EP.163 รีวิว คอนโด ไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท 107 KnightsBridge Collage Sukhumvit 107
>> อ่านรีวิวพร้อมอยู่ คลิก รีวิว KnightsBridge Collage สุขุมวิท 107
สวัสดีค่ะผู้อ่านชาว Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพามาชมไปชมโครงการ KnightsBridge Collage สุขุมวิท 107 ซึ่งเป็นคอนโด High rise แบรนด์หรู ใหม่ล่าสุดจาก Origin Property กันค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 107 หรือ ซอยแบริ่ง ถนนสุขุมวิท แขวงบางนา เขตบางนา กทม.
ใกล้กับ รถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง ในระยะ 450 เมตร เดินทางสะดวกใกล้ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์, ทางพิเศษบูรพาวิถี และ วงแหวนกาญจนาภิเษก
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ St Andrews International School, ไบเทค บางนา และ Bangkok Mall
ไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท 107 เป็น High rise Condominium สูง 28 ชั้น มี 1 อาคาร จำนวน 303 ยูนิต และร้านค้าอีก 1 ยูนิต บนเนื้อที่ 1-1-50.8 ไร่ สไตล์โมเดิร์น โทนโมโนโคลม กับห้องพัก มีห้องแบบ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedrooms ขนาดเริ่มต้นที่ 22.70 ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted พร้อม Built-in และ เครื่องปรับอากาศ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ปี 2563 ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก ภายในโครงการจะเน้นเป็นพิเศษ มีมาให้อย่างครบครันเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้ง Reception, Lobby, Mail Box, Library, Shop, Car Washing Room พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่เชื่อมต่อเนื่องกันถึง 4 ชั้น ประกอบด้วย Sky Garden, Steam, Swimming Pool, Gym, Social Fitness, Co-Kitchen, Activity Space และ Roof Garden มี ลิฟท์โดยสารระบบล็อคชั้น, Access Card Control, Digital Door Lock, ระบบ Home Automation, CCTV และ รปภ. 24 ชม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.59 ล้านบาท (พ.ค.2561)
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะเป็นอย่างไร อ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ
สอบถามข้อมูลและโปรโมชันเพิ่มเติมโทร : 020-300-000
ชื่อโครงการ | ไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท 107 KnightsBridge Collage Sukhumvit 107 |
เจ้าของโครงการ | บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) |
เนื้อที่ทั้งหมด | 1-1-50.8 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 28 ชั้น |
จำนวนห้อง |
|
ลักษณะห้องและขนาดห้อง |
|
ที่จอดรถทั้งหมด | Auto Parking ทั้งหมด 42% |
จำนวนลิฟต์ |
|
โซน | สุขุมวิท |
ขนส่งสาธารณะ |
|
รถโดยสารที่ผ่าน | n/a |
ที่ตั้ง | ซอยสุขุมวิท 107 แขวงบางนา เขตบางนา กทม. |
กำหนดการ | เปิดลงทะเบียน |
ปีที่สร้างเสร็จ | คาดว่าจะแล้วเสร็จใน ไตรมาสที่ 4 ปี 2563 |
ราคา | เริ่มต้น 2.59 ล้านบาท* |
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม | เริ่มต้น 107,900 บาท/ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน |
|
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
ศาสนสถานและอื่นๆ
|
สิ่งอำนวยความสะดวก |
|
จุดเด่นของโครงการ | เตรียมพบกับโครงการ KnightsBridge Collage สุขุมวิท 107 คอนโดใหม่จาก Origin บนทำเลศักยภาพ เพียง 450 เมตร จาก BTS แบริ่ง เริ่ม 2.59 ลบ. |
คอนโด BTS แบริ่ง / คอนโดติดรถไฟฟ้า BTS แบริ่ง
คอนโดใกล้เคียง
:::: ที่ตั้งโครงการ ::::
พิกัด : 13.657877, 100.602962
แผนที่จากทางโครงการ
ทำเลที่ตั้ง โครงการ KnightsBridge Collage สุขุมวิท 107 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 107 หรือที่เราเรียกกันอย่างคุ้นหูว่าซอยแบริ่งค่ะ ซึ่งตัวโครงการนั้นจะอยู่ในช่วงต้นซอยติดกับซอยแบริ่ง 4 วัดจากจุดขึ้นรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง เข้ามาประมาณ 450 เมตรเท่านั้น เนื่องจากซอยแบริ่งเป็นซอยที่มีขนาด 4 เลนที่เชื่อมระหว่างเส้นสุขุมวิทและศรีนครินทร์ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมกับซอยลาซาลไปถนนบางนา-ตราดได้ โดยมีซอยฝั่งเลขคี่ที่สามารถลัดเลาะไปออกได้
ตรงเส้นบางนาก็มีทั้งจุดขึ้นทางด่วนและเซ็นทรัลบางนาด้วย ซอยแบริ่งจึงเป็นซอยที่ค่อนข้างจะคึกคัก มีรถวิ่งผ่านค่อนข้างเยอะ และมีความอุดมสมบูรณ์ มีร้านค้าเรียงรายอยู่ไม่ขาดโดยเฉพาะช่วงต้นๆ ซอยจะยิ่งมีของขายเยอะเป็นพิเศษ โดยภาพรวมของซอยจะยังคงเป็นย่านพักอาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียมก็พอมีขึ้นบ้างแล้วค่ะ แต่ยังไม่เยอะมากนัก
ซึ่งในโซนแบริ่งนับว่าเป็นย่านที่มีศักยภาพในการลงทุนในอนาคต เพราะเป็นแหล่งการค้าย่าน East Business District (EBD) เศรษฐกิจสำคัญฝั่งกรุงเทพตะวันออก อยู่ใกล้ศูนย์กลางความเจริญของกรุงเทพฝั่งตะวันออก รายล้อมไปด้วยชุมชนที่อยู่อาศัย, โรงเรียน, โรงแรม, ศูนย์การค้าตลอดจนสำนักงานต่างๆ ที่ยังเกาะเส้นรถไฟฟ้า และจุดขึ้น-ลงทางด่วน มีตัวเลือกในการเดินทางค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นรถสาธารณะหรือรถยนต์ส่วนตัว แต่ยังมีราคาที่ไม่สูงมากนัก ถือเป็นทำเลทองที่ใครๆ ก็เอื้อมถึง โดยมีแนวโน้มที่จะมีราคาสูงขึ้นอีกด้วยค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือว่าทำได้สะดวก ถ้าจะเข้าเมืองหลักๆ ก็จะใช้เส้นสุขุมวิทไปเลย ถ้าจะออกนอกเมืองไปฝั่งสำโรงก็สามารถใช้เส้นสุขุมวิทวิ่งตรงอย่างเดียวไปจนถึงสมุทรปราการก็ได้เช่นกันค่ะ จากซอยจะเชื่อมกับถนนศรีนครินทร์ ซึ่งใช้วิ่งเข้าเมืองได้เช่นกัน สามารถใช้วิ่งขึ้นไปทางรามคำแหงจนถึงเส้นลาดพร้าวตรงแถวๆ เดอะมอลล์บางกะปิ หรือวิ่งลงไปทางบางปูจะไปสุดที่ถนนสุขุมวิทพอดี
