รีวิว อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ Altitude Unicorn Sathorn-Tha Phra
โปรโมชั่น 2023!! พักสมอง อัลติจูด คิดให้ครบ จบ พร้อมอยู่” ผ่อนให้ 2 ปี* ฟรีทุกค่าใช้จ่าย* กับ 3 โครงการ 3 ทำเลศักยภาพ
อัลติจูด ยูนิคอร์น (Altitude Unicorn) สาทร-ท่าพระ
Written by : Pure Thitapa
Photo by : Eins Gannika
สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ชาว Condonayoo ทุกคน วันนี้เรามีคอนโดพร้อมอยู่ บนทำเลใกล้สีลม-สาทร ที่ทำมาเพื่อเจาะกลุ่ม Millennials และ Start Up กับโครงการ ‘Altitude Unicorn สาทร-ท่าพระ‘ โครงการร่วมทุนระหว่าง Altitude Development X Creed Group พันธมิตรใหม่จากญี่ปุ่น
ที่ตั้งโครงการติดถนนราชพฤกษ์ ใต้ทางต่างระดับ ใกล้จุดกลับรถเพื่อมุ่งหน้าสู่ Business Center อย่างสีลม-สาทร-พระราม 4 สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ไม่ว่าจะขับรถเข้าและออกเมือง หรือจะใช้รถไฟฟ้าก็มี BTS ตลาดพลู ที่ภายในปีนี้จะมี Sky Walk ให้เดินจากหน้าโครงการไปขึ้นรถไฟฟ้าได้เลย สะดวกสบายสุด ๆ จาก BTS ตลาดพลู
รอบ ๆ โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้ทั้งฝั่งในเมือง และฝั่งธนฯ มีทั้งห้างสรรพสินค้า The Mall ท่าพระ ย่านของอร่อยชื่อดังอย่างตลาดพลู ที่มี Street Food เปิดขายตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ใกล้แหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น เช่น วัดสำคัญ ๆ และอยู่ไม่ไกลจาก ICONSIAM ที่ขับรถไปก็ได้ หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปก็สะดวกสุด ๆ
อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 34 ชั้น จำนวน 711 ยูนิต + ร้านค้า 1 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 2-3-65.4 ไร่ ทั้งหมดออกแบบภายใต้แนวคิด ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถพักผ่อนอย่างแท้จริง และสร้างพลังบวกทั้งการใช้ชีวิตและการทำงาน ตั้งแต่รูปลักษณ์โครงการ ฟังก์ชันภายในห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกโดดเด่น และมุ่งเรื่อง Co-Creation
โดยจะมีแบบห้องหลัก ๆ ให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ 1 Bedroom ขนาด 23.64-34.56 ตร.ม. (ฝ้าเพดานสูง 2.7 ม.), 1 Bedroom Plus ขนาด 36.98-45.18 ตร.ม. (ฝ้าเพดานสูง 2.7 ม.) และแบบสุดท้ายคือ 1 Bedroom Plus Loft ขนาด 39.08-69.28 ตร.ม. เป็นห้อง Highlight ที่มีความพิเศษคือ มีความสูงเพดานถึง 4.6 เมตร ทำให้เพิ่มความโปร่งของห้อง
และยังมีชั้นลอยที่สามารถทำเป็นอีกห้องนอนได้ โดยไม่รู้สึกอึดอัด พร้อมฟังก์ชันในการเก็บของตามสไตล์ญี่ปุ่นที่พื้นที่จำกัดเหมือนเดิม ทางโครงการขายให้แบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์วัสดุพรีเมียม ดีไซน์ลงตัวกับห้องพัก ที่เราสามารถหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้า และซื้อเฟอร์อีกไม่กี่ชื้นก็เข้าอยู่ได้เลย
สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการครบครัน และให้มามากกว่า 6 ชั้น ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดยได้มีออกแบบสังคมการอยู่อาศัยที่เน้นความทันสมัยและความสะดวกสบายครบครัน เช่น พื้นที่ส่วนกลาง (Hard Facility) Intimate Lobby, Reception & Service Bar, Co-working Space, Co-kitchen, Fitness, และ Grand Swimming Pool พร้อม Lawson 24 ชม. ที่ด้านหน้าโครงการ
ที่แตกต่างกว่านั้นเป็นพื้นที่ Reception & Service Bar ออกแบบตกแต่งร้านโดย Fallabella ร้านอาหารกึ่งผับชื่อดัง ให้เป็นที่นัดพบและลิ้มรสกาแฟด้วยรูปแบบ Coffee Corner ในตอนกลางวัน แล้วเปลี่ยนเป็นบาร์ยามค่ำคืน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยสุดพรีเมียมตลอด 24 ชม. ในราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท* (ส.ค.66)
ลงทะเบียนวันนี้รับสิทธิพิเศษและนัดชมโครงการแบบ Private คลิก : https://www.altitude.co.th/condominium/altitude-unicorn
สำหรับรายละเอียดทำเลที่ตั้งโครงการ, ห้องตัวอย่าง และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ติดตามต่อได้ที่เนื้อหาด้านล่างเลยค่ะ
| ชื่อโครงการ | อัลติจูด ยูนิคอร์น สาทร-ท่าพระ Altitude Unicorn Sathorn-Tha Phra |
| เจ้าของโครงการ | Altitude Development X Creed Group พันธมิตรใหม่จากญี่ปุ่น |
| เนื้อที่ทั้งหมด | 2-3-65.4 ไร่ |
| จำนวนตึก | 1 อาคาร |
| จำนวนชั้น | 34 ชั้น |
| จำนวนห้อง | 711 ยูนิต + ร้านค้า 1 ยูนิต |
| ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
| ที่จอดรถทั้งหมด | 263 คัน หรือ 40% รวมซ้อนคัน |
| จำนวนลิฟต์ |
|
| โซน | เขตธนบุรี |
| เส้นทางคมนาคม |
|
| ที่ตั้ง | ถนนราชพฤกษ์ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. 10600 |
| กำหนดการ | ปี 2562 |
| ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ (ปี 2565) |
| ราคา | เริ่มต้น 2.99 ล้านบาท* (ส.ค.66) |
| ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ประมาณ 120,000 บาท/ตร.ม. |
| ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
| สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด** |
| สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
| Tel | 02-821-5393 |
| Website | https://www.altitude.co.th |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนราชพฤกษ์ แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. 10600
พิกัดโครงการ : https://g.page/AltitudeUnicorn?share
โครงการ Altitude Unicorn สาทร-ท่าพระ ตั้งอยู่บนทำเลตลาดพลู ซึ่งเป็นทำเลที่เป็นชุมชนดั้งเดิม ใกล้เมือง ความอุดมสมบูรณ์สูง มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น รายล้อมไปด้วยหมู่บ้าน, อาคารพาณิชย์, สถานที่ประกอบการทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ใกล้สถานที่สำคัญ และแหล่งอำนวยความสะดวกและแหล่งงานต่าง ๆ หลายแห่ง
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ที่ตั้งโครงการติดถนนราชพฤกษ์ ใต้ทางต่างระดับ โดยถนนราชพฤกษ์ ถือว่าเป็นถนนเส้นหลักของคนฝั่งธนฯ ที่เข้าเมืองก็ง่าย ออกเมืองก็สะดวก และยังเป็นถนน 6 ช่องจราจร ช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนน เดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวกคล่องตัว
นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญเส้นอื่น ๆ ได้หลากหลาย ครอบคลุมถนนสายสำคัญของโซนฝั่งธนฯ เกือบจะครบทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนกัลปพฤกษ์, ถนนเพชรเกษม, ถนนเทอดไท, ถนนรัชดาฯ-ท่าพระ, ถนนพระราม 3, ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน, ถนนกรุงธนบุรี, สะพานตากสิน และถนนสาทร
แต่แม้ว่าโครงการจะอยู่บนถนนราชพฤกษ์ก็จริง แต่ไม่ได้อยู่ติดถนนหลักราชพฤกษ์ (เส้นที่วิ่งออกเมือง) เนื่องจากตำแหน่งสถานี BTS ตลาดพลู นั้นตั้งอยู่บริเวณทางเบี่ยงออกจากถนนราชพฤกษ์สายหลัก ซึ่งตรงไปจะเป็นทางกลับรถใต้สะพาน ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ อาจจะต้องเป็นผู้ที่ค่อนข้างชินทางกันสักหน่อย
ซึ่งบริเวณโครงการจะมีซอยเทอดไท 33 ที่เป็นซอยย่อยหรือถนนเส้นหลักอีกเส้น ที่สามารถวิ่งออกสู่ถนนเทอดไท, ถนนรัชดา-ท่าพระ บริเวณ ซอยรัชดาฯ 15 ไปโผล่หน้า The Mall ท่าพระ, ถนนจอมทอง บริเวณซอยจอมทอง 14 หรือตลาดจอมทอง และถนนวุฒากาศได้
สำหรับคนที่ทำงานในเมืองโซน CBD สาทร-สีลม-พระราม 4 เดินทางได้ง่าย สามารถกลับรถแล้วใช้เส้นราชพฤกษ์ขาเข้า ตรงไปเชื่อมกับถนนกรุงธนบุรี ขับตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ตากสิน-บางหว้า) แล้วข้ามสะพานตากสิน ก็จะเชื่อมกับโซน Business Center อย่างสีลม-สาทรได้เลย ใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 10-15 นาที (การจราจรปกติ)
หากใครที่ต้องการเข้า-ออกเมืองไปโซนอื่น ๆ ก็มีทางด่วนให้เลือกใช้ 2 สาย แต่ระยะทางก็อาจจะขยับออกไปหน่อย โดยทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านพระราม 2 ในระยะทางประมาณ 7.1 กม.* หรือใช้เวลาขับรถจากโครงการไปประมาณ 15-20 นาที*
ซึ่งเส้นนี้จะเหมาะกับการเดินทางออกไปชานเมือง ฝั่งพระราม 2, สมุทรสาคร และสมุทรปราการ หรือจะใช้วิ่งเพื่อไปเชื่อมกับทางด่วนพระราม 3-วงแหวนรอบนอกตะวันตก และมอเตอร์เวย์ บางขุนเทียน-วังมะนาว ที่เป็นทางด่วนใหม่ในอนาคตได้ค่ะ
อีกที่จะเป็นทางด่วนศรีรัช ด่านสุรวงศ์ ระยะทางประมาณ 7.5 กม.* ซึ่งอาจจะดูเป็นระยะทางที่ไกลกว่าด่านแรก แต่จริง ๆ แล้วด่านนี้จะสะดวกสบายในการใช้เดินทางไปโซนต่าง ๆ ของกรุงเทพได้มากกว่า เราสามารถใช้ทางด่วนนี้วิ่งตรงไปดินแดง, แจ้งวัฒนะ, พระราม 9 หรือออกไปยังโซนบางนาได้เลยค่ะ
ถนนและแยกสำคัญใกล้เคียง
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางโดยรถไฟฟ้า : ถือว่าเป็นจุดเด่นและเป็นทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกที่สุด ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS ตลาดพลู ทางออกที่ 1 ประมาณ 150 เมตร* และภายในปลายปีนี้ (2565) จะมี Sky Walk ให้เดินขึ้นจากหน้าโครงการไปยังสถานีตลาดพลูได้เลย
/ 7 สถานี ถึง BTS ศาลาแดง ที่สามารถ Interchange ไปยังรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีสีลม หรือจะนั่งยาวต่อเดียวไปสยามเลยก็ได้ค่ะ
ปัจจุบันโครงข่ายของรถไฟฟ้าสายสีเขียวนี้ จะสร้างเสร็จครบทุกช่วงแล้ว ทำให้เราสามารถเดินทางเชื่อมต่อ 3 จังหวัดได้ง่าย ๆ เลย ทั้งเดินทางไปโซนกทม.-สมุทรปราการ และปทุมธานี
ทั้งยังอยู่ใกล้กับ BRT ราชพฤกษ์ สถานีต้นทางของรถด่วนพิเศษ ตัวสถานีจะตั้งอยู่ตรงแยกรัชดา-ตลาดพลู สามารถใช้นั่งไปทำงานโซนสาทร-นราธิวาสฯ-พระราม 3 ได้สะดวก สามารถใช้ Sky Walk เดินไปขึ้น BRT ได้เช่นกัน ส่วนอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 15 บาทตลอดสาย และฟรีในส่วนของนักเรียนในเครื่องแบบ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ถือว่าเป็นราคาต่อรอบที่ถูกมาก ๆ
ส่วนใครที่ต้องการใช้บริการรถขสมก. ก็มีป้ายรถเมล์ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าซอยตลาดไทยช่วยไทย และด้านหน้า The Mall ท่าพระ มีสะพานลอยให้ใช้ข้ามได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยรถเมล์สายที่ผ่านได้แก่ สาย 57, สาย 68, สาย 108, สาย 147, และสาย 4-63 นอกจากนั้นยังมีรถสองแถว และรถกระป๊อให้เลือกอีกหลายสายเลยค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการ ก็จะมี The Mall ท่าพระ ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าครบวงจรชั้นนำในย่านฝั่งธนฯ ที่อยู่ห่างจากโครงการไปเพียง 700 เมตร* ปัจจุบันมีการ Renovate ใหม่ ทำให้ห้างดูใหม่ และน่าเดินมากขึ้น ภายใน The Mall ท่าพระ จะมีทั้งหมด 4 ชั้น มี Gourmet Market, ร้านอาหารคาว-หวาน, สินค้าแฟชั่น, โซน IT และ ร้านค้าชื่อดังต่าง ๆ มากมาย มีศูนย์ซ่อมและขายมือถือขนาดใหญ่ และโรงหนัง SF Cinema
ตรงข้ามกับ The Mall ท่าพระ ก็จะมีตลาดไทยช่วยไทย มีทั้งแบบตลาดติดแอร์และตลาดกลางแจ้ง ตอนเย็น ๆ จะมีร้านค้าแผงลอยเปิดขายเยอะมาก เดินลัดออกไปทางซอยเทอดไท 33 ก็จะมีตลาดเดินเล่น, ตลาดกระต่ายมั่งคั่ง ห่างจากโครงการเพียง 400 เมตร* รวมถึงใกล้กับตลาดพลู ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ของคนฝั่งธน ทั้งยังเป็นแหล่งขายของกินร้านเด็ด ๆ นั่งพี่วินไปก็ได้ค่ะ สะดวกดี
ถัดออกไปรอบ ๆ ก็จะมี ICONSIAM ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่และใหม่ที่สุดของกทม. นอกจากศูนย์การค้าแล้วก็ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมและคอนโดมิเนียมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยพื้นที่ทั้งหมดเชื่อมต่อกันด้วยถนนภายในโครงการและสถานีรถไฟฟ้าสายสีทอง ที่ปัจจุบันเปิดใช้งานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
ใกล้ Community Mall และห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ อย่าง Sena Fest, Robinson บางรัก, Central Plaza พระราม 3 และ Asiatique The Riverfront นอกจากนั้นยังใกล้กับสถานที่ราชการอย่าง สำนักงานเขตธนบุรี, สำนักงานเขตบางกอกใหญ่ และสำนักงานที่ดินธนบุรี ทำงานลูกบ้านที่อยู่โครงการนี้ สะดวกสบายและง่ายต่อการติดต่อธุระราชการและงานทะเบียนราษฎรเป็นอย่างมาก
