EP.248 รีวิว คอนโด THE BASE สะพานใหม่ ติด BTS สายหยุด ราคาเริ่มต้นที่ 2.8 ล้านบาท

โพสโดย : pure | วันที่ : 20 October 2018
หมวดหมู่ : EP, Sansiri แสนสิริ, คอนโด, คอนโด Sansiri แสนสิริ, คอนโด กรุงเทพ, คอนโดติดรถไฟฟ้า BTS, คอนโดใกล้รถไฟฟ้า BTS, รีวิว คอนโด

EP.248 รีวิว คอนโด เดอะ เบส สะพานใหม่ THE BASE Saphanmai

Written by : Nin Yanin Phueksoongnoen

สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว CONDONAYOO ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมโครงการ THE BASE สะพานใหม่ คอนโดใหม่จาก Sansiri ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน เดินทางสะดวก อยู่ติด รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สายเหนือ) สถานีสายหยุด เพียง 30 เมตร ถึงทางขึ้นสถานี ใกล้ทางด่วนฉลองรัชเพียง 12 นาที และอยู่ใกล้ความอุดมสมบูรณ์ ทั้ง บิ๊กซี สะพานใหม่, เทสโก้ โลตัส หลักสี่, รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล, ตลาดยิ่งเจริญ และ วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน

เดอะ เบส สะพานใหม่ เป็นคอนโด Mid-Rise สูง 14 ชั้น 1 อาคาร และอาคารคลับเฮ้าส์สูง 2 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 820 ยูนิต บนเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ ออกแบบโครงการให้สะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ เรียบง่ายอย่างมีเสน่ห์ มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 24.00-55.75 ตร.ม. คาดว่าแล้วเสร็จไตรมาสที่ 3 ปี 2563

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ Lobby Lounge, Smart Locker, Mail Room, Atrium Area, Outdoor Garden, Panoramic Fitness, Multi-purpose Room, Steam, Infinity Edge Swimming Pool, Sunset Garden, Star Lounge, Clubhouse, Passenger Lift, Home Service Application, EV Charger, CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.8 ล้านบาท

ในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปชม ทำเล, รายละเอียดของโครงการ และห้องตัวอย่างกัน ไปชมกันเลยค่ะ


ชื่อโครงการ  เดอะ เบส สะพานใหม่ THE BASE Saphanmai
เจ้าของโครงการ  แสนสิริ / Sansiri
เนื้อที่ทั้งหมด  ประมาณ 4 ไร่
จำนวนตึก   1 อาคาร
จำนวนชั้น   14 ชั้น
จำนวนห้อง  820 ยูนิต
ลักษณะห้องและขนาดห้อง
  • 1 Bedroom (Ceiling 2.55) : 24.00-35.50 ตร.ม.
  • 2 Bedroom (Ceiling 2.55) : 48.25-55.25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom (High ceiling unit 4.55 m.) : 25.50-34.25 ตร.ม.
  • 2 Bedroom (High ceiling unit 4.55 m.) : 55.75 ตร.ม.
ที่จอดรถทั้งหมด  36% รวมจอดซ้อนคัน
จำนวนลิฟต์
  • 4 Passenger Lifts
  • 2 Service Lift
โซน  เขตบางเขน
ขนส่งสาธารณะ
  • รถไฟฟ้า BTS สถานีสายหยุด 30 เมตร
  • ถนนพหลโยธิน
  • ถนนเทพรักษ์
รถโดยสารที่ผ่าน  n/a
ที่ตั้ง  ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.
กำหนดการ  เปิดลงทะเบียน
ปีที่สร้างเสร็จ คาดว่าแล้วเสร็จไตรมาสที่ 3 ปี 2563
ราคา  เริ่มต้น 2.8 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม  ประมาณ 110,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน
  •  ค่าส่วนกลาง 58 บาท/ตร.ม./เดือน
  • เงินกองทุน 500 บาท/ตร.ม.
สถานที่สำคัญใกล้เคียง ห้างสรรพสินค้า

  • Big C สะพานใหม่ : 350 ม.
  • ตลาดยิ่งเจริญ : 850 ม.
  • Tesco Lotus หลักสี่ : 1.1 กม.
  • Central Plaza รามอินทรา : 2.3 กม.
  • The JAS รามอินทรา : 5.0 กม.
  • Neighbour Centre : 5.8 กม.
  • Ease Park รามอินทรา : 6.1 กม.
  • IT Square หลักสี่ : 6.2 กม.
  • Venice Di Iris : 6.4 กม.

สถานศึกษา

  • รร.ไทยนิยมสงเคราะห์ : 1.3 กม.
  • ม.นอร์ท กรุงเทพ : 2.1 กม.
  • SBAC : 2.2 กม.
  • ม.เกริก : 2.3 กม.
  • รร.จ่าอากาศดอนเมือง : 2.5 กม.
  • ม.ราชภัฏพระนคร : 2.8 กม.
  • รร.ฤทธิยะวรรณาลัย : 4.1 กม.
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม : 4.3 กม.
  • ม.เกษตรศาสตร์ : 6.7 กม.
  • รร.รัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน : 6.8 กม.
  • รร.นานาชาติ Harrow : 8.8 กม.

ศูนย์การแพทย์

  • รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล : 210 ม.
  • รพ.ภูมิพล : 2.8 กม.

ศาสนสถาน

  • วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร : 2.7 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ

  • ที่ทำการไปรษณีย์สะพานใหม่ : 150 ม.
  • กรมทหารขนส่งรักษาพระองค์ : 1.4 กม.
  • สน.บางเขน : 1.7 กม.
  • สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ : 6.7 กม.
  • สนามบินดอนเมือง : 8.1 กม.
  • กองพันสื่อสารทหารที่ 21 : 13.8 กม.
สิ่งอำนวยความสะดวก
  •  1st Floor : Lobby Lounge/Smart Locker/Mail Room/Clubhouse
  • 2nd Floor : Atrium Area
  • 6th Floor : Outdoor Garden
  • 14th Floor : Panoramic Fitness/Multi-purpose Room/Steam
  • Rooftop : Infinity Edge Swimming Pool (Sunrise Lagoon)/Sunset Garden/Star Lounge
  • Passenger Lift&Service Lift
  • Home Service Application
  • EV Charger
  • CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
จุดเด่นของโครงการ THE BASE สะพานใหม่ คอนโดใหม่จาก Sansiri บนทำเลศักยภาพย่านสะพานใหม่ เดินทางสะดวก ติดถนนพหลโยธิน และ รถไฟฟ้า BTS สถานีสายหยุด เริ่ม 2.8 ล้านบาท

:::: ที่ตั้งโครงการ ::::

ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.

พิกัด : 13.888194, 100.604389

THE BASE Saphanmai map

แผนที่จากทางโครงการ

ทำเลที่ตั้ง THE BASE สะพานใหม่ เป็นคอนโด Mid-Rise สูง 14 ชั้น หนึ่งในโครงการร่วมทุนระหว่าง BTS และ แสนสิริ ตัวโครงการจะอยู่ติดกับถนนพหลโยธินเลยค่ะ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวงเวียนหลักสี่ ทำให้สามารถเดินทางได้สะดวก ทำเลตรงนี้ยังถือว่าเป็นย่านที่อยู่อาศัยในเขตชานเมืองนะ พื้นที่ติดถนนจะเป็นอาคารพาณิชย์เรียงรายอยู่ตลอดทั้งเส้น ถัดเข้าไปในซอยก็จะเป็นบ้านเดี่ยว และหมู่บ้านจัดสรรดั้งเดิมของย่านนี้ ความหนาแน่นยังอยู่ในระดับปานกลางไม่ถึงกับแออัด แต่ก็มีความเจริญแบบก้าวกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็วใน 2 ปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากการพัฒนาของแนวรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่ตอนนี้ก็ได้เห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว โดยตัวโครงการจะอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสายหยุดเลยค่ะ เดินจากหน้าโครงการเพียง 30 เมตร ถึงทางขึ้นตัวสถานีเลย

สาธารณูปโภคหลักๆ ก็จะอยู่บน เส้นพหลโยธิน ซึ่งมีร้านค้าอาคารพาณิชย์หนาแน่นตลอดสาย เนื่องจากเป็นโซนตัวเมืองที่ใกล้สนามบินและมีโรงเรียนหลายแห่ง ทั้งรร.จ่าอากาศ, รร.ครูทหาร, รร.ฤทธิยะวรรณาลัย, รร.นายเรืออากาศ ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ทั้งหมด และใกล้ตลาดยิ่งเจริญ ออฟฟิศและสำนักงานมากมาย สาธารณูปโภคหลักๆ ก็จะรองรับผู้คนที่ทำงานและศึกษาต่อในละแวกนี้ค่ะ

