
🚩 พาชมตึกเสร็จและห้องตัวอย่าง #ครั้งแรก ที่ ‘ADLER Chan Road’ Penthouse Condominium 🐶🐱 จาก Carbon2 บนทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ติดย่าน CBD สาทร-สีลม และโซน Downtown ที่จัดเป็นทำเลที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ
.
โครงการตั้งอยู่ในซอยจันทน์ 51 ห่างจากหน้าปากซอยเพียง 230 ม.* และใกล้กับ รร.นานาชาติ Shrewsbury เพียง 900 ม.* ทำเลนี้เชื่อมต่อถนนสายหลักได้หลายเส้น ไม่ว่าจะเป็นถนนเจริญกรุง, ถนนนราธิวาสฯ, ถนนพระราม 3 และถนนสาทร
.
📍 อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนศรีรัช ด่านจันทน์ เพียงแค่ 2 นาที* ทำให้การเดินทางเข้าสู่ย่านอื่น ๆ ของกรุงเทพฯ เป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ยังใกล้รถไฟฟ้า BTS ถึง 2 สถานี และยังแวดล้อมด้วยสถานศึกษาชั้นนำ อาคารสำนักงาน และโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังอีกหลายแห่ง
.
✨ ‘ADLER Chan Road’ เป็นโครงการ Penthouse Condominium โดยเลือกใช้แนวคิดการออกแบบแบบ Neo Classic ผสม Modern Classic ที่ให้ทั้งความหรูหรา โมเดิร์น และความคลาสสิกในบรรยากาศเดียวกัน
.
โครงการนี้เป็นคอนโด Low-Rise สูง 7 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 1 ไร่เศษ มีเพียง 22 ยูนิตเท่านั้น ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดแก่ผู้อยู่อาศัย พร้อมทั้งที่จอดรถแบบ Conventional 200%
.
จุดขายของโครงการคือการออกแบบห้องพักในลักษณะ Penthouse ขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 2 ห้องนอน ไปจนถึงห้องแบบ Duplex 2 ชั้น ขนาดเริ่มต้น 100-170 ตร.ม. ทุกยูนิตเป็นห้องมุม และมีเพียง 4 ห้องต่อชั้น พร้อมการจัดวาง Zoning ภายในห้องให้เหมือนการอยู่บ้าน และมีพื้นที่ Multifunction Area ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามสไตล์ของแต่ละครอบครัว
.
🛋️ ทั้งนี้ การออกแบบภายในและภูมิทัศน์ของโครงการ ได้รับการวางแนวคิดให้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้แนวคิด “Your Me Space, Your Best Location” มอบทั้งพื้นที่ส่วนตัวและความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย โดยเลือกใช้ผนังแบบ Independent Partition Design ที่ช่วยลดเสียงรบกวนจากห้องข้างเคียง เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้นในแต่ละยูนิต
.
🧹 ด้านฟังก์ชันการใช้งาน ภายในยูนิตจะมีการแยกพื้นที่ Back of House ออกจากโซนพักอาศัยอย่างเป็นสัดส่วน และยังมาพร้อม Private Lift ที่ใช้งานแยกกันสำหรับแต่ละครอบครัวโดยเฉพาะ เสริมความสะดวกด้วยระบบ Home Automation และระบบ Fresh Air ที่ช่วยให้อากาศภายในห้องถ่ายเทได้ตลอดวัน สดชื่นยิ่งขึ้น
.
🌿 ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวก โครงการจัดเต็มมาให้แบบครบครัน ทั้ง Concierge Service ที่ให้บริการจัดส่งพัสดุและจดหมายถึงหน้าห้อง, Lobby Lounge ตกแต่งหรูหรา เปิดรับแสงธรรมชาติผ่านช่องแสงบานเฟี้ยม มองเห็นวิว Backyard ได้อย่างเต็มสายตา และยังมีพื้นที่รองรับแขก พักผ่อน หรือนั่งทำงานได้ในบรรยากาศเงียบสงบ
.
🐕 สำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง ทางโครงการยังออกแบบพื้นที่พิเศษอย่าง Pet Pocket เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของเจ้าของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ครบทั้ง Waste Station, Cleaning Area และ Dog Yard
.
มั่นใจในความปลอดภัยด้วยระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง ไม่ว่าจะเป็น Double Security Gate, ระบบ LPR สำหรับรถยนต์, Face Scan สำหรับเข้า-ออกอาคาร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
.
🎉 ราคาเริ่มต้นของโครงการอยู่ที่ 23.9 ล้านบาท* เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ ทั้งด้านทำเล การออกแบบ และฟังก์ชันการใช้งาน ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการระดับบน ห้องกว้างที่น่าจับตามองมาก ๆ ในตลาดคอนโดใจกลางเมือง
.
✅ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/4jsODMW
.
💬 สอบถามข้อมูลและโปรโมชันเพิ่มเติม
☎️ Tel : 1623
📲 Line ID : https://line.me/ti/p/~@adlercondominium
.
👉 อ่านรีวิวทั้งหมดคลิก : https://www.condonayoo.com/adler-chan-road/
.
____________________
📌 ติดตาม Condonayoo เพิ่มเติมได้ที่
💻 Website ▶ Condonayoo.com
💬 Facebook ▶ condonayoo.fc
🎬 YouTube ▶ Youtube.com/@condonayoo9616
🎶 Tiktok ▶ Tiktok.com/@condonayoo
Written by : Pure Thitapa
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่าน Condonayoo วันนี้เราจะพาไปอัปเดตตึกเสร็จ ห้องตัวอย่างจริงที่โครงการ ‘ADLER Chan Road‘ Penthouse Condominium จาก Carbon2 บริษัทในเครือ AP Thailand บนทำเลศักยภาพย่าน CBD และ Downtown ที่มีมูลค่าอันดับต้น ๆ ของประเทศ ที่ตั้งโครงการอยู่ภายในซอยจันทน์ 51 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม.
ใกล้ CBD สาทร-สีลม เชื่อมต่อถนนเส้นหลักสำคัญ ๆ ได้หลายสาย อีกทั้งยังใกล้กับทางด่วนศรีรัช ด่านจันทน์ เพียงแค่ 2 นาที* ทำให้เดินทางเข้าสู่โซนอื่น ๆ ของกรุงเทพได้อย่างสะดวกมากขึ้น อีกทั้งยังใกล้กับรถไฟฟ้า ใกล้ Shrewsbury International School เพียงแค่ 900 ม.* รวมถึงใกล้สถานศึกษาชั้นนำ, อาคารสำนักงาน และโรงพยาบาลเอกชนอีกมากมาย
แอดเลอร์ ถนนจันทน์ Penthouse Condominium แบบ Pet Allowed ภายใต้การออกแบบที่ผสมผสานระหว่าง Neo Classic & Modern Classic มอบประสบการณ์ ในการอยู่ อาศัย ที่หรูหรา ทันสมัย แต่ยังคงความคลาสสิก โครงการตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 1 ไร่กว่า ๆ พัฒนาเป็นคอนโด Low-Rise 7 ชั้น 1 อาคาร ได้ความเป็นส่วนตัวเพียง 22 ครอบครัว
จุดเด่นคือเป็น Penthouse Condo ขนาดใหญ่ เริ่มต้นที่ 2 Bedrooms ไปจนถึงแบบ Duplex 2 ชั้น ขนาดเริ่มต้น 100-170 ตร.ม. ทุกห้องเป็นห้องมุม มีเพียง 4 ยูนิต/ ชั้น ออกแบบ Zoning ให้เหมือนการอยู่บ้าน พิเศษกว่าด้วยพื้นที่ Multifunction ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย
พร้อมการออกแบบภายในและภูมิทัศน์ ให้สอดผสานกันเป็นหนึ่งเดียวภายใต้แนวคิด “Your Me Space, Your Best Location” และได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยผนังแบบ Independent Partition Design ที่ช่วยลดเสียงรบกวนระหว่างยูนิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พื้นที่ Back of House ออกจากพื้นที่พักอาศัยเพื่อความเป็นสัดส่วน และ Private Lift ที่ใช้งานได้ครั้งละ 1 ครอบครัว เพิ่มความสะดวกสบายด้วยระบบ Home Automation และระบบ Fresh Air เพื่อให้อากาศภายในห้องสดชื่นตลอดทั้งวัน / โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ มิ.ย. 68
สิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานภายในโครงการมีให้ครบ ทั้ง Concierge Service พร้อมบริการส่งพัสดุและจดหมายถึงหน้าห้องพัก, Lobby Lounge ดีไซน์สวยหรู ใกล้ชิดธรรมชาติผ่านช่องแสงผ่านเฟี้ยม เปิดรับวิว Backyard ได้เต็มสายตา อีกทั้งยังมีพื้นที่ไว้รับรองแขก นั่งเล่นพักผ่อน และนั่งทำงานได้
นอกจากนั้นยังมีพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงอย่าง Pet Pocket ที่ออกแบบมาอย่างใส่ใจ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรักสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ทั้ง Waste Station, Cleaning Area และ Dog Yard อุ่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา ด้วย Double Security Gate, รถยนต์เข้า-ออกผ่านระบบ LPR, เข้า-ออกอาคารผ่านระบบ Face Scan พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 23.9 ล้านบาท* (มิ.ย. 68)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/4jsODMW
รายละเอียดโครงการจะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันต่อได้เลยค่ะ
ชื่อโครงการ | แอดเลอร์ ถนนจันทร์ / ADLER Chan Road |
เจ้าของโครงการ | บริษัท คาร์บอนทู จำกัด / Carbon2 |
เนื้อที่ทั้งหมด | 1-1-27.88 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 7 ชั้น |
จำนวนห้อง | 22 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | คิดเป็น 200% ของจำนวนยูนิต |
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | เขตบางคอแหลม |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ซอยจันทน์ 51 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. 10120 |
กำหนดการ | ปี 2567 |
ปีที่สร้างเสร็จ | ปี 2568 |
ราคา | เริ่มต้น 23.9 ล้านบาท* (มิ.ย. 68) |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | n/a |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | n/a |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
อื่น ๆ
โรงแรม
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
Tel | 1623 |
Line | https://line.me/ti/p/~@adlercondominium |
Website | https://bit.ly/4jsODMW |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยจันทน์ 51 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. 10120
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/6DjvmpiLXphEKKZV6
ADLER Chan Road เป็นโปรเจ็กต์คอนโดมิเนียมในรูปแบบ Penthouse จาก Carbon2 บริษัทฯ ในเครือ AP Thailand บนทำเลศักยภาพ ใกล้ CBD สาทร-สีลม โดยที่ตั้งของโครงการจะอยู่ภายในซอยจันทน์ 51 ช่วงต้น ๆ ซอยจันทน์ 51 บนถนนจันทน์ ซึ่งจะอยู่ระหว่างถนนเจริญราษฎร์ ตรงจุดขึ้นทางด่วน ด่านถนนจันทน์ และถนนเจริญกรุง บริเวณแยกตรอกจันทน์
สำหรับซอยจันทน์ 51 จะเป็นซอยขนาดเล็กแบบ 2 เลน สวนทางกัน บรรยากาศรอบ ๆ จะเป็นโซนชุมชนเก่าแก่ของคนในย่านนี้ สองข้างทางจะเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ ตึกแถวเก่าที่เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และมีร้านค้าแผงลอยในรูปแบบต่าง ๆ เปิดขายตรงช่วงต้น ๆ ซอย ตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ ไปจนถึงหัวค่ำ
