Written by : THAnATH & Nan Kanyarat
สวัสดีผู้อ่านชาว Condonayoo ทุกท่านค่ะ สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดบนทำเลคุณภาพ ใกล้รถไฟฟ้า BTS เดินทางสะดวก และรายล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์รอบด้าน วันนี้ผมพามาชมโครงการ Kensington พหลโยธิน 63 จาก Origin Property มาฝากให้ได้ชมกัน สำหรับตัวโครงการตั้งอยู่ใน ซ.พหลโยธิน 63 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
การเดินทางสะดวกสบาย เข้า-ออกผ่านทาง ถ.พหลโยธิน ซึ่งห่างจากที่ตั้งโครงการเพียง 180 เมตร ใช้เชื่อมไปยังถนนหลักได้อีกหลายเส้น ไม่ว่าจะเป็น รามอินทรา, แจ้งวัฒนะ, วิภาวดีรังสิต, งามวงศ์วาน, ลาดพร้าว และเกษตร-นวมินทร์ เป็นต้น
ใกล้ดอนเมืองโทลล์เวย์, ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางด่วนศรีรัช และอยู่ใกล้กับ BTS สถานีพหลโยธิน 59 เพียง 300 เมตรเท่านั้น สามารถใช้เชื่อมไปยังรถไฟฟ้าสายสีชมพู และรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลได้อีกด้วย
ที่ตั้งโครงการรายล้อมไปด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, Tesco Lotus หลักสี่, ตลาดยิ่งเจริญ, Big C สะพานใหม่, CentralPlaza ลาดพร้าว, ม.ศรีปทุม, ม.ราชภัฎ พระนคร, รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล, รพ.ภูมิพลอดุลยเดช, วัดพระศรีมหาธาตุ และท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นต้น
เคนซิงตัน พหลโยธิน 63 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนที่ดินขนาด 1 – 3 – 31 ไร่ มีห้องพักอาศัยรวม 231 ยูนิต มีห้องให้เลือก 3 แบบ คือ 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedrooms ขนาดเริ่มต้นที่ 22.53 – 48.53 ตร.ม.
ห้องพักขายแบบ Fully Furnished สิ่งที่ได้จะมี Digital Door Lock, เครื่องปรับอากาศ, ชั้นวางทีวี, ตู้เก็บของ, โซฟา + โต๊ะกลาง, ชุดเคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน, เตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า, ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Mogen กับ VRH พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ และมีระบบ Home Automation โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่อาศัยในปี 2563
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน ประกอบด้วย Lobby, Social Club, Co-Working Space, Private Meeting Room สระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อมพื้นที่พักผ่อนข้างสระ, ฟิตเนส, สวนพักผ่อน, พื้นที่สีเขียว, เข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Access Card Control, กล้อง CCTV และมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท* (พ.ค. 63)
ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร และตัวโครงการจะน่าสนใจแค่ไหน เชิญคุณผู้อ่านเลื่อนชมรีวิวโครงการได้เลยค่ะ
ชื่อโครงการ | เคนซิงตัน พหลโยธิน 63 Kensington Phaholyothin 63 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) / Origin Property |
พื้นที่โครงการ | 1 – 3 – 31 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 8 ชั้น |
จำนวนห้อง | 231 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 75 คัน หรือคิดเป็น 30% ของจำนวนห้องชุด (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) |
โซน | พหลโยธิน |
เส้นทางคมนาคม |
|
ที่ตั้ง | ซอยพหลโยธิน 63 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ |
กำหนดการ | ปี 2561 |
ปีที่สร้างเสร็จ | เมษายน 2563 |
ราคา | เริ่มต้น 1.99 ล้านบาท* |
ค่าส่วนกลาง | 45 /ตร.วา/เดือน (ชำระล่วงหน้า 1 ปี) |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ตลาดและห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
หน่วยงานอื่น ๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | Kensington พหลโยธิน 63 โครงการ Resort Condo ให้คุณพักร้อนตลอด 365 วัน ออกแบบพื้นที่พิเศษ (Unique Space) ให้คุณได้พักผ่อน เติมเต็มพลังงาน พร้อมความเป็นส่วนตัว น่าอยู่เพื่อความสุขในทุก ๆ วัน |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยพหลโยธิน 63 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
พิกัด Google Maps : 13.884887, 100.599739
ทำเลที่ตั้ง โครงการ Kensington พหลโยธิน 63 ตั้งอยู่ใน ซ.พหลโยธิน 63 ห่างจากปากซอยเข้ามาประมาณ 180 เมตร ในสุดเป็นซอยตัน เข้า-ออกได้จากฝั่ง ถ.พหลโยธิน อย่างเดียวค่ะ แต่มีซอยย่อยเชื่อมไปยัง ซ.พหลโยธิน 65 และ 67 ได้
ตัว ถ.พหลโยธิน เป็นเส้นที่เริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตัดผ่านห้าแยกลาดพร้าว, แยกรัชโยธิน, แยกเกษตร, วงเวียนหลักสี่ ผ่านสะพานใหม่ รังสิต และยาวไปออกอยุธยาได้เลย ใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก และแต่ละแยกที่เส้นพหลโยธินตัดผ่านจะมีถนนเชื่อมไปออกวิภาวีรังสิตได้
การเดินทางด้วยรถยนต์ สำหรับการเดินทางเข้าเมือง เส้นพหลโยธินต้องไปกลับรถ จากนั้นก็ยิงยาวเข้าเมืองมาผ่านวงเวียนหลักสี่ซึ่งเป็นจุดตัดกับ ถ.รามอินทรา และ ถ.แจ้งวัฒนะ เราสามารถตัดเข้าแจ้งวัฒนะไปเข้าเส้นวิภาวดีรังสิตเพื่อวิ่งเข้าเมืองได้ มีทางด่วนโทลล์เวย์ให้ขึ้น หรือเลยไปผ่านแยกเกษตร
ถัดมาเป็นแยกรัชโยธินซึ่งเชื่อมเข้า ถ.รัชดาภิเษก วิ่งไปสุทธิสาร ห้วยขวาง ยาวไปพระราม 9 ได้ ข้ามแยกพระราม 9 ก็ไปออกอโศกได้เลยค่ะ หรือจากแยกรัชโยธินตรงมาจะเจอห้าแยกลาดพร้าวตัดเข้า ถ.วิภาวดีรังสิต วิ่งเข้าดินแดง อนุสาวรีย์ชัยฯ ได้ ถ้าใช้เส้นพหลโยธินต่อก็ตรงข้ามแยกลาดพร้าวไปเข้าจตุจักร, สะพานควาย, อารีย์, สนามเป้า และก็ถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ จากนั้นก็เชื่อมไปทางสยาม หรือเข้าเขตพระนครก็ง่าย
ส่วนการเดินทางออกนอกเมือง ถ้าใช้เส้นพหลโยธินวิ่งไปผ่านสะพานใหม่ ยาวไปออกรังสิต อยุธยาได้เลย เส้นวิภาวดีรังสิตใช้วิ่งออกไปทางรังสิตได้อีกทางจะไปเชื่อมกับ ถ.พหลโยธิน แถวเซียร์รังสิต
ตรงวงเวียนหลักสี่จะตัดกับ ถ.รามอินทรา และแจ้งวัฒนะ เส้นรามอินทราวิ่งยาวออกมาทางมีนบุรี หนองจอกได้ จะผ่านทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ขึ้นทางด่วนไปได้ทั้งพระราม 9, เอกมัย, บางนา หรืออีกฝั่งไปจตุโชติ, ลำลูกกา
เส้นแจ้งวัฒนะจะไปศูนย์ราชการ ยาวไปปากเกร็ด ตรงแยกเกษตรจะตัดกับ ถ.เกษตรนวมินทร์ และ ถ.งามวงศ์วาน เส้นงามวงศ์วานวิ่งไปแยกพงษ์เพชร, แคราย, ติวานนท์, รัตนาธิเบศร์ ออกไปทางบางใหญ่ได้เลย ส่วนเส้นรัชดาภิเษกจะวิ่งออกไปทางประชาชื่น, วงศ์สว่าง, พระราม 7, จรัญสนิทวงศ์ และปิ่นเกล้าได้ค่ะ
ทางด่วน ตัวโครงอยู่ใกล้ดอนเมืองโทลล์เวย์ห่างจากโครงการประมาณ 4.2 กม. โดยออกมาจาก ซ.พหลโยธิน 63 มาเข้า ถ.พหลโยธิน กลับรถช่วง ซ.พหลโยธิน 67 แล้ววิ่งตรงไปถึงแยกรามอินทราเพื่อวิ่งเข้า ถ.แจ้งวัฒนะ วิ่งตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าวิภาวดี – รังสิต จากนั้นให้วิ่งชิดขวาเอาไว้เพื่อขึ้นทางด่วนค่ะ
นอกจากนี้ทางด่วนที่อยู่ใกล้โครงการอีกเส้นคือ ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ โดยออกมาจาก ซ.พหลโยธิน 63 เข้า ถ.พหลโยธิน แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้นเทพรักษ์ จากนั้นให้วิ่งตรงไปเรื่อย ๆ จนสุดเส้น เลี้ยวซ้ายเข้าสุขาภิบาล 5 แล้วเลี้ยวขวาอีกครั้ง
เพื่อขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เราสามารถใช้ ถ.รามอินทรา เพื่อไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ได้เช่นกันนะคะ แต่เส้นรามอินทรามีการจราจรที่ค่อนข้างจะติดขัด ถ้าใช้ ถ.เทพรักษ์ จะสามารถลดระยะเวลาการเดินทางลงได้
อีกเส้นที่อยู่ใกล้โครงการคือ ทางด่วนศรีรัชห่างจากโครงการประมาณ 8.6 กม. โดยออกจาก ซ.พหลโยธิน 63 มาเข้า ถ.พหลโยธิน แล้วไปกลับรถวิ่งตรงไปถึงแยกรามอินทราเพื่อเข้า ถ.แจ้งวัฒนะ วิ่งตรงไปจนผ่านแยกคลองประปา หากเลี้ยวซ้ายจะขึ้นทางด่วนศรีรัชไปทางสาทร หากเลี้ยวขวาจะไปทางปทุมธานี
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ตัวโครงการอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายฯ BTS สถานีพหลโยธิน 59 หรือเดิมทีชื่อว่าสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่ ประมาณ 300 เมตร สามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ ในระยะการเดินเท้า แต่ในซอยไม่มีฟุตบาท หรือทางเท้าให้เดินนะคะ ระวังรถวิ่งสวนไปมาด้วย ถ้าออกมาริม ถ.พหลโยธิน ก็สบายหน่อยมีทางเท้าเดินถึงบันไดทางขึ้นเลย
นั่งไปลง BTS วัดพระศรีมหาธาตุ เพียง 1 สถานี จะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ซึ่งจะเปิดให้บริการในอนาคต ถ้าไปลงตรงสถานีห้าแยกลาดพร้าว หรือบริเวณ CentralPlaza ลาดพร้าว จะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ทำให้เดินทางไปย่าน CBD สาทร ได้ง่าย และสะดวกค่ะ
นอกจากนี้ตรงสถานี ม.เกษตรศาสตร์ ยังเป็นสถานีเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลีอีกด้วย และตรงเส้นเลียบ ถ.วิภาวดีรังสิต มีแนวรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงที่จะเปิดใช้บริการเร็ว ๆ นี้ โดยมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีน้ำตาล และถ้าเปิดใช้พร้อมกันหมดจะทำให้การเดินทางด้วยรถสาธารณะสะดวกมากขึ้น ไปได้หลายโซนเลย
ส่วนใน ซ.พหลโยธิน 63 หน้าปากซอยมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการ และบริเวณ ถ.พหลโยธิน มีทั้งรถแท็กซี่โบกเรียกได้ตลอด ป้ายรถเมล์ และมีรถตู้วิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้า-ออกเมือง เดินทางไปรัชโยธิน, CentralPlaza ลาดพร้าว, จตุจักร, อนุสาวรีย์, สะพานใหม่, รังสิต, มีนบุรี, รามอินทรา และรามคำแหง
