EP.144 รีวิว คอนโด The Reserve สุขุมวิท 61 คอนโดสุดหรูแบบ Low Rise ที่ใหญ่ที่สุดในโซนทองหล่อ เอกมัย เริ่ม 10 ล้านบาท*
2021 สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้ว คลิกเลยจร้าที่รัก >> https://www.homenayoo.com/the-reserve-sukhumvit-61/
สวัสดีผู้อ่าน CONDONAYOO ทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 คอนโดโครงการใหม่จาก พฤกษา
ภายใต้แนวคิด RESERVE YOUR EXCLUSIVITY เป็นคอนโด Low-Rise ระดับ Super Luxury บนทำเลในซอยสุขุมวิท 61 ที่ได้รับรางวัลซอยน่าอยู่ที่สุดในกรุงเทพ โดยอยู่ภายในโซนใจกลางสุขุมวิทเลยค่ะ พร้อมความเป็นส่วนตัวที่มากกว่า ท่ามกลางพื้นที่สีเขียว พร้อมการเดินทางที่สะดวกสบาย เพียงแค่ 2 นาที จาก BTS เอกมัย ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนทั้งรามอินทรา- อาจณรงค์และศรีรัช
และยังใกล้ห้างและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพราะรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากมายทั้ง Gateway Ekamai, Major เอกมัย, Emporium, Emquartier, Terminal 21 ในระยะตั้งแต่เดินถึงไปจนถึงนั่ง BTS ไปเพียง 2-3 สถานีเท่านั้น
เดอะ รีเซิร์ฟ สุขุมวิท 61 เป็นโครงการคอนโด Low Rise 2 อาคาร สูง 7 ชั้น บนพื้นที่โครงการขนาด 3-0-34.6 ไร่ พร้อมความเป็นส่วนตัวสูง เนื่องจากห้องพักอาศัยรวมทั้งโครงการเพียง 186 ยูนิตเท่านั้น ห้องพักอาศัยเป็นแบบ Studio, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอน โดยมีขนาดเริ่มต้นที่ 30.75 – 157.60 ตารางเมตร ขายแบบ Fully Furnished ด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าเรียบหรูยกชุดจาก Chanintr, ชุดสุขภัณฑ์ จาก Villeroy & Boch แบรนด์เดียวกับที่ทำสุขภัณฑ์ส่งพระราชวังแวร์ซาย โดยเป็นชุดสุขภัณฑ์ที่เคลือบสาร Anti Bacteria ในตัว และชุดครัวของ Gorenje จากดีไซเนอร์ชั้นนำของโลกอย่าง Philippe Starck สร้างเสร็จพร้อมอยู่เดือนมีนาคม ปี 2563
สิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่ส่วนกลางของโครงการให้มากว้างขวางถึง 1 ใน 3 ของที่ดินโครงการ โดยมีพื้นที่ส่วนกลางรวมกว่า 1 ไร่ ซึ่งถือเป็นโครงการ Low Rise ที่ทั้งพื้นที่รวมของโครงการและพื้นที่ส่วนกลางใหญ่ที่สุดในโซนทองหล่อ เอกมัยนี้แล้วค่ะ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ อาทิ โถงต้อนรับ, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องอเนกประสงค์, สวนพักผ่อน, พื้นที่สีเขียว, ประตูคีย์การ์ด, Access Card Control, กล้องวงจรปิด พร้อม รปภ. 24 ชม. พร้อมที่จอดรถ 100% ราคาเริ่มต้น 1o ล้านบาท
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษคลิก : https://goo.gl/vQh6kq
ส่วนรายละเอียดอื่นๆจะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ : )
ชื่อโครงการ | เดอะ รีเซิร์ฟ สุขุมวิท 61 The Reserve Sukhumvit 61 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) | Pruksa |
เนื้อที่ทั้งหมด | 3-0-34.6 ไร่ |
จำนวนตึก | 2 อาคาร |
จำนวนชั้น | 7 ชั้น |
จำนวนห้อง | 186 ยูนิต |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | 100% หรือ 186 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
จำนวนลิฟต์ | อาคารละ 2 ตัว |
โซน | เขตวัฒนา |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | ปอ. 501, 508, 511, 513, AB3 และ ปอพ.19.30 |
ที่ตั้ง | ซอยสุขุมวิท 61 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. |
กำหนดการ | เริ่มก่อสร้าง : กุมภาพันธ์ 2561 |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จ : มีนาคม 2563 |
ราคา | เริ่มต้น 10 ล้านบาท* |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น ประมาณ 325,000 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | “The Reserve สุขุมวิท 61″ คอนโดใหม่ ระดับพรีเมียม บนทำเลศักยภาพ โซนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้า BTS เอกมัย และ ทางด่วน เริ่ม 10 ลบ. |
ที่ตั้งโครงการ
ซอยสุขุมวิท 61 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.
พิกัด google map : 13°43’44.3″N 100°35’03.2″E
โครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 จัดเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise ที่ทั้งพื้นที่รวมของโครงการและพื้นที่ส่วนกลางใหญ่ที่สุดในโซนทองหล่อ เอกมัยนี้แล้วค่ะ เนื่องจากส่วนใหญ่โซนนี้จะเป็นคอนโดมิเนียมแบบ High Rise ซะมากกว่า
ที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ที่มีความสงบและสะดวกสบายสูงและมีจุดแข็งที่น่าสนใจหลายอย่าง ทั้งใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สถานี เอกมัย และ สถานี ทองหล่อ, ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนทั้งรามอินทรา- อาจณรงค์และศรีรัช
และยังใกล้ห้างและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพราะรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากมายทั้ง Gateway Ekamai, Major เอกมัย, Emporium, Emquartier, Terminal 21 ในระยะตั้งแต่เดินถึงไปจนถึงนั่ง BTS ไปเพียง 2-3 สถานีเท่านั้น
ที่ตั้งโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ซึ่งเชื่อมต่อไปออกได้หลายทางนะคะ ไม่ว่าจะเป็นถนนใหญ่สุขุมวิท, สุขุมวิท 63 (ซอยเอกมัย) โครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS 2 สถานีคือ สถานี เอกมัย และ ทองหล่อ ในระยะเดินประมาณ 1 – 1.5 กม. อาจไม่ได้อยู่ใกล้ในระยะที่เดินได้สบายๆก็จริง แต่ก็จัดเป็นโซนที่มีความสงบและสะดวกสบายสูง คนชอบเดินสามารถเดินไปขึ้น BTS ได้สบายๆ ไม่ชอบเดินก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไป BTS 10 – 15 บาทเท่านั้น และโครงการมี Shuttle bus พามาส่งที่สถานีรถไฟฟ้า BTS อีกด้วย
สำหรับคนไม่ใช้รถ นอกจากอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัยและทองหล่อในระยะพอเดินไปได้แล้ว โซนนี้มีทั้งแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ขับผ่านอยู่เรื่อยๆ จะไปไหนก็ไว รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะแยะ และใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้น เพราะอยู่ใจกลางเมืองในแหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว อยากไปช็อปปิ้ง ก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไปได้ทั้ง เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เทอมินอล 21, เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ไปจนสยามพารากอน ไม่ต้องรถติด ทั้งใกล้และสะดวก ทั้งยังสามารถเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สุขุมวิท จาก BTS สถานีอโศกได้
สำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศหรือไปสนามบินบ่อยๆ ความสะดวกและข้อดีอีกอย่างคือโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์สถานีรามคำแหงในระยะประมาณ 5.6 กม. หรือระยะขับรถมาเพียง 15 นาทีเท่านั้น เราสามารถต่อแท็กซี่ไปขึ้นแอร์พอร์ตลิงก์นั่งไปสนามบินสุวรรณภูมิหรือลาดกระบังได้สบายๆ
สำหรับคนใช้รถ โครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ซึ่งเชื่อมต่อไปออกได้หลายทางนะคะ ไม่ว่าจะเป็นถนนสุขุมวิท, สุขุมวิท 63(เอกมัย), สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) จัดเป็นทำเลที่คนใช้รถมีความสะดวกสบาย และมีทางเลือกในการเข้าออกเยอะค่ะ ออกซอยไปเป็นถนนใหญ่สุขุมวิทฝั่งขาออก วิ่งออกเมืองไปอ่อนนุช, บางนา, สมุทรปราการได้ หรือจุดกลับรถก็อยู่หน้าซอยสุขุมวิท 61 เลย ใช้วิ่งเข้าเมืองโซน CBD อย่างสุขุมวิทได้สะดวก ใกล้ทองหล่อ, พร้อมพงษ์, อโศก ในระยะขับรถเพียง 3 – 10 นาทีถึงเท่านั้น
ทำเลตรงนี้มีจุดขึ้นทางด่วนกระจายตัวอยู่รอบๆ ทั้ง ทางด่วนเพลินจิต, พระราม 4, เอกมัย – รามอินทรา, สุขุมวิท 50 ฯลฯ แต่เนื่องจากย่านนี้รถค่อนข้างติดค่ะ เพราะทุกเส้นอยู่ในตัวเมืองทั้งนั้น ทำให้การเดินทางโดย “เลี่ยงเมือง” ทำไม่ได้ แต่โดยรวมการเดินทางก็สะดวกอยู่แล้ว เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าทำเลอยู่ในตัวเมืองอยู่แล้วด้วย และจากโครงการก็มีทางลัดเลาะเลี่ยงถนนใหญ่ได้หลายทาง สามารถลัดเลาะผ่านไปทางเอกมัย เข้าทองหล่อ ไปอโศกได้เลยโดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่สุขุมวิท
