logo

รีวิว Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 คอนโดใหม่พร้อมอยู่ ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ เพียง 450 ม.* จาก BTS ปุณณวิถี ติด Cloud11 ตรงข้าม True Digital Park เริ่ม 3.99 ล้าน*

โพสโดย : U / วันที่ : 30 July 2025

รีวิว สกายไรส์ อเวนิว สุขุมวิท 64 / Skyrise Avenue Sukhumvit 64 คอนโดใหม่พร้อมอยู่ ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ เพียง 450 ม.* จาก BTS ปุณณวิถี ติด Cloud11 ตรงข้าม True Digital Park เริ่ม 3.99 ล้าน*

สกายไรส์ อเวนิว สุขุมวิท 64 / Skyrise Avenue Sukhumvit 64

Written by : Pure Thitapa

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ Condonayoo วันนี้เราจะพาทุกคนไปอัปเดตคอนโดพร้อมอยู่ที่เรียกได้ว่าเป็น “Everywhere is next door” ใจกลางสุขุมวิทตอนปลาย ที่มาพร้อมกับบรรยากาศร่มรื่นรายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว บนทำเลศักยภาพของซอยสุขุมวิท 64/2

โครงการนี้คือ Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 จาก Risland Thailand ที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นเรื่องขนาดพื้นที่ ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในย่านปุณณวิถี ทั้งยังเข้าถึงง่าย แต่ยังเต็มไปด้วยการออกแบบที่เน้นคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง

โครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64/2 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ห่างจากถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าเพียง 170 ม.* ทำเลนี้จัดอยู่ในเขต Bangkok CyberTech District ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว รายล้อมด้วยโครงการขนาดใหญ่อย่าง Cloud 11 อยู่ติดกัน, True Digital Park อยู่ฝั่งตรงข้าม และไม่ไกลจาก Bangkok Mall ที่บริเวณแยกบางนาเพียง 2 กม.* จึงตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุนในอนาคต

ในแง่ของการเดินทางก็ถือว่าสะดวกสุด ๆ เพราะโครงการอยู่ใกล้ BTS ปุณณวิถี เพียง 450 ม.* รองรับทั้งคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว และรถไฟฟ้า ด้วยความใกล้ถนนสายหลักอย่างสุขุมวิท, บางนา-ตราด, ทางด่วนเฉลิมมหานครและบูรพาวิถี ทำให้สามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังเอกมัย ทองหล่อ เพลินจิต หรือสยามได้อย่างง่ายดาย

ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยก็ได้รับการรองรับอย่างครบถ้วน ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง โรงเรียนนานาชาติ ไปจนถึงสำนักงานและสถานที่ราชการในบริเวณใกล้เคียง ช่วยให้ใช้ชีวิตในย่านนี้ได้อย่างลงตัวแบบไม่ต้องเดินทางไกล

สกายไรส์ อเวนิว สุขุมวิท 64  เป็นคอนโด High-Rise จำนวน 4 อาคาร (เฟสที่ 1) โดยมีความสูงตั้งแต่ 46-49 ชั้น รวมทั้งหมด 1,920 ยูนิต มีการวางผังอาคารอย่างใส่ใจต่อความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนห้องต่อชั้นเพียง 11 ยูนิต และชั้นบนสุดของอาคารจะเหลือเพียง 5 ยูนิตเท่านั้น ที่สำคัญคือสามารถมองเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาและฝั่งบางกระเจ้าได้จากภายในยูนิตของตัวเอง

งานออกแบบอยู่ภายใต้การดูแลของ “คุณดวงฤทธิ์ บุญนาค” สถาปนิกแถวหน้าของเมืองไทย ที่นำแนวคิดมาสร้างสรรค์เป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์ด้านฟังก์ชัน แต่ยังใส่ใจถึงคุณภาพชีวิตและความสุขในทุกจังหวะของการใช้ชีวิต

สำหรับห้องพักมีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ 1-3 ห้องนอน ไปจนถึงแบบ Duplex โดยมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 28.00-101.23 ตร.ม. และขายแบบ Fully Fitted พร้อมครัว Built-in, เครื่องใช้ไฟฟ้า Hob, Hood, Sink, แอร์ Daikin และ Digital Door Lock ทุกยูนิต / ซึ่งตอนนี้เฟสแรกสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วในปี 2568 นี้

จุดเด่นที่ทำให้ Skyrise Avenue แตกต่างอย่างแท้จริง คือการให้พื้นที่สีเขียวภายในโครงการมากกว่า 40% ของพื้นที่ทั้งหมด พร้อมพรรณไม้กว่า 100 ชนิด ที่ช่วยสร้างความร่มรื่นและบรรยากาศผ่อนคลาย เสริมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม ทั้ง Indoor และ Outdoor กระจายอยู่ครบทุกอาคาร เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้งานได้สะดวกที่สุด

พื้นที่ส่วนกลางน่าประทับใจมาก เช่น สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึง 500 ตร.ม. แยกสระเด็กไว้ชัดเจน มี Co-working Space, Library, Podcast Station, Fitness ขนาดใหญ่ พร้อม Sauna แยกชาย-หญิง, Co-Kitchen และ Family Area สำหรับจัดกิจกรรมหรือปาร์ตี้ภายในครอบครัวอย่างสะดวกสบาย

ยังมีพื้นที่กิจกรรมกลางแจ้งอย่างสนามบาสแบบ Half Court, Jogging Track พื้นซับแรงกระแทก และ Lobby แยกอาคารเพื่อความเป็นส่วนตัว ที่จอดรถส่วนกลางวางแผนไว้ใต้ดินทั้งหมด 2 ชั้น เพื่อให้ได้พื้นที่สวนและภูมิทัศน์ด้านบนที่สวยงาม โดยมีที่จอดรถคิดเป็น 46% ไม่รวมซ้อนคัน

ในด้านความปลอดภัย โครงการใส่ใจถึงรายละเอียดอย่างครบครัน ตั้งแต่ระบบ Easy Pass, ระบบ Face Scan เข้า-ออกอาคารและส่วนกลาง, กล้อง CCTV รอบโครงการ และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.

ทั้งหมดนี้มาในราคาเริ่มต้นเพียง 3.99 ล้านบาท* พร้อมโปรโมชัน ฟรีค่าโอน, ฟรีค่าส่วนกลาง และฟรีติดตั้งมิเตอร์น้ำ-ไฟ เรียกได้ว่า Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 เป็นอีกหนึ่งคอนโดที่ผสานความครบเครื่องเข้ากับบรรยากาศที่น่าอยู่ได้อย่างลงตัว เหมาะกับคนเมืองที่มองหาชีวิตที่สมดุลในทุกวันค่ะ

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://skyrise-sukhumvit64.com/th

โครงการนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันต่อได้เลยค่ะ

ชื่อโครงการ สกายไรส์ อเวนิว สุขุมวิท 64 / Skyrise Avenue Sukhumvit 64
เจ้าของโครงการ Risland Thailand Company
เนื้อที่ทั้งหมด 14 ไร่ (เฟส 1)
จำนวนตึก 4 อาคาร
จำนวนชั้น 46-49 ชั้น
จำนวนห้อง 1,920 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
  • 1 Bedroom 1 Bathroom : 28-35 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 1 Bathroom : 45 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 2 Bathrooms : 55 ตร.ม.
  • 3 Bedrooms 2 Bathrooms : 73 ตร.ม.
  • 3 Bedrooms 3 Bathrooms 87.84-101.23 ตร.ม.
  • Duplex : 35 / 55 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด คิดเป็น 46% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
จำนวนลิฟต์
  • ลิฟต์โดยสาร ระบบ Face Scan 3 ตัว/ อาคาร
  • ลิฟต์บริการ 1 ตัว/ อาคาร
โซน สุขุมวิทตอนปลาย เขตพระโขนง
เส้นทางคมนาคม
  • รถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี : 450 ม.
  • ถนนสุขุมวิท : 170 ม.
  • ถนนวชิรธรรมสาธิต (สุขุมวิท 101/1) : 600 ม.
  • ถนนอุดมสุข : 1.3 กม.
  • ถนนบางนา-ตราด : 1.8 กม.
  • ถนนอ่อนนุช : 4.3 กม.
  • ถนนพระราม 4 : 5.3 กม.
  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร : 2.2 กม.
ที่ตั้ง ซอยสุขุมวิท 64/2 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.
กำหนดการ n/a
ปีที่สร้างเสร็จ คอนโดพร้อมอยู่ปี 2568
ราคา เริ่มต้น 3.99 ล้านบาท* (ก.ค. 68)
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม ประมาณ 124,000 บาท/ ตร.ม.* (ก.ค. 68)
ค่าส่วนกลางและกองทุน
  • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน
  • ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.* (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
สถานที่สำคัญใกล้เคียง ศูนย์การค้า

  • True Digital Park : 400 ม.
  • Bangkok Mall : 2 กม.
  • The Phyll : 2.3 กม.
  • Lotus’s อ่อนนุช : 2.6 กม.
  • People Park : 3.7 กม.
  • Big C Extra อ่อนนุช : 4 กม.
  • Century อ่อนนุช : 4 กม.
  • Summer Hill : 4 กม.
  • Habito Mall : 4.3 กม.
  • Gateway เอกมัย : 4.8 กม.
  • W District : 4.8 กม.
  • Central บางนา : 4.8 กม.
  • Major เอกมัย : 5.3 กม.
  • Seacon Square : 5.3 กม.
  • Parklane เอกมัย : 5.4 กม.
  • Paradise Park : 6.1 กม.
  • Emporium : 7 กม.
  • Emsphere : 7.4 กม.
  • Emquartier : 7.9 กม.
  • Terminal 21 : 11.7 กม.

สถานศึกษา

  • Anglo Singapore : 450 ม.
  • Glory Singapore : 1.6 กม.
  • Berkeley : 2.4 กม.
  • Wells (On Nut Campus) : 2.8 กม.
  • St.Andrews (Sukhumvit 107 Campus) : 3.7 กม.
  • Bangkok Prep (On Nut Campus) : 4.5 กม.
  • St.Andrews (Srivikorn Campus) : 4.5 กม.
  • St.Andrews (Sukhumvit 71 Campus) : 6.2 กม.
  • Ekamai International School (EIS) : 7.3 กม.
  • Bangkok Patana : 5.6 กม.
  • รร.ลาซาล : 7 กม.
  • Montessori Bkk : 8.1 กม.
  • รร.เซนต์โยเซฟ บางนา : 8.7 กม.

โรงพยาบาล

  • รพ.กล้วยน้ำไท 2 : 1.6 กม.
  • รพ.รวมใจรักษ์ : 1.9 กม.
  • รพ.มนารมย์ : 3 กม.
  • รพ.กล้วยน้ำไท : 4.6 กม.
  • รพ.ไทยนครินทร์ : 5.3 กม.
  • รพ.สุขุมวิท : 5.4 กม.
  • รพ.วิมุต-เทพธารินทร์ : 5.8 กม.
  • รพ.สมิติเวช สุขุมวิท : 7.2 กม.
  • รพ.ศิครินทร์ : 8.2 กม.
  • รพ.คามิลเลียน : 7.6 กม.

อาคารสำนักงานและอื่น ๆ

  • CLOUD 11 : 350 ม.
  • 66 Tower : 1.6 กม.
  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ พื้นที่ 3 : 1.9 กม.
  • BITEC BURI บางนา : 2.2 กม.
  • สำนักงานเขตพระโขนง : 2.3 กม.
  • Summer Hub : 4 กม.

**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์ สู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**

สิ่งอำนวยความสะดวก
  • Lobby & Lift Hall แยกอาคาร
  • Laundry Room แยกอาคาร
  • Co-working Space
  • Library Room
  • Podcast Station
  • Fitness & Sauna
  • Co-kitchen Space
  • Family Area
  • Swimming Pool 50 x 10 ม.
  • Basketball Court (Half Court)
  • CCTV
  • เข้า-ออกโครงการผ่านระบบ Easy Pass
  • ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
Tel  02-026-6888 กด 7
Line https://line.me/ti/p/~@skyrise64
Website https://skyrise-sukhumvit64.com/th

ที่ตั้งโครงการ

ซอยสุขุมวิท 64/2 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.

พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/pvSgQXy11Zk2grNw6

หากใครกำลังมองหาคอนโด High-Rise ใจกลางสุขุมวิทตอนปลาย ที่พร้อมรองรับทั้งการใช้ชีวิตและการลงทุนในอนาคต “Skyrise Avenue สุขุมวิท 64” คืออีกหนึ่งโครงการที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยทำเลศักยภาพที่ตั้งอยู่ในย่าน Bangkok CyberTech District จุดเชื่อมต่อสำคัญของเมืองในวันที่เทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว

ตัวโครงการเฟสแรกนี้ถือเป็นคอนโด High-Rise พร้อมอยู่ที่ใหญ่ที่สุดในโซน ด้วยพื้นที่กว่า 22 ไร่ (รวม 2 เฟส) รายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวมากถึง 40% สร้างบรรยากาศเหมือนโอเอซิสกลางเมือง ที่พร้อมเติมเต็มการใช้ชีวิตของคนเมืองทั้งในแง่ของการพักผ่อนและการทำงาน ไม่ว่าคุณจะใช้ชีวิตในจังหวะเร่งรีบ หรืออยากหยุดพักสูดอากาศบริสุทธิ์ในวันที่เหนื่อยล้า โครงการนี้ก็ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ได้ทั้งหมด

ด้านทำเลถือว่าสะดวกมาก เพราะตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 64/2 ห่างจากถนนสุขุมวิทเพียง 170 ม.* เดินไปยัง BTS ปุณณวิถี ได้ในระยะประมาณ 450 ม.* ใช้ชีวิตเชื่อมต่อเมืองได้ง่าย ไม่ว่าจะไปย่านธุรกิจอย่างเพลินจิต ชิดลม หรือสยาม ก็ใช้เวลาไม่นาน อีกทั้งยังแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล สถานศึกษา รวมถึงสถานที่สำคัญทั้งภาครัฐและเอกชน

ที่น่าสนใจคือ ตัวโครงการยังอยู่ตรงข้าม True Digital Park และอยู่ติดกับ ‘Cloud 11’ โปรเจกต์ Mixed-Use ขนาดใหญ่กว่า 27 ไร่ ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จปลายปี 2568 นี้ และยังไม่ไกลจาก ‘Bangkok Mall’ Landmark แห่งใหม่บริเวณแยกบางนา ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในขณะนี้ ทั้งหมดนี้ยิ่งตอกย้ำศักยภาพของทำเลนี้ ว่ากำลังเติบโตต่อเนื่องและมีแนวโน้มจะกลายเป็นหนึ่งในโซนที่มีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต

ในแง่การลงทุนคอนโดในโซนสุขุมวิทปลาย ณ ปัจจุบัน มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 160,000-180,000 บาท/ตร.ม.* และให้ค่าเช่าเฉลี่ย (Rental Yield) อยู่ที่ประมาณ 5-7 %* ซึ่งถือว่าน่าสนใจไม่น้อยสำหรับทั้งผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือมองหารายได้จากการปล่อยเช่าในระยะยาว

