รีวิว เดอะ เบส เออร์เบิน พระราม 9 / THE BASE Urban Rama 9 คอนโดใหม่พร้อมอยู่ บนทำเลแยกผังเมือง ใกล้ MRT รฟม., MRT พระราม 9 และทางด่วนศรีรัช เริ่ม 3.79 ล้าน*
Written by : Pure Thitapa
สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ Condonayoo วันนี้เราจะพาไปชมคอนโดใหม่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ‘THE BASE Urban พระราม 9‘ จาก แสนสิริ ที่มาพร้อมแนวคิด “Uniquely your urban beat ชีวิตผลิต Beat ได้ไม่ซ้ำ”
บนทำเลศักยภาพแยกผังเมือง พระราม 9 ซึ่งกำลังเติบโตเป็นศูนย์กลางธุรกิจใหม่ (New CBD) ของกรุงเทพฯ ซึ่งโครงการนี้เค้าเป็นคอนโดสร้างเสร็จก่อนขาย ทำให้ลูกค้าที่สนใจสามารถเข้ามาดูห้องจริง วิวจริง ส่วนกลางของจริงกันแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนะคะ
ที่ตั้งของโครงการนี้จะอยู่ติดถนนพระราม 9 ก่อนถึงแยกผังเมือง ในเขตห้วยขวาง กทม. การเดินทางสะดวกสบายทั้งคนใช้รถไฟฟ้าและรถส่วนตัว เพราะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า 2 สาย คือ MRT พระราม 9 ประมาณ 800 ม.* และ MRT รฟม. ที่จะเปิดใช้งานภายในปี 2570 ในระยะทางที่สั้นลง เพียง 300 ม.*
ส่วนคนใช้รถส่วนตัวก็ทำได้อย่างคล่องตัว เพราะเชื่อมต่อถนนเส้นหลักสำคัญ ๆ ได้หลายสาย และอยู่ใกล้กับจุดขึ้นทางด่วนศรีรัช ด่านอโศก 1 เพียงแค่ 950 ม.* เท่านั้น รอบ ๆ โครงการยังรายล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานชั้นนำและศูนย์การค้าขนาดใหญ่มากมาย เช่น V. One Tower ที่อยู่ติดกับโครงการ ใกล้ G Tower, Unilever House, Central พระราม 9 และ Fortune Town เพียงไม่กี่นาที*
เดอะ เบส เออร์เบิน พระราม 9 เป็นคอนโด High-Rise 29 ชั้น 1 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 1 ไร่ ตัวอาคารออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ในโทนสีเทาและสีแดง ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยจำนวนห้องพักเพียง 311 ยูนิต มาพร้อมที่จอดรถระบบ Auto-Parking รองรับได้ 54%
ตอบโจทย์คนเมืองที่มองหาพื้นที่อยู่อาศัยซึ่งให้ทั้งความเป็นส่วนตัวและดีไซน์ที่แตกต่าง โดยมีห้องชุดให้เลือกหลายขนาด รองรับทั้งอยู่อาศัยเองและการลงทุน มีทั้งแบบห้อง Simplex ฝ้าเพดานปกติ 2.55 ม. และห้อง Loft ฝ้าเพดานสูง 4.4 ม.
เริ่มตั้งแต่ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ไปจนถึง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 26.75-58.00 ตร.ม. ขายห้องพักให้แบบ Fully Fitted ได้ชุดครัว Built-in พร้อม Hob, Hood, Sink สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ, แอร์ Wall Type* และ Digital Door Lock โดยโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ก.ย. 68
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครันจัดเต็ม บนพื้นที่ส่วนกลางรวมกว่า 2,700 ตร.ม. ครอบคลุมทุกการใช้ชีวิต มีไฮไลต์อยู่ที่ชั้น 27-28-29 เป็น Infinity Edge Pool แบบ Semi-Outdoor ขนาด Haft Olympic 25 x 5 ม. ที่สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน พร้อม Semi-Outdoor Lounge เปิดรับวิวเมืองและวิวพื้นที่สีเขียวของ รฟม.
มี Co-Working Space ขนาดใหญ่ ที่มีฟังก์ชันยืดหยุ่น รองรับรูปแบบใช้งาน ทั้ง Brainstorm แบบกลุ่ม, ประชุมใน Private Meeting Room หรือนั่งทำงานแบบเดี่ยวที่โต๊ะ Communal หรือใน Focus Room เชื่อมต่อกับ Sky Lounge และ The Workout & Body Studio with Pilates ที่ออกกำลังกายได้แบบจัดเต็ม
มี Sky Co-Working Court & Sky Kitchen Garden บนชั้นดาดฟ้า พร้อมพื้นที่ทำกิจกรรมหรือจัดปาร์ตี้ชมวิวเมืองสวย ๆ นอกจากนั้นยังมี Statement Lobby เพดานสูงแบบ Double Volume ที่โดดเด่นด้วย Chandelier Sculpture พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่จัดวางได้อย่างยืดหยุ่น และยังมีพื้นที่ส่วนกลางอื่น ๆ ให้ใช้งานอีกหลายรายการ / ราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท* (ก.ย. 68)
คอนโดใหม่ ทำเลที่ น่าสนใจ…
พลัมคอนโด อีสต์ ลาดพร้าว เริ่ม 1.88 ล้าน*
เคฟ เพลย์กราวด์ ลาดพร้าว-บดินทรเดชา เริ่ม 2.39 ล้าน*
รีวิว SEVEN 9 EIGHT พระราม 3
รีวิว Ideo Merge จุฬา เริ่ม 6.xx ล้าน*
รีวิว Life Udomsuk Station เริ่ม 3.99 ล้าน*
รีวิว PHYLL พหลฯ 59 สเตชั่น
รีวิว Life สาทร-นราธิวาส 22 เริ่ม 3.8 ล้าน*
รีวิว Supalai Premier ตากสิน-วงเวียนใหญ่
รีวิว d condo sense บางแสน เริ่ม 1.59 ล้าน*
รีวิว Lumpini Park On 19 เริ่ม 1.79 ล้าน*
รีวิว FLO by Sansiri เริ่ม 3.29 ล้าน*
รีวิว THE BASE Urban พระราม 9 เริ่ม 3.79 ล้าน*
| ชื่อโครงการ | เดอะ เบส เออร์เบิน พระราม 9 / THE BASE Urban Rama 9 |
| เจ้าของโครงการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด / Sansiri |
| เนื้อที่ทั้งหมด | ประมาณ 1 ไร่ |
| จำนวนตึก | 1 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 29 ชั้น |
| จำนวนห้อง | 311 ยูนิต |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด | 54% เป็น Auto-Parking ทั้งหมด |
| จำนวนลิฟต์ |
|
| โซน | เขตห้วยขวาง |
| เส้นทางคมนาคม | ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
*ระยะทางวัดจากโครงการไปยังจุดหมายที่ใกล้ที่สุด* |
| ที่ตั้ง | ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. 10310 |
| กำหนดการ | เปิดจองครั้งแรก 13-14 ก.ย. นี้ |
| ปีที่สร้างเสร็จ | คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ก.ย. 2568 |
| ราคา | เริ่ม 3.79 ล้านบาท* (ก.ย. 68) |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ประมาณ 128,000 บาท/ ตร.ม.* (ก.ย. 68) |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
อาคารสำนักงานและหน่วยงานอื่น ๆ
*ระยะทางวัดจากโครงการไปยังจุดหมายปลายทาง* |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | ชั้นที่ 1
ชั้นที่ 22
ชั้นที่ 27
ชั้นที่ 28
ชั้นที่ 29
ระบบรักษาความปลอดภัย
|
| Tel | 1685 |
| Line | https://siri.ly/M5hnFS8 |
| Website | https://bit.ly/468IZMx |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กทม. 10310
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/KHZeSRaTWzXJVepH9
โครงการ THE BASE Urban พระราม 9 คอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่จาก แสนสิริ ตั้งอยู่บนทำเลทอง New CBD พระราม 9 ใจกลางแยกผังเมือง ติดถนนใหญ่ไม่ต้องเข้าซอย ทำเลนี้ถือเป็นหนึ่งในย่านที่ร้อนแรงที่สุดของกรุงเทพฯ เพราะเต็มไปด้วยศักยภาพการเติบโตทั้งด้านธุรกิจ การลงทุน และการใช้ชีวิต
การเดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อถนนสายหลักได้หลายเส้น ไม่ว่าจะเป็นพระราม 9, อโศก-ดินแดง, เทียมร่วมมิตร, รัชดาภิเษก, เพชรบุรี และเอกมัย อีกทั้งยังใกล้ทางพิเศษศรีรัชเพียง 950 ม.* สามารถต่อเนื่องไปยังโซนอื่น ๆ ของกรุงเทพฯ ได้อย่างง่ายดาย
สำหรับคนใช้รถไฟฟ้า ก็มี MRT พระราม 9 อยู่ห่างเพียง 800 ม.* และในอนาคตยังจะได้ใช้ MRT สายสีส้ม สถานี รฟม. ที่อยู่แค่ 300 ม.* หรือใช้เวลาเดินเพียง 1 นาที* เท่านั้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทางจริง ๆ
รอบโครงการยังรายล้อมด้วยอาคารสำนักงานเกรดพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็น V. One Tower ที่อยู่ติดกับโครงการ, Unilever House เพียง 600 ม.*, G Tower เพียง 750 ม.*, การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) 900 ม.* และ True Tower เพียง 1.6 กม.* ถือว่าเป็นทำเลที่รายล้อมด้วยแหล่งงานชั้นนำ
ด้านไลฟ์สไตล์ก็ครบครัน เดินไป Central พระราม 9 ได้ในระยะ 900 ม.* ใกล้ Fortune Town, The Street รัชดาฯ, Esplanade รัชดาฯ และ JODD Fairs รัชดาฯ นอกจากนี้ยังแวดล้อมด้วยสถานศึกษาชั้นนำและโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง อาทิ CIS, Shrewsbury, KIS, NIST, รร.เซนต์ดอมินิก, รร.วัฒนาวิทยาลัย และ มศว.