ภายในซอยแบริ่งเองก็จะมีซอยย่อยๆ ที่สามารถใช้เชื่อมไปยังซอยลาซาลได้ นั่นก็คือซอยลาซาล 24 และถนนแบริ่ง-ลาซาล และซอยลาซาล 23 และ 55 ที่เชื่อมกับเส้นบางนา-ตราด ซึ่งตรงซอยลาซาล 55 พอออกเส้นบางนา-ตราดแล้วกลับรถไปทางฝั่งขาออกเมือง ก็จะเจอเซ็นทรัลบางนาและจุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีพอดี ใช้วิ่งออกไปทางชลบุรีได้สะดวก ใช้เป็นเส้นทางในการหลีกเลี่ยงการจราจรได้เป็นอย่างดี
ทางด่วน ตัวโครงการนั้นอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วนหลายจุด เป็นตัวช่วยเสริมให้การเดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น จากเส้นทางปกติที่อาจจะติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วน ที่ใกล้ที่สุดก็คือจุดขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานครอยู่ห่างจากตัวโครงการออกไปเพียง 2.5 กม. สามารถใช้เดินทางไปยังโซนจตุจักร, รามอินทรา, รังสิต, ปากเกร็ด หรือจะเข้าเมืองไปทางสีลมหรือสาทรได้สะดวก
อีกจุดนึงที่ใกล้ก็คือจุดขึ้นทางพิเศษบูรพาวิถีตรงเส้นบางนา-ตราดที่เราได้กล่าวกันไปแล้ว เราสามารถไปได้หลายเส้นทางค่ะ จะเลือกใช้ถนนสุขุมวิท หรือเลือกใช้ซอยลาซาล 23 หรือ 55 ก็ได้แล้วแต่สะดวก ตรงนี้จะใช้วิ่งออกไปทางชลบุรีนะ
จากตัวโครงการก็อยู่ไม่ไกลจากวงแหวนกาญจนาภิเษกเช่นกัน โดยจากซอยแบริ่งให้ออกมาที่ถนนสุขุมวิทฝั่งขาออกนอกเมือง ตรงไปจะมีทางแยกออกไปฝั่งซ้ายมือเพื่อขึ้นวงแหวนไปทางพระราม 2 ค่ะ
ความอุดมสมบูรณ์ ในปัจจุบันซอยแบริ่งมีความเจริญขึ้นมาก ภายในซอยมีความอุดมสมบูรณ์มากพอสมควร โดยเฉพาะในช่วงต้นๆ ซอยจะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์เปิดให้เช่าพื้นที่ขายของ มีทั้งร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven, Watson, ร้านอาหารอร่อยๆ หลายร้าน ไม่ว่าจะเป็น ไทย-จีน-อีสาน-ญี่ปุ่น รวมถึงร้านอาหารตามสั่ง ยกตัวอย่างเช่่น ร้านวีทีแหนมเนือง, ร้านพิซซ่าท้ายซอยแบริ่ง, ก๋วยเตี๋ยวไก่ข้ามฟาก, ตำตำ และร้านเพลินพุง นอกจากนี้ ภายในซอยก็จะมี รร.นานาชาติ St.Andrew และ รร.เซนต์โยเซฟบางนาด้วยนะ
ถ้าออกมาดูที่เส้นสุขุมวิทบ้าง ฝั่งตรงข้ามกับซอยลาซาลจะมี APT Bearing Mall ที่เป็นจุดให้บริการจอดรถ Park&ride ตรงนั้นจะมีตลาด มีทั้งอาหาร, ร้านค้า และร้านสะดวกซื้อคอยอำนวยความสะดวกให้ ซอยติดกันมีรพ.มนารมย์ เลยไปหน่อยติดทางขึ้นทางด่วนมี The Coast Village เป็น Community mall ที่ภายในมีร้านค้ากว่า 40 ร้านด้วยกัน ลงมาทาง BTS สถานีสำโรง ก็จะมีทั้ง อิมพีเรียลสำโรง, สำโรงเซ็นเตอร์ และ ตลาดสำโรงอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
ในส่วนของห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เลยจะอยู่บนเส้นบางนา-ตราด นั่นก็คือเซ็นทรัลบางนา ข้างๆ มี Hypermarket อย่าง Big C และมี รพ.ไทยนครินทร์อยู่ติดกัน เลยไปอีกก็จะมีทั้ง SB Design Square, Index Living Mall, Mega บางนา และ Ikea บางนา หากเข้าเส้นศรีนครินทร์ก็จะมี Seacon Square และ Paradise Park ที่อยู่ไม่ไกล
นอกจากนี้ในอนาคตจะมีโครงการระดับ Flagship จากเดอะมอลล์กรุ๊ป ตรงจุดตัดถนนบางนา-ตราดและถนนสุขุมวิท (ตรงข้ามกับ Bitec บางนาพอดี) เชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีอุดมสุขและสถานีบางนา บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ นั่นก็คือ Bangkok Mall มีพื้นที่โครงการมากกว่า 650,000 ตร.ม. เป็นอาณาจักรแห่งศูนย์การค้า, ที่อยู่อาศัย และออฟฟิศแบบครบวงจร ที่ทันสมัยและสมบูรณ์แบบมากที่สุดในเอเชีย
ภายใต้คอนเซ็ปต์ City within the City หรือเมืองในเมืองที่สมบูรณ์แบบ ออกแบบอาคารโดยใช้สถาปัตยกรรม The Ultra Modern & Spectacular Architecture ที่ล้ำสมัย มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี พ.ศ.2566 จะเป็นโครงการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงยังเป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ จากทำเลของโครงการนั้นเป็นทำเลที่มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย ที่เด่นที่สุดก็คือ ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับ BTS สถานีแบริ่ง ในระยะเดินเพียง 450 เมตร ทำให้ลูกบ้านที่ใช้รถสาธารณะในการเดินทางเป็นหลักสามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ในปลายปีนี้เองก็จะเริ่มเปิดเดินรถไฟฟ้า BTS ช่วง แบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายอีกด้วย
นอกจากนี้ในอนาคตก็จะมี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วง พัฒนาการ-สำโรง วิ่งขนานกับเส้นศรีนครินทร์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2563 จะไปสุดสายที่ สถานีสำโรง เป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้า BTS และมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วง บางนา-สุวรรณภูมิ วิ่งขนานกับเส้นบางนา-ตราด ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 โดยจะ Interchange กับ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่ สถานีศรีเอี่ยม ค่ะ
จะเห็นว่าจากตัวโครงการสามารถเดินไปถึง BTS แบริ่งได้ในเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้นกับระยะเดินเพียง 450 เมตร
นอกจากตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าแล้ว ก็ยังสามารถใช้บริการรถสาธารณะอื่นๆ ได้อีก ในซอยแบริ่งเองก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่ตลอด สามารถเรียกได้ง่ายเพราะเป็นซอยที่มีผู้คนและรถสัญจรผ่านไป-มาอยู่แล้ว ถ้าออกไปที่เส้นทางหลักอย่างถนนสุขุมวิทหรือถนนศรีนครินทร์ก็จะมีรถเมล์และรถตู้วิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวันค่ะ
:::: การเดินทางสู่โครงการ ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo มีภาพการเดินทางไปสู่ตัวโครงการ KnightsBridge Collage สุขุมวิท 107 โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมาฝากกันค่ะ โดยเราจะเริ่มการเดินทางจาก
ทางพิเศษเฉลิมมหานคร > ถ.สุขุมวิท > ซ.สุขุมวิท 107 (แบริ่ง) > โครงการ KnightsBridge Collage สุขุมวิท 107
เราจะเริ่มต้นการเดินทางจากบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 15 นาทีค่ะ จากป้ายให้เรามุ่งหน้าไปทางสมุทรปราการ
วิ่งออกซ้ายขึ้นทางยกระดับตามป้ายไปสมุทรปราการ
เราจะมาลงที่ถ.สุขุมวิท ตรงไปไม่ไกลจะเห็น BTS สถานีบางนา
ขับมาจนเลยซ.ลาซาล (ฝั่งซ้ายมือ) ก็จะเห็นสถานีแบริ่งค่ะ
จากนั้นให้เราเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่งนั่งเอง
เข้ามาภายในซอยสุขุมวิท 107 จะเป็นถนนขนาด 4 เลนที่มีความพลุกพล่าน รถวิ่งผ่านโดยตลอดเพราะเป็นทางเชื่อมกับถนนศรีนครินทร์ด้วย
จากปากซอยเข้ามาเพียง 230 เมตร ก็จะเห็นที่ตั้งตัวโครงการอยู่ทางฝั่งขวามือของเรา อยู่ติดกับซอยแบริ่ง 4 ค่ะ
ส่วนสำนักงานขายจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ ลงมาจากซอยแบริ่ง 4 นิดนึงนะ
สรุปแยก และ ถนนสำคัญรอบโครงการ
สรุปสถานที่สำคัญรอบโครงการ
ห้างสรรพสินค้า
สถานศึกษา
ศูนย์การแพทย์
สถานที่ราชการและหน่วยงานอื่นๆ
ศาสนสถานและอื่นๆ
:::: สภาพแวดล้อมรอบโครงการ ::::
บรรยากาศภายในซอยแบริ่งจะยังคงเป็นที่อยู่อาศัยในแนวราบค่ะ มีทั้งตึกแถว, ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว จะเห็นว่ามีคอนโดขึ้นอยู่บ้างเล็กน้อย ทั้งคอนโดแบบ Low rise และ High rise นอกจากนี้บริเวณโดยรอบโครงการบางส่วนก็จะยังคงมีผืนที่ดินเปล่าหลงเหลืออยู่ด้วย
ตอนนี้เรามาอยู่ที่หน้าที่ตั้งของโครงการกันแล้ว เรามาเดินสำรวจพื้นที่และบรรยากาศโดยรอบโครงการด้วยกันเลยค่ะ ทางฝั่งซ้ายมือเราจะเห็นคอนโด KnightsBridge สูง 27 ชั้น อยู่ข้างๆ
ตอนนี้ทางโครงการก็ได้ทำการล้อมรั้วรอบที่ดินเอาไว้แล้ว จะเห็นว่าที่ดินนั้นอยู่ติดซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) และซอยแบริ่ง 4 ด้วย
ฝั่งตรงข้ามกับตัวโครงการจะยังคงเป็นที่ดินเปล่าผืนใหญ่ค่ะ
ทางฝั่งขวามือของตัวโครงการจะอยู่ติดกับคอนโด KnightsBridge สูง 27 ชั้น
ส่วนทางฝั่งซ้ายมือ ตัวโครงการจะอยู่ติดกับซอยแบริ่ง 4 ถัดไปเป็นตึกแถวยาวไปจนถึงหน้าปากซอยเลย
เข้ามาภายในซอยแบริ่ง 4 เป็นถนนขนาด 2 เลนที่รถสวนกันได้สะดวก
ภายในซอยจะเป็นที่อยู่อาศัย บรรยากาศเงียบสงบ มีทั้งตึกแถว, ทาวน์เฮ้าส์, บ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม Low rise ที่ดินเปล่าก็ยังพอมีเหลืออยู่เหมือนกันนะคะ
ออกมาจากซอยแบริ่ง 4 ตอนนี้เราเดินมุ่งหน้าไปทางปากซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) ค่ะ ช่วงปากซอยฝั่งซ้ายมือของเราจะเป็นตึกแถวยาวไปตลอด ซึ่งเปิดเป็นร้านค้าและร้านอาหาร
มีห้างทองและมีร้านขายบะหมี่หมูแดง ซึ่งจะเปิดตอนช่วงบ่ายๆ
มีร้านนวดและร้านขายอาหารอีสาน
ฝั่งตรงข้ามข้างๆ กับ Sales Gallery ของโครงการจะมีร้านอาหารอีสานอีก 1 ร้าน
เดินไปอีกหน่อย เราก็จะเจอร้านอาหารญี่ปุ่น เปิดตอนช่วงบ่ายเหมือนกัน
ฝั่งตรงข้ามข้างๆ ร้านทำป้ายมีร้านขายกาแฟและเบเกอรี่ร้านเล็กๆ อีก 1 ร้าน
ติดๆ กันเลยมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใสและอาหารตามสั่ง
ร้านขายข้าวต้มปลา, เย็นตาโฟ หรือจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำก็มี
ข้างกันนั้นเองมีร้านอาหารญี่ปุ่นอีก 1 ร้าน สายๆ หน่อยก็เปิดให้บริการแล้ว
พวกร้านด้านงานไปรษณีย์ ส่ง EMS ถ่ายเอกสาร ทำตรายาง ก็มีหมดเลย สะดวกมากๆ
เดินมาถึงซอยแบริ่ง 2 ตรงนี้จะมีคิววินมอเตอร์ไซค์อยู่ตรงเพิงเดียวกันร้านขายข้าวมันไก่ค่ะ
เดินมาเรื่อยๆ ก็จะมีร้านขายยา ด้านหน้าร้านขายพวกของใช้ในบ้าน และขายพวกชากาแฟใส่ถุงกระดาษ
พวกร้านแผงลอยขายอาหารก็มีค่ะ ทั้งหอยทอด-ผัดไท, ปลาทอด, ยำ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง แต่ตอนเช้าจะยังไม่มาตั้งแผงกัน
มองไปฝั่งตรงข้าม ตรงนี้จะเป็นที่ตั้งของ รร. นานาชาติ St.Andrew
จะเห็นว่าช่วงปากซอยนี่คึกคักดีจริงๆ ค่ะ มีร้านขายของและขายอาหารอยู่ตลอดทางเลย ที่เห็นอีกก็จะมี ร้านขายปลาหมึกย่าง, ร้านให้เช่าหนังสือ, ร้านขายยา, ร้านขายโจ๊ก-ก๋วยจั๊บน้ำใส และเกาเหลาเลือดหมู
ที่ฝั่งตรงข้ามช่วงปากซอยจะมีอาคารพาณิชย์สำหรับเช่า
ซึ่งตรงนี้ก็มีทั้งร้าน Watson, ร้านชาพะยอม หรือจะเป็นคลีนิกทันตกรรมก็มี
ตอนนี้เราเดินออกมาจนถึงหน้าปากซอยแล้วค่ะ
มองไปทางฝั่งซ้าย ข้างหน้าจะมี 7-Eleven อยู่ 1 สาขา เดินมาได้ไม่ไกล นอกจากนี้ก็ยังมีร้านอาหารอีกหลายร้านอยู่บริเวณใกล้ๆ กันอีกด้วยค่ะ
หันไปทางฝั่งขวา ถ้าเราจะเดินไปสถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง เราจะต้องเดินข้ามถนนไปนะ ซึ่งตรงนี้จะไม่มีทางม้าลายให้ ต้องอาศัยจังหวะตอนไฟแดงเอาค่ะ
ตอนนี้เราข้ามถนนมาที่อีกฝั่งนึงแล้วค่ะ ให้เราเดินเลียบถนนสุขุมวิทไปเรื่อยๆ ทางฝั่งขวามือของเราจะเป็นตึกแถวยาวไปตลอดแนว