อีกข้อดีสำหรับคนใช้คนคือโครงการอยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนหลายจุด ในระยะที่สามารถขับรถไปได้ในระยะสั้นๆ ที่ใกล้ที่สุดจะเป็นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ โดยโครงการอยู่ห่างจากจุดขึ้นทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ เป็นระยะประมาณ 4.4 กม. หรือระยะขับรถเพียง 16 นาทีเท่านั้น
แยกและถนนสำคัญใกล้เคียง
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 ตั้งอยู่ในโซนที่พักอาศัยที่เงียบสงบในซอยสุขุมวิท 61 มีแหล่งรวมร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก และ Maxvalue อย่าง Parklane อยู่ห่างจากโครงการเพียง 600 เมตรเท่านั้น จะไปทำผม ซื้อหนังสือ ซื้อของกินของใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือรับประทานอาหารก็เดินไปได้สบายๆ ภายในมีร้านอาหารและร้านนั่งชิลล์สำหรับแฮงก์เอ้าท์กับเพื่อนๆให้เลือกมากมายหลายร้าน
นอกจากนี้แหล่งช้อปปิ้งส่วนใหญ่จะเกาะอยู่บนถนนเส้นหลักคือถนนใหญ่สุขุมวิทซึ่งเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมายเดินทางไปได้สะดวก หรือจะเข้าไปในทองหล่อ เอกมัย เองก็มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงเทพอยู่แล้วเรื่องผับ บาร์ และร้านอาหารอีกเป็นร้อยร้าน เปิดทั้งกลางวันกลางคืน มีทั้งโรงพยาบาล,โรงหนัง, วัด, ห้างสรรพสินค้า, Community mall ผุดขึ้นมามากมาย ใครมีไลฟ์สไตล์ชอบเที่ยว ชอบแฮงก์เอาต์นัดเจอกันร้านอาหารสวยๆก็น่าจะถูกใจกันค่ะ
ออกมาที่สถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย ห่างจากโครงการประมาณ 1 กม. ถนนเส้นหลักคือถนนใหญ่สุขุมวิท โซน CBD เลยอย่างเอกมัย ทองหล่อ ออกมาแล้วขึ้น BTS ไปไม่กี่สถานีเท่านั้นก็สามารถเข้าถึงห้างใหญ่และแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองได้มากมาย ทั้ง เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เทอมินอล 21, เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ไปจนสยามพารากอน ไม่ต้องรถติด ทั้งใกล้และสะดวก ทั้งยังสามารถเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สุขุมวิท จาก BTS สถานีอโศกได้อีกด้วย
ติด BTS เอกมัยเลยจะมี Gateway เอกมัย ที่ด้านในมีร้านอาหาร ร้านขนมและร้านค้าเยอะมาก ส่วนมากเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นค่ะ จาก BTS เอกมัยนี่เดินไปหน่อย ฝั่งตรงข้ามซอยเอกมัยจะมีท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ใครอยากพาแฟนไปเดตวันเสาร์อาทิตย์ ไปดูดาวด้วยกันก็โรแมนติกดีนะคะ เช็คข้อมูลเกี่ยวกับท้องฟ้าจำลองกรุงเทพเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ปากซอยของซอยเอกมัยจะมี เมเจอร์ ซินีเพล็กซ์ อยู่ ถือเป็นโรงหนังและห้างที่ใกล้โครงการที่สุดนะคะ ข้างในก็มีสิ่งอำนวยความสะดวก, ร้านอาหารและคาเฟ่อีกหลายร้านเช่นกัน
จาก BTS เอกมัย นั่งมา 2 สถานี จะถึงสถานีพร้อมพงษ์ สถานีนี้ก็มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก ร้านอาหาร ของกิน แหล่งช้อปปิ้งมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งห้างหรูอย่างเอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ หรือพื้นที่สีเขียวไว้เดินเล่นอย่างสวนสาธารณะเบญจสิริ หรือแหล่งรวมร้านอาหารดีๆอย่าง Rain Hill หรือซุปเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Tops ร้านอาหารสองฝั่งถนนใหญ่สุขุมวิทโซนนี้ก็มีร้านคุณภาพดีๆและมีคอนเซ็ปร้านเก๋ๆเยอะทีเดียว ในอนาคตจะมีห้างหรูตามมาอีกห้างในเครือเดียวกันชื่อ Emsphere ที่กำลังจะสร้างเสร็จเร็วๆนี้อีกแห่ง ซึ่งเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับย่านพร้อมพงษ์มาขึ้นไปอีก
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
การเดินทาง
วันนี้เรามีภาพการเดินทางโดยรถมาให้ชมกัน เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนอโศกมุ่งหน้ามาแยกอโศก → เลี้ยวซ้ายตรงมาบนถนนสุขุมวิทเรื่อยๆผ่าน BTS พร้อมพงษ์, ทองหล่อ → เลี้ยวซ้ายเข้าซ.สุขุมวิท 61 → ตรงไปตามทางประมาณ 800 ม. จะเจอสำนักงานขายและที่ดินโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 แล้วค่า
เริ่มเดินทางกันบนถนนอโศกหรือสุขุมวิท 21 มุ่งหน้าไปแยกอโศกที่ถนนใหญ่สุขุมวิทกันนะคะ ตรงไปเรื่อยๆผ่าน มศว สังเกตว่าถนนอโศกมนตรีโซนนี้จะเป็นถนน 4 เลนที่สองฝั่งข้างทางเต็มไปด้วยอาคารสำนักงานเต็มไปหมดนะคะ แถมยังมีมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่อย่าง มศว อยู่ด้วย โซนนี้จึงเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์ตามมาในตัว เป็นแหล่งรวมร้านขายอาหาร ตลาดนัด ตามมาเปิดมากมายหลายจุด เพื่อรองรับกลุ่มนักศึกษาและพนักงานบริษัทโซนนี้
ตรงมาเรื่อยๆเราจะเห็นห้าง Terminal 21 ทางฝั่งขวามือ เป็นห้างใหญ่อีกห้างที่เดินได้สนุกดี คอนเซ็ปห้างคือสนามบิน ด้านมีร้านอาหาร ร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบ และอยู่ติดถนนใหญ่สุขุมวิทกับแยกอโศกเลย
ตรงมาอีกนิดจะเจอถนนใหญ่สุขุมวิทและแยกอโศกแล้วค่ะ พอถึงแยกอโศกเราเลี้ยวซ้ายค่ะ ที่แยกอโศกนี้จะมี BTS อโศก ซึ่งเป็น Interchange Station กับ MRT สุขุมวิท โดยอยู่ห่างจาก BTS เอกมัย ที่ใกล้โครงการที่สุด เพียง 3 สถานีเท่านั้น
เราตรงมาบนถนนสุขุมวิทอีกหน่อยก็จะเจอ BTS พร้อมพงษ์ จะเห็นว่าจะมีห้างใหญ่ติด 2 ฝั่งของ BTS พร้อมพงษ์เลย ทั้งห้าง The Emporium และ EmQuartier
ถัดมาจะเป็น BTS ทองหล่อ ที่จาก BTS ทองหล่อ ที่จากโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 สามารถเดินมาขึ้นรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อได้ ในระยะประมาณ 1.4 กม.
ตรงไปอีกหน่อยจะเห็นซอยทองหล่ออยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ส่วนเราตรงต่อไปค่ะ
ตรงไปอีกนิดเดียวให้เราชิดซ้ายก่อนเลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 61 ซอยที่ตั้งโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 จุดสังเกตทางเข้าซอยสุขุมวิท 61 คือง่ายมาก ถ้ามาจากทองหล่อคือจะอยู่ถัดซอยทองหล่อมาหน่อย และที่ปากซอยสุขุมวิท 61 จะอยู่ติดเมเจอร์ เอกมัยเลยค่ะ
เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 61 มาก็ตรงเข้าซอยไปได้เลยค่ะ ที่ปากซอยสุขุมวิท 61 ซ้ายมือจะเป็น FamilyMart ขวามือเป็น Major Ekamai ที่จากโครงการเดินมาได้สบายๆ
เราตรงไปในซอยสุขุมวิท 61 ภายในซอยเป็นโซนที่อยู่อาศัยที่เงียบสงบ ใจกลางเมืองสุขุมวิท ถนนในซอยเป็นถนน 2 เลน มีทางเท้าทั้ง 2 ฝั่งและปลูกต้นไม้มาเป็นแนวร่มรื่น
จากถนนใหญ่สุขุมวิท ตรงเข้าซอยสุขุมวิท 61 มาประมาณ 800 เมตร จะเจอที่ดินและสำนักงานขายโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 อยู่ด้านหน้าแล้วค่ะ รอบๆโครงการจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง และบรรยากาศในซอยจะเป็นอย่างไร เราไปดูกันเลย
รอบโครงการ
เพื่อให้เห็นภาพบรรยากาศและสิ่งอำนวยความสะดวกๆรอบๆโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 เราจะพาเดินไปโครงการจาก BTS เอกมัย เดินตรงผ่าน Major เอกมัย ก่อนเลี้ยวขวาเข้าซอยสุขุมวิท 61 ก่อนตรงไปโครงการกันค่ะ
วันนี้เราเริ่มเดินกันจาก BTS เอกมัย สถานีรถไฟฟ้าที่ทางขึ้นลงอยู่ติดซอยสุขุมวิท 63 หรือซอยเอกมัยกันค่ะ BTS เอกมัยนี้ เป็นอีกสถานีที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง และมีทางเดินเชื่อมต่อเข้าห้างที่อยู่ติดสถานีอย่าง Gateway เอกมัย และ Major เอกมัย ได้
จาก BTS เอกมัยนี้ เราสามารถเลือกลงที่ประตู 1 ก่อนเดินข้ามถนนเอกมัยไปซอยสุขุมวิท 61 ที่เป็นซอยโครงการได้
จากบน Sky way ของ BTS เอกมัย มองลงไปที่ซอยเอกมัย (สุขุมวิท 63) ถ้าเราเดินลงประตู 1 มาเราจะอยู่ฝั่งขวามือของภาพด้านบนค่ะ ให้เราข้ามทางม้าลายไปทางหน้าห้าง Major เอกมัย เดินตรงไปซอยสุขุมวิท 61 ได้ โดยที่หัวมุมปากซอยเอกมัยติดห้าง Major เอกมัย จะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ ใครไม่ชอบเดินก็นั่งวินต่อไปเข้าโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 ได้โดยค่าโดยสารอยู่ที่ 15 บาท