และถึงแม้ว่าซอยจันทน์ 51 จะเป็นซอยขนาดเล็ก ไม่หรูหราเหมือนโซนบ้านหรูในละแวกใกล้เคียง แต่สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับก็คือเรื่องของทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง ใกล้ทั้งฝั่งสาทร-สีลม-พระราม 3-เจริญกรุง และใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ ประมาณ 1.9 กม.*
ที่สำคัญเลยคืออยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนถึง 2 สาย ทั้งทางด่วนศรีรัช ด่านถนนจันทน์ และทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านเลียบแม่น้ำ ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย เข้า-ออกเมืองได้ง่าย และช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทางไปทำงาน ไปติดต่อธุรกิจสำคัญได้ค่อนข้างดี
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ คนที่ซื้อคอนโดในระดับ Segment นี้ แน่นอนค่ะ ว่าต้องมีรถส่วนตัว หรือมีแม่บ้านในการออกไปซื้อของกินของใช้เข้าบ้านให้อยู่แล้ว ใกล้กับโครงการจะมี Central พระราม 3 และ Terminal 21 พระราม 3 ที่เป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ให้ออกไปเดินเล่น ชอปปิง ซื้อของเข้าบ้านกันได้
นอกเหนือจากนั้นก็จะมี Hypermarket ให้เลือกไปหลากหลายแบรนด์ ทั้ง Villa Market, Market Place, Central, Vanilla Moon, The Up, Home Pro, Makro, Lotus’s และอยู่ไม่ไกลจาก Riverside Plaza และ Sena Fest บนถนนเจริญนครอีกด้วยค่ะ
สำหรับสถานศึกษาใกล้คอนโด มีตัวเลือกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนเอกชน และโรงเรียนนานาชาติ อย่างเช่น Shrewsbury, Rain Tree, King’s College, New Sathorn, รร.กรุงเทพคริสเตียน และ รร.อัสสัมชัญ แผนกต่าง ๆ และยังใกล้กับโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่อีกหลายที่ ทั้ง รพ.เซนต์หลุยส์, BNH และ MedPark เรียกว่าเป็นทำเลที่ครบพร้อมต่อการพักผ่อนและการดำรงชีวิตเป็นอย่างดีเลยทีเดียวเลยค่ะ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว : เดินทางได้สะดวกสบาย จากถนนจันทน์ เข้าซอยจันทน์ 51 มาเพียง 230 ม.* โครงการจะตั้งอยู่ทางขวามือ บนที่ดินเดียวกันกับโครงการ BAAN CHAN บ้านเดี่ยวหรู เพียง 2 หลัง ที่พัฒนาโดย Carbon2 เช่นกันค่ะ
สำหรับซอยจันทน์ 51 จะเป็นถนน 2 เลน สวนทางกัน ภายในซอยจะมีทางลัดเลาะไปออกถนนเส้นหลักอื่น ๆ เพื่อเลี่ยงรถติดในช่วงเวลา Rush Hour ได้หลายทางเลยค่ะ เช่น ซอยเจริญราษฎร์ 8 และซอยประดู่ ที่ใช้ลัดไปออกเจริญราษฎร์
ซอยเจริญกรุง 85 และซอยเจริญกรุง 107 ที่ใช้ลัดไปออกถนนเจริญกรุงได้เลย ทางนี้จะง่ายต่อการขับรถไปรับไปส่งลูก ๆ หลาน ๆ ที่ Shrewsbury เป็นอย่างมาก นอกจากนั้นซอยจันทน์ 51 ยังใช้วิ่งออกไปทางด้านหลัง เพื่อไปเชื่อมกับถนนพระราม 3 ได้ด้วยนะคะ ข้อดีคือไม่ต้องขับรถไปอ้อมไปถนนเส้นหลักรอบ ๆ ช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทางได้เป็นอย่างดี
กลับมาที่ฝั่งถนนจันทน์กันบ้างค่ะ พอเราออกมาที่หน้าปากซอย เลี้ยวขวาไปทางแยกใต้ทางด่วนจันทน์ จะเชื่อมกับถนนเจริญราษฎร์ ที่ใช้วิ่งไปออกสาทร ฝั่งขาออกได้ หรือจะเบี่ยงขึ้นทางด่วนศรีรัช ด่านถนนจันทน์ ไปยังโซนดินแดง-บางซื่อ-แจ้งวัฒนะ ก็เลือกใช้งานได้ตามสะดวก ส่วนคนที่ต้องการเดินทางไปสาทรเหนือหรือสีลม แนะนำให้ใช้ซอยรองต่าง ๆ หรือใช้ถนนเจริญกรุง วนขวาผ่านใต้สะพานตากสินไป ทางนี้ก็สะดวกดีค่ะ (ตรงแยกสาทร-สุรศักดิ์ ไม่สามารถเลี้ยวขวาไปสาทรเหนือได้)
หากขับข้ามแยกนี้ต่อไป ก็จะไปเชื่อมกับถนนสาธุประดิษฐ์ ตรงแยกสาธุฯ-จันทน์ได้ ผ่านแยกนี้ไปอีกหน่อยจะเชื่อมกับถนนนราธิวาสฯ วิ่งต่อไปนางลิ้นจี่, สวนพลู ออกไปเย็นอากาศ เพื่อเชื่อมกับถนนพระราม 4 ได้เลยค่ะ
สำหรับถนนเจริญกรุง, ถนนพระราม 3 และถนนเจริญราษฎร์ เค้าจะมีเส้นทางให้ลัดเลาะเข้าหากันได้อยู่แล้วนะคะ ซึ่งถ้าได้อยู่ทำเลนี้บ่อย ๆ จนชินทาง จะมีตัวเลือกในการใช้งานที่หลากหลายมาก ๆ ค่ะ และสำหรับคนที่ต้องการออกเมืองไปโซนฝั่งธนฯ ก็ทำได้ง่าย
จะใช้เส้นพระราม 3 ไปเชื่อมรัชดา-ท่าพระ ออกไปโซนเพชรเกษม-จรัญฯ ก็ง่าย หรือจะใช้ข้ามสะพานตากสิน ไปเชื่อมกรุงธนบุรี ฝั่งนี้จะผ่านย่านสำคัญ ๆ เยอะเลย ทั้งวงเวียนใหญ่, โพธิ์นิมิตร, ตลาดพลู, วุฒากาศ, กัลปพฤกษ์ ยาวไปยังโซนบางหว้า-เพชรเกษม-ราชพฤกษ์ได้ในระยะทางสั้น ๆ ค่ะ
จุดเด่นของ ADLER Chan Road คือ จะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ด่านถนนจันทน์ เพียงแค่ 700 ม.* หรือใช้เวลาขับรถมาราว ๆ 2 นาที* ก็ขึ้นทางด่วนได้แล้ว โดยฝั่งนี้จะเหมาะกับการเดินทางเข้าเมือง ไปโซนดินแดง, บางซื่อ, จตุจักร, ลาดพร้าว และแจ้งวัฒนะ ทั้งยังใช้เชื่อมต่อกับทางด่วนเส้นหลักสายอื่น ๆ ได้ด้วยที่ด้านบนค่ะ
ถัดมาจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านเลียบแม่น้ำ ที่อยู่ทางฝั่งของถนนนางลิ้นจี่ ซึ่งอยู่ใกล้กับโครงการราว ๆ 4.6 กม.* หรือขับรถมาใช้งานได้เพียง 5-15 นาที* ทางด่วนฝั่งนี้จะเหมาะกับการเดินทางไปโซนท่าเรือ-บางนา หรือออกไปรามอินทรา-แจ้งวัฒนะ-พระราม 9
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : โครงการอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ บนถนนสาทร ในระยะทางประมาณ 1.9 กม.* จากสถานีนี้จะใช้นั่งเข้าเมืองไปสยามได้ง่ายเพียงต่อเดียว หรือจะใช้เปลี่ยนเส้นทางไปรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็ทำได้ที่สถานีสีลมค่ะ
นอกจากนั้นยังนั่งไป BTS กรุงธนบุรี สถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีทอง ที่นั่งต่อไปแค่ 1 สถานี ก็เดินเข้าห้าง ICONSIAM ได้แล้วค่ะ เวลาที่ห้างจัดงาน Event ต่าง ๆ ใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางไปเดินเล่นงานที่ห้างนี้ได้สะดวกกว่าการขับรถไป
หรือจะใช้นั่งออกเมืองไปฝั่งวงเวียนใหญ่, ตลาดพลู, วุฒากาศ สุดที่สถานีบางหว้าก็ได้ และจากสถานีบางหว้า ของสายสีเขียว จะสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแคได้อีกด้วยค่ะ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ ADLER Chan Road จะตั้งอยู่ในชุมชนดั้งเดิมในย่านจันทน์ จากโครงการจะอยู่ใกล้กับปากซอยจันทน์ 51 หรือถนนจันทน์ เพียงแค่ 230 ม.* โดยช่วงต้น ๆ ซอย จะมี 7-Eleven, ร้านค้า, ร้านอาหาร Local เปิดอยู่หลายร้าน มีตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ ไปจนถึงหัวค่ำ
ออกมาบนถนนจันทน์ ตั้งแต่ซอยจันทน์ 51 ไปจนถึงแยกตรอกจันทน์ และช่วงถนนเจริญกรุง จะมีร้านอาหารหลากหลายประเภทให้เลือกทานเลย ทั้งร้านแบบ Street Food, Fast Casual, Casual Dining, Fine Dining และ Family Style Restaurant
ยกตัวอย่างร้านดัง ๆ เลยก็จะมีร้านข้าวต้มปลาสวนรื่น, ร้านเจ๊หงษ์ ข้าวมันไก่, ร้านเนื้อแน่น, ร้านจันทน์เจริญ, ก๋วยจั๊บมิสเตอร์โจ, ซิ่งฝู คิทเช่น, ร้านอาหารไทย Vanida Bangkok, ร้านราดหน้าฟาไฉ, ร้านข้าวต้มปลากิมโป้, ร้านหมูกระทะ เฮงเฮงเฮง และยังมีร้านอาหารหรู รวมถึง Sky Bar ริมน้ำตามโรงแรมต่าง ๆ บนเส้นเจริญกรุงอีกมากมายเลยค่ะ
ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก และแหล่งชอปปิงใกล้บ้าน จะอยู่ทางโซนพระราม 3 นางลิ้นจี่ เจริญกรุง และเจริญนครค่ะ โดยจะมีห้างใหญ่ใกล้ ๆ อยู่ 3 ที่ คือ Central พระราม 3, Terminal 21 พระราม 3, ICONSIAM และมี Asiatique The Riverfront ตั้งอยู่ใกล้ ๆ เพียง 1.9 กม.*
ส่วนห้างค้าปลีก และ Community Mall ใกล้บ้านจะมี Central บางรัก, Makro ถ.จันทน์, Makro สาทร, Lotus’s พระราม 3, Home Pro พระราม 3, Market Place นางลิ้นจี่ ที่มี Starbucks และ Tops เปิดอยู่ด้านใน และ The Up พระราม 3 ที่มี Villa Market เปิดอยู่ด้านในเช่นกัน
ในส่วนของสถานศึกษาใกล้คอนโด มีตัวเลือกเยอะ มีโรงเรียนนานาชาติใกล้บ้านให้เลือกส่งบุตรหลานเข้าเรียนหลายที่ เช่น Shrewsbury International School, Raintree International School, King’s College International School และ New Sathorn International School
ส่วนโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนรัฐบาลอื่น ๆ ก็จะมี รร.อัสสัมชัญ, รร.กรุงเทพคริสเตียน, รร.เซนต์โยเซฟคอนเวนต์, รร.พระแม่มารีสาทร, รร.สารสาสน์เอกตรา, รร.เซนต์หลุยส์ศึกษา, รร.พระแม่มารีสาธุประดิษฐ์, รร.วัดสุทธิวราราม,และ มทร.กรุงเทพ เป็นต้น
มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ใกล้บ้านในระยะอุ่นใจไม่เกิน 5 กม.* หลายที่ อย่างเช่น รพ.เซนต์หลุยส์, รพ.ไทยจักษุ พระราม 3, รพ.เจริญกรุงประชารักษ์, รพ.บีเอ็นเอช หากขับรถไปทางพระราม 4 ก็จะมี MedPark ตั้งอยู่อีก 1 โรงพยาบาล ส่วนใครที่ต้องนัดพบคุณหมอที่โรงพยาบาลอื่น ๆ ในเมือง ก็เลือกใช้ทางด่วนในการเดินทางได้เลยค่ะ
นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างห้าง สถานศึกษา และโรงพยาบาลแล้ว โครงการยังอยู่ใกล้กับ CBD สาทร-สีลม ที่มีอาคารสำนักงานชั้นนำขนาดใหญ่ตั้งอยู่เยอะ ไม่ว่าจะเป็น TPIPL, Empire Tower, Sathorn Square, Park Silom, Silom Edge, One Bangkok
ใกล้สถานที่ราชการอย่างวิทยุการบินแห่งประเทศไทย และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง บนถนนสวนพลู รวมถึงใกล้กับโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ภายในมีร้านอาหารอร่อย ๆ เปิดอยู่ อย่างเช่น Chatrium Hotel Riverside Bangkok, Four Seasons Hotel, Capella Hotel และ Mandarin Oriental Bangkok เป็นต้น
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
อื่น ๆ
โรงแรม
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ภาพประกอบการเดินทาง
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/6DjvmpiLXphEKKZV6
การเดินทางเริ่มจากถนนเจริญกรุง ตรงทางลงมาจากสะพานพระราม 3 ⇒ ถนนเจริญกรุง ⇒ ถนนจันทน์ ⇒ ซอยจันทน์ 51 ⇒ 230 ม.* ⇒ ถึงโครงการ ADLER Chan Road ทางฝั่งขวามือ
การเดินทางโดยรถส่วนตัว เราเริ่มจากถนนเจริญกรุง ตรงทางลงมาจากสะพานพระราม 3 ตรงซอยเจริญกรุง 80/1
ขับตรงมาจะผ่าน Asiatique The Riverfront ทางฝั่งซ้ายมือ
ขับตรงไปเรื่อย ๆ บนถนนเจริญกรุง