“Skyrise Avenue สุขุมวิท 64” จึงเป็นมากกว่าคอนโดพร้อมอยู่ทั่วไป แต่เป็นพื้นที่ของการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ในทำเลที่พร้อมเติบโตไปกับอนาคตของกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง

การเดินทางโดยรถส่วนตัว : จาก “Skyrise Avenue สุขุมวิท 64” ถือว่าสะดวกสบายและคล่องตัวอย่างมาก เพราะตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64/2 ห่างจากถนนใหญ่เพียง 170 ม.* โดยอยู่ฝั่งขาเข้าของถนนสุขุมวิท ทำให้สามารถขับรถเข้าเมืองได้ง่าย เชื่อมต่อไปยังแหล่งธุรกิจสำคัญและย่านไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ได้แบบไม่ซับซ้อน

หากต้องการเข้าสู่โซนใจกลางเมือง สามารถขับตรงไปตามถนนสุขุมวิท ผ่านแยกพระโขนง ก็จะเข้าสู่เอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ ไปจนถึงอโศกได้ในเส้นเดียว ถือเป็นโซนที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ โรงเรียนนานาชาติ และอาคารสำนักงานหลากหลายแห่ง อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปยังสุขุมวิทตอนต้นอย่างนานา เพลินจิต หรือสยามได้สะดวก

เมื่อถึงแยกอโศก หากเลี้ยวซ้ายจะเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก วิ่งต่อไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และสวนป่าเบญจกิติได้สะดวก เส้นทางนี้ยังเชื่อมต่อไปยังแยกพระราม 4 และพระราม 3 ได้อีกด้วย ถือเป็นโซนที่มีทั้งแหล่งงาน แหล่งพักผ่อน และโครงการใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หากเลี้ยวขวาที่แยกอโศก จะเข้าสู่ถนนอโศก-ดินแดง ซึ่งเป็นเส้นหลักในการเดินทางสู่ย่าน New CBD พระราม 9 ได้ทันที โดยไม่ต้องอ้อมไปเส้นอื่น เส้นนี้เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในย่านธุรกิจใหม่ หรือมีจุดหมายอยู่โซนฝั่งเหนือของเมือง ช่วยร่นเวลาเดินทางได้มากในช่วงเร่งด่วน


สำหรับใครที่ต้องการขับรถไปพระราม 4 ก็สามารถเลี้ยวซ้ายที่แยกพระโขนง เข้าสู่ถนนพระราม 4 ได้ทันที เส้นทางนี้สามารถวิ่งยาวผ่านแยกวิทยุ แยกศาลาแดง ไปจนถึงสามย่าน พญาไท และบรรทัดทอง ซึ่งเป็นแหล่งรวมทั้งร้านอาหารชื่อดัง มหาวิทยาลัย และอาคารสำนักงาน เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งโซนที่ใช้ชีวิตได้ครบภายใน 30-40 นาที* (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและการจราจร)


หากต้องการเดินทางออกนอกเมืองก็ทำได้ง่ายดาย เพราะจากหน้าโครงการสามารถกลับรถได้ภายในระยะเพียง 80 ม.* ก่อนถึงซอยสุขุมวิท 64/1 จากนั้นใช้ถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าผ่านอุดมสุข บางนา แบริ่ง ไปจนถึงสำโรง และสมุทรปราการ โดยเป็นเส้นทางตรงที่ไม่ซับซ้อน

จากแยกบางนา ยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนบางนา-ตราด ที่จะพาไปยังทางด่วนบูรพาวิถี ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินทางออกนอกเมือง เช่น ไปฉะเชิงเทรา ชลบุรี หรือภาคตะวันออก นอกจากนี้ยังมีทางเลือกในการใช้วงแหวนกาญจนาภิเษก ที่อยู่ไม่ไกลนัก โดยสามารถขับต่อไปยังพระประแดง สุขสวัสดิ์ พระราม 2 หรือเพชรเกษม ได้อย่างสะดวกอีกด้วย

นอกจากการเดินทางบนถนนสุขุมวิทและถนนสายหลักโดยรอบแล้ว โครงการยังมีข้อได้เปรียบที่สำคัญอีกหนึ่งอย่าง คือ อยู่ใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนเฉลิมมหานคร ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกเมือง โดยอยู่ในระยะทางเพียง 2.6 กม.* ใช้เวลาขับรถประมาณ 5-10 นาที* เท่านั้น ถือว่าสะดวกมากสำหรับผู้ใช้รถยนต์เป็นประจำ

ในฝั่งขาเข้า ทางด่วนนี้จะนำคุณมุ่งหน้าไปยังพระราม 3 สุขสวัสดิ์ และพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อไปยังโซนฝั่งธนบุรีและกรุงเทพฯ ตอนใต้ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นย่านอุตสาหกรรม หรือแหล่งอยู่อาศัยที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ฝั่งขาออก จะสามารถวิ่งต่อเนื่องไปยังทางด่วนสาย S1 และบูรพาวิถี ซึ่งเป็นเส้นหลักในการเดินทางสู่บางนา บางพลี สนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงอย่างฉะเชิงเทราและชลบุรีได้ภายในเวลาเพียงประมาณ 1.30-2 ชม. ขึ้นอยู่กับสภาพจราจรในแต่ละช่วงเวลา

เรียกได้ว่า ทำเลของโครงการนี้มีความยืดหยุ่นสูง ตอบโจทย์ทั้งคนที่ทำงานในเมือง และคนที่มีธุระหรือเดินทางออกนอกเมืองบ่อย ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาวิ่งอ้อมหรือย้อนเข้าตัวเมืองให้ยุ่งยาก ช่วยประหยัดทั้งเวลาและเพิ่มความคล่องตัวให้กับการใช้ชีวิตในทุกวัน

แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

  • ถนนสุขุมวิท : 170 ม.
  • ถนนวชิรธรรมสาธิต (สุขุมวิท 101/1) : 600 ม.
  • ถนนอุดมสุข : 1.3 กม.
  • ถนนบางนา-ตราด : 1.8 กม.
  • ถนนอ่อนนุช : 4.3 กม.
  • ถนนพระราม 4 : 5.3 กม.

  • แยกทุ่งสาธิต : 600 ม.
  • แยกอุดมสุข : 1.3 กม.
  • แยกสุขุมวิท 62 : 1.4 กม.
  • แยกพระโขนง : 1.7 กม.
  • แยกบางนา : 1.8 กม.
  • แยกอุดมสุข : 1.3 กม.
  • แยกอ่อนนุช : 4.3 กม.
  • แยกพระโขนง : 5.3 กม.

  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร : 2.2 กม.

**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์ สู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด*


การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า : ถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของ Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ได้อย่างเต็มที่ ด้วยระยะห่างจาก BTS ปุณณวิถี (ประตู 6) เพียง 450 ม.* เดินถึงได้สบาย หรือหากรีบก็สามารถใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์จากหน้าโครงการได้ในราคาย่อมเยาเพียง 15-20 บาท*

จากสถานีปุณณวิถี ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็เข้าสู่ใจกลางสุขุมวิท ไม่ว่าจะเป็นเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก หรือแม้แต่สยาม โดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย ระหว่างทางยังผ่านห้างและแหล่งไลฟ์สไตล์ชื่อดังอย่าง Gateway เอกมัย, Emporium, EmQuartier, Terminal 21 และ Siam Paragon ได้แบบไม่ต้องกังวลเรื่องรถติดหรือหาที่จอดรถ

หากต้องการเชื่อมต่อกับ MRT ก็สามารถเปลี่ยนขบวนที่ BTS อโศก เพื่อเข้าสู่ MRT สุขุมวิท ได้ทันที เส้นทางนี้จะพาคุณต่อไปยังพระราม 9 และย่าน New CBD ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้การเดินทางรอบเมืองมีทางเลือกที่ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น


ในส่วนของการเดินทางออกเมือง BTS สายสีเขียวก็ครอบคลุมได้ดีไม่แพ้กัน โดยสามารถนั่งต่อเนื่องไปยังอุดมสุข บางนา แบริ่ง สำโรง จนถึงสมุทรปราการได้แบบยาว ๆ หรือหากขึ้นไปทางฝั่งเหนือ ก็สามารถไปได้ถึงห้าแยกลาดพร้าว ม.เกษตรศาสตร์ สะพานใหม่ และสิ้นสุดที่คูคต ได้ในสายเดียว โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน

นอกจากนี้ โครงการยังอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง บนถนนศรีนครินทร์ โดยจะอยู่ระหว่างสถานีศรีอุดมและสถานีสวนหลวง ร.9 แม้จะไม่ได้อยู่ในระยะเดินถึง แต่ก็สามารถใช้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง โดยเฉพาะในวันที่ต้องการเลี่ยงการจราจร หรือต้องเดินทางเชื่อมไปยังพัฒนาการ ลาดพร้าว หรือจุดเชื่อมต่อสายอื่น ๆ ได้ค่ะ

จากโครงการจะอยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี ประตู 6 เพียง 450 ม.* หรือใช้เวลาเดินไปใช้งานได้ราว ๆ 5 นาที*


มาดูความอุดมสมบูรณ์รอบ ๆ โครงการ Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 กันบ้างค่ะ โครงการนี้ตั้งอยู่ช่วงสุขุมวิทตอนปลาย ใจกลางย่านปุณณวิถี หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ Bangkok CyberTech District ย่านที่กำลังกลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ แบบเต็มรูปแบบ

บรรยากาศรอบ ๆ เต็มไปด้วยพลังของคนรุ่นใหม่และนวัตกร เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมบริษัทเทคโนโลยี Startup และสำนักงานด้านนวัตกรรมจากทั้งไทยและต่างประเทศ แถมยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รองรับไลฟ์สไตล์แบบ Smart Living ได้ทั้งการเดินทาง การทำงาน และการใช้ชีวิตแบบไม่ต้องออกจากโซนนี้เลยก็ยังได้

ความพิเศษของทำเลนี้คือการอยู่ใกล้กับ Mega Project ถึง 3 แห่ง เริ่มจาก True Digital Park ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม จะเดินข้ามถนนไป หรือจะใช้ Skywalk จาก BTS ปุณณวิถี เชื่อมตรงเข้าสู่อาคารก็ได้ ที่นี่เป็นศูนย์กลางของ Digital & Startup จากทั่วโลก ภายในมีครบทั้ง Co-Working Space, คาเฟ่, ร้านอาหาร รวมไปถึง Sky Track ทางเดินออกกำลังกายที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปใช้งานได้ฟรี


ถัดมาติดรั้วกับโครงการเลยก็ คือ Cloud 11 จาก MQDC ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้า ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ และบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่ง Mega Project ที่น่าจับตามอง เพราะออกแบบมาให้เป็นพื้นที่ Mixed-use ขนาดใหญ่ที่รวมทุกไลฟ์สไตล์ไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็น Creative Office, Studio Space, Hybrid Retail, Smart Hotel, Lifestyle Hotel ไปจนถึงโซนการศึกษาและวัฒนธรรม

และ theCOMMONS Cloud 11 ถือเป็น “จิ๊กซอว์สำคัญ” ที่เติมเต็มโครงการ Cloud 11 ให้กลายเป็นศูนย์กลางครีเอทีฟครบมิติของสุขุมวิทใต้ ด้วยการออกแบบพื้นที่ที่สร้างสมดุลระหว่าง สร้างงาน พักผ่อน เชื่อมต่อสังคม ได้อย่างกลมกลืน

ไฮไลต์เด็ดของโครงการนี้คือ “สวนลอยฟ้า” ที่บอกเลยว่าใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว จะกลายเป็น Landmark ใหม่ของคนเมืองที่อยากมีพื้นที่สีเขียวไว้พักผ่อนใจกลางสุขุมวิท โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดใช้งานภายในปลายปี 2568 หรืออีกไม่กี่เดือนนี้แล้วนะคะ ซึ่ง Skyrise Avenue ในฝั่งที่ติดกับ Cloud 11 นี้ ก็จะได้เทควิว Landscape ของ Cloud11 ด้วยค่ะ

ใกล้กันยังมี Bangkok Mall Landmark แห่งใหม่ตรงแยกบางนา ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จจะกลายเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในรวมไว้ทั้งโซนที่อยู่อาศัย พื้นที่สำนักงาน ค้าปลีก Arena สำหรับจัดคอนเสิร์ต โรงภาพยนตร์ IMAX จาก Major Cineplex สวนสนุก สวนน้ำ ฟิตเนส และอีกเพียบ เรียกว่าครบทั้งช้อป ชิล สนุก และทำงานในที่เดียว โดยมีกำหนดแล้วเสร็จประมาณปี 2572


ในส่วนของ Hypermarket และ Community Mall ก็มีกระจายตัวอยู่รอบ ๆ หลายแห่ง ทั้งบนถนนสุขุมวิท, อ่อนนุช, บางนา-ตราด และศรีนครินทร์ ไม่ว่าจะเป็น The Phyll, Lotus’s อ่อนนุช, People Park, Big C Extra อ่อนนุช, Century อ่อนนุช, Habito Mall รวมถึงห้างใหญ่ในโซนบางนาอย่าง Central บางนา, Seacon Square และ Paradise Park ก็เดินทางไปถึงได้ในเวลาไม่นาน

หากออกไปทางแยกพระโขนง เอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ และอโศก จะพบกับโซนไลฟ์สไตล์ที่คึกคักและเป็นที่นิยมสุด ๆ ทั้ง Summer Hill, W District, Gateway เอกมัย, Major เอกมัย และ Parklane เอกมัย

รวมถึง Terminal 21 ที่อโศก นอกจากนี้ยังไม่ไกลจาก Emporium, EmQuartier และ Emsphere สามห้างใหญ่ใจกลางสุขุมวิท ซึ่งสามารถนั่ง BTS ไปลงสถานีพร้อมพงษ์ แล้วเดิน Skywalk เข้าห้างได้แบบสบาย ๆ


ด้านสถานศึกษา โครงการนี้อยู่ในโซนที่รายล้อมไปด้วยโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ เริ่มจาก Anglo Singapore ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 64 ห่างจากโครงการแค่ประมาณ 450 ม.* เท่านั้น

ถัดออกไปอีกก็มี Glory Singapore, Berkeley, Wells, Ekamai International School, Bangkok Patana และ Montessori Bangkok

รวมถึง St. Andrews ทั้ง 3 แคมปัส ได้แก่ Sukhumvit 107, Srivikorn Campus และ Sukhumvit 71 ยังรวมถึงโรงเรียนเอกชนชื่อดังฝั่งลาซาล-แบริ่ง อย่าง รร.ลาซาล และ รร.เซนต์โยเซฟ บางนา อีกด้วย


ในด้านการดูแลสุขภาพ โครงการตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำมากถึง 10 แห่ง ภายในระยะทางไม่เกิน 8 กม.* ได้แก่ รพ.กล้วยน้ำไท 2, รพ.รวมใจรักษ์, รพ.มนารมย์, รพ.กล้วยน้ำไท, รพ.ไทยนครินทร์, รพ.สุขุมวิท, รพ.วิมุต-เทพธารินทร์, รพ.สมิติเวช สุขุมวิท, รพ.ศิครินทร์ และ รพ.คามิลเลียน เรียกได้ว่าหายห่วงเรื่องบริการทางการแพทย์


นอกจากนี้ทำเลที่ตั้งของโครงการยังอยู่ใกล้บริษัทเอกชน อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ และหน่วยงานราชการหลายแห่ง เช่น BITEC BURI บางนา, Bhiraj Tower @BITEC, 66 Tower และ Summer Hub

รวมถึงสำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ พื้นที่ 3 และสำนักงานเขตพระโขนง ซึ่งอยู่ในรัศมีประมาณ 10-15 นาที* สะดวกต่อคนที่ต้องติดต่อธุระเรื่องทะเบียนรถ ใบขับขี่ หรือเอกสารราชการต่าง ๆ


ศูนย์การค้า

  • True Digital Park : 400 ม.
  • Bangkok Mall : 2 กม.
  • The Phyll : 2.3 กม.
  • Lotus’s อ่อนนุช : 2.6 กม.
  • People Park : 3.7 กม.
  • Big C Extra อ่อนนุช : 4 กม.
  • Century อ่อนนุช : 4 กม.
  • Summer Hill : 4 กม.
  • Habito Mall : 4.3 กม.
  • Gateway เอกมัย : 4.8 กม.
  • W District : 4.8 กม.
  • Central บางนา : 4.8 กม.
  • Major เอกมัย : 5.3 กม.
  • Seacon Square : 5.3 กม.
  • Parklane เอกมัย : 5.4 กม.
  • Paradise Park : 6.1 กม.
  • Emporium : 7 กม.
  • Emsphere : 7.4 กม.
  • Emquartier : 7.9 กม.
  • Terminal 21 : 11.7 กม.