ส่วนวันนี้ เราพาเดินจาก Sky way ของ BTS เอกมัย เชื่อมไปเข้าห้าง Major เอกมัยกันค่ะ (หลบแดด+ไม่ต้องข้ามถนน+ตากแอร์ในห้างสบายๆ) ก่อนเข้าซอยสุขุมวิท 61 ซอยที่ตั้งโครงการที่ปากซอยอยู่ติดห้าง Major เอกมัย เลยนั่นเอง
จากทางเชื่อมเข้าห้าง Major เอกมัย จะเจอ WE ฟิตเนส ก่อน ให้เราเลี้ยวซ้าย
ตรงมาหน่อยก็จะเป็นภายในห้าง Major เอกมัย แล้วค่ะ ภายในนอกจากจะมีโรงหนังแล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งร้านอาหาร, ร้านหนังสือ, ร้านขายยา เป็นต้น
จากภายในห้าง Major เอกมัย เราเดินออกมาหน้าห้างที่อยู่ติดถนนใหญ่สุขุมวิทกันค่ะ หน้าห้างจะมีป้ายรถเมล์อยู่ โดยมีรถเมล์สาย ปอ. 501, 508, 511, 513, AB3 และ ปอพ.19.30 วิ่งผ่าน ป้ายรถเมล์หน้าห้าง Majpr เอกมัยนี้อยู่ห่างจากโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 ประมาณ 900 เมตร
ปากซอยสุขุมวิท 61 จะอยู่ติดห้าง Major เอกมัย เลยแบบนี้
และมีร้านสะดวกซื้อ FamilyMart อยู่ทางหัวมุมปากซอยฝั่งซ้าย
ตรงเข้าซอยสุขุมวิท 61 มา ที่ปากซอยจะมีวินมอเตอร์ไซค์อยู่ทางซ้ายมือ นั่งเข้าโครงการคิดค่าโดยสาร 10 บาท
ภายในซอยในช่วงต้นซอยไปจนกลางซอย จะมีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านนวดแผนโบราณ, ร้านทำผม, ร้านอาหาร, ร้านเบียร์, ร้านขนม เป็นต้น เป็นซอยที่มีความอุดมสมบูรร์สูง
เราเดินตรงเข้ามาในซอย ช่วงกลางซอยจนถึงท้ายซอยจะเป็นส่วนคอนโดมิเนียมและอาคารที่พักอาศัยแล้วค่ะ สองข้างทางทำทางเท้าและปลูกต้นไม้มาร่มรื่น
ตรงมาในซอย ฝั่งขวามือจะเจอ Parklane เอกมัย เป็นคอมมิวนิตี้มอลล์ที่อยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการเพียง 600 เมตร
ภายใน Parklane เอกมัย มี MaxValu ขนาดใหญ่ที่เปิด 24 ชั่วโมง เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่จากโครงการเดินมาช้อปได้สบายๆ รวมถึงภายใน Parklane มีร้านอาหาร, บาร์ และร้านขนมต่างๆเยอะมาก รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะสปาเสริมสวย, ร้านทำเล็บ, ร้านตัดผม, ร้านหนังสือ และมีตู้ ATM แทบจะครบทุกธนาคารเลย
ถัดจาก Parklane ตรงมาประมาณ 600 เมตรก็จะเจอทางเข้าสำนักงานขายและที่ดินโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 อยู่ด้านหน้าแล้วค่ะ
โครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ห่างจากถนนใหญ่สุขุมวิทประมาณ 800 เมตร โครงการนี้มี 2 เฟสนะคะ ตอนนี้ขายและสร้างเฟสแรกก่อน ซึ่งเฟสแรกจะอยู่ใกล้ทางเข้า-ออกจากซอยสุขุมวิท 61 มากกว่า จะมีรั้วแบ่งกั้นโครงการเฟส 1 และ 2 ออกจากกัน มีซุ้มทางเข้าออกโครงการแยกกัน แต่ใช้ถนนภาระจำยอมเพื่อเข้าออกจากซอยสุขุมวิท 61 และซอยเอกมัย 1 ร่วมกัน โครงการเฟสแรกเป็นคอนโด Low Rise 7 ชั้น 2 อาคาร ยูนิตทั้งหมด 186 ยูนิต บนที่ดินโครงการขนาด 3 ไร่กว่า
รอบๆโครงการปัจจุบันแทบทุกทิศเป็นอาคารที่พักอาศัยแนวราบแทบทั้งหมด ยกเว้นทิศเหนือในอนาคตที่จะเป็นที่ดินโครงการเฟส 2 ส่วนทางเข้าออกจะอยู่ติดถนนสุขุมวิท 61 ทางทิศใต้ของโครงการ
ติดถนนทางเข้าออกโครงการทางฝั่งทิศตะวันตกหรือทางฝั่งซ้ายมือเป็นทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น
ซอยทางฝั่งทิศตะวันออกของโครงการเป็นซอยตันค่ะ ด้านในส่วนใหญ่เป็นอาคารที่พักอาศัยแนวราบ ประเภททาวน์เฮ้าส์และบ้านเดี่ยวหลังใหญ่
ถัดมาเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ 3 ชั้น
ติดถนนทางเข้าออกโครงการทางฝั่งทิศตะวันออกหรือทางฝั่งขวามือเป็นที่ดินเปล่าบุคคลอื่น
ถัดมาเป็น The Millard อพาร์ทเมนต์สูง 8 ชั้น
จากหน้าโครงการมองออกไปที่ถนนสุขุมวิท 61 ออกไปทางถนนใหญ่สุขุมวิท
ภายในตัวโครงการและสำนักงานขาย The Reserve สุขุมวิท 61 จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
ตัวโครงการ
ด้านหน้าทางเข้าที่ดินและสำนักงานขายโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 จะเป็นสนามหญ้าเขียวขจีทอดยาว ใกล้ๆต้นไม้ใหญ่จะมีประติมากรรมรูปหมีอยู่ ด้านหลังหมีเป็นฉากสีขาวเรียบ พร้อมประโยค FIND YOUR ESCAPE ซึ่งเป็นแนวคิดที่ออกแบบให้โครงการเป็นเสมือนทางออกจากความวุ่นวายใจกลางเมือง เข้าสู่ความสงบร่มรื่นของธรรมชาติ โดยพื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่ให้มากว้างขวางถึง 1 ใน 3 ของที่ดินโครงการ โดยมีพื้นที่ส่วนกลางรวมกว่า 1 ไร่ ซึ่งถือเป็นโครงการ Low Rise ที่ทั้งพื้นที่รวมของโครงการและพื้นที่ส่วนกลางใหญ่ที่สุดในโซนทองหล่อ เอกมัยนี้แล้วค่ะ
ประติมากรรมหมีตัวนี้ เป็นหมีกริซลี ที่ถือเป็น Top สุด หรืออยู่บนยอดบนสุดของห่วงโซ่อาหารหมี และขึ้นชื่อว่าเจ้าหมีกริซลีจะหาที่ที่พักที่ดีที่สุดสำหรับอยู่อาศัยเวลาจำศีลนั่นเอง สื่อถึงที่พักของหมีกริซลี่ที่อุดมสมบูรณ์ สวยงาม และสงบร่มรื่น เช่นเดียวกับโครงการนั่นเอง
เดินเข้าไปดูสำนักงานขายและห้องตัวอย่างของโครงการกันต่อเลยค่ะ ถ้าขับรถมาก็ตรงเข้าไปด้านในจะมีลานจอดรถมาให้ทางฝั่งซ้ายมือ
ลานจอดรถของสำนักงานขายโครงการค่ะ
สำนักงานขายโครงการ สร้างเสร็จพร้อมให้เข้าชมเรียบร้อยแล้ว โดย Open house ไปแล้วในวันที่ 3-4 ก.พ.61 ที่ผ่านมา ปัจจุบันก็ขายออกไปอย่างรวดเร็วกว่า 90% ของจำนวนยูนิตโครงการแล้วค่ะ ใครสนใจแนะนำให้แวะมาเยี่ยมชมสอบถามรายละเอียดได้ที่สำนักงานขายเลย เพราะมาค่อนข้างง่ายมาก จะนั่งรถไฟฟ้ามาลง BTS เอกมัย เดินเข้าซอยมา ดูบรรยากาศในซอยไปด้วยหรือจะขับรถมาก็สบายๆค่ะ
ทางเดินไปสู่สำนักงานขายปลูกต้นไม้ไว้ร่มรื่นทั้งสองฝั่งข้างทาง
สำนักงานขายจะตกแต่งมาใน mood&tone เดียวกันกับโครงการเลยนะคะ ถ้าอยากรู้ว่าบรรยากาศโครงการจะเป็นประมาณไหนก็ให้ดูการตกแต่งของสำนักงานขายค่ะ
เข้ามาดูภายในสำนักงานขายกันต่อค่ะ สำนักงานขายโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. ภายในจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย ที่นั่งรับรองลูกค้า ส่วน Presentation โครงการ และห้องตัวอย่างให้เข้าชมกันได้ค่ะ ภายในตกแต่งมาในสไตล์คลาสสิคที่มีรายละเอียดที่สร้างความหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีทองผสมกับเส้นสีดำและขาว พร้อมลวดลายของหินอ่อน และการใช้ไฟซ่อนเพิ่มมิติให้มุมมองมากขึ้น
ส่วนรับรองลูกค้าเป็น Space ที่สวยมาก จำลองมาจากส่วน Lobby ของโครงการค่ะ เพดานสูงโปร่งแบบ Double Volume ให้ความรู้สึกโอ่โถง หรูหรา และเปิดรับวิวสวนภายนอกได้กว้างขึ้น จะเห็นว่าจุดเด่นกลางห้องเลยคือการดึงเอาธรรมชาติเข้ามา โดยสร้างผนังกระจกทรงโค้งล้อมรอบสวน ที่ปลูกต้นไม้มาเขียวสดใส และเจาะรูที่เพดาน รับแสงธรรมชาติเข้ามาจริงๆอย่างที่เห็น
ภายในสำนักงานขายจัดพื้นที่รับรองมาให้หลายจุดทีเดียว
นอกจากนี้ จะมีห้องพร้อมโมเดลโซนทองหล่อเอกมัยที่ตั้งโครงการ พร้อมจอ Projector ฉาย Presentation โครงการ
คือดูสนุกดีค่ะ ชอบการเชื่อมโยงแสงสีเสียงระหว่างโมเดลที่ตั้งโครงการกับจอ Projector แบบนี้
ถ่ายให้ดูที่โมเดลใกล้ๆให้เห็นจะเห็นว่าโครงการ มี 2 อาคาร เป็นรูปตัว L ล้อมพื้นที่ส่วนกลางตรงกลางไว้ ทางเข้าหลักโครงการคือทางถนนสุขุมวิท 61 ที่เราพาไปชมบรรยากาศรอบๆกันมานั่นเอง
มาดูผังโครงการกันต่อค่ะ เริ่มจากชั้น 1 หรือ Master Plan กันก่อน อย่างที่เห็นจากโมเดลนะคะว่าโครงการมี 2 อาคาร เป็นอาคารรูปตัว L หันหน้าเข้าหากัน ล้อมสวนและพื้นที่ส่วนกลางตรงกลางเอาไว้เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัว และวิวฝั่งด้านในอาคารที่สวยงามจากพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าวิวนอก (สังเกตได้จากการจัดยูนิตที่มีขนาดห้องใหญ่กว่าหันไปทางวิวสวนภายในโครงการ) เนื่องจากโครงการเป็นอาคารสูง 7 ชั้น วิวรอบๆจึงมองออกไปไม่ได้ไกลเหมือนอาคารสูงที่มักเน้นวิวเมืองมากกว่า
จากถนนสุขุมวิท 61 เข้ามาในโครงการ ผ่านซุ้มโครงการเข้ามาจะเป็นส่วน Drop-Off ซึ่งมีทางเดินเชื่อมไปยังทางเข้า Lobby อาคาร A และ B สำหรับที่จอดรถ ที่อาคาร A มีที่จอดรถอัตโนมัตให้จอดรถแล้วเข้า อาคารได้เลย ส่วนที่จอดรถปกติจะอยู่ที่ชั้นใต้ดิน โดยทางลงอยู่ที่อาคาร B และมีจุด EV Charger มาให้ 2 จุดด้วยกัน
สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง ที่หน้าอาคาร B จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งระบบเกลือขนาด 32 x 20 เมตรอยู่ อาคาร B จะมีวิวสระ พร้อมมียูนิตแบบ Pool Access หรือยูนิตที่เดินลงสระ 4 ยูนิตด้วยกัน และห้องพักอาศัยในชั้นล่างสุดล้อมรอบด้วยวิวสวนที่ปลูกต้นไม้ไว้ร่มรื่น ทำให้ชั้นล่างนี้จัดว่าน่าอยู่ทั้งวิวนอกและวิวในค่ะ ส่วนตัวชอบวิวนอกของอาคาร B ค่ะ เพราะได้วิวสวนที่มีความเป็นส่วนตัวกว่าวิวสระ
ส่วนอาคาร A จะเป็นวิวสวนส่วนกลาง และพื้นที่ส่วนกลางหลักๆอยู่ภายในอาคาร A เกือบทั้งหมด ประกอบด้วย ห้องโยคะ, ห้องฟิตเนส และมี Onsen มาด้วย เอาใจผู้เช่าญี่ปุ่นที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของย่านนี้ คนที่อยู่อาคาร A จึงสามารถเข้าถึงส่วนกลางหลักๆได้ง่ายกว่า แต่มีการแยกส่วนทางเข้าโถงลิฟต์ขึ้นส่วนยูนิตที่พักอาศัยมา โดยต้องสแกนการ์ดผ่านเข้าไปไม่ปะปนกันเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของคนในอาคาร A นั่นเอง
ภาพบรรยากาศจำลองส่วน Drop off ของโครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 ค่ะ พื้นที่สีเขียวหรือ Landscape ของโครงการออกแบบโดย t.r.o.p บริษัทออกแบบ Landscape ชื่อดังที่ทำโครงการระดับประเทศมามากมาย โดยบรรยากาศในสวนกว่า 1 ไร่ในโครงการได้แรงบันดาลใจมาจากสวนใน Manhattan จาก New York ซึ่งเป็นสไตล์คลาสสิคที่ดูหรูหราและร่มรื่น
ภาพบรรยากาศจำลองพื้นที่ส่วนกลาง บริเวณสระว่ายน้ำ และ สวนพักผ่อน ที่หน้าอาคาร B จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งระบบเกลือขนาด 32 x 20 เมตรอยู่ ข้อดีของการจัดพื้นที่ส่วนกลางไว้ตรงกลาง นอกจากทำให้ยูนิตวิวด้านในได้วิวส่วนกลางที่สวยงามแล้ว ตัวอาคารเองยังให้ร่มเงากับพื้นที่ส่วนกลางด้วยค่ะ
จากภาพ มองไปที่ชั้น 4-5 จะเห็นยูนิตพิเศษเป็นกระจกทรงโค้งที่รับวิวสระและสวนได้กว้างขวาง ตรงกลางระหว่างกระจกทรงโค้งเป็นสวนบนอาคาร จะเห็นว่าปลูกต้นไม้ใหญ่มาด้วย
ภาพบรรยากาศจำลองพื้นที่ส่วนกลาง บริเวณสระว่ายน้ำ โดยยูนิตด้านในของอาคาร B จะได้วิวสระ พร้อมมียูนิตแบบ Pool Access หรือยูนิตที่เดินลงสระ 4 ยูนิตด้วยกัน ด้านในอาคารอีกฝั่งของอาคาร B เป็นส่วน Lobby เพดานสูงวิวสระว่ายน้ำและสวนรอบสระ พื้นสระกรุด้วยหินกาบชื่อ Silver Slate ที่ส่องประกายระยิบระยับเพราะมีส่วนเงาวาวแบบ Glitter ในเนื้อหิน นอกจากนี้ยังมีความแข็งแรงทนทานไม่สึกกร่อนง่ายๆ
ภาพบรรยากาศจำลองส่วน Lobby เพดานสูงของโครงการ จะเห็นว่าทางเข้าเป็นกระจกบางสูงตีเฟรมสไตล์คลาสสิค และมีขอบโค้งมนดูหรูหรา เปิดรับวิวสวนและพืชพรรณไม้ที่ร่มรื่นรอบๆโครงการ
ภาพบรรยากาศจำลองห้องฟิตเนส ผนังฝั่งนึงเป็นกระจกใสเปิดรับวิวสวน อีกฝั่งเป็นกระจกเงาเอาไว้ให้ส่องดูท่ากันได้ เครื่องเล่นจัดมาให้สองฝั่งโดยจัดลู่วิ่งไฟฟ้าและเครื่องปั่นจักรยานไว้วิวสวน และเวทเทรนนิ่งหรือสายเพาะกล้ามไว้ฝั่งกระจกเงา
ภาพบรรยากาศจำลองห้องซาวน่า และ ออนเซ็นของโครงการ จะเห็นว่ามีขนาดกว้างขวางและแบ่งฝั่งชายหญิง เป็นฟังก์ชั่นที่นอกจากจะดึงดูดคนญี่ปุ่นที่มีมากในย่านนี้แล้ว คนไทยเองด้วยกันก็น่าจะชอบค่ะ เพราะกว้างขวางไม่อึดอัด และมีความเป็นส่วนตัวและเป็นสัดส่วนกว่าที่จะจัดส่วนออนเซนไว้กลางแจ้งหรือข้างสระว่ายน้ำอย่างโครงการส่วนมาก
ผังอาคารชั้น 2 จะมีความหนาแน่นยูนิตต่ำกว่าชั้นบน เนื่องจากมีพื้นที่ส่วนที่เว้นไว้สำหรับ Lobby เพดานสูงของชั้น 1 นั่นเอง อาคาร A มีจำนวนยูนิตอยู่เพียง 9 ยูนิต ทำให้ยูนิตฝั่งทิศตะวันออก หันไปทางฝั่งซอยเอกมัยมีจุดขายหลายอย่าง คือนอกจากความหนาแน่นต่ำ ไม่เจอวิวตึกสูงบังเพราะหันไปทางถนนภาระจำยอมของโครงการ ถัดไปก็เป็นกลุ่มบ้าน 1-2 ชั้น แถมยังได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor และมีสวนหย่อมคั่นกลางระหว่าง 2 ยูนิตอีกด้วย ส่วนอีกฝั่งทางทิศเหนือของอาคาร A เป็นห้องขนาดใหญ่ขึ้นเพราะใช้รับวิวสระและสวนของโครงการได้
อาคาร B มีจำนวนยูนิต 14 ยูนิต วิวนอกเป็นห้องขนาดเล็ก เน้นเป็นห้อง 1 Bedroom (ยูนิตสีเทา) โดยยูนิตฝั่งทิศใต้ของอาคาร B ได้โถงทางเดินเป็นแบบ Single Corridor เช่นกัน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวและสามารถมองวิวจากสระว่ายน้ำได้จากโถงทางเดิน ส่วนยูนิตวิวด้านในหรือวิวสระมีห้อง Duplex หรือห้องแบบ 2 ชั้นอยู่ 3 ห้อง ล้วนหันเข้าหาวิวสระว่ายน้ำ
ผังอาคารชั้น 3, 6, 7 นั้นจัดผังเหมือนกัน โดยจุดเด่นคือมีห้อง Penthouse หรือห้องหน้ากว้างถึง 20 ม. เป็นยูนิตไฮไลท์ที่เป็นห้องตัวอย่างของโครงการ ซึ่งห้อง Penthouseทั้ง 4 ห้องหันมาทางวิวด้านในที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด ส่วนห้องขนาดเล็กส่วนใหญ่เป็นวิวด้านนอกค่ะ โถงทางเดินจัดผังแบบ Double Corridor หรือแจกเข้าห้องทั้งสองฝั่ง
ผังอาคารชั้น 4-5 มียูนิตพิเศษคือมีห้องกระจกทรงโค้งที่รับวิวสระและสวนได้กว้างขวาง ตรงกลางระหว่างกระจกทรงโค้งเป็นสวนบนอาคาร จะเห็นว่าปลูกต้นไม้ใหญ่มาด้วย ให้เราได้พักผ่อนท่ามกลางสวนที่ร่มรื่นอย่างเต็มที่
ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้องชุดพักอาศัย
ภาพบรรยากาศจำลองภายในห้องชุดพักอาศัย
:: UNIT TYPE ::
โครงการ The Reserve สุขุมวิท 61 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 7 ชั้น ยูนิตรวมทั้งโครงการ 186 ยูนิต ขนาดห้องเริ่มต้น 30.75-138.80 ตร.ม. มีแบบห้องให้เลือก 5 แบบดังนี้
Studio – A1 30.75 ตร.ม. / Studio – A2 30.87 ตร.ม.
1 Bedroom-B1 : 35.91 ตร.ม.
Exclusive 1 Bedroom-B2 : 48.54 ตร.ม.
Exclusive 1 Bedroom Plus-B3 : 47.61 ตร.ม. / Exclusive 1 Bedroom Plus-B4 : 48.55 ตร.ม.
Exclusive 2 Bedrooms-C2 : 62.61 ตร.ม.
Sky Courtyard-C6 : 69.15 ตร.ม.
Villa-D1 : 157.60 ตร.ม.
ห้องตัวอย่าง
ห้องตัวอย่างของโครงการเป็นห้องแบบ Penthouse ขนาด 125.44 ตร.ม. ความพิเศษคือเป็นห้องชุดที่มีหน้ากว้างถึง 20 เมตร ให้ความรู้สึกโอ่โถง กว้างขวาง และรับแสงสว่างจากธรรมชาติได้ดีทำให้ห้องโปร่ง พร้อมขนาดพื้นที่ใช้สอยที่เยอะ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากกว่าอยู่คอนโดซะอีก ห้องชุดในโครงการขายแบบ Fully Furnished ด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าเรียบหรูยกชุดจาก Chanintr, ชุดสุขภัณฑ์ จาก Villeroy & Boch แบรนด์เดียวกับที่ทำสุขภัณฑ์ส่งพระราชวังแวร์ซาย โดยเป็นชุดสุขภัณฑ์ที่เคลือบสาร Anti Bacteria ในตัว และชุดครัวของ Gorenje จากดีไซเนอร์ชั้นนำของโลกอย่าง Philippe Starck
ภายในห้องจัดพื้นที่ส่วน Public อย่าง ชุดครัวพร้อม Island ดีไซน์ละเอียดหรูหรา, ห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหารติดระเบียงอยู่ตรงกลาง พร้อมส่วน Service อย่าง ห้องน้ำแบบ Powder room, ห้องเก็บของ และห้องซักรีดไว้ในตำแหน่งใกล้พื้นที่ส่วนกลางของห้อง ทำให้ใช้งานได้สะดวกสบาย
ห้องนอน 2 ห้องที่ได้มีขนาดใหญ่ และมีห้องน้ำในตัวทั้งคู่นะคะ ชอบที่จัดห้องนอนไว้คนละฝั่งกัน ทำให้แต่ละห้องได้ความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น ห้องนอนเล็กนี่วางเตียงคู่ได้สบายๆ พร้อมมีมุม Walk in closet และห้องน้ำในตัวพร้อม
ห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom จัดเต็มแบบ Full option ด้วยห้องน้ำแบบ Full bath คือมีอ่างอาบน้ำ ห้องอาบน้ำ และห้องโถสุขภัณฑ์ในตัวแบบฝาอัตโนมัติ Washlet พร้อม Walk in closet ที่จัดว่าให้มาใหญ่และหรูหราเลยค่ะ สำหรับคอนโดมิเนียมแบบนี้ เป็น Built in ตู้เสื้อผ้าที่ให้มาเยอะและใส่ใจรายละเอียด ทำมาให้แม้กระทั่งถาดบุกำมะหยี่สำหรับเก็บนาฬิกาและเครื่องประดับ พร้อมมีระเบียงในตัวและมุมสำหรับนั่งอ่านหนังสือหรือจัดเป็นมุมทำงานในห้องได้แบบกำลังดี
ภายในห้องจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
ประตูห้องตัวอย่างเป็นแบบเดียวกันกับของจริงที่ได้ค่ะ คือเป็นประตูบานใหญ่พิเศษได้ตามที่เห็น มีความพิเศษคือเป็น Ventilation Door หรือประตูระบายอากาศได้ มีตาแมวไว้ส่องคนมาเคาะพร้อม Digital Doorlock ติดตั้งมาให้เรียบร้อย