ตึกแถวเปิดเป็นร้านค้าและร้านอาหาร เดินมาไม่ไกลเราก็จะเห็นว่ามีอาหารขายอยู่ตลอด โดยเฉพาะบริเวณใกล้ๆ ทางขึ้นสถานี
ร้านกาแฟอเมซอนก็มีนะ จากตรงนี้ก็ถึงทางถึงสถานีแล้วค่ะ
จากตัวโครงการเดินมาถึงสถานีก็เพียง 450 เมตรเท่านั้น ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้นเอง
แต่ถ้าเรานั่งรถไฟฟ้ามาที่โครงการ ให้เราออกที่ทางออก 3 นะ
คราวนี้เรากลับเข้ามาดูภายใน Sales Office กันต่อค่ะ โดยตัว Sales Office เองก็จะแต่งให้ดูใกล้เคียงกับอาคารของโครงการด้วย
ภายใน Sales Office ค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์ ซึ่งจะคอยให้ข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับตัวโครงการ รวมถึงพาเดินชมห้องตัวอย่าง
มีโมเดลตั้งให้ดูเป็นตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการ
มีพื้นที่รับรองให้นั่งพักผ่อนและคุยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวโครงการในบรรยากาศที่หรูหรา แต่งด้วยโทนสีขาวขลิบด้วยสีทอง และเล่นลวดลายของหินอ่อน
:::: ตัวโครงการ ::::
โครงการ KnightsBridge Collage สุขุมวิท 107เป็น High rise Condominium สูง 28 ชั้น มี 1 อาคาร จำนวน 303 ยูนิต และร้านค้าอีก 1 ยูนิต บนเนื้อที่ 1-1-50.8 ไร่ ออกแบบในคอนเซ็ปต์ Collage การผสมผสาน ดีไซน์ที่เรียบง่ายในโทนโมโนโคลม ขาว-คลีน-ไบร์ท ให้ความรู้สึกที่เรียบง่าย, ดูทันสมัย และหรูหรา แฝงด้วยเส้นสาย Dynamic Movement ใหม่ๆ ที่สะท้อนความเป็น Space ที่แตกต่าง พร้อมกับไฮไลท์ของโครงการที่พื้นที่ส่วนกลางแบบ More Space ที่เชื่อมต่อเนื่องกันถึง 4 ชั้นเลยค่ะ
มาดูในส่วนของผังโครงการกันค่ะ เริ่มจาก ชั้น G รูปทรงที่ดินของตัวโครงการจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทางเข้า-ออกของตัวโครงการอยู่บน ซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) ซึ่งมีเพียงทางเดียว ทางเข้าออกจะอยู่ตรงกลางเลยค่ะ ถนนภายในโครงการจะวิ่งแบบ One Way วนไปตามเข็มนาฬิกา (ทางซ้าย) ระบบการจอดรถภายในโครงการจะเป็นแบบ Auto Parking ทั้งหมด (2 Slot) สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 107 คัน คิดเป็น 42% ถือว่าเพียงพออยู่นะ เมื่อเน้นการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะด้วย โดยทางโครงการจะมีห้อง Car Waiting Room สำหรับการรอรถ พอเข้าไปในตัวโครงการก็จะเจอจุด Drop off เข้าสู่ Reception เลยค่ะ
โดยรอบตัวอาคารจะจัด Landscape อย่างสวยงาม ที่เห็นว่าเป็็นพื้นที่สีเขียวก็คือสวนหย่อมค่ะ และมีสนามเด็กเล่นจัดเอาไว้เพื่อเป็นจุดบังสายตาจากภายนอกอีก 1 ชั้น พอเข้ามาในตัวโครงการก็จะเจอจุด Drop Off อยู่ข้างหน้าเลย จากจุด Drop off เข้าสู่ตัวอาคารจะเจอโถง Reception ซึ่งเชื่อมสู่ Lobby-Mail Box-Lift Hall และเชื่อมต่อ Library โดยระบบการผ่านเข้า-ออก และระบบการกดชั้นในลิฟท์จะต้องใช้ Key Card ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยค่ะ นอกจากนี้ทางโครงการยังมีพื้นที่ร้านค้าให้ 1 ยูนิตเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้านอีกด้วย
ชั้นที่ 8-22 ขึ้นมาที่ชั้น 8 เป็นต้นไป จะเป็นส่วนของ Resident ทั้งหมด จัดผังอาคารแบบ Double Corridor มีช่องแสงอยู่ปลายทางเดิน 1 ฝั่ง ที่ชั้น 8-22 เรียกว่าเป็น Typical Floor Plan จะเป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตอยู่ที่ 17 ห้อง/ชั้น ซึ่งดูแล้วก็ไม่แออัดนะ และจำนวนก็ถือว่าไม่แออัดเกินไปสำหรับคอนโด High Rise จากสีของแปลนอาคาร ห้อง Studio คือสีเนื้อ, ห้อง 1 Bedroom สีน้ำตาลอ่อน, ห้อง 1 Bedroom Plus สีน้ำตาลกลาง และห้อง 2 Bedrooms สีน้ำตาลเข้ม
จะเห็นว่าภายในอาคารมีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว และเซอร์วิสลิฟท์อีก 1 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อจำนวนลิฟท์อยู่ที่ 153 : 1 ถือว่าเกินมาตรฐานไปหน่อยสำหรับอาคารสูง อาจจะทำให้รอลิฟท์นานกันนิดนึงนะ
ชั้นที่ 23 ผังจะเหมือนกับผังชั้นที่ 8-22 ทุกประการ จะมีต่างนิดเดียวตรงที่ห้อง 2 Bedroom (มุมขวาล่าง) จะมีระเบียงพิเศษยื่นออกมาหน่อย
ชั้นที่ 24-25 ก็จะมีส่วนต่างกันที่ห้องมุมขวาล่างตำแหน่งเดิม ซึ่งจะเป็นห้องแบบ Duplex ที่มีฝ้าสูงถึง 5.20 เมตร มีจำนวนเพียง 2 ห้องเท่านั้นค่ะ
ชั้นที่ 26 ตั้งแต่ชั้นนี้ขึ้นไปจะเป็นส่วนของ Main Facilities ที่ชั้นนี้จะมีสระว่ายน้ำ เป็นสระระบบเกลือ ขนาดกว้าง 5 x 22 เมตร เป็นสระรูปตัว L บางส่วนของตัวสระจะอยู่ในร่มด้วย ดังนั้นในตอนกลางวันก็สามารถขึ้นมาว่ายน้ำได้ค่ะ, พื้นที่สวน Sky Garden พร้อมมุมนั่งเล่นพักผ่อน และในอาคารจะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง และมีห้อง Steam ให้ในตัวด้วย
ชั้นที่ 27 จะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งทางซ้ายมือจะเป็นส่วนของ Social Fitness และพื้นที่สวนหย่อม ส่วนฝั่งขวาจะเป็น Gym
ชั้นที่ 28 จะเป็นส่วนของ Co-Kitchen สามารถขึ้นมาใช้ครัวข้างบนนี้เพื่อปรุงอาหารได้ ส่วนพื้นที่ภายนอกจะเป็น Activity Space ที่สามารถใช้ทำกิจกรรม, เล่นโยคะ หรือรับลมชมวิวได้
ชั้น Roof Top เป็น Roof Garden สามารถรับวิวได้ถึง 360 องศา
เรามาดูโมเดลเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการกันค่ะ
นี่คือตัวโครงการจากทางทิศเหนือ เป็นฝั่งหน้าโครงการที่ติดกับซอยสุุขุมวิท 107 (แบริ่ง)
ฝั่งทิศตะวันตก ตัวโครงการติดกับซอยแบริ่ง 4
ด้านหลังโครงการฝั่งทิศใต้ จะติดกับตึกแถวสูง 4 ชั้น และลานจอดรถ
ฝั่งทิศตะวันออก ติดกับโครงการ KnightsBridge สูง 27 ชั้นค่ะ
