EP.288 รีวิว คอนโด แอชตัน จุฬา-สีลม Ashton Chula-Silom
Written by : Gift Pannida
สวัสดีคุณผู้อ่าน Condonayoo ที่รักทุกคนค่ะ วันนี้เราจะพาไปอัพเดทชมคอนโดสร้างเสร็จใจกลางเมืองกัน กับโครงการ Ashton จุฬา-สีลม จาก Ananda Development คอนโดสไตล์ Modern Luxury & Eclectic ที่โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองย่าน CBD ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ฝั่งตรงข้ามจามจุรีสแควร์ เดินทางสะดวก ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง ใกล้สยาม, สาทร, สีลม ห่างจาก MRT สามย่านเพียง 180 เมตร และ BTS ศาลาแดง 550 เมตร และสวนสาธารณะลุมพินี เพียง 550 เมตร
แอชตัน จุฬา-สีลม เป็นโครงการคอนโด High Rise สร้างเสร็จพร้อมอยู่สไตล์ Modern & Electric สูง 56 ชั้น จำนวน 1,182 ยูนิต (ยูนิตพักอาศัย 1,180 + ร้านค้า 2 ยูนิต) มีแบบห้องให้เลือก 3 แบบ คือ Studio ขนาด 24.5-34.5 ตร.ม., 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 30.5-34.5 ตร.ม., 2 Bedrooms 2 Bathroom ขนาด 55-66 ตร.ม. โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (พ.ศ.2561)
สิ่งอำนวยความสะดวกขนาดใหญ่และครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำแบบโอโซน, สระว่ายน้ำแบบออนเซ็น, Double Floor Sky Fitness, Life Style Club & Wine Bar, Panoramic View Library, Panoramic Exclusive Business Lounge, สวนหย่อมขนาดใหญ่, จุดจอดจักรยานรองรับ Eco-Friendly Lifestyle พร้อมกล้อง CCTV และรปภ. 24 ชม.ราคาเริ่มต้นที่ 7.59 ล้านบาท (Siam Icon River View ห้องวิวไอคอนสยาม)
โครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ 🙂
ชื่อโครงการ | แอชตัน จุฬา-สีลม Ashton Chula-Silom |
เจ้าของโครงการ | อนันดา Ananda |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
เนื้อที่ทั้งหมด | 4-3-66.90 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 56 ชั้น |
จำนวนห้อง | 1,182 ยูนิต (ยูนิตพักอาศัย 1,180 + ร้านค้า 2 ยูนิต) |
ที่จอดรถทั้งหมด | 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
โซน | เขตบางรัก |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน |
|
ที่ตั้ง | ถนนพระราม 4 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม. |
กำหนดการ | เปิดตัว 2558 |
ปีที่สร้างเสร็จ | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ |
ราคา | เริ่มต้น 7.59 ล้านบาท |
ราคาเริ่มต้นเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ประมาณ 225,000 บาท/ ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม., ค่ากองทุน 650 บาท/ตร.ม. |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง |
|
จุดเด่นของโครงการ | – สระว่ายน้ำแบบโอโซน – สระว่ายน้ำแบบออนเซ็น – Double Floor Sky Fitness – Life Style Club & Wine Bar – Panoramic View Library – Panoramic Exclusive Business Lounge – สวนหย่อมขนาดใหญ่ – จุดจอดจักรยานรองรับ Eco-Friendly Lifestyle – CCTV – รปภ. 24 ชม. |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนพระราม 4 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม.
พิกัด : 13.731571, 100.531135
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Ashton จุฬา – สีลม ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าหัวลำโพง ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน ตรงข้ามจามจุรีสแควร์ สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการมีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ทั้งจุฬาฯ, สยาม, สาทร, สีลม ไปไหนมาไหนก็สะดวกไปหมดเพราะทั้งใกล้และมีตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลาย แต่หน้าโครงการจะไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นทำเลใจกลางเมืองที่อยู่บนที่ดินผืนหายากมากๆแล้ว
สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดเพื่ออยู่อาศัย เพื่อลงทุน หรือแม้แต่เพื่อซื้อเก็บไว้เป็นสินทรัพย์ให้กับตัวเองและลูกหลานก็มีความน่าสนใจมากๆ เพราะอย่างที่บอกว่าหลักๆจุดเด่นของโครงการนี้คือทำเล และโครงการใน Segment ระดับประมาณนี้ในทำเลแบบนี้ค่อนข้างหาได้ยากแล้วค่ะ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากตัวโครงการใกล้ทั้ง MRT และ BTS เลย โดยจะอยู่ในระยะที่สามารถเดินถึงได้สบายๆ ที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น MRT สามย่าน เดินจากหน้าโครงการไปประมาณ 180 เมตรก็ถึงตัวสถานีแล้ว สะดวกมากๆ
หรือถ้าจะใช้ BTS ศาลาแดงก็สามารถเดินจากโครงการมาตามฟุตบาทเส้นพระราม 4 แล้วเข้าถนนธนิยะ ประมาณ 550 เมตร จากตัวโครงการก็จะถึงตัวสถานีแล้วค่ะ แล้วระหว่างทางก็มีของกินเยอะมากๆ ทั้งร้านรถเข็นและร้านอาหารญี่ปุ่นในซอยธนิยะมากมายหลายร้าน ไม่ต้องกลัวหิวเลยค่ะ
ส่วนตัวเลือกในการเดินทางอื่นๆ เนื่องจากตัวโครงการติดถนนใหญ่จะเรียกใช้บริการ Taxi ก็ง่าย หรือเดินออกมาจากโครงการเลี้ยวซ้ายนิดเดียวก็มีป้ายรถเมล์ ซึ่งจะมีรถสาย 4, 45, 46ร, 47, 50, 67, 93, 109ร, 163ร, 172ร, 177ร วิ่งผ่านค่ะ หรือจะเดินต่อมาอีกหน่อย ไปแถวหน้าวัดหัวลำโพงก็มีคิวพี่วินให้เรียกใช้ได้สะดวกในวันเร่งรีบด้วย
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถใช้งานได้สะดวกค่ะ อย่างที่บอกว่าเป็นทำเลในเมืองก็อาจจะมีรถติดบ้างในเวลาเร่งด่วน ถนนหน้าโครงการเป็นถนนพระราม 4 ออกจากโครงการวิ่งไปหน่อยเดียวถึงหัวลำโพง หรือจุดกลับรถก็แค่ 350 เมตร ใช้วิ่งตรงยาวไปได้ถึงพระโขนงได้เลย
ใครที่ทำงานอยู่แถวสีลม สาทร ก็สะดวกมากๆ วิ่งแปปเดียวถึง ซึ่งนอกจากใช้ถนนเส้นหลักพระราม 4 แล้วยังสามารถวิ่งเข้าสี่พระยาเพื่อลัดเข้าสีลม สาทรได้ด้วย ส่วนใครจะไปสยามหรือจุฬาก็ง่ายค่ะ ถ้ารถไม่ติดขับไม่เกิน 10 นาก็ถึง หรือวันไหนต้องไปฝั่งธนฯ จากโครงการขับไม่เกิน 15 นาที ก็ข้ามไปฝั่งธนฯแล้ว สบายๆ