สถานศึกษา

  • Anglo Singapore : 450 ม.
  • Glory Singapore : 1.6 กม.
  • Berkeley : 2.4 กม.
  • Wells (On Nut Campus) : 2.8 กม.
  • St.Andrews (Sukhumvit 107 Campus) : 3.7 กม.
  • Bangkok Prep (On Nut Campus) : 4.5 กม.
  • St.Andrews (Srivikorn Campus) : 4.5 กม.
  • St.Andrews (Sukhumvit 71 Campus) : 6.2 กม.
  • Ekamai International School (EIS) : 7.3 กม.
  • Bangkok Patana : 5.6 กม.
  • รร.ลาซาล : 7 กม.
  • Montessori Bkk : 8.1 กม.
  • รร.เซนต์โยเซฟ บางนา : 8.7 กม.

โรงพยาบาล

  • รพ.กล้วยน้ำไท 2 : 1.6 กม.
  • รพ.รวมใจรักษ์ : 1.9 กม.
  • รพ.มนารมย์ : 3 กม.
  • รพ.กล้วยน้ำไท : 4.6 กม.
  • รพ.ไทยนครินทร์ : 5.3 กม.
  • รพ.สุขุมวิท : 5.4 กม.
  • รพ.วิมุต-เทพธารินทร์ : 5.8 กม.
  • รพ.สมิติเวช สุขุมวิท : 7.2 กม.
  • รพ.ศิครินทร์ : 8.2 กม.
  • รพ.คามิลเลียน : 7.6 กม.

อาคารสำนักงานและอื่น ๆ

  • CLOUD 11 : 350 ม.
  • 66 Tower : 1.6 กม.
  • สำนักงานขนส่งกรุงเทพฯ พื้นที่ 3 : 1.9 กม.
  • BITEC BURI บางนา : 2.2 กม.
  • สำนักงานเขตพระโขนง : 2.3 กม.
  • Summer Hub : 4 กม.

**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์ สู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**


พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/pvSgQXy11Zk2grNw6

เริ่มจาก BTS บางนา ⇒ แยกบางนา ⇒ ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้า ⇒ BTS อุดมสุข ⇒ ซอยสุขุมวิท 64/2 ⇒ ตรงเข้าไปประมาณ 170 ม.* ถึงโครงการ Skyrise Avenue สุขุมวิท 64

วันนี้เรามีภาพประกอบการเดินทางโดยรถส่วนตัวมาฝากกันด้วยนะคะ

โดยเริ่มจากรถไฟฟ้า BTS บางนา บนถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าไปแยกบางนา

ผ่าน BITEC BURI ทางฝั่งขวามือไป

ขับผ่านแยกบางนา ที่เป็นจุดตัดระหว่างถนนบางนา-ตราด, ถนนสุขุมวิท, และถนนสรรพาวุธ ขึ้นไปค่ะ

ผ่านแยกบางนามาแล้วให้เราตรงไปตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ผ่านซอยสุขุมวิท 68 ซอยทางเข้า รพ.กล้วยน้ำไท 2

ผ่าน BTS อุดมสุข

ผ่าน 66 Tower ทางฝั่งซ้ายมือ

ข้ามแยกทุ่งสาธิต และถนนวชิรธรรมสาธิตไป

ตรงมาจะเจอกับด้านหน้า Cloud 11 ให้เราชิดซ้ายไว้เลยนะคะ

ผ่าน Cloud 11 มาแล้ว ให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 64/2 สังเกตด้านหน้าปากซอยจะเป็นที่ตั้งของโชว์รูป GWM ค่ะ

ขับเข้าซอยไปประมาณ 170 ม.* ถึงโครงการ

ขับตรงเข้าไปในซอยสุขุมวิท 64/2

ถึงด้านหน้าทางเข้า-ออกโครงการ Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 แล้วค่ะ


ภาพมุมสูงโครงการ Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 สะท้อนให้เห็นถึงทำเลที่มีความสะดวกและรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ตัวโครงการตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 64/2 โดยห่างจากถนนสุขุมวิทเพียงประมาณ 170 ม.* เท่านั้น ทำให้เข้า-ออกเมืองได้สะดวกมาก

บริเวณหน้าปากซอยจะเป็นที่ตั้งของโชว์รูม Omoda & Jaecoo และ GWM ส่วนฝั่งตรงข้ามซอยคือ True Digital Park ศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นจุดเชื่อมโลกของ Startup และ Digital Lifestyle จากทั่วโลก

ด้านทิศใต้ของโครงการ เป็นที่ตั้งของ Cloud 11 โครงการ Mixed-use ขนาดใหญ่จาก MQDC ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2568 โดยมีพื้นที่สำหรับ Creative Office, Studio, Hybrid Retail และสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ

ขยับขึ้นไปทางทิศเหนือ จะพบซอยรองที่สามารถเชื่อมต่อไปยังสุขุมวิท 64/1 ได้ โดยบริเวณนี้ยังมี 7-Eleven ตั้งอยู่ติดโครงการ ให้เดินไปซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่าย ๆ ฝั่งตรงข้ามกันเป็นสำนักงานของ บริษัทกลางฯ ที่ตั้งอยู่ในละแวกเดียวกัน

ส่วนด้านหลังโครงการ หรือฝั่งทิศตะวันตก จะเป็นโซนที่อยู่อาศัยแนวราบและหอพัก ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูสงบ ไม่พลุกพล่านจนเกินไป และยังช่วยเสริมความเป็นส่วนตัวให้กับผู้พักอาศัยในโครงการอีกด้วย

รอบโครงการ

  • ทิศเหนือ : 7-Eleven / กลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบและหอพัก
  • ทิศใต้ : Cloud 11
  • ทิศตะวันออก : ถนนสุขุมวิท / True Digital Park
  • ทิศตะวันตก : กลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบและหอพัก

พาเดินสำรวจดูรอบ ๆ โครงการ และเดินไปรถไฟฟ้าให้เห็นบรรยากาศรอบ ๆ กันต่อค่ะ

จากหน้าโครงการ เดินไปทางด้านซ้ายมือกันก่อน ริมถนนซอยจะมีทางเท้าให้เดินไปไหนมาไหนได้สะดวก

ซอยนี้จะเป็นซอยสุขุมวิท 64/2 แยก 3 ที่ใช้ลัดออกไปซอยสุขุมวิท 64/1 ได้

ซ้ายมือจะเป็น 7-Eleven ที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด จากหน้าโครงการเดินมาซื้อของกิน ของใช้ ข้าวกล่อง กาแฟเครื่องดื่มต่าง ๆ ก่อนเข้า-ออกบ้านได้ะดวกค่ะ

ขวามือจะเป็นที่ตั้งของบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด (สำนักงานใหญ่) และ บริษัท ไทยอินชัวรันส์ รีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

เดินย้อนกลับมาที่ด้านหน้าโครงการ แล้วมองตรงออกไปทางซอยสุขุมวิท 64/2 จากจุดนี้เดินไปหน้าปากซอยในระยะทางประมาณ 170 ม.*

ภายในซอยจะมีโฮมออฟฟิศ, คอนโด Low-Rise, อู่ซ่อมสีตัวถัง, ศูนย์บริการของ Omoda & Jaecoo และ GWM

จากในซอยมองออกไปจะเห็นอาคาร True Digital Park ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

ออกมาหน้าปากทาง จะเจอกับถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้า ส่วนด้านบนเกาะกลางถนนจะเป็น Skywalk ที่เดินเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถี เชื่อมกับ True Digital Park ได้เลยค่ะ

บรรยากาศบนถนนสุขุมวิทในช่วงบ่าย ๆ

จากโชว์รูม Omoda & Jaecoo เดินไปยังสถานีรถไฟฟ้ากันต่อค่ะ

ทางเดินเท้ากว้างขวาง เดินไปใช้รถไฟฟ้าได้สะดวก

จากหน้าปากทางตรงมาราว ๆ 50 ม.* จะเจอกับกลับจุดกลับรถไปสุขุมวิท ฝั่งขาออก และแยกบางนา

ด้านหน้าเป็นซอยสุขุมวิท 64/1

หน้าปากซอยสุขุมวิท 64/1 จะเป็นที่จอดรถเอกชนรายวัน-รายชั่วโมง

ถัดมาจะเป็นตึกแถวร้านค้าดั้งเดิมที่เปิดอยู่ริมถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้า

ตรงมาไม่ไกลจะมีป้ายรถเมล์ให้ใช้งาน

ถัดมาจะเจอกับประตูทางออก ของ รร.นานาชาติ Anglo Singapore

มองกลับมาจะมีสะพานลอยให้ใช้ข้ามไปฝั่งตรงข้ามได้

ตรงมาจนจะเจอกับซอยสุขุมวิท 64 และทางม้าลายที่ใช้ข้ามไปฝั่งตรงข้าม และสถานีรถไฟฟ้า

มองเข้าไปในซอยจะเห็น รร.นานาชาติ Anglo Singapore ฝั่งประตูทางเข้า ที่ด้านหน้าจะมีคิวมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ถ้าลูกบ้านนั่งจากวินนี้ไปโครงการ จะมีค่าโดยสารอยู่ที่ 25 บาทค่ะ

ข้ามถนนมาก็จะเจอกับรถไฟฟ้า BTS ปุณณวิถี ประตู 6 แล้วค่ะ วัดระยะทางจากโครงการเดินมาได้ชิล ๆ เพียง 450 ม.* เท่านั้นค่ะ


ตัวโครงการ

โครงการ Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 เฟส 1 เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High-Rise ที่พัฒนาบนพื้นที่ดินประมาณ 14 ไร่ จากทั้งหมด 22 ไร่ โดยในเฟสแรกนี้จะประกอบด้วยอาคารพักอาศัย 4 อาคาร ได้แก่ อาคาร D และ E สูง 48 ชั้น, อาคาร F สูง 46 ชั้น และอาคาร G ซึ่งสูงที่สุดในเฟสนี้ที่ 49 ชั้น รวมจำนวนยูนิตทั้งหมด 1,920 ยูนิต

การออกแบบโครงการเป็นผลงานของ คุณด้วง ดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกชั้นนำของไทย ภายใต้แนวคิด Modern Minimal ที่เน้นความเรียบง่าย โปร่งโล่ง และฟังก์ชันการใช้งานที่ลงตัว

โดยมีการจัดผังพื้นที่อย่างเป็นระบบ แยกสัดส่วนพื้นที่พักอาศัยออกจากโซนพื้นที่ส่วนกลางอย่างชัดเจน เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมความเป็นส่วนตัวสูงสุดในทุกมิติของการอยู่อาศัย

จุดเด่นอีกอย่างคือการวางแนวอาคารให้หันเหลื่อมกันตามผังโดยรวม ซึ่งช่วยให้เกิด Layout ห้องที่หลากหลาย ทั้งขนาด ทิศ และมุมมอง ช่วยเพิ่มทางเลือกในการอยู่อาศัยให้ตรงกับ Lifestyle ที่แตกต่างกันของแต่ละคนได้อย่างลงตัว

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด “Harmonic Living Arise สมดุลชีวิตใหม่ใจกลางเมือง” เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด ส่งผ่านความโดดเด่นของโครงการ ทั้ง 3 ส่วนหลัก ได้แก่

1) The Living Area : พื้นที่พักอาศัยที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว

ด้วยจำนวนยูนิตรวมมากถึง 1,920 ยูนิต และมีการพัฒนาแยกออกเป็น 4 อาคาร โครงการจึงออกแบบให้ในแต่ละชั้นมีเพียง 4-11 ยูนิต เพื่อรักษาความสงบ และลดความแออัดในการอยู่อาศัย

โดยเฉพาะใน 3 ชั้นบนสุด ที่จะพิเศษยิ่งขึ้นด้วยจำนวนยูนิตเพียง 4 ห้องต่อชั้น ทั้งหมดเป็นห้องขนาดใหญ่ พร้อมวิวมุมสูงที่เปิดกว้าง สามารถมองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งบางกระเจ้าได้จากระเบียงส่วนตัว เสริมความรู้สึกพรีเมียมในการอยู่อาศัย


2) The Recreation Area : พื้นที่พักผ่อนและกิจกรรมที่ตอบโจทย์คนเมืองยุคใหม่

โครงการให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวและฟังก์ชันการใช้งานของพื้นที่ส่วนกลางอย่างแท้จริง โดยจัดพื้นที่สีเขียวไว้มากถึงกว่า 40% ของพื้นที่ทั้งหมด พร้อมตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้กว่า 100 ชนิด ทำให้บรรยากาศภายในโครงการร่มรื่นเสมือนโอเอซิสกลางเมือง

ในส่วนของกิจกรรม โครงการมีพื้นที่ส่วนกลางทั้งแบบ Indoor และ Outdoor กระจายอยู่ในแต่ละอาคาร รองรับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ถึง 500 ตร.ม. (เทียบเท่าสระโอลิมปิก), Co-working Space, Fitness Center, Podcast Station, Co-Kitchen Space, Family Area, Sauna Room และสนามบาสเกตบอลแบบ Half Court รวมถึงโซนออกกำลังกายอื่น ๆ อีกมากมาย