จากซอยสุขุมวิท 107 เข้ามาภายในภายในโครงการให้ขับวนซ้ายตามเข็มนาฬิกาเพียงทางเดียว ได้ระบบจอดรถแบบอัตโนมัติ พร้อมห้องรอรับรถ เข้ามาถึงโครงการจะเจอส่วน Drop off เข้าสู่ Reception และเชื่อมสู่พื้นที่ส่วนอื่นๆ
ห้องพักอาศัยจะอยู่สูงถึงชั้นที่ 25 ตั้งแต่ชั้น 26 ขึ้นไปจะเป็นส่วนของ Main Facilities เชื่อมกันถึง 4 ชั้นค่ะ
คราวนี้เรามาชมทัศนียภาพจำลองที่ทางโครงการได้ปล่อยออกมาให้เราได้ดูกันค่ะ
จะเห็นว่าตัวโครงการเป็นตึกสูง 28 ชั้น จึงสามารถชมวิวเมืองกรุงเทพฯ ได้ 360 องศาเลย
ภาพจำลองภายในส่วน Reception ค่ะ จะเป็นส่วนแรกที่เจอเมื่อเข้าสู่ภายในอาคาร ตกแต่งภายในด้วยโทนสีขาวสวยงามแบบเดียวกับ Sales Office
จาก Reception จะเชื่อมสู่ Lobby เป็นพื้นที่แบบ Double Volume ฝ้าสูงโปร่ง
และจาก Reception ก็จะเชื่อมสู่ Library และ Car Waiting Room
ภาพบรรยากาศจำลองบริเวณชั้นที่ 26-28 และชั้น Roof Top ในตอนกลางคืนค่ะ เป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบ More Space เชื่อมกันถึง 4 ชั้น ประกอบด้วย Swimming Pool, Steam, Sky Garden, Social Fitness, Gym, Lounge, Co-Kitchen, Activity Space และ Roof Garden
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Lounge
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Social Fitness ที่ชั้น 27
ภาพบรรยากาศจำลองภายใน Gym ที่ชั้น 27
:::: แบบห้องของโครงการ ::::
ห้องของโครงการจะมีอยู่ทั้งหมด 4 แบบหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่
โดยโครงการขายห้องแบบ Fully Fitted พร้อมเคาน์เตอร์ครัว, Built-in ของทาง KnightsBridge เอง, ระบบ Home Automation, ผ้าม่าน และ เครื่องปรับอากาศ จาก Daikin ระบบ Inverter แบบ Wall Type เดี๋ยวเราจะไปดูผังพื้นของห้องแต่ละ Type กันเลยค่ะ
1 Bedroom (S) Type B1-01 : 24.70 ตร.ม.
1 Bedroom (M) Type B2-01 : 28.80 ตร.ม.
1 Bedroom (M) Type B3-01 : 34.80 ตร.ม.
1 Bedroom plus Type BP-01 : 33.30 ตร.ม.
2 Bedrooms Type C1-01 : 53.60 ตร.ม.
:::: ห้องตัวอย่าง ::::
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo จะพาไปชมห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom ขนาด 28.80 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus ขนาด 33.30 ตร.ม. กันค่ะ ห้องขายแบบ Fully Fitted พร้อมเคาน์เตอร์ครัว, Built-in ของทาง KnightsBridge, ผ้าม่าน, ระบบ Home Automation และ เครื่องปรับอากาศ จาก Daikin ระบบ Inverter แบบ Wall Type มาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกของห้องกันเลยค่ะ
แบบ 1 Bedroom ขนาด 28.80 ตร.ม.
ห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.80 ตร.ม. ขนาดของห้องนี้สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ 1-2 คน ภาพรวมภายในห้องสามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว แบ่งพื้นที่ครัว, ห้องนั่งเล่น และห้องนอนออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน โดยจะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ข้อดีก็คือทำให้ห้องดูกว้างขวางมากกว่าการกั้นด้วยผนังทึบ โดยส่วนของห้องนั่งเล่นจะต้องอาศัยแสงธรรมชาติผ่านทางห้องนอนและห้องครัวด้วย
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 12 มม., พื้นครัว แกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม., ชุดครัวพร้อมอ่างล้างจาน และ Hob&Hood จาก Hafele, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์จาก Toto และ Prema และ Built-in ในจุดต่างๆ ของห้อง พร้อมแอร์จาก Daikin ระบบ Inverter อีก 2 ตัว ไปชมห้องด้วยกันเลย
มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้ว จริงๆ จะได้ประตูบานทึบนะคะ มือจับประตูเป็นก้านโยกสแตนเลสพร้อม Digital Door Lock
พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม. เพื่อให้ผิวสัมผัสเหมาะแก่การอยู่อาศัย
เข้าไปภายในห้องจะเจอห้องนั่งเล่นก่อนเลย ถัดเข้าไปคือส่วนรับประทานอาหาร และด้านในคือห้องนอน ส่วนมุมขวาของห้องคือห้องน้ำและห้องครัว ส่วนผนังของห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสีนะคะ
ฝ้าเพดานในส่วนของโถงหลักสูง 2.6 เมตร ส่วนฝ้าภายในห้องครัวจะดรอปลงมาเล็กน้อยเหลือ 2.4 เมตร และฝ้าในห้องน้ำเหลือ 2.2 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED มาให้เหมือนกันทั้งหมด
ส่วนแอร์ที่ได้มากับตัวห้องจะเป็นแบบ Wall Type ของ Samsumg ระบบ Inverter ขนาด 9,000 BTU ติดเอาไว้ให้บริเวณห้องนั่งเล่น 1 ตัวและห้องนอนอีก 1 ตัว นอกจากนี้ภายในห้องจะมีระบบ Home Automation สามารถเปิด-ปิดไฟ, แอร์ และผ้าม่านผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือได้ด้วยค่ะ
ภาพมองย้อนไปที่ประตูทางเข้าห้อง
ข้างๆ ประตูทางเข้าห้องฝั่งขวาจะมีชั้น Built-in สำหรับวางรองเท้ามาให้แบบนี้ บานเปิดเป็นแบบ Soft Closed
ตัวบานเปิดเฉือน 45 องศาแบบนี้ ทำให้สามารถจับบานเปิดได้ง่าย
ถ้าสงสัยว่าเฟอร์นิเจอร์ส่วนไหนที่เราจะได้มากับตัวห้องบ้าง ให้ดูอันที่มีติดป้ายเอาไว้แบบนี้ค่ะ
เราเข้ามาดูในส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะสามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้พอดีๆ พร้อมโต๊ะกาแฟตัวเล็กๆ อีก 1 ตัว
ฝั่งตรงข้ามโซฟาทางโครงการให้ชั้นวางทีวี Built-in มาด้วย
มีชั้นวางของ และมีช่องเก็บของที่มีบานปิด
ระยะดูทีวีไม่กว้างมาก เหมาะสำหรับดูทีวีจอขนาด 32-42 นิ้ว จะกำลังดีค่ะ
จากห้องนั่งเล่นมาดูที่ห้องรับประทานอาหารกันต่อ