ผ่าน Ramada Plaza ทางด้านซ้าย
ผ่าน Shrewsbury International School แล้วให้ชิดขวาเพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าถนนจันทน์
เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนจันทน์ ตรงแยกตรอกจันทน์
ขับเข้ามาบนถนนจันทน์อีกประมาณ 750 ม.*
เลี้ยวขวาเข้าซอยจันทน์ 51
จากปากซอยจันทน์ 51 ขับตรงไปประมาณ 230 ม.* โครงการ ADLER Chan Road จะตั้งอยู่ทางด้านขวามือ
เข้ามาในซอยจันทน์ 51 แล้วตรงไปอีก 230 ม.*
ถึงโครงการ ADLER Chan Road ทางฝั่งขวามือค่ะ
ภาพมุมสูงที่ดินโครงการ ADLER Chan Road ตั้งอยู่ภายในซอยจันทน์ 51 ที่เข้าจากหน้าปากซอยมาประมาณ 230 ม.* ที่ดินโครงการจะอยู่ทางด้านขวามือ ในส่วนของแปลงที่ดินจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหน้าก่อนถึงตัวโครงการจะมีโครงการ Baan Chan ที่เป็นบ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น 2 หลัง ของ Carbon2 เช่นกัน
ส่วนรอบ ๆ ที่ดิน จะเป็นตึกแถว 2 ชั้น ที่อยู่ติดซอยจันทน์ 51 ที่ส่วนมากจะเป็นบ้านพักอาศัย สลับกับร้านอาหาร Local และร้านค้าต่าง ๆ ที่สามารถเดินออกมาจับจ่ายใช้สอย ซื้องของกินของใช้ได้ง่าย ๆ ค่ะ
รอบโครงการ
สำรวจรอบโครงการ
พาเดินดูรอบ ๆ โครงการกันเล็กน้อยนะคะ จากหน้าที่ดินจะอยู่ติดกับซอยจันทน์ 51 ขับตรงเข้าไปจะลัดไปออกพระราม 3 ได้
เดินขึ้นไปหน้าปากซอย สองข้างทางจะเป็นตึกแถวร้านค้า สลับกับบ้านพักดั้งเดิมของคนในซอยจันทน์ 51
เดินตรงขึ้นมาจะเจอกับ Sales Gallery โครงการ และร้านค้าภายในซอย
มองออกไปทางหน้าปากซอยจันทน์ 51 เชื่อมกับถนนจันทน์
หน้าปากทางจะมีความครึกครื้นมากขึ้น โดยจะมีร้านค้า ร้านอาหารเปิดขายอยู่ตลอดทั้งวัน และมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการที่หน้าปากทางด้วยค่ะ
หน้าปากซอยจะมี 7-Eleven และร้านอาหารเปิดขายอยู่อีกหลายร้าน
มองไปทางขวามือจะเชื่อมกับทางด่วน ถนนนางลิ้นจี่ และใช้วิ่งออกไปถนนสาทรได้ค่ะ
เดินขึ้นไปทางแยกตรอกจันทน์ ริมถนนฝั่งซอยจันทน์ 51 จะมีร้านอาหารเปิดขายอีกกว่า 20 ร้าน และตอนเย็น ๆ จะมีร้านเปิดเยอะกว่านี้มาก ๆ ค่ะ
มองไปฝั่งตรงข้ามจะมีปั๊ม PT ที่เป็นปั๊มใกล้โครงการมากที่สุด
หน้าปากทางจะมีทางม้าลายให้ใช้ข้ามไปฝั่งตรงข้ามได้ค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ ADLER Chan Road / Penthouse Condominium แห่งแรกที่เลี้ยงสัตว์ได้ 100% บนถนนจันทน์ 51 โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่เดียวกันกับ Baan Chan ที่เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น 2 ยูนิต ทางด้านหน้า ส่วนด้านในจะแยก Gate อีกชั้น พร้อมอาคารพักอาศัยสูง 7 ชั้น ภายใต้การออกแบบที่ผสมผสานระหว่าง Neo Classic & Modern Classic หรูหรา ทันสมัย และคลาสสิก
โครงการพัฒนาห้องชุดพักอาศัยออกมาในรูปแบบ Penthouse พื้นที่อยู่อาศัยสำหรับครอบครัว ครอบคลุมทุกความต้องการด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ 100 ตร.ม. ขึ้นไป เน้นการอยู่อาศัยฟีลบ้านใจกลางเมือง ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ทั้งโครงการมีเพียง 22 ยูนิต และมี 4 ยูนิต/ ชั้น และเป็นห้องมุมทุกยูนิต พร้อมพื้นที่สุดส่วนตัวที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและใช้เวลากับครอบครัวหรือคนที่รักได้อย่างเต็มที่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมืองได้อย่างตรงใจ
แปลนอาคารชั้น 1 มีทางเข้า-ออกหลักผ่านซอยจันทน์ 51 พร้อม Double Gate Security ที่เข้า-ออกผ่านระบบ LPR ของ KATSAN เข้ามาด้านในจะเจอกับโครงการ Baan Chan บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น 2 หลัง ทางซ้ายมือ ผ่าน Gate 2 เข้ามาจะเจอกับที่จอดรถ 200% และอาคารพักอาศัย 7 ชั้น ของโครงการ ADLER Chan Road
การเข้า-ออกอาคารและส่วนกลางใช้ระบบ Face Scan ภายในจะมี Concierge Service, Lobby Lounge, Pet Pocket พร้อม Private Lift 2 ตัว / Service Lift 1 ตัว และมีห้องน้ำส่วนกลางแบบ Unisex ให้ 1 ห้องค่ะ
ทางเข้า-ออกโครงการเป็นแบบ Double Gate Security ในอนาคตด้านหน้าตรงนี้จะมีประตูรั้วที่ใช้ปิดในช่วงเวลากลางคืน และใช้การเข้า-ออกโครงการด้วยระบบ License Plate Recognition พร้อม CCTV ทั้ง 2 จุดค่ะ
เมื่อขับรถเข้ามาภายในโครงการ จะพบกับถนนหลักที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ ข้างรั้วมีการปลูกต้นไม้ให้ร่มเงา เพิ่มบรรยากาศที่ร่มรื่นและน่าพักอาศัย ส่วนพื้นถนนปูด้วยแสตมป์คอนกรีต ช่วยเสริมความสวยงาม และเพิ่มความหรูหราให้กับภาพรวมของโครงการอย่างลงตัว
ซ้ายมือจะเป็นโครงการ Baan Chan บ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น จาก Carbon2 จำนวน 2 ยูนิต ที่ด้านหน้า
เข้ามาด้านในจะเจอกับ Gate 2 ของโครงการ กั้นด้วย Auto Barrier Gate และใช้การเข้า-ออกผ่านระบบ License Plate Recognition
ตัวอาคารออกแบบภายนอกด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ Modern Neo Classic ผสมผสานเส้นสายที่ทันสมัยเข้ากับรายละเอียดแบบคลาสสิกได้อย่างลงตัว ให้ภาพลักษณ์ที่เรียบหรู และมีความเป็น Timeless Design ที่สวยงามเหนือกาลเวลา
เมื่อผ่าน Auto Barrier Gate เข้ามา จะพบกับพื้นที่จอดรถอยู่ทางด้านซ้ายมือและบริเวณใต้อาคาร โดยหนึ่งในจุดเด่นของโครงการคือการจัดสรรที่จอดรถแบบ Conventional มากถึง 200% เพียงพอสำหรับผู้อยู่อาศัยทุกยูนิตอย่างแน่นอน เพิ่มความสะดวกสบายและลดปัญหาการแย่งที่จอดรถในชีวิตประจำวัน
จากที่จอดรถใต้อาคาร จะเชื่อมกับ Concierge Service และ Lobby Lounge ได้ผ่านระบบ Face Scan
เมื่อเข้ามาภายในโครงการ จะพบกับโถงต้อนรับที่มี Concierge Service คอยให้บริการอย่างเป็นส่วนตัว โดยการตกแต่งภายในเน้นความหรูหราด้วยผนังและพื้นลายหินอ่อนที่ดูสง่างาม เสริมด้วยงานแสงที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น และยกระดับความพรีเมียมของพื้นที่ต้อนรับให้โดดเด่นตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา
โครงการมี Private Lift ให้ทั้งหมด 2 ตัวค่ะ โดยจะแยกฝั่งซ้ายขวา และลูกบ้านจะใช้ได้อย่างเป็นส่วนตัว เพียงครั้งละ 1 ครอบครัว โดยลิฟต์จะไปเปิดให้ที่ Entry Foyer หน้าห้องพักเลยค่ะ
เดินไปทางซ้ายมือจะเชื่อมกับ Lobby Lounge และ Pet Pocket ทางด้านหลังอาคาร
การเข้า-ออก Lobby Lounge จะใช้ระบบ Face Scan เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและคัดกรองผู้ใช้งานอย่างเป็นระบบ อีกทั้งภายในยังได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ ผสานกับเฟอร์นิเจอร์ในโทนสี Warm ให้บรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร
พื้นที่ภายในจัดสรรอย่างลงตัว มีการจัดวางโซฟาหลายรูปแบบ รองรับทั้งการนั่งพักผ่อน นั่งทำงาน ใช้เป็นพื้นที่รับรองแขก หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นมุมสำหรับ Private Meeting ก็สามารถใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นและมีสไตล์
ภายใน Lobby Lounge ยังโดดเด่นด้วยช่องแสงบานเฟี้ยมขนาดใหญ่ ที่เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเต็มที่ พร้อมมุมมองวิวสวน Backyard Garden ด้านนอก ช่วยเติมความสดชื่นและผ่อนคลายให้กับพื้นที่ภายใน และในวันที่อากาศดี ยังสามารถเปิดบานประตูออก เพื่อให้ลมธรรมชาติเข้ามาหมุนเวียน สร้างบรรยากาศโปร่งสบาย เหมาะทั้งกับการพักผ่อนหรือทำกิจกรรมเบา ๆ ได้อย่างลงตัวค่ะ
บริเวณด้านหลังของโครงการจะเป็นโซน Pet Pocket ที่ออกแบบมาอย่างใส่ใจ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรักสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ภายในพื้นที่มีการจัดฟังก์ชันให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Waste Station สำหรับให้น้องหมาน้องแมวขับถ่าย พร้อมถุงพลาสติกสำหรับเก็บอุจจาระ และถังขยะแยกเฉพาะอย่างเป็นระเบียบ
นอกจากนี้ ยังมี Cleaning Area สำหรับอาบน้ำและทำความสะอาดสัตว์เลี้ยง เพิ่มความสะดวกสบายให้เจ้าของและน้อง ๆ ได้ใช้เวลาร่วมกันในบรรยากาศที่สะอาดและปลอดภัยค่ะ
อีกด้านจะเป็น Dog Yard หรือพื้นที่วิ่งเล่นคลายเครียดของสัตว์เลี้ยงค่ะ
แปลนอาคาร
แปลนอาคารชั้น 2 และชั้น 4 จะมีทั้งหมดเพียง 4 ยูนิตต่อชั้น ซึ่งเป็นห้องมุมทั้งหมด ทำให้ทุกยูนิตได้รับความเป็นส่วนตัวสูงสุด พร้อมการออกแบบผนังห้องแบบ Independent Partition Design หรือผนัง 2 ชั้น ที่ช่วยลดเสียงรบกวนระหว่างยูนิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทุกยูนิตมาพร้อม Private Lift ที่ใช้งานได้ครั้งละ 1 ครอบครัวเท่านั้น โดยมีการแยกลิฟต์ออกเป็น 2 ด้าน ซ้าย-ขวาของอาคาร ขณะที่ตรงกลางของชั้นจะเป็นพื้นที่ของ Service Lift และ บันไดหนีไฟ ซึ่งแต่ละยูนิตจะมี ประตูเชื่อมออกมายังโถงกลางได้โดยตรง เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงพื้นที่บริการต่าง ๆ
ถัดจากประตูด้านนี้ยังมี Private Mailbox ส่วนตัวสำหรับแต่ละห้อง ที่สามารถรับพัสดุและจดหมายได้จากหน้าห้องโดยไม่ต้องลงไปที่ Lobby สะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้นค่ะ
แปลนอาคารชั้น 3 และชั้น 5 วางผังมาเหมือนชั้น 2 และ 4 แต่ฝั่งของห้อง Duplex นั้นจะเป็นพื้นที่ชั้น 2 ของห้องที่เชื่อมมาจากชั้น 2 และ 4 ค่ะ
แปลนอาคารชั้น 6-7 วางผังมาเหมือนกัน โดยจะเป็นห้องแบบ 100 ตร.ม. 2 ยูนิต และ 140 ตร.ม. 2 ยูนิตค่ะ
แบบห้องพัก
โครงการ ADLER Chan Road มีห้องพักให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ 3 ขนาด ดังนี้ค่ะ
จุดเด่นของโครงการคือจะได้ห้องพักขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 100 ตร.ม. ขึ้นไป เน้นเป็นห้องหน้ากว้าง ได้ความโปร่งโล่งสบายจากช่องแสงขนาดใหญ่ ให้ฟีลเหมือนอยู่บ้าน ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ทุกห้องเป็นห้องมุม และมีห้องพักเพียงชั้นละ 4 ยูนิต พร้อม Private Lift และผนังแบบ No Share Wall ที่ช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากห้องข้าง ๆ ได้เป็นอย่างดีค่ะ
TYPE A1-01 2 Bedrooms, 2 Bathrooms, 1 Powder Room, 1 Multifunction Terrace ขนาด 100 ตร.ม.