นอกจากเส้นทางปกติที่ใช้เดินทางได้สะดวกแล้ว จากโครงการจะอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนอีกหลายจุดเลย ที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งมุ่งหน้าสาทร, ราษฎร์บูรนะ มีระยะทางจากโครงการ 1.8 กม. หรือขับรถประมาณ 5 – 7 นาที ก็จะถึงจุดขึ้นทางด่วนค่ะ
ส่วนจุดขึ้นทางด่วนศรีรัชฝั่งมุ่งหน้าบางเขน, ปากเกร็ด อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.7 กม. หรือขับรถประมาณ 7 นาที
จุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครฝั่งมุ่งหน้าบางนา, ราษฎร์บูรณะ ห่างจากโครงการประมาณ 3.6 กม. หรือใช้เวลาขับรถประมาณ 8 – 10 นาที ถึงจุดขึ้นทางด่วน
และจุดขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครฝั่งมุ่งหน้าจตุจักร, ดอนเมือง ห่างจากโครงการประมาณ 3.4 กม. หรือใช้เวลาขับรถประมาณ 6 – 10 นาทีค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ถือเป็นโครงการที่มีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบสูง ทั้งหลางวันกลางคืน สมกับเป็นโครงการทำเลกลางเมืองนะคะ เริ่มจากในตัวโครงการเองจะมีร้านกาแฟ Starbucks ลงมาจากห้องไม่ต้องออกไปไหนก็ไปนั่งดื่มกาแฟชิลล์ๆได้เลย
ขยับออกมาหน่อยติดๆโครงการจะมีร้านกาแฟ Too Fast To Sleep ที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่นและคนทำงานที่นอนดึกอยู่ เปิด 24 ชั่วโมง ด้านในสั่งขนมเค้ก ไอศครีมและเครื่องดื่มต่างๆได้ ด้านล่างของร้านมีทั้งร้านส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ที่เปิดตั้งแต่กลางวันจนดึกดื่น ใกล้ๆ เดินไปประมาณ 300 เมตร ถึงก็มีจามจุรีสแควร์ เปิดตั้งแต่ 11 โมง ถึง 2 ทุ่ม ด้านในมีร้านอาหารเยอะเหมือนกัน นอกจากนี้แถวหน้าวัดหัวลำโพงก็มีร้านอาหารและแผงขายของกินอยู่หลายร้าน
มองกว้างอีกหน่อยในรัศมีไม่เกิน 500 เมตร ก็มีทั้งร้านอาหารเก่าๆแถวสุรวงศ์ ร้านอาหารหลากหลายสัญชาติย่านสีลม อย่างอาหารญี่ปุ่นในซอยธนิยะ หรือพัฒพงษ์ก็อยู่ในระยะที่เดินไปถึงทั้งนั้นค่ะ หรือใครวัยรุ่นสยามชอบเดินพารากอน, สยามดิสฯ, สยามเซ็นฯ ก็ไปได้เลยไม่ไกล นั่งวินไปก็ได้สะดวกดีค่ะ ค่าโดยสารประมาณ 40 บาท หรือใครนัดแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนที่อื่นๆอย่างทองหล่อ เอกมัยก็เดินไปขึ้น BTS ศาลาแดงที่ห่างออกไปประมาณ 550 เมตร ก็เดินทางต่อไปด้เลย ไม่ต้องเสียเวลารถติด
การเดินทาง
การเดินทางในวันนี้ เราจะเริ่มต้นกันบนถนนพระราม 1 บริเวณหน้าห้างพารากอน ขับตรงมาแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนอังรีดูนังต์ ขับยาวมาจนสุดถนนจะเชื่อมกับถนนพระราม 4 แล้วเลี้ยวขวา จากนั้นขับตรงต่อไปอีกประมาณ 280 เมตร ก็จะถึงตัวโครงการทางซ้ายมือค่ะ
สรุปการเดินทาง ถนนพระราม 1 > ถนนอังรีดูนังต์ > ถนนพระราม 4 > โครงการ Ashton จุฬา – สีลม
เราเริ่มการเดินทางกันบนถนนพระราม 1 บริเวณหน้าห้างพารากอน ฝั่งมุ่งหน้าสุขุมวิท
ขับตรงมาหน่อยแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนอังรีดูนังต์
เข้ามาบนถนนอังรีดูนังต์แล้วจะผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติทางซ้ายมือ
ขับตรงกันมายาวๆ พอเห็นป้ายแล้วให้เตรียมชิดเลนขวา
ถึงถนนพระราม 4 แล้วเราเลี้ยวขวาเลยค่ะ
เลี้ยวขวามาบนถนนพระราม 4 แล้วขับตรงต่อมาประมาณ 280 เมตร ก็จะถึงตัวโครงการ Ashton จุฬา – สีลม แล้วค่ะ
ถนนและแยกที่สำคัญรอบๆโครงการ
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
รอบๆโครงการ
มาดูบรรยากาศจริงกันต่อ เริ่มจากหน้าโครงการเลย จะเป็นถนนพระราม 4
เรามาเดินไปดูทางฝั่งซ้ายมือของโครงการกันก่อน ติดกับโครงการเลยจะมีป้ายรถเมล์ พร้อมที่นั่งรอ
ถัดมาเป็นร้าน Too Fast Too Sleep เปิด 24 ชม. เวลาทำงานหรืออ่านหนังสือดึกๆแล้วเบื่ออยู่กับห้อง ก็สามารถเดินออกมาเปลี่ยนบรรยากาศได้เลย หรือใครชอบทานส้มตำ ที่ชั้นล่างจะมีร้านส้มตำแม่นิด นอกจากนั้นก็จะมีร้านอาหารอื่นๆอีกหลายร้าน มาทานได้สะดวกค่ะ ใกล้ๆเอง
ติดกันเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 3.5 ชั้น
ถัดมาเป็นวัดหัวลำโพง
ถนนด้านหน้าเป็นท่ารถเมล์สาย 45
หน้าวัดจะมีคิวพี่วิน สามารถเดินมาใช้บริการได้ในวันเร่งรีบ
เดินต่อมาอีกนิด รวมระยะจากโครงการก็ประมาณ 180 เมตร จะถึง MRT สามย่านแล้วค่ะ
มองไปฝั่งตรงข้ามก็มีจามจุรีสแควร์ ถือเป็นห้างที่ใกล้โครงการที่สุด เราเดินข้ามไปได้เลย รวมระยะจากโครงการประมาณ 300 เมตร
กลับมาที่ตัวโครงการ เราจะไปเดินดูทางฝั่งขวามือกันต่อ เริ่มจากฟุตบาทหน้าโครงการกว้างขวางเดินสะดวก
ติดกับโครงการเป็นโรงแรมมณเฑียร สูง 20 ชั้น
ด้านหน้าทางเข้าโรงแรมมณเฑียร
ติดกันเป็นที่ดินของ KWG เตรียมขึ้นโครงการคอนโด Mid Rise
ถัดมาเป็นอาคารพาณิชย์ต่อไปยาวๆ โดยจะมีเปิดเป็นธุรกิจต่างๆ อย่างแรกที่เราเดินมาเจอก็จะเป็น ร้านนวด ถัดมาเป็น Minimis Hostel และคาเฟ่ในตัว
ถัดมาเป็น Thai Gem Factory
บรรยากาศบริเวณฟุตบาทกว้าง เดินได้สะดวก
เดินต่อมาอีกหน่อยมีร้านถ่ายรูป ล้างฟิล์ม
ถัดมาเป็นทางแยกเข้าถนนสรุวงศ์ มีทางม้าลายให้เดินข้ามฝั่งเพื่อลดอุบัติเหตุ
ถ้าใครจะเดินไป BTS ศาลาแดงก็สามารถเข้าถนนสุรวงศ์แล้วเดินไปเข้าถนนธนิยะได้เช่นกันค่ะ แต่เดี๋ยววันนี้เราจะพาเดินเกาะเส้นพระราม 4 ไปจนถึงแยกศาลาแดงเพื่อดูบรรยากาศกันก่อนนะ
เราเดินผ่านถนนสุรวงศ์ ข้ามทางม้าลายมาแล้วเดินมุ่งหน้าไปทางแยกศาลาแดงต่อ ระหว่างทางก็ยังคงเป็นอาคารพาณิชย์ติดถนนไปยาวๆ
เจอร้านรับผลิตของชำร่วยศิลป์ฟ้า ถัดไปเป็นสตูดิโอโยคะ
เดินต่อมาอีกนิดเจออาคารสำนักงานชาญอิสสระ ทาวเวอร์
ด้านหน้ามีซุ้มร้านอาหารข้างทางมีคนมาทานกันอย่างคึกคัก
ถัดมามี 7-11
พ้นมาอีกหน่อยเจอ Crowne Plaza
ด้านหน้ามีป้ายรถเมล์อีกจุด