รวมถึงใกล้ Big C สะพานใหม่, รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล และ Tesco Lotus หลักสี่ ซึ่งผู้คนก็จะมาจับจ่ายใช้สอยกัน ตอนนี้เส้นพหลโยธิน กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยมีกำหนดการคาดว่าจะแล้วเสร็จ พ.ศ. 2562 และเปิดให้บริการปี พ.ศ.2563 ทำให้ช่องทางเดินรถเหลือแคบลง แต่ปัจจุบันมีถนนเทพรักษ์ตัดใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมาจึงช่วยลดการจราจรติดขัดลงไปได้บ้างค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ สำหรับย่านนี้จะสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวได้อย่างสะดวกสบาย เพราะสามารถใช้ทั้งถนนพหลโยธิน และ ถนนวิภาวดี-รังสิต วิ่งเข้าสู่ตัวเมืองได้ แต่การจราจรค่อนข้างจะคับคั่งทั้งในเวลาเช้าและเย็น เพราะบริเวณนี้จะใกล้กับสถานที่ราชการ และสถานศึกษาอยู่หลายแห่ง โดยถนนพหลโยธิน และถนนวิภาวดี-รังสิต เองก็เป็นถนนสายหลักที่รวมรถจากทุกสารทิศมาเพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองอยู่แล้ว

นอกจากนี้ ตัวโครงการยังอยู่ไม่ไกลจาก ถนนเทพารักษ์ จึงได้รับอิทธิพลจากการขยายตัวของถนนเส้นนี้ไปเต็มๆ ซึ่งคาดว่าจะเจริญขึ้นอีกมากแน่นอน เพราะปัจจุบันที่เป็นถนนที่เชื่อมต่อกับถนนวัชรพล และถนนสุขาภิบาล 5 รวมถึงทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ สามารถวิ่งไปเอกมัยได้ ในอนาคตจะมีตัดขยายถนนเส้นนี้ออกไปอีกทั้งสองฝั่งค่ะ คือจากถนนพหลโยธินเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี-รังสิต ระดับถนนสุขาภิบาล 5 ยิงยาวไปเชื่อมกับถนนหทัยราษฎร์และถนนนิมิตใหม่ ในอนาคตก็จะเป็นถนนทางเลือกอีกเส้นทางหนึ่งที่จะช่วยลดการจราจรติดขัดบริเวณถนนรามอินทราเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นถนนที่วิ่งขนานกับเส้นรามอินทราและสายไหมพอดีเลยด้วย และอาจจะช่วยขยายความเจริญจากย่านดอนเมือง-สะพานใหม่ ไปสู่ย่านหทัยราษฏร์ นิมิตใหม่ด้วยเช่นกัน

ทางด่วน จากโครงการสามารถใช้ทางพิเศษอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลเวย์) เพื่อเข้า-ออกเมืองกทม. ได้สะดวก ขาออก แนะนำให้กลับรถ และเลี้ยวซ้ายบริเวณแยก คปอ. ออกสู่ ถนนวิภาวดี-รังสิต

ส่วน ขาเข้าเมือง ให้วิ่งไปที่วงเวียนหลักสี่ ออกแจ้งวัฒนะ และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต ก็สามารถใช้ทางโทลเวย์ เพื่อมุ่งหน้าสู่ดินแดง-พระราม9-ดาวคะนอง ได้ค่ะ

นอกจากนี้ก็ยังอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นทางพิเศษฉลองรัช แนะนำให้วิ่งไปที่วงเวียนหลักสี่ ออกถนนรามอินทรา แล้วเลี้ยวซ้ายวนขึ้นทางยกระดับมาลงที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม (จะได้ไม่ต้องไปกลับรถไกลค่ะ) จากตรงนี้เราสามารถไปยัง พระราม 9-เอกมัย ได้สะดวกเลย

ความอุดมสมบูรณ์ โครงการอยู่ในทำเลที่สาธารณูปโภคที่ครบครันมากๆ ทั้งในระยะเดิน และระยะขับรถ บริเวณโครงการมีร้านค้าอาคารพาณิชย์มากมาย มีร้านขายของชำ และร้านอาหารอื่นๆ ไม่ไกลจากตลาดยิ่งเจริญ  หากต้องการซื้ออาหารสดและอาหารแห้งก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันค่ะ Big C สะพานใหม่ก็อยู่ห่างออกไปแค่ 350 เมตรเท่านั้น ส่วนระยะขับรถ บนถนนพหลโยธินก็จะมี Tesco Lotus หลักสี่ ซึ่งอยู่ไม่ไกลเช่นกัน

หากวิ่งออกถนนรามอินทรา เส้นนี้ไม่ต้องพูดถึงค่ะมีห้างสรรพสินค้าทำดั้งเดิมแล้วเปิดใหม่หลายห้างมากๆ เลยตลอดเส้น ที่ใกล้ๆ ก็ Central รามอินทรา, The JAS รามอินทรา, IT Square หลักสี่, Ease Park รามอินทรา หรือจะวิ่งไป The Avenue แจ้งวัฒนะก็ได้เช่นกันค่ะ ทั้งหมดที่อร่อยมานี้อยู่ในรัศมีห่างจากโครงการไม่เกิน 6 กิโลเมตร เท่านั้น

แต่ถ้าเลยไปไกลอีกหน่อยประมาณรามอินทราช่วง กม. ที่ 8 ก็จะมีห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ซึ่งจะเชื่อมอยู่กับห้างเดอะ พรอมานาด ซึ่งเป็นห้างขนาดใหญ่ สามารถไปเดินเล่น ดูหนัง ช้อปปิ้งกันได้อย่างจุใจเลย

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ การเดินทางโดยรถประจำทางจากโครงการก็ค่อนข้างสะดวกสบายค่ะ เพราะตัวโครงการอยู่ติดกับถนนพหลโยธิน ซึ่งมีรถประจำทาง, รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ วิ่งผ่านกันอยู่ตลอดทั้งวัน รถเมล์สายที่ผ่าน มีสาย 34, 39, 114, 356, 188, 185, 503, 522, 543 ส่วนรถตู้สามารถไปขึ้นได้ที่วินสนามบินดอนเมืองค่ะ

ที่มากไปกว่านั้นก็คือ ตัวโครงการจะอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) ที่ สถานีสายหยุดเลยค่ะ ซึ่งจากหน้าโครงการสามารถเดินไปถึงทางขึ้นสถานีเพียงแค่ 30 เมตรเท่านั้นเอง สะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

ซึ่งในอนาคตจะสามารถนั่งไปเปลี่ยนรถได้ที่ รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงเวียนหลักสี่ รวมถึงหากถนนเทพรักษ์แห่งนี้ ได้ขยายเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี-รังสิตเรียบร้อยแล้ว ในอนาคตก็จะสามารถ นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปต่อรถได้ที่ รถไฟฟ้าสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) สถานีการเคหะ โดยรถไฟฟ้าสายนี้กำลังก่อสร้างอยู่ปัจจุบัน คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการไม่เกินปี 2563 ค่ะ อีกทั้งถนนวิภาวดีรังสิตยังมีโครงการที่จะขยาย Airport Rail Link เชื่อมต่อ สนามบินดอนเมือง กับ สนามบินสุวรรณภูมิ อีกด้วย


:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::

วันนี้ทางทีมงาน Condonayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก

ทางยกระดับอุตราภิมุข(ดอนเมืองโทลเวย์) ถ.แจ้งวัฒนะ > วงเวียนหลักสี่ > ถ.พหลโยธิน > ซ.พหลโยธิน 52 >  THE BASE สะพานใหม่

การเดินทางวันนี้เริ่มต้นจาก ทางยกระดับอุตราภิมุข จ่ายค่าผ่านทางที่ ด่านดินแดง 1 แล้วตรงยาวออกป้าย ศูนย์ราชการ เพื่อออกสู่ถนนแจ้งวัฒนะ และกลับรถเข้ารามอินทราค่ะ

เจอป้าย ศูนย์ราชการ-ปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะ ให้ชิดซ้ายเพื่อออกสู่ถนนแจ้งวัฒนะ

เลี้ยวซ้ายไปตามทางเลยค่ะ เห็น IT Square ด้านหน้า

วิ่งตรงสู่ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อเจอไปรษณีย์หลักสี่อยู่ด้านซ้าย ให้กลับรถบริเวณก่อนถึงไปรษณีย์ค่ะ ชิดขวาไว้เลย

กลับรถมาแล้วก็จะเจอป้ายวิ่งตรงมุ่งหน้าสู่ถนนรามอินทรา ให้ขึ้นสะพานข้ามแยกไปค่ะ

ชิดซ้ายและตรงไปตามป้ายสะพานใหม่-ลาดพร้าวเลย

ชิดซ้ายเข้าข้างสะพานข้ามแยกรามอินทรา หรือวงเวียนหลักสี่นั่นเอง

จากข้างสะพาน เลี้ยวซ้าย ตามป้ายสะพานใหม่ ออกสู่ถนนพหลโยธิน

ตอนนี้เราอยู่ที่ถนนพหลโยธินแล้วค่ะ จากวงเวียนหลักสี่วิ่งไปอีก 4.1 กม. จะถึงโครงการ ขวามือ ผ่านโลตัสหลักสี่

ถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสะพานใหม่-คูคต ค่ะ ซึ่งจะวางโครงสร้างเสาบริเวณเกาะกลาง จึงมีการกั้นเกาะกลางตลอดเส้นทางทำให้ช่องทางเดินรถแคบลงและการจราจรติดขัด โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วนค่ะ

ขับมาเรื่อยๆ จะเจอBig C สะพานใหม่ และ รพ.เซนทรัลเยนเนอรัลอยู่ด้านขวามือ ซึ่งระหว่าง Big C และ รพ.เซนทรัลเยนเนอรัล เป็นทางแยกสู่ถนนเทพรักษ์ ตรงนี้ให้เราเตรียมชิดขวาเพื่อกลับรถ

ชิดขวาแล้วกลับรถเลยค่ะ จุดกลับรถจะอยู่ระหว่าง Big C และ รพ.เซนทรัลเยนเนอรัล ที่เป็นทางแยกสู่ถนนเทพรักษ์

พอเรากลับรถแล้วก็จะเห็น รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัลอยู่ทางด้านซ้ายมือ ให้เราขับตรงไปอีก 200 เมตร

ตัวโครงการจะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของเราค่ะ


สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ

  • ถ.เทพรักษ์ : 300 เมตร
  • วงเวียนหลักสี่ : 1.6 กม.
  • แยกพลาธิการ ทอ : 1.7 กม.
  • ถ.รามอินทรา : 1.9 กม.
  • ถ.แจ้งวัฒนะ : 2.0 กม.
  • ถ.วิภาวดี-รังสิต : 3.8 กม.
  • แยก คปอ. : 5.1 กม.

สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ

ห้างสรรพสินค้า

  • Big C สะพานใหม่ : 350 ม.
  • ตลาดยิ่งเจริญ : 850 ม.
  • Tesco Lotus หลักสี่ : 1.1 กม.
  • Central Plaza รามอินทรา : 2.3 กม.
  • The JAS รามอินทรา : 5.0 กม.
  • Neighbour Centre : 5.8 กม.
  • Ease Park รามอินทรา : 6.1 กม.
  • IT Square หลักสี่ : 6.2 กม.
  • Venice Di Iris : 6.4 กม.

สถานศึกษา

  • รร.ไทยนิยมสงเคราะห์ : 1.3 กม.
  • ม.นอร์ท กรุงเทพ : 2.1 กม.
  • SBAC : 2.2 กม.
  • ม.เกริก : 2.3 กม.
  • รร.จ่าอากาศดอนเมือง : 2.5 กม.
  • ม.ราชภัฏพระนคร : 2.8 กม.
  • รร.ฤทธิยะวรรณาลัย : 4.1 กม.
  • มหาวิทยาลัยศรีปทุม : 4.3 กม.
  • ม.เกษตรศาสตร์ : 6.7 กม.
  • รร.รัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน : 6.8 กม.
  • รร.นานาชาติ Harrow : 8.8 กม.

ศูนย์การแพทย์

  • รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล : 210 ม.
  • รพ.ภูมิพล : 2.8 กม.

ศาสนสถาน

  • วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร : 2.7 กม.

สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ

  • ที่ทำการไปรษณีย์สะพานใหม่ : 150 ม.
  • กรมทหารขนส่งรักษาพระองค์ : 1.4 กม.
  • สน.บางเขน : 1.7 กม.
  • สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ : 6.7 กม.
  • สนามบินดอนเมือง : 8.1 กม.
  • กองพันสื่อสารทหารที่ 21 : 13.8 กม.

:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::

ตัวโครงการจะอยู่ติดกับถนนพหลโยธิน หน้าสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียวสายหยุดพอดี โดยรอบโครงการส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยในแนวราบ, อาคารพาณิชย์, ธนาคาร, ร้านค้า, ร้านอาหาร บริเวณใกล้เคียงมีคอนโดขึ้นอยู่บ้าง แต่ยังมีอยู่ไม่กี่เจ้าค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ อาคารชุดพักอาศัย สูง 5 ชั้น
  • ทิศใต้ ติดกับ ปั๊มน้ำมัน ปตท.
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ซอยพหลโยธิน 48 แยก 1
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนพหลโยธิน และรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีสายหยุด

ตอนนี้เราอยู่ที่บริเวณหน้าที่ตั้งโครงการกันแล้วนะคะ ปัจจุบันสำนักงานขายสร้างเสร็จและได้เปิดให้ชมห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ

เดี๋ยวเรามาเดินสำรวจทำเลโดยรอบโครงการกันเลยค่ะ จะได้เห็นว่ามีอะไรอยู่แถวนี้บ้าง ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการเป็นอาคารพาณิชย์ เรียงกันเป็นแนวตลอดเส้นพหลโยธิน ที่ฝั่งขวามือเราจะเห็นธนาคารกรุงไทยด้วยนะ

หน้าทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับ รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีสายหยุดพอดีเลยค่ะ ตอนนี้ก็มีตัวสถานีขึ้นมาให้เห็นกันแล้ว

หันไปทางขวามือ มุ่งหน้าไปทางสะพานใหม่ เดี๋ยวเราจะเดินไปสำรวจเส้นทางฝั่งนี้กันก่อนนะ

ติดกับตัวโครงการเป็นอาคารชุดพักอาศัยสูง 5 ชั้นค่ะ

จากหน้าโครงการ เราเดินมาไม่ถึง 30 เมตร ก็จะถึงทางขึ้นสถานีสายหยุดแล้วค่ะ สะดวกสบายและใกล้สุดๆ

เดินไปไม่ไกลจากตัวโครงการจะมีไปรษณีย์ สาขาสะพานใหม่

ตลอดแนวเส้นพหลโยธินเป็นอาคารพาณิชย์ค่ะ ชั้นล่างเปิดเป็นร้านค้าและร้านอาหาร อย่างตรงนี้ก็มีร้านขายก๋วยเตี๋ยว, เกี๊ยวปลา, เกาเหลาเลือดหมู, ข้าวขาหมู และก๋วยจั๊บค่ะ

ไม่ไกลกันมีร้านขายข้าวแกงปักษ์ใต้ มีขนมไทยอย่างพวกลอดช่องน้ำกะทิขายอยู่ด้านหน้าร้านด้วย

เราเดินเลยอาคารพาณิชย์ช่วงนึงไปจะถึง รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัลแล้วค่ะ ใกล้กับตัวโครงการมากๆ เดินมาก็สะดวก เจ็บไข้ได้ป่วยไม่ต้องกังวลเลย เพราะอยู่ใกล้โรงพยาบาลขนาดนี้

ถ้าเราเดินข้ามถนนเทพารักษ์ไปอีกฝั่งก็จะถึง Big C สะพานใหม่แล้วค่ะ

จากตัวโครงการเดินมาถึง Big C สะพานใหม่ ก็มีระยะเดินแค่เพียง 350 เมตรเท่านั้น

นอกจากจะเป็นแหล่งช้อปปิ้ง สามารถมาซื้ออาหารแห้ง-อาหารสดได้แล้ว ที่ด้านหน้า Big C ยังเปิดเป็นซุ้มขายอาหารสำเร็จ, ผลไม้ และขายเสื้อผ้าแฟชั่น ในราคาย่อมเยาอีกด้วย

เรากลับมาที่หน้าโครงการ เราจะเดินมุ่งหน้าไปทางวงเวียนหลักสี่กันต่อ

ติดกับตัวโครงการเป็นปั๊ม ปตท.ค่ะ

ภายในปั๊มก็จะมีทั้ง 7-Eleven และ Cafe Amazon เรียกว่าอยู่ใกล้กับตัวโครงการที่สุดแล้ว

ติดกับปั๊มน้ำมันก็คือ คอนโด Knightsbridge Sky City สูง 15 ชั้นค่ะ

ใกล้ๆ กันก็จะมีโชว์รูมนิสสัน ติดกับโชว์รูมฮอนด้าเลย

มีศูนย์ทันตกรรมอยู่ใกล้ๆ อีกด้วยนะ

และที่ฝั่งตรงข้ามก็มีคลีนิกเฉพาะทางสำหรับตาค่ะ

ทางฝั่งนี้ก็มีร้านค้าและร้านอาหารเปิดอยู่หลายร้านเลยด้วย อยู่ตรงนี้สบายๆ ของกินเพียบ

เดินไปไม่ไกลจากตัวโครงการนัก จะมีสะพานลอยสามารถใช้เดินข้ามฟากได้อย่างปลอดภัยค่ะ

กลับมาที่สำนักงานขาย เราจะเข้าไปดูภายในด้วยกันเลย

บรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ ภายในสำนักงานขายแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประจำอยู่และคอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวโครงการ เราสามารถขอเข้าชมห้องตัวอย่างที่อยู่ทางด้านหลังได้เลย

ภายในสำนักงานขายจะมีโมเดลของโครงการตั้งโชว์เอาไว้ เพื่อให้เราได้เห็นภาพรวมของโครงการกันค่ะ


:::: ตัวโครงการ ::::

 THE BASE สะพานใหม่ เป็นคอนโด Mid Rise สูง 14 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 4 ไร่ มีจำนวน 1 อาคาร และอาคารคลับเฮ้าส์สูง 2 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 820 ยูนิต ออกแบบโครงการให้สะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ เรียบง่ายอย่างมีเสน่ห์ ผนวกกับการสร้างความย้อนแย้ง “Irony” ที่ทำเลล้อมรอบด้วยศูนย์ราชการที่มีความเป็นระเบียบดูเรียบขรึม จึงออกแบบให้รูปลักษณ์อาคารดูอ่อนช้อยด้วยเส้นโค้งสร้างสีสันให้ในทำเลนี้ มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 24.00 – 55.75 ตร.ม. มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครัน ทั้ง Lobby Lounge, Smart Locker, Mail Room, Sunlight Atrium Area สูง 5 ชั้น, Outdoor Garden ที่ชั้น 6, Panoramic Fitness, Multi-purpose Room, Steam, Swimming Pool ยาวถึง 34 เมตร, Sunset Garden, Star Lounge, Clubhouse สูง 2 ชั้น, Passenger Lift ระบบล็อคชั้น, Home Service Application, EV Charger, ที่จอดรถรวม 36%, CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. โดยชั้นที่ 2 – 6 จะเป็นส่วนของ Atrium ส่วนตั้งแต่ชั้นที่ 7 ขึ้นไปจะแยกออกเป็น 2  Tower ค่ะ