TYPE A1M-04 2 Bedrooms, 2 Bathrooms, 1 Powder Room, 1 Multifunction Terrace ขนาด 100 ตร.ม.
TYPE B1-02 2 Bedrooms, 3 Bathrooms, 1 Multifunction Room, Thai Kitchen ขนาด 140 ตร.ม.
TYPE B1M-03 2 Bedrooms, 3 Bathrooms, 1 Multifunction Room, Thai Kitchen ขนาด 140 ตร.ม.
TYPE C1-04 Duplex 3 Bedrooms, 3 Bathrooms, 1 Powder Room, 1 Multifunction Terrace ขนาด 170 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
โครงการ ADLER Chan Road มีห้องตัวอย่างบนตึกจริงให้ลูกค้าได้ชมทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่
โครงการขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Fitted ใช้ Material & Finishing เกรดพรีเมียม ดูสวยงามหรูหรา และเลือกใช้วัสดุที่มีความใกล้เคียงกับธรรมชาติ เพื่อให้ห้องดูอบอุ่น แต่ดูแลรักษาได้ง่าย คงทนต่อการใช้งานจริง อาทิ
ห้องตัวอย่างห้องที่ 1
แปลนห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedrooms, 2 Bathrooms, 1 Powder Room และ 1 Multifunction Terrace ขนาด 100 ตร.ม. ถือเป็นห้องพักขนาดเริ่มต้นของโครงการ แต่ก็จัดว่าเป็นห้อง 2 ห้องนอนที่มีพื้นที่กว้างขวางไม่น้อยเลยค่ะ
การออกแบบภายในเป็นลักษณะห้องหน้ากว้าง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งเหมือนอยู่บ้าน ด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ที่กระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของห้อง ช่วยเติมแสงธรรมชาติและสร้างบรรยากาศที่สบายตา แถมยังมีการจัดสรรพื้นที่ในแต่ละโซนไว้อย่างเป็นสัดส่วน รองรับการใช้งานได้อย่างลงตัว
จุดเด่นคือ ทุกยูนิตจะได้ Private Lift ที่ใช้งานเฉพาะหนึ่งครอบครัวต่อครั้ง เพิ่มความเป็นส่วนตัวในการเข้า-ออก โดยเมื่อออกจากลิฟต์จะพบกับ Entry Foyer ที่เชื่อมต่อกับ Private Mailbox และมีประตูแยกไปยัง Service Lift รวมถึงประตูทางเข้าห้องพัก
เมื่อเข้ามาภายในห้อง จะเจอกับ Open Kitchen และห้องเก็บของ เพดานสูง 2.5 ม. ซึ่งจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ถัดไปเป็นพื้นที่ Living & Dining Area เพดานสูง 2.8 ม. ที่เชื่อมต่อกันแบบเปิดโล่ง เหมาะสำหรับการใช้เวลาร่วมกันของทุกคนในบ้าน
บริเวณกลางห้องเป็น Multifunction Terrace ที่กั้นด้วยประตูกระจกนิรภัยลามิเนต หนา 8 มม. ซึ่งมีคุณสมบัติกันเสียงและช่วยลดแสงแดดได้ดี โดยพื้นที่นี้เปิดออกสู่ระเบียงแบบ Semi-Outdoor ที่สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน และปรับเปลี่ยนฟังก์ชันให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย
ฝั่งขวามือของห้องจะเป็น Powder Room และเมื่อเดินลึกเข้าไป จะเข้าสู่โซนพักผ่อนส่วนตัว (Private Zone) ที่แยกเป็นสัดส่วน โดยมี Master Bedroom อยู่ด้านในสุด ภายในห้องมีพื้นที่กว้างขวาง พร้อมห้องน้ำในตัวที่จัดแบ่งพื้นที่เปียก-แห้งไว้อย่างลงตัว มาพร้อม Bathtub สำหรับการแช่ตัวผ่อนคลาย ส่วนอีกฝั่งจะเป็นห้องนอนรอง ซึ่งมีห้องน้ำส่วนตัวให้ใช้งานได้สะดวกไม่แพ้กันค่ะ
ห้องแรกที่เราจะพาไปชม เป็นแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 100 ตร.ม. ความพิเศษของโครงการนี้ คือ การออกแบบให้ทุกยูนิตมาพร้อม Private Lift ส่วนตัว โดยลิฟต์แต่ละตัวจะถูกจำกัดการใช้งานไว้เพียงครั้งละ 1 ครอบครัว จึงให้ความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวสูงสุด
ผู้พักอาศัยสามารถขึ้นลิฟต์ตรงถึงหน้าห้องได้ทันที ช่วยลดความวุ่นวายและเพิ่มความสบายใจให้ทั้งกับสมาชิกในครอบครัว รวมถึงสัตว์เลี้ยงตัวโปรด ที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์จากห้องอื่นให้เกิดความเครียดหรือไม่คุ้นเคยอีกด้วย
ออกจาก Private Lift ก็จะพบกับ Entry Foyer ที่เปรียบเสมือนชานพักหน้าบ้าน เป็นพื้นที่สำหรับพักคอย วางของชั่วคราว หรือใช้ถอด-ใส่รองเท้าก่อนเข้าออกห้อง ตัวพื้นบริเวณนี้ปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนแผ่นใหญ่เต็มพื้นที่ เสริมบรรยากาศให้ดูหรูหราและมีระดับ
พื้นที่ส่วนนี้ออกแบบมาให้ใช้งานได้จริงและกว้างขวางพอสมควร สามารถวางม้านั่งสำหรับนั่งใส่รองเท้า หรือจะเลือกทำ Built-in ชั้นวางรองเท้าเพิ่มก็ได้เช่นกัน
จาก Entry Foyer จะมีทางเชื่อมต่อไปยัง 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ประตูทางเข้าห้องพัก และอีกหนึ่งทางคือ ประตูออกสู่ Service Lift และบันไดหนีไฟ ซึ่งโครงการแยกโซนไว้ชัดเจนเพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน
พื้นที่ Entry Foyer ถือเป็นพื้นที่ส่วนตัวของห้องพักค่ะ พื้นที่ที่ได้มาค่อนข้างกว้าง สามารถ Built-in ตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่ความสูงจรดฝ้าเพดานแบบห้องตัวอย่างได้ หรือใครจะปรับฟังก์ชันเป็น Pet Area, พื้นที่ Drop ของ หรือทำเป็นตู้เก็บของใช้ขนาดใหญ่ก็มีพื้นที่เพียงพอค่ะ
จาก Entry Foyer จะมีประตูอีกบานที่ใช้เปิดออกไปยัง Service Lift ได้ค่ะ เวลาที่เราต้องการขนของชิ้นใหญ่ ๆ หรืออยู่ในหว่างตกแต่งห้อง ก็สามารถใช้ทางเข้า-ออกทางนี้ได้ค่ะ
จากประตูบานที่อยู่ตรงข้ามกับลิฟต์นั้น จะเป็นประตูทางออกไป Service Lift และบันไดหนีไฟ โดยโถงฝั่งนี้จะมีประตูด้านหลังของห้องเพื่อนบ้านอีก 3 ห้องค่ะ
ด้านหน้าประตูฝั่งโถง Service Lift จะมี Private Mailbox ที่เป็นเหมือนกับกล่องจดหมาย และตู้เก็บพัสดุที่ทาง Concierge ของโครงการจะนำขึ้นมาจัดส่งให้ถึงหน้าห้อง ผ่านทาง Service Lift โดยที่เราไม่ต้องลงไปหยิบจดหมาย เอกสารต่าง ๆ หรือพัสดุเองที่ด้านล่าง เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราได้ความเป็นส่วนตัว และมีความสะดวกสบายมากขึ้น
Private Mailbox ด้านหน้าห้อง จะเป็นกล่องแนวยาว 2 ส่วน ด้านบนเป็นช่องสำหรับส่งพัสดุที่เราสั่งมา และด้านล่างจะเป็นช่องสำหรับส่งจดหมาย เอกสารต่าง ๆ ของลูกบ้านค่ะ
จาก Entry Foyer จะมีประตูทางเข้าสู่ห้องพักอาศัย ที่เป็น Private Zone ของลูกบ้าน ได้เป็นประตูลายไม้สีอ่อนบานใหญ่พิเศษ ที่เปิด-ออกได้ 2 ฝั่ง เวลาที่เราต้องการเคลื่อนย้ายของชิ้นใหญ่ ๆ ก็เปิดทั้ง 2 บานออกให้มีช่องทางเดินที่กว้างขึ้น
ส่วนกลอนประตูจะได้เป็นกลอน Digital Door Lock ที่สามารถใช้งานได้หลายระบบ ทั้ง Pin Code, Finger Scan และ RFID Card และภายในห้องพักจะได้ระบบ Home Automation By LifeSmart เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตให้ด้วยทุกยูนิตค่ะ
เปิดประตูเข้ามาภายในห้อง เราจะเจอกับพื้นที่หน้ากว้างแบบ Open Plan พื้นที่โปร่งโล่ง ได้ฟีลการอยู่อาศัยเหมือนอยู่บ้าน มีการแบ่งพื้นที่แต่ละโซนไว้อย่างเป็นสัดส่วน อย่างห้องนี้โซนแรกจะเป็น Public Zone ที่ Combine ในส่วนของ Open Kitchen, Living & Dining Area และ Multifunction Terrace ไว้ด้วยกัน
จุดเด่นของคอนโดนี้ คือ เป็นห้องพักขนาดใหญ่เริ่มต้น 100 ตร.ม. ได้เป็นห้องมุมในทุกยูนิต และทุกยูนิตจะมีการดีไซน์ผนังห้องแบบ Independent Partition Design หรือผนัง 2 ชั้น ที่ไม่ได้ใช้ร่วมกันกับห้องอื่นค่ะ ช่วยกันเสียงรบกวนเข้ามาห้อง และยังป้องกันเสียงภายในห้องไม่ให้เล็ดลอดออกไป มั่นใจได้ในเรื่องความเป็นส่วนตัว และยังสามารถเล่นกับสัตว์เลี้ยงได้อย่างสนุกสนานมากขึ้นค่ะ
ภาพรวมส่วนแรกของห้อง Type นี้ จะ Combine Open Kitchen และ Living & Dining Area ไว้ใกล้ ๆ กันแบบนี้ ส่วนการขายห้องพักจะเป็นแบบ Fully Fitted ได้วัสดุเกรดพรีเมียมทั้งห้อง อาทิ พื้นห้องที่ปูด้วยกระเบื้อง Glazed Porcelain แบบ Non Slip ลายหินอ่อนแผ่นใหญ่ 60 x 120 ซม. ที่ดูพรีเมียม หรูหรา สวยงาม ฝ้าเพดานส่วนครัวสูง 2.5 ม. และ Living & Dining Area จะมีความสูงอยู่ที่ 2.8 ม. ได้ความโปร่งโล่งสบายมากทีเดียวค่ะ
มาเริ่มกันที่พื้นที่ Open Kitchen ด้านในห้องกันก่อนค่ะ มุมนี้มาพร้อมเคาน์เตอร์ครัวแบบ Built-in ใช้วัสดุพรีเมียม พร้อมติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ Küppersbusch แบรนด์ Hi-end สัญชาติเยอรมันที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1875 การันตีคุณภาพและความน่าเชื่อถือในทุกการใช้งานค่ะ
บริเวณครัวจะได้ชุดครัว Built-in พร้อม Island Counter ลายไม้สีอ่อนมา 2 ฝั่ง
หน้า Top ครัวเลือกใช้ Quartz Stone ลายหินอ่อนสีขาว หนา 15 มม. ทั้งสวยงามและทนทานต่อการใช้งาน
ได้ Sink สแตนเลสหลุมเดี่ยวขนาดใหญ่ของ Teka พร้อมก๊อกน้ำก้านโยก ระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น
อีกฝั่งของ Island ออกแบบเว้นช่องวางขาไว้อย่างพอดี สามารถวางเก้าอี้เพิ่มเป็นมุมทานอาหารเช้าสบาย ๆ มุมนั่งจิบกาแฟยามบ่าย หรือใช้จัดปาร์ตี้เล็ก ๆ กับเพื่อนฝูงก็ยังได้
ด้านล่างจะได้ลิ้นชักเก็บของ รางเลื่อนแบบ Soft Close รวม 6 ช่อง
ใต้ Sink ได้ตู้เก็บของบานเปิด พร้อมถังขยะ Built-in และมีการติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนของ Stiebel Eltron ให้ด้วยค่ะ