ใกล้โรงเรียนรัฐบาลชื่อดังของไทยและโรงเรียนเอกชนชั้นนำหลายแห่ง ใกล้ที่สุดจะเป็น รร.จินดามณี ที่อยู่ห่างออกไป ประมาณ 1.7 กม.* ถัดออกไปทางพระนคร ก็จะมี รร.กงลี้จงซัน, รร.สตรีวัดอัปสรสวรรค์, รร.แม่พระประจักษ์, รร.วัดนวลนรดิศ, รร.วัดราชโอรส, รร.ศึกษานารี, รร.มัธยมวัดดาวคะนอง, มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา, มรภ.ธนบุรี และ ม.สยาม
ฝั่งสีลม-สาทร ที่สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปเรียนได้ง่าย ๆ ก็จะมี รร.กรุงเทพคริสเตียน, รร.เซนต์หลุยส์ศึกษา รวมถึงโรงเรียนในเครืออัสสัมชัญ เช่น รร.อัสสัมชัญ, รร.อัสสัมชัญ ฝ่ายประถม, รร.อัสสัมชัญคอนแวนต์ สีลม, รร.เซนต์โยเซฟคอนเวนต์ และ รร.นานาชาติโชรส์เบอรี
ในส่วนของโรงพยาบาลใกล้จะอยู่ใกล้กับ รพ.พญาไท 3 มากที่สุด ในระยะทางเพียง 3.8 กม.* ถัดออกไปรอบ ๆ จะมี รพ.บางไผ่, รพ.สมิติเวชธนบุรี, รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า, รพ.สมเด็จเจ้าพระยา, รพ.ตากสิน, รพ.เจริญกรุงประชารักษ์, รพ.นันอา และ รพ.เลิดสิน
ส่วนโรงพยาบาลเอกชนทางฝั่งสาทร-สีลม-พระราม 4 ก็จะมี รพ.เซนต์หลุยส์, รพ.กรุงเทพคริสเตียน, รพ.บีเอ็นเอช และ Med Park ทั้งหมดอยู่ในรัศมีอุ่นใจ เจ็บไข้ได้ป่วยมา นั่งรถไฟฟ้า หรือขับรถไปได้ง่าย ๆ ประมาณ 10-20 นาที* ถึงโรงพยาบาลค่ะ
ศูนย์การค้า
ตลาด ร้านสะดวกซื้อ และอื่น ๆ
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางสู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
ภาพประกอบการเดินทาง
พิกัด Google Maps : 13.712924, 100.474883
การเดินทางเริ่มจาก ถนนกรุงธนบุรี ⇒ แยกรัชดาตลาดพลู ⇒ ถนนรัชดาภิเษก ⇒ ถนนเทอดไท ⇒ ซอยเทอดไท 33 ⇒ ถนนราชพฤกษ์ ⇒ BTS ตลาดพลู ⇒ Altitude Unicorn สาทร-ท่าพระ *ติดซอยรัชดาท่าพระ 13 (ซอยวัดบางสะแกใน)
ภาพประกอบการเดินทาง เราใช้ถนนกรุงธนบุรีฝั่งขาออก ที่มาจากสะพานตามสินและขับไปตามแนวรถไฟฟ้าสายสีลมผ่าน BTS โพธิ์นิมิตร
จากนั้นเบี่ยงซ้ายตามไปท่าพระ เข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก
พอถึงแยกรัชดาตลาดพลู ให้เราเลี้ยวขวาเพื่อไปตลาดพลูค่ะ
จากนั้นชิดซ้ายวิ่งเส้นล่างใต้สะพาน ทางไปตลาดพลู
ข้ามทางรถไฟ ใต้สะพานเป็นตลาดพลู จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเทอดไท
เราจะเลี้ยวเข้าซอยเทอดไท 33 ทางลัดไปจอมทอง
เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ซอยเทอดไท 33
ตามทางไปเรื่อย ๆ
เราจะเลี้ยวขวาใต้ทางต่างระดับ
เลี้ยวขวา
ผ่าน BTS ตลาดพลู
ตามแนว Skywalk ซ้ายมือกำลังสร้างจะไปลงที่หน้าโครงการเลยค่ะ
ถึงโครงการ Altitude Unicorn สาทร-ท่าพระ
ภาพมุมสูงที่ดินโครงการ พื้นที่รอบ ๆ โครงการส่วนใหญ่ยังคงเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบและชุมชนวัดบางสะแก แต่ก็จะมีคอนโดข้างเคียงในระยะประชิดขึ้นมา 1 โครงการ ส่วนทางเข้า-ออกของโครงการจะอยู่ติดทางขนานถนนราชพฤษ์ บนที่ดินขนาด ประมาณ 2 ไร่กว่า ๆ บรรยากาศรอบ ๆ โครงการมีความเงียบสงบ เป็นส่วนตัวสูง แต่ในขณะเดียวกันในระยะ 100-500 เมตร ก็จะมีความคึกคัก และความอุดมสมบูรณ์สูง เพราะอยู่ใกล้ตลาด, ห้าง, โรงเรียน และโรงพยายาล
ตัวโครงการ
เรามาดูรายละเอียดแปลนกันต่อ เริ่มที่ Master Plan ด้านหน้าโครงการจะมี Shop จำนวน 1 ยูนิต เป็นร้านสะดวกซื้อ Lawson 108 ที่เปิดตลอด 24 ชม. ส่วนทางเข้า-ออกโครงการจะมีทางเดียวจากถนนคู่ขนาน ราชพฤกษ์ พอเข้ามาในโครงการจะเจอถนน One Way วิ่งวนขวารอบโครงการ และจะมีทางเข้าที่จอดรถอยู่ด้านหลัง โดยที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1-6 รวมทั้งหมด 40 % (รวมซ้อนคัน) มี EV Charger ให้ 2 Slots ส่วนรถโดยสารก็สามารถจอดรับ-ส่งผู้โดยสารด้านหน้าแล้ววนกลับออกไปได้เลย ส่วนภายในอาคารเข้ามาจะเจอ Lobby และ Lobby Bar by Fallabella
โครงการ Altitude Unicorn สาทร-ท่าพระ เป็นคอนโด High-Rise 34 ชั้น 1 อาคาร ห้องพักอาศัยจำนวน 711 ยูนิต + Lawson 108 ร้านสะดวกซื้อระดับพรีเมี่ยมจากญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการ 24 ชม. ที่ด้านหน้าโครงการอีก 1 ยูนิต และมี Fallabella Bay คาเฟ่และบาร์น้ำจากร้าน Fallabella ร้านดังในย่านทองหล่อ และ ICONSIAM เปิดให้บริการภายใน Lobby ที่ชั้น 1
การออกแบบ Facade Design มีความน่าสนใจกว่าโครงการโดยรอบ ด้วยการออกแบบที่ผสมผสานเส้นสายของ Grand Canyon หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่สวยงามของโลก เชื่อมโยงเข้าสู่การออกแบบภายในที่กระตุ้นทุกจินตนาการของคุณให้ลื่นไหลอยู่เสมอ
ภายในโครงการเองก็ยังมีพื้นที่ให้ลูกบ้านได้แลกเปลี่ยน ส่งต่อ หรือแบ่งปันความคิดดี ๆ กับห้อง Co-Working Space ขนาดใหญ่ และ Co-Creation Kitchen ห้องครัวส่วนกลางที่เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ทันสมัย ภายในสังคมคุณภาพ และสามารถต่อยอดโอกาสทางธุรกิจได้อย่างไม่สิ้นสุด
โครงการ Altitude Unicorn สาทร-ท่าพระ จะมีทางเข้า-ออกหลักเพียงทางเดียว อยู่ติดกับถนนราชพฤกษ์ ใต้ทางต่างระดับ ใกล้จุดกลับรถที่วนกลับไปยังแยกรัชดา-ท่าพระ มุ่งหน้าสู่สาทร-สีลมได้เพียง 10-15 นาที*
และปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างตัว Sky Walk ให้ลูกบ้านของโครงการเดินเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้า BTS ตลาดพลู ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 150 เมตร* ได้เลย แน่นอนว่าเมื่อสร้างเสร็จ ก็จะช่วยให้ลูกบ้านเดินเท้าไปใช้งานรถไฟฟ้าได้อย่างสะดวกสบาย และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นค่ะ
ด้านหน้าจะมีป้อมรปภ. ตั้งอยู่ทางขวามือ มีพี่ ๆ รปภ. ประจำการดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่ตลอด 24 ชม. ตรงกลางจะเป็นไม้กระดกอัตโนมัติ แยกช่องรถยนต์เข้า-ออก ในส่วนของลูกบ้านจะใช้ระบบ RFID หรือการใช้สัญญาณ Bluetooth แบบ Easy Pass มีกล้อง CCTV จับภาพรวมด้านหน้ารถยนต์ให้ฝั่งละ 1 ตัว ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตร และแจ้งธุระกับทางพี่รปภ. ก่อนเข้าโครงการทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกบ้านในโครงการ
ด้านข้างฝั่งซ้ายมือจะเป็น Sky Walk และประตูทางเข้า-ออกสำหรับคนเดินเท้า ใช้เป็นระบบ Key Card Access ที่ใช้งานได้เฉพาะลูกบ้านของโครงการเท่านั้น ติดกันจะเป็นสวนหย่อม พร้อมร้านสะดวกซื้อสัญชาติญี่ปุ่น Lawson ที่จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชม.