เดินต่อมาอีกนิดก็ถึงแยกศาลาแดงแล้วค่ะ สะพานด้านบนที่เราเห็นก็คือสะพานไทย – ญี่ปุ่น
ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงแรมดุสิตธานีและ MRT สีลม
เราเลี้ยวเข้ามาในเส้นสีลมแล้วจะมีสะพานลอยเชื่อมสามารถเดินไป MRT สีลม และ BTS ศาลาแดงได้ ไม่ต้องเดินข้ามถนนค่ะ
ตัวโครงการ
โครงการ Ashton จุฬา – สีลม เป็นโครงการคอนโด High Rise สูง 56 ชั้น สร้างเสร็จพร้อมอยู่ ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าหัวลำโพง จำนวนยูนิตพักอาศัยทั้งโครงการ 1,180 ยูนิต
การออกแบบตัวอาคารโมเดิร์น เท่ๆ ใช้โทนสีเทาน้ำเงินเข้มๆ ตามสไตล์ Ashton ผนังภายนอกตัวอาคารจะดูเป็นชิ้นเดียวกันหมด และมุมอาคารที่โค้งทำให้โดยรวมตัวอาคารดูสวยเลยค่ะ
มาดูผังโครงการกันต่อค่ะ จากถนนพระราม 4 ผ่านซุ้มประตูทางเข้าโครงการมา จะมีสวนอยู่ทางขวามือ เข้ามาจะมี Drop off หน้า Lobby ตรงฝั่งติดสวนเป็น Retails 2 ยูนิตซ฿่งเปิดเป็นร้านกาแฟสตาร์บั๊คทั้งคู่นะคะ ซึ่งก็จะเป็นอารมณ์แบบร้านกาแฟวิวสวน คนในโครงการก่อนไปทำงานก็ลงมาสั่งกาแฟสตาบั๊คกินได้สบายๆ
ที่จอดรถด้านข้างอาคารที่มีทั้งที่จอดรถขนาดปกติและขนาดใหญ่หน่อยสำหรับรถ Super Car และมีจุดชาร์จแบตรถไฟฟ้าด้วยค่ะ เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ จำนวนยูนิตเยอะ โครงการมีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 7 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัวติดกับส่วนห้องทิ้งขยะ (G) และส่วนห้องงานระบบ (M&E) ทำให้แม่บ้านขนย้ายขยะลงมาทางนี้ได้ง่าย ไม่กวนส่วนลิฟต์โดยสาร
มาดูตัวอาคารของจริงกันต่อเลยเริ่มจากทางเข้าโครงการมีทางเดียวนะคะ อยู่ติดถนนพระราม 4 แยกเป็นทางเข้า-ออกรถ
ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นทางเข้าออกสำหรับคนเดิน โดยจะมีงานตกแต่งเป็นธารน้ำไล่ระดับ ตกแต่งด้วยหญ้าสีเขียว ด้านหลังเป็นกำแพงทรงโค้งกรุด้วยหินสีขาวเข้ากับสีพื้น มีชื่อโครงการติดอยู่ด้วยตัวอักษรสีทอง
สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยรถยนต์จะใช้ระบบ Easy Pass
และมีพี่รปภ.คอยรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. อีกชั้น
เข้ามาภายในโครงการจะเจอถนนรอบโครงการ กว้าง 6 เมตร
ฝั่งขวามือจัดเป็นสวนหย่อมและศาลพระภูมิประจำโครงการ
ในสวนมี Sculpture เป็นคุณเสือเพื่อสะท้อนคาแรคเตอร์โครงการ
ถัดมาจากทางเข้าโครงการไม่ไกลก็จะถึงทางเข้าอาคาร ด้านหน้าเป็นจุด Drop off มีหลังคาคลุม
ประตูทางเข้าภายในตัวอาคารค่ะ ปกติจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่หน้าประตูด้วย
เข้ามาด้านในต่อ เราไปดูที่จอดรถกัน
ที่จอดรถโครงการนี้จะมีทั้งที่ชั้นล่าง และชั้นบน 1 – 6
ทางเข้าที่จอดรถจำกัดความสูงไม่เกิน 20.5 เมตร นะคะ
ภายในที่จอดรถชั้นล่างจะแบ่งเป็นช่องจอดตามช่วงเสา ส่วนที่จอดรถจักรยานยนต์จะต้องลงไปอีกครึ่งชั้นนะคะ
ที่จอดรถชั้นบนเป็นผนังเปิดโล่งช่วยถ่ายเทอากาศได้ดี แบ่งช่องจอดช่วงละ 2 คัน คิดเป็นประมาณ 47% ไม่ Fix ที่จอดนะคะ โดยห้องแบบ Studio กับ 1 Bedroom จอดได้ 1 คัน, 2 Bedrooms จอดได้ 2 คัน
ขอพากลับมาที่ทางเข้าโครงการอีกที ติดกับทางเข้าโครงการหันมาทางซ้ายมือจะเป็นถนนทางที่รถวิ่งวนออกนะคะ ซึ่งทางฝั่งนี้จะมีสวนหน้าโครงการและส่วนที่เป็นยูนิตร้านค้า 2 ยูนิต แต่มีเปิดเป็น 1 ร้าน (รวบ 2 ยูนิตเลย)
สำหรับยูนิตร้านค้าที่มาประจำการคือร้านกาแฟ Starbucks ร้านโปรดของใครหลายๆคนนั่นเอง ซึ่งตรงนี้ก็ตรงตามแผนที่ทางโครงการบอกมาในช่วงก่อนตึกเสร็จนะคะ
ถัดเข้ามาจะเป็นสวนหน้าโครงการ ที่ช่วยให้ตัวอาคารด้านในมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ภายในสวนมีต้นไม้ใหญ่หลายต้นและไม้พุ่ม พร้อมทั้งปูสนามหญ้าแบบขั้นบันไดบนทางลาดขึ้นเขา และมีที่นั่งเอาไว้ให้นั่งเป็นจุดๆ เหมาะเป็นที่เดินเล่นหรือนั่งเล่นของคนในโครงการ โดยมีบันไดหินเป็นทางขึ้นอยู่ด้านข้าง และปลูกต้นไม้ไล่ระดับตาม
ดูรอบๆกันไปครบแล้ว เรามาดูภายในตัวอาคารกันต่อค่ะ เริ่มจากเปิดประตูเข้าอาคารมาจะเจอกับส่วน Lobby ฝ้าเพดานสูง ตกแต่งแบบแกรนด์ๆด้วยโคมไฟขนาดใหญ่ ตรงกลางเป็นเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ ถ้าใครที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการก็สามารถติดต่อตรงนี้ได้เลยค่ะ
ฝั่งขวามือเป็นพื้นที่พักคอย
จัดชุดที่นั่งมาให้หลายชุดเลย ทั้งโซฟา โต๊ะกลาง และชุดโซฟาเล็กๆแยก
โคมไฟตรงนี้เก๋มากค่ะ
อีกด้านก็มีชุดโต๊ะเก้าอี้รับรองหลายชุดเลย สำหรับคนที่สนใจเข้ามาชมโครงการ
อีกฝั่งของ Lobby ก็จะเป็นที่นั่งรับรองมาให้ด้วย เรียกว่าใหญ่เลยค่ะสำหรับ Lobby โครงการนี้
ที่นั่งรับรองด้านใน แบ่งเป็นชุดโซฟาชุดใหญ่ 3 – 5 ชุด แบ่งให้เป็นส่วนตัวด้วยช่วงเสา
ถัดเข้ามาด้านในอีกหน่อยจะมีห้องสำหรับติดต่อฝากซื้อ-ขาย
ภาพรวมส่วน Lobby อีกมุมค่ะ
ขัยเข้ามาด้านใน ติดกับ Lobby เข้ามายังโถงลิฟต์ จะมีประตูแยกเข้าโถงลิฟต์จุดที่ 1 อยู่ทางขวามือนะคะ ซึ่งเดี๋ยวเราจะกลับมาดูกันทีหลัง
เราขยับมาดูด้านในกันก่อน ตามทางเดิน Lobby มาเรื่อยๆ
ก็จะเจอกับห้อง Mail Room และห้องน้ำรับรอง
ภายในห้อง Mail Room จะจัดแบ่งกล่องจดหมายออกเป็นชุดๆ และด้านในสุดจะมีพื้นที่สำหนับนั่งอ่านจดหมาย หรือนั่งพักก่อนกลับขึ้นห้องค่ะ
ขยับเข้ามาจาก Mail Room ทางซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำรับรองแยกชาย-หญิง มองตรงไปจะเป็น โถงลิฟต์จุดที่ 2
ป้ายหน้าห้องน้ำใช้สีคอปเปอร์ฉลุลายแบบนี้
ภายในห้องน้ำทำออกมาดูดีทีเดียว ด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน เข้ามาจุดแรกจะเจอชั้นวางของตกแต่ง
ถัดเข้ามาด้านในเป็นส่วนห้องน้ำ มีกระจกเงาบานใหญ่เต็มผนัง
อ่างล้างมือ 2 อ่าง พร้อมกระจกเงาตกแต่งกรอบด้วยโลหะยิงหมุดดูเท่ๆ
ส่วนห้องน้ำมีมาให้ 2 ห้อง
ภายในห้องน้ำติดตั้งโถสุขภัณฑ์ พร้อมอุปกรณ์ครบชุด
ภายในห้องน้ำชายจะตกแต่งมาเหมือนที่ห้องน้ำหญิงเลย