เรื่องสุขภาพก็อุ่นใจได้ เพราะมีโรงพยาบาลชั้นนำในระยะไม่เกิน 4 กม.* ไม่ว่าจะเป็น รพ.พระราม 9, รพ.ปิยะเวท, รพ.กรุงเทพ และ รพ.บำรุงราษฎร์ เรียกได้ว่าครบทุกมิติทั้งการใช้ชีวิต การทำงาน และการดูแลสุขภาพ
ทั้งหมดนี้ทำให้ THE BASE Urban พระราม 9 เป็นคอนโดที่ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยเองและการลงทุน ด้วยศักยภาพทำเล คุณภาพโครงการ และราคาที่เข้าถึงได้ อีกทั้งยังให้ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าสูง เฉลี่ยถึง 6% ต่อปี* เลยทีเดียว
การเดินทางโดยรถส่วนตัว : โครงการนี้ถือว่าเดินทางสะดวกและคล่องตัวสุด ๆ เพราะตั้งอยู่ติดถนนใหญ่พระราม 9 ใกล้ทั้งแยกผังเมือง และแยก อ.ส.ม.ท. จากโครงการสามารถกลับรถตรงแยกผังเมือง แล้วตัดเข้าถนนเพชรอุทัยไปขึ้นทางพิเศษศรีรัช ด่านอโศก 1 ได้เลย ในระยะทางเพียง 950 ม.* เท่านั้น ทำให้เข้าถึงทางด่วนได้รวดเร็ว ไม่ว่าจะเข้าเมืองหรือต้องการออกนอกเมืองก็ง่าย
การใช้ทางด่วนศรีรัชยังช่วยเชื่อมต่อไปยังย่านสำคัญใจกลางเมืองได้แบบไร้รอยต่อ หรือจะวิ่งออกเมืองไปทางรามคำแหง ศรีนครินทร์ ต่อเข้าสู่มอเตอร์เวย์เพื่อมุ่งหน้าไปบางนา-สุวรรณภูมิ ก็ทำได้สะดวกไม่แพ้กัน
จากโครงการอยู่ใกล้กับแยกพระราม 9 ในระยะทางเพียง 850 ม.* แยกนี้จะเป็นจุดตัดสำคัญของถนนสายหลักถึง 4 สาย ได้แก่ พระราม 9, ดินแดง, อโศก-ดินแดง และรัชดาภิเษก
จากจุดนี้สามารถเลือกเส้นทางได้หลากหลาย ขับขึ้นไปทางรัชดาภิเษกก็จะผ่านห้างใหญ่และอาคารสำนักงานจำนวนมาก เช่น Central พระราม 9, Fortune Town, Lotus’s Fortune, Esplanade รัชดาฯ, Big C รัชดาฯ และ The Street รัชดาฯ
รวมถึงอาคาร Cyber World และศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บนถนนเทียมร่วมมิตร อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปยังห้วยขวาง สุทธิสาร และลาดพร้าวได้สะดวก โดยไม่ต้องใช้ทางด่วน
หากขับลงมาทางถนนอโศก-ดินแดง จะเชื่อมเข้าสู่ถนนเพชรบุรี ที่ใช้มุ่งหน้าไปประตูน้ำ หรือขยับออกไปยังเอกมัย คลองตัน และรามคำแหงได้ไม่ยาก จากเส้นนี้ยังเชื่อมต่อกับถนนอโศกมนตรี ซึ่งถือเป็นใจกลางย่านธุรกิจ (CBD)
รายล้อมด้วยอาคารสำนักงาน ห้างดัง โรงพยาบาลเอกชน และสถานศึกษาชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Singha Complex, GMM Tower, Terminal 21, มศว. หรือ รร.วัฒนาวิทยาลัย
จากถนนเส้นนี้ยังใช้เดินทางต่อไปยังสุขุมวิท พระราม 4 วิทยุ สาทร สีลม และสามย่าน ได้ภายในเวลาไม่เกินครึ่ง ชม.* ถือว่าทำเลนี้ตอบโจทย์ทั้งคนทำงานใจกลางเมืองและคนที่ต้องการความคล่องตัวในการใช้รถส่วนตัว
โครงการตั้งอยู่ใกล้ จุดขึ้นทางพิเศษศรีรัช ด่านอโศก 1 เพียง 950 ม.* ใช้เวลาเดินทางราว ๆ 5-10 นาที* แล้วแต่สภาพการจราจร เส้นทางด่วนนี้ถือว่าสะดวกมาก เพราะสามารถเชื่อมต่อไปยัง CBD สาทร-สีลมได้อย่างรวดเร็ว หรือจะมุ่งหน้าไปบางนา ดาวคะนอง ดินแดง และแจ้งวัฒนะก็ทำได้ง่าย
นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเส้นทางออกเมืองไปสุวรรณภูมิ รวมถึงเชื่อมต่อกับทางด่วนสายอื่น ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ ทำให้ไม่ว่าจะเข้าเมืองหรือออกเมืองก็สะดวกสบายในทุกทิศทาง
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
*ระยะทางวัดจากโครงการไปยังจุดหมายที่ใกล้ที่สุด*
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : เป็นทางเลือกหลัก ๆ ที่คนกรุงเทพฯ และคนที่อยู่ในเมืองใช้งานกัน จากโครงการจะอยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้า MRT พระราม 9 ประตู G Tower เพียง 800 ม.* เป็นระยะที่เดินไปใช้งานได้ หรือจะเรียกใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากหน้าโครงการไปส่งก็สะดวก
จาก MRT พระราม 9 นั่งลงมาเพียงแค่ 2 สถานี จะสามารถเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถ ไปยัง รถไฟฟ้า BTS ได้ที่สถานีอโศก ใช้นั่งไปสยาม ไปเดินห้างใหญ่ ๆ ใจกลางเมือง หรือจะนั่งไปฝั่งพร้อมพงษ์ ก็มีทั้ง Emporium และ EmQuartier
ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี ให้ได้ใช้งานกัน โดยโครงการจะอยู่ใกล้กับ สถานี รฟม. บนถนนพระราม 9 ในระยะทางเพียง 350 ม.* ปัจจุบันก่อสร้างงานโยธาเสร็จแล้ว 100% คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2570 ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิม
ส่วนใครที่เดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ โครงการนี้ก็ยังมี Airport Link สถานีมักกะสัน ให้ได้เลือกใช้งานกัน สามารถหิ้วกระเป๋าเดินทาง นั่งไป-กลับต่อเดียวไม่กี่นาที* ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ สะดวกสบายใกล้บ้าน และจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการนำรถส่วนตัวไปจ้างค้างที่สนามบินได้หลักพันเลยค่ะ
โครงการอยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 ตรงประตู G Tower เพียง 800 ม.* โดยทางเดินเชื่อมสู่สถานีรถไฟฟ้าฝั่งนี้ จะเป็นทางเดินในร่มที่มีแอร์เย็น ๆ ให้เดินไปใช้งานได้แบบไม่ร้อนแดดด้วยค่ะ
จากโครงการจะอยู่ใกล้กับ รถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานี รฟม. ที่เดินข้ามแยกผังเมืองไปได้ในระยะทางประมาณ 350 ม.*
โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2570 ที่จะถึงนี้ เมื่อสร้างเสร็จจะใช้เดินทางไปรามคำแหง-มีนบุรีได้ง่ายมากขึ้น ทั้งยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองได้ที่สถานีแยกลำสาลี และเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูได้ที่สถานีมีนบุรีด้วยค่ะ
รอบ ๆ โครงการนี้ ต้องบอกเลยว่ารายล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์แบบครบทุกด้านจริง ๆ ไม่ว่าจะเดิน ใช้รถส่วนตัว หรือรถไฟฟ้า ก็สะดวกสบายทุกทาง ถือเป็นทำเล Rare Item ที่ใคร ๆ ในกรุงเทพฯ ต่างก็อยากจับจองพื้นที่การอยู่อาศัยเอาไว้ให้ได้
เริ่มกันที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ที่อยู่ใกล้เพียงไม่กี่นาที จากโครงการสามารถเดินเพียง 800 ม.* ก็ถึง Central พระราม 9 ได้แล้ว หรือจะขับรถไปอีกนิดก็มี Fortune Town และ Lotus’s Fortune Town อยู่ห่างประมาณ 1.2 กม.* เท่านั้น ถัดไป 1.9 กม.* ก็ถึง The Street รัชดาฯ และ 2.3 กม.* ถึง Esplanade รัชดาฯ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางแห่งการช้อปปิ้งที่แท้จริง
หากขยับออกไปรอบ ๆ ในระยะไม่เกิน 3 กม.* ก็ยังมีอีกหลายจุดน่าสนใจ เช่น Show DC, Singha Complex, Decathlon พระราม 9, Big C Place รัชดาฯ และ JODD Fairs รัชดาฯ ส่วนใครที่ชอบบรรยากาศย่านสยาม, พร้อมพงษ์ หรือสุขุมวิท ก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปได้แบบง่าย ๆ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางนาน
ด้านสถาบันการศึกษา ก็ถือว่าครบทุกระดับ ตั้งแต่หลักสูตรไทยไปจนถึงอินเตอร์ ที่ใกล้ที่สุดคือ CIS (Central International School) อยู่ห่างออกไปเพียง 600 ม.* และยังมี Shrewsbury Bangkok City Campus เพียง 1.7 กม.*
นอกเหนือจากนั้นยังมีโรงเรียนนานาชาติและโรงเรียนชื่อดังอีกมากมาย เช่น KIS, NIST, RIC, เซนต์ดอมินิก, สมาคมไทย-ญี่ปุ่น, เตรียมอุดมฯ พัฒนาการรัชดา, บางกอกทวิวิทย์, วัฒนาวิทยาลัย รวมถึง มศว. และสาธิตฯ มศว. ทั้งหมดนี้อยู่ในรัศมีไม่เกิน 4 กม.*
เรื่องการรักษาพยาบาลก็ไม่แพ้กัน เพราะใกล้กับโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังระดับประเทศมากมาย เพียง 650 ม.* ก็ถึง รพ.พระราม 9 แล้ว และเพียง 1.6 กม.* ถึง รพ.ผิวหนังอโศก ถัดออกไปไม่เกิน 3.3 กม.* ก็จะมี รพ.ปิยะเวท, รพ.จักษุรัตนิน, รพ.กรุงเทพ และ รพ.บำรุงราษฎร์ ทั้งหมดนี้อยู่ในระยะอุ่นใจ ขับรถไม่เกิน 15-20 นาที* ก็ถึงมือคุณหมอแล้วค่ะ
นอกจากนี้ยังถือว่าเป็น Hub ของสำนักงานและออฟฟิศเกรด A อีกด้วย เริ่มจาก V.One Tower ที่อยู่ติดกับโครงการเพียง 20 ม.* เรียกว่าก้าวออกจากบ้านก็ถึงที่ทำงานทันที หรือจะเป็นอาคารวรสมบัติ, อาคารว่องวานิช, Unilever House, G Tower และ The Ninth Tower ทั้งหมดสามารถเดินไป-กลับได้สะดวกสุด ๆ
ถัดออกไปในระยะไม่เกิน 4 กม.* ก็ยังมีหน่วยงานและอาคารสำคัญอีกเพียบ เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง, รฟม., GH Bank Tower, MCOT, การทางพิเศษฯ, การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย, ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, TRUE Tower, KPN Tower, PAKIN Building, SET Group Tower, Thai Summit Tower รวมถึงสถานทูตเกาหลีฯ และสถานทูตจีนฯ เรียกว่าครบทั้งการทำงาน การเรียน ช้อปปิ้ง และการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่เลยค่ะ
ศูนย์การค้า
สถานศึกษา
โรงพยาบาล
อาคารสำนักงานและหน่วยงานอื่น ๆ
*ระยะทางวัดจากโครงการไปยังจุดหมายปลายทาง*
พิกัดโครงการ : https://maps.app.goo.gl/KHZeSRaTWzXJVepH9
เริ่มจากจุดลงทางด่วนศรีรัช ⇒ ถนนอโศก-ดินแดง ⇒ แยกพระราม 9 ⇒ ถนนพระราม 9 ⇒ แยก อ.ส.ม.ท. ⇒ ตรงมา 250 ม.* ถึงโครงการ THE BASE Urban พระราม 9 ทางฝั่งซ้ายมือ หรือก่อนถึงแยกผังเมือง
การเดินทางไปโครงการในวันนี้ เราเดินทางมาโดยใช้ทางด่วนศรีรัช แล้วลงทางออก ตอ. 2-02 ตามป้ายไปถนนรัชดาภิเษก และสี่แยกพระราม 9
ลงจากทางด่วนมาแล้ว ให้ขับตรงไป
เจอทางแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนโศก-ดินแดง
เลี้ยวซ้ายมาแล้ว ให้เบี่ยงออกขวาไปอยู่ 2 เลนขวาสุด มุ่งหน้าไปแยกพระราม 9
ตรงมาจนถึงแยกพระราม 9 แล้วให้เราเลี้ยวขวาไปยังถนนพระราม 9
จากแยกพระราม 9 ขับตรงไปอีก 800 ม.* ถึงโครงการ
เลี้ยวซ้ายมาบนถนนพระราม 9 ผ่าน Unilever House ไป
ผ่าน แยก อ.ส.ม.ท. ไปประมาณ 250 ม.* โดยให้อยู่เลนซ้ายไว้นะคะ
ผ่าน V One Tower ไปอีก 20 ม.*
ถึงโครงการ THE BASE Urban พระราม 9 ทางฝั่งซ้ายมือ ก่อนถึงแยกผังเมือง
ภาพมุมสูงของโครงการ THE BASE Urban พระราม 9 จะเห็นว่าโครงการตั้งอยู่บนที่ดินรูปสามเหลี่ยม เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ด้านหน้าโครงการติดถนนพระราม 9 ก่อนถึงแยกผังเมือง ตรงข้ามกับโครงการเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานชื่อดังอย่าง วรสมบัติ และ ว่องวานิช อีกทั้งยังอยู่ใกล้ซอย RCA ซึ่งเป็นย่านร้านอาหารและแหล่ง Hangout ที่คึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน
ด้านทิศตะวันตกของโครงการคือ V One Tower อาคารสำนักงานขนาดใหญ่สูง 44 ชั้น ที่ใกล้จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเร็ว ๆ นี้ ถือเป็นทำเลที่ได้เปรียบมากสำหรับคนที่ทำงานที่นี่ เพราะสามารถเดินจากคอนโดไปออฟฟิศได้ในระยะเพียง 20 ม.* เท่านั้น
ส่วนฝั่งทิศตะวันออกติดกับที่ดินเปล่าของบุคคลอื่น ถัดออกไปก็ถึงแยกผังเมือง ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญ สามารถข้ามไปยังหน่วยงานหลัก ๆ อย่าง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และกรมโยธาธิการและผังเมืองได้สะดวก รวมถึงยังใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม สถานี รฟม. ประตู 4 เพียง 350 ม.* อีกด้วยค่ะ
รอบโครงการ
ตัวโครงการ
THE BASE Urban พระราม 9 ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการใหม่พร้อมอยู่จาก แสนสิริ ในปี 2568 ที่สร้างเสร็จเรียบร้อยก่อนเปิดขายจริง จุดเด่นที่เห็นได้ชัดคือดีไซน์อาคารและพื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบมาอย่างทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตในย่านพระราม 9 ได้อย่างลงตัว
ตัวโครงการเน้นความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยจำนวนเพียง 311 ยูนิต ตั้งอยู่ในอาคารสูง 29 ชั้น เพียง 1 อาคาร บนพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ มาพร้อมระบบ Auto-Parking รองรับได้ถึง 54% ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยในทุกวัน
สำหรับใครที่กำลังมองหาพื้นที่อยู่อาศัยที่ผสมผสานทั้งความสงบและดีไซน์ที่แตกต่าง ที่นี่มีให้เลือกทั้งห้องแบบ Simplex และ Loft ครบทุกสไตล์การใช้ชีวิต โดยมีพื้นที่ส่วนกลางกว่า 2,700 ตร.ม. ที่จัดเต็มทั้ง Co-Working Space, Sky Lawn, สระว่ายน้ำแบบ Semi Outdoor, Gym ครบวงจร และ Sky Court ที่เปิดมุมมองชมวิวเมืองได้รอบด้านแบบ 360 องศาเลยค่ะ
มาเริ่มดู Master Plan โครงการกันก่อนเลยค่ะ ที่ดินของโครงการนี้จะเป็นรูปสามเหลี่ยม บนที่ดินขนาดประมาณ 1 ไร่ มีทางเข้า-ออกเพียงทางเดียวจากถนนพระราม 9 ขับเข้ามาจะเจอกับมี Drop-Off ด้านหน้า
ส่วนการเดินรถยนต์ภายในโครงการเป็นแบบ One Way มี Drop-Off ตั้งอยู่ด้านหน้า วนซ้ายไปตามแนวอาคาร เชื่อมต่อกับ Auto Parking Lift ที่มีให้ใช้งาน 3 Slots คิดเป็น 54% ของจำนวนยูนิต
เมื่อลูกบ้านเข้าจอดรถในลิฟต์เสร็จ จะมีประตูทางเข้าสู่ Lobby จากด้านในได้เลย ผ่านลิฟต์จอดรถวนไปตามอาคาร จะเจอกับ EV Charger 2 Slots ที่ด้านหลัง จากนั้นจะวนกลับออกมาที่ทางออกได้อีกที
จาก Drop-Off เข้ามาจะเจอกับ Delivery Room ที่เป็นห้องสำหรับ Drop ส่งอาหาร พัสดุ หรือเสื้อผ้าที่ลูกบ้านเรียกใช้บริการเอง ติดกันเป็นทางเข้า Lobby Lounge โดยพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดจะใช้การเข้าผ่านระบบ Face Scan เพื่อความปลอดภัย