ผังโครงการ(ชั้น 1): ตัวโครงการจะสามารถเข้า – ออกได้ทางเดียวจากทางถนนพหลโยธิน ผ่านซุ้มโครงการและระบบรักษาความปลอดภัย ทั้งป้อมรปภ., ระบบ Key Card Access, รั้วไม้กระดก และกล้อง CCTV ไปที่จุด Drop-off เพื่อส่งลูกบ้านเข้าสู่ตัวอาคารหรือขับวนเข้าสู่ลานจอดรถด้านหลัง ที่ชั้น 1 ของอาคารจะเป็นลานจอดรถใต้อาคารทั้งหมด คิดเป็น 36% รวมการจอดแบบซ้อนคัน (รวมชั้นจอดรถใต้ดินอีก 2 ชั้น)

และเป็นส่วนของ Double Volume Lobby Lounge , นิติบุคคล, Smart Locker รองรับไลฟ์สไตล์ของลูกบ้านที่กลับบ้านดึกหลังเวลาทำการของฝ่ายนิติบุคคล เช่นการรับพัสดุ โดยสามารถใช้ Application ในการติดต่อกับฝ่ายนิติฯ ให้มาฝากของไว้ใน Smart Locker ได้, Mail Room และเข้าสู่โถงลิฟท์ด้วยระบบ Access Card เราจะเห็นว่าทางโครงการแบ่งโถงลิฟท์ออกเป็น 2 จุด อยู่เยื้องๆ กันเพื่อกระจายการใช้งานของคนภายในอาคารไม่ให้หนาแน่นจนเกินไป โดยจะมีจุดละ 3 ตัว รวมเป็น 6 ตัว แบ่งเป็นลิฟท์โดยสาร 4 ตัว และลิฟท์บริการอีก 2 ตัว คิดเป็นจำนวนยูนิตพักอาศัยต่อลิฟท์อยู่ที่ 205 : 1 ถือว่าหนาแน่นไปค่ะอาจต้องรอลิฟท์นานหน่อยในเวลา Rush Hour

ส่วนบริเวณด้านหน้าโครงการฝั่งขวาจะมีอาคาร Clubhouse สูง 2 ชั้น เป็นพื้นที่ Free Wi-fi สำหรับนั่งเล่น, พักคอย, นั่งทำงาน หรือใช้เป็นจุดนัดพบได้ค่ะ นอกจากนี้บริเวณด้านหลังตัวโครงการจะมีพื้นที่สีเขียวสำหรับเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ และยังเป็นพื้นที่ห้องสมุดแบบ Outdoor ด้วย

ชั้น 2 : ตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไปจะเป็น Residential Zone ทั้งหมด จากส่วน Lobby Lounge จะมีบันไดวนเชื่อมสู่ Sunlight Atrium Area (การเข้า – ออกส่วน Atrium ลูกบ้านจะต้องใช้ Key Card ค่ะ) จะเป็นพื้นที่ Court เปิดโล่งตรงกลางที่สูงถึงชั้น 6 บริเวณหลังคาใช้วัสดุโปร่งแสงรับเอาแสงธรรมชาติเข้ามาภายในอาคาร จัดเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของลูกบ้านโดยจัดสวนและลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้เพื่อสร้างความร่นรื่นและทัศนียภาพที่สวยงาม ล้อมรอบด้วยผนังกระจกที่มีการปรับอาศาสะท้อนเห็นต้นไม้ได้ในทุกๆ จุด และราวกันตกสูงเพื่อบัง Corridor ของห้องพักเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านชั้น 2 ด้วย ซึ่งการจัดผังอาคารแบบนี้จะทำให้ลูกบ้านได้รับความเป็นส่วนตัวมากๆ เพราะได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor เปิดประตูห้องออกไปไม่ไปจ๊ะเอ๋กับห้องอื่นๆ เลยค่ะ

ห้องพักส่วนใหญ่จะวางหันเยื้องๆ ทิศตะวันออก – ตกซึ่งเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด ส่วนห้องมุมตึกที่หันเยื้องๆ ทิศเหนือ – ใต้ จะเป็นห้องแบบ 2 Bedroom ค่ะ รวมจำนวนห้องพักที่ชั้นนี้ทั้งหมดเป็น 58 ยูนิต/ชั้น

ชั้น 3 – 5 : ตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไปถึงชั้น 6 จะมีพื้นที่ Void เปิดโล่งอยู่ตรงกลาง ทำให้สามารถวางห้องพักได้แบบ Single Corridor ในส่วนของชั้นนี้มีการวางผังไม่แตกต่างจากชั้น 2 เลยค่ะ แต่พื้นที่ Lobby จะถูกเติมเป็นห้องพักอาศัยเพิ่มอีก 10 ห้อง รวมเป็น 68 ยูนิต/ชั้น

ชั้น 6 : มีการวางผังไม่ต่างจากชั้น 3 – 5 ค่ะ แต่พื้นที่ Void ส่วนหนึ่งถูกเติมด้วยห้องพักที่เซ็ทเข้ามา ได้พื้นที่สวน Outdoor ข้างนอกแทน รวมจำนวนห้องพักอาศัยเป็น 66 ยูนิต/ชั้น

ชั้น 7 : ห้องพักทั้งหมดถูกดันเข้ามาแทนที่ Void กลางอาคาร จะเห็นว่าตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไปตัวอาคารจะถูกแบ่งออกเป็น 2 Tower เยื้องกันค่ะ (ไม่สามารถเดินทะลุกันได้นะ) โถงลิฟท์จุดนึงจะเป็นของอาคารด้านหน้า อีกจุดเป็นของอาคารด้านหลัง โดยการวางผังอาคารแบบนี้มีข้อดีก็คือทำให้รู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้นเหมือนมีจำนวนห้องพักอาศัยลดลงครึ่งนึง ช่องเปิดระหว่าง 2 อาคารก็เป็นจุดที่สามารถรับ Fresh Air จากภายนอกเข้าสู่ตัวอาคารได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ชั้น 7 เป็นต้นไปจะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นอยู่ที่ 64 ยูนิตค่ะ

ชั้นที่ 8 : มีการวางผังเหมือนชั้นที่ 7 ทุกประการค่ะ ตรงกลางระหว่างทั้ง 2 Tower คือหลังคากระจกที่รับแสงธรรมชาติเข้าสู่ส่วน Atrium

ชั้นที่ 9 – 13 : ตั้งแต่ชั้นที่ 9 จะเห็นแปลนอาคารของทั้ง 2 Tower แยกออกจากกันอย่างชัดเจน

ชั้นที่ 14 : บนชั้นที่ 14 ทั้งหมดจะเป็นห้องพักแบบ Loft ฝ้าเพดานสูง 4.55 เมตรทั้งหมดค่ะ รวมทั้งหมด 29 ห้องด้วยกันทั้งแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom พื้นที่อาคารด้านหน้าส่วนนึงของชั้นนี้จะแบ่งเป็น Facilities ของโครงการประกอบด้วย Panoramic Fitness, Multi – purpose Room และห้องน้ำแยกชาย – หญิง มีห้อง Steam อยู่ด้านใน ระหว่าง 2 อาคารจะมีสะพานเชื่อมให้ลูกบ้านทั้ง 2 Tower สามารถมาใช้งานส่วนกลางได้ และมีสะพาน Spiral Bridge เพื่อเชื่อมสู่ชั้น Rooftop ได้ เป็นทางลาดที่รองรับการใช้งานได้ทุกเพศทุกวัยค่ะ

Rooftop : พื้นที่ชั้น Rooftop จะเป็นส่วน Facilities ทั้งหมดค่ะ แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่ง Tower ด้านหน้าคือสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ (Sunset Garden) ล้อมรอบด้วย Jogging Track แบ่งเป็นพื้นที่ Star Lounge สำหรับนั่งดูดาว ส่วนฝั่ง Tower หลังคือสระว่ายน้ำ (Sunrise Lagoon) แบบ Infinity Edge Pool ขนาดใหญ่ที่มีความยาวถึง 34 เมตรเลย ภายในสระแบ่งเป็นโซน Lap Pool สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้ และโซน Shallow Pool เป็นโซนน้ำตื้นที่เด็กสามารถเล่นได้และก็สามารถใช้นั่งแช่น้ำได้ในตัวค่ะ

คราวนี้เรามาดูโมเดลของโครงการกันบ้าง จะได้เห็นภาพรวมของตัวอาคารได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นค่ะ

เริ่มจากฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดกับสถานีรถไฟฟ้าสถานีสายหยุด

ทิศเหนือติดกับอาคารพักอาศัยทหารสูง 5 ชั้น

จาก Main Entrance ตรงเข้ามาภายในโครงการผ่านป้อมยามเป็น Security จุดแรก ไปส่งลูกบ้านที่ Drop-off แล้ววนออกทางเดิมหรือขับตรงเข้าไปด้านในอาคารเพื่อเข้าสู่ลานจอดรถค่ะ จาก Main Entrance เข้ามาทางฝั่งขวามือจะมีสวนหน้าบ้านเชื่อมสู่อาคาร Clubhouse

ทิศตะวันออกด้านหลังโครงการติดกับชุมชนที่อยู่อาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น

พื้นที่ด้านหลังโครงการจะมีสวนหย่อมอีกจุดนึงค่ะรวมถึงห้องสมุดแบบ Outdoor ด้วย

ทิศตะวันตก ติดกับ สถานีบริการน้ำมัน ปตท.