3) The Car Safety Area : ระบบจอดรถที่ปลอดภัยและเป็นระเบียบ

แม้จะเป็นโครงการขนาดใหญ่ แต่ก็ให้ความสำคัญกับพื้นที่จอดรถอย่างเต็มที่ โดยออกแบบให้จอดรถทั้งหมดอยู่ใต้ดินถึง 2 ชั้น เพื่อให้ผิวดินเปิดโล่งและไม่บดบังทัศนียภาพ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย และจัดสรรพื้นที่สีเขียวได้มากขึ้น โดยสามารถรองรับการจอดรถได้ถึง 46% ของจำนวนยูนิต (ไม่รวมซ้อนคัน)

มาดูผังโครงการกันต่อเลยค่ะ ตั้งแต่ก้าวเข้ามาจากด้านหน้า จะเจอกับถนนเมนที่พาเราเข้าสู่ใจกลางโครงการ ฝั่งขวามือคืออาคารสำนักงานและร้านค้าสูง 6 ชั้น ที่ออกแบบมาให้รองรับทั้งผู้พักอาศัยและบุคคลภายนอก ส่วนฝั่งซ้ายมือจะเป็น Sales Gallery และพื้นที่พัฒนาในอนาคต ซึ่งในอนาคตตรงนี้อาจกลายเป็นโซนที่น่าจับตามองอีกมุมหนึ่งของโครงการเลยก็ว่าได้

เมื่อขับรถเข้ามาด้านในจะเจอกับ Gate ระบบ Easy Pass ที่ช่วยให้การเข้า-ออกสะดวกรวดเร็ว ถัดเข้ามาเป็นถนนที่แยกไปยังลานจอดรถกลางแจ้ง และทางลงสู่ที่จอดรถใต้ดิน โดยโครงการจัดสรรที่จอดรถไว้มากถึง 46% ของจำนวนยูนิต (ยังไม่รวมจอดซ้อนคัน) พร้อมลิฟต์โดยสารและทางเดินเชื่อมขึ้นมายังอาคารที่พักอาศัยได้โดยตรงจากชั้นใต้ดิน

สำหรับเฟสแรกของโครงการ จะเป็นอาคารพักอาศัยแบบ High-Rise สูง 46-49 ชั้น จำนวน 4 อาคาร ได้แก่ อาคาร D, E, F และ G ซึ่งวางผังเป็นแนวเฉียงทั้งหมด ห้องพักอาศัยเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 46, 48 และ 49 แต่ละอาคารจะแยก Lobby, Mailbox และ Laundry Room ออกจากกัน ใช้การเข้า-ออกผ่านระบบ Face Scan เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ตรงข้ามกับอาคารพักอาศัย ถูกจัดวางเป็นโซนพักผ่อนขนาดใหญ่ เริ่มตั้งแต่สวนสีเขียวที่ทอดยาวไปจรดอาคารส่วนกลาง, สนามบาสเกตบอลแบบ Half Court, สระว่ายน้ำ Olympic Size ขนาด 10 x 50 ม. ที่อยู่ติดกับอาคาร Co-Kitchen Space & Family Area ซึ่งเปิดให้ลูกบ้านจองใช้สำหรับทำอาหาร จัดปาร์ตี้ หรือนั่งเล่นกับครอบครัวได้แบบเป็นส่วนตัว

ขยับมาหน่อยจะเจอกับโซน Playground และสวนหย่อมสำหรับเด็ก ๆ รวมถึงอาคารตรงกลางที่ดินซึ่งเป็นห้อง Fitness ขนาดใหญ่ เครื่องออกกำลังกายจัดเต็มระดับเดียวกับยิมในห้างเลยค่ะ ภายในยังมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง พร้อมห้อง Sauna สำหรับใครที่ชอบผ่อนคลายหลังออกกำลังกายด้วย

สุดท้ายตรงหน้าอาคาร D จะเป็นอาคารส่วนกลางอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ นั่นคือ Co-Working Space และ Library ที่เปิดให้ลูกบ้านมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือใช้เป็นที่พักผ่อนเบา ๆ ทุกพื้นที่จะมี Wifi ให้ใช้ฟรี และยังมีห้อง Podcast Station สำหรับใครที่อยากอัดเสียง ทำงานสายคอนเทนต์ หรือจะนั่งคุยงานแบบส่วนตัวก็ใช้ได้เลยค่ะ


ภาพมุมสูงโครงการจริง ที่พร้อมเข้าอยู่แล้ว 100%


ทางเข้า-ออกโครงการ Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 เฟส 1 จะอยู่ทางด้านขวามือ เมื่อมองมาจากหน้าปากซอยสุขุมวิท 64/2

ติดกับถนนเมนในโครงการ จะเป็น Office & Commercial สูง 6 ชั้น

ด้านซ้ายจะเป็นที่ดินของเฟส 2 โดยด้านหน้าจะเป็นที่ตั้งของ Sales Gallery และที่จอดรถสำหรับลูกค้าที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมโครงการ

การเดินรถภายในโครงการเป็นแบบ 2 Ways เข้า-ออกสวนทางกัน ถนนเมนมีความกว้าง รถยนต์ขับเข้า-ออกสวนทางกันได้สะดวก และด้านซ้ายมือจะเป็นทางเดินเท้าให้ลูกบ้านเดินเข้า-ออกโครงการได้สะดวกและปลอดภัย

ตรงเข้ามาด้านในจะเจอกับ Gate ของโครงการ แบ่งช่องรถเข้า-ออกไว้แยกกัน ลูกบ้านเข้าออกได้สะดวกสบายผ่านระบบ Easy Pass และไม้กระดกอัตโนมัติ ส่วน Visitors สามารถกดปุ่มรับ Auto Ticket ผ่านตู้ Kiosk นี้ ได้ค่ะ

ด้านข้างเป็นทางเดินเท้าที่มีการจัดสวนแนวรั้ว พร้อมหลังคาคลุมกันแดดกันฝนให้ตลอดแนวทางเดิน ตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงภายในโครงการ

เข้ามาด้านในจะเจอกับทางแยกซ้าย-ขวา ฝั่งซ้ายจะเชื่อมกับ Drop-Off และที่จอดรถด้านหลังอาคาร ส่วนขวามือจะเชื่อมกับที่จอดรถกลางแจ้ง และที่จอดรถชั้นใต้ดิน

บริเวณที่จอดรถกลางแจ้ง จะมีการจัดสวนแนวตั้ง ปลูกต้นไม้ใหญ่ให้รอบ ๆ และใช้การเดินรถแบบ 2 Way เชื่อมกับที่จอดรถชั้นใต้ดิน ที่มีให้ทั้งหมด 3 อาคาร คือ Parking 1, Parking 2 และ Parking 3 อาคารละ 2 ชั้น พร้อมทางขึ้นสู่ด้านบนอาคาร ผ่านลิฟต์โดสารหรือบันได อาคารละ 2 จุด คือ เชื่อมขึ้นมายังที่จอดรถกลางแจ้งด้านนอก หรือเชื่อมขึ้นมายังพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ

ทางลงสู่ที่อจดรถชั้นใต้ดินทั้ง 2 ชั้น

ภายในที่จอดรถชั้นใต้ดิน สำหรับที่จอดรถของโครงการนี้ จะคิดเป็น 46% ของจำนวนยูนิต โดยไม่รวมการจอดซ้อนคัน

แต่ละอาคารจะมีลิฟต์โดยสารและบันไดหนีไฟไว้สำหรับขึ้น-ลงขึ้น-ลงได้สะดวก

กลับมาที่ด้านบน จากที่จอดรถกลางแจ้งด้านนอก เลี้ยวซ้ายต่อมาจะเชื่อมกับที่จอดรถด้านหลังอาคารพักอาศัย และ Drop-off ด้านหน้าอาคาร

จากทางเดินเท้าข้ามถนนมา จะมีทางเดินในร่มให้เชื่อมต่อไปยังอาคารพักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลางได้แบบนี้ค่ะ

ทางขึ้น-ลงจากอาคารไปชั้นจอดรถใต้ดินภายในโครงการ จะมีทั้งหมด 3 จุด

อาคารส่วนกลางแบบในร่มมีให้ทั้งหมด 3 อาคาร ทุกอาคารเป็นห้องผนังกระจกโค้ง Full Height เปิดรับวิวได้รอบด้าน และสามารถเข้า-ออกได้ 2 ฝั่ง โดยอาคารแรก ที่อยู่ตรงข้ามกับอาคาร D จะเป็น Co-working Space Library และ Podcast Station

เมื่อขับเข้ามาด้านใน จะเจอกับทางแยกซ้าย-ขวาที่เชื่อมไปยังแต่ละอาคาร โดยทุกจุดเข้า-ออกภายในโครงการจะใช้ระบบ Face Scan เพื่อคัดกรองเฉพาะลูกบ้าน เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้มากขึ้น นอกจากนี้แต่ละอาคารยังมีห้องน้ำส่วนกลางแยกชาย-หญิงอย่างชัดเจน และจัดไว้หลายห้องเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละโซนเลยค่ะ

Co-working Space & Library ของที่นี่ออกแบบมาได้กว้างขวางและโปร่งสบาย ด้วยผนังกระจกโค้งแบบ Full Height ที่เปิดรับวิวสวนรอบด้าน ช่วยเพิ่มบรรยากาศผ่อนคลายขณะใช้งาน ภายในมีชุดโต๊ะกลมและเก้าอี้จัดไว้หลากหลายมุม เหมาะสำหรับนั่งอ่านหนังสือ เล่นมือถือ หรือใช้เป็นพื้นที่คิดงาน ส่วนอีกฝั่งจะมีโต๊ะทำงานตัวยาว รองรับการทำงานแบบกลุ่มได้อย่างสะดวกค่ะ

อีกฝั่งของห้องจะมี Podcast Station แยกไว้ให้ 1 ห้อง เป็นพื้นที่เฉพาะสำหรับคนทำงานสาย Content หรือสายครีเอเตอร์ ที่ต้องการอัดเสียงหรือบันทึกงานแบบจริงจัง โดยไม่ต้องเสียเวลาออกไปเช่า Studio ด้านนอก เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการทำงานจากที่บ้านได้แบบครบจบในที่เดียวค่ะ

ต่อไปจะเป็นอาคารส่วนกลาง ทีอยู่ตรงข้ามกับอาคาร E และ F

ด้านหน้าจะเป็นทางขึ้น-ลงอาคารและที่จอดรถชั้นใต้ดิน Parking 2

ขวามือเป็นทางเข้าสู่ Fitness และ Sauna

ห้อง Fitness ของโครงการออกแบบมาในขนาดใหญ่เทียบเท่า Gym ชั้นนำ มาพร้อมผนังกระจกโค้งแบบ Full Height ที่เปิดรับมุมมองกว้างถึง 270 องศา ให้บรรยากาศโล่งสบายขณะออกกำลังกาย ภายในจัดเต็มด้วยเครื่องออกกำลังกายรุ่นใหม่ทันสมัยครบทุกประเภท และยังมีการแบ่งโซนการใช้งานอย่างเป็นสัดส่วน ทั้งโซน Cardio และ Weight Training ช่วยให้การออกกำลังกายเป็นระเบียบ และสะดวกมากยิ่งขึ้นค่ะ

ฝั่งที่ติดกับผนังกระจกของห้อง Fitness จะเป็นโซนเครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio ที่จัดวางไว้ครบครัน ทั้ง Treadmill, Upright Bike Recumbent Bike, Elliptical และ Rowing Machine ให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย พร้อมชมวิวสวนสวยรอบด้านไปด้วยขณะออกกำลังกายค่ะ

ตรงกลางห้องติดกับผนังกระจกเงาเป็นโซน Weight Training มี Machine บริหารกล้ามเนื้อต่าง ๆ พร้อม Slam Ball และ Kettlebell คละน้ำหนักจัดไว้ให้ครบ

อีกด้านของห้องจะเป็นโซน Weight Training ที่จัดเต็มด้วยเครื่องออกกำลังกายสำหรับบริหารกล้ามเนื้อหลากหลายส่วน ทั้งแบบ Machine และอุปกรณ์เสริมอย่าง Slam Ball และ Kettlebell ที่มีให้เลือกหลายน้ำหนัก ครบครันสำหรับการออกกำลังกายแบบเวทอย่างจริงจังในทุกระดับค่ะ

ด้านท้ายของห้อง Fitness จะมีชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้ให้นั่งพักเหนื่อย พักดื่มน้ำให้อีก 3 กลุ่ม กลุ่มละ 3 ที่นั่ง

ต่อเนื่องไปจะเป็นทางเข้า-ออกอีกฝั่ง ที่เชื่อมมาจากที่จอดรถกลางแจ้งได้สะดวก

ภายในห้อง Fitness ยังมีฟังก์ชันของห้องน้ำส่วนกลาง และ Sauna แยกห้องชาย-หญิงมาให้ด้วย

ข้ามาด้านในห้องน้ำหญิง จะพบกับล็อกเกอร์ 16 ตู้ ที่สามารถใช้งานได้สะดวกผ่านระบบ Pin Code ไม่ต้องพกกุญแจให้ยุ่งยาก

ถัดเข้าไปด้านในมีฟังก์ชันครบครัน ทั้งเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ กระจกส่องหน้าบานใหญ่ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และห้อง Sauna ที่เตรียมไว้ให้ใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัวและผ่อนคลาย

ทางฝั่งห้องน้ำชายก็จัดฟังก์ชันไว้เช่นเดียวกัน เพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกสบายครบทุกด้าน

ถัดจากห้อง Fitness ออกมาพื้นที่กลางแจ้ง จะเป็นโซน Playground สำหรับเด็ก ๆ ในโครงการ ซึ่งจัดเตรียมเครื่องเล่นสนามชุดใหญ่ไว้ให้แบบจัดเต็ม พร้อมพื้นยางกันกระแทกสีสันสดใส ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บเวลาหกล้ม ให้เด็ก ๆ ได้สนุกอย่างปลอดภัย และคุณพ่อคุณแม่ก็อุ่นใจได้ค่ะ

ต่อเนื่องมาด้านหน้าฝั่งอาคาร F และ G จะเจอกับทางขึ้น-ลงอาคารและที่จอดรถชั้นใต้ดิน Parking 1

มองกลับเข้ามาจะเจอกับสระว่ายน้ำ และอาคารส่วนกลางจุดสุดท้าย นั่นก็คือ Co-kitchen Space และ Family Area

ทางขึ้น-ลงอาคาร และสระว่ายน้ำจะตั้งอยู่ด้านหลัง

อาคารนี้จะมีทางขึ้นทั้งแบบบันได และ Ramp เพื่อรองรับกลุ่มลูกบ้านที่ใช้ Wheelchair หรือรถเข็นเด็กให้ขึ้นมาใช้งานได้สะดวก

ตรงขึ้นมาจะเจอกับโถงด้านหน้า และห้องน้ำส่วนกลาง

ทางเข้าไปยัง Co-kitchen Space และ Family Area จะอยู่ด้านขวา ใช้งานผ่านระบบ Face Scan เหมือนกันกับอาคารอื่น ๆ

Co-kitchen Space และ Family Area เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนในครอบครัวได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะทำอาหาร จัดปาร์ตี้สังสรรค์ หรือนั่งพักผ่อนชิล ๆ ตัวห้องยังคงดีไซน์โปร่งโล่ง ด้วยผนังกระจกโค้ง Full Height ที่เปิดรับมุมมองได้กว้างถึง 270 องศา มองเห็นทั้งวิวสวน วิวสระว่ายน้ำ และสนามบาสในบรรยากาศที่สบายตา