ภายใน Lobby จะเชื่อมกับ Lift Hall มีลิฟต์แบบล็อกชั้นให้ใช้งาน 2 ตัว ถัดไปจะเจอกับ Service Lift และ Lobby ที่เชื่อมมาจาก Auto Parking ถัดไปทางด้านหลังจะเป็นห้องนิติบุคคล, Mail Box & Smart Locker และมีห้องน้ำส่วนกลาง แบบ Unisex แยกห้องน้ำชาย ห้องน้ำหญิงไว้เป็นสัดส่วน
เริ่มที่ด้านหน้าโครงการ จะมีทางเข้า-ออกทางเดียวผ่านถนนพระราม 9 ขวามือเป็นป้อม รปภ. ที่มีเจ้าหน้าที่ประจำการตลอด 24 ชม. ส่วนด้านหน้ามีประตูรั้วเลื่อนอัตโนมัติที่จะปิดในช่วงเวลากลางคืนเพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว และจะเปิดโล่งในช่วงเวลากลางวันค่ะ
ผ่านเข้ามาด้านในจะเจอกับถนนเมนพื้นแสตมป์คอนกรีต ดูสวยงามเป็นระเบียบ การเดินรถเป็นแบบ One Way หรือวนซ้ายไปตามแนวอาคาร โดยตลอดสองข้างถนนจะมีการจัดสวนปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่น
และการเข้าไปจอดรถที่ Auto Parking จะใช้ระบบ LPR อ่ายป้ายทะเบียนรถยนต์ของลูกบ้านที่ลงทะเบียนไว้ มีระบบ Sensor ของ Auto Mode ที่วัดความสูงของรถยนต์ และจะบอกสถานะว่าให้ลูกบ้านเข้าจอดลิฟต์ช่องไหนได้
เชื่อมต่อไปด้านข้างจะมีลิฟต์จอดรถของระบบ Auto Parking ให้ 3 ช่อง พอเข้าจอดรถเวร็จ จะมีประตูอีกบานให้เดินออกมายัง Lobby ภายในอาคารได้เลย
จากลิฟต์จอดรถจะเชื่อมกับโถงลิฟต์ภายในได้แบบนี้ค่ะ โดยด้านหน้าจะมีหน้าจอบอกสถานะ ใช้ในกรณีที่กลับออกไปใช้รถยนต์เมื่อ Auto Parking นำรถลงมาจอดแล้วนั่นเองค่ะ
กลับมาที่ Drop-Off ด้านหน้าอาคาร จะเป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor เพดานสูง Double Volume เวลารถมาจอดรับ-ส่งก็ไม่ต้องกังวลเรื่องฝนหรือแดด
ซ้ายมือเป็น Delivery Room
ภายในจะมีชั้นและถาดสำหรับวางอาหาร วางพัสดุที่ลูกบ้านเรียกสั่งเอง และราวแขวนผ้าจัดเตรียมไว้ให้
การเข้าสู่ Lobby ใช้เป็นระบบ Face Scan ผ่าน Auto Door เข้าไป ช่วยลดการสัมผัส และใช้งานได้สะดวก
เข้ามาภายในจะเจอกับ Lobby Lounge ขนาดใหญ่ ซ้ายมือเป็น Lift Hall เชื่อมสู่ชั้นพักอาศัย และ Lift Hall ของ Auto Parking
ภายในจะเป็น Lobby Lounge เพดานสูง 2 ชั้น ได้บรรยากาศที่โปร่งเปิดรับแสงธรรมชาติผ่านกระจก Full Height รอบ ๆ ให้บรรยากาศที่อบอุ่น โดดเด่นด้วย Chandelier Sculpture และผนัง Red Jasper Marble พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่จัดวางได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะใช้เป็นมุมทํางานหรือพักผ่อน
ซ้ายมือเชื่อมต่อกับ Lift Hall ที่ใช้ขึ้นไปชั้นพักอาศัย
มีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 2 ตัว และใช้เป็นระบบล็อกชั้น
ถัดมาเป็นทางเข้าสู่ Auto Parking Lift ด้านหน้ามีหน้าจอบอกสถานะ และใช้การเข้าไปภายในผ่านระบบ Face Scan อีกทีค่ะ
ผ่านประตูอีกบานเข้าไปเจอกับโถงแนวยาว เชื่อมต่อกับห้องนิติบุคคล, Mail Room และห้องน้ำส่วนกลางของชั้น 1
Mail Room มีกล่องจดหมาย Built-in แยกแต่ละยูนิตมาชัดเจน อีกฝั่งเป็น Smart Locker ที่ออกแบบมาเพื่อให้การรับ-ส่งพัสดุสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น ลูกบ้านสามารถเลือกรับพัสดุได้ทั้งที่นิติบุคคล หรือผ่านตู้ Smart Locker ซึ่งเปิดให้บริการตลอด 24 ชม.
เมื่อนิติฯ ฝากพัสดุเข้าตู้ ระบบจะส่งการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน Home Service ของแสนสิริไปยังมือถือทันที ลูกบ้านเพียงนำ QR Code จากใน App มาแตะที่หน้าจอ ตู้ก็จะแสดงหมายเลขและเปิดออกอัตโนมัติ สามารถรับของได้ง่าย ๆ ทุกเวลา
ด้านหลังสุดก่อนออกประตูไป EV Charger จะเป็นห้องน้ำส่วนกลางแบบ Unie Sex ที่แยกชาย-หญิงไวัเป็นสัดส่วน
ตรงกลางโถงระหว่าง 2 ห้องน้ำ เป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือส่วนกลาง
ภายในห้องน้ำหญิง พื้นที่กว้างขวาง รองรับการใช้ Wheelchair ได้สะดวก และใช้สุขภัณฑ์เป็นระบบอัตโนมัติ
ภายในห้องน้ำชายใช้สุขภัณฑ์อัตโนมัติทั้งหมดเช่นกัน
แปลนอาคารชั้น 3-6 จะเป็นชั้นพักอาศัยแบบห้อง Loft เพดานสูง และ Auto Parking บางส่วนที่อยู่ทางฝั่งทิศตะวันตก ได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor เหมือนกันทั้งโครงการ และได้ความเป็นส่วนตัว เพราะมียูนิตพักอาศัยเพียง 11 ยูนิต/ ชั้น เท่านั้นค่ะ
แปลนอาคารชั้น 7-13 จะเป็นชั้นพักอาศัยแบบ Simplex เพดานสูงปกติ และยังคงมี Auto Parking บางส่วนที่อยู่ทางฝั่งทิศตะวันตกจึงได้ความเป็นส่วนตัวเช่นเดียวกันกับชั้น 3-6 และมียูนิตพักอาศัยที่ 11 ยูนิต/ ชั้น เหมือนกันค่ะ
แปลนอาคารชั้น 15-21 จะเป็น Typical Floor ที่มียูนิตพักอาศัยแบบเต็มชั้น และได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor เปิดประตูออกมาจะไม่เจอห้องพักฝั่งตรงข้าม ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว ส่วนยูนิตพักอาศัยจะมีทั้งหมด 17 ยูนิต/ ชั้น
แปลนอาคารชั้น 22 จะมียูนิตพักอาศัยลดลงมา เหลือ 12 ยูนิต จากการร่นระยะตัวอาคารตามกฎหมาย โดยพื้นที่ด้านหน้าจะถูกปรับให้เป็นพื้นที่สวนหย่อม ลูกบ้านชั้นนี้สามารถเดินออกมาใช้งานได้สะดวก และได้ฟีลเหมือนมีสวนส่วนตัวเลยค่ะ
แปลนอาคารชั้น 23-24 วางผังมาเหมือนกัน โดยมีจะมีห้องพักทั้งหมด 11 ยูนิต/ ชั้น และห้องพักทางด้านทิศตะวันออกจะมองเห็นวิวถนนพระราม 9 / ทางด่วน รวมถึงที่ดินของ รฟม. ได้กว้างแบบไม่มีอาคารสูงบังสายตาเลยค่ะ
แปลนอาคารชั้น 27 เป็นชั้นเริ่มต้นของ Main Facilities โดยชั้นนี้จะประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำขนาด Half Olympic 25 x 5 ม. มองออกไปได้วิวพื้นที่สีเขียวของ รฟม. และถนนพระราม 9 ถัดมาจะเป็น Semi-Outdoor Terrace ไว้นั่งเล่นรับลมชมวิว
ริมสระอีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำส่วนกลาง จัดฟังก์ชันมาตรฐานให้ครบ พร้อมแยกห้องน้ำชายและหญิงไว้เป็นสัดส่วน เดินออกไปทางทิศตะวันตก จะมี Semi-Outdoor Terrace ให้อีกจุด และมี Laundry Room ให้บริการแก่ลูกบ้านด้วยที่ชั้นนี้ค่ะ
ภาพมุมสูงพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ขึ้นมาที่ชั้น 27 ออกจากลิฟต์มาจะมีประตูแยกซ้าย-ขวาออกไปใช้ส่วนกลางที่อยู่คนละฝั่งได้
ออกมาทางทิศตะวันออกจะเจอกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ เปิดรับวิวเมืองและวิวพื้นที่สีเขียว รฟม. ได้เต็มสายตา
ริมสระจัดวาง Sunbed ให้ 3 ตัว ไว้นอนเล่นอาบแดดรับลมเย็น ๆ ได้
ส่วนสระว่ายน้ำเป็นแบบ Infinity Edge ที่อยู่ในร่ม ตัวสระมีขนาด 25 ม. x 5 ม. เทียบเท่า Half Olympic Size ทำให้ลูกบ้านออกมาใช้งาน และว่ายน้ำออกกำลังกายได้ทุกช่วงเวลา หมดปัญหาเรื่องแดดร้อนหรือฝนตกไปได้เลย
ภายในสระยังมีม้านั่งจัดไว้ในในน้ำอีก 3 จุด ใช้เป็นที่นั่งแช่ตัว นั่งชมวิวสวนฝั่ง รฟม. ได้
ท้ายสระมี Daybed ให้อีก 3 ตัว