จุดเด่นของ Lawson คือจะมีข้าวกล่องพร้อมทาน, มีเมนูปรุงสุกสไตล์ญี่ปุ่นมากมาย รสชาติดี ราคาไม่แพง แถมยังมี Station ที่เป็นโอเด้งร้อน ๆ ในน้ำซุปปลาโอ ใครที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นแบบเร่งด่วน ทานง่าย ต้องถูกใจเอามาก ๆ
เข้ามาด้านในโครงการจะเจอกับ Drop-Off ที่ด้านหน้า ส่วนการเดินรถยนต์ภายในโครงการเป็นแบบ One Way วนซ้ายไปตามเข็มนาฬิกา มีที่จอดรถใต้อาคารชั้น 1 ให้รอบ ๆ และมีทางขึ้นชั้นจอดรถยนต์ในร่มตั้งอยู่ที่ด้านหลังอาคาร
รอบ ๆ โครงการมีการตกแต่งจัดสวนแนวรั้วมาให้ โดยจะปลูกเป็นต้นไม้ใหญ่, ต้นไม้พุ่มเตี้ย พุ่มสูงเรียงชิด ๆ กันไป ซึ่งนอกจากจะให้ความร่มรื่น เพิ่มบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้กับลูกบ้านของโครงการแล้ว สวนแนวรั้วยังจะช่วยในเรื่องของการบดบังทัศนียภาพจากภายนอกและภายใน ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว กว่ารั้วโครงการที่เป็นรั้วโปร่งทั่ว ๆ ไปนั่นเอง
ตรงเข้ามาตาทางถนนเมน ขวามือจะเจอกับจุด EV Charger อยู่ 2 Slots รองรับการจอดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่กำลังเป็นเทรนด์ฮิตในปัจจุบัน และกำลังจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นภายใน 2-5 ปีนี้อีกด้วย
วนมาที่อีกฝั่งของอาคาร จะเจอกับสวนหย่อมขนาดกลาง ๆ มีการจัด Landscape มาได้อย่างสวยงาม แถมยังลงต้นไม้ใหญ่ สลับกับไม้ประดับ และสนามหญ้ามาให้แบบไม่ต้องรอโต ภายในจะมีทางเดินทรายล้าง ไว้เดินเล่น ออกกำลังกายกลางแจ้ง และมีม้านั่งไว้สำหรับพักเหนื่อย หรือจะใช้เป็นที่นั่งเล่นมือถือ นั่งอ่านหนังสือก็ทำได้
กลับมาที่ด้านหน้าโครงการบริเวณ Drop-Off จุดนี้จะเป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor ที่มี Canopy กันแดดกันฝนมาให้ ด้านหน้ามีการตกแต่งด้วยรูปปั้นและบ่อน้ำ เพื่อให้ Drop-Off ดูรื่นรมย์ ไม่เรียบเฉยจนเกินไป
ตรงเข้ามาจะเป็นทางเข้าสู่ Lobby ผ่านประตูอัตโนมัติ ที่ช่วยลดการสัมผัสได้เป็นอย่างดี และยังตอบรับเทรนด์การใช้ชีวิตในปัจจุบันแบบ New Normal ได้ดีอีกด้วย
เข้ามาภายในจะเจอกับ Lobby ดีไซน์หรูหรามาก ๆ โดยซ้ายมือจะเป็น Waiting Area ขวามือเป็นทางเดินเชื่อมสู่ Lift Hall และ Mail Room
ภายใน Lobby จะตกแต่งด้วย Material ที่ดูดีมีราคา อย่างตัวพื้น Lobby ก็จะใช้เป็นกระเบื้องลายหินอ่อนสีดำ-ขาว ผนังและฝ้าเพดานตกแต่งด้วยกระจกเงาสี Copper และสีชาดำ ทำให้พื้นที่บริเวณนี้ดู Luxury และดูเป็นหน้าเป็นตาให้กับลูกบ้านเป็นอย่างมาก
Waiting Area ตรงนี้จะเรียกว่าเป็น Highlight ของ Lobby ชั้น 1 เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะมีเล่น Step ตัวพื้นให้สูงขึ้นจากพื้น Lobby เล็กน้อย พร้อมกับการจัด Landscape มาให้เหมือนถ้ำ (Cave) ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Grand Canyon ที่เป็นดินแดนหินผาและหุบเหว ในรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา
Waiting Area จะจัดเตรียมโซฟารับรองมาให้หลากหลายรูปแบบ และแบ่งพื้นที่ให้เป็นโซน ๆ ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะใช้เป็นพื้นที่รับแขก ใช้เป็นที่นั่งคุนงานกับลูกค้า นัดเซ็นเอกสารอย่างไม่เป็นทางการ ใช้เป็นที่นัดพบเจอเพื่อน ๆ หรือจะใช้เป็นที่นั่งทำงาน จุดนี้ก็มีโต๊ะทำงานตัวยาวจัดเตรียมไว้ให้ค่ะ
สุดทางของ Lobby และ Waiting Area จะเป็น Smart Locker ซ้ายมือเป็น Mail Room และขวามือเป็น Lift Hall
ทางเข้า Mail Room ใช้ระบบ Finger Scan และ Face Scan
ภายใน Mail Room
อีกฝั่งจะเป็นทางเข้า Lift Hall ผ่านประตูอัตโนมัติ ซึ่งจะใช้ระบบ Finger Scan และ Face Scan เช่นเดียวกัน ภายในดีไซน์มาได้หรูหรา เพดานสูงโปร่ง โอ่อ่า พร้อมลิฟต์โดยสารแบบล็อกชั้นจำนวน 3 ตัว และมีทีวี LED ไว้สำหรับติดประกาศต่าง ๆ ของโครงการ
ด้านหน้า Waiting Area จะเป็นห้องที่ยื่นออกไป ตรงนั้นจะเป็นคาเฟ่และบาร์ที่มีชื่อเรียกว่า Fallabella Bay จากร้าน Fallabella ที่เป็น Coffee Corner ในตอนกลางวัน ให้ความรู้สึกได้ผ่อนคลายจากการทำงาน มีที่ในการจิบกาแฟและเครื่องดื่มเมนูพิเศษ ในบรรยากาศสุด Relax ในตอนกลางคืนเพิ่มพื้นที่ Hang out ในบรรยากาศของเสียงเพลงและดนตรีที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี
มองตรงไปที่ด้านหน้าจะเป็นลิฟต์แก้ว ที่ใช้ขึ้นจากชั้น 1 ไปยังลานจอดรถและพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 3-4 โซนหน้าโครงการได้
แปลนอาคารชั้น 1-6 จะเป็นที่จอดรถทั้งหมด และจะมีพิเศษหน่อยที่ชั้น 3-4 จะมีส่วนกลางเป็น Co-Working Space and Auditorium และ Laundry Room ให้บริการค่ะ
เรากดลิฟต์ขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเจอกับ Facilities และประตูทางเชื่อมลานจอดรถค่ะ
ภาพรวมที่จอดรถ จะสามารถจอดรถได้ 263 คัน หรือคิดเป็น 40% แบบรวมจอดซ้อนคัน
ตรงกลางลานจอดรถยนต์จะมี Lift Hall ที่ใช้ลงไป Lobby หรือใช้ขึ้นไปยังชั้นพักอาศัยได้เลย โดยการเข้า-ออก Lift Hall จะกั้นด้วยประตูบานสวิงระบบ Face Scan หรือ Finger Scan
อีกทั้งยังมี aundry Room จาก Say Wash ให้บริการตลอด 24 ชม.
ทั้งยังมีเครื่องแลกเหรียญอัตโนมัติ และเครื่องจำหน่ายผงซักฝอกแบบน้ำให้บริการอีกด้วยค่ะ
เข้ามาในพื้นที่ Indoor ชั้น 3 โซนหน้าอาคารจะเป็นที่ตั้งของ Co-Working Space and Auditorium เป็นโถงแบบ Double Volume พร้อมผนังกระจกใส Full Height รอบด้าน ทำให้ผู้ใช้งานได้ Feeling ที่ Cozy โปร่ง โล่ง สบาย และยังสามารถ Take View แนวรถไฟฟ้าและพื้นที่สีเขียวได้ไปในตัว
Co-Working Space แบบ Multi-Function โครงการจัดเตรียมชุดเฟอร์นิเจอร์สำหรับการนั่งทำงานไว้หลากหลายรูปแบบ รองรับการทำงานได้ทั้งแบบเดี่ยว คนเดียวชิล ๆ, นั่งทำงานแบบคู่ และนั่งทำงานแบบกลุ่ม 2-4 คน ซึ่งจะเหมาะมาก ๆ กับกลุ่มคนที่ WFH อยู่ที่บ้านเป็นประจำ หรือคนที่ทำธุรกิจส่วนตัว แบบไม่มี Office หลักให้ต้องเข้าไปทำงาน
ทั้งยังเหมาะกับสาย Freelance ที่ต้องครีเอทงานใหม่ ๆ โดยสามารถชวนเพื่อน ๆ มานั่งคิดงานร่วมกันได้ หรือจะใช้เป็นที่นั่งเรียนพิเศษของลูก ๆ โดยให้ติวเตอร์นั่งรถไฟฟ้ามาสอนที่คอนโดก็ได้เช่นกันค่ะ