โซนแรกของห้องจัดวางชุดโต๊ะ-เก้าอี้แบบกลุ่ม พร้อมโซฟานุ่ม ๆ ให้นั่งเล่นหรือพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย

ส่วนอีกฝั่งเป็นเคาน์เตอร์ทำอาหารพร้อมบาร์สำหรับนั่งทานข้าว จิบเครื่องดื่ม หรือพูดคุยกันแบบอบอุ่น

อุปกรณ์ครัวก็ให้มาครบ ทั้งเตาไฟฟ้า เตาอบ และซิงค์ล้างจาน พร้อมใช้งานจริงได้ทันที

มองออกไปจากห้องนี้จะได้วิวสระว่ายน้ำที่เปิดโล่ง สวยงามและผ่อนคลายสุด ๆ

อีกด้านของอาคารยังเชื่อมต่อกับ ทางเดินในร่ม ที่สามารถเดินจากด้านหลังมายังสระว่ายน้ำได้โดยตรง ซึ่งบริเวณนี้จะมีห้องน้ำส่วนกลางแยกชาย-หญิงให้พร้อม สะดวกต่อการใช้งานหลังว่ายน้ำหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งค่ะ

ออกจากตัวอาคารมาจะพบกับ Pool Terrace ขนาดใหญ่ที่แบ่งพื้นที่ซ้าย-ขวาไว้อย่างชัดเจน พร้อมจัดวาง Sunbed สำหรับนั่งเล่นหรือนอนอาบแดดไว้ 4 ที่นั่ง ให้บรรยากาศเหมือนรีสอร์ตใจกลางเมือง

สระว่ายน้ำหลักของโครงการเป็นสระระบบน้ำเกลือ ขนาดใหญ่ถึง 500 ตร.ม. โดยมีความยาว 50 ม. และกว้าง 10 ม. เทียบเท่าสระโอลิมปิกจริงจัง เหมาะสำหรับการว่ายน้ำออกกำลังกายแบบ Lap Pool ทั้งสายฟิตหรือว่ายน้ำเพื่อผ่อนคลายก็ใช้ได้สบาย

อีกมุมจะเป็นสระว่ายน้ำเด็ก แยกออกมาต่างหากเพื่อความปลอดภัย ขนาดสระถือว่าใหญ่พอสมควร เด็ก ๆ สามารถเล่นน้ำพร้อมกันได้หลายคนโดยไม่รู้สึกแออัด

รอบ ๆ สระว่ายน้ำยังโอบล้อมด้วยสวนสีเขียวที่ตกแต่งด้วยพรรณไม้กว่า 100 ชนิด ให้ความรู้สึกร่มรื่น สดชื่น และผ่อนคลายตลอดทั้งวัน

มุมสูงสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และอาคารส่วนกลาง Co-kitchen Space และ Family Area

มองขึ้นไปจะเห็นอาคารพักอาศัยเรียงตัวอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งช่วย Buffer แสงแดดในช่วงบ่าย ทำให้พื้นที่ริมสระใช้งานได้สบาย ไม่ร้อนจัด และเหมาะกับการพักผ่อนตลอดทั้งวันค่ะ

ถัดจากสระว่ายน้ำจะเป็นสนามบาสเก็ตบอลแบบ Half Court ที่ออกแบบไว้ใช้งานได้จริงจัง โดยมีการล้อมรั้วสูงรอบด้าน เพื่อความปลอดภัยและให้เล่นได้เต็มพลังแบบไม่ต้องกังวล บรรยากาศรอบสนามยังโอบล้อมด้วยสวนสีเขียว สลับกับต้นไม้ใหญ่ ให้ความรู้สึกร่มรื่น เย็นสบาย และช่วยเติมความผ่อนคลายระหว่างทำกิจกรรมกลางแจ้งได้เป็นอย่างดีค่ะ

ภายในสนามบาสเก็ตบอลไม่ได้จำกัดแค่การเล่นบาสเท่านั้นนะคะ ลูกบ้านสามารถปรับพื้นที่ให้เหมาะกับกิจกรรมอื่น ๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการตีแบดมินตัน ตีเทนนิส หรือเล่นกีฬารูปแบบอื่น ๆ ตามความต้องการ พื้นที่เปิดโล่ง ใช้งานอเนกประสงค์แบบนี้ ยิ่งช่วยให้การออกกำลังกายสนุกและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นค่ะ

จากพื้นที่ส่วนกลางด้านนอก มองกลับไปจะเห็นตัวอาคารพักอาศัยที่เรียงตัวสวยงาม เดี๋ยวเราจะพาเข้าไปชม พื้นที่ส่วนกลางในร่มกันต่อ ซึ่งแต่ละอาคารจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกแยกไว้เป็นสัดส่วน

โครงการมี Shuttle Van รับ-ส่งลูกบ้าน จุดจอดอยู่ที่ด้านหน้าอาคาร E ให้บริการตั้งแต่เวลา 6.00-21.00 น. (รถออกทุก 30 นาที หรือเมื่อผู้โดยสารเต็ม)

วันนี้เราพาเข้ามาชม ส่วนกลางและห้องตัวอย่าง ที่ฝั่งอาคาร E กันค่ะ เริ่มตั้งแต่บริเวณ Lobby ซึ่งการเข้า-ออกสะดวกสบายด้วยประตูเลื่อนอัตโนมัติ

เมื่อเดินเข้ามาจะเจอกับ Lobby และ Reception เป็นจุดแรก

ฝั่งขวามือคือเคาน์เตอร์ Reception ของโครงการ ซึ่งออกแบบในโถงเพดานสูงแบบ Double Space ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง และโอ่อ่า

ถัดมาทางซ้ายมือเป็นโซนที่นั่งพักคอย พร้อมจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้อย่างลงตัว

ส่วนด้านในสุดจะมีมุมนั่งรออีกจุดหนึ่ง พร้อมโซฟา 2 ชุด เหมาะสำหรับนั่งรออาหาร Delivery รอรถโดยสารจาก Application หรือใช้เป็นพื้นที่รับรองแขกที่มาเยี่ยมเยือนได้เช่นกัน

ถัดไปด้านหลังสุดของโซน Lobby จะเป็นห้องน้ำส่วนกลาง และประตูทางเข้า-ออกอีกทางจากที่จอดรถด้านหลัง

ห้องน้ำ Disabled แบบ Unisex สำหรับผู้สูงอายุ หรือลูกบ้านที่ใช้ Wheelchair

ห้องน้ำหญิงและชาย แยกกันเป็นสัดส่วน พร้อมฟังก์ชันมาตรฐานครบครัน ทั้งอ่างล้างมือ ห้องน้ำ และโถสุขภัณฑ์ชาย*

ถัดจาก Lobby จะเป็นพื้นที่ Public Zone และห้องนิติบุคคล โดยการเข้า-ออกโถงลิฟต์จะผ่านระบบ Face Scan ที่ควบคุมการเข้าถึงเฉพาะลูกบ้าน พร้อมประตูเลื่อนอัตโนมัติ ลดการสัมผัสและเพิ่มความสะดวกสบาย

ภายในโซนนี้จะมีห้อง Laundry Room, Mailbox และประตูเชื่อมเข้าสู่ห้องพักที่อยู่ชั้น 1

ภายใน Mailbox ใช้กล่องสแตนเลสดีไซน์เรียบหรู แยกหมายเลขยูนิตชัดเจน ใช้งานง่ายและดูสวยงาม

ตรงข้ามกับ Mailbox จะเป็นโถงลิฟต์ โดยแต่ละอาคารจะมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ใช้งานผ่านระบบ Face Scan แบบระบุชั้น เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว พร้อมลิฟต์บริการแยกต่างหากสำหรับแม่บ้านหรือขนของ และบันไดหนีไฟทางด้านซ้ายมือค่ะ

แปลนอาคารชั้น 3-45 : เป็น Typical Floor Plan หรือผังหลักที่จัดรูปแบบเหมือนกันทุกชั้นนะคะ โดยแต่ละชั้นจะมีเพียง 11 ยูนิตเท่านั้น ถือว่าเป็นความหนาแน่นที่น้อยมากเมื่อเทียบกับคอนโด High-Rise ทั่วไป ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยในแต่ละชั้นได้อย่างดี

ผังของแต่ละชั้นใช้การออกแบบแบบ Double Corridor หรือโถงทางเดินตรงกลาง แจกห้องออกสองฝั่ง โดยตรงกลางจะเป็นโถงลิฟต์ มีลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้นให้ถึง 3 ตัว เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน

และยังมีลิฟต์บริการแยกออกมาต่างหากอีก 1 ตัว พร้อมประตูทางเข้าเฉพาะสำหรับการขนของหรือใช้สำหรับงานบริการโดยไม่รบกวนผู้พักอาศัยโดยตรง นอกจากนี้ยังมีบันไดหนีไฟกระจายอยู่ 2 จุดที่หัวและท้ายอาคารตามมาตรฐานความปลอดภัย

ในส่วนของทิศระเบียง แต่ละยูนิตส่วนใหญ่จะหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดโดยตรง ทำให้ห้องไม่ร้อนจนเกินไปในช่วงกลางวัน และยังได้วิวที่เปิดโล่งสบายตาอีกด้วย

พิเศษสุดคือมีห้องพัก Limited Series ที่มีเพียงชั้นละ 2 ยูนิตเท่านั้น ได้แก่

  • ตำแหน่ง 03 (Type C2) แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 45 ตร.ม. ห้องนี้หันไปทาง ทิศตะวันออก ซึ่งเป็นโซน Sunrise Series เปิดรับแสงเช้าอย่างเต็มที่ และมองเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้น พร้อมทั้งวิว Landmark สำคัญของย่านบางนาแบบกว้างถึง 270 องศา

  • ตำแหน่ง 04 (Type D2) แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55 ตร.ม. ห้องนี้หันไปทาง ทิศตะวันตก ซึ่งเป็น Sunset Series ที่จะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกและบรรยากาศเมืองในช่วงเย็นแบบ Panoramic View สวยสะกดตาถึง 270 องศาเช่นกัน

เรียกได้ว่าใครที่มองหาห้องพิเศษไม่ซ้ำใคร ทั้งในแง่มุมของทิศ วิว และความเป็นส่วนตัว ห้อง Limited Series เหล่านี้เป็น Rare Item ที่ไม่ควรพลาดจริง ๆ ค่ะ

แปลนอาคารในช่วงชั้น 46-49 : เป็น 3 ชั้นบนสุดของอาคาร จะได้รับการออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเป็นพิเศษค่ะ เพราะในแต่ละชั้นจะมีเพียง 5 ยูนิตเท่านั้น และทุกยูนิตจะเป็นห้องพักขนาดใหญ่แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 73 ตร.ม. ไปจนถึง 101 ตร.ม. เรียกได้ว่าเป็นยูนิตระดับพรีเมียมของโครงการเลยก็ว่าได้

ทุกห้องในโซนนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษด้านวิวอย่างเต็มที่ ด้วยการออกแบบให้มีระเบียงโค้งและหน้าต่างกระจกโค้งในห้องนอน ซึ่งช่วยเปิดรับวิวภายนอกได้กว้างถึง 270 องศา ไม่ว่าจะเป็นวิวเมือง หรือพระอาทิตย์ขึ้นและตกในช่วงเช้าค่ำ รับรองว่าใครได้อยู่ชั้นนี้จะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบ ความเป็นส่วนตัว และความพิเศษที่แตกต่างจากชั้นอื่น ๆ อย่างชัดเจนเลยค่ะ


แบบห้องพัก

โครงการ Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 มีห้องพักให้เลือกหลากหลายแบบ ด้วยการวางแนวอาคารที่หันเหลื่อมกันอย่างสัมพันธ์กับผังโครงการ ทำให้เกิด Layout ห้องที่แตกต่างกันทั้งในแง่ของขนาด ทิศทาง และมุมมองวิว เพิ่มทางเลือกในการอยู่อาศัยให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของแต่ละคน

ภายในห้องยังออกแบบให้มีลูกเล่นที่น่าสนใจในแต่ละแบบ ไม่ว่าจะเป็นครัวเปิดหรือครัวปิด ห้องนั่งเล่นแบบเข้ามุมที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ หน้าต่างกระจกโค้งขนาดใหญ่ในห้องนอน หรืออ่างอาบน้ำที่จัดวางให้สามารถชมวิวภายนอกได้อย่างเพลิดเพลิน รวมถึงวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งก็คัดสรรอย่างดี มีคุณภาพ สมกับมาตรฐานของโครงการและราคาที่จ่ายไปค่ะ

  • 1 Bedroom 1 Bathroom : 28-35 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 1 Bathroom : 45 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 2 Bathrooms : 55 ตร.ม.
  • 3 Bedrooms 2 Bathrooms : 73 ตร.ม.
  • 3 Bedrooms 3 Bathrooms 87.84-101.23 ตร.ม.
  • Duplex : 35 / 55 ตร.ม.

Type A 1 Bedroom 1 Bathroom 28 ตร.ม.

Type B 1 Bedroom 1 Bathroom 35 ตร.ม.

Type C 2 Bedrooms 1 Bathroom 45 ตร.ม.

Type D 2 Bedrooms 2 Bathrooms 55 ตร.ม.

Type E 3 Bedrooms 3 Bathrooms 73 ตร.ม.

Type F 3 Bedrooms 2 Bathrooms 73 ตร.ม.

Type G 3 Bedrooms 3 Bathrooms 87.84 ตร.ม.

Type H 3 Bedrooms 3 Bathrooms 90.14 ตร.ม.

Type I 3 Bedrooms 3 Bathrooms 101.23 ตร.ม.

Type B Duplex 2 Bedrooms 1 Bathroom 35 ตร.ม.

Type D Duplex 3 Bedrooms 2 Bathroom 55 ตร.ม.