ส่วนบนผนังฝั่งซ้ายมือของบานประตูในภาพ เป็น VDO Door Phone ซึ่งจริงๆจะอยู่ที่ Lobby ชั้นล่าง สำหรับให้ผู้มาเยี่ยมใช้กดเลขห้องที่มาเยี่ยม โดยเชื่อมต่อกับ VDO Door Phone ภายในห้องชุด ซึ่งเราสามารถกดเปิดประตูล็อบบี้ชั้นล่างเพื่อรับแขกที่มาเยี่ยมให้เข้ามานั่งพักผ่อนรอเราที่ล็อบบี้ภายในอาคารได้ค่ะ แต่ผู้มาเยี่ยมไม่สามารถเดินขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องของลูกบ้านได้ เพราะลิฟต์ในโครงการเป็นลิฟต์ล็อกชั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของคนในโครงการอีกชั้นนึงนั่นเอง
แถบอลูมิเนียมสีน้ำตาลที่ประตูทางเข้า เป็นการออกแบบให้เป็นประตูที่สามารถระบายอากาศได้ ทำให้กลายเป็นประตูแบบ Ventilation Door ที่สามารถเปิดปิดช่องระบายอากาศได้จากด้านในห้องได้ และมีผลให้ช่วยระบายอากาศได้ดีกว่าห้องพักโดยทั่วไป ซึ่งก็ช่วยระบายอากาศและถ่ายเทความร้อนออกจากห้องพักได้ดีขึ้นเยอะ แถมเวลาเปิดแอร์ก็ปิดช่องระบายอากาศไว้ได้ด้วย
มือจับประตูเป็นแบบ Digital Door Lock ของ Yale ค่ะ ภาพซ้ายมือคือฝั่งประตูเข้าห้องด้านนอก เข้าห้องได้ 3 แบบตามชอบทั้ง 1. กดรหัสผ่านเข้าห้อง 2. แตะตีย์การ์ด 3. ไขกุญแจเข้ามาแบบ Manual ส่วนภาพขวามือคือฝั่งด้านในห้องนะคะ เวลาจะออกก็กดปุ่มและเปิดออกมา ช่วยเสริมความปลอดภัยให้อีกขั้นและใช้งานได้สะดวกสบายดี
เปิดเข้าห้องมาจะเจอส่วนพื้นที่ของครัวก่อน มองตรงถัดไปเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ฝ้าเพดานของจริงจะเป็นฝ้าเพดานฉาบเรียบและไฟดาวน์ไลท์ ในห้องตัวอย่างทำฝ้าเพดานพร้อมไฟซ่อนมาให้ดูเป็นไอเดีย
จากห้องนั่งเล่นมองไปที่ประตูทางเข้าห้อง เพดานห้องสูง 2.7 เมตรซึ่งถือว่าให้มาสูงโปร่งเลย แต่ส่วนครัวนี่จะดรอปฝ้าลงมาประมาณ 2.4 เมตร และติดแอร์ซ่อนฝ้ามาให้ได้ตามนี้ ไฟติดเพดานเป็นไฟดาวน์ไลท์
ผนังข้างประตูทางเข้าห้องจะมี VDO Door Phone จาก Bticino โดยเชื่อมต่อกับ VDO Door Phone ที่ Lobby ชั้นล่างสำหรับให้ผู้มาเยี่ยมใช้กดเลขห้องที่มาเยี่ยม ซึ่งเราสามารถกดเปิดประตูล็อบบี้ชั้นล่างเพื่อรับแขกที่มาเยี่ยมให้เข้ามานั่งพักผ่อนรอเราที่ล็อบบี้ภายในอาคารได้ค่ะ
ติดกับประตูทางเข้าห้องจะเป็นประตูห้องเก็บของที่มีชั้นที่เป็นที่เก็บรองเท้าได้ด้วย
ภายในห้องเก็บของมี Built in ชั้นวางของมาให้ฝั่งนึงของผนัง ทำมาให้สูงจรดเพดานและมีชั้นวางของเยอะทีเดียวค่ะ ใช้วางรองเท้า อุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์ทำความสะอาดห้อง หรือกระเป๋าเดินทางได้เหมาะดี สามารถทำบานปิดตู้เพิ่มได้นะคะ มีระยะเปิดปิดพอ ภายในห้องติดไฟดาวน์ไลท์พร้อมมีพัดลมดูดอากาศช่วยถ่ายเทอากาศมาให้เรียบร้อย
หน้าห้องเก็บของมี Built in ชั้นวางรองเท้า ชั้นเก็บของพร้อมหน้าบานปิดไฮกลอสสีขาวครีมมาให้เรียบร้อย เปิดให้ดูจะเห็นว่าเก็บของและเก็บรองเท้าได้เยอะทีเดียว
พื้นส่วนครัวเป็นพื้นกระเบื้อง Porcelain ลายหินอ่อนสีเทาขีดขาว พื้นส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นเป็นพื้นไม้ Engineering Wood โดยมีความพิเศษคือปูเป็นลายแบบก้างปลาแบบที่เรียกว่าลาย Herringbone ซึ่งเป็นลายที่ใช้เทคนิคในการปูยากกว่าการปูพื้นแบบปกติ เป็นอีกดีเทลที่เพิ่มความหรูหราและพิเศษให้กับตัวห้อง
ถัดมาเป็นส่วนครัวพร้อม Island ซึ่งทำ Built-in มาให้ของจริงได้ตามนี้เลย หน้าบานที่เป็นสีเงินๆนี่กรุกระจกลอนมาให้ลุคที่ดูหรูหรา พร้อมดีเทลต่างๆที่น่าสนใจ ล้ำๆและหรูหรามากมายหลายส่วน เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ
จะเห็นว่าระยะใช้งานเปิดปิดตู้เก็บของและลิ้นชักกับหน้าบาน Island มีระยะพอเปิดตู้แต่ละฝั่งและเดินไปมาได้แบบกำลังดี ถึงเปิดพร้อมกันหน้าบานก็ไม่ชนกันอย่างที่เห็นในภาพค่ะ ส่วนชุดครัวและ Island ท้อปเป็นหิน Quartz สีครีม ซึ่งหินควอตซ์เป็นหินที่มีความแข็งแรงสูงมาก ทำให้ทนทานต่อการใช้งานครัว เกิดรอยขีดข่วนได้ยาก
มาดูส่วน Island กันก่อนค่ะ ส่วน Island ทำมาให้ขนาดกว้างกำลังดี ใช้ทำอาหารได้แบบกำลังเหมาะ ด้านบน Island ประกอบด้วยอ่างล้างจานและช่อง Bench Drain ด้านล่างมีชั้นเก็บของพร้อมบานปิด
Bench Drain เป็นช่องไว้สำหรับพักแก้วและจานชามหลังล้างเสร็จ ความพิเศษคือพอเปิดตะแกรงมาจะเห็นว่าเจาะช่องระบายน้ำมาให้ระบายน้ำได้เลย สะดวกมากค่ะเวลามีปาร์ตี้ เราเทน้ำแข็งลงไปแล้วใช้แช่ขวดแชมเปญ, ไวน์ หรือเบียร์ได้แบบกำลังเหมาะ พอใช้งานเสร็จ น้ำแข็งละลายก็ลงช่องระบายน้ำไปได้เลยนั่นเอง
ถัดมาเป็นส่วนอ่างล้างจาน แบรนด์ Blanco วัสดุทำจากหินแกรนิตาสีเทา ที่มีความทนทานสูงต่ออุณหภูมิทั้งร้อนและเย็น พิเศษคือติดตั้งมาพร้อมก็อกน้ำโครเมียมทรงโค้งที่มีความพิเศษคือเปิดปิดด้วยระบบสัมผัสอย่างที่เห็นในภาพ สะดวกกว่าหมุนเปิดหรือผลักก้านโยกเปิดไปอีกขั้น
มีความล้ำอีกอย่างที่ช่องเก็บของด้านล่างอ่างล้างจานค่ะ คือ มีการติดตั้ง Food waste Disposer หรือเครื่องกำจัดเศษอาหารมาให้ อันนี้ไม่ค่อยเห็นในไทยใช้กันนะคะ ต่อให้เป็นโครงการระดับซุปเปอร์ลักซัวรี่ก็ไม่ค่อยเห็นฟังก์ชั่นนี้มากนัก ข้อดีคือเศษอาหารที่ตกลงไปในท่ออ่างล้างจานนี่ปกติเราต้องเขี่ยออกมาใส่ถุงขยะต่างหาก แต่พอมีเครื่องนี้เราไม่ต้องเขี่ยเศษอาหาร แต่สามารถเขี่ยลงท่อไปเลยจากนั้นกดสวิชต์เครื่องกำจัดเศษอาหารที่ด้านล่างอ่างจานได้เลย
เมื่อเศษอาหารผ่านตัวเครื่องกำจัดเศษอาหารแล้วทุกอย่างจะกลายเป็นเพียงเศษผุยผงขนาดเล็กที่นอกจากจะทำให้ท่อไม่อุดตันแล้ว เมื่อปล่อยลงไปตามท่อน้ำทิ้งต่างๆแล้วแทบจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้เลย และยังแก้ปัญหาการที่เราจะต้องเทเศษอาหารที่เหลือทิ้งในถุงหรือในวัสดุอื่นเพื่อนำไปทิ้งในถังขยะหรือในแหล่งต่างๆที่ทั้งยุ่งยากและสกปรกเลอะเทอะอยู่เสมอได้ด้วยนั่นเอง
มาดูส่วนชุดครัวกันต่อค่ะ หน้าบานที่เป็นสีเงินๆนี่กรุกระจกลอนมา ให้ลุคดูหรูหรา พร้อมท้อปหินควอตซ์สีครีมเข้าชุดกันกับส่วน Island โดยทำ Built in ชุดครัวมาให้สูงจรดเพดาน เราเปิดชุดครัวให้ดูภายในช่องเก็บของบนล่าง ทำชั้นเก็บของมาให้เยอะดี หน้าบานทุกตัวติด Soft closed มาให้ เปิดปิดไม่มีเสียงดังปึ้งปั้ง และเว้นช่องไว้ให้วางตู้เย็นเรียบร้อย
ส่วนตู้เก็บของด้านบน เนื่องจากเพดานสูง เวลาเราเอื้อมเก็บของชั้นบนๆ อาจไม่ค่อยสะดวกนัก ชั้นเก็บของของชุดครัวจึงเป็นแบบ Pull down หรือเป็นชั้นที่มีโช้คยกขึ้น-ลงได้ เวลาใช้งานจะมีมือจับให้ดึงชั้นลงมา ใช้งานเสร็จก็ผลักชั้นขึ้นไปเท่านั้นเอง พร้อมออกแบบมาอย่างแข็งแรงทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี
ถัดมาเป็นตู้เก็บของ เปิดด้านในให้ดูจะเห็นว่ามีที่ให้เราใช้เก็บอาหารและเครื่องปรุงต่างได้ดี และที่หน้าบานมีราวติดมาให้แขวนนู่นนี่นั่นได้
เตาไฟฟ้าเป็นแบบ 4 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน ทั้งคู่มีดีไซน์เข้าชุดเรียบง่ายแต่ดูล้ำยุคอย่างมีระดับจากแบรนด์ Gorenje (ออกเสียงว่า โก-เอน-ย่า ในภาษาสโลวีเนียน) ที่ออกแบบโดย Philippe Starck นักออกแบบระดับโลกชาวฝรั่งเศส
เครื่องดูดควันที่โดนเด่นไม่เหมือนใครนี้วางระนาบกระจกเอียง 47 องศาจากแนวระนาบบนเคาน์เตอร์ครัว ทำให้เกิดภาพสเมือนแสดงการปรุงอาหารบนเตาไฟฟ้าที่สะท้อนขึ้นเมื่อมองจากระยะไกลและเมื่อไม่เปิดใช้งาน หน้ากระจกของเตาไฟฟ้าที่ถูกออกแบบให้ดูเรียบเช่นกันก็สะท้อนให้เห็นภาพเตาที่ลงตัว
ด้านล่างเตาไฟฟ้ามีเตาอบแบบผสม ที่ใช้ได้ทั้งแบบไมโครเวฟอุ่นอาหาร หรือเตาอบปรุงอาหาร โดยฝังเข้ากับเคาน์เตอร์ให้เรียบร้อย จากแบรนด์ Gorenje โดย Philippe Starck เช่นกัน ซึ่งหน้าบานเตาอบเป็นกระจกเข้าชุดกันกับเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน
ถัดมาเป็นลิ้นชักที่เปิดพร้อมกันทั้งชั้นบนและล่าง โดยด้านบนมีช่องแบ่งสำหรับวางช้อนส้อมและอุปกรณ์ต่างๆมาให้เรียบร้อยของจริงได้ตามนี้ ส่วนชั้นล่างใช้วางจานชามได้กำลังเหมาะ
ถัดมาเป็นลิ้นชักแบบสามชั้น จะเห็นว่ามีช่องแบบสำหรับเก็บของมาให้เช่นกัน กรุผิวลายไม้มาให้ แบ่งช่องเป็นสัดส่วนใช้วางอุปกรณ์และเครื่องปรุงประกอบอาหารหรือของกระจุกกระจิกได้ดี
ถัดจากส่วนครัวจะมีประตูห้องซักรีดอยู่
ภายในห้องซักรีดทำ Built-in ชั้นวางของสูงจรดเพดานมาให้หลายชั้น และเว้นช่องไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าและเครื่องปั่นอบผ้ามาให้เรียบร้อย ชอบที่มีช่องพร้อมราวสำหรับแขวนเสื้อ พร้อมมีโต๊ะรีดผ้าแบบพับเก็บได้มาให้เลยด้วยค่ะ เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยนั่นเอง