บริเวณพื้นที่รับประทานอาหาร เราจะสามารถวางโต๊ะเข้ามุม และเก้าอี้ได้แบบนี้
ซึ่งจะวางได้ 2 ที่นั่งพอดีๆ
ฝั่งด้านในสุดของห้องกั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสง เป็นห้องนอนค่ะ
มือจับบานประตูแบบเซาะร่องมาตรฐาน
พื้นห้องนอนยังคงปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม.ต่อเนื่องเข้าไป
ภายในห้องนอนมีขนาดพื้นที่กำลังดีค่ะ สามารถวางเตียงควีนเบดและเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ได้ครบถ้วน
ตู้เสื้อผ้า Built-in ในห้องนอน ทางโครงการทำสูงให้ชนฝ้าเพดานเลยค่ะ หน้าบานตู้ติดกระจกเงาให้ ภายในมีทั้งราวแขวนเสื้อผ้าและลิ้นชักเก็บของ
มือจับตัวบานทำเป็นครีบยื่นออกมาแบบนี้
ลิ้นชักและชั้นวางของด้านใน
พอวางเตียงขนาดควีนเบดแล้วก็จะเหลือพื้นที่โดยรอบ สามารถเดินผ่านหรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้สะดวก โดยเราจะได้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตแถมมากับตัวห้องด้วยเลยนะ
พื้นที่ปลายเตียงเหลือพอเดินผ่านได้ แต่ไม่สามารถวางอะไรเพิ่มได้แล้วนะ ถ้าต้องการติดตั้งทีวี แนะนำให้ใช้เป็นทีวีแบบแขวนผนังค่ะ
บริเวณลายผนังฝั่งปลายเตียงทำการเดินสายไฟและสายอากาศให้เรียบร้อย
โดยสวิตช์และปลั๊กไฟที่ใช้จะเป็นของ Bticino
หน้าต่างเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งและบานฟิกซ์ กรอบอลูมิเนียมสีดำ ติดกระจกเขียวตัดแสง นอกจากนี้เรายังจะได้ผ้าม่านแถมมากับตัวห้องด้วยนะคะ (แต่จะเป็นสีมาตรฐานของทางโครงการ) โดยเราสามารถเปิด-ปิดม่านผ่านระบบ Home Automation ได้อีกด้วย
ภาพมองย้อนกลับไปที่ห้องโถง
ทางฝั่งขวามือของห้องจะมีพื้นที่โถงเชื่อมสู่ห้องน้ำและห้องครัว ซึ่งทางโครงการทำได้ทำชุดเฟอร์นิเจอร์ Built-in เอาไว้ให้อีกชุด
ชุดนี้เป็นเซ็ทโต๊ะทำงานและชั้นวางของ ทำเข้ามุมพอดีเลย
ลิ้นชักเก็บของใต้โต๊ะ
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อค่ะ
บริเวณประตูจะทำธรณีสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม.กั้นส่วนระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นโถง
ภายในห้องน้ำจะจัดสุขภัณฑ์ไล่จากส่วนแห้งไปหาส่วนเปียก ใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto ทั้งหมด ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 40 x 40 ซม. และผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 20 x 40 ซม.
ฝ้าเพดานในห้องน้ำสูง 2.2 เมตรค่ะ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED ให้พร้อมพัดลมดูดอากาศ
เรามาเจาะดูสุขภัณฑ์ทีละชิ้นกันเลยค่ะ เริ่มจากอ่างล้างมือเป็นอ่างฝังบนเคาน์เตอร์สำเร็จรูป ใต้อ่างมีชั้นเล็กๆ สำหรับวางของได้นิดหน่อย
ตัวอ่างเป็นทรงสี่เหลี่ยมมีขนาดกำลังดีค่ะ
ก๊อกน้ำรูปทรงมนจับถนัดมือ เข้าชุดกับอ่างล้างมือเป็นอย่างดี
ถัดมาเป็นโถสุขภัณฑ์แบบแยกชิ้น ระบบ Dual Flush ช่วยประหยัดน้ำได้ดี ระยะการติดตั้งกำลังนั่งสบายไม่อึดอัด
สายฉีดชำระและแกนใส่กระดาษชำระค่ะ ติดตั้งมาให้เรียบร้อย
ฝั่งตรงข้ามมีราวแขวนผ้าเช็ดตัวให้
ฝั่งในสุดของห้องเป็นโซนอาบน้ำ พื้นก่อธรณีมาให้เพื่อกันน้ำไหลย้อน พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำบานเปลือยมาให้เรียบร้อย เป็นกระจกนิรภัยนะคะ
มือจับของบานเปิดมีขนาดใหญ่ สามารถใช้แขวนผ้าเช็ดตัวได้ในตัว
พื้นที่ยืนอาบน้ำภายในถือว่ากว้างขวางได้มาตรฐาน
ภายในโซนอาบน้ำติดตั้งชุด Rain shower พร้อมฝักบัวสายอ่อน และราวปรับระดับมาให้เรียบร้อย ทั้งเซ็ทนี้ใช้ของ Cotto ทั้งหมดค่ะ
ยกเว้นหัวฝักบัวที่จะใช้ของ Prema ขนาดหัวฝักบัวใหญ่ดีค่ะ เทียบกับมือให้ดูเลย
เรามาดูห้องครัวกันต่อค่ะ ห้องครัวก็กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเหมือนกันกับห้องนอน
ส่วนพื้นจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้แทน ข้อดีก็คือสามารถเช็คทำความสะอาดพวกคราบน้ำมันและคราบอาหารได้ง่ายกว่า
ห้องครัวเป็นลักษณะห้องแบบหน้าแคบแต่ยาว สามารถวางเคาน์เตอร์ครัวได้เพียงฝั่งเดียวแบบรูปตัว I ฝั่งด้านหน้าทางโครงการเว้นพื้นที่เอาไว้ให้สำหรับวางตู้เย็นไซส์มาตรฐานค่ะ
ภายในทางโครงการทำเคาน์เตอร์ครัวพร้อมติดตั้งอ่างล้างจานและเตาปรุงอาหารให้เรียบร้อย
ท็อปเคาน์เตอร์ใช้หินสังเคราะห์สีขาวดูสวยงามดีค่ะ แต่สแปลชบอร์ดด้านหลังเคาน์เตอร์จะไม่ได้มีมาให้ด้วยนะ ทั้งเตาปรุงอาหารและอ่างล้างจานทางโครงการเลือกใช้ของ Hafele จะเหลือพื้นที่เคาน์เตอร์ตรงกลางเล็กน้อยสำหรับการเตรียมอาหาร
อ่างล้างจานขนาดกระทัดรัด สามารถล้างพวกจานหรือแก้วน้ำได้สะดวกอยู่
เตาเซรามิคขนาด 2 หัว
พร้อมเครื่องดูดควันติดตั้งมาให้ตรงกับเตาปรุงอาหาร
ใต้เคาน์เตอร์ก็จะมีช่องเก็บของให้แบบนี้ ตรงใต้อ่างล้างจานสามารถวางถังขยะได้
และตรงใต้เตาปรุงอาหาร จะมีลิ้นชักสำหรับเก็บพวกช้อนส้อมมีด และมีชั้นสำหรับวางเตาไมโครเวฟด้วย
ส่วนชั้นลอย Built-in ก็มีช่องสำหรับใส่ของได้อีกเยอะ
พอวางเคาน์เตอร์ครัวแล้วก็จะเหลือพื้นที่สำหรับยืนปรุงอาหารประมาณ 75 ซม.
จากห้องครัวจะสามารถเชื่อมสู่ระเบียงห้องได้ โดยมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นแบบนี้ สามารถช่วยระบายกลิ่นจากการปรุงอาหารได้อีกทาง
พื้นที่ระเบียงมีขนาดไม่กว้างขวางมากค่ะ พื้นที่พอจะวางเครื่องซักผ้าได้ 1 เครื่อง, ตากเสื้อผ้า และแขวนคอยล์แอร์ได้ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. ราวกันตกเป็นระแนงเหล็ก
ที่ฝ้าเพดานติดตั้งดวงโคมดาวน์ไลท์มาให้
ภาพมองย้อนกลับไปเข้าไปภายในห้องครัว
แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 33.30 ตร.ม.