ที่เพิ่มเติมคืออ่างล้างมือ 2 อ่าง
และโถปัสสาวะชาย 2 โถ
ขยับเข้ามาจากส่วนห้องน้ำจะเป็นโถงลิฟต์จุดที่ 2 ซึ่งตรงนี้ก็จะต้องใช้คีย์การ์ดแตะเพื่อผ่านเข้าไปด้านในด้วยเช่นกัน
ภายในโถงลิฟต์มีชุดโซฟานั่งรับรองขนาดใหญ่ ถัดเข้าไปด้านในมีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว
กลับมาที่ตัวโถงลิฟต์หลักกันต่อ ประตูทางเข้าโถงลิฟต์เป็นกระจกใส มือจับก้านยาวจับสะดวก
ตัวรับสัญญาณแตะคีย์การ์ดเพื่อเข้าส่ภายในโถงลิฟต์
ส่วนขาออกไม่ต้องแตะคีย์การ์ดนะ กดปุ่มแทนค่ะ
เข้ามาภายในโถงลิฟต์จะมีฝ้าเพดานเตี้ยลงมากหน่อย โทนสีที่ใช้จะเข้มขึ้น
ขวามือเป็นชุดที่นั่งพักคอยขนาดใหญ่
ฝั่งซ้ายมือเป็นโถงลิฟต์ค่ะ โดยโถงลิฟต์จุดที่ 1 จะมีลิฟต์ 3 ตัว รวมทั้งโครงการ 7 ตัว ส่วน Service Lift จะอยู่ติดกับห้องขยะแยกชัดเจนจากลิฟต์โดยสาร
ภายในลิฟต์โดยสารติดกระจกเงาบานใหญ่ไว้ให้ลูกบ้านได้เช็คความเรียบร้อยก่อนออกไปข้างนอก
โครงการนี้ใช้ลิฟต์มีคุณภาพของ Mitstubishi รองรับน้ำหนักได้ประมาณ 18 คน
นอกจากปุ่มกดมาตรฐานแล้วก็จะมีปุ่มกดสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ติดตั้งมาให้ด้วย
ส่วนที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 7 ค่ะ ความหนาแน่นค่อนข้างต่ำเพราะมียูนิตเพียง 15 ยูนิต และเป็นชั้นที่มีทางเดินออกมาสวนด้วยค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีส่วนงานระบบค่อนข้างใหญ่ แยกส่วนออกมาให้ช่างเข้ามาบำรุงรักษาได้โดยไม่ต้องผ่านส่วนพักอาศัย ห้องฝั่งที่อยู่ติดสวนมีข้อดีคือได้วิวสวน ข้อเสียคือเสียงรบกวนจากสวนค่ะ เวลามีคนมาใช้งานเยอะๆ แต่โครงการปลูกต้นไม้ทำ Buffer ไว้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและช่วยกันเสียงรบกวนไปได้ส่วนนึงค่ะ
แปลนอาคารชั้น 8 ผังของส่วนห้องพักอาศัยจะไม่ต่างกับชั้น 7 ค่ะ โดยมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 16 ยูนิต แต่ห้องงานระบบจะเปลี่ยนเป็นที่ว่าง เพราะชั้น 7 เป็นแบบ Double ceiling หรือแบบเพดานสูง ถือเป็นชั้นที่เงียบสงบและความหนาแน่นต่ำนะคะ เพราะไม่มีส่วน งานระบบและพื้นที่ส่วนกลาง จึงไม่มีคนนอกมาวุ่นวายให้ได้ยินเสียงใกล้ๆ
แปลนอาคารชั้น 9 – 21 จะเป็นส่วนที่พักอาศัยทั้งหมด มีชั้นละ 27 ยูนิต ที่ชั้น 12, 17, จะมีส่วน Atrium อยู่ตรงส่วนใกล้โถงลิฟต์อย่างในภาพผังค่ะ ก็คือทุกห้าชั้นจะมีระเบียงใกล้โถงลิฟต์มาให้
แปลนอาคารชั้น 22 – 47 เป็นชั้นที่มียูนิตของห้องพักสูงสุดคือ 28 ยูนิตค่ะ การวางผังห้องพักเหมือนชั้น 12, 17 ที่มี Atrium เพิ่มขึ้นมาทุก 5 ชั้น หรือชั้นที่ลงท้ายด้วยเลข 2 และเลข 7 และมีห้องแบบ 2 ห้องนอนหรือห้อง Type B1 ขนาด 55 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นมา
ขึ้นมาที่ชั้นพักอาศัย ภายในส่วนโถงลิฟต์จะตกแต่งมาเรียบๆกว่าที่ชั้น 1 มีช่องแสงขนาดใหญ่ทุกชั้นเพื่อเพิ่มแสงสว่างให้กับโถงทางเดินและทำให้ภายในตัวอาคารมีอากาศถ่ายเท
งานตกแต่งหน้าตัวลิฟต์โดยสารใช้กระเบื้องลายหินอ่อนสีดำขาว
ปุ่มกดลิฟต์หน้าจอดิจิตอล
ทุกชั้นจะมีผังของแต่ละชั้นติดมาให้เพื่อแสดงจุดหนีไฟเพื่อความปลอดภัยเผื่อเวลาฉุกเฉิน
แปลนอาคารชั้น 48 เป็นพื้นที่ส่วนกลางชั้น โดยออกจากลิฟต์มาจะสามารถเดินออกไปยังสระว่ายน้ำระบบเกลือ ในสระมีส่วนสระ Onsen เล่นระดับกัน 2 สระ สระเด็กด้านหลัง และสระ Jacuzzi ด้านหน้า
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเป็น Outdoor deck หรือที่นั่งพักผ่อนกลางแจ้ง แบ่งโซนกันด้วยไม้พุ่มสีเขียว ด้านหลังเป็นส่วนของห้องฟิตเนส 2 ชั้น แต่ละชั้นมีขนาด 5 x 15 เมตร รวมเครื่องออกกำลังกายประมาณ 20 เครื่อง ริมสุดมาเป็น Social Club & Wine Bar เป็นห้อง Double space โอ่โถงที่สามารถมานั่งดื่มเบาๆ นั่งคุยกันพร้อมมองวิวเมืองแบบมุมกว้างได้ หน้าห้องมีโถงลิฟต์ซึ่งเป็นทางขึ้นลงอาคารได้อีกทาง
แปลนอาคารชั้น 49 ออกจากลิฟต์มาจะเจอห้อง Business Center ค่ะ ใช้เป็นห้องนั่งจิบไวน์ คุยงาน ชมวิวเมืองได้ ล้อมรอบด้วยบรรยากาศสระน้ำเล่นระดับ ถือว่าเป็นมุมที่บรรยากาศดีทีเดียว ถัดจากลิฟต์มาอีกด้านจะเป็นห้องสมุด ที่เชื่อมต่อกับห้องฟิตเนสชั้น 2
ขึ้นมาต่อกันที่บรรยากาศจริงกันยาวๆ เริ่มที่ชั้น 48 ชั้นนี้จะรวมส่วนกลางหลักๆเกือบทั้งหมดของโครงการเลย โดยชั้นนี้จะมีความสูงฝ้าเพดานสูงกว่าชั้นอื่นๆด้วย ตัวช่องแสงในโถงลิฟต์ก็จะเป็นแบบ Double
ส่วนแรกที่เราออกมาจากโถงลิฟต์แล้วเจอเลยคือ Social Club
ภายในห้อง Social Club จะดูแกรนด์ๆหน่อยค่ะ ด้วยทั้งฝ้าเพดานที่สูงและช่องแสงเต็มบานรอบห้องทำให้ส่วนกลางจุดนี้ดูน่าใช้งาน พาเพื่อนมานั่งคุยได้สบายๆเลย
โดยห้องนี้จะแบ่งเป็นทั้งหมด 4 โซน เริ่มจากโซนตรงกลางที่เราเข้ามาเจอเลย จะเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อน ทางโครงการลงแกรนด์เปียโนมาให้ด้วย เผื่อใครอยากแสดงฝีมือให้เพื่อนๆฟัง
ติดกันทางฝั่งขวามือจะเป็นมุมห้องประชุม
จัดโต๊ะยาวพร้อมเก้าอี้ 8 – 9 ที่นั่ง และจอทีวีเพื่อการพรีเซ็นท์งาน
อีกฝั่งมีกระดานมาให้ด้วย เผื่อเวลาประชุมงานต้องการเขียนอะไรก็สามารถใช้งานได้เลย
ออกมาจากมุมห้องประชุม เราไปดูอีกฝั่งของห้องกันต่อ
ติดกับห้องพักผ่อนจะเป็น Lounge พื้นที่สังสรรค์ มีบาร์เครื่องดื่มและที่นั่งชิลล์ๆจัดไว้ให้
บาร์เครื่องดื่มมีเคาน์เตอร์และอุปกรณ์สามารถใช้งานได้ แต่พวกเครื่องดื่มจะต้องเตรียมกันมาเองนะคะ
ขยับมาอีกจะเป็นมุมไฮไลท์เลยค่ะ กับจุดชมวิวเมืองพร้อมนั่งพักผ่อน ผนังตรงส่วนนี้เป็นกระจกโค้งรอบห้องเลยทำให้สามารถมองเห็ฯวิวภายนอกได้รอบด้าน
จุดชุดที่นั่งมาให้ทั้งม้านั่งยาวและชุดโซฟาแยกเป็นส่วนตัว
ให้ดูภาพรวมภายใน Social Club อีกมุมค่ะ
ออกมาจาก Social Club จะมีทางเดินขวามือติดกับโถงลิฟต์เชื่อมไปยังส่วนกลางอื่นๆ คือ สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และห้อง Locker Room