สรุปแยก และถนนสำคัญรอบโครงการ
ความอุดมสมบูรณ์ ย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์ในตัวอยู่แล้วเพราะเป็นย่านชุมชน มีร้านค้าร้านอาหารให้เลือกมากมาย สามารถเข้าถึงได้ในระยะเดินประมาณ 270เมตร ออกจาก ซ. พหลโยธิน 63 เลี้ยวขวาไปทาง BTS สถานีพหลโยธิน 59 มีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven, ร้านอาหารตามสั่ง, ร้านข้าวมันไก่, ร้านก๋วยเตี๋ยว, ข้าวราดแกง, ร้านขายผลไม้, ร้านชากาแฟ และร้านตัดผม
ถ้าเดินข้ามมาอีกฝั่งก็จะมีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven และ Tesco Lotus หลักสี่ ห่างจากโครงการประมาณ 1.3 กม. มีตลาดใกล้ ๆ อย่างตลาดยิ่งเจริญของกินเพียบ ส่วนห้างสรรพสินค้าก็มี Big C สะพานใหม่, CentralPlaza รามอินทรา, IT Square, Big C แจ้งวัฒนะ, The Avenue, Tesco Lotus แจ้งวัฒนะ
CentralPlaza แจ้งวัฒนะ, The Mall งามวงศ์วาน, Major รัชโยธิน, Tesco Lotus ลาดพร้าว, CentralPlaza ลาดพร้าว, Union Mall ตรงเส้นประเสริฐมนูกิจจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง นวมินทร์ City Avenue, The Walk หรือตามเส้นเลียบด่วนก็จะมีตลาดนัดใหญ่ ๆ หลายแห่งให้เดินทางไปใช้งานค่ะ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ตลาดและห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
สถานพยาบาล
หน่วยงานอื่น ๆ
**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์สู่จุดหมายโดยถนนที่ใกล้ที่สุด**
การเดินทางสู่โครงการ
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ Kensington พหลโยธิน 63 โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มต้นการเดินทางจาก
CentralPlaza ลาดพร้าว ช่วงรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายฯ สถานีห้าแยกลาดพร้าว ⇒ ขับตามแนวรถไฟฟ้าไปเรื่อย ๆ มุ่งหน้าไปทางสะพานใหม่ ⇒ สถานีพหลโยธิน 59 ⇒ ถึงโครงการ Kensington พหลโยธิน 63
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจาก CentralPlaza ลาดพร้าว ช่วงรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายฯ สถานีห้าแยกลาดพร้าว มุ่งหน้าไปสะพานใหม่ค่ะ
ผ่านสถานีพหลโยธิน 24
ผ่านสถานีรัชโยธิน
ผ่านสถานีเสนานิคม และกรมพัฒนาที่ดิน
ผ่านสถานี ม.เกษตรศาสตร์
ผ่านสถานีกรมป่าไม้
ผ่านสถานีบางบัว
ผ่านสถานีกรมทหารราบที่ 11
จากนั้นขับตรงต่อไปเรื่อย ๆ ตามป้ายไปสะพานใหม่ค่ะ
ขับลงอุโมงค์ผ่านวัดพระศรีมหาธาตุ และวงเวียนหลักสี่ ซึ่งตรงนี้เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย – มีนบุรี (สายอนาคต) อีกด้วย
หลังจากลอดอุโมงค์มาแล้ว ขวามือจะเจอกับ Tesco Lotus หลักสี่
ขับตรงต่อมาอีกสักระยะผ่านสถานีพหลโยธิน 59 หรือเดิมทีชื่อสถานีอนุสาวรีย์หลักสี่
จากนั้นให้ขับชิดซ้ายเข้าไว้ จะเจอ ซ.พหลโยธิน 63 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเลยค่ะ
หลังจากเข้ามาภายใน ซ.พหลโยธิน 63 แล้วขับตรงต่อไปอีกประมาณ 180 เมตร จะเจอท่อสกายทูปสีส้มตั้งอยู่หน้าโครงการทางฝั่งขวามือ
ถึงแล้วค่ะ โครงการ Kensington พหลโยธิน 63
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
โดยรอบที่ดินโครงการ Kensington พหลโยธิน 63 ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล ทางทิศเหนือและทิศตะวันตกติดกับบ้านพักอาศัยความสูงประมาณ 2 ชั้น ฝั่งทิศตะวันออกติดกับบริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง และฝั่งทิศใต้ด้านหน้าโครงการติดกับ ซ.พหลโยธิน 63 ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย
บริเวณภายนอกโครงการ
หลังจากที่เดินทางมาถึงโครงการแล้ว ลำดับถัดมาเราจะไปชมบรรยากาศจริงบริเวณรอบนอกโครงการกันต่อเลยค่ะ
หน้าทางเข้าโครงการติดกับ ซ.พหลโยธิน 63 ฝั่งตรงข้ามเป็นกำแพงรั้วของบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
มุมมองหน้าโครงการฝั่งขวา ในสุดเป็นทางตัน แต่มีซอยย่อยเชื่อมไปยัง ซ.พหลโยธิน 65 และ 67 ได้ค่ะ
มุมมองหน้าโครงการฝั่งซ้าย ใช้มุ่งหน้าออกไปยัง ถ.พหลโยธิน ที่เราใช้เดินทางเข้าสู่โครงการเมื่อสักครู่นี้
เดี๋ยวเราเดินไปชมบรรยากาศฝั่งขวากันก่อนเลยค่ะ
เดินไปใกล้ ๆ กัน ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าโครงการ รั้วโครงการออกแบบเป็นรั้วทึบสลับกับระแนงสีน้ำตาลและสีดำ มีป้ายชื่อโครงการตัวใหญ่ติดไว้ชัดเจน
เดินไปชมบรรยากาศฝั่งซ้ายกันต่อเลย
ในซอยนี้ไม่มีทางเดินเท้านะคะ เดินเข้าออกก็ระวังรถกันด้วย
เดินออกมาสักระยะ ฝั่งขวาเป็นบ้านพักอาศัยส่วนบุคคล
ตรงข้ามเยื้อง ๆ กัน และติดกับโครงการทางฝั่งซ้ายเป็น บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง
ถัดมาเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล
ตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย
มาถึงบริเวณหน้าปากซอยพหลโยธิน 63 จุดนี้มีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการด้วย
อัตราค่าบริการเริ่มต้นที่ 25 บาท (พ.ค. 63)
ตรงมาปากซอยจะเจอ ถ.พหลโยธิน ข้ามไปอีกฝั่งคือ กองพันทหารสื่อสารที่ 21 กองทัพภาคที่ 1
เดี๋ยวเราเดินไปดูทางฝั่งซ้ายกันก่อนเลยค่ะ โดยถนนฝั่งนี้ใช้มุ่งหน้าไปยังสะพานใหม่, เทพรักษ์, แยกพลาธิการ ทอ.
ติดกับปากซอยพหลโยธิน 63 ทางฝั่งซ้ายเป็นศูนย์ Toyota K.Motors
เดินต่อไปอีกเล็กน้อยเป็น ซ.พหลโยธิน 63/1
หน้าปากซอยมีร้านอาหารตามสั่งให้บริการ
มีบริษัทปล่อยสินเชื่อ และไฟแนนซ์
ถัดมาเป็นร้านจำหน่ายจักรยานยนต์ ด้านหน้ามีป้ายรถเมล์ ระยะการเข้าถึงนับจากที่ตั้งโครงการประมาณ 350 เมตร
เดินต่อไปอีกหน่อยจะเจอ ซ.พหลโยธิน 65
หน้าปากซอยมีคลินิกเวชกรรม รับตรวจรักษาโรคทั่วไป เปิดทำการวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.00 – 18.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00 – 12.00 น. หากฉุกเฉินทางคลินิกจะส่งต่อให้ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช และ รพ.มงกุฎวัฒนะ
ติดกันมีร้านขายอุปกรณ์การช่าง และของใช้ต่าง ๆ
มีร้านขายชุดสูท, ชุดนักเรียน, ชุดนักศึกษา, กระโปรง, กางเกงสแล็ค และเครื่องแบบข้าราชการต่าง ๆ
มาต่อที่ฝั่งขวาทางหน้าปากซอยพหลโยธิน 63 กันเลยค่ะ
โดยถนนฝั่งตรงข้ามใช้มุ่งหน้าไปยังแจ้งวัฒนะ, รามอินทรา, งามวงศ์วาน, ลาดพร้าว และวิภาวดีรังสิต ริม ถ.พหลโยธิน หรือฝั่งเดียวกับ ซ.พหลโยธิน 63 จะมีทางเดินเท้าให้เดินได้สะดวก ใช้เดินไป BTS สถานีพหลโยธิน 59 ค่ะ
เดินต่อมาอีกเล็กน้อยจะเจอป้ายรถประจำทางที่ใกล้ที่สุดกับตัวโครงการ โดยมีระยะการเดินเท้าอยู่ที่ราว ๆ 270 เมตร
บริเวณนี้มีร้านอาหารให้เลือกหลายร้านเลย มีร้านบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง
ร้านข้าวมันไก่
ด้านในเป็นร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด
ติดกันเป็นร้านตัดผม และร้านชากาแฟ
มีร้านขายผลไม้ทั้งแบบชั่งกิโลขาย และแบบพร้อมทาน
มีร้านขายยำ อาหารตามสั่ง และตู้ ATM ของธนาคารไทยพาณิชย์ ติดกันมีร้านขายผลไม้อีกร้านค่ะ
จากนั้นจะเจอสะพานลอย เดี๋ยวเราข้ามไปดูฝั่งตรงข้ามกันบ้างนะคะ
ซึ่งถัดจากสะพานลอยไปติด ๆ กันเป็น BTS สถานีพหลโยธิน 59
หลังจากลงสะพานลอยมาแล้ว บริเวณนี้มีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven เปิดให้บริการอีกหนึ่งจุด
เดี๋ยวเราเดินย้อนขึ้นไปดูทางฝั่งซ้ายกันก่อนเลยค่ะ
เดินเลยสะพานลอยมาเล็กน้อยจะเจอร้านขายราดหน้า ผัดซีอิ๊ว ติดกันเป็นร้านซ่อมรถยนต์
ถัดมาเป็นร้านเสริมสวย
มีร้านซาลอน ทำผมสุภาพบุรุษ และสตรี
หน้าร้านซาลอนมีซุ้มขายพวกชากาแฟ
มีร้านขายข้าวไข่เจียว และปิ้งย่างหม่าล่า
เดินต่อมาอีกนิดหน่อยจะเจอกับกองพันทหารสื่อสารที่ 21 กองทัพภาคที่ 1
มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นทางเข้า ซ.พหลโยธิน 63 มีสกายทูปสีส้มเด่นชัดตั้งอยู่หน้าปากซอย
ถัดมาเราไปดูทางฝั่งขวากันต่อเลย บริเวณนี้จะเจอทางขึ้น BTS สถานีพหลโยธิน 59 ติดกันมีร้านรับปักเสื้อ
มีร้านขายยา
เดินถัดมาหน่อยมีร้านตัด-ขาย-เช่าสูท
และติดกันเป็นป้ายรถประจำทาง
มองไปฝั่งตรงข้ามเห็นคลินิกเวชกรรมค่ะ
ตัวโครงการ
ภาพจำลองมุมมองโครงการ Kensington พหลโยธิน 63 รั้วโครงการออกแบบเป็นรั้วทึบสลับกับระแนงสีน้ำตาล มีป้ายชื่อโครงการติดชัดเจน ตัวอาคารออกแบบมาเป็นรูปตัว L สูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร บนที่ดินขนาด 1 – 3 – 31 ไร่ ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2-8 ส่วน Facility จะแยกอาคาร 2 ชั้น อยู่มุมของอาคารพักอาศัยพอดี สีภายนอกอาคารใช้โทนเทาเข้มและอ่อน
Master Plan หรือผังอาคารชั้น 1 ที่ดินโครงการจะมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ การเข้า-ออกโครงการมีทางเดียวคือบริเวณ ซ.พหลโยธิน 63 ที่เชื่อมมาจาก ถ.พหลโยธิน โดยด้านหน้ามีซุ้มทางเข้าแบบโล่งแจ้ง พร้อมรั้วไม้กระดก และ Security Gate เข้ามาด้านในจะเจออาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้นวางเป็นรูปตัว L ส่วน Facility ด้านหน้าเป็นทางเข้า Lobby และทางเข้าลานจอดรถ มีการตกแต่งพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ
ตัวอาคารประกอบไปด้วยห้องชุดพักอาศัยทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ 1 Bedroom Studio Superior พื้นที่ใช้สอย 22.53 – 24.72 ตร.ม., 1 Bedroom Deluxe พื้นที่ใช้สอย 28.46 – 31.34 ตร.ม., 1 Bedroom Plus Suite พื้นที่ใช้สอย 35.57 – 36.11 ตร.ม., 1 Bedroom Studio Superior พื้นที่ใช้สอย 40.66 ตร.ม. และ 2 Bedrooms Penthouse พื้นที่ใช้สอย 48.53 ตร.ม.