ที่ฝั่งนี้บริเวณชั้น 6 จะสามารถเชื่อมกับส่วน Outdoor Garden ได้

จากนั้นขึ้นไปที่ชั้น 14 จะมีสะพาน Spiral Bridge ที่สามารถเชื่อมสู่ Facilities ของชั้น 14 และชั้น Rooftop ของทั้ง 2 อาคารได้

อาคารฝั่งด้านหน้าชั้นที่ 14 จะเป็นส่วนของ Panoramic Fitness และ Multi-purpose Room ฝ้าเพดานสูง 4.55 เมตร ส่วนชั้น Rooftop เป็นส่วน Sunset Garden

และอาคารด้านหลังเป็นส่วน Sunrise Lagoon ยาว 34 เมตรค่ะ

คราวนี้เรามาชมภาพบรรยากาศจำลองของโครงการกันต่อค่ะ และนี่ก็คือภาพรวมโครงการ THE BASE สะพานใหม่ช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ดีไซน์ดูโมเดิร์นและอ่อนช้อยเป็นเอกลักษณ์ด้วยเส้นโค้ง

ภาพรวมโครงการ THE BASE สะพานใหม่ในมุมสูงตอนกลางคืน

ภาพจำลองบรรยากาศ Double Volume Lobby ภายในตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน และพื้นบางส่วนตกแต่งด้วยพรมลายหินอ่อนที่ชูความย้อนแย้งหรือ “Irony” แบบ Unpredictable ผสานความอ่อนนุ่มของพรมเข้ากับลายของหินอ่อนของหินที่มีความแข็งแกร่ง อีกทั้งตกแต่งต้นไม้บนผนังและฝ้าเพดาน จาก Lobby จะมีบันไดวนขึ้นสู่ชั้น 2 ส่วน Sunlight Atrium

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Sunlight Atrium เป็นพื้นที่ Court เปิดโล่งที่สูงถึงชั้น 6 บริเวณหลังคาใช้วัสดุโปร่งแสงรับเอาแสงธรรมชาติเข้ามาภายในอาคาร จัดเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของลูกบ้านโดยจัดสวนและลงต้นไม้ใหญ่เอาไว้เพื่อสร้างความร่นรื่นและทัศนียภาพที่สวยงาม ล้อมรอบด้วยผนังกระจกที่มีการปรับอาศาสะท้อนเห็นต้นไม้ได้ในทุกๆ จุด และราวกันตกสูงเพื่อบัง Corridor ของห้องพักเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านชั้น 2

ภาพจำลองบรรยากาศ Panoramic Fitness ภายในตกแต่งฝ้าและ Lighting ทำให้ดูล้ำสมัย และใช้กระจกเงาในการดึงวิวเมืองจากภายนอกอาคารเข้ามาสู่ด้านในอาคารด้วย

ภาพบรรยากาศจำลองส่วน Multi-purpose Area ที่เชื่อมต่อจากส่วน Panoramic Fitness เป็นพื้นที่ Free Wi-fi จัดพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนและมีเคาน์เตอร์สำหรับเครื่องดื่ม

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Changing Room ฝั่งชาย ตกแต่งพื้นและผนังด้วยหินขัด Terrazzo ส่วนฝ้าเพดานทาสีน้ำเงินเรียบ

ภาพจำลองบรรยากาศภายใน Changing Room ฝั่งหญิง ตกแต่งพื้นและผนังด้วยหินขัด Terrazzo ส่วนฝ้าเพดานทาสีเหลืองเรียบ

ภาพจำลองบรรยากาศส่วน Sunrise Lagoon เป็นพื้นที่สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ แบ่งเป็นส่วน Pool Deck, Shallow Pool และ Lap Pool ที่ยาวถึง 34 เมตร ล้อมรอบด้วย Landscape ที่เขียวชะอุ่มสบายตาและมีวิวเมืองเป็นฉากหลัง

ภาพจำลองบรรยากาศส่วน Sunrise Lagoon แบบ Infinity Edge ในตอนกลางคืนสระจะเปิดไฟ LED ย้อมเป็นสีชมพูเข้ากับสี  Facade ของตัวอาคาร

ภาพจำลองบรรยากาศส่วน Sunset Garden มี Jogging Track สามารถวิ่งออกกำลังกายได้โดยรอบ, พื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน, Educational Playground ที่โครงการออกแบบร่วมกับ รพ.สมิติเวช ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กๆ และ Star Lounge สำหรับนั่งดูดาว

ภาพจำลองบรรยากาศห้องพักแบบ Loft ยูนิตพิเศษ เพดานสูง 4.55 เมตรเฉพาะที่ชั้น 14 มีเพียง 29 ยูนิตเท่านั้น

และที่สำนักงานขายในปัจจุบันก็คือคลับเฮ้าส์ของทางโครงการนั่นเอง โดยพื้นที่ของคลับเฮ้าส์จะเริ่มต้นตั้งแต่พื้นกระเบื้องลายไม้ด้านในเข้าไป ส่วนพื้นที่อาคารส่วนอื่นจะรื้อและทำเป็นสวนตามแปลนค่ะ

พื้นที่ภายในคลับเฮ้าส์จัดชุดโต๊ะเก้าอี้เอาไว้ให้ เป็นพื้นที่สำหรับการนัดพบ, นั่งเล่นพักผ่อน หรือใช้เป็นพื้นที่ Co-working Space เพื่อนั่งทำงานก็ได้ค่ะ

จากพื้นที่ด้านในคลับเฮ้าส์มองผ่านกระจกบานใหญ่ออกไปจะได้วิวสวนที่จัดบริเวณด้านหน้าโครงการ

ข้างๆ โถงบันไดจัดเป็นห้องน้ำแบบ Universal Toilet

จากชั้น 1 ก็จะมีลิฟท์ขึ้นไปยังชั้น 2 รองรับการใช้งานของคนทุกเพศทุกวัย

ชั้น 2 จัดเป็น Co-working Space รองรับการนั่งทำงานด้วย Free Wi-fi ซึ่งในอนาคตจะมีการจัดวางโต๊ะ – เก้าอี้สำหรับการนั่งทำงานเพิ่มเติมให้ค่ะ

ภาพจำลองบรรยากาศส่วน Co-Working Space ภายในอาคาร Clubhouse ภายในจัดให้มีโต๊ะทำงานหลากหลายรูปแบบทั้งการนั่งเป็นกลุ่มและนั่งเดี่ยว มองออกไปผ่านกระจกบานใหญ่ได้วิวสวนรอบๆ Clubhouse


:::: แบบห้องของโครงการ ::::

ห้องของโครงการจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom ทั้งหมดค่ะ มีอยู่ด้วยกัน 4 แบบหลักๆ คือ

  • 1 Bedroom (Ceiling 2.55) : 24.00-35.50 ตร.ม.
  • 2 Bedroom (Ceiling 2.55) : 48.25-55.25 ตร.ม.
  • 1 Bedroom (High ceiling unit 4.55 m.) : 25.50-34.25 ตร.ม.
  • 2 Bedroom (High ceiling unit 4.55 m.) : 55.75 ตร.ม.

โดยโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ พร้อมเครื่องปรับอากาศ แบบ Wall Type รวมถึงระบบ Home Automation, เครื่อง Command Voice รองรับเสียงภาษาอังกฤษ และผ้าม่าน (เฉพาะห้องฝั่งทิศตะวันตก) เราไปดูผังห้องด้วยกันเลยค่ะ

1 Bedroom (Ceiling 2.55) ขนาด 26.75 ตร.ม.

1 Bedroom (Ceiling 2.55) ขนาด 27.75 – 29.5 ตร.ม.

1 Bedroom (Ceiling 2.55) ขนาด 33.75 – 34.25 ตร.ม.

1 Bedroom (High ceiling unit 4.55 m.) ขนาด 28 – 28.5 ตร.ม.

1 Bedroom (High ceiling unit 4.55 m.) ขนาด 34.25 ตร.ม.

2 Bedroom (Ceiling 2.55) ขนาด 55.25 ตร.ม.


:::: ห้องตัวอย่าง ::::

วันนี้ทางทีมงาน CONDONAYOO จะพาไปชมห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Type 1CM ขนาด 27-75 – 29.5 ตร.ม. และ Type 1F ขนาด 33.75 – 34.25 ตร.ม. กันค่ะ โดยโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์มาครบ พร้อมเครื่องปรับอากาศ แบบ Wall Type รวมถึงระบบ Home Automation, เครื่อง Command Voice รองรับเสียงภาษาอังกฤษ และผ้าม่าน (เฉพาะห้องฝั่งทิศตะวันตก) เราไปดูผังห้องด้วยกันเลยค่ะ