ถัดมาจะเจอกับพื้นที่เล่นระดับที่ออกแบบมาเหมือนกับ Amphitheater โดยเลือกใช้ Material เป็นลายหินอ่อนโทนสีขาวเทาทั้งหมด ดูหรูหรา น่าใช้งาน โดยแต่ละขั้นจะมีเบาะรองนั่งและหมองอิงหลังจัดมาให้ ใช้เป็นที่นั่งอ่านหนังสือ, เทรดหุ้น หรือนั่งฟังเพลงเพลิน ๆ มองวิวพื้นที่สีเขียว และแนวรถไฟฟ้าไปพร้อม ๆ กันได้
ทั้งยังมี Meeting Room ที่เป็นห้องประชุมแบบส่วนตัว ให้เข้าไปนั่งทำงานเงียบ ๆ คนเดียว หรือจะนั่งแบบกลุ่มเล็ก กลุ่มกลางก็ได้ไม่มีใครว่า หรือใครที่มี Project ที่ต้องประชุมกับทีม ก็สามารถนัดเพื่อน ๆ มาใช้งานในห้องนี้ได้ ภายในจะมีการจัดเตรียมโต๊ะประชุมตัวยาว, เก้าอี้ประชุม, Whiteboard กระจก Temper และทีวี Led สำหรับต่อจอกับ Laptop เพื่อเปิดไฟล์ Present งานต่าง ๆ ได้ค่ะ
ต่อเนื่องมาที่ด้านบนจะเป็น Mezzanine (กดลิฟต์มาชั้น 5) ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางอีก 1 จุด ที่สำคัญ โดยบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่แบบ Multi-Function เช่นกัน เป็นการออกแบบส่วนกลางให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่มีการใช้ชีวิตที่หลากหลายไม่เหมือนกัน
ภายในชั้นนี้จะมีมุมทำงานแบบ 2-4 ที่นั่ง สุด Private เพราะมี Partition กั้นแยกโซนมาให้ โดยทุกจุดที่มีโต๊ะทำงาน ทางโครงการจะมีการ Provide เต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อย พร้อมเสียบต่อ Gadget ต่าง ๆ ได้เลย
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นเหมือนพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ หรือใช้เป็นที่นั่งดูหนัง ดูซีรีส์ นั่งประชุมงานแบบไม่เป็นทางการได้ โดยจะมีการจัดวาง Bean Bag เป็นกลุ่ม ๆ พร้อมโต๊ะกลางมาหลายที่นั่ง มี Partition กั้นแยกไว้ 2 โซน พร้อมกันนี้ยังมีการติดทีวี LED และ Whiteboard กระจก Temper มาให้ครบทั้ง 2 ฝั่ง
แปลนอาคารชั้น 7 จะเริ่มส่วนชั้นพักอาศัยแล้วค่ะ โดยชั้นนี้จะเป็นห้องแบบ Loft ฝ้าเพดานสูง ส่วนกลางที่ชั้นนี้จึงเป็นแบบ Double Volume โดยส่วนกลางจะมี Grand Pool ระบบน้ำเกลือ ขนาด 25 x 7 เมตร ลึก 1.2 เมตร แยกสระเด็ก, Fitness Center 2 ชั้น ภายในมีทั้งโซนออกกำลังกายมาตรฐาน, Rock Climbing, Boxing ชั้นบนมี Yoga Fly พร้อมห้องน้ำ และห้องสตรีมแยกชาย-หญิง, Co-Creation Kitchen พร้อมพื้นที่ทานอาหาร และอุปกรณ์ทำอาหาร
แปลนอาคารชั้น 8 แบ่งเป็นโซนพักอาศัยห้อง Loft และส่วนกลางจะมี Panoramic Seen Space, Yoga Fly, E-Sport Room หรือห้องเล่นเกม ที่จะมี Computer จัดไว้ให้พร้อมใช้งาน
ขึ้นมาที่ชั้น 7 เป็น Main Facilities และชั้นพักอาศัยของห้องพักสไตล์ Loft โดยฝั่งของส่วนพักอาศัยจะมีประตูกั้นแยกโซนให้อีกที และใช้ระบบ Key Card Access, Face Scan หรือ Finger Scan ในการผ่านเข้า-ออกเพื่อความปลอดภัย
จากโถงลิฟต์เดินมาทางขวามือจะเจอกับประตูที่กั้นแยกระหว่างส่วนพักอาศัยและส่วนกลาง ด้านหน้าจะเป็นห้องน้ำและห้องสตรีมที่แยกห้องชาย-หญิงมาให้เรียบร้อย
ห้องน้ำหญิงได้ฟังก์ชันมาครบ ทั้งล็อกเกอร์เก็บสัมภาระ, เคาน์เตอร์พร้อมอ่างล้างหน้าระบบอัตโนมัติ + กระจกเงา, ห้องน้ำ พร้อมโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ, ห้องอาบน้ำ และห้องสตรีม
ห้องน้ำชายตกแต่ง Interior และได้ฟังก์ชันมาตรฐานมาครบเช่นเดียวกันกับห้องน้ำหญิง
ถัดมาจะเจอกับทางเดินไปยังพื้นที่ส่วนกลางชั้น 7 และตรงนี้จะมีบันไดเชื่อมต่อขึ้นไปที่ส่วนกลางบนชั้น 8 ได้ด้วย
ส่วนแรกเป็น Co-Creation Kitchen เป็นห้องเพดานสูง Double Space ตกแต่งภายในด้วนพื้นกระเบื้องลายหินอ่อนดีไซน์หรูหรา พร้อมจัดเตรียมฟังก์ชันสำหรับทำอาหาร เตรียมอาหาร และโต๊ะทานอาหารชุดใหญ่ที่รองรับการใช้งานได้ถึง 10 ที่นั่ง โดยส่วนนี้เราจะต้องทำงาน Booking กับนิติบุคคลก่อนใช้งาน
อุปกรณ์เครื่องครัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าจัดเตรียมมาให้ครบมาก ๆ มีทั้งตู้เย็น, เตาอบ, ไมโครเวฟ, เครื่องล้างจาน, เตาไฟฟ้า-เครื่องดูดควัน และซิงค์ล้างจาน
วิวที่ได้จาก Co-Creation Kitchen จะมองออกไปเห็นบ้านเรือนฝั่งรัชดา-ท่าพระ และเห็น The Mall ท่าพระแบบนี้ค่ะ
อีกฝั่งจะเป็นห้องสำหรับจัดปาร์ตี้ โดยจะแยกโซนจาก Co-Creation Kitchen ออกมาเลย ภายในนี้จะได้เป็นห้องผนังกระจก Full Height และเพดานสูงแบบ Double Space จัดเตรียมโซฟารับรองมาให้หลากหลายรูปแบบ และสามารถรองรับการใช้งานได้สูงสุดถึง 15 คน
ออกมาที่ด้านนอกจะเจอกับสระว่ายน้ำ ที่ถือว่าเป็น Highlight ของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะงานดีไซน์ต่าง ๆ ของตัวสระ จะมีการใส่ดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ มาได้อย่างน่าสนใจในทุก ๆ จุด
ด้วยคอนเซ็ปต์ของ Grand Canyon ทางโครงการจึงออกแบบพื้นที่ส่วนของสระเด็กให้มีผนังที่เป็นเหมือนถ้ำสีขาว และมี Layer แบ่งออกเป็นชั้น ๆ ทั้งยังมีการซ่อนตัวไฟ LED มาให้ ในเวลากลางคืนบอกเลยว่าสวยหรูมาก ๆ
มองกลับมาจะเห็นว่ามีพื้นที่ชั้นลอยด้านบน ที่เป็นส่วนของ Panoramic Seen Space โดยสระเด็กจะได้เป็นพื้นที่แบบ Semi-Outdoor มีหลังคาบังแสงแดด ให้น้อง ๆ หนู ๆ สามารถลงมาเล่นน้ำได้ตลอดทั้งวัน
ภาพรวมสระว่ายน้ำเด็ก
ถัดมาจะเป็นสระว่ายน้ำผู้ใหญ่แบบฟรีฟอร์ม ความยาว 25 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายจริงจังได้สบาย ๆ และยังมีพื้นที่ท้ายสระที่เป็นเหมือน Shallow Pool ให้แช่ผ่อนคลายอีกจุด
ริมสระว่ายน้ำจะมี Sunken Seat แบ่งไว้ 2 โซนใหญ่ ๆ รองรับได้โซนละ 4-6 ที่นั่ง
ท้ายสระว่ายน้ำจะเป็น Shallow Pool พร้อมสระน้ำตื้นไว้นั่งแช่ตัว หรือจะใช้เป็นสระเด็กอีกจุดก็ได้ รอบ ๆ พื้นที่ตรงนี้จะมีการจัดสวน และเพิ่มม่านน้ำตกเพิ่มความรื่นรมย์มาให้
มองกบับมาดูภาพรวมฝั่งด้านในอาคาร โดยห้องชั้น 7-8 จะเป็นห้อง Loft ได้วิวสระว่ายน้ำสวย ๆ แบบนี้เลยนะ ส่วนห้องพักชั้นบน 8 ขึ้นไปทางฝั่งทิศนี้ ก็จะได้วิวสระว่ายน้ำ พื้นที่สีเขียว และมองเห็นบรรยากาศวิวเมือง และแนวรถไฟฟ้า
มาต่อกันที่ห้องฟิตเนส จะใช้การเข้า-ออกผ่านระบบ Finger Scan และ Face Scan เช่นเดียวกัน