ผังอาคารชั้น 2 จะมีห้องพักอยู่ทั้งหมด 33 ยูนิต มีการวางแปลนโถงทางเดินแบบ Double Corridor คือมีห้องเรียงอยู่ทั้ง 2 ฟากของโถงทางเดิน ภายในอาคารมีลิฟต์โดยสารอยู่ 2 ตัวบริเวณ Core กลางของอาคาร ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วนจำนวนยูนิตพักอาศัยต่อจำนวนลิฟต์เป็น 116 : 1 แต่ด้วยอาคารสูงเพียง 8 ชั้นจึงถือว่าเป็นอัตราส่วนที่ยังพอรับได้ การรอลิฟต์จะไม่นานมากนัก
ห้องของชั้น 2 จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด ส่วนตามมุมของอาคารจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาดใหญ่ และห้องแบบ 1 Bedroom Plus ความพิเศษของห้องในชั้น 2 คือ จะมีห้องแบบ Terrace ซึ่งห้องนี้จะมีระเบียงห้องเป็น Pool Access และ Garden Access สามารถเดินลงไปยังสระว่ายน้ำ และสวนได้เลย
ผังอาคารชั้น 3-8 จะมีลักษณะเหมือนกับการวางแปลนอาคารชั้น 2 เลยค่ะ มีห้องพักทั้งหมด 33 ยูนิต แต่จะมีแบบห้อง 2 Bedroom ขึ้นมาอยู่ที่มุมขวาบนของอาคาร ซึ่งจะมีเพียงชั้นละห้องเท่านั้น
บริเวณภายในโครงการ
ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราไปดูกันที่ภายในโครงการต่อเลย บริเวณนี้เป็นมุมมองจากด้านหน้าโครงการ
ซุ้มทางเข้า-ออกโครงการเป็นแบบกลางแจ้ง แบ่งช่องการเดินรถเป็น 2 ฝั่ง
ด้านซ้ายเป็นทางเดินรถฝั่งขาเข้า
ด้านขวาเป็นทางเดินรถฝั่งขาออก
ติดกันฝั่งขวาเป็น Security Gate จุดนี้จะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ และช่วงนี้มีสถานการณ์ COVID-19 การเข้าโครงการจะมีการตรวจวัดอุณหภูมิทุกครั้งด้วย
หลังจากผ่านทางเข้า-ออกโครงการบริเวณ Security Gate มาแล้ว มองตรงไปจะเจอทางเดินรถฝั่งขาออกจากลานจอดรถชั้นล่างของอาคาร
มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้า-ออกโครงการ
ส่วนฝั่งขวามีที่จอดรถกลางแจ้ง สามารถจอดรถยนต์ได้ 4 คัน พร้อมหมอนคอนกรีตกั้นล้อรถสำเร็จรูป ด้านหลังตกแต่งด้วยกำแพงพุ่มไม้สีเขียว
ถัดมาฝั่งซ้ายตรงไปเป็นทางเดินรถฝั่งขาเข้าไปยังลานจอดรถชั้นล่าง และขวามือเป็นทางเดินไปยัง Lobby ค่ะ
มุมด้านหน้าตรงนี้จะมองเห็นตึกพักอาศัยสูง 8 ชั้น ออกแบบมาในรูปตัว L แบบชัด ๆ
เดี๋ยวเราเดินเข้าไปดูด้านในกันต่อเลย
ขวามือจะเจอกับทางเข้า Lobby ชั้นล่างของอาคาร
ฝั่งตรงข้ามเป็นลานจอดรถกลางแจ้ง
สามารถจอดรถยนต์ได้ 4 คัน พร้อมหมอนคอนกรีตกั้นล้อรถสำเร็จรูป
ด้านหลังมีศาลพระภูมิประจำโครงการ บรรยากาศโดยรอบตกแต่งด้วยกำแพงต้นไม้ พุ่มไม้ ต้นไม้สีเขียว และโคมไฟสนาม
ตรงเข้าไปด้านในเป็นทางเดินรถฝั่งขาเข้าไปยังลานจอดรถชั้นล่าง จำกัดความสูงของรถอยู่ที่ 2.1 เมตร
ฝั่งซ้ายเป็นที่จอดรถจักรยานยนต์
ส่วนฝั่งขวาเป็นที่จอดรถยนต์
ช่องจอดรถยนต์กว้างกำลังดี จอดได้แบบไม่แออัดค่ะ
เมื่อเข้ามาด้านในทางเดินรถค่อนข้างกว้างขวาง เป็นการเดินรถทางเดียว ที่เสามีขอบเครื่องหมายระวังชนสีเหลืองดำติดตั้งให้อย่างเด่นชัด
บริเวณนี้เป็นท้าย ๆ ของลานจอดรถ มีทั้งที่จอดรถในร่ม และจอดกลางแจ้ง
ส่วนใหญ่แล้วบริเวณลานจอดรถจะแบ่งเป็นช่อง ๆ ช่องละ 3 คัน พร้อมหมอนคอนกรีตกั้นล้อรถสำเร็จรูปแบบนี้ค่ะ
มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้าลานจอดรถ
ผ่านอาคารจอดรถมาจะเชื่อมไปยังลานจอดรถอีกฝั่ง
ทางออกจากลานจอดรถ ตกแต่งด้วยพื้นที่สีเขียวให้ความร่มรื่นสบายตา
เดี๋ยวเราเดินไปดูด้านในกันต่อเลยค่ะ โดยทางเดินรถฝั่งซ้ายตกแต่งด้วยกำแพงต้นไม้
ส่วนฝั่งขวาติดกับทางออกจากลานจอดรถส่วนแรกมีพื้นที่จอดรถยนต์กลางแจ้งได้อีก 3 คัน
เมื่อเข้ามาภายในลานจอดรถฝั่งขาออก มีความกว้างกำลังดีเช่นเดียวกัน
ช่องจอดรถกว้างกำลังดี พร้อมหมอนคอนกรีตกั้นล้อรถสำเร็จรูป
ภายในลานจอดรถฝั่งขาออกมีประตูเชื่อมเข้าไปด้านใน Lobby บริเวณลิฟต์โดยสารที่ใช้ขึ้นไปยังอาคารชั้นพักอาศัย โดยจะต้องใช้ Key Card สแกนเข้าไปด้านในค่ะ
มุมมองย้อนกลับไปยังด้านในสุดของลานจอดรถฝั่งขาออก
ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราเข้าไปดูด้านใน Lobby กันต่อเลย
โดยด้านข้างทางเข้า Lobby มีพื้นที่พักผ่อน ตกแต่งด้วยต้นไม้ พุ่มไม้สีเขียว ใช้เดินลัดเข้าไปยังลานจอดรถได้อีกทาง
มุมมองด้านหน้าทางเข้า Lobby เป็นพื้นที่ลานจอดรถกลางแจ้ง และศาลพระภูมิประจำโครงการ
ฝั่งซ้ายมองไปจะเห็นซุ้มทางเข้า-ออกโครงการ
ส่วนฝั่งขวาเป็นทางเข้าลานจอดรถ
เมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านใน Lobby จะมีที่นั่งพักผ่อนให้หลายจุด ฝั่งซ้ายที่นั่งพักผ่อนเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ และขนาด 4 ที่นั่ง ส่วนฝั่งขวามีชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง มีโมเดลโครงการ และบันไดวนเชื่อมขึ้นไปยังส่วนกลางชั้น 2 โดย Lobby ฝ้าจะสูงถึงชั้น 2 เลยค่ะ มองตรงไปด้านในมีเคาน์เตอร์ต้อนรับ และเชื่อมไปยังโถงลิฟต์ขึ้นอาคารพักอาศัย
ที่นั่งพักผ่อนส่วนใหญ่เป็นโซฟาเบาะนุ่ม พร้อมหมอนอิง และโต๊ะกลาง
บริเวณนี้คือฝั่งขวาข้างเคาน์เตอร์ต้อนรับมีทางเข้าห้องน้ำ
หน้าห้องน้ำเป็นมุมรับ-ฝากพัสดุ ใช้ระบบ Nasket อุปกรณ์สั่งสินค้าทันสมัยที่เสมือนยกห้างมาไว้ที่ห้อง
เดินตรงเข้ามาด้านในสุด บริเวณนี้เป็นโถงลิฟต์โดยสาร
มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้า Lobby
บริเวณนี้มี Mailbox แยกของแต่ละห้องเป็นสัดส่วน มีบริการจัดการพัสดุอย่างเป็นระเบียบ
เดินเข้าไปด้านในสุดมีทางออกไปยังลานจอดรถด้านนอก
ส่วนลิฟต์โดยสารมีให้ 2 ตัว ตกแต่งด้วยกำแพงลายหินอ่อน ขอบสีทอง
ตรงข้ามลิฟต์โดยสารมี Mailbox ให้อีกจุด
มุมมองย้อนกลับไปยังทางเข้า Lobby ลำดับถัดมาเดี๋ยวเราขึ้นไปดูส่วนกลางชั้น 2 และชั้น 8 กันค่ะ
เริ่มที่ส่วนกลางชั้น 2 ก่อนเลย โดยส่วนกลางชั้น 2 ประกอบด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส, Library Room, Private Meeting Room, Co-Working Space และ Social Club
ซึ่งหลังออกจากลิฟต์มา ฝั่งขวาเป็นทางเข้าโซนพักอาศัย
ส่วนฝั่งซ้ายเป็นทางออกไปยังพื้นที่ส่วนกลางต่าง ๆ
หลังจากเปิดประตูออกมาด้านนอก ตรงไปเป็นทางเดินเชื่อมไปยังสระว่ายน้ำ และฟิตเนส
ส่วนฝั่งซ้ายเป็นทางเชื่อมไปยัง Library Room, Private Meeting Room, Co-Working Space, Social Club และห้องน้ำส่วนกลางแยกชายหญิง
เดี๋ยวเราไปดูกันที่โซนสระว่ายน้ำ และฟิตเนสก่อนเลย
หลังจากขึ้นบันไดมาแล้ว ส่วนแรกจะพบกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่
หันมาทางฝั่งซ้ายมีทางเดินไปยังพื้นที่พักผ่อนริมสระ, จุดชำระล้างตัวด้วยระบบน้ำจืด และฟิตเนส
มุมมองท้ายสระไปยังโซนฟิตเนสค่ะ
สระว่ายน้ำของโครงการใช้ระบบเกลือกว้าง 15 x 5.5 เมตร ความลึก 1.2 เมตร ใช้กระเบื้องสระลายหินอ่อน
เทควิวออกไปเห็นต้นไม้สีเขียวขนาดใหญ่ และบ้านพักอาศัยใกล้เคียงที่มีความสูงไม่มากนัก ทำให้วิวตรงข้ามกับพื้นที่พักผ่อนข้างสระค่อนข้างโล่งแจ้งไม่มีอาคารสูง ๆ มาบดบังวิวเลยค่ะ
มีทางเดินลงสระเป็นขั้นบันได ระหว่างขึ้น-ลงสระก็ระวังลื่นกันด้วยนะคะ เนื่องจากไม่มีราวจับมาให้
มุมมองภาพรวมทั้งหมดของสระว่ายน้ำ
ถัดมาเดี๋ยวเราไปชมริมสระฝั่งซ้ายกันต่อเลยค่ะ
โดยฝั่งนี้เป็นจุดชำระล้างตัวด้วยระบบน้ำจืด และพื้นที่พักผ่อนริมสระ