ห้องตัวอย่าง

วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างตกแต่งใหม่ บนตึกจริง และเป็นห้อง Limited Series ที่มีเพียง 2 ยูนิต/ ชั้น เท่านั้น คือ

  • Type C 2 Bedrooms 1 Bathroom 45 ตร.ม. / Sunrise Panoramic Series*
  • Type D 2 Bedrooms 2 Bathrooms 55 ตร.ม. / Sunset Panoramic Series*

โครงการขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Fitted วัสดุมาตรฐานและสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับในห้องจริง มีดังต่อไปนี้ค่ะ

  • กลอน Digital Door Lock ของ Philips ใช้งานได้หลายระบบ เช่น Pin Code, Finger Scan และ Keycard
  • ชุดครัว Built-in ท็อปหินสังเคราะห์ หน้าบาน Hi-gloss
  • Hob, Hood (ระบบหมุนเวียน), Sink ของ Teka
  • สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Kohler
  • Shower Screen แบบ Tempered Glass
  • แอร์ Wall Type ยี่ห้อ Daikin
  • โคมไฟ Downlight หลอด LED
  • ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี
  • พื้นห้องพักปูลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม.
  • พื้นห้องครัวปูกระเบื้องเซรามิก 60 x 60 ซม.
  • พื้นห้องน้ำ-ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องเซรามิก 60 x 60 ซม.
  • พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกกันลื่น 30 x 30 ซม.
  • ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี

ห้องตัวอย่างห้องที่ 1

แปลนห้องตัวอย่าง Type C 2 Bedrooms 1 Bathroom 45 ตร.ม. / Sunrise Panoramic Series* เป็นยูนิตเริ่มต้นของห้องพักแบบ 2 ห้องนอนในโครงการ โดยจะมีเพียงชั้นละ 1 ยูนิตเท่านั้น ตั้งอยู่ในตำแหน่งหัวมุมอาคาร หันระเบียงออกทางทิศตะวันออก จึงได้วิวพระอาทิตย์ขึ้น และสามารถชมวิวเมือง รวมถึง Landmark ของบางนาได้กว้างเต็มสายตาจากห้องนอนแรกและระเบียงพักผ่อน

ภายในห้องออกแบบฟังก์ชันการใช้งานไว้อย่างลงตัว แยกเป็นสัดส่วนชัดเจน พร้อมจัดวางห้องนอนแบบ Double Master Bedroom เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของคู่รัก, พี่น้อง หรือเพื่อนร่วมกัน 1-2 คนได้แบบสบาย ๆ

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับโซนครัวเปิดที่กว้างขวาง มาพร้อมชุดครัว Built-in ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ ถัดไปจะเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ แยกโซนเปียก-แห้งมาให้เรียบร้อย เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

ถัดเข้ามาด้านในคือโซน Common Area ที่รวมห้องนั่งเล่นและมุมทานอาหารไว้ในพื้นที่เดียว เชื่อมต่อกับระเบียงพักผ่อนด้านนอก ตำแหน่งของผนังกระจกเข้ามุมช่วยให้เปิดรับมุมมองวิวภายนอกได้อย่างกว้างขวาง เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สร้างความรู้สึกโปร่งโล่งให้กับห้อง

จากพื้นที่นี้จะสามารถแยกเข้าสู่ห้องนอนทั้ง 2 ห้องได้สะดวก โดยห้องนอนทั้งสองมีขนาดใกล้เคียงกัน สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต พร้อมเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานได้ครบ สำหรับห้องนอน 1 จะได้วิวเมืองแบบเต็มสายตา และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ส่วนห้องนอน 2 หากไม่ได้ใช้เป็นห้องนอนหลัก ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Walk-in Closet, ห้องทำงาน หรือห้องเก็บของสะสมส่วนตัวได้ตามไลฟ์สไตล์เลยค่ะ


ประตูห้องพักได้เป็นประตูบานทึบลายไม้สีอ่อน พร้อมตาแมวส่องคนที่หน้าบาน และกลอน Digital Door Lock มือจับแบบก้านโยกของ Philips ที่ใช้งานได้ 3 ระบบ คือ Pin Code, Finger Scan และ Keycard ที่ให้มาด้วย

เปิดประตูเข้ามาด้านในจะเจอกับครัวเปิดเป็นส่วนแรกค่ะ ต่อเนื่องไปจะเป็นห้องน้ำ Common Area และ Double Master Bedroom ความสูงพื้น-ฝ้าเพดานในห้องพักอยู่ที่ 2.65 ม. ผนังห้องและฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมโคมไฟ Downlight หลอด LED ทั้งหมด

มองย้อนกลับมาที่โซนหน้าห้อง จะเป็นพื้นที่ครัวเปิดขนาดใหญ่ โดยชุดครัว Built-in จะติดตั้งชิดผนังด้านขวา ส่วนตรงกลางเว้นระยะใช้งานกว้างประมาณ 1.5 ม. ให้สามารถยืนทำอาหาร ล้างจาน หรือเปิดหยิบของในตู้เย็นได้สะดวก ไม่รู้สึกอึดอัด หรือจะกั้นประตูก็ได้

พื้นครัวปูด้วยกระเบื้องเซรามิกลายหินสีอ่อน ขนาด 60 x 60 ซม. ซึ่งทนต่อการใช้งาน และเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะกับการทำอาหารจริงจัง และหากใครต้องการเพิ่มความเป็นสัดส่วน ก็สามารถติดตั้งฉากกั้นกระจกเพื่อทำเป็นครัวปิดเพิ่มเติมภายหลังได้อย่างลงตัวค่ะ

ชุดครัว Built-in ถูกออกแบบเป็นแนวยาวชิดผนัง มาพร้อมตู้เก็บของด้านบนแบบ Full Set ที่ใช้งานได้เต็มพื้นที่ โดยหน้าบานครัวใช้วัสดุ Hi-gloss สีเทา ซึ่งเข้ากันกับผนังและพื้นครัวโทนสีอ่อน ช่วยให้ห้องดูเรียบหรูและสะอาดตา ด้านข้างเว้นพื้นที่กว้างประมาณ 80 ซม. สำหรับวางตู้เย็นขนาด 7-10 คิวได้พอดี

หน้าครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว แข็งแรง ทนต่อความร้อนและความชื้นได้ดี พื้นที่ใช้งานถูกแบ่งเป็นสัดส่วน ทั้งโซนล้างจาน พื้นที่เตรียมอาหาร และมุมทำอาหารแบบลงตัว ใช้งานจริงได้สบาย

ผนังหลังเคาน์เตอร์ติดตั้ง Backsplash ด้วยกระเบื้องลายหินเต็มพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นคราบน้ำมันจากการทำอาหาร หรือคราบน้ำจากการล้างจาน ก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย และบริเวณตรงกลาง Backsplash ยังมีปลั๊กไฟติดตั้งไว้ให้ 1 จุด สำหรับเสียบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเล็ก ๆ ได้สะดวกค่ะ

มุมทำอาหารของห้องนี้มาพร้อมเตา Hob แบบ 2 หัว ควบคุมด้วยระบบสัมผัส ใช้งานง่าย และมี Slimline Hood จากแบรนด์ Teka ติดตั้งด้านบน เพื่อดูดควันขณะปรุงอาหาร รอบ ๆ เตายังเว้นพื้นที่ไว้พอเหมาะ สามารถวางขวดเครื่องปรุงหรืออุปกรณ์ครัวชิ้นเล็ก ๆ ได้แบบไม่เกะกะค่ะ

อีกฝั่งติดตั้ง Sink หลุมเดี่ยวแบบฝังเคาน์เตอร์ มาพร้อมก๊อกน้ำทรงสูงแบบก้านโยก ใช้งานสะดวก และยังมีพื้นที่โดยรอบให้วางฟองน้ำ น้ำยาล้างจาน หรือสบู่ล้างมือได้ครบถ้วน

ด้านล่างเคาน์เตอร์ครัวจะได้พื้นที่เก็บของแบบจัดเต็ม ทั้งตู้เก็บของ ลิ้นชักเก็บของ และช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า

ช่องวางเครื่องซักผ้า รองรับขนาด 7-10 กก. โดยภายในมีการเดินระบบน้ำและระบบไฟไว้เรียบร้อย พร้อมให้ติดตั้งและใช้งานได้ทันที

อีกฝั่งจะได้ตู้เก็บของบานเปิดใต้ Sink ขนาดใหญ่ ที่เหมาะสำหรับเก็บของใช้ภายในบ้านแบบเป็นสัดส่วน ถัดมาเป็นลิ้นชัก 3 ช่อง โดยช่องบนสุดเหมาะสำหรับจัดเก็บช้อน-ส้อม ส่วนช่องล่างอีก 2 ช่องเป็นลิ้นชักเปิดโล่ง ที่สามารถใส่ของใช้ชิ้นใหญ่หรือของจุกจิกอื่น ๆ ได้สะดวก

ด้านบนชุดครัวยังได้ตู้เก็บของบานเปิด พร้อมชั้นลอยภายใน และชั้นวางของแนวสูงอีก 2 ช่อง ช่วยให้เก็บถ้วยชาม แก้วน้ำ อุปกรณ์เครื่องครัว อาหารแห้ง หรือเครื่องปรุงต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ

ใต้ชั้นวางของมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟโดยเฉพาะ พร้อมปลั๊กไฟที่ติดตั้งไว้ด้านหลัง สะดวกต่อการเสียบใช้งานทันทีค่ะ

ติดกับเคาน์เตอร์ครัว และครัวเปิดจะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำ จัดไว้ในตำแหน่งที่ทุกส่วนเดินมาใช้งานได้สะดวก

พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำถือว่ากว้างขวาง ใช้งานได้สะดวกสบาย มีการแบ่งสัดส่วนแห้ง-เปียกอย่างชัดเจน โดยติดตั้ง Shower Screen มาให้เรียบร้อย พร้อมตกแต่งพื้นและผนังด้วยกระเบื้องลายหินสีเทา และหินอ่อนโทนดำ-ขาว ดูเรียบหรูและสวยงามลงตัว ด้านหน้าติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่พิเศษ เพิ่มความโปร่ง และสุขภัณฑ์ทั้งหมดเลือกใช้แบรนด์คุณภาพอย่าง Kohler ทั้งชุด

ภาพรวมส่วนแห้งมีระยะใช้งานสบาย ๆ

อ่างล้างหน้าเป็นทรงเหลี่ยมดีไซน์เรียบสวย มาพร้อมก๊อกน้ำก้านโยกทรงสูง ติดตั้งบนเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์สีขาว ทำให้มีพื้นที่รอบ ๆ สำหรับวางของใช้จุกจิกได้สะดวก ใต้อ่างยังมีชั้นวางของลายไม้สีอ่อนเพิ่มมาให้อีก 1 ชั้น ใช้งานง่ายและดูเป็นระเบียบ

ด้านข้างอ่างล้างหน้า มีการติดตั้งปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำไว้ให้ 1 จุด รองรับการใช้งานไดร์เป่าผม เครื่องม้วนผม หรือจะเสียบชาร์จโทรศัพท์ หรือ Gadget ต่าง ๆ ได้สะดวก

โถสุขภัณฑ์เป็นแบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชูสแตนเลสแบบครบชุด ใช้งานสะดวกและดูดีในทุกมุม

ผนังด้านหลังของห้องน้ำติดตั้งกระจกเงาขนาดใหญ่พิเศษ สามารถยืนส่องหน้า หรือเช็กการแต่งตัวได้แบบเต็มตัว ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน และยังเสริมให้บรรยากาศภายในห้องน้ำดูกว้าง โปร่ง และไม่อึดอัด

นอกจากนี้ ที่เพดานบริเวณโซนแห้งยังติดตั้งพัดลมระบายอากาศมาให้ 1 ตัว ช่วยดูดความชื้นและระบายกลิ่นอับได้ดี ทำให้ห้องน้ำถ่ายเทอากาศได้ตลอดเวลา ยิ่งเพิ่มความสบายในการใช้งานในทุกวันค่ะ

ถัดเข้าไปด้านในจะเป็น โซนเปียก หรือพื้นที่อาบน้ำ กั้นด้วย Shower Screen บานสวิง พร้อมมือจับทรงตัว C ที่สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ภายในมีพื้นที่กว้างพอให้ยืนอาบน้ำได้อย่างสบาย ไม่ติดผนัง

นอกจากนี้ ภายในส่วนอาบน้ำยังมีการก่อ ม้านั่งในตัว เพิ่มเข้ามา ใช้งานได้ทั้งสำหรับนั่งขัดตัว วางของใช้ หรือช่วยรองรับผู้สูงอายุที่ต้องการความมั่นคงในการอาบน้ำอีกด้วยค่ะ

ภายในส่วนอาบน้ำติดตั้งฝักบัวมาให้ครบทั้ง Hand Shower และ Rain Shower เพื่อรองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ มาพร้อมก๊อกผสมน้ำร้อน-น้ำเย็นใช้งานสะดวก และราวเลื่อนปรับระดับสูง-ต่ำสำหรับ Hand Shower ทำให้ปรับตามความถนัดของผู้ใช้งานแต่ละคนได้ง่าย เพิ่มความยืดหยุ่นและความสบายในการอาบน้ำค่ะ

ออกมาที่หน้าห้องน้ำ จะเจอกับพื้นที่ว่างและผนังเปล่าโล่ง ๆ ที่สามารถติดตั้งกระจกเงาได้ทั้ง 2 ฝั่ง เหมาะสำหรับใช้เป็นมุมเช็กการแต่งตัวก่อนออกจากบ้าน ซึ่งสามารถใช้งานพร้อมกันได้ถึง 2 คน โดยไม่ต้องแย่งกัน ทำให้ช่วงเวลาเร่งรีบในตอนเช้าเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ

ถัดจากโซนห้องครัวและห้องน้ำเข้ามาด้านใน จะเป็นพื้นที่ Common Area และห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ซึ่งออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างลงตัว

พื้นที่ Common Area กว้างกำลังดี โดยในห้องตัวอย่างจะจัดฟังก์ชันรวมทั้งมุมนั่งเล่นและมุมทานอาหารไว้ในพื้นที่เดียวกัน เพื่อให้ใช้สอยได้คุ้มค่าและต่อเนื่อง ดูโปร่งไม่อึดอัด และเป็นไอเดียดี ๆ สำหรับการจัดเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องจริงได้อีกด้วยค่ะ

ห้อง Type นี้เป็นห้องมุมที่หันออกทางทิศตะวันออกได้เปรียบเรื่องแสงธรรมชาติในตอนเช้า และยังโดดเด่นด้วย ประตู-หน้าต่างกระจกบานใหญ่ติดเข้ามุม ที่ช่วยเปิดรับวิวภายนอกได้เต็มสายตา นอกจากจะชมวิวเมืองได้แบบไม่มีอะไรมาบดบังแล้ว ยังทำให้แสงธรรมชาติเข้าถึงภายในห้องได้ดี ช่วยให้บรรยากาศโดยรวมดูโปร่ง โล่ง และสบายตาตลอดทั้งวันค่ะ

ซ้ายมือจัดเป็นมุมนั่งเล่น บรรยากาศโปร่งสบาย

โครงการวางโซฟาแบบ Love Seat พร้อมโต๊ะข้างสำหรับวางของจุกจิก และตกแต่งด้วยโคมไฟตั้งพื้นไว้ให้ดูเป็นแนวทางในการจัดเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งในห้องจริงสามารถปรับเปลี่ยนโซฟาเป็นแบบ L-Shape ขนาด 3 ที่นั่งได้สบาย เพิ่มพื้นที่นั่งเล่นและความสบายมากขึ้น

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นผนังเปล่าแนวยาว รองรับการวางชั้นวางทีวีแบบลอยตัว หรือหากใครชอบ Built-in ก็สามารถติดตั้งชั้นวางทีวีพร้อมตู้โชว์ Art Toy หรือของสะสมสวย ๆ ได้ตามใจชอบ โดยโครงการเดินระบบไฟฟ้าไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ทั้งปลั๊กไฟ, ช่องเสียบสาย Cable TV และ Lan Internet ให้ใช้งานได้ทันที