ป้ายรายชื่อห้องในชั้นส่วนกลางจะใช้แผ่นโลหะสีคอปเปอร์ฉลุแบบนี้ ดูสวยดีค่ะ
เดินออกมาที่พื้นที่โถงจะเจอพื้นที่นั่งพักผ่อน Semi Outdoor ทางขวามือ
จัดที่นั่งมาให้เยอะเลย มุมตรงนี้ลมโกรกนั่งสบายทีเดียว
มุมนี้ได้วิวเมืองตึกมหานครด้วยค่ะ
ขยับออกมาอีกหน่อยจะมีมุมนั่งพักผ่อนอีกจุด จัดมาให้เป็นที่นั่งแบบ Sunken อยู่ระหว่างเสาทำให้คนที่ใช้งานมีความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น
มุมที่นั่งพักผ่อนจุกนี้จัดมาให้เป็นม้านั่งรูปตัว L มีเบาะรองนั่งนุ่มๆมาให้เรียบร้อย ส่วนพื้นเป็นกรวดก้อนใหญ่ๆได้ฟีลพื้นดินดีค่ะ
พื้นที่ส่วนถัดมาจะเชื่อมไปยังส่วนสระว่ายน้ำแล้วค่ะ โดยทางเข้าถึงตัวสระว่ายน้ำจะอยู่ทางขวามือ ต้องเดินผ่านโถงลิฟต์ไป ส่วนทางซ้ายมือจะเชื่อมไปยังห้องอาบน้ำก่อนลงสระค่ะ
แต่เนื่องจากวันที่ไปเก็บข้อมูลตัวสระว่ายน้ำยังมีการทำความสะอาด และเก็บงานอยู่อีกนิดหน่อย วันนี้เลยยังไม่มีภาพบรรยากาศจริงมาอัพเดตนะคะ แต่เดี๋ยวถ้าทางทีมงานมีภาพเพิ่มเติมก็จะรีบมาอัพเดตให้แน่นอนค่ะ
มุมนั่งพักผ่อนระหว่างทางเดินไปสระว่ายน้ำและห้องล้างตัวก่อนลงสระ
มุมนั่งพักผ่อนอีกจุดนึงค่ะ ตรงนี้จะเป็นกลางแจ้งแล้วถ้าใครชอบผิวแทนๆก็มานั่งเล่นๆตอนกลางวันได้เลย แต่ถ้าใครกลัวแดด มานั่งช่วงเย็นๆหน่อยก็ไม่ร้อนแล้วค่ะ ได้วิวสวยดีด้วยนะ
ภาพรวมพื้นที่ส่วนกลางบนชั้น 49 จะเห็นว่าบริเวณโถงทางเดินบนฝ้าเพดานจะมีติดไฟแบบซ่อนมาให้สวยงามเลยทีเดียว
เข้ามาดูภายในห้องฟิตเนสกันต่อ สำหรับฟิตเนสของโครงการนี้ถือว่าให้มาครบครันมากๆค่ะ ใครที่รักการออกกำลังกายต้องชอบเลย เริ่มจากตัวห้องจะใช้ผนังเป็นกระจกโดยรอบทำให้ห้องดูโปร่งและสว่างด้วยแสงธรรมชาติในเวลากลางวัน
ผนังส่วนอื่นใช้วัสดุดำเงาสไตล์เท่ๆ
อุปกรณ์ที่จัดมาให้มี Eliptical 4 เครื่อง
ลู่วิ่งจัดมาให้ถึง 5 เครื่อง
ขยับเข้ามาโซนด้านในมีจอทีวีให้ดูกันเพลินๆ
วิวฝั่งเครื่องคาดิโอมองออกไปเห็นวิวเมืองจะได้ไม่เบื่อ
อุปกรณ์อื่นๆจะมีจักรยานไฟฟ้า 2 เครื่อง
เครื่อง Cable Row Machine 1 เครื่อง
ตัวฟิตเนสจะมี 2 ชั้น เชื่อมขึ้นไปที่ชั้น 50 ด้วยค่ะ
อุปกรณ์ที่ชั้นบนจะ Advance ขึ้นมาอีก เดี๋ยวเราไปชมกันทีละส่วนๆ
อุปกรณ์ส่วนใหญ่ในชั้นนี้จะเน้นเป็นประเภท Weight Training
มีเบาะปรับระดับได้ 2 เบาะ
Bench แนวราบ 1 เบาะ
Back Extension Bench 1 ชุด
Decline Bench 1 ชุด
โซนบาร์เบล พร้อมชั้นวาง และบอลโยคะ 6 ลูก
Full Body Workout Station ตัวนี้ในฟิตเนสทั่วไปยังไม่ค่อยมีกันด้วยค่ะ
Multifunction Cable Machine 1 ชุด
ดัมเบลคละน้ำหนัก 20 ชิ้น
ออกมาจากห้องฟิตเนสที่ชั้น 5 ก็จะเจอโถงทางเดินเชื่อมไปยังห้อง Library และ Business Lounge
ซึ่งจริงๆตรงนี้เราไม่จำเป็นต้องเดินผ่านห้องฟิตเนสก่อนก็ได้ค่ะ ด้านนอกจะมีบันไดเชื่อมขึ้นมาจากชั้น 49 ด้วยเช่นกัน
มาเริ่มที่ห้องสมุดจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8.00 – 22.00 น.
บรรยากาศในห้องสมุดตกแต่งด้วยชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่ได้บรรยากาศห้องทำงาน/อ่านหนังสือ พร้อมจัดชุดที่นั่งมาให้หลายแบบ ตรงกลางห้องเป็นโต๊ะยาวขนาด 6 ที่นั่ง ใช้นั่งทำงานเป็นกลุ่มหรือนั่งคุยงานกันได้
อีกมุมจะเป็นชุดโซฟาแบบนั่งพักผ่อน อารมณ์แบบเงียบๆ
ด้านในสุดเป็นโซฟายาว มีโต๊ะเล็กให้ ตรงนี้เอาโน๊ตบุคมานั่งทำงานได้ค่ะ
ภาพรวมบรรยากาศในห้อง Library อีกมุมค่ะ
ฝั่งตรงข้ามห้อง Library จะเป็น Business Lounge
เข้ามาจะเจอทางเดินยาวๆ ปรับอารมณ์ให้มีความเป็นส่วนตัว
ออกมาที่ส่วน Lounge ก็จะเป็นพื้นที่โถง จัดชุดเก้าอี้เดี่ยวสำหรับนั่งพูดคุยงานแบบสบายๆ
ผนังรอบด้านเป็นกระจก ตรงมุมเป็นกระจกโค้งได้วิวเมืองเต็มๆตา
วิวจาก Business Lounge จะเป็นวิวทางฝั่งสีลมค่ะ
นอกจากนั้นวิวระยะใกล้ก็จะเป็นสระว่ายน้ำล้อมรอบเลย
แปลนอาคารชั้น 50 – 56 เป็นส่วนที่พักอาศัยนะคะ ความหนาแน่นยูนิตคือ 10 ยูนิตต่อชั้นค่ะ จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom 34.5 ตร.ม.ไปแล้ว 9 ห้อง อีกห้องเป็น 2 Bedroom 66 ตร.ม. ค่ะ เรื่องวิวของชั้นที่สูงแบบนี้จะเป็นวิวที่มองออกไปได้ไกลเลยค่ะ ไม่มีอะไรบังน่าจะสวย และเป็นโซนที่มีความเป็นส่วนตัวสูง
ขึ้นมาที่ชั้น Rooftop จะมีสวนหย่อมลงต้นไม้ไว้ร่มรื่นเลยทีเดียว พร้อมจัดทางเดินในสวนให้ลูกบ้านได้มาเดินพักผ่อนกันชิลล์ๆ
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องตัวอย่างที่ตกแต่งเสร็จให้เข้าชมในโครงการตอนนี้จะมีเพียงแบบเดียวนะคะ คือห้อง 1 Bedroom ขนาดประมาณ 34.5 ตร.ม. ความสูงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร ห้องขายแบบ Fully Fitted สิ่งที่มีให้คือชุดครัว Built – in ครบชุดพร้อมซิ้งค์ล้างจานและ Hob & Hood หินสังเคราะห์, Digital Door Lock, ตู้อเนกประสงค์หลังประตู
แปลนห้องส่วนแรกเป็นพื้นที่ครัวแบบเปิด ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น เชื่อมต่อกับระเบียง ซึ่งส่วนระเบียงเป็นแบบ Semi Outdoor สามารถเลือกเปิด-ปิดเพื่อปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานได้ และจากห้องนั่งเล่นก็จะสามารถเชื่อมไปห้องนอนได้ โดยจะมีประตูบานสไลด์ที่สามารถเลือกเปิด-ปิดพื้นที่ได้ จากห้องนอนก็จะเชื่อมไปยังห้องน้ำภายในห้องนอนค่ะ
เน้นวิวฝั่งนี้เพราะไม่โดนบล็อควิว ไม่มีตึกในระยะประชิด เห็นไอคอนสยาม สูงขึ้นไปประมาณชั้น 30 จะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา 2 จุด เห็นมหานคร ตะวันออก 20 อัพ ด้านหน้าเป็นสามเหลี่ยมตัดเฉียงไม่โดนจามบัง 100 เห็นฝั่งราชดำริ
มาดูของจริงกันเลย เริ่มี่ประตูทางเข้าหน้าห้องเป็นบานทึบลายไม้สีเข้ม ตัวบานสูง ดูดี ติดตาแมวไว้ส่องหน้าห้องเพื่อความปลอดภัย
พร้อมกริ่งหน้าห้อง
มือจับได้เป็น Digital Door Lock ของ Yale
พื้นหน้าห้องมีตัวจบติดตั้งมาให้เรียบร้อย