::: แบบ 1 Bedroom Type 1CM ขนาด 27-75 – 29.5 ตร.ม. :::

ห้อง 1 Bedroom Type 1CM ขนาด 27-75 – 29.5 ตร.ม. ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ดีทำให้ห้องดูกว้างขวางพอสมควร มีการแบ่งโซนภายในห้องอย่างชัดเจนระหว่างโซนครัวและห้องนอน พอเข้ามาในห้องจะเจอห้องครัวก่อนซึ่งจะได้เป็นครัวแบบปิด กั้นส่วนจากห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ข้อดีก็คือช่วยให้กลิ่นจากการปรุงอาหารไม่คละคลุ้งไปทั่วห้อง โต๊ะรับประทานอาหารก็จะอยู่ภายในห้องครัวเป็นสัดเป็นส่วนเลย จากห้องครัวเข้าไปยังห้องนอน เป็นพื้นที่ห้องขนาดใหญ่ที่รวมพื้นที่นั่งเล่นเอาไว้ด้วยแล้ว และจากห้องนอนจะเชื่อมสู่ห้องน้ำและระเบียงค่ะ

ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 8 มม., ห้องครัวปูพื้นกระเบื้อง, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต+โต๊ะข้าง 1 ตัว, ตู้เสื้อผ้า Built-in, ชั้นวางทีวี+สตูล, Daybed+โต๊ะกาแฟ , ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ และ เครื่องปรับอากาศ 1 เครื่อง

มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้วค่ะ ประตูห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูปปิดผิวด้วยลามิเนต

พร้อมอุปกรณ์ Digital Door Lock จาก Yale มือจับแบบก้านโยก

เข้าไปในส่วนแรกจะเป็นห้องครัว ถ้าตรงเข้าไปด้านในผ่านประตูบานเลื่อนจะเป็นส่วนของห้องนอน ผนังภายในห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสี

ส่วนพื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. สลับสีขาว – ดำดูเก๋ จุดนี้เป็นข้อดีเพราะสามารถเช็คทำความสะอาดพวกละอองน้ำมันและคราบอาหารได้ง่ายกว่า

ฝ้าเพดานในห้องสูง 2.55 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED พร้อม Heat Detector, Smoke Detector และ Sprinkle ส่วนเครื่องปรับอากาศจะมีให้ 1 เครื่อง ติดเอาไว้ภายในห้องนอนอีก 1 ตัว

เราเข้าไปดูรายละเอียดภายในห้องครัวกันต่อเลยค่ะ ทางโครงการให้ชุดเคาน์เตอร์ครัวมา 1 ชุดโดยจะเว้นระยะเหลือเอาไว้ให้สำหรับวางตู้เย็นนะ

นี่คือหน้าตาเคาน์เตอร์ครัวแบบมาตรฐานที่เราจะได้มากับตัวห้องค่ะ ท็อปเคาน์เตอร์ใช้หินสังเคราะห์สีขาว พร้อม อ่างล้างจาน, เตาปรุงอาหาร และฮู้ดดูดควันของ MEX ใต้เคาน์เตอร์พอจะมีช่องให้เก็บของและวางไมโครเวฟกับเครื่องซักผ้าได้ ตัว Joint ของบานเปิดใช้แบบ Soft Closed

เตาปรุงอาหารแบบเตาเซรามิกขนาด 2 หัวพร้อมฮู้ดดูดควัน

อ่างล้างจานเป็นทรงสี่เหลี่ยมขนาดกำลังใช้งานได้สะดวกพร้อมก๊อกน้ำทรงสูง

นอกจากนี้ก็มีชั้นลอยสามารถเก็บของได้เพิ่มเติม

อีกด้านนึงทางโครงการให้โต๊ะรับประทานอาหารทรงสูงขนาด 2 ที่นั่งพร้อมกับเก้าอี้สตูลอีก 2 ตัว สามารถวางชิดผนังได้แบบนี้ค่ะ

ที่ผนังบางส่วนตรงโต๊ะรับประทานอาหารตกแต่งด้วยกระจกช่วยให้เวลาที่นั่งทานอาหารอยู่ไม่รู้สึกว่าอึดอัดหรือคับแคบ

จากห้องครัวจะกั้นส่วนจากห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม 3 ตอนติดกระจกมาให้แบบนี้

และมือจับประตูแบบเซาะร่องมาตรฐาน

พื้นที่ภายในห้องนอนนั้นจะจัดรวมกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นรวมกันเลย ทำให้ได้พื้นที่ห้องขนาดใหญ่ที่โปร่งโล่ง

พื้นห้องนอนปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม.ทั้งหมด เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย

ภายในห้องนอนเราจะได้ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุตไม่รวมฟูกและเครื่องนอนพร้อมกับโต๊ะข้างอีก 1 ตัวหน้าตาตามแบบมาตรฐานของโครงการ จะเห็นว่าพอวางเตียงนอนและโต๊ะข้างแล้วก็ยังเหลือพื้นที่โดยรอบเตียงที่กว้างขวางพอสมควร สามารถเดินผ่านได้สะดวกค่ะ

ส่วนฝั่งด้านขวาของเตียงเราจะได้ชุด Daybed มาด้วยอีก 1 ตัว เป็นส่วนที่สามารถใช้นั่งเล่นหรือรองรับเวลาเพื่อนมานอนค้างที่ห้องได้

Daybed ที่ได้จะเป็นรูปตัว L ค่ะหน้าตาตามแบบมาตรฐานของโครงการ

ส่วนที่ฝั่งปลายเตียงเราจะได้ชั้นวางทีวี+สตูล 1 ตัว พร้อมกับตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่

แต่หน้าตาของชั้นวางทีวีจะไม่ใช้แบบนี้นะคะ เราจะได้ตามแบบมาตรฐานของโครงการซึ่งเราสามารถใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะทำงานได้ในตัวเลย

ข้างๆ กันเราได้ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มา 1 ตัว แบบมาตรฐานของโครงการจะเป็นบานเปิดแบบทึบค่ะ

คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ ซึ่งจะอยู่ฝั่งซ้ายมือของเตียงนอน

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องชนิดผิวด้านกันลื่นขนาด 30 x 30 ซม. ที่ประตูทำธรณีขึ้นมากั้นส่วนให้เรียบร้อย

ส่วนผนังในห้องน้ำกรุด้วยกระเบื้องขนาด 20 x 30 ซม. และ 30 x 30 ซม.จากพื้นจรดฝ้า จัดวางอ่างล้างมือที่หน้าห้อง ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำ สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทางโครงการใช้ของ Cotto ทั้งหมดค่ะ

เนื่องจากห้องน้ำไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ จึงต้องพึ่งระบบระบายอากาศของตัวอาคารอย่างเดียวโดยมีพัดลมดูดอากาศติดมาให้

มาดูรายละเอียดของสุขภัณฑ์กันต่อค่ะ อ่างล้างมือเป็นอ่างแบบแขวนผนังมีขนาดกำลังดี ขอบอ่างสามารถวางพวกขวดสบู่และแปรงสีฟันได้บ้าง

และติดก๊อกน้ำขนาดกำลังถนัดมือ

กระจกเงาได้เป็นกระจกทรงกลม เปิดออกมาเป็นชั้นวางของด้านหลังทำให้สะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น

ส่วนโถสุขภัณฑ์เป็นแบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำได้ดี ติดตั้งมาพร้อมกับสายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระ

ด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำ ทางโครงการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเลื่อน 3 ตอนมาให้เรียบร้อย ข้างๆ ติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวมาให้ อยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวกค่ะ

มือจับประตูบานเลื่อนเป็นครีบแบบนี้

ภายในโซนอาบน้ำมีพื้นที่กว้างขวางกำลังดีได้มาตรฐาน

ที่ผนังด้านในติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนมาให้แบบนี้เลย หัวฝักบัวมีขนาดกำลังดีค่ะ ส่วนผนังด้านข้างก็เจาะช่องสำหรับวางพวกขวดสบู่แชมพูให้เรียบร้อย

นอกจากนี้ เราจะเห็นว่าภายในห้องนั้นได้รับแสงธรรมชาติมากพอสมควรเพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาถึง 3 บาน ไล่จากซ้ายไปขวาคือหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้, หน้าต่างบานฟิกซ์ และประตูบานเลื่อนที่เปิดออกสู่ระเบียงค่ะ

หน้าต่างบานกระทุ้งกรอบอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสงฝั่งซ้ายมือพร้อมมือจับและตัวล็อคแบบก้านโยก

ประตูบานเลื่อนสามารถเปิดออกสู่ระเบียงห้องได้ เป็นประตูอลูมิเนียมติดกระจกเขียวตัดแสงแบบ 3 ตอน

พื้นระเบียงห้องปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. ราวกันตกเป็นตะแกรงเหล็กทาสีดำ

พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1.0 x 1.4 เมตร สามารถใช้ตากผ้าได้สบายๆ ส่วนบริเวณผนังก็สามารถใช้แขวนตัวคอมเพรสเซอร์ได้พอดี