ด้านหลังสุดจะมี Semi-Outdoor Lounge ที่มีที่นั่งเล่นพักผ่อนจัดไว้ให้หลายรูปแบบเลยค่ะ
มองออกไปได้วิวพื้นที่สีเขียวของ รฟม. และถนนพระราม 9
ริมสระมีห้องน้ำส่วนกลางแยกชาย-หญิงให้ 2 ห้อง
ภายในห้องน้ำทั้ง 2 ห้อง จะมีฟังก์ชันมาตรฐานให้ครบ ทั้งอ่างล้างมือ, ห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำ, โถสุขภัณฑ์ชาย ทั้งหมดใช้เป็นแบบ Auto Flush และมีล็อกเกอร์ฝากของระบบอัตโนมัติให้ทั้ง 2 ห้อง
มองกลับออกมาเห็นวิวสระว่ายน้ำแบบนี้ค่ะ
ออกมาฝั่งหน้าโครงการจะมี Semi-Outdoor Lounge ให้ใช้งานอีกมุม
มีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนที่เป็นม้านั่งรูปตัว U รองรับการนั่งเล่นทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ได้หลายคน ติดกันมีโต๊ะ-เก้าอี้แบบกลุ่ม 4 ที่นั่ง ไว้จัดปาร์ตี้สังสรรค์เล็ก ๆ หรือใช้เป็นที่นั่งทานอาหาร ทานขนมร่วมกันได้ค่ะ
ผ่านไปด้านหลังจะเชื่อมกับห้องน้ำส่วนกลาง และ Laundry Room ที่มีเครื่องซักผ้า-อบผ้า ขนาด 13-17 กก. จัดไว้ให้รวม 6 เครื่อง
แปลนอาคารชั้น 28 เป็น Main Facilities ชั้นที่ 2 ฝั่งทิศตะวันออกที่เป็นวิวพื้นที่สีเขียวของ รฟม. และถนนพระราม 9 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางในร่ม หรือมีชื่อเรียกว่า The Work & Life Hub ที่สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ทั้งหมด
ห้องแรกเป็น Co-Working Space ขนาดใหญ่ รองรับการทำงานแบบกลุ่ม แบบเดี่ยว หรือใช้เป็นห้องพักผ่อนได้ เชื่อมต่อมาจะเป็น Sky Lounge ที่มี Vending Machine ให้บริการ และห้องสุดท้ายจะเป็น GYM ฟังก์ชันครบทั้ง Cardio, Weight Training และ Body Studio with Pilates
อีกด้านของชั้น 28 หรือฝั่งทิศตะวันตก จะเป็นห้องน้ำส่วนกลาง ที่แยกห้องน้ำชาย, ห้องน้ำหญิง และห้องน้ำ Disabled มาให้เป็นสัดส่วน และมีพื้นที่สวนเล็ก ๆ พร้อมเก้าอี้นั่งพักผ่อนไว้ออกมานั่งเล่นรับลมชมวิวได้แบบส่วนตัว
ขึ้นมาที่ชั้น 28 จะมีส่วนกลางตั้งอยู่ 2 ฝั่งเช่นกันค่ะ
ออกมาทางฝั่งหน้าโครงการจะเป็นสวนพักผ่อนด้านนอก และโถงทางเดินเชื่อมกับส่วนกลางห้องอื่น ๆ ได้
สวนหย่อมด้านนอกพื้นที่พอเหมาะ มีการจัดวางม้านั่งเอาไว้ให้ 2 ตัว ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน หรือออกมายืนรับลมชมวิวสูง ๆ ได้
มองออกมาได้วิวเมืองฝั่งพระราม 9 แบบนี้
อีกฝั่งจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางในร่ม หรือเรียกว่า The Work & Life Hub ซึ่งจะเชื่อมต่อกับห้องอื่น ๆ ได้อีก 3 ฟังก์ชันด้วยกันค่ะ
อย่างห้องแรกนี้จะเป็นฟังก์ชันแบบ Co-Working Space เป็นห้องผนังกระจกรอบด้านเพดานสูงโปร่ง จัดเตรียมเฟอร์นิเจอร์โทนสีสด ๆ มาให้หลายรูปแบบ มีพื้นที่ให้นั่งทำงาน นั่งพักผ่อนแบบกลุ่ม แบบเดี่ยว หรือแบบคู่ได้ครบ
ตรงกลางมีโต๊ะประชุมตัวยาวให้ได้ใช้งาน รองรับการนั่งทำงานแบบกลุ่มสูงสุดได้ 8-10 คนเลย
ถัดไปที่มุมด้านในจะมี Focus Room แยกมาให้ 2 ห้อง เหมาะกับการใช้นั่งทำงาน คิดงานเงียบ ๆ หรือจะใช้เป็นห้องโทรศัพท์คุยงานแบบส่วนตัวก็ได้
ถัดมาจะเจอกับ Private Meeting Room ที่ด้านหน้ามีมุมนั่งเล่นแบบกลุ่มจัดไว้ให้อีก
ภายใน Private Meeting Room จะมีเป็นห้องประชุมแบบส่วนตัว ภายในมีโตีะประชุมขนาด 6 ที่นั่ง พร้อม Smart TV สำหรับต่อจอเปิด Slide คุยงานได้
ถัดไปอีกห้องจะเป็น Sky Lounge หรือ Refreshment Bar with Vending Machine
ภายในจะเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนอีกโซน ภายในตกแต่งออกมาได้หรูหราน่าใช้งาน
มี Vending Machine จัดไว้ให้ 2 ตู้
ตรงกลางห้องจะมีโซฟา 4 ด้าน ไว้นั่งทานของว่าง นั่งเล่นพักผ่อนในห้องแอร์เย็น ๆ ได้
เชื่อมต่อมาจะเจอกับ Gym ขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาเน้นการเล่นแสงและเงา สร้างบรรยากาศให้โฟกัสกับการออกกำลังกายได้เต็มที่ ภายในจัดเต็มด้วยเครื่องเล่นครบทุกประเภท ทั้ง Weight Training, Cardio ไปจนถึงโซน Functional Training สำหรับคนที่ชอบการออกกำลังกายแบบอิสระ
ฝั่งที่อยู่ชิดผนังกระจกเป็น Cardio Zone มีเครื่องออกกำลังกายจัดเตรียมให้ครบ โดยใช้เครื่องออกกำลังกายทั้งหมดจากแบรนด์ Reebok
มี Upright Bike 1 ตัว, Elliptical 1 ตัว และ Treadmill ให้อีก 4 ตัว
ส่วนด้านหลังจะเป็น Weight Training Zone มีเครื่องบริหารกล้ามเนื้อต่าง ๆ จัดเตรียมไว้ให้ครบ
ถัดจากนั้นจะเชื่อมต่อไปยัง Body Studio ห้องสำหรับกิจกรรมโยคะและพิลาทิสโดยเฉพาะ บรรยากาศภายในตกแต่งด้วยโทนสีเท่ ๆ แต่ยังแฝงความอบอุ่นอยู่ในดีไซน์ ทำให้เวลามาใช้งานรู้สึกผ่อนคลาย เป็นพื้นที่ที่ช่วยบาลานซ์ทั้งร่างกายและจิตใจได้อย่างลงตัว
ถัดออกไปที่อีกฝั่งจะมีห้องน้ำส่วนกลางให้ใช้งาน โดยแยกฟังก์ชันห้องน้ำชาย, หญิง และ Disabled ให้เรียบร้อย
ภายในห้องน้ำชาย
ภายในห้องน้ำหญิง
ภายในห้องน้ำ Disabled
แปลนอาคารชั้น 29 จะเป็นพื้นที่สวนที่สูงที่สุด การขึ้นมาใช้งานเลือกใช้ผ่านบันไดหนีไฟจากชั้น 28 หรือใช้ Service Lift ขึ้นมาก็ได้ ส่วนพื้นที่ใช้งานจะจัดผังมาไว้ทางด้านทิศตะวันออกที่เป็นวิวที่สวยที่สุด ภายในสวนจะจัดฟังก์ชันไว้ให้ 2 จุด คือ Sky Co-Working Court และ Sky Kitchen Garden และยังมี Sansiri Backyard จัดเตรียมมาให้ด้วยค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 29 เป็นส่วนกลางชั้นสุดท้ายของโครงการ ออกแบบให้เป็นสวนหย่อม รวมกับ Sky Co-Working Court และ Sky Kitchen Garden
Sky Co-Working Court จะมีเคาน์เตอร์บาร์ และโต๊ะเก้าอี้แบบกลุ่มจัดเตรียมไว้ให้ จะใช้เป็นที่นั่งทำงานรับลมธรรมชาติ หรือใช้เป็นที่นั่งเล่นปิกนิกทานอาหารว่างก็ได้
อีกมุมของสวนจะเป็น Sky Kitchen Garden มีโต๊ะ-เก้าอี้แบบกลุ่ม เคาน์เตอร์เตรียมอาหาร พร้อม Sink ล้างจาน และพื้นที่ของ Sansiri Backyard ให้ครบ
บรรยากาศภาพรวมบนชั้น Rooftop
มองออกมาได้วิวแบบนี้เลยค่ะ
สรุป Facilities ของโครงการ
ชั้นที่ 1
ชั้นที่ 22
ชั้นที่ 27
ชั้นที่ 28
ชั้นที่ 29
แบบห้องพัก
โครงการ ‘THE BASE Urban พระราม 9‘ มีห้องพักให้เลือก 2 รูปแบบหลัก คือ แบบ Simplex เพดานสูงปกติ 2.55 ม. และแบบ Loft เพดานสูง 4.4 ม.
แบบ Simplex เพดานสูงปกติ 2.55 ม.
แบบ Loft เพดานสูง 4.4 ม.
แปลนห้องพัก TYPE 1A ขนาด 26.75-28.00 ตร.ม.
แปลนห้องพัก TYPE 1B ขนาด 34.25 ตร.ม.
แปลนห้องพัก TYPE 1C ขนาด 34.75 ตร.ม.
แปลนห้องพัก TYPE 1D ขนาด 35.25-35.75 ตร.ม.
แปลนห้องพัก TYPE 1E ขนาด 35.00 ตร.ม.
แปลนห้องพัก TYPE 1F ขนาด 35.75 ตร.ม.
แปลนห้องพัก TYPE 1G (Loft) ขนาด 33.75 ตร.ม.
แปลนห้องพัก TYPE 1H (Loft) ขนาด 34.50-34.75 ตร.ม.
แปลนห้องพัก TYPE 1I (Loft) ขนาด 36.50 ตร.ม.
แปลนห้องพัก TYPE 1J (Loft) ขนาด 46.00 ตร.ม.