สำหรับจุดชำระล้างตัวด้วยระบบน้ำจืด มีฝักบัวและเรนชาวเวอร์ไว้ให้ใช้งานอย่างละ 1 ตัว บริเวณนี้มีการลดระดับพื้นด้านล่างลงเล็กน้อย ทำให้ระหว่างใช้งานน้ำจะไม่เลอะออกไปด้านนอก พร้อมตกแต่งด้วยก้อนหินสีเข้ม และพุ่มไม้สีเขียวรอบบริเวณ
ติดกันฝั่งขวามีพื้นที่พักผ่อนริมสระ
โดยแบ่งพื้นที่พักผ่อนไว้ 3 ล็อค คั่นกลางด้วยกระถางต้นไม้ พร้อมจัดวาง Sunbed ไว้ให้ 6 ตัว
ด้านบนเป็นหลังคาระแนงเหล็กสีดำ บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยพุ่มไม้ และไม้เลื้อยสีเขียว
ฝั่งขวาของมุมพักผ่อนริมสระเป็นโซนฟิตเนส
มุมมองหน้าโซนฟิตเนสย้อนกลับไปยังท้ายสระ และทางเข้าค่ะ
ลำดับถัดมาเราจะเข้าไปดูที่โซนฟิตเนสกันบ้าง
ภายในฟิตเนสมีพื้นที่ใช้งานกว้างขวาง เพดานค่อนข้างสูงโปร่ง ผนังเป็นกระจกรอบด้านชมวิวด้านนอกได้ และทำให้ห้องไม่มืดทึบ ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ และติดตั้งแอร์ให้ 2 ตัว พร้อมมีอุปกรณ์เครื่องเล่นรองรับมากมาย โดยฟิตเนสเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 7.00 – 22.00 น.
กลางห้องบิวท์อินเป็นกระจกเงาขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ พร้อมติดตั้งทีวีที่ผนัง
ฝั่งซ้ายหลังเปิดประตูเข้ามาด้านในวางเป็นเครื่องบริหารกล้ามเนื้อ
ส่วนฝั่งขวามีเครื่องเล่นที่มากยิ่งขึ้น
มีลู่วิ่งไฟฟ้า 2 ตัว ติดกันเป็นเครื่องเดินวงรี เครื่องนั่งปั่นจักรยานสำหรับการทำ Cardio และเบาะสำหรับซิทอัพ
มีชุดดัมเบลให้เลือกใช้งานหลายขนาด
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้า
ถัดมาเราจะเข้าไปดูกันที่ส่วนกลางในอาคารกันบ้าง โดยประกอบไปด้วย Library Room, Private Meeting Room, Co-Working Space, Social Club และห้องน้ำส่วนกลางแยกชายหญิง
หลังออกมาจากโถงลิฟต์แล้วเลี้ยวซ้าย หันไปทางขวามือจะเจอทางเข้าห้องน้ำส่วนกลางแยกชายหญิง
เริ่มที่ห้องน้ำชายกันก่อนเลย
หน้าห้องน้ำมีล็อกเกอร์เก็บของให้ 8 ตู้
ภายในห้องน้ำมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดนิดนึง แต่ใช้งานได้สะดวก ส่วนแรกซ้ายมือเป็นมุมโถสุขภัณฑ์ ติดตั้งสายฉีดชำระ และที่แขวนกระดาษทิชชู่ พร้อมวางถังขยะมาให้เรียบร้อย
ติดกันเป็นห้องอาบน้ำ แบ่งแยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบบานผลัก ภายในมีฝักบัว และเรนชาวเวอร์มาให้
ส่วนฝั่งซ้ายเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือลายหินอ่อน พร้อมกระจกเงาขอบทองบานใหญ่เต็มพื้นที่
ถัดมาเป็นห้องน้ำหญิง
หน้าห้องน้ำมีล็อกเกอร์เก็บของให้ 8 ตู้เช่นเดียวกัน
เข้ามาภายในห้องน้ำส่วนแรกซ้ายมือเป็นมุมโถสุขภัณฑ์ ติดตั้งสายฉีดชำระ ที่แขวนกระดาษทิชชู่ พร้อมวางถังขยะมาให้เรียบร้อย
ติดกันเป็นห้องอาบน้ำ แบ่งแยกส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบบานผลัก ด้านในมีฝักบัว และเรนชาวเวอร์มาให้ใช้งาน
ส่วนฝั่งขวาเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือลายหินอ่อน พร้อมกระจกเงาขอบทองบานใหญ่เต็มพื้นที่เช่นเดียวกัน
ออกมาดูกันที่หน้าห้องน้ำส่วนกลาง บริเวณนี้ประตูที่เห็นใช้เชื่อมเข้าไปยัง Co-Working Space ได้ค่ะ
ถัดมาเป็น Laundry Room และห้องเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ของแม่บ้าน ต่อเนื่องไปเป็นประตูเข้าไปยังโซนพักอาศัย และส่วนกลางด้านในค่ะ
บรรยากาศเมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านในมีประตูอีกชั้นเพื่อเข้าไปยังโซนห้องพักอาศัย
โถงทางเดินชั้นพักอาศัยปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีม ความกว้างโถงกำลังดี ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ให้แสงสว่างตลอดทางเดิน
เดี๋ยวเราไปดูพื้นที่ส่วนกลางต่าง ๆ กันต่อเลย โดยห้องแรกซ้ายมือที่เห็นนั้นคือ Library Room แต่หากเดินตรงไปอีกหน่อยขวามือจะเป็น Co-Working Space, Private Meeting Room และ Social Club ค่ะ
เมื่อเข้ามาด้านใน Library Room พื้นที่ภายในกว้างขวาง มีที่นั่งพักผ่อนให้หลายจุด ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลทอง
หลังจากเปิดประตูเข้ามาแล้ว ฝั่งขวาจะเจอมุมพักผ่อน โดยวางเป็นชุดโซฟาขนาด 1 ที่นั่ง ไว้ 2 ตัว พร้อมโต๊ะกลาง และหมอนอิง ด้านข้างติดกับกำแพงบิวท์อินเป็นชั้นวางของกรอบสีทองเก๋ไก๋
ส่วนตรงกลางห้องวางเป็นโต๊ะหินอ่อนสีเข้มทรงยาวขนาดใหญ่ 8 ที่นั่ง ด้านบนแขวนโคมไฟห้อยเพดานดูหรูหรา
บนโต๊ะรองรับ Wireless Charge สำหรับชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยค่ะ
ในส่วนนี้มองลงไปจะเห็น Lobby ชั้นล่าง และวิวด้านหน้าอาคาร
ส่วนกำแพงที่ติดกับประตูทางเข้าแขวนผ้าม่านสีเทาดูเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้า
ถัดมาด้านในสุดเป็นมุมพักผ่อนวางเก้าอี้ไว้ให้ 2 ตัว ที่ผนังมีปลั๊กไฟติดตั้งมาให้เรียบร้อย จะยกโน๊ตบุ๊คมานั่งทำงานก็สะดวกสบาย
ส่วนด้านข้างบิวท์อินเป็นชั้นวางของตกแต่งขนาดใหญ่ บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างเงียบสงบ และเป็นส่วนตัว
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้า ส่วนทางซ้ายมือที่เห็นนั้นคือทางลงไปยัง Lobby โดยเป็นบันไดวนค่ะ
ถัดมาเราจะเข้าไปดูที่ Private Meeting Room, Co-Working Space และ Social Club กันค่ะ ซึ่งหลังจากที่เราเปิดประตูเข้ามาด้านในแล้ว ส่วนแรกเลยจะเจอกับ Co-Working Space ตรงกลางห้องคั่นด้วยชั้นวางของตกแต่งสีน้ำตาลขนาดใหญ่ ซึ่งแบ่งแยกพื้นที่ Co-Working Space กับ Social Club และ Private Meeting Room อย่างชัดเจน ภายในห้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และสไตล์โทนสีน้ำตาล, เหลือง, ทอง ผ้าม่านภายในห้องเป็นสีขาว พื้นปูด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนสีเข้มทั่วห้อง
ติดกับประตูทางเข้ามีมุมพักผ่อนจัดวางเป็นโซฟาขนาด 1 ที่นั่ง 2 ตัว พร้อมหมอนอิง และโต๊ะกลาง ตกแต่งด้วยโคมไฟตั้งพื้นสีทองข้าง ๆ กัน
มาดูกันที่ Co-Working Space ต่อเลยค่ะ
บริเวณนี้ตรงกลางวางเป็นโต๊ะลายหินอ่อนทรงยาวขนาดใหญ่ 8 ที่นั่ง ด้านบนตกแต่งด้วยโคมไฟห้อยเพดานสีทองดีไซน์โมเดิร์น และบนโต๊ะจะรองรับ Wireless Charge ด้วยเช่นกัน
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง
บริเวณนี้ฝั่งซ้ายบิวท์อินเป็นชั้นวางของตกแต่งสีน้ำตาลขนาดใหญ่ คั่นกลางระหว่างพื้นที่ Co-Working Space กับ Social Club
ส่วนฝั่งขวาเป็นผนังลายหินอ่อน แซมด้วยกรอบสีทองเพิ่มความหรูหรา และหากสังเกตดี ๆ ด้านในสุดจะเห็นประตูเปิดออกไปยังพื้นที่ด้านนอกด้วย
โดยเป็นประตูบานพลักที่เปิดออกไปยังห้องน้ำส่วนกลางแยกชายหญิงด้านนอก เมื่อเลี้ยวซ้ายก็จะไปยังโถงลิฟต์ สระว่ายน้ำ และฟิตเนสนั่นเอง
มุมมองภาพรวมทั้งหมดของ Co-Working Space ค่ะ
ลำดับต่อมาเดี๋ยวเราเข้าไปดูด้านในกันต่อเลยค่ะ
ถัดเข้ามาในส่วนนี้คือ Social Club พื้นที่การใช้งานกว้างขวาง ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาล, เหลือง, ทอง เช่นเดียวกัน
มองตรงไปส่วนแรกจะเห็นเคาน์เตอร์บาร์
โดยเป็นเคาน์เตอร์บาร์ลายหินอ่อน วางเก้าอี้ไว้ให้ 3 ตัว