ถัดมาเรามาดูส่วนห้องนั่งเล่นกันต่อ พื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นกว้างถึง 6 ม. เรียกว่ากว้างกว่าห้องนั่งเล่นในบ้านเดี่ยวอีกค่ะ ทำให้สามารถจัดระยะใช้งานได้พอดีๆและสบายๆ โดยจัดชุดโซฟา ชั้นวางทีวี โต๊ะข้าง โต๊ะกาแฟมาให้ดูระยะใช้งานสบายๆ โดยมีระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 3 เมตร เป็นระยะที่ติดตั้งทีวีจอใหญ่ได้เต็มที่ 70 – 80 นิ้วสบายๆ
มองไปทางฝั่งชั้นวางทีวี ห้องตัวอย่างทำ Built in กรุกระจกเงาและตกแต่งผนังมาให้ดูเป็นไอเดีย
ห้องนั่งเล่นจัดโซฟาแบบ 3 ที่นั่งพร้อม โต๊ะข้าง โต๊ะกาแฟ และอาร์มแชร์มาให้ด้วยการคุมโทนสีที่ดูสบายตาอย่าง ขาว ครีม เบจ ด้านหลังมีเสาที่กั้นระหว่างส่วนห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น ที่ทำหน้าที่เป็นผนังไปในตัว ชอบที่ห้องกินข้าวกับห้องนั่งเล่นส่วนนี้มีพื้นที่เชื่อมต่อกัน แต่มีผนังกั้นอยู่ส่วนนึงแบบนี้ค่ะ สร้างความรู้สึกเป็นสัดส่วนได้ดี
พื้นที่ระหว่างส่วนห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นค่ะ จะเห็นว่าส่วนด้านหลังโซฟาก่อนถึงเสามีพื้นที่พอวางโต๊ะทำงาน หรือมินิบาร์ได้แบบกำลังเหมาะอีกด้วย
ส่วนหน้าต่างที่ได้จะเห็นว่ามีการตีเฟรมสไตล์คลาสสิคสูงจรดเพดานแบบ Full Height อันนี้เจ้าหน้าที่บอกมานะคะ ว่าของจริงมีการตีเฟรมหน้าต่างในรูปแบบที่เห็นนี้ แต่กรอบนอกที่หนาๆของหน้าต่างจะถูกปรับให้เพรียวบางกว่าที่เห็นในห้องตัวอย่าง เพื่อให้รับแสงธรรมชาติได้มากขึ้นนั่นเอง
ถัดมาเรามาดูส่วนห้องรับประทานอาหารกันต่อค่ะ จะอยู่ติดประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้
จัดมาเป็นโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 6 ที่นั่งกำลังพอเหมาะกับพื้นที่ มีระยะถอยเก้าอี้เข้าออกได้สบายๆ
จากห้องรับประทานอาหารจะมีประตูบานเลื่อนแบบ 2 บาน กรอบอลูมิเนียมตีเฟรมสไตล์คลาสสิคเข้าชุดกันกับหน้าต่าง ลูกฟักกระจกเขียวตัดแสง เปิดออกไประเบียงได้ พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องผิวด้านสีเทาอ่อน พร้อมราวกันตกกระจกเทมเปอร์กรอบอลูมิเนียม ขนาดระเบียงกว้างพอวางเก้าอี้พร้อมโต๊ะสำหรับนั่งจิบชาชมสวนไปด้วยได้สบายๆ
ที่ระเบียงจะมีแผงเป็นระแนงกั้นส่วนแอร์คอมเพรสเซอร์เอาไว้เรียบร้อย สามารถใช้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดได้ด้วยค่ะ ที่ผนังระเบียงติดเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้เรียบร้อย ที่ผนังระเบียงนี้มีความพิเศษคือกรุด้วยหินไลม์สโตน (Limestone) เหมือนในโครงการจริงที่จะกรุผิวอาคารชั้น 1 และ 2 ด้วยหินไลม์สโตน ซึ่งเป็นวัสดุที่นิยมในงานสถาปัตยกรรมและการก่อสร้างระดับโลก เพราะได้ชื่อว่าเป็นหินที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นปิระมิด, ตึกเอ็มไพร์สเต็ท หรือทำเนียบขาว และปัจจุบันก็ยังเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมแพร่หลายในยุโรปและอเมริกา
หินไลม์สโตนจัดอยู่ในกลุ่มหินปูนที่มักเกิดขึ้นในทะเล เนื้อหินมีความละเอียด หนาทึบ แข็งและเปราะในส่วนผิว ที่มีลักษณะเฉพาะที่เรียกว่า Cracked surface ที่ไม่เรียบมัน หินไลม์สโตนจึงนิยมในการปูพื้นที่กึ่งภายนอก หรือภายนอก เพราะเชื่อว่าหินไลม์สโตนมีคุณสมบัติที่ดีในการเป็นฉนวนกันความร้อน ช่วยรักษาระดับอุณหภูมิไม่ให้หนาวเกินไปในฤดูหนาว และไม่เก็บความร้อนในฤดูร้อน หินไลม์สโตนจึงนิยมในการกรุตกแต่งผนังเช่นกัน
วิวสวนจากระเบียงค่ะ
จากส่วนห้องรับประทานอาหารจะมีประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่
ห้องน้ำในโครงการเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room คือไม่มีส่วนห้องอาบน้ำ แต่จะมีอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์มาให้ พร้อมเคาน์เตอร์ได้ตามที่เห็น
ผนังปูกระเบื้องลายหินอ่อนสีเทาขีดขาวเข้ากับพื้นมาให้ จรดเพดานและติดไฟดาวน์ไลท์มาเรียบร้อย มีการซ่อนไฟมาให้ดูหรูหราขึ้นด้วย ของจริงได้ตามนี้
ตัวอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาที่เปิดออกมาเป็นที่เก็บของด้านในได้ และชั้นวางของใต้อ่างพร้อมบานปิดของจริงได้ตามนี้ ผนังฝั่งขวามือของอ่างล้างมือติดเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้
เคาน์เตอร์อ่างล้างมือทำมาให้เต็มความกว้างผนัง โดยส่วนใกล้โถสุขภัณฑ์จะลดระดับลงไปตามที่เห็น แขกที่มาก็สามารถวางกระเป๋า หรือเราสามารถวางของตกแต่ง หนังสือ หรืออื่นๆได้เยอะดี
ชุดโถสุขภัณฑ์ จาก Villeroy & Boch แบรนด์เดียวกับที่ทำสุขภัณฑ์ส่งพระราชวังแวร์ซาย โดยเป็นชุดสุขภัณฑ์ที่เคลือบสาร Anti Bacteria ในตัว พร้อมสายฉีดชำระสแตนเลส
ไปดูห้องนอนเล็กกันต่อค่ะ ประตูห้องนอนเล็กจะอยู่ใกล้กับส่วนห้องน้ำและห้องรับประทานอาหาร
ห้องนอนเล็กนี่วางเตียงคิงส์ไซส์ 6 ฟุตได้สบายๆและจะมีห้องน้ำในตัวพร้อมมุม Walk in closet ด้วยค่ะ เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ
ปลายเตียงทำ Built in ชั้นวางทีวีมาให้ดูเป็นไอเดียและให้เห็นระยะใช้งานค่ะ ว่าสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บของได้ดี และยังเหลือระยะเดินสบายๆ
ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างวางโต๊ะข้างเตียงมาให้ดูระยะใช้งาน พร้อมเต้าเสียบปลั๊กไฟที่ผนังฝั่งหัวเตียงติดมาให้เรียบร้อย
หน้าต่างในห้องนอนเป็นหน้าต่างบานสูง พร้อมตีเฟรมมาให้สไตล์คลาสสิคแบบเดียวกันกับห้องนั่งเล่น ด้านบนเป็นหน้าต่างบานเปิด ด้านล่างเป็นหน้าต่างบานฟิกซ์
ข้างเตียงฝั่งติด Walk in closet วางโต๊ะข้างเตียงมาให้ดูระยะใช้งาน พร้อมเต้าเสียบปลั๊กไฟที่ผนังฝั่งหัวเตียงติดมาให้เรียบร้อย
มองไปทางฝั่ง Walk in Closet และทางเดินไปห้องน้ำในห้องนอนเล็ก ติดตั้งฉากกั้นห้องน้ำเป็นกระจกสีชาสไตล์ Sexy Bath เข้ากันกับหน้าบานตู้เสื้อผ้า ของจริงได้ตามนี้
ส่วน Walk in closet ประกอบด้วยตู้เสื้อผ้าหน้าบานกระจกสีชาที่ดูหรูหราเข้ากับส่วนห้องน้ำ และโต๊ะเครื่องแป้งขนาดกระทัดรัดพร้อมกระจกเงา เหลือระยะเดินและระยะใช้งานกำลังพอเหมาะ เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ
เปิดตู้เสื้อผ้าให้ดูพื้นที่เก็บของภายใน จะเห็นว่ามีราวแขวนเสื้อด้านบนและราวแขวนกางเกงและกระโปรงด้านล่างมาให้
ส่วนโต๊ะเครื่องแป้งถึงจะดูกะทัดรัดแต่ก็ Built in มาให้แบบใส่ใจรายละเอียดดีค่ะ จะเห็นว่ามีชั้นลอยมาให้ใช้วางของด้านบน และมีลิ้นชักใต้โต๊ะมาให้สองชั้น ลิ้นชักอันบนแบ่งช่องเก็บเครื่องประดับบุกำมะหยี่มาให้ของจริงได้ตามนี้
เข้าไปดูห้องน้ำในห้องนอนเล็กกันต่อ
ห้องน้ำทำขนาดมากำลังดีค่ะ แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆ กระเบื้องพื้นและผนังเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อนสีเทาขีดขาวขนาด 60 x 60 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องประมาณ 5 เซนติเมตร วัสดุสุขภัณฑ์เป็น Villeroy & Boch แบรนด์เดียวกับที่ทำสุขภัณฑ์ส่งพระราชวังแวร์ซาย โดยเป็นชุดสุขภัณฑ์ที่เคลือบสาร Anti Bacteria ในตัว แบบเดียวกันกับอีกห้อง
ผนังปูกระเบื้องลายหินอ่อนสีเทาขีดขาวเข้ากับพื้นมาให้ จรดเพดานและติดไฟดาวน์ไลท์มาเรียบร้อย มีการซ่อนไฟมาให้ดูหรูหราขึ้นด้วย ของจริงได้ตามนี้
ตัวอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาที่เปิดออกมาเป็นที่เก็บของด้านในได้ และชั้นวางของใต้อ่างพร้อมบานปิดของจริงได้ตามนี้
เคาน์เตอร์อ่างล้างมือทำมาให้เต็มความกว้างผนัง ทำให้เราสามารถวางของตกแต่ง หนังสือ หรือของใช้อื่นๆได้เยอะดี ผนังฝั่งขวามือของอ่างล้างมือติดเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้
ชุดโถสุขภัณฑ์ จาก Villeroy & Boch เป็นชุดสุขภัณฑ์ที่เคลือบสาร Anti Bacteria ในตัว พร้อมสายฉีดชำระสแตนเลส
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์สีชาวางบนธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับเป็นอลูมิเนียมรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ เป็นห้องอาบน้ำแบบ Sexy Bath ให้มุมมองห้องน้ำดูกว้างขวางขึ้นสามารถอาบน้ำไปดูทีวีไปด้วยได้ ใครไม่ชอบโป๊ไปก็ติดม่านหรือฟิล์มกระจกเพิ่มได้ค่ะ
ฝักบัวเป็นของ Villeroy & Boch เช่นกัน มีความพิเศษคือเป็นแบบ Thermostat ที่สามารถปรับและผสมอุณหภูมิน้ำร้อนเย็นได้ตามต้องการ เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวอาบน้ำให้เห็นขนาดใช้งานกำลังดี