แปลนห้องพัก TYPE 1K (Loft) ขนาด 56.50 ตร.ม.
แปลนห้องพัก TYPE 2A ขนาด 45.50 ตร.ม.
แปลนห้องพัก TYPE 2B ขนาด 46.75 ตร.ม.
แปลนห้องพัก TYPE 2C ขนาด 58.00 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
วันนี้เราจะพาไปชมห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่
โครงการขายห้องพักให้ในรูปแบบ Fully Fitted สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับมีดังนี้ค่ะ
ห้องตัวอย่างห้องที่ 1
แปลนห้องตัวอย่าง TYPE 1D แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดประมาณ 35.25-35.75 ตร.ม. เป็นห้องพักหน้ากว้าง ภายในจัดฟังก์ชันมาได้ลงตัวเป็นสัดส่วน รองรับการอยู่อาศัย 1-2 คนได้สบาย ๆ เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องครัวปิด และห้องน้ำแบบ Double Access ที่เข้า-ออกได้ 2 ทาง จากห้องครัวและห้องนอน
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็น Common Area รวมมุมทานอาหารและห้องนั่งเล่นไว้ด้วยกัน อีกฝั่งของห้องพักจะเป็นห้องนอน มีประตูไม้ปิดมิดชิด ภายในได้พื้นที่มากว้างกำลังดี วางเตียงนอน 5 ฟุตได้ มีระเบียงพักผ่อนให้ที่ข้างเตียงนอน และอีกฝั่งจะเป็น Walk-in Closet ที่อยู่ติดกับประตูห้องน้ำอีกบาน ทำให้เดินเข้า-ออกใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
ประตูห้องพักของโครงการนี้ จะได้เป็นประตูลายไม้สีอ่อนแบบบานทึบ มีตาแมวติดมาให้ที่หน้าบานไว้ส่องคนผ่านไปมา พร้อมติดกลอน Digital Door Lock ของ Kaadas ที่ใช้งานได้มากถึง 5 ระบบ ได้แก่ Finger Scan, Pin Code, Access Card, Application และไขกุญแจในกรณีถ่านหมด
เข้ามาภายในห้องพักจะเจอกับห้องครัวปิดและห้องน้ำเป็นส่วนแรกค่ะ สำหรับห้องนี้จะเป็นห้องพักในรูปแบบ Simplex ฝ้าเพดานสูงปกติที่ 2.55 ม. ผนังและฝ้าเพดานในห้องจริงเป็นแบบฉาบเรียบทาสี ติดโคมไฟ Led Panel มาให้ทั้งห้อง
ภาพรวมบริเวณห้องครัวปิดและห้องน้ำ ที่มีการกั้นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอนเอาไว้ให้ รองรับการทำอาหารหนัก ๆ ได้อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควันจะเข้าไปรบกวนส่วนพักผ่อนภายใน
พื้นห้องครัวปูแกรนิตโต้สีเบจ 60 x 60 ซม. เหมาะกับการใช้งานหนัก รองรับแรงกระแทกได้ดี และสามารถเช็ดถูทำความสะอาดพื้นได้ง่าย
มองกลับมาทางด้านหน้าห้อง จะเห็นพื้นที่ใช้งานตรงกลางที่มีความกว้างประมาณ 1.2 ม.* สามารถยืนทำอาหาร ล้างจาน เปิดตู้เย็น และเปิดตู้เก็บของได้สะดวก ไม่ติดพื้นที่ส่วนอื่น ๆ
ขวามือได้ชุดครัว และตู้เก็บของ Built-in หน้าบานลายไม้ บานพับ Soft Close
ตู้เก็บของ Built-in มาให้สูงจรดเพดาน ได้เป็นตู้บานเปิด ภายในมีชั้นลอยแยกย่อยมาให้มากถึง 8 ชั้น สามารถแบ่งพื้นที่เป็นตู้เก็บรองเท้า รวมกับตู้เก็บของใช้จุกจิกอื่น ๆ ได้เยอะ และจัดระเบียบได้ดี
มาที่ชุดครัวจะได้ตู้เก็บของบน-ล่างมาครบฟังก์ชัน นอกจากนั้นยังมีช่องวางเครื่องซักผ้าฝาหน้า ที่ด้านหลังมีการเดินงานระบบน้ำ-ระบบไฟมาให้พร้อมต่อใช้งานได้เลย ไม่ต้องเดินระบบเพิ่มให้ยุ่งยาก
ในส่วนของหน้าท็อปครัวจะได้เป็นหินสังเคราะห์สีขาว แข็งแรง ทนน้ำ ทนความร้อน และความชื้นได้ดี ผนังด้านหลังทำ Backsplash กันเปื้อนให้เรียบร้อย พร้อมติดปลั๊กไฟมาให้ด้วย 1 จุด
หน้าท็อปครัวจะติดตั้ง Hob & Hood ของ Teka มาให้ครบชุด โดยตัว Hood ของที่นี่จะเป็นแบบระบายออกนอกอาคาร
อีกด้านติดตั้ง Sink หลุมเดี่ยว พร้อมก๊อกน้ำของ Teka ไว้ให้ รอบ ๆ อ่างมีพื้นที่เหลือให้พักจาน และวางอุปกรณ์น้ำยาทำความสะอาดได้แบบไม่เกะกะ
ตรงข้ามกันจะเป็นห้องน้ำและที่วางตู้เย็น
ด้านหลังประตูจะเว้นพื้นที่ลึกลงไป ไว้สำหรับวางตู้เย็นขนาด 6-10 คิวได้ ผนังด้านหลังมีปลั๊กไฟติดมาให้พร้อมต่อใช้งาน
ห้องน้ำเป็นแบบ Double Access ที่เข้า-ออกได้ 2 ทาง จากห้องครัวและจากห้องนอน ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ไม่ต้องเดินอ้อมไปอ้อมมา
เข้ามาภายในห้องน้ำ จะเห็นประตูอีกบานที่เชื่อมกับ Walk-in Closet ในห้องนอน
ภายในจะมีการแบ่งส่วนแห้งกั้นแยกส่วนอาบน้ำมาให้เรียบร้อย โดยแยกพื้นที่ไว้คนละฝั่ง ตรงกลางจึงมีพื้นที่เหลือค่อนข้างกว้าง ใช้งานได้สะดวก สุขภัณฑ์มาตรฐานในห้องน้ำจะใช้เป็นของ American Standard & Englefield และมีพัดลมระบายอากาศติดมาให้ด้วย 1 ตัว
ขวามือจากทางเข้าห้องครัว จะเจอกับส่วนแห้ง ติดสุขภัณฑ์มาให้ครบในระยะใช้งานสบาย ๆ
ได้โถสุขภัณฑ์ 2 Piece รุ่น Comfort Clean ระบบ Dual Flush พร้อมสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษทิชชูครบเซ็ต
ติดกันได้เป็นอ่างล้างมือทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ ก๊อกน้ำก้านโยก พร้อมตู้เก็บของบานเปิดลายไม้ที่ด้านล่าง ภายในเหมาะกับการทำเป็นตู้เก็บของใช้ในห้องน้ำให้หยิบใช้งานได้ง่ายและเป็นระเบียบมากขึ้น
ผนังด้านหลังติดตู้เก็บของหน้าบานกระจกเงามาให้แบบนี้ ภายในมีชั้นลอยให้อีก 4 ช่อง สามารถเก็บสกินแคร์ ของใช้จุกจิกได้อีกพอสมควร
อีกด้านจะเป็นส่วนอาบน้ำ ที่ติดฉากกั้นกระจกบานเลื่อนมาให้ ภายในติดตั้งฝักบัวให้ 2 แบบ คือ Rain Shower และ Hand Shower มีราวปรับระดับ ก๊อกน้ำก้านโยก และชั้นวางของเล็ก ๆ ติดมาให้ครบ
มองกลับออกมาที่ประตูทางเข้าห้องน้ำฝั่งห้องครัว
ผ่านห้องครัวเข้ามาด้านในจะเจอกับ Common Area ที่รวมมุมทานอาหารและห้องนั่งเล่นไว้ในพื้นที่เดียวกัน โดยพื้นที่ส่วนที่เหลือทั้งหมดจะปูเป็นลามิเนตลายไม้สีอ่อน ที่ดู Homey มากขึ้น
ภาพรวมบริเวณ Common Area จะได้ความโปร่งสว่างมาจากหน้าต่างบานผสมขนาดใหญ่แบบนี้
มุมทานอาหารอยู่ติดกับห้องครัว ทำให้จัดเสิร์ฟอาหารได้ง่าย และมุมนี้จะสามารถวางชุดโต๊ะทานอาหารขนาด 2-3 คนได้กำลังพอดี ส่วนใครที่ไม่ได้นั่งอาหารแบบจริงจัง ก็สามารถปรับให้เป็นมุมทำงานภายในห้องนอนได้เลยค่ะ
ถัดมาจะเป็นมุมนั่งเล่น นั่งดูทีวี ที่มีระยะใช้งานสบาย ๆ ไม่อึดอัด
สามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง หรือวางเป็นโซฟา L-Shape เข้ามุมขวาชิดกับหน้าต่างได้ ด้านน้ามีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกาแฟขนาดกลางได้อีก 1 ตัว
ตรงข้ามกับโซฟาจะเป็นพื้นที่เปล่าโล่ง ๆ สามารถตกแต่งได้หลายแบบ จะติดชั้นวางของ ตู้เก็บของ เสริมด้วย Smart TV แบบห้องตัวอย่างก็ได้ หรือใครจะวางเป็นชั้นวางทีวีลอยตัวขนาดใหญ่ก็ทำได้เหมือนกัน โดยผนังส่วนนี้จะติดแอร์ Wall Type มาให้แล้ว 1 ตัว
ด้านในสุดจะได้หน้าต่างกระจกบานผสมมา 1 ชุด มีให้ทั้งบานฟิกซ์สำหรับรับแสงธรรมชาติและชมวิวภายนอก และมีบานกระทุ้งเล็ก ๆ ไว้เปิดรับลม เปิดระบายอากาศให้ด้วย 1 บานค่ะ