เข้ามาด้านในจะเป็นห้องขนาดใหญ่ ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำและสีแดง เป็นโทนสีที่มีความ Active ช่วยเพิ่ม Anergy ให้แก่ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างมาก ทั้งยังได้เป็นเพดานสูงพร้อมผนังกระจก Full Height ทำให้เปิดรับวิวเมืองได้รอบด้าน
ในห้องฟิตเนสจะมีอุปกรณ์การออกกำลังกาย และเครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัยมาให้ครบ โดยจะแบ่งเป็น Boxing Zone, Cardio Zone และ Body & Weight Training Zone แลัยังมีบันไดวนให้เดินเชื่อมสู่ชั้น 8 ได้ด้วย
Boxing Zone ขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์การต่อยมวยเตรียมมาให้ครบ
ซ้ายมือวิวเมืองและแนวรถไฟฟ้า จะเป็น Cardio Zone มี Treadmill มาให้ทั้งหมด 4 เครื่อง และมีกระสอบทรายให้ 1 ชุด
ด้วยเพดานห้องที่สูงแบบ Double Volume ทางโครงการเลยใช้เสาบางเสาทำเป็น Climbing Zone หรือที่ปีนหน้าผาจำลอง มาให้ลูกบ้านได้ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมสนุก ๆ ได้อย่างไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
อีกฝั่งจะเป็น Cardio Zone มี Elliptical Machine และ Bike Machine ให้อย่างละ 3 เครื่อง
Weight Training Zone จะมีบาร์เบลชุดใหญ่ และเครื่องบริการกล้ามเนื้อแบบ Multi-Function มาให้แบบนี้
มองขึ้นไปด้านบนจะเป็น Yoga Fly Area
สามารถใช้บันไดวนด้านในห้องฟิตเนสเดินขึ้นไปยัง Yoga Fly Area ได้เลย
Yoga Fly Area ตั้งอยู่บนชั้น Mezzanine ของฟิตเนส เป็นห้องผนังกระจกใส Full Height เปิดรับวิวได้รอบด้าน ภายในใช้พื้นไม้ที่มีความ Soft มีอุปกรณ์สำหรับการเล่น Yoga Fly มาให้ครบ เราสามารถเรียกเทรนเนอร์จาดด้านนอกมาสอนที่โครงการได้ หรือจะเปิดคลิปเล่นเองก็ได้ตามต้องการ
มองลงมาจะเห็นวิวฟิตเนส และ Double Volume รวมถึงวิวเมืองและแนวรถไฟฟ้า
ออกมาด้านนอกมาจะเจอกับ Panoramic Seen Space เป็นพื้นที่ครึ่งวงกลมที่มีการปูหญ้าเทียม พร้อมจัดวางชุดเก้าอี้หวาย และมีหมอนอิงมาให้นั่งเล่นผักผ่อนหย่อนใจ รับลมธรรมชาติ และมองวิวเมือง วิวรถไฟฟ้าได้
จากหน้าระเบียงมองตรงออกมาจะเห็นพื้นที่สีเขียว และสระว่ายน้ำฟรีฟอร์มที่ชั้น 7 แบบนี้
เข้ามาด้านในจะเจอกับห้อง E-Sport Room ที่มี Computure, เก้าอี้ Gamimg และจอ LED ที่ผนังให้ใช้เปิดสตรีมแข่งกันอีกกว่า 9 เครื่อง ซึ่งถึงแม้จะเป็นคอนโดเหล่า Millenniums และไม่ได้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยก็จริง แต่ที่นี่ก็อาจจะมีน้อง ๆ นักเรียน นักศึกษาที่เรียนอยู่ในเมือง ทำให้ห้องนี้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของกลุ่มนี้ได้ด้วย
แปลนชั้น 9, ชั้น 10-19, ชั้น 22, ชั้น 23-31 เป็นชั้นพักอาศัยแบบมาตรฐาน ความสูงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร
แปลนชั้น 20-21, ชั้น 32-33 เป็นยูนิตพักอาศัยทั้งชั้น เป็นห้องแบบ Loft ความสูงฝ้าเพดาน 4.6 เมตร
แปลนอาคารชั้น 34 เป็นส่วนกลางคือ Co-Living Space หรือ Sky Lounge จัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน มีแยกห้อง Mini Theatre ที่จัดอุปกรณ์มาให้เหมือนมีโรงหนังส่วนตัว ส่วนพื้นที่ภายนอกก็จะเป็น Rooftop Jogging Track
ขึ้นมาที่ชั้น 28 จะเจอกับ Sky Lounge และ Co-Living Space เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน ภายในตกแต่งมาได้อย่างสวยงาม และมีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์มาให้หลากหลายรูปแบบ รองรับการใช้งานแบบเดี่ยว แบบคู่ และแบบกลุ่ม และยังใช้พื้นที่ 2 โซนนี้ ขึ้นมานั่งทำงาน นั่งเรียนพิเศษได้
มีห้อง Mini Theatre เป็นห้องดูหนังที่มีชุดเก้าอี้ดูหนัง Love Seat และทีวีจอใหญ่ พร้อมเครื่องเสียงจัดเต็ม ได้อรรถรสทั้งภาพและเสียงในการชม โดยที่ไม่จำเป็นต้องออกไปที่โรงหนังในห้างกันเลย
ภายในจะมีห้องน้ำฟังก์ชัน Unisex ให้บริการ 1 ห้อง
ออกมาที่โซนกลางแจ้งจะเจอกับพื้นที่สวนลอยฟ้า ให้ลูกบ้านได้ออกมาพักผ่อน ทำกิจกรรมต่าง ๆ, ออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือเดินเล่นออกกำลังกายกันได้ โดยจุดนี้จะมีม้านั่งกระจายไว้ตามจุดต่าง ๆ หลายที่นั่งเล่ยค่ะ
เดินตรงมาที่ด้านหน้าสุดจะเจอกับสนามหญ้ากว้าง ๆ ที่ใช้ทำกิจกรรมกลางแจ้งก็ได้ หรือจะใช้เป็นจุดชมวิวเมืองก็ได้เช่นกัน
วิวที่ได้จะเห็นบ้านเรือนทางฝั่งธนบุรี, ถนนราชพฤกษ์ และแนวรถไฟฟ้าแบบนี้
ส่วนอีกด้านก็จะมีบันไดให้สามารถเดินเชื่อมต่อขึ้นไปยัง Rooftop ชั้นบนสุดได้ โดยทางเดินจะทำเหมือนเดินอยู่ในถ้ำ ตัวบันไดจะใช้เป็นพื้นทรายล้าง ช่วยป้องกันเท้าลื่น ลดการเกิดอุบัติเหตุได้
ด้านบนจะเป็นลานกิจกรมกลางแจ้งและจุดชมวิวอีก 1 จุด ซึ่งจะเป็นชั้นที่สูงกว่าชั้นที่ผ่านมา
มองออกมาได้วิวสวย ๆ แบบนี้
อีกด้านจะเรียนว่า Rooftop Garden เป็นทางเดินเล่นลอยฟ้า ที่มีราวกันตกเป็นกระจก Temper ให้ความรู้สึกที่หรูหรา และสามารถ Take View รอบ ๆ ได้กว้างแบบ Panorama ทั้งยังมี Jogging Tack ระยะสั้น ๆ ให้เดินเล่น หรือเดินออกกำลังกายได้
จาก Rooftop Garden เพื่อน ๆ จะมองวิวได้แบบ 360 องศา เห็นวิวเมืองทั้งฝั่งสาทร และฝั่งธนฯได้รอบแบบนี้เลยค่ะ
แบบห้อง
ห้องในโครงการขายแบบ Fully Furnished พร้อมเครื่องปรับอากาศ จะได้ตามห้องตัวอย่างทุกอย่างเลย ยกเว้นม่านและฟูกกับของตกแต่งค่ะ โดยแบบห้องในโครงการจะมีทั้งหมด 3 Type หลัก ๆ คือ
ซึ่งแต่ละ Type ก็จะแบ่งย่อยลงไปอีกหลายแบบตามที่เราเอามาให้ชมกันด้านล่างค่ะ
แบบห้อง 1 Bedroom ขนาด 23.64-34.56 ตร.ม. (ฝ้าเพดานสูง 2.7 ม.)
แบบห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 36.98-45.18 ตร.ม. (ฝ้าเพดานสูง 2.7 ม.)
แบบห้อง 1 Bedroom Plus Loft ขนาด 39.08-69.28 ตร.ม. (ฝ้าเพดานสูง 4.6 ม.)
ห้องตัวอย่าง
เรามีห้องตัวอย่างให้ชมทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ แบบ 1 Bedroom ขนาด 24.07 ตร.ม. และ แบบ Loft 1+1 Bedroom ขนาด 53.00 + 16.22 ตร.ม. พร้อมแล้วไปชมกันเลยค่ะ
ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom ขนาด 24.07 ตร.ม.