เมื่อวางเฟอร์นิเจอร์ครบแล้ว ยังมีพื้นที่ว่างตรงกลางเหลือให้เดินสบาย ไม่อึดอัด รองรับการชมทีวีจอใหญ่ขนาด 52-55 นิ้ว ได้แบบไม่ต้องห่วงเรื่องระยะสายตา

ถัดจากโซฟาจะเป็น มุมทานอาหาร ที่โครงการวางโต๊ะกลมขนาด 2 ที่นั่งเข้ามุมไว้ให้ดูเป็นไอเดีย

ห้องจริงสามารถปรับเป็นเคาน์เตอร์บาร์แบบยาวชิดกระจก เหมาะสำหรับคนที่ชอบนั่งทานข้าวพร้อมชมวิว หรือถ้าต้องการใช้งานแบบอื่น ก็สามารถจัดเป็นโต๊ะทำงาน 1-2 ที่นั่งได้แบบลงตัวเช่นกันค่ะ

ติดกับโซน Common Area จะเป็นประตูทางออกสู่ระเบียงพักผ่อนด้านนอก ตัวประตูเป็นบานเลื่อน กรอบอะลูมิเนียมสีดำ มาพร้อมกระจกตัดแสงที่ช่วยกรองแสงแดดและความร้อนจากภายนอก เพิ่มความสบายในการอยู่อาศัย

เมื่อออกมาที่ระเบียง จะพบกับดีไซน์ทรงโค้งที่เปิดรับมุมมองได้กว้างขึ้น มองวิวภายนอกได้เต็มสายตา ทางฝั่งซ้ายมือเป็นจุดติดตั้ง Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศทั้งหมด 3 ตัว ส่วนพื้นที่ใช้งานปูด้วยกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเทาเข้ม ขนาด 30 x 30 ซม. มาให้เต็มพื้นที่

พื้นที่ตรงนี้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะวางราวตากผ้า จัดสวนกระถางเล็ก ๆ หรือวาง Armchair สำหรับนั่งรับลม ชมวิวช่วงเช้าหรือยามค่ำคืน ก็เป็นมุมพักผ่อนที่ใช้งานได้จริงและเพิ่มเสน่ห์ให้กับห้องได้อีกจุดเลยค่ะ

จากระเบียงมองลงมาเห็นอาคาร Cloud 11 / Mixed-Use แห่งใหม่ ที่ใกล้จะแล้วเสร็จในปี 2568 จากโครงการสามารถเดินไปใช้งานได้สบาย ๆ เลยค่ะ

ขวามือเป็นอาคาร D

มองออกไปจากระเบียง จะเห็นวิวเมืองที่เปิดโล่งสวยงามแบบเต็มสายตา พร้อมทั้ง Landmark สำคัญของย่านบางนา ไม่ว่าจะเป็นอาคารสูง ถนนสายหลัก หรือโครงการใหญ่ในอนาคต ยิ่งอยู่ชั้นสูง วิวยิ่งพาโนรามา บรรยากาศแบบนี้ช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย และทำให้การอยู่อาศัยในเมืองมีมุมพักสายตาที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้นค่ะ

จากระเบียงพักผ่อน เมื่อมองย้อนกลับเข้ามาทางหน้าห้อง จะเห็นห้องนอนทั้ง 2 ห้องถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน โดยห้องหนึ่งอยู่ทางซ้าย อีกห้องอยู่ทางขวา ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะอยู่แบบคู่รัก พี่น้อง หรือเพื่อนร่วมห้อง ก็สามารถใช้งานได้อย่างลงตัว โดยไม่รบกวนกันค่ะ

เข้ามาดูห้องนอนแรกกันก่อนค่ะ

ห้องนอนนี้ได้พื้นที่ใช้งานกว้างขวาง สามารถวางเตียงขนาด 5–6 ฟุต พร้อมเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานอื่น ๆ ได้ครบชุด โดยรอบเตียงยังมีพื้นที่เหลือให้เดินเข้า-ออก ลุกขึ้น-ลงเตียง หรือยืนแต่งตัวได้สะดวก รวมถึงสามารถทำความสะอาดพื้นห้องได้ง่าย ไม่อึดอัด

ในห้องตัวอย่าง โครงการวางเตียงขนาด 6 ฟุต พร้อมโต๊ะหัวเตียงขนาดเล็กไว้ด้านข้างอีก 1 คู่ เป็นไอเดียการจัดวางที่ดูสมดุลและน่าใช้งาน

ปลายเตียงเป็นผนังเปล่าโล่ง พร้อมติดปลั๊กไฟไว้ตรงกลาง 1 จุด รองรับการติดตั้ง Smart TV จอใหญ่ได้เลย ส่วนบนผนังติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type มาให้เรียบร้อย

ด้านข้างเตียงอีกฝั่งมีพื้นที่พอดีสำหรับวางหรือติดตั้ง ตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐาน แบบ Built-in ได้อย่างลงตัว

ภายในห้องนี้จะได้หน้าต่างกระจกบานผสม ขนาดใหญ่ 1 ชุด ประกอบด้วยบานฟิกซ์สำหรับเปิดรับแสงธรรมชาติและวิวภายนอก และบานเปิดทรงสูงแยกอีก 1 บาน เพื่อช่วยระบายอากาศให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น เพิ่มความสบายให้กับการอยู่อาศัยค่ะ

จากห้องนี้ เมื่อมองผ่านหน้าต่างกระจกออกไป จะได้วิวเมืองที่เปิดโล่ง พร้อมมองเห็น Landmark สำคัญของย่านบางนาแบบเต็มสายตา และที่พิเศษคือ ในช่วงเช้า ๆ ยังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นจากมุมนี้ได้อีกด้วย เติมบรรยากาศสดชื่นในทุกการเริ่มต้นวันได้อย่างสวยงามเลยค่ะ

จากห้องนอน 1 มองย้อนกลับออกไปจะเห็นพื้นที่ Common Area ที่เชื่อมกับส่วนต่าง ๆ ของห้องอย่างเป็นสัดส่วน

อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นทางเข้าสู่ ห้องนอน 2 ที่อยู่ในตำแหน่งท้ายห้อง

ห้องนอน 2 มีพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงกับห้องนอนหลัก เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งห้องนอนใหญ่ของยูนิตนี้เลยก็ว่าได้ ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานได้ครบ

โดยโครงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือพอสำหรับเดินใช้งาน ทำกิจกรรม หรือจัดห้องเพิ่มเติมได้อย่างสบาย

บริเวณปลายเตียงเป็นผนังเปล่าโล่ง พร้อมเดินระบบไฟและติดตั้งแอร์แบบ Wall Type มาให้เรียบร้อย สามารถติดตั้ง Smart TV หรือวางชั้นแนวยาวสำหรับวางของตกแต่ง ของใช้ หรือชั้นเก็บหนังสือได้ตามต้องการ

ห้องนี้จะได้หน้าต่างกระจกบานผสมแบบ Full Frame ขนาดใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ช่วยให้ห้องดูโปร่ง โล่ง และสว่างมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีบานเปิดแยกไว้สำหรับระบายอากาศ รับลมธรรมชาติได้ในแต่ละวัน

ข้างเตียงมีพื้นที่เพียงพอสำหรับวางโต๊ะหัวเตียงได้อีก 1 คู่ และยังสามารถวางหรือติดตั้ง ตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐาน รวมถึงชั้นวางของเล็ก ๆ เสริมเข้าไปได้ครบถ้วน

ส่วนใครที่ใช้ห้องนอนแรกเป็นห้องนอนเพียงแค่ห้องเดียว ก็สามารถปรับฟังก์ชันห้องนี้ให้เป็นห้องทำงานแบบส่วนตัว, ห้องแต่งตัวขนาดใหญ่, ห้องหากใครพักอยู่คนเดียว หรือใช้ห้องนอนหลักเพียงห้องเดียว ก็สามารถปรับห้องนอน 2 ให้เป็นห้องทำงานส่วนตัว, ห้องแต่งตัว, ห้องเก็บของสะสม หรือ Live Studio สำหรับทำงานสายคอนเทนต์หรือออนไลน์แพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้แบบลงตัวตามไลฟ์สไตล์เลยค่ะ

บรรยากาศภายในห้องเมื่อลองเปิดม่านออกทั้งหมด จะยิ่งเห็นได้ชัดถึงความโปร่ง โล่ง และความสว่างที่เติมชีวิตชีวาให้กับห้องได้มากทีเดียวค่ะ


ห้องตัวอย่างห้องที่ 2

แปลนห้องตัวอย่าง Type D 2 Bedrooms 2 Bathrooms 55 ตร.ม. / Sunset Panoramic Series* เป็นห้องพักขนาดใหญ่สุดของรูปแบบ 2 ห้องนอน โดยจะมีเพียงชั้นละ 1 ยูนิต ตั้งอยู่ในตำแหน่งหัวมุมอาคาร หันระเบียงออกทางทิศตะวันตก จึงได้วิวพระอาทิตย์ตก แสงอ่อน ๆ ยาวเย็น และสามารถชมวิวเมืองโซนบางนาและสุขุมวิทได้กว้างถึง 270 องศา จากห้องนอนหลักและจากระเบียงพักผ่อน

ฟังก์ชันการใช้งานภายในห้องมีขนาดกว้างขึ้น และจัดสรรพื้นที่ได้เป็นสัดส่วนมากขึ้น เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยแบบคู่รัก ครอบครัวเริ่มต้นที่เพิ่งแต่งงาน หรือมีเด็กเล็กก็อยู่สบาย เปิดประตูเข้ามาด้านในจะเจอกับครัวเปิด เชื่อมต่อกับมุมทานอาหาร ทำให้สะดวกต่อการจัดเสิร์ฟ ถัดไปด้านในจะเป็นห้องนั่งเล่น ติดระเบียงพักผ่อน พื้นที่ส่วนนี้ทั้งหมดจะมีความโปร่งสว่าง จากช่องแสงตรงประตูระเบียง

อีกด้านของห้องจะเป็นโถงทางเดินแนวยาว ที่เชื่อมต่อกับห้องต่าง ๆ ได้อีกที ประกอบไปด้วยห้องน้ำ 2 ที่แยกส่วนแห้ง ส่วนเปียกให้เรียบร้อย ถัดไปเป็นห้องนอน 2 ขนาดกว้างกำลังดี อยู่ใกล้กับห้องน้ำด้านนอก ทำให้เดินออกมาใช้งานได้สะดวก และห้องนอนใหญ่ จะตั้งอยู่ทางฝั่งทิศตะวันตก ภายในพื้นที่กว้าง มีครบทั้งส่วนพักผ่อน มุมแต่งตัว รวมถึงห้องน้ำในตัว ที่มีอ่างอาบน้ำให้แช่ตัว ชมวิวเมืองได้สบาย ๆ


ประตูห้องพักได้วัสดุหน้าบานและกลอน Digital Door Lock รูปแบบเดียวกันทั้งโครงการ เปิดประตูเข้ามาด้านในจะเจอกับห้องครัวเปิดขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกันกับมุมทานอาหาร และห้องนั่งเล่นชิดระเบียงพักผ่อน บรรยากาศโซนแรกดูโปร่งสบาย พักผ่อนและใช้งานได้ไม่รู้สึกอึดอัด

ความสูงฝ้าเพดานของห้องจะอยู่ที่ 2.65 ม. ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ติดโคมไฟ Downlight หลอด LED ให้ทุกจุด วัสดุปูพื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องลายหินสีอ่อน 60 x 60 ซม. ที่เหมาะกับการใช้งานหนัก ส่วนวัสดุปูพื้นในห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะเป็นลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม. ขับให้ห้องดู Cozy มากขึ้น

มองกลับมาทางหน้าห้อง จะเจอกับพื้นที่โซนครัวที่กว้างถึง 1.8 ม. ซึ่งเป็นระยะที่ใช้งานได้สะดวกมาก สามารถยืนทำอาหาร ล้างจาน เปิดตู้เย็น หรือใช้งานเครื่องซักผ้า รวมถึงเดินเข้า-ออกห้องโดยไม่ติดขัดพื้นที่รอบ ๆ เลยค่ะ

ภายในครัวจะได้ชุด Built-in ที่ใช้วัสดุหน้าบาน Hi-gloss สีเทาอ่อน แบบเดียวกับห้องก่อนหน้า ทั้งดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งานก็มาแบบจัดเต็ม

ตัวท็อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว แข็งแรง ทนน้ำ ทนร้อน และมีพื้นที่ให้วางของหรือเตรียมอาหารได้เยอะ ผนังด้านหลังทำ Backsplash ลายหิน พร้อมปลั๊กไฟตรงกลางสำหรับใช้งานเครื่องครัวไฟฟ้าต่าง ๆ ได้สะดวก

ชุดครัวยังมาพร้อมเตา Hob แบบ 2 หัว ปุ่มควบคุมแบบสัมผัส และ Slimline Hood ของแบรนด์ Teka รอบ ๆ Hob มีพื้นที่วางเครื่องปรุงและอุปกรณ์ทำครัวต่าง ๆ ได้เป็นสัดส่วน

ส่วน Sink ล้างจาน เป็นแบบหลุมเดี่ยวสแตนเลส ฝังเคาน์เตอร์ พร้อมก๊อกน้ำก้านโยกทรงสูง ใช้งานง่าย รอบ ๆ ก็มีพื้นที่เหลือให้วางจาน ฟองน้ำ น้ำยาล้างจาน ได้ครบแบบไม่รก

ด้านล่างมีทั้งตู้เก็บของ ลิ้นชัก และช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ขนาด 7-10 กก. ซึ่งโครงการเดินระบบไฟและน้ำไว้ให้พร้อมใช้งานแล้ว

ฟังก์ชันโดยรวมเหมือนกับห้องก่อนหน้า ทั้งตู้ใต้ซิงค์ ลิ้นชักใส่ช้อน-ส้อม และลิ้นชักเก็บของอีก 2 ช่อง

ด้านบนมีตู้เก็บของบานเปิด 3 ตู้ พร้อมชั้นลอยด้านในให้เก็บของได้เป็นระเบียบ

ใต้ชั้นวางของด้านบนมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ พร้อมปลั๊กไฟต่อใช้งานได้เลย

ถัดจากโซนครัวจะเป็น Common Area ที่เชื่อมต่อกันแบบ Open Plan

โดยตรงกลางสามารถจัดเป็นมุมทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งได้พอดี รอบ ๆ ยังมีพื้นที่ให้เลื่อนเก้าอี้เข้า-ออกได้สะดวก ไม่ติดกันจนเกินไป

ต่อเนื่องจะเป็นห้องนั่งเล่น ที่อยู่ติดกับระเบียงพักผ่อน ทำให้สามารถนั่งเล่น ชมวิวเมือง และรับแสงธรรมชาติได้พร้อมกัน

โครงการวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งให้ดูเป็นตัวอย่าง พร้อมพื้นที่ข้างโซฟาที่สามารถวางชั้นวางของแนวสูง โต๊ะข้าง หรือโคมไฟตั้งพื้นได้อีกหนึ่งจุด

ฝั่งตรงข้ามสามารถวางชั้นวางทีวีตัวยาวได้ หรือใครอยากประหยัดพื้นที่ สามารถติดทีวีแบบแขวนผนัง เพื่อใช้พื้นที่ด้านล่างวางของตกแต่งเพิ่มเติมก็ได้ รองรับทีวีขนาด 50-70 นิ้วได้สบาย พร้อมเดินระบบไฟ ปลั๊กไฟ และสาย Cable/Internet มาให้เรียบร้อย ด้านบนติดตั้งแอร์ Wall Type มาให้พร้อมใช้งาน

ถัดไปคือประตูบานเลื่อนแบบ Full Height ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง กรอบอะลูมิเนียมสีดำ แยกห้องกับระเบียงพักผ่อน

ระเบียงมีขนาดกว้างใช้งานได้จริง วางอาร์มแชร์ไว้นั่งรับลมชมวิวได้สบาย ๆ ด้านซ้ายเป็นจุดวาง Condensing Unit ของแอร์ทั้งหมด 3 ตัว พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องกันลื่นสีเทาเข้ม ขนาด 30 x 30 ซม.