ชุดครัวด้านในเป็นพื้นที่สำหรับทำอาหารและเตรียมอาหาร ได้หน้า Top Quartz Stone ลายหินอ่อนสีขาว หนา 15 มม. ส่วน Backsplash จะกรุด้วย Porcelain ลายหินอ่อนดูหรูหรา สวยงาม เข้ากันกับหน้า Top พร้อมปลั๊กไฟ และมีการติดไฟ LED ให้แสงสว่างมาด้วย
ได้เตาไฟฟ้า 4 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัสของ Küppersbusch
เครื่องดูดควันแบบ Slimline พร้อมไฟ LED ให้แสงสว่าง 2 ดวง จากแบรนด์ Küppersbusch เช่นกันค่ะ
ด้านล่างมีตู้เก็บของ พร้อมติดตั้งเตาอบของ Küppersbusch ให้ 1 เครื่อง ภาพรวมของครัวจะสามารถทำอาหารจริงจังแบบครอบครัวใหญ่ได้สบาย ๆ เลยค่ะ
เหนือเตาอบจะได้ลิ้นชักพร้อมถาดใส่ช้อนส้อม
ติดกันได้เป็นตู้เก็บของบานเปิด พร้อมชั้นแยกย่อยที่ด้านในอีก 4 ช่อง
ด้านบนได้ตู้เก็บของ Built-in แนวยาว รวม 4 ตู้ โดยจะมีทั้งตู้ที่เป็นหน้าบานเมลามีนลายไม้ และตู้หน้าบาน Tinted Glass เฟรมอลูมิเนียมสีชา พร้อมไฟ LED ที่ด้านในด้วยค่ะ
ด้านข้างเว้นพื้นที่ว่างไว้สำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้
อีกด้านติดตั้งตู้ Built-in สูงจรดฝ้าเพดาน พร้อมชั้นลอยด้านใน เพิ่มพื้นที่เก็บของให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ เก็บของใช้ได้เป็นสัดส่วน ไม่เกะกะพื้นที่ใช้สอย
ติดกับ Open Kitchen จะเป็นห้องเก็บของขนาดใหญ่ สามารถเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้ หรือของชิ้นใหญ่ ๆ อย่างกระเป๋าเดินทาง จักรยานพับได้ เครื่องดูดฝุ่น หรือถุงกอล์ฟได้ครบเลยค่ะ
จากครัวมองตรงออกมาจะเป็นพื้นที่ของ Living & Dining Area แบบ Open Plan
มุมนั่งเล่นพื้นที่กว้าง สามารถวางโซฟาเซ็ตใหญ่ 3-4 ที่นั่งได้สบาย ๆ หรือใครจะปรับให้เป็นโซฟา L-Shape ก็ได้เช่นกันค่ะ
ตรงข้ามกันจะเป็นพื้นที่แนวยาว รองรับการ Built-in ชั้นวางทีวี ตู้เก็บของ หรือตู้โชว์สวย ๆ ในแบบที่ชอบได้
ด้านหลังเป็นมุมทานอาหาร รองรับโต๊ะทานอาหารขนาด 4-6 ที่นั่งได้ รอบ ๆ ยังมีพื้นที่เหลือให้เลื่อนเก้าอี้และใช้งานได้สะดวก
พื้นที่ส่วนนี้ยังได้ความโปร่งโล่งจากหน้าต่างกระจกบานผสมแบบ Full Height ที่เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวภายนอกได้เต็มที่ ช่วยให้บรรยากาศภายในดูกว้างและสบายตามากยิ่งขึ้น พร้อมเชื่อมต่อกับธรรมชาติรอบบ้านอย่างกลมกลืน
สำหรับวัสดุที่ใช้จะเป็นลูกฟักกระจกนิรภัยลามิเนต หนา 8 มม. แข็งแรงปลอดภัย จับคู่กับกรอบอลูมิเนียม Powder Coat สีเทา ผิว Sahara ให้ความรู้สึกเรียบหรูและทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว
ต่อเนื่องไปด้านหลังจะเป็น Terrace ห้องน้ำ Powder Room และห้องนอนอีก 2 ห้อง
ด้านหลังมุมทานอาหารตรงนี้จะเป็น Multifunction Terrace ที่รองรับการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลาย
Multifunction Terrace แยกสัดส่วนด้วยประตูกระจกนิรภัยแบบบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอลูมิเนียม Powder Coat สีเทา ผิว Sahara เปิดกลางและเลื่อนบานกระจกได้จนสุด ทำให้สามารถเชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอกได้อย่างต่อเนื่องลงตัว ทั้งยังช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าถึงภายในได้มากขึ้น
ด้านนอกจะเป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะนั่งเล่น พักผ่อน หรือจัดสังสรรค์ก็สะดวกสบาย
ต่อเนื่องไปจะเป็นโซนพักผ่อน ห้องแรกขวามือเป็นห้องน้ำ Powder Room ส่วนด้านในสุดจะเป็นห้องนอน 1 และห้องนอน 2 ที่มีฟังก์ชันห้องน้ำในตัวให้ทั้ง 2 ห้องค่ะ
ห้องน้ำ Powder Room ได้เป็นประตูลายไม้บานเลื่อน เปิดใช้งานได้สะดวก และช่วยให้ประหยัดพื้นที่ในห้อง
ภายในตกแต่งกระเบื้องพื้นและผนังด้วยกระเบื้อง Glazed Porcelain Non Slip ลายหินโทนสีอ่อน 60 x 60 ซม. พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานจากแบรนด์ Kohler และมีตัวช่วยในการระบายอากาศเป็นพัดลมฝังเพดาน 1 เครื่อง
ได้อ่างล้างมือแบบตั้งบนเคาน์เตอร์ ก๊อกน้ำก้านโยก พร้อมตู้เก็บของลายไม้ที่ด้านล่าง ส่วนหน้า Top จะเป็น Quartz Stone และมีพื้นที่รอบ ๆ ให้วางของใช้ได้เยอะพอสมควรค่ะ
ผนังด้านหลังติดกระจกเงาบานสูงให้ 1 บาน
โถสุขภัณฑ์ได้เป็นแบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระ ที่แขวนกระดาษทิชชู และด้านหลังจะมี Low-Wall Top Quartz Stone ให้วางของใช้จุกจิกได้
ผ่านห้องน้ำมา ซ้ายมือเป็น Master Bedroom และขวามือเป็นห้องนอนที่ 2
พื้นห้องนอนเลือกใช้วัสดุ Engineering Wood ปูลายก้างปลา เพิ่มความอบอุ่นและสวยงามให้กับบรรยากาศภายในห้อง ทั้งยังมีความแข็งแรงทนทาน พร้อมให้ผิวสัมผัสขณะเดินที่ใกล้เคียงกับไม้จริง มอบความรู้สึกเป็นธรรมชาติและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
เข้ามาภายใน Master Bedroom จะเจอกับ Walk-in Closet เชื่อมต่อกับพื้นที่พักผ่อน และห้องน้ำ
Walk-in Closet อยู่ด้านหลังประตู มุมนี้จะมีพื้นที่ให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าใบใหญ่เข้ามุม และยังมีพื้นที่แนวยาวให้จัดเป็นมุมแต่งหน้า โดยวางโต๊ะเครื่องแป้งขนาด 1-2 ที่นั่งได้เลยค่ะ
ต่อเนื่องไปจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้กันกับมุมแต่งตัว ทำให้เดินออกมาใช้งานได้สะดวก และด้านในสุดจะเป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับวางเตียงนอน
มุมนี้จะสามารถวางเตียงนอน King Size พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้อีก 1 คู่ รอบ ๆ มีพื้นที่เหลือให้เดินใช้งาน ลุกขึ้น-ลงเตียงนอนได้สะดวก
ปลายเตียงเป็นผนังสำหรับติด Smart TV ตรงกลางจะมีปลั๊กไฟและช่องเสียบสาย Cable TV ติดมาให้พร้อมต่อใช้งานเลยค่ะ
ภายในห้องยังได้ความโปร่งสว่างจากหน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่ที่ติดเข้ามุมมาให้ทั้ง 2 ด้าน
เข้าไปดูห้องน้ำกันต่อ สำหรับประตูห้องน้ำจะได้เป็นแบบบานเลื่อนลายไม้
ห้องน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้งานกว้างขวาง ตกแต่งกระเบื้องพื้นด้วย Glazed Porcelain Non Slip ลายหิน 60 x 60 ซม. ซึ่งมี Texture เสมือนหินจริง และช่วยป้องกันการลื่นหกล้มได้ ส่วนผนังตกแต่งด้วย Glazed Porcelain ลายไม้ ให้บรรยากาศภาพรวมที่ดูสว่าง สะอาด น่าใช้งาน พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานของ Kohler และห้องนี้จะมี Bathtub ติดเพิ่มมาให้ด้วยค่ะ
ส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง ติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานมาในระยะใช้งานสบาย ๆ
ขวามือได้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ พร้อมกระจกเงาขนาดใหญ่
ติดตั้งอ่างล้างหน้าบนเคาน์เตอร์ พร้อมก๊อกน้ำก้านโยก หน้า Top เป็น Quartz Stone สีขาว ดูหรูหรา ทำความสะอาดได้ง่าย และมีพื้นที่ข้าง ๆ อ่างให้วางของใช้ได้เยอะเลยค่ะ
ผนังด้านข้างติดตั้งปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำไว้ให้ 1 จุด รองรับการเสียบใช้ไดร์เป่าผม เครื่องโกนหนวด หรือเอาไว้เสียบต่อใช้ Gadget ต่าง ๆ ได้
ด้านล่างได้ตู้เก็บของบานเปิดลายไม้ พร้อมเครื่องทำน้ำร้อนของ Stiebel Eltron ไว้ที่ด้านในค่ะ
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบ และ Low-Wall ด้านหลังสำหรับวางของใช้
ถัดไปจะเป็นส่วนอาบน้ำ กั้นแยกโซนด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัยสีชา ประตูบานสวิง พร้อมมือจับสแตนเลสตัว C ที่สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ค่ะ
ภายในจะรวมส่วนอาบน้ำ และ Bathtub ไว้ด้วยกัน
Bathtub เป็นรูปทรงรีแบบตั้งพื้น พร้อมก๊อกน้ำและฝักบัวระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น
ด้านหลัง Bathtub จะมีหน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่ติดมาให้ด้วย โดยจะมีบานเปิดไว้ระบายอากาศ หรือเปิดรับลมธรรมชาติได้ค่ะ
ส่วนอาบน้ำติดฝักบัวให้ 2 แบบ ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower มีราวปรับระดับความสูง-ต่ำ พร้อมก๊อกน้ำระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นเช่นกันค่ะ
ไปดูห้องนอน 2 ที่อยู่ตรงข้ามกันต่อค่ะ
เปิดประตูเข้ามาภายในจะเจอกับมุมแต่งตัวและห้องน้ำเป็นส่วนแรก
มุมนี้จะมีพื้นที่ให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งเต็มพื้นที่ โดยที่ด้านหน้าก็ยังมีพื้นที่เหลือให้ใช้งานได้สะดวกค่ะ
ติดกันเป็นห้องน้ำในตัว อยู่ใกล้กันกับมุมแต่งตัวทำให้เวลาอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาแต่งตัว แต่งหน้าได้ใกล้ ๆ
ภายในห้องน้ำจะมีการแบ่งส่วนแห้ง กั้นแยกส่วนอาบน้ำไว้ให้เรียบร้อย ตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้อง Glazed Porcelain แบบ Non Slip ลายหินดูหรูหรา สวยงาม พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานของ Kohler มาให้ครบชุด และมีตัวช่วยในการระบายอากาศเป็นพัดลมฝังเพดาน 1 เครื่องค่ะ
ภาพรวมส่วนแห้งติดสุขภัณฑ์มาในระยะใช้งานสบาย ๆ ผนังด้านหลังมี Low-Wall แนวยาวไว้สำหรับวางของใช้จุกจิกในห้องน้ำ