แปลนห้องพักแบบ 1 Bedroom ขนาด 24.07 ตร.ม. เป็น 1 Bed เริ่มต้นที่มีความ Compact แต่ก็สามารถอยู่อาศัยได้จริง เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่น ที่มีพื้นที่ต่อเนื่องไปกับครัวเปิด และระเบียงซักล้าง อีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำ และห้องนอน พร้อมเฟอร์นิเจอร์ และสุขภัณฑ์ในห้องน้ำครบเซ็ต
ประตูห้องจริงได้เป็นประตูลายไม้สีอ่อน พร้อมตาแมว และกลอน Digital Door Lock 3 ระบบ
กลอน Digital Door Lock 3 ระบบ ใช้งานผ่านการกดรหัส, แตะ Keycard และ สแกนนิ้ว
เข้ามาด้านในจะเจอกับ Living Area ความสูงเพดานอยู่ที่ 2.7 เมตร ได้พื้นกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ ห้องจริงจะได้ผนังฉาบเรียบทาสีขาว โคมไฟ Dowlight พร้อม Light Smart EIQ System ที่สามารถเปลี่ยนสีไฟ โดยใช้งานผ่าน Application บนมือถือได้
ขวามือจะเป็นห้องนั่งเล่น ที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกันไปกับห้องครัวเปิดและระเบียงด้านนอก
ซ้ายมือจะเป็นชั้นวางทีวี ถัดมาเป็นห้องน้ำ และห้องนอน
ได้ชั้นวางทีวีลายไม้ พร้อมตู้เก็บของ, ชั้นวางของ และลิ้นชักเก็บของที่ด้านล่าง หน้าชั้นรองรับทีวีขนาด 32-55 นิ้ว ได้กำลังพอดี ผนังด้านหลังเดินงานระบบไฟฟ้า ติดเต้าเสียบปลั๊กไฟ, ช่องเสียบสาย Cable TV และ Lan Internet มาให้ครบ
ได้โซฟาผ้ากระสอบสีเทา ขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมลิ้นชักเก็บของด้านล่าง 2 ช่อง
ต่อเนื่องไปเป็นห้องครัวเปิด พื้นที่เชื่อมต่อกับระเบียงซักล้างได้
ข้างโซฟาจะได้โต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว โดยจุดนี้จะเป็นโต๊ะแบบพับเก็บได้
ถัดมาจะเป็นชุดครัว Built-in ขนาดมาตรฐาน ได้พร้อมตู้เก็บของบน-ล่าง และช่องสำหรับวางไมโครเวฟ
หน้าท็อปเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ที่สามารถทนความร้อนหรือความชื้นได้ดี พร้อมติดตั้งซิงค์ล้างจาน, เตาไฟฟ้า 2 หัว และเต้าเสียบปลั๊กไฟที่ผนังมาให้ 1 จุด
ตู้เก็บของด้านบนบานเปิดลายไม้ พร้อมชั้นลอยที่ด้านใน 4 ช่อง
ด้านล่างได้เป็นตู้เก็บของใต้ซิงค์ขนาดใหญ่ พร้อมลิ้นชักถาดใส่ช้อนส้อม, ลิ้นชักเก็บของ และช่องวางไมโครเวฟขนาดมาตรฐาน
ถัดออกไปเป็นระเบียงซักล้าง แยกโซนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอะลูมิเนียมสีดำ ยกธรณี-วงกบสูงขึ้นมา 15 ซม. กันฝุ่นผงเล็ก ๆ และน้ำฝนไม่ให้พัดเข้าสู่ห้องพักโดยตรงได้
ระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิกสีเทา พื้นที่ใช้งานกว้างกำลังดี สามารถวางเครื่องซักผ้า หรือราวตากผ้าเล็ก ๆ ได้
งานระบบต่าง ๆ จัดเตรียมมาให้ครบ ทั้งเต้าเสียบปลั๊กไฟ พร้อมฝาครอบกันน้ำ, ก๊อกน้ำ และท่อน้ำทิ้ง
ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กสีดำ ความสูงประมาณ 1 เมตร ติดกันเป็นกริลบัง CDU แอร์ ติดมาสูงจรดฝ้าเพดาน และจุดนี้จะมีโคมไฟติดมาให้ 1 ดวง
จากระเบียงมองออกมาได้วิวสระว่ายน้ำ วิวถนนราชพฤกษ์ และแนวรถไฟฟ้าแบบนี้
มองกลับเข้ามาในห้องจะเห็นว่ามีพื้นที่ให้ยืนล้างจาน ทำอาหาร นั่งทานข้าวได้ในระยะสบาย ๆ
บรรยากาศภาพรวมบริเวณห้องนั่งเล่นฝั่งหน้าห้อง
เข้าไปดูห้องน้ำกันต่อ ได้ประตูลายไม้ มือจับก้านโยก กลอน Double Lock
ภายในเป็นห้องน้ำหน้ากว้าง ตกแต่งลายกระเบื้องโทนสีขาว ช่วยให้ห้องดูสว่าง สะอาด สุขภัณฑ์มาตรฐานติดมาให้ตำแหน่งตามภาพ ส่วนเปียกมี Shower Box ติดมาให้ และมีตัวช่วยในการระบายอากาศเป็นพัดลมฝังฝ้า 1 เครื่อง
เข้าไปดูห้องนอนที่อยู่ติด ๆ กันต่อ ภายในได้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานมาครบ พร้อมเข้าอยู่
ได้ฐานเตียงนอน 5 ฟุต ไม่รวมที่นอน
ความพิเศษคือได้เป็นเตียงเล่นระดับ และที่ใต้ฐานเตียงจะมีลิ้นชักเก็บของมาให้อีก 4 ช่อง
ติดกันเป็นโต๊ะทำงานขนาด 1 ที่นั่ง พร้อมลิ้นชัก 2 ช่อง ที่สามารถปรับฟังก์ชันให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้
ด้านหลังเป็นตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนหน้าบานกระจกเงาทรงสูง ยืนส่องได้เต็ม ๆ ตัว
ห้องตัวอย่าง แบบ Loft 1+1 Bedroom ขนาด 53.00 + 16.22 ตร.ม.
แปลนห้องนี้จะเป็นห้อง Loft และมีส่วนที่ยื่นออกมาด้านขวาอีก ประมาณ 16.22 ตร.ม. โดยจะทำเป็นห้องครัวปิดขนาดใหญ่ ที่ Connect กับห้องน้ที่ 2 ได้อีกที แต่ส่วนนี้จะได้ฝ้าเพาดานสูงปกติ ส่วนพื้นที่ 53.00 ตร.ม. จะเป็นห้อง Loft ความสูงฝ้าเพดาน 4.6 เมตร ตรงเข้ามาจะเจอกับ Common & Living Area ต่อเนื่องไปด้านนอกเป็นระเบียงซักล้างและชมวิว ซ้ายมือเป็นห้องน้ำอีกห้อง ตรงกลางเป็นบันไดที่ใช้ขึ้นไปยังห้องนอนบนชั้น 2 ส่วนด้านในสุดจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง
เริ่มดูห้องตัวอย่างกันต่อเลย ในส่วนขอ Spec วัสดุต่าง ๆ จะได้มาเหมือนกันทั้งโครงการ ส่วนห้องนี้พอเปิดประตูเข้ามาในห้องจะเจอพื้นที่ Double Space ความสูงฝ้าเพดาน 4.6 เมตร และได้เป็นฟังก์ชันของ Common Area และ Living Area อยู่ในพื้นที่โถงเดียวกันโดยไม่มีประตูกั้น บวกกันช่องแสงขนาดใหญ่ตรงระเบียงทำให้ได้ความรู้สึกว่าห้องกว้างขึ้น
ซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ บันไดขึ้นไปห้องนอนชั้นบน และห้องนอนชั้นล่าง
ขวามือจะเป็นห้องครัวปิดขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับห้องน้ำ 2 ได้อีกที
มาเริ่มกันที่ Common Area กันก่อน
ส่วนแรกจะได้เป็นโต๊ะทานข้าว พร้อมเก้าอี้ขนาด 4 ที่นั่ง พื้นที่รอบ ๆ เหลือกว้าง ให้เลื่อนเก้าอี้ และเดินเข้า-ออกไปส่วนอื่น ๆ ได้สะดวก
ถัดมาเป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียงพักผ่อน ที่ออกไปยืนรับลมชมวิวเมือง หรือใช้เป็นที่ปลูกต้นไม้กระถางกันได้
ได้ชั้นวางทีวี Built-in พร้อมลิ้นชักเก็บของ ผนังเดินงานระบบต่าง ๆ มาให้เรียบร้อยพร้อมต่อใช้งาน
อีกฝั่งได้โซฟาผ้ากระสอบสีเทา ขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมลิ้นชักเก็บของ 2 ช่อง
ก่อนออกไประเบียงจะได้ประตูบาน Oversize มีบานฟิกซ์ที่ด้านบน และมีบานเลื่อนที่ด้านล่าง ช่วยรับแสงในตอนกลางวันได้ดี และสามารถมองเห็นวิวภายในนอกในตอนกลางคืนได้กว้างมากขึ้น
ระเบียงขนาดใหญ่ ปูพื้นกระเบื้องมาให้ พร้อมติดราวกันตก Tempered Glass ดูหรูหรา และเปิดรับมุมมองได้กว้าง
ซ้ายมือเตรียมงานระบบไฟฟ้าและระบบประปามาให้เรียบร้อย สามารถซื้อเครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือฝาบนมาต่อใช้งานได้เลย
มองออกมาได้วิวแบบนี้ค่ะ
มองกลับเข้ามาดูภาพรวมภายในห้องพัก
กลับมาที่ฝั่งหน้าห้องกันต่อ ฟังก์ชันฝั่งซ้ายมือของห้องจะเป็นห้องน้ำ โถงบันได และห้องนอนชั้นล่าง
ก่อนทางเข้าห้องน้ำได้ตู้เก็บรองเท้า พร้อมชั้นวางรองเท้าด้านใน สามารถเก็บรองเท้าได้เยอะ หรือจะแบ่งเป็นตู้เก็บของใช้อื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน
ห้องน้ำแนวลึก ได้ชุดสุขภัณฑ์มาตรฐานมาครบ ตำแหน่งตามภาพ แบ่งส่วนแห้ง แยกส่วนเปียกให้เรียบร้อย และมีตัวช่วยระบายอากาศเป็นพัดลมฝังฝ้า 1 เครื่อง
เข้ามาดูห้องนอนชั้นล่างกันต่อเลยค่ะ
ภายในห้อง Master Bedroom จะได้ทั้งเตียงนอน, ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานตามนี้
ในห้องจะได้ช่องแสงบานใหญ่เต็มถึงฝ้าเพดาน มีบานเลื่อน บานกระทุ้งไว้เปิดระบายอากาศ และมี Corner ที่ยื่นออกไป เป็นส่วนของมุมทำงานที่เปิดรับวิวส่วนกลางและวิวเมืองด้านนอกได้