จากระเบียงสามารถมองเห็น วิวเมืองและโค้งแม่น้ำ แบบไม่มีตึกสูงบดบัง และในตอนกลางคืนยังได้บรรยากาศวิวไฟสวย ๆ จาก คลังน้ำมันและท่าเรือกรุงเทพ ที่อยู่ติดแม่น้ำ เป็นอีกมุมพักผ่อนที่สวยมาก

จากระเบียงพักผ่อนมองกลับเข้ามาภายในห้องพัก

อีกฝั่งของห้องจะเป็นโถงทางเดินแนวยาว ที่เชื่อมต่อกับห้องน้ำ ห้องนอน 2 และห้องนอนใหญ่ที่เปิดรับวิวได้ 270 องศา

ห้องน้ำด้านนอก อยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งานจากทั้ง Common Area และ ห้องนอน 2 ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องพื้นและผนังโทนสีเข้ม ให้บรรยากาศเรียบหรู พร้อมการแบ่งพื้นที่แห้ง-เปียกอย่างชัดเจน สุขภัณฑ์ทั้งหมดเลือกใช้ของ Kohler และที่ฝ้าเพดานติดตั้งพัดลมระบายอากาศมาให้ 1 ตัว เพื่อเพิ่มความโปร่งและลดกลิ่นอับภายในห้องน้ำ

ฝั่งซ้ายของห้องน้ำเป็น อ่างล้างหน้า แบบวางบนเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์สีขาว รอบ ๆ มีพื้นที่วางของใช้ได้ และมีชั้นวางของลายไม้ด้านล่างมาให้อีก 1 จุด ผนังด้านบนติดตั้งกระจกเงาบานสูงใช้งานได้สะดวก

ผนังข้างอ่างติดปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำให้ 1 จุด

ฝั่งขวาเป็น โถสุขภัณฑ์แบบ 2 Piece ระบบ Dual Flush มาพร้อมอุปกรณ์ประกอบครบชุด

ส่วนด้านในสุดคือพื้นที่อาบน้ำ กั้นด้วย Shower Screen บานสวิง มือจับตัว C แขวนผ้าเช็ดตัวได้ ภายในกว้างขวาง ติดตั้งฝักบัว 2 แบบ ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower พร้อมก๊อกผสมน้ำร้อน-น้ำเย็น และราวปรับระดับมาให้เรียบร้อย

จากห้องน้ำนี้ มองย้อนกลับไปจะเห็นโถงทางเดินซึ่งอยู่ติดกับห้องนอนใหญ่ โดยในห้องจริงจะเว้นพื้นที่บริเวณนี้ไว้ ทำให้สามารถจัดเป็นมุมวางของ ติดตั้งชั้นวาง ตู้เก็บของ หรือ Built-in ชั้นลอยจรดเพดานเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า

ด้านในสุดของโถงจะเป็นห้องนอนอีก 2 ห้อง ที่ปิดด้วยประตูลายไม้บานทึบ มือจับก้านโยก พร้อมกลอน Double Lock มาให้พร้อม

เริ่มจากห้องนอนใหญ่กันก่อนเลยค่ะ บรรยากาศภายในห้องให้ความรู้สึกกว้างขวางและอยู่สบาย โดดเด่นด้วยฟังก์ชันที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่พักผ่อนที่กว้างขวาง มุมแต่งตัวที่แยกเป็นสัดส่วน หรือห้องน้ำในตัวที่มาพร้อมอ่างอาบน้ำสำหรับการผ่อนคลายอย่างเต็มที่

ความพิเศษของห้องนี้อยู่ที่ “ช่องแสงทรงโค้ง” ขนาดใหญ่ที่ถูกออกแบบไว้ทั้งในห้องนอนและห้องน้ำ (เป็นหน้าต่างบานผสม) ทำให้แสงธรรมชาติสามารถส่องเข้ามาได้อย่างทั่วถึง ส่งผลให้ทุกมุมของห้องดูโปร่ง โล่ง และน่าอยู่มากขึ้น ช่วยเติมบรรยากาศผ่อนคลายให้กับการพักผ่อนในทุกวันได้อย่างดีเยี่ยมค่ะ

ด้านหลังประตูจะเป็นโถงทางเดินภายใน ซึ่งสามารถจัดเป็นมุมแต่งตัว โดยติดกระจกเงาบานสูง หรือชั้นวางของเล็ก ๆ ได้ ผนังตรงกลางติดตั้งแอร์ Wall Type มาให้ 1 เครื่อง

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จัดรูปแบบเป็นตัว L พื้นที่กว้างขวาง พร้อมตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนเข้มสุดหรู แยกส่วนเปียก-แห้งอย่างเรียบร้อย และมีทั้งพัดลมระบายอากาศฝังฝ้า และหน้าต่างกระจกบานเปิดที่ช่วยถ่ายเทอากาศ

ไฮไลต์ของห้องนี้คือ อ่างอาบน้ำแบบฝังเคาน์เตอร์ ซึ่งจัดวางไว้ชิดหน้าต่างกระจกบานใหญ่ สามารถนอนแช่น้ำ พร้อมชมวิวเมืองได้อย่างเพลิดเพลิน

พื้นที่รอบอ่างสามารถวางของใช้จำเป็น เทียนหอม หรือ Bath Tray สำหรับวางแก้วไวน์ iPad หรือหนังสือได้สบาย

ในโซนอาบน้ำติดตั้งฝักบัว 2 แบบเช่นเดิม ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower พร้อมก๊อกผสมและราวปรับระดับ

ส่วนแห้งอยู่เข้ามุมอีกฝั่ง จะได้อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์มาตรฐานเหมือนกับห้องอื่น ๆ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ที่ช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้น

ผนังข้างอ่างมีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำให้ 1 จุด เช่นเดิม

ถัดจากห้องน้ำจะเป็นโซนพักผ่อน ไฮไลต์สำคัญของห้องนอนนี้คือ ผนังกระจกโค้งเข้ามุม ที่เปิดรับวิวกว้างถึง 270 องศา ทั้งวิวเมือง วิวโค้งน้ำเจ้าพระยา และวิวพระอาทิตย์ตกดินในยามเย็น

บรรยากาศเมื่อเปิดม่านทั้งหมดจะได้วิวสวยเต็มสายตา โดยเฉพาะช่วงค่ำ ที่สามารถเห็นไฟจากคลังน้ำมันและท่าเรือกรุงเทพฯ สะท้อนแม่น้ำแบบไม่มีตึกสูงมาบัง

ส่วนพื้นที่ใช้งานได้มากว้างขวางดีเลยค่ะ สามารถวางเตียงนอน King Size โต๊ะหัวเตียง รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้องอื่น ๆ ได้ครบ

อีกด้านของห้องมีพื้นที่สำหรับวาง หรือติดตั้งตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้อย่างลงตัว ช่วยให้ห้องนอนใหญ่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสวยงามและฟังก์ชันใช้งานจริง

สุดทางเดินจะเป็น ห้องนอน 2 ซึ่งได้พื้นที่กว้างกำลังดี เหมาะสำหรับใช้เป็นห้องนอนรอง ห้องเด็ก หรือห้องพักผ่อนเพิ่มเติม สามารถวางเตียงขนาด 3.5-5 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานได้ครบชุด

ปลายเตียงเป็นผนังเปล่า พร้อมปลั๊กไฟ รองรับการติดตั้ง Smart TV หรือติดตั้งชั้นวางของแบบลอยตัว และด้านบนติดแอร์ Wall Type มาให้พร้อมใช้งาน

ห้องนี้จะได้หน้าต่างบานผสมขนาดใหญ่ 1 ชุด เปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ พร้อมบานเปิดสำหรับรับลม ช่วยให้ห้องไม่อับ ไม่อึดอัด

ข้างเตียงนอนติดกับหน้าต่าง มีพื้นที่ว่างสำหรับจัดเป็นมุมเล่นของเล่นของเด็ก ๆ หรือปรับเป็นโต๊ะทำงาน มุมโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้

อีกด้านของห้องสามารถวางหรือติดตั้ง ตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐาน ได้อย่างพอดี ห้องนี้จึงเหมาะกับทั้งการอยู่อาศัยแบบครอบครัว หรือจะปรับให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวเพิ่มเติมก็ทำได้ลงตัวเช่นกันค่ะ


ราคา (ก.ค. 68)

  • ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท*
  • ราคาเฉลี่ยประมาณ 124,000 บาท/ ตร.ม.
  • จอง + ทำสัญญา 5,000 บาท

โปรโมชันพิเศษ

  • ฟรี! โอน / ฟรี! กองทุน / ฟรี! มิเตอร์น้ำ-ไฟ

  • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ ตร.ม./ เดือน
  • ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.* (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : https://skyrise-sukhumvit64.com/th

*หมายเหตุ : ข้อมูลราคาและโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*


สรุป

⇒ ทำเลที่ตั้งโครงการ : Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 เป็นคอนโดใหม่พร้อมอยู่ที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 64/2 ซึ่งนับว่าอยู่ในโซนสุขุมวิทช่วงกลาง-ปลาย ที่ยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองได้ง่าย ทั้งยังอยู่ใกล้เอกมัย ทองหล่อ และพร้อมพงษ์ ที่เป็นโซนไลฟ์สไตล์ชื่อดัง แต่มีราคาย่อมเยากว่าอย่างชัดเจน เหมาะทั้งซื้ออยู่อาศัยเองและลงทุนปล่อยเช่า โดยเฉพาะในช่วงที่ที่ดินสุขุมวิทชั้นในเริ่มหายากและมีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โครงการยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งศูนย์การค้า ร้านค้าปลีก โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลชั้นนำ และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ตลอดแนวสุขุมวิทและบางนา-ตราด ใกล้โครงการสำคัญอย่าง True Digital Park, Cloud 11, Bangkok Mall และ Gateway เอกมัย ซึ่งอยู่ในรัศมีเพียงไม่กี่กิโลเมตร เสริมศักยภาพการเติบโตของทำเลนี้ได้ในระยะยาว


⇒ การเดินทางโดยรถส่วนตัว : สำหรับคนใช้รถยนต์ การเดินทางจากโครงการถือว่าสะดวกมาก ด้วยทำเลใกล้ถนนสุขุมวิท ถนนบางนา-ตราด และสรรพาวุธ สามารถขับเชื่อมไปยังโซนอ่อนนุช อุดมสุข แบริ่ง ลาซาล หรือแม้แต่พระราม 4 และ CBD อย่างสีลม-สาทรได้รวดเร็ว รวมถึงมีทางด่วนเฉลิมมหานคร และทางด่วนบูรพาวิถีใกล้เคียง ช่วยให้การเดินทางเข้า-ออกเมืองเป็นไปอย่างราบรื่นไม่ว่าจะเดินทางทำงานหรือออกต่างจังหวัด


⇒ การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : โครงการตั้งอยู่ห่างจาก BTS ปุณณวิถีเพียงประมาณ 450 ม.* ซึ่งถือว่าอยู่ในระยะเดินได้สบาย ภายในซอยเงียบสงบไม่ลึกเกินไป จากสถานีนี้สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมือง เช่น พร้อมพงษ์ อโศก สยาม ได้ง่าย รวมถึงเปลี่ยนไปยัง MRT สุขุมวิท และแอร์พอร์ตลิงก์ได้โดยสะดวก ตอบโจทย์ทั้งคนไม่มีรถ และคนทำงานใจกลางเมืองที่ต้องการความคล่องตัวสูง


⇒ การออกแบบโครงการ ห้องพัก และวัสดุ : Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 เป็นโครงการที่มีการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค ที่วางผังอาคารเหลื่อมกันเพื่อสร้างมิติใหม่ในการอยู่อาศัย ทำให้เกิดห้องพักที่มี Layout หลากหลาย มีความเป็นส่วนตัวสูง และแยกโซนพักอาศัยออกจากพื้นที่ส่วนกลางอย่างชัดเจน

ห้องพักแต่ละแบบเน้นการใช้งานจริง มีพื้นที่กว้างขวาง ฟังก์ชันลงตัว โดยเฉพาะยูนิต Rare Type ที่มีเพียง 2 ห้องต่อชั้น เปิดรับวิวเมืองได้กว้างถึง 270 องศา ตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพดี ให้ความรู้สึกพรีเมียมกว่าคอนโดทั่วไปในระดับราคาใกล้เคียงกัน


⇒  สิ่งอำนวยความสะดวกครบและระบบรักษาความปลอดภัย : โครงการนี้มีพื้นที่ส่วนกลางที่ถือว่าใหญ่และหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งในย่านสุขุมวิทตอนปลาย รองรับกิจกรรมทุกประเภท ตั้งแต่การออกกำลังกาย เช่น สระว่ายน้ำ Olympic Size, Fitness, สนามบาสเกตบอล แบบ Half Court ไปจนถึง Co-working Space, Library, Podcast Station และ Co-kitchen Space ที่เหมาะกับทั้งการพักผ่อนและการทำงานแบบ Work from Home

แต่ละโซนถูกจัดวางให้แยกสัดส่วนชัดเจน มีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย พร้อมพื้นที่สีเขียวที่ครอบคลุมกว่า 40% ของโครงการ จัดสวนด้วยพันธุ์ไม้กว่า 100 ชนิด เพิ่มความร่มรื่นให้กับบรรยากาศโดยรวม ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้อยู่ใกล้ธรรมชาติ

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จอดรถรองรับได้มากถึง 46% (ไม่รวมซ้อนคัน) ทั้งแบบกลางแจ้งและใต้ดิน เพื่อไม่ให้รบกวนพื้นที่พักอาศัย โดยมาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. พร้อมระบบกล้องวงจรปิด และเข้า-ออกโครงการ และอาคารด้วย Easy Pass + Face Scan อย่างเป็นระบบ


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-026-6888 กด 7

Line : https://line.me/ti/p/~@skyrise64

Website : https://skyrise-sukhumvit64.com/th


หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

สนใจลงโฆษณากับทาง CONDONAYOO ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน 086-1290293 
LINE ID : 123456786205 Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 คอนโดใหม่พร้อมอยู่ ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 5 ไร่ เพียง 450 ม.* จาก BTS ปุณณวิถี ติด Cloud11 ตรงข้าม True Digital Park เริ่ม 3.99 ล้าน* "

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.