เรามาดูห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 33.30 ตร.ม. กันต่อค่ะ การวางแปลนของห้องนี้เรียกว่าแทบจะเหมือนห้อง 1 Bedroom ทุกประการ แต่ที่แตกต่างกันก็คือ ห้องนี้จะมีขนาดที่กว้างมากขึ้น จากเดิมพื้นที่ห้องครัวจะทำเป็นห้องอเนกประสงค์แทน แล้วย้ายห้องครัวออกมาอยู่ที่โถงหน้าห้องน้ำค่ะ
ในห้องนี้เราจะได้ พื้นลามิเนตหนา 12 มม., พื้นครัว แกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม., ชุดครัวพร้อมอ่างล้างจาน และ Hob&Hood จาก Hafele, ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์จาก Toto และ Prema และ Built-in ในจุดต่างๆ ของห้อง พร้อมแอร์จาก Daikin ระบบ Inverter อีก 2 ตัว ไปชมห้องด้วยกันเลยค่า
มาถึงหน้าห้องตัวอย่างกันแล้ว จริงๆ จะได้ประตูบานทึบนะคะ มือจับประตูเป็นก้านโยกสแตนเลสพร้อม Digital Door Lock
เข้าไปภายในห้องจะเจอห้องนั่งเล่นก่อนเลย ถัดเข้าไปคือส่วนรับประทานอาหาร และด้านในคือห้องนอน ส่วนมุมขวาของห้องคือห้องน้ำ, ห้องครัว และห้องอเนกประสงค์ พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม. ส่วนผนังของห้องเป็นผนังฉาบเรียบทาสีเหมือนเดิม ฝ้าเพดานในส่วนของโถงหลักสูง 2.6 เมตร และฝ้าในห้องน้ำเหลือ 2.2 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์หลอด LED มาให้เหมือนกันทั้งหมด
ส่วนแอร์ที่ได้มากับตัวห้องจะเป็นแบบ Wall Type ของ Samsumg ระบบ Inverter ขนาด 12,000 BTU ติดเอาไว้ให้บริเวณห้องนั่งเล่น 1 ตัว และขนาด 9,000 BTU ในห้องนอนและห้องอเนกประสงค์อีกห้องละ 1 ตัว นอกจากนี้ภายในห้องจะมีระบบ Home Automation ใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือได้ด้วยค่ะ
ภาพมองย้อนไปที่ประตูทางเข้าห้อง
ข้างๆ ประตูทางเข้าห้องฝั่งขวาจะมีชั้น Built-in สำหรับวางรองเท้ามาให้เหมือนเดิม
เราเข้ามาดูในส่วนของห้องนั่งเล่นกันต่อ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้พอดีๆ พร้อมโต๊ะกาแฟตัวเล็กๆ อีก 1 ตัว
ฝั่งตรงข้ามโซฟาทางโครงการให้ชั้นวางทีวี Built-in มาเหมือนเดิม
ระยะดูทีวีไม่กว้างมาก เหมาะสำหรับดูทีวีจอขนาด 42 นิ้ว จะกำลังดีค่ะ
ถัดเข้ามาจากห้องนั่งเล่น จะเป็นส่วนของห้องรับประทานอาหาร
โต๊ะรับประทานอาหารที่ทางโครงการทำมาให้เป็นโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งที่สามารถพับเก็บได้เพื่อการประหยัดเนื้อที่ของห้อง แต่ในห้องตัวอย่างสามารถจัดได้ที่เดียวเพราะว่าวางตู้เย็นเอาไว้ข้างในด้วยค่ะ
พื้นที่ผนังด้านข้างที่เหลือก็ทำเป็นชั้นวางของและตู้เก็บของมาให้แบบนี้เลย
ฝั่งด้านในสุดของห้องกั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสง จัดเป็นห้องนอนค่ะ
ภายในห้องนอนมีขนาดพื้นที่กำลังดีค่ะ กว้างกว่าห้องที่แล้วนิดหน่อย สามารถวางเตียงควีนเบดและเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ได้ครบถ้วน
ตู้เสื้อผ้า Built-in ในห้องนอนใช้แบบเดียวกันกับที่ห้องแล้วค่ะ
และเราก็จะได้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมากับตัวห้องด้วยเหมือนเดิม
พื้นที่ปลายเตียงเหลือกว้างมากขึ้นกว่าเดิมค่ะ แต่ไม่แนะนำให้วางอะไรเพิ่มเติมนะ ถ้าต้องการติดตั้งทีวี แนะนำให้ใช้เป็นทีวีแบบแขวนผนัง
ส่วนช่องแสงภายในห้องได้เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งและบานฟิกซ์ กรอบอลูมิเนียมสีดำ ติดกระจกเขียวตัดแสง และได้ผ้าม่านแถมมาแบบเดิม
ภาพมองย้อนกลับไปที่ห้องโถง
ทางฝั่งขวามือของห้องจะมีพื้นที่โถงเชื่อมสู่ห้องน้ำและห้องอเนกประสงค์ ซึ่งจัดให้เป็นมุมห้องครัวแทน
ขนาดของเคาน์เตอร์ครัวจะเล็กลงหน่อยค่ะ ตามความกว้างของพื้นที่โถง แต่หลักๆ ก็จะยังมีช่องเก็บของ, เตาปรุงอาหาร และอ่างล้างจาน มาให้แทบจะเหมือนเดิมเลย
พื้นที่เคาน์เตอร์จะไม่เหลือพื้นที่สำหรับการเตรียมอาหารค่ะ แต่เราสามารถใช้พื้นที่โต๊ะอาหารที่อยู่ใกล้ๆ กันเตรียมอาหารแทนได้เป็นอย่างดี
คราวนี้เราเข้าไปดูภายในห้องน้ำกันต่อค่ะ
ภายในห้องน้ำเรียกว่าเหมือนเดิมทุกประการ (แต่จะมีพื้นที่กว้างขวางขึ้นเล็กน้อย) ไม่ว่าจะเป็นการจัดห้อง, วัสดุ และสุขภัณฑ์
เรามาดูห้องอเนกประสงค์กันต่อ ห้องครัวก็กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเหมือนกันกับห้องนอน
ที่พื้นปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม.เหมือนเดิม
ภายในห้องมีพื้นที่เล็กกระทัดรัด เหมาะสำหรับจัดเป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อน, ห้องทำงาน และอ่านหนังสือ หรือเราอาจจะจัดเอาไว้ให้เป็นห้องนอนเล็กอีกห้องสำหรับรับรองแขกในบางโอกาสก็ได้เช่นกัน ขนาดพื้นที่ห้อง พอจะวางโต๊ะทำงาน, โซฟา, ชั้นวางหนังสือ หรือฟูกที่นอนขนาดเล็กๆ ได้อยู่
จากห้องอเนกประสงค์จะเชื่อมต่อกับระเบียงอีกที
พื้นที่ระเบียงก็จะเอาไว้ใช้วางเครื่องซักผ้า และแขวนคอยล์แอร์เหมือนเดิม
ขนาดพื้นที่ระเบียงจะกว้างกว่าห้องที่แล้วเล็กน้อยค่ะ
ภาพจากระเบียงมองย้อนกลับเข้าไปภายในห้องอเนกประสงค์
:::: สรุปรายการวัสดุ และสิ่งที่โครงการให้ (เมษายน 2561) ::::
วัสดุโดยรวม
ห้องน้ำ และสุขาภิบาล
งานไฟฟ้า
เฟอร์นิเจอร์
***รายละเอียด Spec ของวัสดุ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรุ่นที่เทียบเท่า สามารถสอบถามที่โครงการเพิ่มเติมได้ค่ะ
:::: ราคา (พ.ค. 2561) ::::
***ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
:::: สรุป ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) ข้างๆ ซอยแบริ่ง 4 ซึ่งยังเป็นช่วงต้นๆ ซอย มีความคึกคักและมีความอุดมสมบูรณ์สูง สามารถหาของกินได้ง่ายในระยะเดิน ถือว่าเป็นทำเลที่น่าสนใจอีกทำเลนึงเพราะเดินทางสะดวกใกล้จุดขึ้นทางด่วนถึง 3 จุด และอยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่งเพียง 450 เมตร อีกทั้งโซนแบริ่งเองก็อยู่ใกล้ศูนย์ความเจริญของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก และราคาที่ดินก็ยังไม่แพงมากนัก อยู่ในจุดที่สามารถจับต้องได้
