้นชัก ด้านข้างมีพื้นที่ให้วางตู้เย็นได้อีก
ได้อ่างล้างจานของ Blanco และเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันของ Bosch
ถ้ดมาจะเป็นห้องเก็บของ ไว้เก็บ Storck ของใช้ต่างได้
ถัดมาอีกจะเป็นห้องนอนแม่บ้านและห้องน้ำแม่บ้านอยู่ติดกัน
ภายในห้องนอนแม่บ้าน วางเตียงสองชั้นมาให้ พักสองคนได้เลย
ด้านข้างเตียงมีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง
ในห้องมีช่องแสงขนาดใหญ่พร้อมม่านมู่ลี่บังแสง วิวจากห้องแม่บ้านถ้ามองไปฝั่งขวาจะมองออกไปทางพร้อมพงษ์
ถ้ามองไปฝั่งซ้ายจะหันออกไปทางพระราม 4
ติดกันจะเป็นห้องน้ำแม่บ้าน พื้นที่ภายในแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง พื้นและผนังตกแต่งด้วยกระเบื้อง
ฝั่งนี้เป็นอ่างล้างมือของ Toto และโถสุขภัณฑ์ของ Kohler
อีกฝั่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดตั้งฉากกั้นแบบบานเลื่อนมาให้ ด้านในติดตั้ง Hand Shower ในห้องน้ำจะมีช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนัง มีม่านมาให้ปิดบังสายตาได้
วิวมองออกมาจะเห็นโครงการเพื่อนบ้าน The Esse 36
ออกมาฝั่งตรงข้ามจะเป็นบันไดหนีไฟ
ถัดไปด้านในสุดจะเป็นจะเป็นพื้นที่วางคอมเพลสเซอร์แอร์ของในห้องทั้งหมด มารวมไว้จุดเดียว มีประตูกระจกบานเฟี้ยม สามารถเปิดเพื่อ Service ได้ ซ้ายมือจะเป็นประตูเปิดเชื่อมไปยัง Service Lift
เปิดประตูออกมาจะเจอพื้นที่หน้า Service Lift ส่วนลิฟต์นี้จะเป็นทีมบริการต่าง ๆ ของโครงการที่จะใช้งานเวลาขึ้นมาที่ห้องเรา อย่างแม่บ้านของโครงการที่จะขึ้นมาทำความภายในห้องให้อาทิตย์ละ 3 ครั้ง
หรือเวลาเราสั่งอาหาร สั่งของต่าง ๆ มาส่งที่โครงการ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ทีมบริการนำขึ้นมา Drop ตรงชั้นหน้าลิฟต์ไว้ให้ เราก็เดินมาหยิบตรงนี้ได้เลยสะดวกมากครับ และถ้าห้องเรามีแม่บ้านก็ให้ใช้ลิฟต์นี้ในการขึ้นลงห้องได้เลย ไม่ต้องผ่าน Private Lift ด้านในห้อง
วิวจากในห้อง Service Lift มองออกไปจะเห็นแบบนี้
ราคา (ก.ค. 68)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://url.in.th/MfjAz
*หมายเหตุ : ข้อมูลราคาและโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ SCOPE ทองหล่อ ตั้งอยู่ในทำเล Prime Area สุขุมวิท-ทองหล่อ เป็นทำเลที่เพียบพร้อมในทุกด้าน มีทั้งอาคารสำนักงาน คอนโดระดับ Luxury โรงแรมหรู มีความอุดมสมบูรณ์สูงและเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่มีเอกลักษณ์ ร้านอาหารมีให้เลือกหลากหลายทั้ง ไทย จีน ฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น ร้านมีทั้งแบบริมทางไปจนถึงในโรงแรม และใครที่ชอบ Hang Out ก็มีทั้งผับ บาร์ ร้านนั่งชิล มีให้เลือกเยอะหลายร้านทั้งฝั่งทองหล่อและเอกมัย