เปิดเข้ามาในห้องเราจะเจอพื้นที่ส่วนครัว ต่อเนื่องยาวไปยังห้องนั่งเล่น และระเบียง ส่วนห้องนอนจะอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นทางซ้ายมือ
เต้าเสียบและสวิทช์ไฟในห้องใช้ของ Schneider สีเทาด้าน มาตรฐานแบบนี้เลย
เข้ามาในห้องแล้วมองย้อนไปทางประตูทางเข้า ทางโครงการจะมีติดตั้งตัวโช๊คอัพบานสวิงไว้ด้านบน
ข้างประตูจะมีตู้อเนกประสงค์ Built – in มาให้เป็นตู้ทรงสูงจรดฝ้า ใช้เก็บรองเท้าหรืออุปกรณ์ทำคามสะอาดและของอื่นๆได้เป็นระเบียบ โดยวัสดุปิดผิวหน้าบานจะคล้ายๆหนังสีดำ ดูสวยดีค่ะ
ฝั่งตรงข้ามตู้อเนกประสงค์จะเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัวครบชุด ในห้องมาตรฐานได้ตามแบบนี้เลย ยกเว้นเครื่องซักผ้า, ไมโครเวฟ และของตกแต่ง
Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ ผนังด้านหลังติด Backsplash มาให้เรียบร้อย ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนขนาดพื้นที่เตรียมอาคารกระทัดรัด
มีดีเทลเล็กๆน้อยๆอย่างฝาปิดซิ้งค์ล้างจานมาให้ด้วย ตรงนี้สามารถเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารได้ ถือว่าเป็นจุดที่ทำให้ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าเลยค่ะ
ส่วนซิ้งค์ล้างจานจะได้เป็นแบบฝังทรงสี่เหลี่ยม ยี่ห้อ MEX ติดตั้งมาพร้อมก๊อกน้ำทรงโค้ง
ใต้เคาน์เตอร์แบ่งเป็นช่องเก็บของขนาดใหญ่ หน้าบานตู้ผิดผิวด้วยวัสดุคล้ายหนังสีดำ เข้ากันกับตัวตู้อเนกประสงค์
ตู้จะแบ่งเป็นใต้ซิ้งค์ล้างจาน จะมีถังขยะติดตั้งมาให้ด้วย ไม่ต้องซื้อเพิ่มเลยค่ะ ข้างๆกันก็จะเป็นลิ้นชัก มีเก๊ะแบกช่องเก็บช้อน ส้ม ส่วนตู้ด้านล่างก็จะมีแบ่งเป็นช่องๆ สำหรับเก็บของเพิ่มเติม
ตู้ลอยชั้นบนหน้าบานปิดผิวลามิเนต ลายไม้สีเข้ม พร้อมติดตั้งเครื่องดูควัน ยี่ห้อ MEX ส่วนชั้นวางของและตู้เก็บของจะมีทั้งตู้บานใหญ่และด้านล่างแบ่งเป็นช่องสำหรับวางเตาไมโครเวฟและของเล็กๆน้อยๆ
พื้นส่วนห้องครัวจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีม จะได้ทำความสะอาดได้ไม่ยากค่ะ
จากพื้นที่ตรงนี้จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งพื้นที่ครัวค่อนข้างเป็นสัดส่วนอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเราอยากกั้นห้องเป็นครัวปิดก็สามารถทำได้ไม่ยากเลยนะคะ
ถัดจากห้องครัว ถัดมาจะเป็นพื้นที่โถงที่รวมฟังก์ชั่นห้องทานอาหารและห้องนั่งเล่นเข้าไว้ด้วยกัน
สำหรับห้องตัวอย่างมีการจัดวางโต๊ะทานอาหารมาให้ดูเป็นตัวอย่าง เป็นโต๊ะขนาด 2 ที่นั่ง วางติดผนังและเคาน์เตอร์ครัว ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ในห้องนี้แล้วค่ะ แต่ถ้าใครไม่ชอบนั่งหันหน้าเข้าหาผนังก็สามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะเล็กลง แล้ววางเก้าอี้หันหน้าเข้าหากันก็ได้นะคะ
ภาพรวมจากพื้นที่ห้องทานอาหาร มองย้อนไปทางห้องครัว ตรงนี้ถ้ากั้นครัวปิดด้วยกระจกใสก็จะยังทำให้บรรยากาศในห้องดูโปร่งได้อยู่นะคะ
ถัดจากพื้นที่ทานอาหารเข้ามาก็จะเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ตรงนี้จะได้แสงธรรมชาติเต็มๆจากพื้นที่ส่วนระเบียง Semi Outdoor
ขนาดของห้องนี้สามารถวางโซฟา 2 – 3 ที่นั่งได้ กำลังพอดีๆ
ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นพื้นที่สำหรับวางที โดยในห้องมาตรฐานจะเป็นพื้นที่โล่งๆ เราสามารถหาเฟอร์นิเจอร์มาวางเพิ่มเป็นชั้นวางหรือตู้โชว์ของสวยๆได้
ระยะดูทีวีเหลือพอสมควร สามารถวางโต๊ะกลางตัวเล็กๆแบบในห้องตัวอย่างได้ แต่ถ้าปกติไม่ได้ใช้วางของอยู่แล้วจะตัดออกก็ได้ค่ะ จะได้มีทางเดินโล่งๆ ออกไปยังระเบียงได้สะดวกขึ้น
ติดกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นระเบียงแบบ Semi Outdoor มีประตูบานสไลด์สามตอนกั้นพื้นที่ อ้อ ทางโครงการแถมม่านมาให้ด้วยนะคะ
บานกรอบประตูและหน้าต่างระเบียงเป็นอลูมิเนียมสีดำ มือจับด้านในห้องมีตัวล็อคและด้านนอกเป็นมือจับเซาะร่องมาตรฐาน
พื้นระเบียงภายนอกปูกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวแมท สีครีม สามารถล้างทำความสะอาดได้งาย ส่วนขนาดพื้นที่ใช้สอยภายนอกค่อนข้างกว้าง สามารถวางชุดโต๊ะทานกาแฟได้เลย หรือถ้าใครชอบปลูกต้นไม้ ก็สามารถจัดสวนแบบเรือนกระจกได้ค่ะ
อย่างที่บอกว่าตัวระเบียงเป็นแบบ Semi Outdoor ซึ่งเราจะเห็นว่ามีราวกันตกปกติ แต่ที่เพิ่มมาคือหน้าต่างบานใหญ่ สามารถเปิดเพื่อให้เป็นกึ่ง Outdoor ได้ หรือถ้าปิดก็สามารถเชื่อมพื้นที่การใช้งานกับห้องนั่งเล่นได้เลยสบายๆ
ส่วตัวบานหน้าต่างมีความสูงถึงฝ้าเลยเพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ห้องดูแคบลงนะคะ
มองวิวตรงๆก็จะเห็นประมาณนี้
วิวจากห้องทางฝั่งทิศตะวันตกจะมีวิวสวยสุดจากทุกด้าน สามารถมองเห็นไอคอนสยาม และถ้าสูงขึ้นไปประมาณชั้น 30 อัพ ก็จะสามารถมองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้เลยค่ะ
ไฟส่วนระเบียงติดเป็นดาวน์ไลท์มาให้
ด้านข้างระเบียงอีกฝั่งเป็นพื้นที่ของห้องคอมเพรสเซอร์แอร์ กั้นแยกมาเป็นสัดเป็นส่วนดี
หันกลับเข้ามาในห้องจะเห็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นยาวไปห้องครัว และอีกฝั่งทางขวามือเป็นพื้นที่ห้องนอน ส่วนตำแหน่งแอร์คอนซีลที่ทางโครงการติดตั้งมาให้สำหรับห้อง 1 Bedroom ก็จะได้ 2 ตัวตามภาพเลยนะคะ
เดี๋ยวเราเข้าไปดูในส่วนห้องนอนกันต่อ
สำหรับห้องนอนจะมีประตูบานสไลด์ขนาดใหญ่กั้นพื้นที่มาให้แบบนี้ ถ้าปิดก็จะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
ตัวบานสไลด์สามารถเลื่อเปิด-ปิด ได้เต็มพื้นที่แบบนี้เลย วันไหนเพื่อนมาเที่ยวที่ห้องก็สามารถปิดได้ หรือถ้าอยู่แบบวันปกติจะเปิดไว้ก็ทำให้ห้องดูกว้างดีนะคะ
พื้นที่ในห้องนอนสามารถจักวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆมาได้ครบฟังก์ชั่น ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าห้อง 32 ตร.ม. กับ 34 ตร.ม. ต่างกันนิดเดียว จะมีอะไรเพิ่มขึ้นมาได้บ้าง เดี๋ยวเราไปดูกันทีละส่วนๆนะคะ