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินทางได้สะดวก เพราะซอยสุขุมวิท 107 (แบริ่ง) เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ และสามารถเชื่อมกับซอยลาซาลไปออกถนนบางนา-ตราดได้อีกด้วย ซึ่งตรงซอยลาซาล 55 พอออกเส้นบางนา-ตราดแล้วกลับรถไปทางฝั่งขาออกเมือง ก็จะเจอเซ็นทรัลบางนาและจุดขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีพอดี ใช้วิ่งออกไปทางชลบุรีได้สะดวก ใช้เป็นเส้นทางในการหลีกเลี่ยงการจราจรได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ก็ยังมีทางด่วนให้เลือกใช้ได้อีก 3 สาย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20-30 นาที วิ่งตรงสู่พระราม 4, สาทร, สีลม หรือส่วนอื่นๆ ในกรุงเทพฯ ได้เลยค่ะ
การเดินทางโดยรถสาธารณะ บริเวณหน้าโครงการมีวินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่วิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งวัน ใกล้กับ BTS สถานีแบริ่งเพียง 450 เมตร เดินไปก็ใช้เวลาแค่ 5 นาทีเท่านั้นเอง อีกทั้งในอนาคตมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง อีกด้วยใกล้กับโครงการจะเป็นสถานีศรีแบริ่งค่ะ
การออกแบบโครงการ และวัสดุ โครงการเป็นคอนโดมิเนียม สูง 28 ชั้น มี 1 อาคาร ทั้งหมด 303 ยูนิต บนพื้นที่ 1 ไร่กว่าๆ วางผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า และจัดห้องพักอาศัยแบบ Double Corridor ปลายโถงฝั่งนึงช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้โถงทางเดินไม่มืดทึบ มีจำนวนยูนิตต่อชั้นสูงสุดที่ 17 ห้อง/ชั้น ถือว่าไม่หนาแน่นจนเกินไป ประตูห้องแต่ละห้องจะวางเหลื่อมกัน เปิดมาไม่เจอกับประตูห้องอื่น ทำให้มีความเป็นส่วนตัวค่ะ
ห้องแต่ละ Type ก็ถูกออกแบบมาให้มีฟังก์ชั่นที่ลงตัว ด้วยการออกแบบฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร ทำให้ห้องมีภาพรวมที่ดูโปร่งโล่ง แปลนห้องส่วนใหญ่จะแบ่งส่วน Living Area, ห้องครัว และห้องนอน ออกจากกันด้วยบานเลื่อนกระจก (หรือผนังทึบในห้องแบบ 2 Bedrooms) ซึ่งถือว่าเป็นข้อดี เพราะทำให้กลิ่นจากการปรุงอาหารไม่ฟุ้งไปทั่วห้อง เสียอย่างที่ห้องน้ำจะต้องพึ่งระบบระบายอากาศของอาคารเพียงอย่างเดียว เพราะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ด้วย
ส่วนวัสดุ, สุขภัณฑ์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ได้มากับตัวห้องก็ได้มาตรฐานดี โดยโครงการขายทั้งแบบ Fully Fitted ได้ทั้งเคาน์เตอร์ครัว พร้อม Hob&Hood และ อ่างล้างจาน, Built-in ภายในห้อง ทั้งตู้เก็บรองเท้า, ชั้นวางทีวี, ชุดโต๊ะรับประทานอาหารแบบพับได้, ชุดโต๊ะทำงาน, ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต, ผ้าม่าน และตู้เสื้อผ้า
นอกจากนี้ก็จะได้ ระบบ Digital Door Lock, เครื่องปรับอากาศของ Daikin ระบบ Inverter ทุกห้อง, สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก Toto และ Prema ตอนนี้ราคาของโครงการตกอยู่ที่ ตร.ม.ละ 110,000 บาทค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัย ถือว่าให้มาเยอะทีเดียวเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ ที่ชั้น 1 มีส่วน Reception, Lobby, Library และ Shop ขึ้นไปที่ชั้น 26-28 เป็น Main Facilities มี Swimming Pool, Sky Garden, Steam, Social Fitness, Gym, Co-Kitchen, Activity Space และ Roof Garden ภาพรวมทำออกมาได้ดูดีทีเดียว
ที่จอดรถของทางโครงการเป็นแบบ Automatic Parking 2 Slot มีที่จอดรถอยู่ 107 คันคิดเป็น 42% พร้อม Car Waiting Room ถือว่าให้มาค่อนข้างเพียงพอนะ เพราะลูกบ้านบางส่วนก็น่าจะเดินทางด้วยรถสาธารณะหรือรถไฟฟ้าเป็นประจำ ส่วนภายในอาคารมีอัตราส่วนห้องพักอาศัยต่อลิฟท์โดยสารอยู่ที่ 153 : 1 เกินมาตรฐานไปหน่อย อาจจะต้องยืนรอลิฟท์กันนิดนึง
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยก็จะประกอบไปด้วย กล้อง CCTV, Security Guard ตลอด 24 ชม. พร้อมทั้ง Access Card สำหรับเข้าสู่โถงลิฟท์ รวมถึงระบบลิฟท์แบบล็อคชั้น และ Digital Door Lock ถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
:::: คะแนน ::::
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 7.8 | อยู่ในซอยสุขุมวิท 107 หรือซอยแบริ่ง ภายในซอยคึกคัก เป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์ สาธารณูโภคครบ ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง และทางขึ้นทางด่วนอีก 3 จุด |
การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว | 7.8 | ซอยสุขุมวิท 107 เชื่อมต่อถนนสุขุมวิท และถนนศรีนครินทร์ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับซอยลาซาลเพื่อออกถนนบางนา-ตราดได้อีก อีกทั้งยังอยู่ใกล้จุดขึ้นทางด่วน เข้าตัวเมืองได้สะดวกในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง |
การเดินทางโดยรถสาธารณะ | 8.0 | มีรถสาธารณะวิ่งผ่านหน้าโครงการ อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่งเพียง 450 เมตร และอยู่ในละแวกการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีเขียว |
บ้านและวัสดุ | 7.9 | ห้องสไตล์โมเดิร์น แบ่งสัดส่วนห้องได้ดี ได้ Built-in มาค่อนข้างเยอะ วัสดุสวยงามและได้มาตรฐานค่ะ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 8.5 | สิ่งอำนวยความสะดวกให้มาค่อนข้างเยอะและดี มีหลากหลาย เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ |
ความคุ้มค่ากับราคา | 7.9 | โครงการเหมาะสำหรับครอบครัวขนาด 1-3 คน เดิมอาศัยอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณโครงการ หรือทำงานอยู่ในตัวเมือง ต้องการเดินทางได้สะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะ ต้องการใช้งานส่วนกลางของโครงการที่ดีและหลากหลาย |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 7.98 | ดี |
:::: สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ::::
Tel : 020-300-000
Website : https://origin.co.th/
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ
แสดงความคิดเห็น