และอยู่ใกล้กับ EM District ที่เป็น 3 ห้างหลักของย่านนี้ ในระยะเพียง 1.2 กม.* เท่านั้น หรือนั่ง BTS เพียง 1 สถานี มีครบจบไม่ต้องไปไหนไกล แหล่งอำนวยความสะดวกใกล้ ๆ มีทั้ง Emporium, Emquartier, Emsphere, Rain Hill, J Avenue, Marché ทองหล่อ, The Commons, 72 Courtyard, The Taste, 9:53 Art Mall, 49 Terrace, K-Village, Donki Mall นอกจากนี้ยังใกล้กับโรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง
การเดินทางโดยรถส่วนตัว เดินทางสะดวก อยู่ติดถนนใหญ่สุขุมวิท จากโครงการวิ่งตรงมุ่งหน้าเข้าเมืองไป พร้อมพงษ์, อโศก เชื่อมต่อเพลินจิตตรงยาวไปสยามได้ ถ้าจะเข้าไปฝั่งถนนทองหล่อ ต้องไปกลับรถช่วงซอยสุขุมวิท 32 แล้วก็ไปเข้าทองหล่อ มีซอยเชื่อมไปเอกมัยได้ หรือออกท้ายซอยไปเชื่อมเข้าถนนเพชรบุรี ใช้เชื่อมต่อไปเข้าอโศกมนตรี, นานา, ชิดลม, ประตูน้ำ, ราชเทวีได้
ถ้าจะไปโซนพระราม 4 จากโครงการไปเข้าซอยสุขุมวิท 36 และวิ่งไปออกถนนพระราม 4 ได้เลย จากนั้นก็วิ่งไปเข้าสวนลุม, สาทร, สีลม, สามย่าน, หัวลำโพง เชื่อมต่อไปเยาวราชได้เลย
ถนนสุขุมวิทถ้าวิ่งออกนอกเมืองจะไปผ่านเอกมัย, พระโขนง, อ่อนนุช, บางนา ยาวไปจนถึงสมุทรปราการ และยังใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานคร, ทางด่วนศรีรัช และทางด่วนฉลองรัชอีกด้วย
การเดินทางโดยรถสาธารณะ จุดเด่นอยู่ติด BTS ทองหล่อ 0 ม.* ออกมาหน้าโครงการเดินขึ้นบันไดเลื่อนเข้าตัวสถานีได้เลย ใช้นั่งเชื่อมเข้าออกเมืองได้เลยสะดวก อนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทามา Interchange ที่ BTS ทองหล่อ
จาก BTS ทองหล่อ เพียง 2 สถานีไปลงอโศก จะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับ MRT สุขุมวิท นอกจากนี้หน้าโครงยังมี Taxi, รถเมล์ และวินมอเตอร์ไซค์ หรือใช้บริการผ่าน Grab, Bolt ก็สะดวกดี และตรงท้ายซอยทองหล่อมีท่าเรือคลองแสนแสบให้เลือกใช้อีกด้วย
การออกแบบโครงการ, ห้องพักและวัสดุ ตัวโครงการออกแบบผ่านแนวคิด Privacy at Its Best เน้นความเป็นส่วนตัวในทุกตารางนิ้ว ทั้งโครงการมีเพียง 18 ยูนิตเท่านั้น เป็นโครงการแรกที่ทุกยูนิตเป็น Penthouse
และยังโดดเด่นในเรื่องการดีไซน์ โดยได้ดีไซน์เนอร์ระดับโลกอย่าง Thomas Juul-Hansen ร่วมเป็นที่ปรึกษาในการออกแบบ ตัวอาคารดูสวยโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และยังออกแบบตกแต่งภายในมาได้หรูแบบไม่ตะโกน หรูแบบเรียบง่าย เห็นได้จากการเลือกใช้วัสดุต่าง ๆ ทั้งโทนสี สเปกที่เลือกใช้ รวมไปถึงเฟอร์ตกแต่งต่าง ๆ ที่เลือกใช้แบรนด์ชั้นนำจากหลายประเทศ
อาคารสูง 32 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น 1 อาคาร ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 10-31 ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และ 32 การออกแบบในห้องพักอาศัยที่นี่จุดเด่นเลยคือเป็นห้องแบบ Penthouse ทั้งหมด มีห้องตั้งแต่ 1 ชั้นต่อ 1 ยูนิต , 2 ชั้นต่อ 1 ยูนิต และ 3 ชั้นต่อ 1 ยูนิต และทุกห้องจะได้ Private Lift ทั้งหมด