ไปดูห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom อีกฝั่งกันต่อค่ะ ประตูห้องนอนใหญ่จะอยู่ใกล้กับส่วนห้องนั่งเล่น
เข้ามาในห้องนอนใหญ่จะเจอส่วน Walk in closet ก่อน จัดว่าทำ Built in ตู้เสื้อผ้ามาให้ใหญ่และหรูหราน่าใช้งานทีเดียว เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ
เริ่มจากชุดตู้เสื้อผ้า Built in ฝั่งติดประตูทางเข้าห้องกันก่อน
ทำตู้เสื้อผ้ามาให้เต็มความกว้างผนัง เปิดตู้เสื้อผ้าให้ดูพื้นที่เก็บของภายใน จะเห็นว่ามีราวแขวนชุดเดรส และเสื้อด้านบนและราวแขวนกางเกงและกระโปรงด้านล่างมาให้ และมีลิ้นชักมาให้หลายชั้น พร้อมติดกระจกเงาตรงกลาง พร้อมพื้นที่ใว้ให้วางของด้านบนได้อีก ความเจ๋งคือตู้เสื้อผ้าฝั่งซ้ายมือของภาพจะมีหน้าบานอีกฝั่งให้จากในห้องน้ำสามารถเปิดเพื่อหยิบเสื้อผ้าได้ด้วย
ฝั่งตรงข้ามตู้เสื้อผ้าเป็นโต๊ะเครื่องแป้งติดหน้าต่างบานสูงพร้อมที่นั่งมาให้เรียบร้อย
โต๊ะเครื่องแป้งมีระยะใช้งานกำลังพอดีๆ และมีที่ให้วางของเยอะ เราเปิดลิ้นชักให้ดู จะเห็นว่าส่วนท้อปของโต๊ะเครื่องแป้งฝั่งขวามือเปิดขึ้นมาเป็นกระจกเงาได้อย่างที่เห็น
ฝั่งซ้ายมือของโต๊ะเครื่องแป้งเป็นตู้เสื้อผ้าพร้อมชั้นเก็บของที่มีทั้งชั้นวางกระเป๋า และช่องแบ่งสำหรับเก็บเครื่องประดับ และจะเห็นว่าที่มุมของตู้เสื้อผ้าติดกับโต๊ะเครื่องแป้งมีตู้เย็นใบกะทัดรัดเอาไว้ให้แช่ครีมหรือมาส์กบำรุงผิวหรือน้ำแร่ได้อีกด้วย
ฝั่งขวามือของโต๊ะเครื่องแป้งเป็นตู้เสื้อผ้าพร้อมชั้นเก็บของที่มีทั้งชั้นวางกระเป๋า และช่องแบ่งสำหรับเก็บเครื่องประดับ หรือเสื้อผ้าหลายชั้น
ชอบที่ทำช่องแบ่งของบุกำมะหยี่มาให้เยอะ ไม่ว่าจะสาวๆที่มีกำไล สร้อยคอ แหวน หรือต่างหู หรือหนุ่มๆที่มีนาฬิกาหรือเนคไทก็ใช้จัดเก็บได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ของจริงได้ตามที่เห็น
ถัดจากส่วน Walk in closet เข้ามาเป็นส่วนเตียงนอนที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำแบบ Full Bath และมีประตูเปิดออกไประเบียงได้
ปลายเตียงทำ Built in ตกแต่งผนังเป็นช่องวางทีวีมาให้ดูเป็นไอเดียและให้เห็นระยะใช้งาน และยังเหลือระยะเดินไปมาได้อยู่ แนะนำติดทีวีแบบแขวนผนังเหมือนในห้องตัวอย่างค่ะ
ข้างเตียงฝั่งหน้าต่างมีมุมโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้ มาให้ใช้เป็นมุมทำงาน อ่านหนังสือหรือเช็คข้อมูลในคอมพิวเตอร์ก่อนนอนได้
ข้างเตียงติดมุมโต๊ะทำงานมีระยะใช้งานสบายๆ จะเห็นว่ามีพื้นที่พอวางโต๊ะข้างเตียงได้กว้างขวางดีค่ะ
มองไปทางฝั่งปลายเตียง จะมีประตูบานเปิด เปิดออกไประเบียงได้ ตีเฟรมสไตล์คลาสสิคเข้าชุดกันกับหน้าต่าง
พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องผิวด้านสีเทาอ่อน พร้อมราวกันตกกระจกเทมเปอร์กรอบอลูมิเนียม ขนาดระเบียงกว้างพอวางเก้าอี้พร้อมโต๊ะสำหรับนั่งจิบชาชมสวนไปด้วยได้สบายๆ และที่ระเบียงจะมีแผงเป็นระแนงกั้นส่วนแอร์คอมเพรสเซอร์เอาไว้เรียบร้อย สามารถใช้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดได้ด้วยค่ะ
วิวสวนจากระเบียงในห้องนอนใหญ่ ซึ่งอันนี้ขึ้นอยู่กับชั้นและทิศของห้องในโครงการจริงด้วยค่ะ ว่าหันไปทางวิวไหน
มองไปทางฝั่งทางเข้าห้องน้ำในห้องนอนใหญ่
ระยะข้างเตียงฝั่งนี้มีพื้นที่พอวางเก้าอี้แบบอาร์มแชร์ และโต๊ะข้างเตียงกว้างๆได้สบาย
ติดกับหน้าประตูทางเข้าห้องน้ำมีตู้เสื้อผ้า Built in พร้อมติดกระจกเงาและมีลิ้นชักวางของพร้อมช่องแบ่งเก็บของมาให้อีกจุดด้วย เรียกว่าให้แบบจัดเต็มจริงๆค่ะ
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่เป็นห้องน้ำแบบ Full Bath หรือห้องน้ำที่มีทั้งอ่างอาบน้ำ ห้องอาบน้ำ ห้องโถสุขภัณฑ์และเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ ห้องน้ำทำขนาดมากำลังดีค่ะ แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกมาให้ ระยะใช้งานกำลังสบายๆ กระเบื้องพื้นและผนังเป็นกระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อนสีเทาขีดขาวขนาด 60 x 60 เซนติเมตร พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 เซนติเมตร วัสดุสุขภัณฑ์เป็น Villeroy & Boch แบรนด์เดียวกับที่ทำสุขภัณฑ์ส่งพระราชวังแวร์ซาย โดยเป็นชุดสุขภัณฑ์ที่เคลือบสาร Anti Bacteria ในตัว แบบเดียวกันกับอีกห้อง
ตัวอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาที่เปิดออกมาเป็นที่เก็บของด้านในได้ และชั้นวางของใต้อ่างพร้อมบานปิดของจริงได้ตามนี้
เคาน์เตอร์อ่างล้างมือทำมาให้เต็มความกว้างผนัง ทำให้เราสามารถวางของตกแต่ง หนังสือ หรือของใช้อื่นๆได้เยอะดี ผนังฝั่งขวามือของอ่างล้างมือติดเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้
อ่างอาบน้ำเป็นอ่างสีขาวของ Lavenz ผนังด้านข้างอ่างอาบน้ำตกแต่งด้วยหินอ่อนสีดำขีดขาวBlack Forrest พร้อมไฟซ่อนที่เพดานได้ตามนี้
ขนาดอ่างอาบน้ำค่ะ ข้างอ่างจะมีฝักบัวพร้อมก๊อกน้ำติดตั้งมาให้เรียบร้อย
ฝักบัวและก็อกน้ำฝังมากับผนังหินอ่อน หน้าตาฝักบัวแบบเดียวกันกับห้องน้ำอีกห้อง
ตรงข้ามอ่างอาบน้ำเป็นตู้เสื้อผ้าบานเดียวกันกับที่เราเห็นใน Walk in closet ค่ะ คือสามารถเปิดตู้เสื้อผ้าจากในห้องน้ำได้ สามารถเปิดตู้หยิบเสื้อผ้ามาแต่งตัวในห้องน้ำได้เลย หรือมุดลอดออกไปจากห้องโดยไม่ผ่านส่วนเตียงนอนเหมือนประตูลับอีกบานก็ยังได้ เท่มากๆ หน้าบานตู้เสื้อผ้ากรุด้วยกระจกเงาเต็มบานให้ใช้แต่งตัวได้อีกด้วย
ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นห้องมาให้เป็นกระจกเทมเปอร์สีชาวางบนธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม. เพื่อกั้นระหว่างพื้นส่วนเปียกส่วนแห้ง มือจับเป็นอลูมิเนียมรูปตัว U ใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้
พื้นที่ภายในห้องอาบน้ำกว้างขวาง และมีการแยกท่อระบายน้ำส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย
ในห้องอาบน้ำนี้ที่เพดานติด Rain Shower มาให้ด้วยค่ะ
ฝักบัวเป็นของ Villeroy & Boch เช่นกัน มีความพิเศษคือเป็นแบบ Thermostat ที่สามารถปรับและผสมอุณหภูมิน้ำร้อนเย็นได้ตามต้องการ เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวอาบน้ำให้เห็นขนาดใช้งานกำลังดี
มองไปทางฝั่งตรงข้ามของห้องอาบน้ำ จะเป็นห้องโถสุขภัณฑ์
ชุดโถสุขภัณฑ์ของห้องนอนใหญ่เป็นแบบ Washlet ของ Villeroy & Boch ด้านข้างโถสุขภัณฑ์มีปุ่มสั่งการ ตั้งแต่การเปิดและปิดฝาสุขภัณฑ์, ระบบฉีดชำระด้วยน้ำ, เป่าลม และข้างโถสุขภัณฑ์จะมีโทรศัพท์ Emergency call ต่อตรงไปที่นิติบุคคลของโครงการได้อีกด้วย
ราคา (มี.ค. 2561)
*สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขาย
ค่าส่วนกลาง : 85 บาท/ตร.ม./เดือน (เก็บล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุน : 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ – The Reserve สุขุมวิท 61 ตั้งอยู่ในโซนที่พักอาศัยที่เงียบสงบในซอยสุขุมวิท 61 มีแหล่งรวมร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก และ Maxvalue อย่าง Parklane อยู่ห่างจากโครงการเพียง 600 เมตรเท่านั้น จะไปทำผม ซื้อหนังสือ ซื้อของกินของใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือรับประทานอาหารก็เดินไปได้สบายๆ ภายในมีร้านอาหารและร้านนั่งชิลล์สำหรับแฮงก์เอ้าท์กับเพื่อนๆให้เลือกมากมายหลายร้าน
นอกจากนี้แหล่งช้อปปิ้งส่วนใหญ่จะเกาะอยู่บนถนนเส้นหลักคือถนนใหญ่สุขุมวิทซึ่งเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากมายเดินทางไปได้สะดวก หรือจะเข้าไปในทองหล่อ เอกมัย เองก็มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงเทพอยู่แล้วเรื่องผับ บาร์ และร้านอาหารอีกเป็นร้อยร้าน เปิดทั้งกลางวันกลางคืน มีทั้งโรงพยาบาล,โรงหนัง, วัด, ห้างสรรพสินค้า, Community mall ผุดขึ้นมามากมาย ใครมีไลฟ์สไตล์ชอบเที่ยว ชอบแฮงก์เอาต์นัดเจอกันร้านอาหารสวยๆก็น่าจะถูกใจกันค่ะ
ติด BTS เอกมัยเลยจะมี Gateway เอกมัย ที่ด้านในมีร้านอาหาร ร้านขนมและร้านค้าเยอะมาก ส่วนมากเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นค่ะ จาก BTS เอกมัยนี่เดินไปหน่อย ฝั่งตรงข้ามซอยเอกมัยจะมีท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ใครอยากพาแฟนไปเดตวันเสาร์อาทิตย์ ไปดูดาวด้วยกันก็โรแมนติกดีนะคะปากซอยของซอยเอกมัยจะมี เมเจอร์ ซินีเพล็กซ์ อยู่ ถือเป็นโรงหนังและห้างที่ใกล้โครงการที่สุดนะคะ ข้างในก็มีสิ่งอำนวยความสะดวก, ร้านอาหารและคาเฟ่อีกหลายร้านเช่นกัน