ได้เคาน์เตอร์พร้อมอ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก รอบ ๆ อ่างมีพื้นที่ให้วางของใช้ได้เยอะ และใต้อ่างจะมีตู้เก็บของลายไม้ให้ 1 ตู้ โดยด้านในจะติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนให้ 1 เครื่องค่ะ
ด้านข้างติดตั้งปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำให้ 1 จุด
ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบครบเซ็ต
ผนังด้านหลังติดกระจกเงาขนาดใหญ่ให้ 1 บาน
ส่วนอาบน้ำติดตั้งฉากกั้นกระจกนิรภัยสีชา ประตูบานสวิง พร้อมมือจับตัว C
ภายในส่วนอาบน้ำมีพื้นที่ใช้งานสบาย ๆ อีกทั้งยังมีการก่อม้านั่งไว้ให้ รองรับการทำเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุ หรือใครจะใช้เป็นชั้นวางของในส่วนอาบน้ำก็ได้เช่นกันค่ะ
ภายในติดตั้งฝักบัว Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ ก๊อกน้ำก้านโยก พร้อมระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น
ถัดเข้าไปด้านในสุดจะเป็นส่วนพักผ่อน
ภายในสามารถวางเตียงนอน King Size พร้อมโต๊ะหัวเตียง หรือเสริมด้วยอาร์มแชร์ที่ด้านข้างได้
ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางของ ชั้นวางทีวี แต่แนะนำให้ติด Smart TV ที่ผนังจะได้มีพื้นที่ให้ใช้งานที่กว้างมากขึ้นค่ะ
ด้านในสุดติดตั้งหน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่ให้แบบนี้ค่ะ ช่วยนำแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้เยอะ และมีบานเปิดเล็ก ๆ ไว้ระบายอากาศได้ด้วยค่ะ
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนอน 2 ค่ะ
ห้องตัวอย่างห้องที่ 2
แปลนห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedrooms, 3 Bathrooms, 1 Multifunction Room และ Thai Kitchen ขนาด 140 ตร.ม. ถือเป็นห้องขนาดกลางของโครงการ ที่ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดกลางได้อย่างพอดี ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่จัดเต็ม และการออกแบบที่ยังคงเน้นความเป็นห้องหน้ากว้าง ให้บรรยากาศโปร่งโล่งแบบบ้านเดี่ยว
เมื่อออกจาก Private Lift จะพบกับ Entry Foyer ที่เชื่อมต่อเข้าสู่โถงต้อนรับ และห้องน้ำสำหรับแขก (ห้องน้ำที่ 3) ที่ใช้งานได้สะดวกตั้งแต่ทางเข้า
ถัดเข้ามาจะพบกับโซนหน้ากว้างที่โดดเด่นด้วย Multifunction Room แบบ Glass House ซึ่งเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงานส่วนตัว Private Gym หรือแม้แต่ห้องสำหรับสัตว์เลี้ยงก็ลงตัว
ทางด้านซ้ายของห้องเชื่อมต่อกับ Living & Dining Area แบบ Panoramic เปิดรับวิวกว้างเต็มสายตา พร้อม Open Kitchen ที่ใช้งานได้จริงทุกวัน ถัดเข้าไปเป็น Service Zone ที่วางฟังก์ชันไว้ครบ ทั้งครัวไทย ห้องซักอบผ้า และมีประตูเชื่อมออกไปยัง Service Lift เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัว ประกอบด้วย Master Bedroom ที่มีขนาดกว้างขวาง สามารถวางเตียง King Size ได้สบาย พร้อมมุมแต่งตัว และห้องน้ำในตัวที่อัปเกรดดีไซน์แบบ His & Her ให้ใช้งานแยกกันอย่างเป็นสัดส่วน
นอกจากนี้ ยังมีห้องนอนรองที่ออกแบบให้มีพื้นที่ใช้งานกว้าง และมาพร้อมห้องน้ำในตัวเช่นกัน ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ลงตัวทั้งในด้านฟังก์ชันและความเป็นส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคนในบ้านค่ะ
มาต่อกันที่ห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedrooms ขนาด 140 ตร.ม. กันค่ะ ทุกยูนิตจะได้ Private Lift และ Entry Foyer ที่ปูพื้นด้วยกระเบื้อง Glazed Porcelain ลายหินอ่อนแผ่นใหญ่ ดูหรูหรา สวยงาม และมีพื้นที่ว่างให้วางม้านั่ง หรือ Built-in ตู้เก็บรองเท้า ตู้เก็บของขนาดใหญ่ได้เลยค่ะ
ประตูห้องพักได้เป็นประตูลายไม้บานใหญ่พิเศษ พร้อมกลอน Digital Door Lock ที่สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ Pin Code, Finger Scan และ RFID Card ค่ะ
เปิดเข้ามาจะเจอกับ Foyer ความสูงพื้น-ฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.8 ม. ให้บรรยากาศที่โปร่งโล่งสบาย อากาศหมุนเวียนได้ดี ห้องพักทุกยูนิตจะดีไซน์ผนังแบบ Independent Wall ไม่ใช้ผนังร่วมกับห้องอื่น ช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากคนและสัตว์เลี้ยงได้ดี ได้ความเป็นส่วนตัว และได้ระบบ Home Automation By LifeSmart เป็นมาตรฐานด้วยค่ะ
พื้นห้องพักปูด้วยกระเบื้อง Glazed Porcelain ลายหินอ่อนแผ่นใหญ่ 60 x 120 ซม. ที่มี Texture ที่ใกล้เคียงกับหินจริง แต่ Glazed Porcelain จะมีความแข็งแรง ทำความสะอาดได้ง่ายมากกว่า
ด้านหน้าจะตรง Foyer และห้องน้ำ
บริเวณ Foyer จะได้พื้นที่มาค่อนข้างกว้างค่ะ สามารถ Built-in ตู้เก็บของ ตู้โชว์ขนาดใหญ่ชิดผนังห้องได้
ขวามือเป็นโถงทางเดินสู่ Private Zone หรือห้องนอนอีก 2 ห้องค่ะ
ซ้ายมือจะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำ และทางเดินสู่ Multifunction Room และ Common Area
ห้องน้ำด้านนอกของ Type นี้ จะมีการแบ่งส่วนแห้ง กั้นแยกส่วนอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ เวลาเร่งด่วนสามารถออกมาใช้งานที่ห้องนี้ได้ พร้อมตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้อง Glazed Porcelain ลายหินโทนสีอ่อน 60 x 60 ซม. ดูเรียบหรู สวยงาม ส่วนสุขภัณฑ์มาตรฐานในห้องน้ำใช้เป็นของแบรนด์ Kohler
ส่วนแห้งติดตั้งอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์มาในระยะใช้งานสบาย ๆ
ด้านหลังติดกระจกเงาขนาดใหญ่ให้เต็มพื้นที่ และยังมี Low-Wall แนวยาวไว้สำหรับวางของใช้ในห้องน้ำมาให้ด้วย
อ่างล้างมือวางบนเคาน์เตอร์ ก๊อกน้ำแบบก้านโยกระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น พร้อมตู้เก็บของใต้อ่าง ผนังด้านข้างติดปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำให้ 1 จุด
โถสุขภัณฑ์เป็นแบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบครบเซ็ต
ด้านในสุดเป็นส่วนอาบน้ำ ที่กั้นแยกพื้นที่ด้วยฉากกั้นกระจกนิรภัยสีชา ประตูบานสวิง พร้อมมือจับสแตนเลสที่สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้ค่ะ
ส่วนอาบน้ำได้พื้นที่มากว้างกำลังดี ยืนอาบน้ำได้สบาย ๆ ไม่ติดผนังรอบ ๆ
ภายในจะได้ฝักบัว Hand Shower พร้อมราวปรับระดับ และก๊อกน้ำระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น
ผ่าน Foyer และห้องน้ำเข้ามาตรงกลาง จะเจอกับ Multifunction Room ที่รองรับการทำเป็น Glass House สำหรับสัตว์เลี้ยงได้ โดยตัวพื้นจะปูกระเบื้องลายหิน Spec เดียวกันกับด้านนอก ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดูใกล้เคียงกับหินธรรมชาติ ให้ผิวสัมผัสที่สบายเท้า ไม่ลื่น ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง และช่วยป้องกันเรื่องข้อเข่าเสื่อมและทดรอยขีดข่วนได้ดีค่ะ
Multifunction Room ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามใจ ไม่ว่าจะเป็นทำ Private Gym, Working Room, Music Room, Fashion Studio, ห้องเลี้ยงสัตว์ส่วนตัว หรือทำเป็นพื้นที่สวนในร่มก็ได้ โดยจุดนี้จะกั้นห้องด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เปิดตรงกลาง ที่สามารถเลื่อนเปิดได้กว้าง เชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอกเข้าไว้ด้วยกันได้ลงตัวค่ะ
ภายในห้องจะปูพื้นชนิดเดียวกันกับด้านนอก และในห้องตัวอย่างจะตกแต่งเป็น Private Gym มาให้ดูเป็นไอเดีย จะเห็นว่าเราสามารถวางเครื่องออกกำลังกายได้หลายชิ้น ครบทั้งการเล่น Cardio และ Weight Training เลยค่ะ
ถัดจากห้อง Multifunction Room จะเชื่อมต่อกับระเบียงพักผ่อนขนาดใหญ่ โดยมีประตูกระจกกั้นพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน ใช้สเปกเดียวกับประตูหลัก เป็นบานลูกฟักกระจกนิรภัยลามิเนต หนา 8 มม. ในกรอบอลูมิเนียมเคลือบ Powder Coat สีเทา ผิว Sahara ที่ให้สัมผัสพรีเมียมและเพิ่มความหรูหราให้กับภาพรวมของพื้นที่
ระเบียงได้พื้นที่มากว้างกำลังดี ปูพื้นด้วยกระเบื้องโทนสีอ่อน 60 x 60 ซม. ติดราวกันตกกระจกนิรภัยเพื่อให้ เปิดรับมุมมองได้กว้าง ส่วนพื้นที่ใช้งานจะสามารถวางเก้าอี้พักผ่อน หรือจัดเป็น Pocket Garden เพิ่มได้
จากระเบียงตรง Multifunction Room มองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้องพัก
ต่อเนื่องไปทางซ้ายมือจะเป็นโซน Common Area ที่ออกแบบให้เชื่อมต่อกันอย่างลงตัว ทั้ง Living Area, Dining Area และครัวแบบ Open Kitchen รวมอยู่ในพื้นที่เดียว ช่วยให้ทุกคนในบ้านได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างใกล้ชิดและอบอุ่นในทุกกิจกรรม
ภาพรวมของพื้นที่ Living & Dining Area โดดเด่นด้วยบรรยากาศโปร่งโล่งและสว่างสบาย จากช่องแสงขนาดใหญ่ที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ทางฝั่งด้านหลังของห้อง เติมความอบอุ่นและสดชื่นให้กับทุกช่วงเวลาในการอยู่อาศัย
Dining Area พื้นที่กว้างรองรับการวางชุดโต๊ะทานอาหารขนาด 6-8 ที่นั่งได้