ขนาดของห้องนี้สามารถวางเตียงขนาดควีนไซส์ได้ กำลังดี แต่ถ้าใครชอบเตียงใหญ่ๆ จะวางเป็นคิงส์ไซส์ไปเลยก็ได้ค่ะ พื้นที่ยังพอเหลือให้วางได้สบายๆ
พื้นที่เหลือข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง หลังจากวางเตียงควีนไซส์ลงไปแล้วจะเหลือให้วางตู้เก็บของตรงหัวเตียงได้ทั้ง 1 ฝั่ง
พื้นที่ปลายเตียงมีระยะให้เดินผ่านได้พอดีๆ แต่ถ้าปิดประตูบานเลื่อนแล้วอาจจะเดินผ่านลำบากหน่อยค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงตรงนี้จะเป็นจุดหนึ่งที่ได้เพิ่มมากจากห้อง 32 ตร.ม. เป็นมุมที่สามารถวาง Daybed หรือโต๊ะทำงานได้ จะอยู่ติดกับช่องแสงบานยาว ที่สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้
อีกฝั่งของห้องจะเป็นพื้นที่ Walk – in Closet เล็กๆหน้าห้องน้ำ และห้องน้ำภายในห้องนอน
พื้นที่บริเวณหน้าห้องน้ำก็จะเป็นอีกจุดขึ้นที่มีพื้นที่กว้างขึ้นกว่าห้อง 32 ตร.ม. ทำให้เราสามารถใส่ตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่กว่าได้ ตรงนี้จะถูกใจสาวๆที่มีเสื้อผ้าเยอะหน่อยค่ะ
ระยะยืนแต่งตัวหน้าห้องน้ำพอดีๆ
ถัดมาเราจะเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อ
สำหรับห้องน้ำพื้นและผนังกรุกระเบื้องสีเทาและเทาเข้ม เราจะได้ตามห้องตัวอย่างเลยยกเว้นพร็อพตกแต่งนะคะ
เริ่มที่อ่างล้างมือเป็นแบบฝั่งเคาน์เตอร์หินอ่อนสีเข้ม พร้อมเดินระบบน้ำร้อนน้ำเย็นมาให้เรียบร้อย มีพื้นที่วางของเหนืออ่างเยอะพอสมควร
ขนาดอ่างกว้างเลยค่ะ ใช้งานได้สะดวก โดยอ่างและสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะใช้ของยี่ห้อ Kohler
โถสุขภัณฑ์แบบ dual Flush ยี่ห้อ Kohler ติดตั้งมาพร้อมสายชำระและที่วางกระดาษชำระ
สายชำระขนาดพอดีมือ
ส่วนพื้นที่ห้องอาบน้ำจะกั้นแยกเป็นสัดส่วน ด้วน Shower Box กระจกนิรภัย บานเปิดแบบผลัก
ภายในห้องน้ำติดตั้ง Rain Shower แบบแขวนผนังและ Hand Shower มาให้ ขนาดฝักบัวไม่เล็กไม่ใหญ่ ใช้ของ Grohe พร้อมเดินระบบเครื่องทำน้ำร้อนมาให้เรียบร้อย
ขนาดห้องอาบน้ำประมาณ 1.4 x 0.8 เมตร
กลับออกมาจากห้องน้ำ ให้ดูมุมจาก Walk – in Closet มองย้อนไปทางห้องนอน
ราคา (ธ.ค. 2561)
ค่าส่วนกลาง : 65 บาท/ตร.ม./เดือน
ค่ากองทุน : 650 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
*สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ : โครงการ Ashton จุฬา – สีลม เป็นโครงการที่ดดดเด่นเรื่องทำเลเป็นหลักค่ะ โดยจะตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าไปหัวลำโพง ตรงข้ามจามจุรี สแควร์ ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่านและไม่ไกลจาก BTS ศาลาแดง เดินทางสะดวกไม่ว่าจะใช้รถสาธารณะหรือรถยนต์ส่วนตัว และมีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้จุฬา ใกล้สยาม สีลม สาทร ใกล้สวนลุมพินี
เป็นทำเลใจกลางเมืองที่จัดได้ว่าเป็นที่ดินผืนหายาก ราคาค่าตัวหลักของโครงการนี้จึงขึ้นอยู่กับทำเลเป็นหลักค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ : เป็นโครงการกลางเมืองจึงมีความอุดมสมบูรณ์สูง ทั้งในระยะเดินถึงและความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้าง มีความคึกคักทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ถือว่าเป็นย่านที่สมบูรณ์ หาของกินค่อนข้างง่าย และเหมาะสำหรับคนนอนดึกด้วยค่ะ
โดยร้านที่อยู่ติดๆโครงการเลยจะมีร้านกาแฟ Too Fast To Sleep ที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่นและคนทำงานที่นอนดึกอยู่ เปิด 24 ชั่วโมง ด้านในสั่งขนมเค้ก ไอศครีมและเครื่องดื่มต่างๆได้ และในช่วงกลางวันถึงดึกๆจะมีร้านอาหารหลายร้านทั้งร้านส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่
ห้างใกล้ๆโครงการก็มีจามจุรีสแควร์ เดินจากโครงการไปแค่ประมาณ 300 มตร เปิดตั้งแต่ 11 โมง ถึง 2 ทุ่ม ด้านในมีร้านอาหารเยอะเหมือนกัน นอกจากนี้แถวหน้าวัดหัวลำโพงก็มีร้านอาหารและแผงขายของกินอยู่หลายร้าน
ถ้าเดินได้ในรัศมีไม่เกิน 500 เมตร ก็มีทั้งร้านอาหารเก่าๆแถวสุรวงศ์ ร้านอาหารหลากหลายสัญชาติย่านสีลม อย่างอาหารญี่ปุ่นในซอยธนิยะ หรือพัฒพงษ์ก็อยู่ในระยะที่เดินไปถึงทั้งนั้นค่ะ อย่างสยามนี่ไม่ไกลนะ แต่อาจเดินเหนื่อยหน่อยเพราะห่างเป็นกิโล ก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไป 40 บาท หรือเดินไปขึ้น BTS ศาลาแดงที่ห่างออกไปประมาณ 550 เมตรก็สะดวกค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว : สำหรับคนขับรถ เส้นพระราม 4 ถือว่าอยู่ใจกลางเมืองอยู่แล้ว ขับไปไหนในตัวเมืองก็เป็นระยะสั้นๆค่ะ แต่ถ้าจะช้าก็เพราะรถติดในเวลาเร่งด่วน เพราะย่านนี้เป็นโซนใจกลางเมือง ใกล้ห้าง ใกล้ Office Building มากมาย แถมยังใกล้จุฬาฯอีก จริงๆมันก็เป็นทำเลที่ถ้าจะไปไหนใกล้ๆก็เดินไปหรือนั่งรถไฟฟ้าไปดีกว่า เพราะคนเยอะ รถก็เยอะตาม แต่สำหรับคนที่ต้องขับออกนอกเมือง หรือไปไหนไกลๆ ก็มีทางด่วนศรีรัช, ทางด่วนเฉลิมมหานคร ให้ใช้บริการได้ และจุดขึ้นลงทางด่วนทั้งคู่ก็อยู่ในระยะราวๆ 2-3 กิโลเมตรเท่านั้นจากโครงการ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : เป็นทำเลที่เหมาะกับคนไม่ขับรถนะ เพราะหน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ที่มีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย เดินไปอีกนิดก็มีวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งย่านนี้ในชั่วโมงเร่งด่วน พี่วินช่วยได้มากจริงๆ ตุ้กๆแท้กซี่ก็มีผ่านไปผ่านมาหน้าโครงการตลอด และที่เดนสุดเลยคือใกล้ MRT สามย่านเดินไปแค่ 180 เมตร ซึ่งถือว่าสะดวกมาก แต่สำหรับคนที่ใช้ BTS เป็นหลัก ก็ต้องไปเปลี่ยนสายสถานีหรือไม่ก็เดินไป BTS ศาลาแดงที่ห่างออกไปประมาณ 550 เมตร ซึ่งยังอยู่ในระยะที่พอเดินได้อยู่ค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ : วันนี้ที่เราพาชมจะเป็นการอัพเดทโครงการซึ่งวันนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ตัวอาคารสวยกริ้บ มีจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์เลยคือเป็นตึกสูงที่ส่วนมุมเป็นกระจกโค้งมน และ Facade ภายนอกดูเป็นชิ้นเดียวกันหมดได้ลุคสวยโมเดิร์นตามสไตล์ Ashton ซึ่งพ่วงอยู่กับฟังก์ชั่นด้านในของห้องแบบ 2 ห้องนอนและส่วนกลางจะเห็นวิวมุมกว้างแบบพาโนราม่ากันไปเลย