ออกมาที่สถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย ห่างจากโครงการประมาณ 1 กม. ถนนเส้นหลักคือถนนใหญ่สุขุมวิท โซน CBD เลยอย่างเอกมัย ทองหล่อ ออกมาแล้วขึ้น BTS ไปไม่กี่สถานีเท่านั้นก็สามารถเข้าถึงห้างใหญ่และแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองได้มากมาย ทั้ง เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เทอมินอล 21, เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ไปจนสยามพารากอน ไม่ต้องรถติด ทั้งใกล้และสะดวก ทั้งยังสามารถเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สุขุมวิท จาก BTS สถานีอโศกได้อีกด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนใช้รถ โครงการมีที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ซึ่งเชื่อมต่อไปออกได้หลายทางนะคะ ไม่ว่าจะเป็นถนนสุขุมวิท, สุขุมวิท 63(เอกมัย), สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) จัดเป็นทำเลที่คนใช้รถมีความสะดวกสบาย และมีทางเลือกในการเข้าออกเยอะค่ะ ออกซอยไปเป็นถนนใหญ่สุขุมวิทฝั่งขาออก วิ่งออกเมืองไปอ่อนนุช, บางนา, สมุทรปราการได้ หรือจุดกลับรถก็อยู่หน้าซอยสุขุมวิท 61 เลย ใช้วิ่งเข้าเมืองโซน CBD อย่างสุขุมวิทได้สะดวก ใกล้ทองหล่อ, พร้อมพงษ์, อโศก ในระยะขับรถเพียง 3 – 10 นาทีถึงเท่านั้น
ทำเลตรงนี้มีจุดขึ้นทางด่วนกระจายตัวอยู่รอบๆ ทั้ง ทางด่วนเพลินจิต, พระราม 4, เอกมัย – รามอินทรา, สุขุมวิท 50 ฯลฯ แต่เนื่องจากย่านนี้รถค่อนข้างติดค่ะ เพราะทุกเส้นอยู่ในตัวเมืองทั้งนั้น ทำให้การเดินทางโดย “เลี่ยงเมือง” ทำไม่ได้ แต่โดยรวมการเดินทางก็สะดวกอยู่แล้ว เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าทำเลอยู่ในตัวเมืองอยู่แล้วด้วย และจากโครงการก็มีทางลัดเลาะเลี่ยงถนนใหญ่ได้หลายทาง สามารถลัดเลาะผ่านไปทางเอกมัย เข้าทองหล่อ ไปอโศกได้เลยโดยไม่ต้องผ่านถนนใหญ่สุขุมวิท
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – สำหรับคนไม่ใช้รถ นอกจากโครงการจะอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัยและทองหล่อในระยะพอเดินไปได้ประมาณ 1 – 1.4 กม. แล้ว โซนนี้มีทั้งแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ขับผ่านอยู่เรื่อยๆค่ะ จะไปไหนก็ไว รถติดก็มีทางเลี่ยงเยอะแยะ และใช้ระยะทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสั้น เพราะอยู่ใจกลางเมืองในแหล่งห้างสรรพสินค้าอยู่แล้ว อยากไปช็อปปิ้ง ก็สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไปได้ทั้ง เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เทอมินอล 21, เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ไปจนสยามพารากอน ไม่ต้องรถติด ทั้งใกล้และสะดวก ทั้งยังสามารถเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สุขุมวิท จาก BTS สถานีอโศกได้
สำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศหรือไปสนามบินบ่อยๆ ความสะดวกและข้อดีอีกอย่างคือโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์สถานีรามคำแหงในระยะประมาณ 5.6 กม. หรือระยะขับรถมาเพียง 15 นาทีเท่านั้น เราสามารถต่อแท็กซี่ไปขึ้นแอร์พอร์ตลิงก์นั่งไปสนามบินสุวรรณภูมิหรือลาดกระบังได้สบายๆ
การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการออกแบบมาด้วยคอนเซ็ปที่น่าสนใจ มีความทันสมัยและพยายามตอบโจทย์ชีวิตคนในปัจจุบันและกลุ่มลูกค้าของโครงการนี้ได้ดี เป็นแนวคิดที่ออกแบบให้โครงการเป็นเสมือนทางออกจากความวุ่นวายใจกลางเมือง เข้าสู่ความสงบร่มรื่นของธรรมชาติ โดยพื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่ให้มากว้างขวางถึง 1 ใน 3 ของที่ดินโครงการ โดยมีพื้นที่ส่วนกลางรวมกว่า 1 ไร่ ซึ่งถือเป็นโครงการ Low Rise ที่ทั้งพื้นที่รวมของโครงการและพื้นที่ส่วนกลางใหญ่ที่สุดในโซนทองหล่อ เอกมัยนี้แล้วค่ะ ดีไซน์อาคารเป็นสไตล์คลาสสิคที่ดูหรูหรา เต็มไปด้วยรายละเอียดและวัสดุที่เลือกสรรมาอย่างพิถีพิถัน
ความพิเศษคือโครงการมีห้องชุดลักษณะพิเศษและมีผังห้องที่ใหญ่ และเป็นห้องหน้ากว้าง โดยห้องแบบ Penthouse มีหน้ากว้างถึง 20 เมตร ให้ความรู้สึกโอ่โถง กว้างขวาง และรับแสงสว่างจากธรรมชาติได้ดีทำให้ห้องโปร่ง พร้อมขนาดพื้นที่ใช้สอยที่เยอะ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากกว่าอยู่คอนโดซะอีก ห้องชุดในโครงการขายแบบ Fully Furnished ด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าเรียบหรูยกชุดจาก Chanintr, ชุดสุขภัณฑ์ จาก Villeroy & Boch แบรนด์เดียวกับที่ทำสุขภัณฑ์ส่งพระราชวังแวร์ซาย โดยเป็นชุดสุขภัณฑ์ที่เคลือบสาร Anti Bacteria ในตัว และชุดครัวของ Gorenje จากดีไซเนอร์ชั้นนำของโลกอย่าง Philippe Starck ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่นอกจากจะมีระดับไม่ซ้ำใครแล้ว ยังใช้งานได้ดี ทำให้ชีวิตประจำวันมีความสะดวกสบายขึ้นไปอีก
สเป็คพื้นเป็น Engineering wood ไม้โอ้คสีอ่อนติดตั้งด้วยลายก้างปลาที่ใช้เทคนิคการปูที่ยากกว่าปกติ เกิดเป็นรายละเอียดที่ดูพิเศษและให้ความรู้สึกหรูหรา ส่วนครัวและห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องพอร์ซเลนลายลายหินอ่อนสีเทาขี้ดขาว เพดานสูงประมาณ 2.7 – 2.4 เมตร ติดไฟดาวน์ไลท์พร้อมกริลแอร์ซ่อนฝ้ามาให้ สเป็ควัสดุภาพรวมทำออกมาได้พิเศษ ใส่ใจรายละเอียด สบายตา และทนทานในแง่การใช้งาน มีความพรีเมี่ยมสมราคา
สิ่งอำนวยความสะดวก – พื้นที่ส่วนกลางของโครงการให้มากว้างขวางถึง 1 ใน 3 ของที่ดินโครงการ โดยมีพื้นที่ส่วนกลางรวมกว่า 1 ไร่ ซึ่งถือเป็นโครงการ Low Rise ที่ทั้งพื้นที่รวมของโครงการและพื้นที่ส่วนกลางใหญ่ที่สุดในโซนทองหล่อ เอกมัยนี้แล้วค่ะ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ อาทิ โถงต้อนรับ, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, ห้องอเนกประสงค์, สวนพักผ่อน, พื้นที่สีเขียว, ประตูคีย์การ์ด, Access Card Control, กล้องวงจรปิด พร้อม รปภ. 24 ชม. พร้อมที่จอดรถ 100%
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 8.5 | ใกล้ถนนใหญ่สุขุมวิท ใกล้ BTS เอกมัย, ใกล้ทางด่วน, รอบๆมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ แต่ในขณะเดียวกันก็ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองสุขุมวิทชั้นในอย่างเอกมัย ทองหล่อ |
การเดินทาง ใช้รถ | 8.0 | ใกล้ถนนใหญ่สุขุมวิท ฝั่งออกเมือง มุ่งหน้าไปทางแยกพระโขนง เป็นถนนที่เชื่อมต่อออกไปได้หลายเส้นทาง ทั้งเข้าเมืองและออกเมือง และยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 8.5 | หน้าโครงการมีวินมอเตอร์ไซค์และมีแท็กซี่ผ่านมาเรื่อยๆ และอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS เอกมัย ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการเพียง 1 กม. โครงการมี Shuttle bus ส่งให้ที่สถานีรถไฟฟ้า |
ห้องและวัสดุ | 8.5 | โครงการออกแบบและสเป็ควัสดุมาได้สวยงาม มีความพรีเมียมสมราคา และคิดถึงการใช้งานจริงมาได้ดี โดยแสดงออกมาในรายละเอียดของฟังก์ชั่น การออกแบบ และการเลือกวัสดุในส่วนต่างๆ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.0 | มีให้ครบครันและออกแบบได้น่าใช้งาน สวนขนาดใหญ่ ออกแบบมาอย่างใส่ใจรายละเอียดทั่งในแง่มุมมอง การใช้งาน และการดูแลรักษาในอนาคต |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.o | ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 325,000 บาท/ ตร.ม. ได้ทำเลใกล้ถนนใหญ่สุขุมวิท และรถไฟฟ้า BTS เอกมัย ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน ใกล้โรงเรียน โรงพยาบาล และสำนักงาน ไปไหนมาไหนสะดวก และมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ในโครงการ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.0 | ดีมาก |
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1739
Website : https://www.pruksa.com/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น