มีห้องให้เลือก 3 แบบ Simplex 4 Bedrooms ขนาด 416 ตร.ม. , Duplex ขนาด 645 ตร.ม. , Triplex 4 Bedrooms Plus ขนาด 756.5 ตร.ม. ห้องตัวอย่างแบบ Simplex ออกแบบมาได้กว้าง ฝ้าเพดานสูง 3.2 ม. ความยาวของห้องประมาณ 42 ม.* แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน แต่ละส่วนใช้งานได้จริง มีช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้แสงส่องเข้าถึงภายในห้องได้เยอะทำให้ห้องดูโปร่ง โล่ง
Common Area ขนาดใหญ่ จัดวางฟังก์ชันได้หลากหลายทั้งส่วนห้องนั่งเล่น ส่วนทานอาหาร และมุมนั่งพักผ่อนหรือมุมรับแขก ส่วนครัวได้เป็นครัวปิดขนาดใหญ่มีพื้นที่ให้วางโต๊ะทานอาหาร และมุม Morning Loung ไว้นั่งจิบชากาแฟ หรือเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้ มีระเบียงแบบ Double Balcony ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย
ห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนทั้งห้องนอนวางเตียง King Size, โต๊ะข้างเตียง, ชุดโซฟา หรืออาร์มแชร์ ส่วน Walk-in closet ได้พื้นที่ขนาดใหญ่เช่นกัน และห้องน้ำในห้องนอนที่ได้อ่างอาบน้ำและห้อง Steam ส่วนตัว
ห้องนอน 2, ห้องนอน 3, ห้องนอน 4 จะได้ฟังก์ชันเหมือนกัน มีพื้นที่วางเตียง 5-6 ฟุตได้, โต๊ะข้างเตียง, โต๊ะทำงาน, อาร์มแชร์, ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง
Maid Quarter เป็นโซนสำหรับแม่บ้าน มีประตูกั้นแยกเป็นสัดส่วน จะมีทั้งห้องครัว ห้อง Laundry ห้องเก็บของ ห้องนอนแม่บ้านพร้อมห้องน้ำแม่บ้าน และยังมีประตูเชื่อมกับ Service Lift อีกด้วย
โครงการขายแบบ Fully Furnished ออกแบบตกแต่งโดย Thomas Juul-Hansen เฟอร์นิเจอร์ Built-in และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวครบทั้งห้อง แบรนด์นำเข้า จาก 7 ประเทศทั่วโลก มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท
ชุดเคาน์เตอร์ครัว Built-in ของ SieMatic ท็อปเคาน์เตอร์หินอ่อน ส่วน Hob, Hoob, เตาอบ และไมโครเวฟ เป็นของ Gagganau ตู้เย็น Built-in และตู้แช่ไวน์ของ Sub-Zero อ่างล้างจานของ Blanco เครื่องล้างจานของ Bosch
ตู้เก็บของแต่ละส่วนออกแบบชั้นวางของมาได้ดีมีพื้นที่เก็บของได้เยอะ ตู้เสื้อผ้าของ Lema ส่วนในห้องน้ำสุขภัณฑ์ที่ได้ของ Duravit, Toto, Axor แอร์ทุกส่วนในห้องแบบฝังฝ้า Conceal type ระบบ VRV
พื้นห้องมีทั้งส่วนที่เป็นหินอ่อนธรรมชาติ และ Engineering Wood ติดตั้ง Roller blind ม่านทึบ และม่านโปร่งไฟฟ้ามาให้ทั้งห้อง และระบบ Home Automation
สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย ส่วนกลางที่นี่ออกแบบมาได้สวยน่าใช้งานและเพียงพอกับลูกบ้าน ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 และ 32 พร้อมฟังก์ชันหลากหลายและยังใช้งานเป็นส่วนตัวได้