ห้องในโครงการมีทั้งหมด 3 แบบ คือ
ห้องตัวอย่างที่เราพาชมเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.5 ตร.ม. จะมีฉากกั้นฝังในผนัง ทำให้ห้องนี้สามารถใช้งานห้องนั่งเล่นและห้องนอน ทั้งสองฟังก์ชั่นได้ในเวลาเดียวกันและแยกส่วนกันได้เวลามีแขกมาหา แต่ถ้าเป็นการใช้ชีวิตปกติก็น่าจะเปิดประตูเพื่อเชื่อมพื้นที่ไว้เป็นหลักค่ะ เพราะทำให้ห้องดูกว้างขึ้นมากกว่าเลื่อนปิดค่อนข้างมาก
ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted อุปกรณ์ที่มีให้ได้แก่ ชุดเคาน์เตอร์ครัวบนล่างท๊อปหินสังเคราะห์บานปิด Soft Close พร้อมเตาไฟฟ้า + เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานแบบมีฝาปิดเป็นหินสังเคราะห์เข้ากันกับเคาเตอร์ ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการทำครัว พื้นครัว, ระเบียง และห้องน้ำปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 30 x 60 cm. พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็น Engineering wood, กระจกภายนอกอาคารใช้กระจกลามิเนตตัดแสงบานใหญ่, แอร์เป็นแบบคอนซีลมาในฝ้าเพดานให้เรียบร้อย, ส่วนในห้องน้ำ เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นท็อปหินสังเคราะห์, อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ของ Kohler, สายชำระ ของ Englefield, ชุดฝักบัวอาบน้ำและก๊อกน้ำของ Grohe, ฉากกั้นส่วนเปียกเป็นกระจกเทมเปอร์ มีการ Drop ฝ้าเพดานเพื่อติดรางผ้าม่านให้และแถมผ้าม่านชั้นนอกแบบทึบแสงให้ด้วยค่ะ
วัสดุให้มาโอเคสำหรับราคาระดับนี้ค่ะ คือไม่ได้ให้เยอะ ตู้เสื้อผ้าไม่ได้ ชั้นเก็บของไม่มี แต่มีความใส่ใจและใช้ของดีในส่วนที่ให้ แต่จริงๆแล้วคอนโดราคาแบบนี้ ความคุ้มค่าหรือสเป็คของวัสดุไม่ได้เป็นปัจจัยหลักสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายมากนัก เพราะจริงๆราคานั้นถูกกำหนดด้วยราคาทำเลที่ตั้งและปริมาณพื้นที่รวมของตึกที่สามารถขายได้เป็นหลักมากกว่า หรือพูดง่ายๆว่าแพงเพราะทำเลที่เป็นที่ดินผืนหายากแล้วนั่นเอง ราคาไม่ได้แพงเพราะสเป็ควัสดุ
สิ่งอำนวยความสะดวก : ส่วนกลางโครงการนี้เน้นสวย และให้มาเยอะให้สมกับจำนวนยูนิตค่ะ โดยจะมี สวนไล่ระดับด้านหน้า Lobby, Lobby ฝ้าเพดานสูง ตกแต่งออกมาสวยเลย, สวนชั้น 7
พื้นที่ส่วนกลางหลักๆจะอยู่ในชั้น 48-49 ซึ่งค่อนข้างจะเน้นพื้นที่ที่ให้เห็นวิวดีมุมกว้าง มีสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ เล่นระดับ ขนาด 6 x 50 เมตร สามารถว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ โดยมีพื้นที่จากุซซี่ให้ด้านหน้า 1 จุดและออนเซ็นให้ 2 จุด เป็นพื้นที่แบบต่างระดับ มีสระเด็กอยู่ด้านหลัง
ห้องออกกำลังกายมีให้ 2 ชั้น(ชั้น 48 -49) สำหรับคนชอบออกกำลังกายต้องชอบมากค่ะ เพราะจัดเครื่องออกกำลังกายให้มาครบและอัพเดตมากๆ บางตัวที่ฟิตเนสทั่วไปยังไม่มีเลยค่ะ งานตกแต่งห้องออกกำลังกายมีผนังห้องเป็นกระจกสามารถออกกำลังกายไปมองวิวของตึกสูงไปได้ นอกจากนี้ก็มีห้องโซเชียลคลับ/ไวน์บาร์, ห้องสมุด, ห้องอเนกประสงค์ ,ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ห้องซักรีด, ห้องซาวน่า, ห้องอบไอน้ำ ครบครัน
ที่จอดรถอยู่ที่ชั้น 1-6 มีที่จอดรถจักรยาน, ที่จอดรถ Super Car และที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้าในชั้น 1 แต่สำหรับที่จอดรถยนต์ทั้งโครงการจอดได้ประมาณ 560 คันคิดเป็น 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน สำหรับโครงการที่มียูนิตเยอะแบบนี้ถือที่จอดรถค่อนข้างน้อยนะคะ แต่คิดว่าน่าจะมาจากการวิเคราะห์ทำเลว่าเหมาะกับคนไม่ใช้รถมากกว่าก็เป็นได้ค่ะ
ส่วนลิฟต์โดยสารมีให้ทั้งหมด 7 ตัว กับลิฟต์บริการอีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 169 : 1 แต่โดยรวมแล้วให้ส่วนกลางเยอะ ครบครัน เพื่อให้สอดคล้องกับยูนิตพักอาศัยที่เยอะเช่นกัน (1,180 ยูนิต)
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 9.0 | ติดถนนใหญ่พระราม 4 เป็นทำเลกลางเมือง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ใกล้สยาม สีลม สาธร ใกล้รถไฟฟ้า MRT สามย่าน |
การเดินทาง ใช้รถ | 7.5 | เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน ไปไหนมาไหนง่าย แต่ต้องระวังรถติด และที่จอดรถให้มาไม่เยอะเท่าไหร่ |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 9.0 | สะดวกมาก มีป้ายรถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์, ตุ๊กๆ, รถไฟฟ้า MRT สามย่าน อยู่ใกล้ในระยะ 180 เมตร เดินสบายๆและ BTS ศาลาแดง 550 เมตร |
ห้องและวัสดุ | 8 | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว เฟอร์ที่ให้มาไม่เยอะเท่าไหร่แต่วัสดุอยู่ในระดับดี – ของที่ให้มาเข้ากับคอนเซปต์ของโครงการ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 9.0 | มีให้ครบครันและออกแบบได้สวยน่าใช้งาน ฝ้าเพดานสูงทุกชั้น |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | เฉลี่ยปัจจุบันประมาณ 225,000 บาท/ ตร.ม. ได้โครงการพร้อมอยู่ เน้นทำเลดีติดรถไฟฟ้า ห้องพักอาศัยและดีไซน์มีสไตล์ |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.4 | ดี |
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02 316 2222
Website : http://www.ananda.co.th/condo/projects/ashton-chula-silom/sem.php
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น