ด้านหลังตกแต่งด้วยชั้นวางของขนาดใหญ่ พร้อมกรุเป็นผนังไม้แซมด้วยกระจกดูสวยงาม
ส่วนฝั่งซ้ายมีมุมพักผ่อนวางเป็นโซฟาขนาด 1 ที่นั่ง 2 ตัว พร้อมตกแต่งด้วยโคมไฟตั้งพื้นสีทอง
ไปดูที่ฝั่งขวากันบ้าง
บริเวณนี้วางเป็นโต๊ะสนุกเกอร์ขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ด้านหน้า Private Meeting Room พอดีเลย
พื้นที่ใช้งานค่อนข้างกว้าง ไม่แออัด และได้รับแสงสว่างเข้ามาได้เยอะจากหน้าต่างด้านข้าง
ขวามือติดกับชั้นวางของตกแต่ง ด้านบนแขวนโคมไฟห้อยเพดานสีทองอร่าม
มุมมองย้อนกลับไปยังเคาน์เตอร์บาร์ค่ะ
บรรยากาศภาพรวมทั้งหมดของ Social Club
ถัดมาเราจะเข้าไปดูกันที่ Private Meeting Room กันบ้างนะคะ โดยบริเวณทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนสไลด์
มุมมองหน้าห้อง Private Meeting Room ย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้องค่ะ
เมื่อเข้ามาด้านในจะพบกับโต๊ะลายหินอ่อนทรงยาวขนาด 8 ที่นั่งเป็นส่วนแรก บนโต๊ะรองรับ Wireless Charge เช่นเดียวกัน
ฝั่งขวาบิวท์อินเป็นชั้นวางของสีเหลืองทองขนาดใหญ่เกือบเต็มพื้นที่ ด้านบนตกแต่งด้วยโคมไฟห้อยเพดานดีไซน์เก๋
มุมมองห้องทางฝั่งซ้าย
มุมมองห้องทางฝั่งขวา
ถัดมาเราขึ้นมาดูที่ส่วนกลางชั้น 8 นั่นก็คือสวนบนดาดฟ้ากันเลย ซึ่งหลังจากออกจากลิฟต์มาแล้วให้เลี้ยวขวา
จากนั้นจะเจอทางเดินขึ้นไปยังดาดฟ้าทางขวามือค่ะ
หลังจากที่เราขึ้นมาด้านบนแล้วจะพบกับสวนบนดาดฟ้ากลางแจ้งขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับขึ้นมารับลมในช่วงเย็น ๆ
รวมทั้งยังที่นั่งพักผ่อนในสวนให้หลายจุด โดยเป็นม้านั่งทรงยาวทาสีเหลืองทอง
ภายในสวนตกแต่งด้วยพุ่มไม้ และต้นไม้สีเขียว มีราวกันตกเป็นระแนงเหล็กทาสีดำ พร้อมไฟสนามให้แสงสว่างยามมืด เดี๋ยวเราเดินเข้าไปดูด้านในกันต่อเลยค่ะ
เดินต่อเข้ามาอีกหน่อยฝั่งซ้ายจะมองเห็นวิวกว้างเต็มตาอีกมุมหนึ่ง
มีม้านั่งทำเป็นมุมพักผ่อนให้อีกจุด
ส่วนฝั่งขวามีทางเดินไปยังพื้นที่พักผ่อนด้านใน
เดินตรงเข้ามาด้านในสุดจะพบกับพื้นที่พักผ่อน ซึ่งรองรับหลายมุมเลยค่ะ
ฝั่งขวามีเคาน์เตอร์บาร์ พร้อมเก้าอี้ทรงสูงขนาด 3 ที่นั่ง มองเห็นวิวได้แบบชัด ๆ
ไปดูทางฝั่งซ้ายกันบ้างค่ะ
บริเวณนี้จัดเป็นมุมพักผ่อนด้วยการวางเก้าอี้หวายสีเข้มขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง 2 จุด เอาไว้นั่งรับลมชิว ๆ
บริเวณโดยรอบตกแต่งด้วยพุ่มไม้ดอกไม้สวยงามเป็นธรรมชาติ
มุมนี้ตกแต่งด้วยกำแพงต้นไม้ และพุ่มไม้สีเขียว บริเวณทางเดินมีไฟสนาม
ส่วนตรงกลางมีซุ้มระแนงทาสีดำและน้ำตาล พร้อมพื้นที่พักผ่อนด้านใน
มีเคาน์เตอร์บาร์ พร้อมเก้าอี้ทรงสูง 3 ที่นั่ง
บรรยากาศภาพรวมพื้นที่พักผ่อนด้านในของสวนบนดาดฟ้า
แบบห้อง
โครงการ Kensington พหลโยธิน 63 แบบห้องมีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่
แบบห้อง 1 Bedroom Studio Superior
แบบห้อง 1 Bedroom Deluxe
แบบห้อง 1 Bedroom Plus Suite
แบบห้อง 1 Bedroom Studio Superior
แบบห้อง 2 Bedrooms Penthouse
ห้องตัวอย่าง
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาท่านผู้อ่านไปชมห้องตัวอย่าง 3 แบบ คือ
โดยห้องพักขายแบบ Fully Furnished สิ่งที่ได้จะมี Digital Door Lock, เครื่องปรับอากาศ, ชั้นวางทีวี, ตู้เก็บของ, โซฟา + โต๊ะกลาง, ชุดเคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน, เตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า, ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Mogen กับ VRH พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ และมีระบบ Home Automation
เริ่มกันที่ แบบห้อง 1 Bedroom Deluxe ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 28.46 ตร.ม. กันก่อนเลยค่ะ พื้นที่การใช้งานภายในห้องแยกเป็นสัดส่วน เมื่อเข้าประตูไปจะเจอกับห้องนั่งเล่นเป็นส่วนแรก ต่อเนื่องไปเป็นมุมรับประทานอาหาร และมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่เปิดเข้าไปยังห้องนอน
ถัดมาอีกฝั่งมีทางเดินเชื่อมไปยังมุมโต๊ะทำงาน ที่สามารถปรับแต่งเป็นฟังก์ชันอื่น ๆ ได้ตามไลฟ์สไตล์ จากนั้นทางฝั่งขวาห้องน้ำ ที่แบ่งแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกอย่างชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ
ส่วนฝั่งซ้ายเป็นห้องครัวแบบปิด มีการบิวท์อินเคาน์เตอร์ครัวพร้อมซิงค์ล้างจานมาให้เรียบร้อย มีประตูบานเลื่อนทำเป็นครัวปิด และมีพื้นที่ระเบียงหลังห้องสำหรับชมวิวด้านนอก
หลังจากที่เราได้ชมแปลนแบบห้อง 1 Bedroom Deluxe ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 28.46 ตร.ม. กันไปแล้ว ลำดับต่อไปเราจะเข้ามาดูห้องตัวอย่างกันต่อเลยนะคะ เริ่มที่บริเวณทางเข้าห้องประตูเป็นบานสำเร็จรูปลายไม้สีอ่อน ที่ประตูมีตาแมวสำหรับดูความปลอดภัยบริเวณหน้าห้อง ด้านข้างประตูมีป้ายหมายเลขห้อง และกริ่งออดติดตั้งมาให้ด้วย
ติดตั้ง Digital Door Lock ของ COLT พร้อมมือจับแบบคันโยกมาให้ ฟังก์ชันระบบล็อกใช้งานได้ทั้งรหัสผ่าน, Keycard และกุญแจ
ที่พื้นมี Door Stopper หรือตัวหยุดประตู
เมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านใน ห้องปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อนหนา 8 มม. ผนังปูนฉาบเรียบทาสีพื้น ด้านบนติดตั้งไฟดาวน์ไลท์ เพดานห้องสูง 2.4 เมตร ทำให้มีความโปร่งโล่งสบาย
เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ สามารถจัดวางได้อย่างลงตัว ฝั่งซ้ายเป็นมุมนั่งเล่น ติดถัดไปเป็นมุมรับประทานอาหาร และห้องนอน ส่วนฝั่งขวาเป็นชั้นวางทีวี และมีทางเดินเข้าไปยังมุมโต๊ะทำงาน, ห้องน้ำ ห้องครัว และระเบียงหลังห้อง
เริ่มจากส่วนแรกทางฝั่งซ้ายคือห้องนั่งเล่น ต่อเนื่องไปเป็นมุมรับประทานอาหาร
ห้องนั่งเล่นจัดวางเป็นชุดโซฟาโทนสีเทาขนาด 2 ที่นั่ง มีที่พักแขน พร้อมหมอนอิง และโต๊ะกลางขาสีทองขนาดกะทัดรัด 2 ตัว ด้านข้างติดกับประตูทางเข้ามีโต๊ะวางของตกแต่ง
พื้นด้านล่างปูด้วยพรมขนนุ่มสีเทาเข้าชุดกับโซฟา ระยะการเดินผ่านกว้างกำลังดี เดินผ่านเข้า-ออกได้อย่างสะดวกสบาย
ด้านหลังชุดโซฟากรุเป็นผนังกระจกเงาบานใหญ่ พร้อมระแนงไม้สวยงาม
ฝั่งตรงข้ามกับชุดโซฟา ทางโครงการได้บิวท์อินเป็นชั้นวางทีวีลายไม้สีอ่อนขนาดพอเหมาะ มีตู้เก็บของในตัว วางชิดติดกับผนังห้องทางฝั่งขวา ด้านบนและล่างมีช่องเก็บของพร้อมบานปิดเลื่อนสไลด์ ส่วนระยะห่างของการนั่งดูทีวีมีขนาดกำลังดีเลยค่ะ
หน้าชั้นวางทีวีมีที่เหลือให้วางของตกแต่ง หรือของใช้อื่น ๆ ได้อีก หลังจากที่วางทีวีแล้ว
มุมมองภาพรวมของห้องนั่งเล่น
ถัดมาติดกับโซฟานั่งเล่นมีที่เหลือให้ทำเป็นมุมรับประทานอาหารได้กำลังดี
โดยทางโครงการได้จัดวางเป็นโต๊ะขนาด 2 ที่นั่ง หากจะใช้งานควรเปิดประตูบานเลื่อนของห้องนอนแล้วเขยิบเก้าอี้ไปหน่อย หรือเลื่อนเก้าอี้รับประทานอาหารออกมานั่งที่มุมตัวหนึ่งค่ะ
ลำดับถัดมาเราจะเข้าไปดูที่ห้องนอนกันบ้าง โดยประตูทางเข้าห้องเป็นบานเลื่อนสลได์ขนาดใหญ่ พร้อมติดลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมีที่ล็อกในตัว
ภายในห้องนอนมีความกว้าง สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว
โซนพักผ่อนเหมาะสำหรับวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต จะได้ไม่กินพื้นที่มาก
ฝั่งหัวเตียงกรุเป็นผนังบานไม้สีอ่อนกรอบเข้มพร้อมกระจกเงา
ฝั่งปลายเตียงมีพื้นที่รองรับการติดตั้งทีวีที่ผนังห้อง
พื้นปลายเตียงสามารถเดินผ่านเข้า-ออกได้อย่างสะดวก แต่หากบิวท์อินเป็นชั้นวางทีวีจะไม่มีที่ให้เดินผ่านนะคะ เพราะพื้นที่ฝั่งนี้ค่อนข้างจำกัดนิดนึง
ติดกันข้างเตียงฝั่งซ้าย บิวท์อินเป็นตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนสไลด์ทรงสูงขนาดกลางยาวจรดเพดาน หน้าตู้เสื้อผ้ามีบานเลื่อนแบบกระจกให้ส่องความเรียบร้อยด้วยค่ะ
หน้าตู้เสื้อผ้ามีที่เหลือให้ยืนแต่งตัวได้อย่างสะดวกสบาย
ส่วนฝั่งขวามีช่องรับแสงขนาดใหญ่ เป็นกระจกบานฟิกซ์ และบานกระทุ้ง ช่วยถ่ายเทอากาศภายในห้องได้เป็นอย่างดี ทำให้ห้องไม่มืดทึบ และรับแสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้เยอะทีเดียว
ถัดมาเราไปชมฝั่งขวาของห้องกันบ้างนะคะ
ตรงกลางระหว่างห้องน้ำ และห้องครัว บริเวณนี้ทางห้องตัวอย่างจัดให้เป็นมุมโต๊ะทำงาน หรือจะเปลี่ยนให้เป็นมุมแต่งตัว มุมโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ ปรับได้ตามไลฟ์สไตล์เลยค่ะ
สำหรับห้องตัวอย่างมุมนี้บิวท์อินเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ มีช่องเก็บ ชั้นวางหนังสือ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่
เดี๋ยวเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อเลย
บริเวณทางเข้าธรณีประตูยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องเล็กน้อย ช่วยป้องกันน้ำกระเซ็นออกไปด้านนอก
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันครบครัน แบ่งแยกเป็นส่วนแห้งส่วนเปียกอย่างชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ฝาผนังปูกระเบื้องแกรนิตโต้สีน้ำตาลแบบมีลวดลายและสีครีมในบางส่วนจรดเพดาน พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบผิวด้านสีเทา
ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ และมีพัดลมระบายอากาศติดตั้งมาให้เสร็จสรรพ
ภายในห้องน้ำมีกระจกเงาขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ผนังฝั่งซ้าย
ใช้อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมแบบลอยติดผนังของ Mogen คู่กับก๊อกน้ำจาก VRH หน้าอ่างมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ หรือของตกแต่งได้อีก
ด้านล่างมีช่องเก็บของ
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ระยะการใช้งานกำลังดี สะดวก ไม่แออัด ติดตั้งสายฉีดชำระสแตนเลสที่ฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวามีที่แขวนทิชชู่มาให้
ถัดมาเป็นพื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นมาให้เรียบร้อย เป็นกระจกบานผลักมือจับราวสแตนเลส ผนังฝั่งขวาด้านหน้าติดตั้งราวแขวนผ้าขนหนูมาให้ 1 จุด
ทางเข้าพื้นที่อาบน้ำ มีขอบธรณียกสูงขึ้นมา แบ่งแยกระหว่างส่วนแห้งส่วนเปียกอย่างชัดเจน
มุมอาบน้ำติดตั้งฝักบัวของ VRH สามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น หรือชั้นวางของเพิ่มเติมเองได้ที่ผนัง
ออกมาดูที่ห้องครัวและระเบียงหลังห้องกันต่อเลยนะคะ โดยเป็นห้องครัวแบบปิด มีประตูบานเลื่อนสไลด์บริเวณทางเข้า ข้อดีคือระหว่างประกอบอาหารกลิ่นจะไม่คลุ้งไปทั่วห้อง และระบายอากาศได้ดีหากเปิดประตูระเบียง หรือติดตั้งฮูดดูดควันเพิ่มเติมค่ะ
เมื่อเข้ามาภายในห้องครัวมีความกว้างจำกัดนิดนึงหลังบิวท์อินเป็นเคาน์เตอร์ครัว และได้รับแสงสว่างเข้ามาได้เยอะจากประตูระเบียง
ข้างเคาน์เตอร์ครัวมีที่เหลือให้วางตู้เย็นได้เพิ่มเติมอีก
สำหรับเคาน์เตอร์ครัวท็อปครัวเป็นพื้นสีขาว ติดตั้งเตาไฟฟ้ามาให้ทางฝั่งซ้าย
ส่วนฝั่งขวามีซิงค์ล้างจานแบบหลุมเดียว พร้อมก๊อกน้ำโครเมียม
ด้านหลังเคาน์เตอร์ครัวมี Backsplash กรุเป็นกระเบื้องเซรามิกกันเปื้อนมาให้ หากน้ำมันกระเด็นขณะประกอบอาหารก็สามารถเช็ดออกได้ง่าย ด้านบนติดตั้งเป็นฮูดดูดควัน ตรงกลางมีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร หรือวางของใช้
ชุดครัวด้านบนมีตู้เก็บของบานปิดมาให้ ใช้เก็บพวกเครื่องปรุงหรือของใช้ต่าง ๆ ได้
และมีช่องเก็บของแบบชั้นลอยให้อีก 2 ช่อง
ส่วนเคาน์เตอร์ด้านล่างมีตู้เก็บของมาให้เช่นเดียวกัน ช่องนี้อาจใช้เก็บพวกน้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรืออุปกรณ์เครื่องใช้อื่น ๆ ได้ค่ะ
ตรงกลางมีช่องว่างขนาดใหญ่สำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้อย่างพอดี
ติดกันเป็นช่องสำหรับวางตู้ไมโครเวฟ
มาดูกันที่ระเบียงหลังห้องกันบ้าง โดยมีประตูบานเลื่อนสไลด์เปิดออกไปยังพื้นที่ระเบียง มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐานมีที่ล็อกในตัว
พื้นที่ระเบียงมีขนาดกว้างพอเหมาะ ธรณีประตูยกพื้นขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำกระเซ็นเข้ามาภายในห้อง พร้อมวางรางประตูด้านบนอีกที พื้นปูด้วยระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ผิวด้านสีเทาอ่อน ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กโปร่งทาสีดำเข้ม
ระเบียงฝั่งขวาด้านบนใช้เป็นที่แขวนคอมเพลสเซอร์แอร์
ส่วนฝั่งซ้ายด้านบนมีโคมไฟกิ่ง
ด้านล่างมีก็อกน้ำให้ 1 ตัว
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง
อีกห้องที่พามาชมเป็นแบบห้อง 1 Bedroom Plus Suite ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 35.57 ตร.ม. ค่ะ เดินเข้ามาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปเป็นห้องนอน ได้ฉากกั้นบานเลื่อน 3 บาน ภายในห้องสามารถวางโต๊ะตู้เตียงได้ครบ
อีกฝั่งจะเป็นห้องน้ำมีพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง หน้าห้องน้ำเป็นห้องครัว ได้เป็นครัวเปิดเชื่อมเข้ามาในห้องนั่งเล่น ถัดจากครัวอีกฝั่งเป็นห้องอเนกประสงค์ ได้ฉากกั้นบานเลื่อน 2 บาน จะทำเป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ หรือห้องนอนอีกห้องก็ได้ ในสุดจะเป็นระเบียง ลำดับต่อไปเราจะเข้ามาดูห้องตัวอย่างกันต่อเลยนะคะ
เดินเข้าห้องมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน ถัดไปเป็นห้องนอน ขวามือจะมีทางเดินไปห้องครัว ห้องน้ำ และห้องอเนกประสงค์ พื้นห้องได้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.4 ม. ผนังได้ฉาบเรียบทาสีทั้งห้อง
เดินเข้ามาแล้วมองกลับไปที่ประตูห้อง
ติดกับประตูห้องจะได้ชั้นวางของ แอร์ติดตรงผนัง 1 ตัว
ได้โซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง
ติดกับโซฟามุมนี้เราสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร หรือโต๊ะทำงานก็ได้
ระยะดูทีวีประมาณ 2.9 เมตร ได้ชั้นวางทีวีตามนี้เลย ทั้งชุดล่างและบน หน้าบานเป็นแบบบานเลื่อนซ้ายขวา
ถัดเข้าไปจะเป็นห้องนอน ได้ฉากกั้นแบบบานเลื่อน 3 บาน
ภายในห้องนอนมีพื้นที่ให้มาพอสมควร
ได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 39 ซม.
พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.4 เมตร
ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือพื้นที่ประมาณ 38 ซม.
ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.4 ม. แอร์ติดผนังปลายเตียง 1 ตัว
หน้าต่างในห้องนอนได้เป็นบานกระทุ้ง 1 บาน ที่เหลือเป็นบาน Fixed
มองกลับเข้ามาในห้อง ข้างเตียงด้านในมีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้า
ได้ตู้เสื้อผ้าขนาดบานเลื่อน 2 บาน
ออกจากห้องนอนมา จะมีทางเดินไปยังส่วนครัว ได้เป็นครัวเปิด
ได้ชั้นวางของเป็นตู้บานเปิด 2 บาน ด้านล่างมีช่องไว้ให้วางเครื่องซักผ้าได้ มีบานพับที่สามารถกางออกเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยอาจจะเป็นจุดเตรียมอาหาร วางเสื้อผ้าเพื่อเตรียมเข้าเครื่องหรือใช้เป็นโต๊ะทานข้าวก็ได้
ถัดเข้าไปจะเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัว ได้เป็นตู้บานเปิด 3 บาน และลิ้นชัก 1 ช้อง ได้เตาไฟฟ้า และอ่างล้างจาน วางใกล้กันเลย เรามาใช้ส่วนเตรียมอาหารตรงเคาน์เตอร์เครื่องซักผ้าได้
ติดกับครัวด้านในเป็นห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำมีพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้ง
สุขภัณฑ์ที่ได้ของ Mogen
ด้านในส่วนเปียกติดฝักบัวมาให้ของ VRH
พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.37 x 0.85 เมตร
ออกจากห้องน้ำมา ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องอเนกประสงค์ มีฉากกั้นบานเลื่อน 2 บานให้
ภายในห้องอเนกประสงค์ขนาดประมาณ 2 x 2.4 เมตร ใครจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของ หรือเป็นห้องนอนอีกห้องก็ได้ ขนาดวางเตียงเดี่ยวกำลังดี
ห้องตัวอย่างทำเป็นห้องทำงานให้ดูเป็นไอเดีย
แอร์ได้ติดผนัง 1 ตัว ถัดไปจะเป็นระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 บาน
เปิดออกมาจะเจอระเบียงขนาด 1.9 x 0.75 เมตร
ด้านข้างแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ 3 ตัว เป่าลมออกด้านนอก
มองกลับเข้ามาในห้องจะเห็นแบบนี้
มาถึงแบบห้องสุดท้ายที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้แล้วค่ะคือ แบบห้อง 2 Bedrooms Penthouse ขนาดพื้นที่ใช้สอย 48.53 ตร.ม. พื้นที่การใช้งานแยกเป็นสัดส่วน เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องส่วนแรกคือห้องครัวแบบปิด
ถัดเข้าไปด้านในฝั่งซ้ายห้องแรกคือห้องนอนรอง ติดกันเป็นห้องนอนหลักมีห้องน้ำในตัว โดยติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย ส่วนฝั่งขวาคือห้องน้ำติดตั้งฉากกั้นแยกส่วนแห้งส่วนเปียกมาให้เช่นเดียวกัน ต่อเนื่องไปเป็นมุมรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น และพื้นที่ระเบียง
หลังจากที่เราได้ชมแปลนแบบห้อง แบบห้อง 2 Bedrooms Penthouse ขนาดพื้นที่ใช้สอย 48.53 ตร.ม. กันไปแล้ว ลำดับต่อไปเราจะเข้ามาดูห้องตัวอย่างกันต่อเลยนะคะ เริ่มที่บริเวณทางเข้าห้องประตูเป็นบานสำเร็จรูปลายไม้สีอ่อน ที่ประตูมีตาแมวสำหรับดูความปลอดภัยบริเวณหน้าห้อง ด้านข้างประตูมีป้ายหมายเลขห้อง และกริ่งออด
ที่ประตูติดตั้ง Digital Door Lock ของ COLT พร้อมมือจับแบบคันโยกมาให้ ฟังก์ชันระบบล็อกใช้งานได้หลายแบบทั้ง รหัสผ่าน, Keycard และกุญแจ
ที่พื้นมี Door Stopper หรือตัวหยุดประตู
เมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านใน ส่วนแรกจะเจอห้องครัวแบบปิด มีประตูบานเลื่อนกั้นส่วนมาให้อย่างชัดเจน
บริเวณนี้ทางโครงการบิวท์อินเป็นเคาน์เตอร์ครัวขนาดพอเหมาะ สำหรับจัดเตรียมอาหาร หรือซื้อของมาทานในห้อง และหากใครต้องการประกอบอาหารก็ติดตั้งฮูดดูดควันมาให้เรียบร้อยแล้ว
ด้านข้างมีที่เหลือให้วางเป็นตู้เย็นขนาดกลางได้อีก
เคาน์เตอร์ครัวท็อปครัวเป็นพื้นสีขาว ติดตั้งเตาไฟฟ้ามาให้ทางฝั่งขวา
ส่วนฝั่งซ้ายมีซิงค์ล้างจานแบบหลุมเดียว พร้อมก๊อกน้ำโครเมียม
ด้านบนติดตั้งเป็นฮูดดูดควัน ตรงกลางมีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหาร หรือวางของใช้ต่าง ๆ และด้านหลังเคาน์เตอร์ครัวมี Backsplash กรุเป็นกระเบื้องเซรามิกกันเปื้อนมาให้ หากน้ำมันกระเด็นขณะประกอบอาหารก็สามารถเช็ดออกได้ง่าย ๆ
ชุดครัวด้านบนเป็นลายไม้มีตู้เก็บของบานปิดมาให้
ติดกันมีชั้นลอยสำหรับวางของใช้หรือของตกแต่งอื่น ๆ
ส่วนเคาน์เตอร์ด้านล่างมีตู้เก็บของ และลิ้นชักเก็บของมาให้ ตรงกลางมีช่องว่างขนาดใหญ่สำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าได้อย่างพอดี
มีช่องสำหรับวางตู้ไมโครเวฟ 1 ช่อง
เดี๋ยวเราเข้าไปดูด้านในกันต่อเลยค่ะ
หลังจากผ่านห้องครัวเข้ามาแล้ว ฝั่งซ้ายห้องแรกคือห้องนอนรอง ถัดไปเป็นห้องนอนหลัก ฝั่งขวามือเป็นห้องน้ำ ต่อเนื่องไปเป็นมุมรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น และพื้นที่ระเบียง เพดานห้องค่อนข้างโปร่งสูง 2.4 เมตร
ก่อนอื่นเดี๋ยวเราเข้าไปดูกันที่ห้องนอนหลัก หรือ Master Bedroom เป็นอันดับแรกเลย
เมื่อเข้ามาภายในห้องส่วนแรกจะเจอกับห้องน้ำในตัว และขวามือเป็นโซนพักผ่อน
สวิทช์ไฟภายในห้องใช้ของ Artani เป็นแบบสัมผัส
เข้าไปดูที่ห้องน้ำกันในตัวกันค่ะ
บริเวณทางเข้าธรณีประตูห้องน้ำยกสูงขึ้นมาจากพื้นห้องเล็กน้อย
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันครบครัน ฝาผนังใช้กระเบื้องเซรามิกสีขาว และสีน้ำตาลแบบมีลวดลาย ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบผิวด้านสีเทา
ฝั่งขวาติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่เต็มพื้นที่
ใช้อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมแบบลอยติดผนังของ Mogen พร้อมก๊อกน้ำแบบหมุนจาก VRH หน้าอ่างมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ หรือของตกแต่งได้อีก
ด้านล่างมีช่องเก็บของมาให้อีก
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ระยะการใช้งานกำลังดี ติดตั้งสายฉีดชำระสแตนเลสที่ฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวามีที่แขวนทิชชู่
ฝั่งซ้ายของห้องน้ำแบ่งแยกส่วนแห้งและส่วนเปียกอย่างชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ ผนังห้องฝั่งนี้ใช้เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาว
ทางเข้าก่อธรณีสูงขึ้นมาจากพื้น ช่วยป้องกันน้ำกระเซ็นออกไปด้านนอก
มุมอาบน้ำติดตั้งฝักบัวของ VRH สามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น หรือชั้นวางของเพิ่มเติมเองได้ที่ผนัง
ออกมาดูที่โซนพักผ่อนกันบ้างค่ะ
โซนพักผ่อนสามารถวางเตียงนอนขนาด 5-6 ฟุตได้กำลังดี
ฝั่งหัวเตียงกรุเป็นกระจกเงากรอบไม้สีน้ำเงินสวยงาม และมีกระจกเงาบานใหญ่ข้างเตียงฝั่งขวา
ผนังฝั่งปลายเตียงหากต้องการติดตั้งทีวีในห้องนอนแนะนำให้แขวนไว้ที่ผนังจะสะดวกกว่า และไม่กินพื้นที่มากค่ะ
ทางเดินปลายเตียงมีพื้นที่เหลือให้สามารถผ่านเข้า-ออกได้นิดหน่อย
ข้างเตียงนอนฝั่งซ้ายมีหน้าต่างบานใหญ่เป็นช่องรับแสงธรรมชาติ ทำให้ภายในห้องไม่มืดทึบ และมีหน้าต่างบานฟิกซ์เข้ามุมทำให้ห้องดูโปร่งมากยิ่งขึ้น
ไปดูข้างเตียงฝั่งขวากันบ้างนะคะ
ทางโครงการบิวท์อินเป็นตู้เสื้อผ้าทรงสูงขนาดกลาง เป็นบานเปิดเลื่อนสไลด์ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่
ติดกันจัดเป็นมุมโต๊ะทำงาน ใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีน้ำเงินและสีทอง ด้านข้างบิวท์อินเป็นชั้นวางของ หรือจะปรับเปลี่ยนให้เป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้
พื้นที่ข้างเตียงฝั่งนี้สามารถใช้เป็นที่ยืนแต่งตัวได้อย่างสะดวกสบายเลยค่ะ
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง
ลำดับถัดไปเราออกมาดูห้องนอนรองที่อยู่ติดกันบ้างนะคะ
เมื่อเข้ามาภายในห้องมีความกว้างพอเหมาะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้ครบและลงตัว
ข้างเตียงฝั่งขวามีหน้าต่างบานใหญ่เป็นช่องรับแสง โดยเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง และบานฟิกซ์ สามารถถ่ายเทอากาศภายในห้องได้เป็นอย่างดี และรับแสงสว่างเข้ามาได้เยอะ ทำให้ห้องไม่มืดทึบ
โซนพักผ่อนเหมาะสำหรับวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุตได้กำลังดี
ฝั่งหัวเตียงห้องตัวอย่างที่ผนังตกแต่งด้วยกรอบรูป และกระจกเงา พร้อมบิวท์อินเป็นโต๊ะข้างหัวเตียงทางฝั่งขวา และตู้เสื้อผ้าทางฝั่งซ้าย
ฝั่งปลายเตียงหากต้องการติดตั้งทีวีในห้องนอนแนะนำให้แขวนไว้ที่ผนังจะสะดวกกว่า
ทางเดินปลายเตียงสามารถผ่านเข้า-ออกได้อย่างสะดวก ในบริเวณนี้หากต้องการบิวท์อินเป็นชั้นวางทีวีก็สามารถทำได้ แต่จะเหลือทางให้เดินค่อนข้างจำกัดหน่อยค่ะ
ติดกันสามารถจัดให้เป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง หรือบิวท์อินเป็นชั้นวางของก็ได้
มองย้อนกลับไปดูข้างเตียงทางฝั่งซ้ายกันบ้าง
ฝั่งนี้บิวท์อินเป็นตู้เสื้อผ้าทรงสูงขนาดกลางจรดเพดาน มีบานเปิดแบบเลื่อนสไลด์ พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ ที่พื้นปูด้วยพรมขนนุ่มสีเทาดำ
พื้นที่ข้างเตียงและหน้าตู้เสื้อผ้าใช้ยืนเป็นที่แต่งตัวได้แบบสบาย ๆ
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง
ออกมาดูที่ห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนรองกันบ้างนะคะ
บริเวณทางเข้าธรณีประตูยกสูงขึ้นมาจากพื้นเล็กน้อย ป้องกันน้ำไหลออกไปเปื้อนพื้นด้านนอก
เข้ามาภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันการใช้งานมาแบบครบครัน ฝาผนังใช้กระเบื้องเซรามิกสีขาว และสีน้ำตาลแบบมีลวดลาย ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องมาให้จนจรดเพดาน พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้แบบผิวด้านสีเทา แบ่งแยกเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียกชัดเจนด้วยฉากกั้นอาบน้ำ
ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ พร้อมพัดลมดูดอากาศ
ภายในห้องน้ำติดตั้งกระจกเงาบานใหญ่มาให้แบบเต็มพื้นที่ห้องทางฝั่งซ้าย ที่ผนังมีราวแขวนผ้าขนหนูให้ 1 จุด