จากห้องนี้จะตั้งอยู่ที่ชั้น 15 ฝั่งทิศตะวันออก มองผ่านหน้าต่างออกไปจะเห็นวิวถนนพระราม 9 และพื้นที่สีเขียวของ รฟม. สวย ๆ แบบนี้เลยค่ะ
มองกลับมาที่ฝั่งหน้าห้อง
ห้องนอนจะอยู่ที่อีกด้านของห้องพัก มีการกั้นห้องเป็นสัดส่วนด้วยประตูลายไม้สีอ่อน มือจับก้านโยก
เข้ามาภายในห้องนอนจะวางผังมาเป็นห้องหน้ากว้างค่ะ แบ่งพื้นที่ใช้งานไว้ทั้งหมด 2 ส่วน คือ ส่วนของเตียงนอน และอีกฝั่งจะเป็น Walk-in Closet ที่เชื่อมกับห้องน้ำได้ใกล้ ๆ กัน
มุมนี้สามารถวางเตียงนอน 5 ฟุตได้กำลังพอดี ข้างเตียงมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะหัวเตียงเล็ก ๆ เสริมเข้าไปได้
ปลายเตียงนอนเป็นผนังเปล่า สามารถติดกรอบรูปสวย ๆ หรือใครอยากดูทีวีในห้องนอนจะติด Smart TV เข้าไปแทนก็ได้เหมือนกัน
ข้างเตียงนอนเป็นทางออกไประเบียงพักผ่อน ส่วนประตูระเบียงจะเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน
ระเบียงมีขนาดกว้างกำลังดี สามารถใช้เป็นพื้นที่จัดสวนเล็ก ๆ หรือวางราวตากผ้าได้ ตัวพื้นจะปูกระเบื้องเซรามิกกันลื่นมาให้เต็มพื้นที่ พร้อมติดตั้งราวกันตกมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
มองไปทางขวาของระเบียงจะเป็นที่ตั้งของ CDU แบบแขวน หันพัดลมออกไปนอกอาคาร ทำให้ออกมาใช้งานระเบียงได้ไม่ร้อนลมแอร์
จาดระเบียงในห้องนอนมองออกมาได้วิวสวย ๆ แบบนี้เหมือนกันเลยค่ะ
อีกด้านจะเป็น Walk-in Closet โดยผนังเปล่าก่อนทางเดินเข้าไป จะติดแอร์ Wall Type มาให้ด้วย 1 ตัว
Walk-in Closet เป็นพื้นที่แนวลึก มีระยะฝช้งานกว้างกำลังดีค่ะ สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่แบบ 3-4 บานเปิด และใช้พื้นที่ภายในสุดทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งแบบ 1 ที่นั่ง ได้ลงตัวมาก ๆ
ด้านหน้ามีพื้นที่เหลือให้ยืนแต่งตัว นั่งแต่งหน้า และเดินเข้า-ออกห้องน้ำได้สะดวกดีเลยค่ะ
ห้องตัวอย่างห้องที่ 2
แปลนห้องตัวอย่าง TYPE 1H (Loft) แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดประมาณ 34.50-34.75 ตร.ม. เป็นห้องเพดานสูง 4.4 ม. วางผังมาเป็นห้องหน้ากว้าง ดูโปร่งโล่งสบาย ได้ฟีลเหมือนอยู่บ้าน โดยแบ่งพื้นที่ใช้งานไว้ 2 ชั้น ชั้นล่างเปิดเข้ามาจะเจอกับครัวเปิด และมุมทานอาหาร เหมาะกับคนที่ไม่ได้ชอบทำอาหารหนัก ๆ ซ้ายมือเป็นห้องน้ำที่แบ่งส่วนแห้ง และส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย
ถัดเข้าไปด้านในจะเจอกับห้องนั่งเล่นเพดานสูง ด้านหลังเป็นห้องนอน พร้อมระเบียงส่วนตัว โดยห้องนี้จะมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นแยกห้องไว้เป็นสัดส่วนดี ภายในสามารถวางเตียงนอน 5 ฟุตได้ แบบไม่อึดอัด และมีพื้นที่เหลือให้วางตู้เสื้อผ้าได้ด้วย
ส่วนชั้นบนจะสามารถทำเป็นห้องทำงานขนาดใหญ่ หรือทำเป็นนอนอีกห้องก็ได้ พื้นที่ใช้งานรองรับเตียงนอน 5 ฟุตได้เช่นกัน อีกฝั่งจะเป็นพื้นที่แนวยาว รองรับการทำเป็น Walk-in Closet เล็ก ๆ แบบส่วนตัวที่ด้านบนได้เลยค่ะ
เปิดประตูเข้ามาภายในบ้าน จะเจอกับครัวแบบเปิดที่เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น ทำให้บรรยากาศโดยรวมดูกว้างขวางและต่อเนื่องกันอย่างเป็นธรรมชาติ ด้านซ้ายมือจะจัดฟังก์ชันสำคัญไว้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ บันไดทางขึ้นสู่ชั้นบน รวมถึงห้องนอนที่มาพร้อมระเบียงส่วนตัวสำหรับการพักผ่อน
จุดที่โดดเด่นของห้อง TYPE นี้ คือความสูงของฝ้าเพดานที่สูงสุดถึง 4.4 ม. เติมความโอ่อ่าและโปร่งโล่งให้กับพื้นที่ได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังออกแบบให้มีช่องแสง Overside หลายตำแหน่ง ทำให้ในช่วงเวลากลางวัน ห้องสามารถรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ ไม่เพียงช่วยประหยัดพลังงาน แต่ยังสร้างบรรยากาศที่สว่างสดใสและน่าอยู่ตลอดทั้งวัน
มองกลับมาด้านหน้าห้องจะเป็นครัวเปิดและมุมทานอาหาร
ห้องนี้จะได้ชุดครัวขนาดใหญ่แบบ L-Shape ที่มีพื้นที่ใช้งานที่โปร่งและกว้างมาก ๆ
หน้าท็อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว แบ่งพื้นที่ใช้งานไว้ 2 ส่วน คือส่วนของ Sink ล้างจาน และส่วนของมุมทำอาหาร ที่อยู่ด้านในติดกับผนัง Backsplash
มุมทำอาหารได้ Hob & Hood ของ Teka แบบหมุนเวียนออกนอกอาคาร
อีกด้านติดตั้ง Sink หลุมเดี่ยว พร้อมก๊อกน้ำให้ครบ รอบ ๆ มีพื้นที่เหลือกว้าง สามารถวางของใช้ในครัวได้เยอะ และมีพื้นที่ให้เตรียมอาหารได้สบาย ๆ
ด้านบนได้ตู้เก็บของและชั้นวางของลายไม้ สามารถเก็บถ้วยชากาแฟ และของใช้อื่น ๆ ได้เยอะและเป็นระเบียบ
ด้านล่างได้ตู้เก็บของ ชั้นวางของภายในมาครบฟังก์ชัน และมีพื้นที่สำหรับวางไมโครเวฟจัดเตรียมไว้ให้ด้วยค่ะ
ถัดจากชุดครัวบริเวณ Sink ล้างจานเข้าไป จะถูกออกแบบให้มีพื้นที่อเนกประสงค์ที่กว้างเพียงพอสำหรับปรับใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย ใครที่ชอบทำอาหารแล้วอยากมีมุมนั่งทานใกล้ ๆ ครัว ก็สามารถจัดวางเคาน์เตอร์บาร์แบบ 2 ที่นั่ง เติมบรรยากาศเหมือนคาเฟ่เล็ก ๆ ในบ้านได้เลย
ด้านหลังมุมทานอาหารมีระยะใช้กว้างกำลังดี สามารถเลื่อนเก้าอี้เข้า-ออก หรือปรับฟังก์ชันเป็นโต๊ะทรงเหลี่ยม 2 ที่นั่งแทนก็ได้
ถัดจากครัวและมุมทานอาหารเข้าไปด้านใน จะเจอกับห้องนั่งเล่นและห้องนอนทางด้านหลัง
ห้องนั่งเล่นพื้นที่กว้างกำลังดี สามารถวางโซฟาขนาด 2-4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกาแฟเล็ก ๆ ด้านหน้าได้
ฝั่งตรงข้ามจะเป็นผนังเปล่าโล่ง ๆ มุมนี้เลือกตกแต่งเฟอร์นิเจอร์และจัดฟังก์ชันได้ตามต้องการค่ะ จะวางเป็นชั้นวางทีวีลอยตัว หรือจะ Built-in ตู้เก็บของ ชั้นวางของ ตู้โชว์ Art Toy สวย ๆ ให้สูงขึ้นไปจรดเพดานก็ยังได้
จากชั้นบนมองลงมาดูภาพรวมบริเวณห้องนั่งเล่น
มองกลับออกมาดูภาพรวมทางฝั่งหน้าห้องพัก
ห้องนอนถูกจัดวางไว้ด้านหลังโซฟา โดยมีการกั้นพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน แบบ Full Height ที่สูงจรดเพดาน ดีไซน์นี้ช่วยให้บรรยากาศภายในห้องโปร่งโล่ง ดูกว้าง และยังได้แสงธรรมชาติเข้ามาเต็ม ๆ
นอกจากนี้ประตูกระจกยังสามารถเลื่อนเปิดได้สุด ทำให้เชื่อมต่อพื้นที่ห้องนอนกับโซนรับแขกได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะต้องการความเป็นส่วนตัวหรือเปิดโล่งเพื่อใช้งานร่วมกัน ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายตามไลฟ์สไตล์ค่ะ
ภายในห้องตัวอย่างทำเป็นห้องนอนหลักมาให้ดูเป็นแนวทาง พื้นที่ใช้งานถือว่าได้มากกว้างดีเลยนะคะ สามารถวางเตียงนอน 5-6 ฟุต ได้สบาย ๆ และห้องนี้จะได้ฝ้าเพดานสูงอยู่ที่ 2.1 ม.