ถัดจาก Dining Area ไป จะมีระเบียงพักผ่อนขนาดพอเหมาะให้อีก 1 จุด โดยส่วนนี้จะมีการติดตั้งก๊อกสนามเพิ่มให้ด้วยค่ะ
ติดกับ Dining Area จะเป็น Living Area ขนาดใหญ่ ที่อยู่ใกล้กับช่องแสงด้านข้าง สามารถเปิดรับวิวภายนอกได้กว้างเต็มสายตา
ส่วนพื้นที่ใช้งานที่จะสามารถวางโซฟาเซ็ตใหญ่ 4-5 ที่นั่ง เพื่อรองรับการดูหนังกับสมาชิกในครอบครัวได้เลย และฝั่งตรงข้ามกันจะเป็นพื้นที่แนวยาวโล่ง ๆ ที่รองรับการ Built-in ชั้นวางทีวี ตู้เก็บของ ตู้โชว์ หรือเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบอื่น ๆ ได้ค่ะ
บรรยากาศภาพรวมบริเวณ Common Area
เชื่อมต่อไปอีกด้านจะเป็น Open Kitchen ที่อยู่ใกล้กันกับ Service Zone ที่ถูกแยกห้องออกไว้เป็นสัดส่วน
Open Kitchen พื้นที่กว้าง เพดานสูง 2.5 ม. ห้องจริงจะได้เคาน์เตอร์ครัว Built-in พร้อม Island และเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ Küppersbusch มาครบพร้อมใช้งานได้ทันที
Island ที่สามารถใช้เป็นเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร ทำขนม หรือนั่งทานอาหารได้ 2 ที่นั่ง โดยหน้า Top จะได้เป็น Quartz Stone ลายหินอ่อนสีขาว หนา 15 มม. ที่แข็งแรง ทนทาน ดูพรีเมียมสวยงาม
อีกฝั่งของ Island จะมีลิ้นชักเมลามีนลายไม้ให้อีก 6 ช่อง สามารถเก็บของใช้ในครัวได้เยอะ และช่วยจัดระเบียบของใช้ต่าง ๆ ได้ดีมากขึ้น
ด้านหลังจะเป็นเคาน์เตอร์ครัวสำหรับทำอาหาร และล้างจาน ที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าของ Küppersbusch ติดตั้งมาให้มาตรฐานกับห้องพักเลย
Top ครัวเป็น Quartz Stone ลายหินอ่อนสีขาว หนา 15 มม. เช่นเดียวกันกับ Island แต่ฝั่งนี้จะมี Backsplash กระเบื้องลายหินอ่อนดีไซน์สวยติดเพิ่มให้เต็มพื้นที่ครัว และยังได้ไฟ LED ไว้เปิดส่งสว่างเวลาทำอาหารได้ด้วย
ด้านข้างจะได้ช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และเตาอบ Built-in มาตามนี้
ด้านบนและด้านล่างของเตาอบและช่องวางไมโครเวฟจะมีตู้เก็บของบานเปิดเมลามีนลายไม้ และลิ้นชักเก็บของติดตั้งไว้ให้อีก 2 ช่อง
หน้า Top ครัวติดตั้งเตาไฟฟ้า 4 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัสของ Küppersbusch
ด้านบนได้เครื่องดูดควัน Slimline ของ Küppersbusch ปรับระดับความแรงได้ และมีไฟ LED ติดมาให้ด้วย
ถัดมาอีกฝั่งจะได้ Sink สแตนเลสหลุมเดี่ยวขนาดใหญ่ของ Teka พร้อมก๊อกน้ำก้านโยก ที่มีระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นให้พร้อมใช้งาน รอบ ๆ อ่างจะมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ รวมถึงฟองน้ำและน้ำยาล้างจานได้บบไม่เกะกะ และที่ผนังข้าง ๆ กันจะมีปลั๊กไฟติดมาให้ด้วย 1 จุด
ด้านล่างจะได้ตู้เก็บของบานเปิด พร้อมชั้นลอยมาอีกหลายช่องเลยค่ะ เป็นครัวที่จัดระเบียบของใช้ได้ดี และที่ตู้ใต้ Sink นั้น จะมีถังขยะ Built-in พร้อมเครื่องทำน้ำร้อนติดไว้ที่ภายในให้เรียบร้อยค่ะ
ด้านบนยังได้ตู้เก็บของบานเมลามีนเปิดลายไม้ พร้อมตู้เก็บของหน้าบาน Tinted Glass มาอีก 2 ตู้ ภายในมีชั้นลอยแยกย่อยให้วางของได้อีกเยอะเลยทีเดียว
ซ้ายมือสุดจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นขนาดใหญ่ ด้านหลังมีปลั๊กไฟให้พร้อมต่อใช้งาน และด้านบนจะมีตู้เก็บของบานเปิดเมลามีนลายไม้ติดมาให้อีก 1 ตู้
ติดกับส่วนครัวจะมีประตูทางออกไปยัง Service Zone หรือ Back of House ที่เชื่อมกับ Service Lift ได้
เปิดประตูออกมาเราจะเจอกับ Service Zone ขนาดใหญ่เหมือนบ้านเลยค่ะ ตัวพื้นจะปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. มาให้เต็มพื้นที่ พร้อมเดินงานระบบน้ำ ระบบไฟมาให้ตามจุดสำคัญต่าง ๆ พร้อมทำเป็นห้องครัวไทย, มุมซัก-อบผ้า, พื้นที่อาบน้ำสัตว์เลี้ยง หรือจะทำเป็นห้องเก็บของขนาดใหญ่ก็ได้เช่นกัน
เริ่มตั้งแต่โซนแรกของพื้นที่ บ้านรองรับการต่อเติมครัวไทยได้อย่างลงตัว โดยมีการวางระบบท่อน้ำดี-น้ำทิ้งไว้เรียบร้อย รองรับการติดตั้งเคาน์เตอร์ครัว และ Sink ล้างจาน พร้อมทั้งมีปลั๊กไฟติดตั้งที่ผนัง รองรับการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวได้ครบครัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่ชอบทำอาหารหนัก หรือมีกิจกรรมทำอาหารทานเองที่บ้านเป็นประจำ
ถัดไปทางด้านหลังจะเป็นห้องซักอบผ้า ที่มีการกั้นแยกส่วนด้วยประตูกระจกลามิเนต เฟรมอลูมิเนียมแบบบานเปิดไว้ให้อีกชั้น เพื่อการแยกโซนไว้เป็นสัดส่วน และช่วยป้องกันกลิ่นควันไม่ให้เข้าไปรบกวนพื้นที่ภายในได้
ภายในได้พื้นที่แบบตอนลึก มีการเดินงานระบบน้ำ ระบบไฟให้พร้อม ซ้ายมือสามารถวางเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าได้สูงสุด 4 เครื่อง และยังมีพื้นที่เหลือให้ Built-in เคาน์เตอร์เล็ก ๆ ไว้วางอุปกรณ์สำหรับซักผ้า หรือวางราวแขวนผ้าเพิ่มได้ค่ะ
ส่วนด้านหลังสุดจะเป็นห้องเก็บ CDU แบบแขวน ที่หันลมร้อนออกไปด้านนอกอาคาร และมีประตูกั้นไว้อีกชั้นเป็นสัดส่วนดีมาก ๆ ค่ะ
กลับมาที่ด้านหน้า Service Zone จะมี Corner เล็ก ๆ ไว้เป็นมุมพักของ เก็บของ และเป็นที่ตั้งของ Consumer Units ของห้องพัก ติดกันจะเป็นประตูทางออกไป Service Life และข้าง ๆ กันนั้นจะเป็น Private Mailbox ที่รองรับพัสดุและจดหมายได้แบบไม่ต้องลงไปรับเองที่ด้านล่าง
เปิดประตูออกมาจะเจอกับ Service Lift และบันไดหนีไฟแบบนี้ค่ะ
ไปดู Public Zone ที่อยู่อีกด้านของห้องพักกันต่อค่ะ ด้านนี้จะเป็น Master Bedroom และห้องนอน 2 ที่มีห้องน้ำในตัวให้ใช้งานได้สะดวกทั้ง 2 ห้อง
เข้ามาดู Master Bedroom กันก่อนค่ะ เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับมุมแต่งตัวและห้องน้ำที่ด้านหน้า ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับวางเตียงนอน
สำหรับพื้นห้องนอนทั้ง 2 ห้อง จะเปลี่ยนจากกระเบื้องมาเป็น Engineering Wood ปูลายก้างปลา เพื่อให้ห้องนอนดูอบอุ่น ผ่อนคลาย พร้อมให้ผิวสัมผัสขณะเดินที่ใกล้เคียงกับไม้จริงมากที่สุด
โซนแรกของห้องจะเป็นพื้นที่แนวยาว รองรับการทำเป็นมุมแต่งตัวได้สบาย ๆ มีพื้นที่ให้ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เต็มพื้นที่ และมีพื้นที่ด้านหน้าให้วางโต๊ะเครื่องแป้งแบบ 1-2 ที่นั่งได้ด้วย
ตรงข้ามกันจะเป็นทางเข้าห้องน้ำ
สำหรับห้องน้ำในห้องพักขนาด 140 ตร.ม. และ 170 ตร.ม. จะมีความพิเศษมากขึ้น ตรงที่ได้ฟังก์ชันแบบ His & Her เพิ่มเข้ามา เพื่อรองรับครอบครัวที่อยู่กันแบบคู่รักให้ใช้งานพร้อมกันในช่วงเวลาเร่งด่วนได้สะดวกมากขึ้น
ส่วนการตกแต่งกระเบื้องภายในห้องน้ำจะใช้กระเบื้องลายหินที่มี Texture ใกล้เคียงกับหินจริงมาใช้ทั้งผนังและพื้น แต่ตัวพื้นจะได้เป็นกระเบื้องแบบ Non Slip กันลื่น พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานรุ่นพรีเมียมของ Kohler และมีพื้นที่ของ Bathtub ที่กว้างมากขึ้นด้วยค่ะ
ส่วนแรกจะได้เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแบบ His & Her หน้า Top หิน Quartz สีขาว พร้อมกระจกเงาขนาดใหญ่ที่ผนัง และราวแขวนผ้าที่ด้านข้าง
อ่างล้างหน้ามีให้ 2 อ่าง เป็นทรงเหลี่ยมวางบนเคาน์เตอร์ พร้อมก๊อกน้ำก้านโยกระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น ส่วนพื้นที่หน้า Top มีเหลือกว้างเลยค่ะ สามารถวางของใช้ในห้องน้ำ สกินแคร์ต่าง ๆ ได้อีกเยอะ
ใต้อ่างจะได้ชั้นวางของแนวสูงตรงกลาง และลิ้นชักเก็บของก้นลึก 2 ช่อง สามารถเก็บขวดสบู่ ขวดแชมพู หรือสกินแคร์ขวดสูง ๆ ได้ หรือจใะใช้เป็นตู้เก็บกระดาษชำระ ผ้าเช็ดตัวก็ทำได้สบาย ๆ
ตรงข้ามกันเป็นห้องอาบน้ำ กั้นฉากกั้นกระจกนิรภัยสีชาดูหรูหรา ประตูเป็นแบบบานสวิงมือจับตัว C แขวนผ้าเช็ดตัวหรือผ้าเช็ดมือได้
ภายในมีพื้นที่ให้ใช้งานสบาย ๆ พร้อม Floor Drain แบบยาว ดูเรียบไปกับพื้น และช่วยกันกลิ่นกันแมลงได้ดีกว่า
ภายในติดตั้งฝักบัวให้ 2 แบบ ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower มีราวปรับระดับ ก๊อกน้ำระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น พร้อมชั้นวางของ Built-in ที่ด้านข้าง
ถัดไปด้านในข้าง ๆ ห้องอาบน้ำ ติดตั้งโถสุขภัณฑ์ระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบให้ครบเซ็ต
ด้านในสุดของห้องน้ำติดกับหน้าต่างกระจกบานผสม คือจุดวาง Bathtub แบบลอยตัว ที่มาพร้อมก๊อกน้ำระบบน้ำร้อน-เย็น และฝักบัวติดตั้งมาให้ครบ พื้นที่โดยรอบกว้างขวางพอสำหรับวางโต๊ะข้างเล็ก ๆ สำหรับวางเทียนหอม เครื่องดื่มระหว่างการแช่ตัว หรือจะตกแต่งด้วยต้นไม้ฟอกอากาศสวย ๆ เพื่อเติมความสดชื่นและสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้กับห้องน้ำได้ตามใจชอบ
เข้าไปด้านหลังจะเจอกับส่วนพักผ่อนพื้นที่กว้าง ๆ มาพร้อมหน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่รอบด้าน ช่วยให้ห้องดูโปร่งสว่างและเทควิวภายนอกได้เต็มสายตา
ภายในจะรองรับการวางเตียงนอน King Size โต๊ะหัวเตียง และติด Smart TV ปลายเตียงได้แบบนี้
บรรยากาศภาพรวมภายใน Master Bedroom
ตรงข้ามกันจะเป็นห้องนอน 2 ที่มีฟังก์ชันห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกัน
ภายในห้องจะสามารถวางเตียงนอน 5-6 ฟุต หรือวางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุต 2 เตียง สำหรับการทำเป็นห้องนอนเด็กแบบ 2 คนได้สบาย ๆ อีกทั้งยังมีพื้นที่เหลือให้วางเบาะน้องหมา น้องแมวในห้องได้ด้วยค่ะ
พื้นห้องเป็น Engineering Wood ปูลายก้างปลา ที่ป้องกันการลื่น เดินได้สบายเท้า ให้ผิวสัมผัสที่สบายเท้า ไม่ลื่น ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง
สำหรับห้องนี้จะวางเตียงนอน 5 ฟุต โต๊ะหัวเตียง และชั้นวางทีวีปลายเตียงนอนมาให้ดูเป็นไอเดีย
ด้านหลังห้องติดตั้งหน้าต่างกระจกบานผสมขนาดใหญ่ให้ 1 บาน โดยจะมีทั้งบานฟิกซ์สำหรับรับแสง ชมวิวได้กว้าง และมีบานเปิดไว้รับลม ระบายอากาศแยกมาให้ด้วย
อีกด้านของห้องจะเป็นพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำในตัว
หน้าห้องน้ำมีพื้นที่แนวยาวให้วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบ 1 ที่นั่งได้
ห้องน้ำเป็นห้องหน้ากว้าง มีการแบ่งส่วนแห้งกั้นแยกส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย ได้กระเบื้องพื้นและผนังลายหินสีอ่อน พร้อมสุขภัณฑ์มาตรฐานแบรนด์ Kohler มีระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นให้ทุกจุก และมีพัดลมระบายอากาศติดมาให้ที่เพดาน 1 เครื่อง
ส่วนแห้งได้เคาน์เตอร์อ่างล้างมือ พร้อมตู้เก็บของ และโถสุขภัณฑ์ระบบ Dual Flush อุปกรณ์ครบชุดตามนี้ค่ะ
ผนังด้านหลังจะมี Low-Wall แนวยาว พร้อมกระจกเงา และปลั๊กไฟกันน้ำให้ 1 จุด
ส่วนอาบน้ำกั้นฉากกั้นกระจกนิรภัยสีชา ประตูบานสวิง พร้อมติดตั้งฝักบัว Hand Shower มาให้เรียบร้อย
ภายในมีพื้นที่ใช้งานระยะสบาย ๆ และมีม้านั่งช่วยอาบเพื่อรองรับการทำเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุให้ด้วยค่ะ
ราคา (มิ.ย. 68)
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://bit.ly/4jsODMW
*หมายเหตุ : ข้อมูลราคาและโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*
สรุป
⇒ ทำเลที่ตั้งโครงการ : ADLER Chan Road Penthouse Condominium เป็นโครงการใหม่จากแบรนด์ Carbon2 บริษัทในเครือ AP Thailand ที่ตั้งอยู่ในซอยจันทน์ 51 เข้าซอยเพียง 230 ม.* จากถนนใหญ่ เชื่อมต่อการเดินทางได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางรถยนต์, เรือ หรือรถไฟฟ้า ตัวโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS ถึง 2 สถานี ได้แก่ BTS สุรศักดิ์ และ BTS สะพานตากสิน ซึ่งบริเวณสถานีตากสินยังมีท่าเรือสาทรและท่าเรือข้ามฟากให้เลือกใช้งานอีกด้วย
ทำเลโดยรอบยังอยู่ใจกลางเขตเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพฯ ทั้งโซนสาทร-สีลม และเจริญกรุง-พระราม 3 รายล้อมด้วยร้านอาหารชื่อดัง ร้านค้าเก่าแก่ รวมถึงไม่ไกลจากแหล่งไลฟ์สไตล์อย่าง ASIATIQUE The Riverfront ที่สำคัญยังอยู่ใกล้แหล่งงานขนาดใหญ่ โรงเรียนชื่อดัง และโรงพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ถือเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตและการทำงานอย่างครบถ้วน
⇒ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : จากโครงการขับรถออกมาเพียง 230 ม.* ก็ถึงถนนจันทน์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นสำคัญอื่น ๆ อย่างเจริญกรุง, เจริญราษฎร์, สาธุประดิษฐ์, นราธิวาสฯ รวมถึงเส้นพระราม 4 ผ่านทางซอยเย็นอากาศ และนางลิ้นจี่ ทำให้สามารถเดินทางเข้าเมืองหรือออกนอกเมืองได้สะดวก
อีกหนึ่งจุดเด่นคือโครงการอยู่ใกล้ทางด่วนหลายจุด โดยจุดที่ใกล้ที่สุดคือทางพิเศษศรีรัช ด่านถนนจันทน์ ห่างเพียง 700 ม.* และยังมีทางเลือกอื่น ๆ เช่น ด่านสาทร, ด่านเจริญราษฎร์ และด่านเลียบแม่น้ำ ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์เป็นเรื่องง่ายในทุกทิศทาง
⇒ การเดินทางโดยรถสาธารณะ : บริเวณหน้าปากซอยจันทน์ 51 มีป้ายรถเมล์อยู่ทั้งสองฝั่งถนน รวมถึงมีรถสองแถวแดงผ่านหลายสาย เชื่อมต่อย่านสำคัญในบริเวณใกล้เคียง และสามารถไปต่อรถไฟฟ้าได้สะดวก สำหรับมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็มีให้บริการตลอดทั้งวัน โดยมีวินหลักอยู่ตรงหน้าปากซอย ค่าบริการเข้าโครงการเพียง 15 บาทเท่านั้น
⇒ การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : โครงการตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ และ BTS สะพานตากสิน โดยมีระยะทางประมาณ 1.9-2.4 กม.* ซึ่งถือว่าใกล้และสามารถเลือกใช้งานได้ตามความสะดวก โดยเฉพาะ BTS ตากสิน ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังท่าเรือด่วนสาทร และท่าเรือข้ามฟากตากสิน ไปยังฝั่งเจริญนครหรือ ICONSIAM ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีทางเลือกเสริมอย่าง BRT โดยสถานีต้นทางคือ BRT สาทร ที่อยู่บริเวณแยกสาทร-นราธิวาส ซึ่งให้บริการเส้นทางวนผ่านพระราม 3 จนถึงสถานีปลายทางที่ราชพฤกษ์
⇒ การออกแบบโครงการ ห้องพักและวัสดุ : ADLER Chan Road เป็นคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่จาก Carbon2 ในเครือ AP Thailand ที่เลือกพัฒนาภายใต้แนวคิด “Penthouse Condo ขนาดเล็ก” ซึ่งถือว่าหาได้ยากในตลาดเมือง โดยเน้นความเป็นส่วนตัวสูงสุด ด้วยจำนวนยูนิตเพียง 22 ห้อง บนพื้นที่ดินขนาดประมาณ 1 ไร่เศษ ทุกยูนิตสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ถูกออกแบบมาให้เป็นห้องพักขนาดใหญ่ เริ่มต้นตั้งแต่แบบ 2 ห้องนอน ไปจนถึงห้อง Duplex 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยอยู่ระหว่าง 100–170 ตร.ม. ทุกห้องเป็นห้องมุม และมีเพียง 4 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น เสริมความพิเศษด้วย Private Lift ที่ส่งตรงถึงหน้าห้อง เพิ่มความสะดวกและเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง
ภายในห้องพักออกแบบให้มีหน้ากว้าง โปร่งสบาย ใกล้เคียงกับความรู้สึกของการอยู่บ้านมากกว่าคอนโดทั่วไป โดยแบ่งพื้นที่ใช้งานอย่างชัดเจนเป็น 3 โซน ได้แก่ Private Zone, Public Zone และ Service Zone ซึ่งทุกโซนมีขนาดกว้างขวาง รองรับการใช้งานและการอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ Balcony หรือ MultiFunction Area ให้ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะจัดเป็นมุมพักผ่อน มุมทำงาน หรือห้องสัตว์เลี้ยงแบบ Glass House สำหรับคนที่มีน้องหมาน้องแมว ก็สามารถออกแบบได้อย่างกลมกลืนและลงตัว
ด้านวัสดุภายในห้องพัก ทางโครงการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงในทุกจุด โดยจัดสรรมาในแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว Built-in พร้อม Island Top ซึ่งใช้หิน Quartz ลายหินอ่อนหนา 15 มม. ที่ทั้งทนทานและดูหรูหรา ควบคู่กับเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมียมจากแบรนด์ KÜPPERSBUSCH ซึ่งเป็นแบรนด์จากเยอรมันที่เน้นความพิถีพิถันในดีไซน์และประสิทธิภาพ
พื้นภายในห้องเป็น Engineering Wood ลายก้างปลา ที่ให้ผิวสัมผัสเสมือนไม้จริง และมีคุณสมบัติทนรอยขีดข่วน รวมถึงความชื้นได้ดีกว่าพื้นไม้ทั่วไป ส่วนพื้นที่ห้องน้ำใช้กระเบื้องพื้นและผนังแบบ Glazed Porcelain ลายหินสีอ่อนและลายไม้แบบกันลื่น (Non Slip) สุขภัณฑ์ในห้องน้ำคัดสรรจากแบรนด์ Kohler พร้อมอ่างอาบน้ำ (Bathtub) ในห้องน้ำ Master เพิ่มความสุนทรีย์ในการใช้งานประจำวัน
เสริมด้วยระบบเทคโนโลยีภายในห้องพัก ที่มีระบบ Home Automation จากแบรนด์ LifeSmart ควบคุมไฟฟ้า อุณหภูมิ และความปลอดภัยในห้องแบบ Smart Living พร้อมติดตั้งระบบ Fresh Air ที่ช่วยถ่ายเทอากาศภายในห้อง พร้อมฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM 2.5 เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกวันของการอยู่อาศัย
⇒ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย : โครงการให้บริการ Concierge Service ส่งพัสดุและจดหมายถึงหน้าห้อง พร้อม Lobby Lounge ที่ออกแบบให้โปร่งโล่ง ใกล้ชิดธรรมชาติ ด้วยช่องแสงและเฟี้ยมเปิดรับวิว Backyard ได้เต็มสายตา สามารถนั่งเล่น นั่งทำงาน หรือรับแขกได้ในบรรยากาศที่สบาย
สำหรับคนรักสัตว์ ที่นี่มีพื้นที่ Pet Pocket ที่ออกแบบมาอย่างใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็น Dog Yard, Cleaning Area หรือ Waste Station รองรับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เลี้ยงสัตว์ได้อย่างลงตัว ด้านความปลอดภัยมีระบบครบถ้วน ทั้ง Double Security Gate, ระบบ LPR สำหรับรถยนต์, ระบบ Face Scan เข้าอาคาร พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1623
Line : https://line.me/ti/p/~@adlercondominium
Website : https://bit.ly/4jsODMW
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " EP.xxxx รีวิว ADLER Chan Road | Penthouse Condominium เลี้ยงสัตว์ได้ ในซอยถนนจันทน์ 51 ทำเลสงบส่วนตัว เชื่อมต่อสีลม-สาทร เอกสิทธิ์เฉพาะ 22 ครอบครัว พร้อม Private Lift และที่จอดรถ 200% เริ่ม 23.9 ล้าน* "