ใช้อ่างล้างหน้าทรงสี่เหลี่ยมแบบลอยติดผนังของ Mogen คู่กับก๊อกน้ำจาก VRH หน้าอ่างมีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ หรือของตกแต่งได้อีก ด้านล่างอ่างมีช่องเก็บของมาให้ด้วยเช่นเดียวกัน
โถสุขภัณฑ์ใช้ของ Mogen แบบแยกชิ้นระบบ Dual Flush ระยะการใช้งานกำลังดี สะดวก ไม่แออัด ติดตั้งสายฉีดชำระสแตนเลสที่ฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวามีที่แขวนทิชชู่มาให้
มาต่อกันที่โซนอาบน้ำค่ะ โดยทางโครงการได้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย เป็นกระจกบานผลักมือจับราวสแตนเลส
บริเวณทางเข้ามีขอบธรณียกสูงขึ้นจากพื้นเล็กน้อย ป้องกันน้ำไหลออกไปเลอะส่วนอื่น ๆ ในห้องน้ำ
พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัวของ VRH ที่ผนังสามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น หรือชั้นวางของเพิ่มเติมเองได้เองในภายหลัง
ออกมาดูด้านนอกกันต่อเลยค่ะ
ในส่วนนี้จัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง ระยะการใช้งานสะดวกสบาย ผนังด้านข้างติดกับห้องน้ำกรุเป็นผนังกระจกเงาขนาดใหญ่กรอบสีทองหรูหรา ส่วนผนังฝั่งซ้ายเป็นลายหินอ่อน ด้านบนตกแต่งด้วยโคมไฟห้อยเพดานดีไซน์เก๋
บรรยากาศภาพรวมของมุมรับประทานอาหารค่ะ
จากมุมรับประทานอาหารต่อเนื่องไปเป็นห้องนั่งเล่น
โดยห้องนั่งเล่นใช้เป็นที่พักผ่อนหรือต้อนรับแขกจะอยู่ติดกับพื้นที่ระเบียงเลยค่ะ บริเวณนี้ได้รับแสงสว่างเข้ามาได้เยอะจากประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทางห้องตัวอย่างจัดวางเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ 1 ตัว มีที่วางแขน หมอนอิง เก้าอี้สตูล 1 ตัว พร้อมโต๊ะกลางขนาดกำลังดี
โดยชุดโซฟาจัดวางใกล้กลับมุมรับประทานอาหารเลยค่ะ แต่มีการแบ่งพื้นที่การใช้งานอย่างเป็นสัดส่วนชัดเจน พื้นที่การใช้งานกว้างกำลังดี จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้แบบลงตัว พื้นปูด้วยพรมขนนุ่มสีเทาขนาดใหญ่
ที่ผนังหลังชุดโซฟากรุเป็นผนังลายหินอ่อนสวยงาม
ฝั่งตรงข้ามกับโซฟาบิวท์อินเป็นชั้นวางทีวี พร้อมช่องเก็บของบานปิดเลื่อนสไลด์มาให้ สามารถวางของใช้ หรือของตกแต่งอื่น ๆ ได้อีกหลังวางทีวีแล้ว
ติดกันมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ เปิดออกไปยังพื้นที่ระเบียงด้านนอก มือจับประตูเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน
พื้นที่ระเบียงมีขนาดกว้างกำลังดี ธรณีประตูยกพื้นขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมวางรางประตูด้านบนอีกทีเพื่อกันฝุ่นและความชื้นจากระเบียง พื้นปูด้วยระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. ผิวด้านสีเทาอ่อน ราวกันตกเป็นระแนงเหล็กโปร่งทาสีดำเข้ม
ฝั่งขวามีโคมไฟกิ่งให้ 1 ดวง ด้านบนใช้เป็นที่แขวนคอมเพลสเซอร์แอร์
ส่วนฝั่งซ้ายมีก๊อกน้ำให้ 1 ตัว พร้อมท่อระบายน้ำที่พื้น
มุมมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้องค่ะ
สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (พฤษภาคม 2563)
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำและสุขภัณฑ์
งานไฟฟ้า
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
ราคา (พฤษภาคม 2563)
แบบห้อง 1 Bedroom Studio Superior :
– ขนาด 22.53 – 24.72 ตร.ม.
– ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท
แบบห้อง 1 Bedroom Deluxe :
– ขนาด 28.46 – 31.34 ตร.ม.
– ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
แบบห้อง 1 Bedroom Plus Suite :
– ขนาด 35.57 – 36.11 ตร.ม.
– ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท
แบบห้อง 1 Bedroom Studio Superior :
– ขนาด 40.66 ตร.ม.
– ราคา 3.64 ล้านบาท
แบบห้อง 2 Bedrooms Penthouse :
– ขนาด 48.53 ตร.ม.
– ราคา 4.14 ล้านบาท
ห้องขายแบบ Fully Furnished : สิ่งที่ได้จะมี Digital Door Lock, เครื่องปรับอากาศ, ชั้นวางทีวี, ตู้เก็บของ, โซฟา + โต๊ะกลาง, ชุดเคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน, เตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า, ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Mogen กับ VRH พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ และมีระบบ Home Automation
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ โครงการ Kensington พหลโยธิน 63 ตั้งอยู่ใน ซ.พหลโยธิน 63 ย่านชุมชนพักอาศัย ห่างจากปากซอยเข้ามาประมาณ 180 เมตร ในสุดเป็นซอยตัน แต่มีซอยย่อยเชื่อมไปยัง ซ.พหลโยธิน 65 และ 67 ได้ ทำเลค่อนข้างเงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน เข้า-ออกได้จากฝั่ง ถ.พหลโยธิน อย่างเดียว มีซอยย่อยเชื่อมไป ซ.พหลโยธิน 65 และ 67 ได้
ถ.พหลโยธิน เป็นเส้นที่เริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตัดผ่านห้าแยกลาดพร้าว, แยกรัชโยธิน, แยกเกษตร, วงเวียนหลักสี่ ผ่านสะพานใหม่ รังสิต และยาวไปออกอยุธยาได้เลย ใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก และแต่ละแยกที่เส้นพหลโยธินตัดผ่านจะมีถนนเชื่อมไปออกวิภาวีรังสิตได้
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ตัวโครงการตั้งอยู่ติด ซ.พหลโยธิน 63 ห่างจากปากซอย ถ.พหลโยธิน ประมาณ 180 เมตร ตัวเส้นพหลโยธินใช้วิ่งมุ่งหน้าเข้าเมืองไปผ่านวงเวียนหลักสี่ แยกเกษตร, แยกรัชโยธิน แยกนี้ตัดเข้า ถ.รัชดาภิเษก ไปโซนพระรามเก้า เชื่อมเข้าเพชรบุรี, อโศก และสุขุมวิทได้เลย หรือข้ามแยกรัชโยธินไปจะผ่านห้าแยกลาดพร้าวตัดกับ ถ.วิภาวดีรังสิต ผ่านจตุจักร, อารีย์ ยาวไปอนุสาวรีย์ได้เลย
หรืออีกเส้นจากวงเวียนหลักสี่วิ่งเข้าแจ้งวัฒนะไปเข้าวิภาวดีรังสิต จะไปผ่านห้าแยกลาดพร้าว ตรงไปดินแดงเข้าอนุสาวรีย์ชัยฯ ได้เช่นกัน หรือถ้าจะออกนอกเมือง เส้นพหลโยธินตรงเลยไปผ่านสะพานใหม่ยาวไปออกรังสิตได้ หรือเส้นวิภาวดีรังสิตวิ่งออกดอนเมือง และรังสิตได้อีกทาง
ตรงวงเวียนหลักสี่ตัดเข้ารามอินทราวิ่งออกมีนบุรีได้ เส้นงามวงศ์วานวิ่งไปแคราย, ติวานนท์, รัตนาธิเบศร์ ออกบางบัวทอง บางใหญ่ ทางด่วนที่อยู่ใกล้ดอนเมืองโทลล์เวย์, ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และทางด่วนศรีรัช
การเดินทางโดยรถสาธารณะ จุดเด่นของโครงการคืออยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคต และอยู่ห่างจาก BTS สถานีพหลโยธิน 59 ประมาณ 300 เมตร สามารถใช้เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลีได้อีกด้วย หรือถ้าไปลงตรงสถานีห้าแยกลาดพร้าว หรือบริเวณ CentralPlaza ลาดพร้าว จะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ทำให้เดินทางไปย่าน CBD สาทร ได้ง่าย และสะดวก
ส่วนใน ซ.พหลโยธิน 63 หน้าปากซอยมีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการ และบริเวณ ถ.พหลโยธิน มีทั้งรถแท็กซี่โบกเรียกได้ตลอด ป้ายรถเมล์ และมีรถตู้วิ่งผ่านหลายสายทั้งเข้า-ออกเมือง เดินทางไปรัชโยธิน, CentralPlaza ลาดพร้าว, จตุจักร, อนุสาวรีย์, สะพานใหม่, รังสิต, มีนบุรี, รามอินทรา และรามคำแหง
การออกแบบโครงการ : โครงการ Kensington พหลโยธิน 63 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร บนที่ดินขนาด 1 – 3 – 31 ไร่ อาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมเป็นตัว L ก่ออิฐทั้งหลัง มีอาคาร Facility แยก 2 ชั้น ตรงมุมอาคารพักอาศัย ตกแต่งมาในสไตล์รีสอร์ท เน้นความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่สีเขียวรอบโครงการ
ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 2-8 จอดรถได้ที่ชั้น 1 ทั้งใต้อาคาร และกลางแจ้ง รวมเบ็ดเสร็จที่จอดรถทั้งหมด 75 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) คิดเป็น 30% ของจำนวนยูนิตโครงการ ถือว่าค่อนข้างน้อยไปหน่อยสำหรับโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลเดินทางได้สะดวกแบบนี้
ส่วนแบบห้องมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ คือ คือ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 22.53 – 40.66 ตร.ม., 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 35.57 – 36.11 ตร.ม. และ 2 Bedrooms ขนาดพื้นที่ใช้สอย 48.53 ตร.ม.
วัสดุ : การออกแบบห้องพักอาศัยดูโปร่งไม่อึดอัด แบ่งพื้นที่มาเป็นสัดส่วน ฝ้าสูง 2.4 เมตร พื้นเป็นลามิเนตลายไม้สีอ่อนหนา 8 มม. ด้านบนติดไฟดาวน์ไลท์ ห้องน้ำกับระเบียงใช้กระเบื้องเซรามิกมีความทนทาน หน้าต่างบานใหญ่ ภายในห้องน้ำมีพัดลมระบายอากาศ และติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย แยกส่วนแห้งส่วนเปียกอย่างชัดเจน
ห้องพักขายแบบ Fully Furnished สิ่งที่ได้จะมี Digital Door Lock, เครื่องปรับอากาศ, ชั้นวางทีวี, ตู้เก็บของ, โซฟา + โต๊ะกลาง, ชุดเคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน, เตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า, ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำของ Mogen กับ VRH พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ และมีระบบ Home Automation
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย Facility จัดแยกอาคาร 2 ชั้น มี Lobby ฝ้าสูงถึงชั้น 2 มี Social Club, Library Room, Co-working Space, Private Meeting Room, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 15 x 5.5 เมตร ความลึก 1.2 เมตร พร้อมพื้นที่พักผ่อนข้างสระ, ฟิตเนส และรอบ ๆ โครงการมีสวนหย่อมตกแต่ง ลิฟต์โดยสารมีให้ 2 ตัว มีระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง เสริมด้วยกล้อง CCTV และเข้าออกโครงการด้วยระบบ Access Card Control
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Call Center :
Website : https://www.origin.co.th/condominium/kensington-phaholyothin-63
Facebook : https://www.facebook.com/OriginPropertyGroup/
หากเพื่อน ๆ เห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น