ข้างเตียงนอนวางตู้เสื้อผ้าไซซ์มาตรฐานมาให้ดูเป็นไอเดีย โดยด้านหน้ายังมีพื้นที่เหลือให้ยืนแต่งตัวได้สะดวก
ห้องนอนด้านล่างจะมีระเบียงมาให้ในตัว ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เปิดได้กว้าง ใช้งานได้สะดวกมากกว่าแบบ 2 ตอน
ภายนอกได้พื้นที่ใช้งานกว้างดีค่ะ ปูพื้นกระเบื้องเซรามิกกันลื่นมาให้เต็มพื้นที่ ด้านซ้ายมือการเดินงานระบบน้ำ ระบบไฟมาให้พร้อมต่อใช้เครื่องซักผ้า
ห้องนี้จะตั้งอยู่ทางทิศใต้ ฝั่งหน้าโครงการ จากชั้น 5 มองออกมาจะเห็นถนนพระราม 9 และอาคารสำนักงานในโซนแบบนี้
จากระเบียงมองย้อนกลับเข้ามาจะเห็นห้องนอนที่ถูกออกแบบให้ยืดหยุ่นต่อการใช้งานจริง หากใครไม่ได้ตั้งใจใช้เป็นห้องนอน ก็สามารถปรับฟังก์ชันใหม่ให้ตรงกับความต้องการได้เต็มที่ เช่น จัดเป็นห้องทำงานสงบ ๆ สำหรับโฟกัสงาน
หรือจะจัดเป็น Live Studio สำหรับคนทำคอนเทนต์ หรือแม้กระทั่งทำเป็นห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ เพื่อให้สะดวกสบายอยู่ในชั้นเดียวกับห้องน้ำก็ลงตัวไม่แพ้กันค่ะ
เข้าไปดูห้องน้ำที่อยู่ทางด้านหน้าห้องกันต่อ
ห้องน้ำแบ่งส่วนแห้งแยกส่วนอาบน้ำให้เรียบร้อย ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่โทนสีอ่อน ดูเรียบหรูสวยงาม พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานของ American Standard & Englefield และมีพัดลมระบายอากาศติดให้ 1 ตัว
ซ้ายมือเป็นพื้นที่ส่วนแห้ง ติดตั้งสุขภัณฑ์มาตรฐานมาในระยะใช้งานสบาย ๆ ไม่อึดอัด
ได้อ่างล้างมือทรงเหลี่ยม ก๊อกน้ำก้านโยก พร้อมตู้เก็บของบานเปิดลายไม้ที่ด้านล่าง
ผนังติดตู้เก็บของบานเปิด หน้าบานกระจกเงามาให้ ภายในมีชั้นลอยให้ 4 ช่อง ทำให้เก็บของได้เยอะและช่วยจัดระเบียบได้ดี
ติดกันได้เป็นโถสุขภัณฑ์ 2 Piece ระบบ Dual Flush พร้อมอุปกรณ์ประกอบครบเซ็ต
ด้านในสุดเป็นส่วนอาบน้ำ จัดผังออกมาได้ดี พร้อมติดฉากกั้นกระจกบานเลื่อน 3 ตอน มาให้มาตรฐานกับห้องพักเลยค่ะ
ภายในส่วนอาบน้ำจะมีชั้นวางของที่ผนังให้ 1 ชั้น สามารถซื้อชั้นวางของแนวสูงเล็ก ๆ มาเพิ่มพื้นที่วางของได้ ติดกันได้ฝักบัว 2 แบบ พร้อมราวปรับระดับและก๊อกน้ำก้านโยก
บันไดทางขึ้นไปด้านบนจะอยู่ตรงกลางห้อง ระหว่างห้องน้ำและห้องนอนด้านล่าง
มองขึ้นไปด้านบนจะได้พื้นที่ครึ่งนึงของห้องพัก โดยรองรับการทำเป็นห้องนอนอีก 1 จุด และ Walk-in Closet หรือมุมทำงานแบบส่วนตัวได้เลย
ขึ้นมาด้านบนขวามือจัดเป็นห้องนอนมาให้ดูเป็นไอเดีย โดยผนังด้านในสุดจะมีหน้าต่างติดมาให้ด้วย รับรองว่ามีแสงสว่างที่เพียงพอ ใช้งานได้ในบรรยากาศที่โปร่งสบายไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ
รองรับการวางเตียงนอน 5 ฟุตได้ และชั้นนี้จะได้ฝ้าเพดานสูง 2.05 ม. ทำให้เดินใช้งานได้สะดวกดีทีเดียว
ด้านหน้าจะกั้นด้วยราวกันตกกระจ Temper ทำให้ชั้นบนดูโปร่งสบาย ใครอยากประหยัดแอร์ ก็สามารถกั้นเป็นห้องแบบปิดเองได้ภายหลังนะคะ
มองไปอีกฝั่งจะเป็น Walk-in Closet ที่โครงการตกแต่งมาให้ดู
มุมนี้จะสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ แล้วเสริมด้วยโต๊ะเครื่องแป้งแบบ 1 ที่นั่งได้พอดี ส่วนใครไม่ได้ทำเป็นมุมแต่งตัว ก็สามารถปรับฟังก์ชันเป็นพื้นที่เก็บของ หรือทำเป็นมุมทำงานส่วนตัวอีกจุดก็ได้
ราคา (ก.ย. 68)
สรุป
⇒ ทำเลที่ตั้งโครงการ : THE BASE Urban พระราม 9 ตั้งอยู่บนทำเลพระราม 9 ที่ถือว่าเป็นย่าน New CBD ของกรุงเทพฯ รายล้อมไปด้วยทั้งออฟฟิศเกรด A ศูนย์การค้า และไลฟ์สไตล์ฮับต่าง ๆ ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ โครงการคึกคักและมีความสะดวกครบครัน แต่ขณะเดียวกันก็ยังได้ความเป็นส่วนตัว เพราะตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 1 ไร่ เป็นคอนโดสูงที่ไม่ใหญ่มากนัก จึงได้ความสงบไม่พลุกพล่านเกินไป
⇒ การเดินทางโดยรถส่วนตัว : สำหรับคนใช้รถ โครงการอยู่ใกล้แยกผังเมืองและถนนสายหลักหลายเส้น ไม่ว่าจะเป็นพระราม 9, อโศก-ดินแดง หรือรัชดาภิเษก เชื่อมต่อเข้า-ออกเมืองได้สะดวก นอกจากนี้ยังใกล้ทางพิเศษศรีรัช ใช้เวลาไม่กี่นาทีในการขึ้นทางด่วน ช่วยให้การเดินทางไปยังโซนอื่นของกรุงเทพฯ ทำได้รวดเร็ว
⇒ การเดินทางรถไฟฟ้า : ถ้าใครเน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ที่นี่ก็ถือว่าตอบโจทย์ เพราะอยู่ไม่ไกลจาก MRT พระราม 9 และ MRT ศูนย์วัฒนธรรม สามารถเดินหรือนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างต่อเข้าไปได้ง่าย ๆ เมื่อเชื่อมต่อกับ MRT ก็สามารถต่อสายไปยังอโศก สีลม หรือตามแนวรถไฟฟ้า BTS ได้สะดวก ช่วยให้การใช้ชีวิตในเมืองไม่ต้องกังวลเรื่องการจราจรเท่าไร
⇒ การออกแบบโครงการ ห้องพัก และวัสดุ : ตัวอาคารสูง 29 ชั้น มีเพียง 311 ยูนิต จึงเน้นความเป็นส่วนตัวสูง การออกแบบมีความโมเดิร์น เรียบเท่และดูทันสมัย ห้องพักมีให้เลือกทั้งแบบ Simplex และ Loft เหมาะทั้งกับคนที่ชอบความกะทัดรัดใช้งานง่าย หรือคนที่อยากได้ฟีลบ้านสองชั้นในคอนโด วัสดุและการตกแต่งใช้โทนที่ดูอบอุ่นทันสมัย เลือกใช้กระจก Full Height รับแสงธรรมชาติเต็มที่ ภายในมีฟังก์ชันจัดวางที่ลงตัวสำหรับการใช้ชีวิตจริง
⇒ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย : พื้นที่ส่วนกลางจัดเต็มกว่า 2,700 ตร.ม. มีทั้ง Co-Working Space สำหรับคนทำงาน, Sky Lawn พื้นที่พักผ่อนกลางแจ้ง, สระว่ายน้ำแบบ Semi Outdoor ได้ Gym แบบครบวงจร
ไปจนถึง Sky Court ที่สามารถชมวิวเมืองได้รอบด้าน 360 องศา ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็ครบครัน ทั้งการเข้า-ออกด้วยระบบ Face Scan และกล้อง CCTV รอบโครงการ รวมถึงมี Auto Parking รองรับรถได้กว่า 54% ซึ่งถือว่าหายากสำหรับคอนโดกลางเมืองแบบนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1685
Line : https://siri.ly/M5hnFS8
Website : https://bit.ly/468IZMx
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รีวิว THE BASE Urban พระราม 9 คอนโดใหม่พร้อมอยู่ บนทำเล NEW CBD ใจกลางแยกผังเมือง ใกล้ MRT รฟม., MRT พระราม 9 และทางด่วนศรีรัช เริ่ม 3.79 ล้าน* "