หน้าต่างที่ให้มาจะเป็นบานฟิกซ์เข้ามุม 3 ด้าน เปิดรับมุมมองได้ 180 องศา
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนอนชั้นล่าง
ขึ้นไปดูห้องนอนด้านบนกันต่อ
ห้องนอนชั้นบนจะได้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐาน และจัดฟังก์ชันมาคล้าย ๆ กันกับห้องนอนด้านล่าง
มีช่องแสงขนาดใหญ่ พร้อมหน้าต่างระบายอากาศ และ Corner ที่ยื่นออกไปด้านนอกให้แบบนี้
หากใช้เป็นมุมทำงานจะดีมาก ๆ เลยค่ะ เราจะได้มีจุดพักเบรกสายตา เพื่อมองวิวสวย ๆ
มองออกมาได้วิวส่วนกลาง และวิวเมืองแบบนี้
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องพัก
ลงมาที่ด้านล่าง ไปดูอีกฝั่งของห้องพักกันต่อค่ะ
อีกฝั่งจะเป็นห้องครัวปิดขนาดใหญ่ ได้อารมณ์เหมือนห้องครัวในบ้านเดี่ยว โดยจุดนี้จะแยกโซนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอะลูมิเนียมสีเทาดำ
ในห้องครัวจะ Connect กับห้องน้ำได้อีกที ส่วนพื้นที่ใช้งานได้มาใหญ่มาก ๆ ตอบโจทย์ครอบครัวที่ชอบการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจได้อย่างแน่นอน
ในห้องนี้จะได้ชุดครัว Buit-in แบบ Full Function และมีพื้นที่เหลือด้านข้างชุดครัวให้วางตู้เย็น 6-12 คิวได้
ติดตั้งชุดเคาน์เตอร์ครัวมาให้ตามห้องตัวอย่างเลย วัสดุท็อปครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ได้ซิงค์ล้างจาน, เตาไฟฟ้า 2 หัว, เครื่องดูดควัน และมีพื้นที่เรียมอาหารเหลือเยอะมาก ๆ ผนังติดเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้อีก 1 จุด
ตู้เก็บของด้านล่างได้ฟังก์ชันมาครบ ทั้งตู้เก็บของบานเปิด, ชั้นวางของ, ลิ้นชัก, ถาดใส่ช้อน-ส้อม และช่องวางไมโครเวฟ
ด้านบนก็เช่นกัน ได้ตู้เก็บของบานเปิดพร้อมชั้นลอยมาหลายช่องเลยค่ะ
ห้องน้ำห้องนี้เป็นแบบหน้ากว้าง แบ่งส่วนแห้ง ส่วนเปียกให้เรียบร้อย และได้สุขภัณฑ์มาตรฐานมาเหมือนกันกับห้องน้ำด้านนอกทุกประการ พร้อมพัดลมระบายอากาศแบบฝังเพดาน 1 เครื่อง
บรรยากาศภาพรวมภายในห้องตัวอย่างค่ะ
ราคา (ส.ค.66)
ลงทะเบียนวันนี้รับสิทธิพิเศษและนัดชมโครงการแบบ Private คลิก : https://www.altitude.co.th/condominium/altitude-unicorn
*หมายเหตุ : ข้อมูลราคาและโปรโมชันอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*
บทสรุปโครงการ
♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ : Altitude Unicorn สาทร-ท่าพระ ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ใกล้ CBD และฝั่งธนฯ ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรวมจะถือว่าอยู่ในย่านชุมชนเก่าแก่ มีตลาดพลู และตลาดนัดอื่น ๆ อีกเยอะ และที่อยู่อาศัยในโซนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่ทำการค้าขายกันมาตั้งแต่รุ่นดั้งเดิม
แต่ในขณะเดียวกันบริเวณรอบ ๆ โครงการได้ความ Privacy กว่าคอนโดที่ติดถนนใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นพวกบ้านเดี่ยวตึกแถวของชุมชุมชนวัดบางสะแกใน บวกกับการที่ตัวโครงการอยู่ติดทางยกระดับถนนราชพฤกษ์ แต่ถ้ามองเป็นสภาพแวดล้อมโดยรวมมีความอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งวัน
ไม่ไกลจาก The Mall ท่าพระ ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์ในตัวเอง มีตลาดเยอะสามารถพึ่งพาได้ในระยะที่พอจะเดินได้ หรือไปแถว ๆ ตลาดพลูได้ แถวนั้นก็จะมีของอร่อย ๆ ขึ้นชื่ออีกมากมาย ส่วนห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ ใกล้เคียงมีทั้ง ICONSIAM, Sena Fest, Robinson บางรัก, Central พระราม 3 และ Silom Complex หรือจะนั่ง BTS ไปสยามเลยก็สะดวกค่ะ
♦ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่โดยตรง แต่การเดินทางก็ยังถือว่าค่อนข้างสะดวก สามารถวิ่งเชื่อมถนนรัชดาภิเษก ถนนราชพฤกษ์ ที่ใช้วิ่งตรงเข้าสาทร-สีลม ได้เลยสบาย ๆ ถ้าไปฝั่งจรัญสนิทวงศ์ ก็ใช้เส้นรัชดาภิเษกวิ่งยาวไปเชื่อมได้เลย ไปปิ่นเกล้า พระราม 8 เข้าเขตพระนครได้
ส่วนถ้าจะออกนอกเมือง เส้นรัชดาภิเษก, เส้นราชพฤกษ์, เส้นกัลปพฤกษ์ ไปเชื่อมออกเพชรเกษมได้ จากนั้นก็ไปบางแค หนองแขม พุทธมณฑล นครปฐม ราชบุรี หรือถ้าไปโซนพระราม 3 ก็ไปกลับรถวิ่งตรงไปแยกมไหสวรรย์ก็เป็นพระราม 3 แล้วค่ะ ทางด่วนที่อยู่ไม่ไกลมาก มีให้เลือกทั้งทางด่วนศรีรัช และทางด่วนเฉลิมมหานคร
♦ การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : ที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้คืออยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS ตลาดพล ประมาณ 150 เมตร เดินจากโครงการไปได้สบาย ๆ และภายในปีนี้ก็จะมี Sky Walk เชื่อมมาถึงหน้าโครงการเลยก็จะสะดวกมากขึ้น และปลอดภัยมากขึ้นด้วยค่ะ
ส่วนการเดินทางไหนมาไหนใกล้ ๆ ก็สามารถเรียกใช้พี่วินได้ จะมีคิวตั้งอยู่ตรงรถไฟฟ้าเลย หรือจะใช้รถเมล์ ก็เดินไปฝั่งตรงข้ามหน้า The Mall ท่าพระ ซึ่งตรงนี้จะมีรถเมล์วิ่งผ่านหลาย นอกจากนี้ยังมีระบบขนส่งทางน้ำให้เลือกใช้บริการอีกด้วยค่ะ ใครจะนั่งรถต่อเรือก็ได้สะดวกดีค่ะ
♦ การออกแบบโครงการและวัสดุ : เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 34 ชั้น 1 อาคาร ห้องพักจำนวน 711 ยูนิต + ร้านค้า 1 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 2-3-65.4 ไร่ ที่จอดรถเป็น 40 % (รวมซ้อนคัน) ในส่วนของยูนิตพักอาศัย จะขายแบบ Fully Furnished ให้ครบมาก ๆ เหลือแแค่ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและที่นอนเพิ่มก็พร้อมเข้าอยู่ได้เลย
โดยจะมีห้องพักให้เลือก 3 แบบ คือ 1 Bedroom ขนาด 23.64-34.56 ตร.ม. (ฝ้าเพดานสูง 2.7 ม.), 1 Bedroom Plus ขนาด 36.98-45.18 ตร.ม.(ฝ้าเพดานสูง 2.7 ม.) และ 1 Bedroom Plus Loft ขนาด 39.08-69.28 ตร.ม. (ฝ้าเพดานสูง 4.6 ม.)
วัสดุพื้นห้องได้เป็นไวนิลลายไม้ ส่วนห้องน้ำและระเบียงปูกระเบื้องเซรามิก ผนังฉาบเรียบทาสี, ห้องครัวได้ชุดเคาน์เตอร์ พร้อม Hob & Hood ส่วนซิงค์ล้างจานได้แบบหลุมเดียว ใช้ของ Teka, Built-in เตียงและตู้เสื้อผ้าในห้องนอนทุกห้อง ห้องน้ำสุขภัณฑ์ใช้ของ Toto และ Hafele พร้อมฉาก Shower Box กั้นส่วนเปียก ส่วนแอร์ได้ในห้องนั่งเล่น และทุกห้องนอนของค่ะ
♦ สิ่งอำนวยความสะดวก : ได้มาจัดเต็มถึง 6 ชั้น และทำออกมาหลากหลายดี ของจริงดีไซน์ดูหรูหรา สวยงาม ส่วนกลางหลัก ๆ จัดมาให้ครบ ทั้ง Lobby Bar (Fallbella), Co-creation Kitchen, Co-Working Space and Auditorium, Co-living Space, Mini Thetre, Grand Pool, Fitness Center, Rooftop Jogging Track, E-Sport Room มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว + ลิฟต์บริการ 1 ตัว เป็นลิฟต์ล็อกชั้น ระบบรักษาความปลอดภัยใช้ Access Card, Finger Scan และ Face Scan
ส่วนการเข้า-ออกรถยนต์จะมีการแยกช่องรถยนต์เข้า-ออก ในส่วนของลูกบ้านจะใช้ระบบ RFID หรือการใช้สัญญาณ Bluetooth แบบ Easy Pass มีกล้อง CCTV จับภาพรวมด้านหน้ารถยนต์ให้ฝั่งละ 1 ตัว ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตร และแจ้งธุระกับทางพี่รปภ. ก่อนเข้าโครงการทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกบ้านในโครงการ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02-821-5393
Website : https://www.altitude.co.th/condominium/altitude-unicorn
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น