ภาพรวมภายในห้องจากส่วนระเบียง

นอกจากนี้ภายในห้องจะใช้ระบบ Home Automation เปิด – ปิดไฟแบบ Touch Screen ของ Orvibo และสามารถสั่งงานผ่าน Application เพื่อเปิด – ปิดไฟ, ทีวี และแอร์ภายในห้องได้

และยังได้ตัว Voice Command รองรับการใช้งานผ่านเสียงเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วยค่ะ

::: แบบห้อง 1 Bedroom Type 1F ขนาด 33.75 – 34.25 ตร.ม.  :::

ขนาดของห้องนี้จะใหญ่ขึ้นมาพอสมควรค่ะ สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน ภาพรวมภายในห้องมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยไม่ต่างจากห้องที่แล้ว แต่ห้องน้ำจะเข้าจากทางฝั่งห้องครัวแทน ที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือส่วน Extended Space ระหว่างห้องครัวและห้องนอน เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นส่วนรับประทานอาหารและ Walk – in Closet เพิ่มเติมได้

ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 8 มม., ห้องครัวปูพื้นกระเบื้อง, ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว และ Dining Bench 1 ตัว, ฐานเตียงนอนขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า Built-in, โต๊ะเครื่องแป้ง+กระจกสตูล, โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง+โต๊ะกาแฟ, ชั้นวางทีวี และห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ และ เครื่องปรับอากาศ 1 เครื่อง

เข้าไปดูภายในห้องกันเลยค่ะ ประตูห้องจะเป็นประตูบานสำเร็จรูปปิดผิวด้วยลามิเนตพร้อมอุปกรณ์ Digital Door Lock จาก Yale มือจับแบบก้านโยก

เข้าไปในส่วนแรกจะเป็นห้องครัว ถ้าตรงเข้าไปด้านในผ่านประตูบานเลื่อนจะเป็นส่วนของ Common Area และห้องนอน ผนังภายในห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสี ฝ้าเพดานในห้องสูง 2.55 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED พร้อม Heat Detector, Smoke Detector และ Sprinkle ส่วนเครื่องปรับอากาศจะมีให้ 1 เครื่อง ติดเอาไว้ภายในห้องนอนอีก 1 ตัว

ส่วนพื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องขนาด 30 x 30 ซม. สลับสีขาว – ดำดูเก๋ จุดนี้เป็นข้อดีเพราะสามารถเช็คทำความสะอาดพวกละอองน้ำมันและคราบอาหารได้ง่ายกว่า

ทางโครงการให้ชุดเคาน์เตอร์ครัวมา 1 ชุดโดยจะเว้นระยะเหลือเอาไว้ให้สำหรับวางตู้เย็น ท็อปเคาน์เตอร์ใช้หินสังเคราะห์สีขาว พร้อม อ่างล้างจาน, เตาปรุงอาหารขนาด 2 หัว และฮู้ดดูดควันของ MEX ใต้เคาน์เตอร์พอจะมีช่องให้เก็บของและวางไมโครเวฟกับเครื่องซักผ้าได้ ตัว Joint ของบานเปิดใช้แบบ Soft Closed

และมีชั้นลอยสามารถเก็บของได้เหมือนเดิมค่ะ

ห้องน้ำของห้องนี้จะสามารถเข้าได้จากทางห้องครัวเลย

ภายในห้องน้ำมีการจัดวางเหมือนห้องที่แล้วทุกประการค่ะ ใช้ชุดวัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนเดิม

ภายในโซนอาบน้ำก็ติดตั้งชุดฝักบัวสายอ่อนมาให้ ผนังด้านข้างก็เจาะช่องสำหรับวางพวกขวดสบู่แชมพูเหมือนเดิม

จากห้องครัวจะกั้นส่วนจาก Common Area และห้องนอนด้วยประตูบานเลื่อนอลูมิเนียม 3 ตอน พื้นห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม.ทั้งหมด เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย

ภายในห้องนี้มีการเพิ่ม Extended Space เข้าไปในระหว่างห้องครัวและห้องนอนจึงได้ห้องที่มีขนาดกว้างขวางมากขึ้น

ในส่วนของ Extended Space ทางโครงการจัดให้เป็นพื้นที่รับประทานอาหารและ Walk -in Closet ค่ะ

เริ่มจากส่วนรับประทานอาหาร เราจะได้โต๊ะขนาด 4 ที่นั่งพร้อม Dining Bench สำหรับ 2 ที่นั่ง 1 ตัวและเก้าอี้นั่งอีก 2 ตัว

ระยะการจัดวางกำลังเหมาะสมกับพื้นที่ หน้าตาของโต๊ะและเก้าอี้จะไม่ใช่แบบนี้นะคะ จะได้เป็นแบบมาตรฐานของทางโครงการ

ฝั่งตรงข้ามกับส่วนรับประทานอาหารทางโครงการจะกั้นกระจกใสเป็นมุมฉากมาให้เป็น Walk – in Closet และวางตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้งให้ค่ะ

ถัดจากส่วน Extended Space เข้ามาเป็นส่วนห้องนอน+พื้นที่นั่งเล่น

ทางโครงการจะให้เตียงนอนขนาด 5 ฟุตมาไม่รวมฟูกและเครื่องนอน

ส่วนด้านข้างไดโซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟอีก 1 ตัว

ผนังฝั่งตรงข้ามก็จะได้ชั้นวางทีวีตัวยาวมาค่ะ ซึ่งจะเป็นเหมือนโต๊ะแบบทรงสูงสามารถใช้เป็นโต๊ะทำงานได้ในตัวด้วยเลย

ดูระยะที่ปลายเตียงก็ยังเหลือพอสมควรสามารถเดินผ่านได้สะดวก

จากห้องนอนจะสามารถเชื่อมสู่ระเบียงห้องได้ผ่านประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ซึ่งเป็นช่องแสงของห้องด้วย

พื้นที่ระเบียงของห้องนี้จะมีหน้าที่กว้างพอสมควรค่ะ แต่จะลึกเพียง 0.6 เมตร

ภาพรวมภายในห้องจากส่วนระเบียง


:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (ตุลาคม 2561) ::::

วัสดุโดยรวม

  • พื้นห้องนอน : ลามิเนตหนา 8 มม.
  • พื้นห้องครัว : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 ซม.
  • พื้นห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 ซม.
  • พื้นระเบียง : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 ซม.
  • ผนังภายใน : ผนังฉาบเรียบทาสี
  • ผนังห้องน้ำ : กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 ซม. และ ขนาด 20 x 30 ซม.
  • ประตูทางเข้าห้อง : ประตูบานเปิดสำเร็จรูป พร้อม Digital Door Lock มือจับก้านโยกสแตนเลส
  • ประตูภายใน : ประตูบานเปิดสำเร็จรูป, ประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง
  • ประตูระเบียง : ประตูบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง
  • หน้าต่างภายนอก : หน้าต่างบานกระทุ้ง และ บานฟิกซ์ กรอบอลูมิเนียม ติดกระจกเขียวตัดแสง

ห้องน้ำ และสุขาภิบาล

  • สุขภัณฑ์ และ Accessories : Cotto

งานไฟฟ้า

  • สวิตช์ไฟ : Orvibo ระบบ Touch Screen
  • ดวงโคมทั่วไป : ดวงโคมดาวน์ไลท์ หลอด LED
  • ดวงโคมในห้องน้ำ : ดวงโคมดาวน์ไลท์ หลอด LED พร้อมพัดลมดูดอากาศ

เฟอร์นิเจอร์

  • ชุดเคาน์เตอร์ครัว ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัว และชั้นลอย Built-in พร้อม อ่างล้างจาน 1 หลุม, เตาเซรามิกขนาด 2 หัว และเครื่องดูดควัน ของ MEX
  • ชุดโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้นั่ง ขนาด 2 – 4 ที่นั่ง
  • ชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง/ชุดโซฟาเบด และโต๊ะกาแฟ
  • ชั้นวางทีวี+สตูล
  • ตู้เสื้อผ้า ฺBuilt-in, โต๊ะเครื่องแป้ง+กระจกเงา และ ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต
  • เครื่องปรับอากาศชนิดแยกส่วนแบบแขวนผนัง
  • ผ้าม่าน (เฉพาะห้องฝั่งทิศตะวันตก)

***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ


:::: ราคา (ตุลาคม 2561) ::::

ห้อง  1A-1B ขนาด 24.00 – 28.25 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น 2.8 – 3.5 ล้านบาท
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 25,000 บาท
  • Bullets 3 ครั้ง 15,000 บาท
ห้อง  1C-1D ขนาด 27.75 – 28.25 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น 2.8 – 4.05 ล้านบาท
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 25,000 บาท
  • Bullets 3 ครั้ง 15,000 บาท
ห้อง  1E-1G ขนาด 32.00 – 35.50 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น 3.2 – 5.1 ล้านบาท
  • จอง 10,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000 บาท
  • Bullets 3 ครั้ง 20,000 บาท
ห้อง  2A-2C ขนาด 48.25 – 55.75 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น 6.0 – 8.0 ล้านบาท
  • จอง 20,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000 บาท
  • Bullets 3 ครั้ง 40,000 บาท
ห้อง  1LT-2LT ขนาด 25.50-55.75 ตร.ม.
  • ราคาเริ่มต้น 4.6 – 8.7 ล้านบาท
  • จอง 20,000 บาท
  • ทำสัญญา 30,000 บาท
  • Bullets 3 ครั้ง 40,000 บาท
  •  ราคาเฉลี่ย 110,000 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง ตร.วาละ 58 บาท/เดือน
  • เงินกองทุน 500 บาท/ตร.วา
  • โปรโมชั่น Pre – sale ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า 4 ชิ้น จาก Samsung (ตู้เย็น, ทีวี, เครื่องทำน้ำอุ่น และไมโครเวฟ)