ที่ชั้น 1 พื้นที่สีเขียวรอบอาคาร พร้อม Dog Park พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง และมี Pavilion ไว้นั่งทานอาหาร ทำอาหาร จัดปาร์ตี้ได้ มีชุดเคาน์เตอร์ครัวไว้รองรับ ด้านในอาคารจะมีโถงต้อนรับ และบันไดเลื่อนเชื่อมขึ้นไปยังชั้น Lobby จัดวางชุดโซฟาไว้ให้หลายชุด พร้อมเคาน์เตอร์ Concierge
The Stern Lounge พื้นที่นั่งพักผ่อนขนาดใหญ่พร้อมชุดโซฟา และโต๊ะทานอาหารรองรับ 10 ที่นั่ง และ Meeting Room ไว้ประชุมส่วนตัว
ที่ชั้น 3 เป็นห้องฟิตเนสขนาดใหญ่พร้อมเครื่องออกกำลังกายครบครัน แบรนด์ Technogym มี Running Studio พร้อมลู่วิ่งจาก Woodway และมีห้อง Thermal Therapy ภายในมีทั้ง Sauna, Steam
ที่ชั้น 4 เป็น Pet Care ห้องบริการอาบน้ำตัดขนและฝากเลี้ยงสัตว์ ที่ชั้น 5 จะเป็น Wellness Suite หรือห้องสปา ให้ Therapist ส่วนตัวมานวดให้ที่คอนโดได้
ที่ชั้น 6 จะเป็น Kids Quarter ห้องสำหรับเด็ก ๆ พร้อมฟังก์ชันหลากหลาย ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการ และ Piano Room
ที่ชั้น 8 มี Studio Room สำหรับเล่น Yoga & Pilates และมีห้อง Private Onsen และสระว่ายน้ำหินอ่อนขนาดใหญ่แยกสระเด็ก พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติและระบบ Fresh Water มีพื้นที่พักผ่อนริมสระและ Pool Bar
ที่ชั้น 9 เป็น Club Lounge ขนาดใหญ่ มีโซนบาร์เครื่องดื่ม, Business Lounge, Social Club, The Banquet และมีห้อง Dressing Room ห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ที่ให้ฟังก์ชันมาแบบจัดเต็มทั้งโต๊ะแต่งหน้าทำผม เก้าอี้ทำเล็บ เตียงสระผม และ Cigar Room
ที่ชั้น 32 มี Thomas Juul-Hansen Lounge พื้นที่พักผ่อนมีโซน Dining และห้องครัว พร้อม Barbecue Terrace ระเบียงแบบ Semi-Outdoor และโซน BBQ ไว้จัดปาร์ตี้ได้
Private Lift มี 2 ตัว ขึ้นลงแบบ 1 ต่อ 1 ทุกยูนิต และมี Service Lift อีก 1 ตัวสำหรับทีมบริการ ที่จอดรถเป็นแบบ Auto Parking 107 คัน มีที่จอดสำหรับ EV Charger (AC/ DC) ระบบรักษาความปลอดภัยมีรปภ. มี CCTV ผ่านเข้าออกด้วยระบบ Face Scan
มีบริการพิเศษที่เป็นจุดเด่นของโครงการ ทั้ง Concierge ที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านตลอด 24 ชม. , Valet Parking ตลอด 24 ชม. มีเจ้าหน้าที่คอยรับรถและนำรถออกมารอให้ลูกบ้าน, พนักงานช่วยยกกระเป๋าขึ้นลงรถ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-028-9788
Website : https://url.in.th/MfjAz
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " EP.xxxx รีวิว SCOPE ทองหล่อ คอนโดพร้อมอยู่ All-Penthouse แห่งแรกในไทย เพียง 18 ยูนิต ติด BTS ทองหล่อ เริ่ม 229 ล้านบาท* "