***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม


:::: สรุป ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ ตัวโครงการจะอยู่ติดกับถนนพหลโยธินไม่ไกลจากวงเวียนหลักสี่ ทำให้สามารถเดินทางได้สะดวก ทำเลตรงนี้ยังถือว่าเป็นย่านที่อยู่อาศัยในเขตชานเมือง ความหนาแน่นยังอยู่ในระดับปานกลางไม่ถึงกับแออัด แต่ก็มีความเจริญแบบก้าวกระโดดขึ้นอย่างรวดเร็วใน 2 ปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากการพัฒนาของแนวรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่ตอนนี้ก็ได้เห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว โดยตัวโครงการจะอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีสายหยุดเลยค่ะ เดินจากหน้าโครงการเพียง 30 เมตร ถึงทางขึ้นตัวสถานีเลย

สาธารณูปโภคหลักๆ ก็จะอยู่บน เส้นพหลโยธิน ซึ่งมีร้านค้าอาคารพาณิชย์หนาแน่นตลอดสาย เนื่องจากเป็นโซนตัวเมืองที่ใกล้สนามบินและมีโรงเรียนหลายแห่ง ทั้งรร.จ่าอากาศ, รร.ครูทหาร, รร.ฤทธิยะวรรณาลัย, รร.นายเรืออากาศ ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ทั้งหมด และใกล้ตลาดยิ่งเจริญ ออฟฟิศและสำนักงานมากมาย สาธารณูปโภคหลักๆ ก็จะรองรับผู้คนที่ทำงานและศึกษาต่อในละแวกนี้ค่ะ รวมถึงใกล้ Big C สะพานใหม่, รพ.เซ็นทรัลเยนเนอรัล และ Tesco Lotus หลักสี่

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวปัจจุบันที่เส้นพหลโยธินนั้นค่อนข้างลำบากสักหน่อยเนื่องจากมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดเส้นทาง การจราจรจึงติดขัดเรียกว่ามากเลยทีเดียว แต่ปัจจุบันมี ถ.เทพรักษ์ตัดใหม่ ซึ่งเพิ่งเปิดให้ใช้งานเมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา เป็นตัวชูโรงเนื่องจากจะทำให้การเดินทางในละแวกนี้สะดวกสบายยิ่งขึ้นและในอนาคตจะมีแพลนตัดขยายไปถึง วิภาวดีรังสิต-นิมิตใหม่เลยทีเดียว โดยจากโครงการ ซอยพหลโยธิน 52 สามารถวิ่งออกถนนเทพรักษ์ตัดใหม่ และไปขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพื่อเข้าตัวเมืองกรุงเทพได้สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องวิ่งไปถึงดอนเมืองโทลเวย์ให้รถติดก็ได้ค่ะ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ การเดินทางโดยรถประจำทางจากโครงการถือว่าง่ายค่ะ เพราะตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่ มีป้ายรถเมล์อยู่บริเวณหน้าโครงการและมีรถสาธารณะวิ่งผ่านตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็น วินมอเตอร์ไซค์, รถเมล์, รถตู้ และรถแท็กซี่ นอกจากนี้ยังอยู่ติดกับทางขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีสายหยุด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 ซึ่งจะเปิดใช้งานก่อนตัวโครงการสร้างเสร็จอีกค่ะ

การออกแบบโครงการและวัสดุ THE BASE สะพานใหม่ เป็นคอนโด Mid Rise สูง 14 ชั้น บนพื้นที่โครงการ 4 ไร่ มีจำนวน 1 อาคาร และอาคารคลับเฮ้าส์สูง 2 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 820 ยูนิต ออกแบบโครงการให้สะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ เรียบง่ายอย่างมีเสน่ห์ ผนวกกับการสร้างความย้อนแย้ง “Irony” ที่ทำเลล้อมรอบด้วยศูนย์ราชการที่มีความเป็นระเบียบดูเรียบขรึม จึงออกแบบให้รูปลักษณ์อาคารดูอ่อนช้อยด้วยเส้นโค้งสร้างสีสันให้ในทำเลนี้ มีห้องพักให้เลือกแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดเริ่มต้น 24.00 – 55.75 ตร.ม. มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครัน

ตั้งแต่ที่ชั้น 2 – 6 ทางโครงการวางผังอาคารให้มี Sunlight Atrium อยู่ตรงกลางทำให้ระหว่างชั้นนี้จะได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor ได้ความเป็นส่วนตัวพอสมควร ตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไปจะแยกออกเป็น 2 Tower และใช้โถงลิฟท์แยกกัน ทำให้เหมือนมีจำนวนยูนิตลดลงครึ่งนึงทำให้แต่ละชั้นมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแม้คิดดูแล้วจะมีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงถึง 68 ยูนิตก็ตาม ส่วนชั้นที่ 14 จะเป็นห้องแบบ Loft ฝ้าเพดานสูงทั้งหมด คิดอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟท์อยู่ที่ 205 : 1 ถือว่าหนาแน่นไป Traffic การใช้งานอาจจะเยอะหน่อยโดยเฉพาะช่วง Rush Hour

อิงจากห้องที่ได้ทำการเข้าไปรีวิว ห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ลงตัว ด้วยการออกแบบฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร ทำให้ห้องมีภาพรวมที่ดูโปร่งโล่ง แปลนห้องจะแบ่งส่วนห้องครัวและห้องนอนออกจากกันเป็นโซน จึงได้ในเรื่องของการกำจัดกลิ่นที่ดีและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ภายในห้องนอนจะรวมส่วนห้องนั่งเล่นเอาไว้ด้วยเลยทำให้ได้พื้นที่ห้องขนาดใหญ่ เสียอย่างที่ห้องน้ำจะต้องพึ่งระบบระบายอากาศของอาคารเพียงอย่างเดียว เพราะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ด้วย

ส่วนวัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาตรฐานดี โดยโครงการขายทั้งแบบ Fully Furnished ตกแต่งมาครบพร้อมเข้าอยู่ รวมถึงเครื่องปรับอากาศด้วยค่ะ ถ้าเป็นห้องฝั่งทางทิศตะวันตกทางโครงการจะแถมผ้าม่านให้เพิ่มด้วยนะ

สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ถือว่าให้มาอย่างครบครันเลยค่ะ ที่ชั้น 1 มี Lobby Lounge, Smart Locker, Mail Room / ชั้น 2 Sunlight Atrium Area สูง 5 ชั้น / ชั้น 6 Outdoor Garden / ชั้น 14 Panoramic Fitness, Multi-purpose Room, Changing Room, Steam / Sunrise Lagoon, Sunset Garden, Star Lounge / Clubhouse สูง 2 ชั้น นอกจากนี้ก็มี Home Service Application, EV Charger, ที่จอดรถรวม 36% ทางโครงการใช้ Passenger Lift ระบบล็อคชั้น, ประตูห้อง Digital Door Lock, CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ


:::: คะแนน ::::

ทำเลที่ตั้งโครงการ  8.0 อยู่ติดกับถนนพหลโยธินไม่ไกลจากวงเวียนหลักสี่ และอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีสายหยุด
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว   7.3 หักคะแนน เพราะรถติดหนักมากเส้นพหลโยธินค่ะ แต่หากรถไฟฟ้าสร้างเสร็จแล้ว ก็สามารถเพิ่มคะแนนได้เองตามสะดวก และ ให้คะแนนเพิ่ม เพราะมีทางทะลุออก ถ.เทพรักษ์ตัดใหม่ได้
การเดินทางโดยรถสาธารณะ  8.6 โครงการอยู่ติดกับสถานีสายหยุดเลย งเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ได้ง่าย รถสาธารณะก็วิ่งผ่านเยอะ
บ้านและวัสดุ  7.9 ห้องสไตล์โมเดิร์น แบ่งสัดส่วนห้องได้ดี ได้ห้องมาแบบ Fully Furnished วัสดุสวยงามและได้มาตรฐานค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก   7.55 สิ่งอำนวยความสะดวกมีมาให้หลายอย่าง แต่น้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ
ความคุ้มค่ากับราคา  8.0 โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1 – 2 คน ต้องการหาที่อยู่ในย่านสะพานใหม่ เดินทางสะดวกทั้งระบบขนส่งสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัว
คะแนนรวมเฉลี่ย  7.89 ดีมาก

:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::

CALL CENTER : 1685

Website : https://www.sansiri.com/thebase/th/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

อ่านเพิ่มเติม

สนใจลงโฆษณากับทาง CONDONAYOO ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณวัน 086-1290293 
LINE ID : 123456786205 Email : wanchalearm.t@gmail.com
ทางเราเป็นเว็บไซต์ให้ข้อมูล ไม่ใช่เจ้าของโครงการนะครับ

แสดงความคิดเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.